เวลา 14:30 นาฬิกา ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ โฉนดที่ดินใบงามถูกส่งลงซองเอกสารแล้วเรียบร้อย ไม่ทันให้เจ้าของเก่าของมันได้พิจารณาด้วยซ้ำ หัวใจของจีรวัฒน์สั่นไหวแปลกๆ กลัวว่าจะไม่ได้โฉนดคืนก็กลัว กลัวว่าจะเสียเทียนหยดไปก็กลัว แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่มั่นใจอย่างหนึ่งว่าเทียนหยดไม่มีวันทอดทิ้งเขา หลายปีที่ผ่านมาหล่อนคอยช่วยเหลือเขามาตลอด เขาจะถือว่าครั้งนี้ ที่ยกที่ดินให้หล่อน เป็นการตอบแทนความดีของหล่อนก็แล้วกัน
“ทีนี้จีก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว” เขาโอดครวญ
“บ้านะสิ ยังเหลือตัวกับหัวใจ”
เทียนหยดเย้า เดินควงแขนเขาไปยังลานจอดรถของสำนักงานที่ดิน
“หัวใจก็ไม่เหลือ ให้เทียนไปเหมือนกัน”
เทียนหยดแอบทำท่าแหวะใส่อากาศ แน่นอนว่าจีรวัฒน์ไม่มีทางได้เห็น
“ขอให้จริงค่ะ ถ้าจีแอบมีคนอื่นนะ เทียนจะทำให้จีจดจำเทียนไปตลอดชีวิตเลย เทียนน่ะ...ทุ่มเทกับจี รักจีมากนะคะ จีน่าจะรู้ ที่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเรา ถ้าจีแอบทรยศเทียนละก็ เทียนคง...ใจสลาย”
เธอเอ่ยแล้วสังเกตสีหน้าจีรวัฒน์ เขาช่าง
พรางพิษEP 1แสนชัง___________กลุ่มควันสีเทาปนดำ พวยพุ่งออกจากปากปล่องเมรุภายในวัดดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงฯ สมัตถ์ โสภณวิชญ์ มองตามกลุ่มควันแล้วถอนหายใจพรืดใหญ่ ดวงตาแดงก่ำนั้นแทนคำบอกเล่าถึงความเศร้าที่อยู่ภายใน หกเดือนที่แล้วเขาเสียมารดาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่นั่นไม่ทำให้เขาเจ็บปวดเท่าที่ว่ามารดาวัยเลยสาวของเขานั้นแอบนัดแนะสามีคนอื่นออกมาพบเจอกัน บิดาผู้ซื่อตรงของเขารู้เรื่องนี้เข้า และติดตามจนพบเจอพวกเขา เกิดเรื่องเศร้าที่ไม่มีใครคาดคิด หลังมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงนั้น มารดาเขาขับรถออกไปพร้อมชู้รักและเกิดอุบัติเหตุขึ้น มารดาที่รักเสียชีวิตคาที่ ในขณะที่ชู้รักอาการหนักจนต้องนอนแบ็บติดเตียง ส่วนบิดาที่เคารพ ก็เข้าสู่โหมดตรอมใจนับตั้งแต่วันนั้น และครึ่งปีให้หลัง ท่านก็เสียชีวิตลง งานศพของท่านกำลังจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว“มัตถ์คะ พวกนั้นมาค่ะ”เสียงศรีภรรยากระซิบใกล้ๆ หู สมัตถ์หันไปมองด้านหลัง ร่างงามระหงที่เขาแสนชิงชังกำลังเดินเข้ามาในศาลา วงหน้างามด้วยเครื่องสำอางทาบทา ดูสดใสจนคนมองอย่างเขานึกหมั่นไส้ หล่อนควรตีหน้าเศร้าสักนิดตอนที่เดินเข้ามาในงานศพอย่างนี้
EP 1/2 แสนชังสองอาทิตย์ให้หลังสมัตถ์เดินวนไปวนมาหน้าประตูห้องทำงานของบิดา สองอาทิตย์มาแล้วที่เขาเฝ้ารอการมาของเทียนหยด และวันนี้ก็มาถึง เขาไม่รู้ว่าหล่อนติดธุระอันใด แต่เห็นแล้วว่าหล่อนผิดนัดไปหลายวันเชียวล่ะตอนนี้ย่าของเขากำลังเจรจากับเจ้าหล่อนอยู่ เขาจะไม่สนหรอกหากว่าวันนี้ย่าไม่เรียกตัวทนายมาด้วย มันชวนให้เขาวิตกถึงอะไรบางอย่างที่ยังไม่รู้แน่ชัดแอ๊ด...ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างผอมเตี้ยของทนายที่ทุกคนในโสภณวิชญ์รู้จักดี ด้วยว่าทำงานร่วมกันตั้งแต่กิจการโรงแรมของตระกูลยังรุ่งเรืองอยู่ ตามมาด้วยร่างอรชรของแม่สาวชุดดำที่เขานึกชิงชังมิคลาย“เอ้า ตามัตถ์? มาทำอะไรตรงนี้”ศรีสุรางค์ที่เดินออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้ายเอ่ยถามหลานชายด้วยสงสัย“เอ่อ...เปล่านี่ครับ ก็เดินเล่นไปเรื่อย”ศรีสุรางค์ทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ ก่อนจะเอ่ย“ย่าไปส่งคุณทนายก่อน แล้วจะกลับมาคุยกับเรา ไปรอในห้องนั่งเล่นล่ะ”“ครับคุณย่า”เทียนหยดเตรียมตัวจะก้าวเดินเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองก้าวนำหน้า แต่ข้อมือข้างหนึ่งของเธอถูกดึงไว้ด้วยมือแข็งราวคีมเหล็กของเขา“ปล่อยค่ะ”“บอกมาก่อนว่าเธอคุยอะไรกับคุณย่า”เทียนหยดยิ้มเยือกเย็น เขาจะทำหน้
EP 1/3 แสนชังไม่กี่วันหลังจากนั้น สมัตถ์ก็มานั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัท RPS Cosmetic Co.,Ltd. บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม เขานั่งชั่งใจเป็นหนสุดท้ายก่อนรับภาระอันหนักอึ้งมาไว้บนบ่า คุณย่าที่รักปรารถนาให้เขารับมันไว้แต่โดยดี แต่เขายังสองจิตสองใจ แม้ว่าหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์มันจะมากกว่าหุ้นของหุ้นส่วนอีกสองคนที่เหลือ แต่ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับหุ้นของผกากรอง ท่านประธานคนใหม่ของ RPS และดูเหมือนว่ามารดาของเทียนหยดจะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากจิกหัวใช้ลูกสาวน่าแปลกใจไหมเล่าที่เทียนหยดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในหุ้นของบริษัทนี้ หล่อนทำหน้าที่เป็นเพียงใครบางคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการสั่งการไม่ต่างจากเขา ทว่าไร้ตำแหน่งที่แน่นอน เขาเดาว่าตำแหน่งจริงๆ ของหล่อนนั้น น่าจะแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมเขาเสียมากกว่า“เสร็จหรือยังยัยเทียน ฉันต้องรีบไปโรงเรียนตาโอบนะ” สตรีวัยเลยสาว ที่วันนี้แต่งกายเรียบหรูดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เกรงใจใคร ด้วยว่านั่งอยู่ตรงนี้มาชั่วโมงหนึ่งแล้ว ฟังถ้อยเจรจาเรื่องข้อตกลงของหุ้นส่วนใหม่จนเบื่อเหลือกำลัง“ชู่ว์...คุณแม่คะ เสียมารยาท
ภายในลิฟต์โดยสารที่มีเพียงสองแม่ลูก ลิฟต์เคลื่อนลงไปเรื่อยๆ ตามความสูงของอาคารหกชั้น“แม่คะ”“อย่ามาพูดกับฉัน ฉันโกรธอยู่” ผกากรองว่าแล้วมองหน้าตัวเองในผนังลิฟต์มันวาว มีความไม่พอใจระบายอยู่บนใบหน้าของตัวเองจนต้องเลื่อนดวงตาไปมองทางอื่น“มันเป็นความประสงค์ของคุณลุงนี่คะ”“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้อะไรคนพวกนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ แกรู้ดีที่สุดยัยเทียน” ว่าแล้วจับกระเป๋าคลัตช์ใบหรูมาหนีบไว้ใต้วงแขนแรงๆ ด้วยรูปร่างที่ระหงทุกสัดส่วนทำให้ผกากรองยังดูดีเมื่อเทียบกับอายุจริง“ถ้าไม่ยกให้เขา แม่อยากยกให้ใครละคะ คุณลุงให้หุ้นพวกเขาอย่างน้อยๆ แม่ก็มั่นใจได้เลยว่าเขาไม่พาบริษัทเจ๊งแน่ๆ หนูทำคนเดียวไม่ไหวหรอกนะคะ”เทียนหยดชี้แจง เธอไม่ได้ทำงานให้ RPS เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง งานบริหารจัดการของเธอเธอก็ต้องดูแล“นั่นแหละที่ทำให้ฉันโกรธ ถ้าฉันรู้เรื่องงานบริหารมากกว่านี้สักนิดก็คงไม่ต้องให้หุ้นพวกเขาหรอก”เทียนหยดส่ายหน้าช้าๆ มองมารดาแล้วสะท้อนในอก“แม่คะ ถึงยังไงคุณลุงก็ยกหุ้นให้คุณสมัตถ์อยู่ดี ต่อให้แม่ทำงานเก่งแค่ไหน หุ้นตรงนั้นคุณลุงก็ไม่ให้แม่หรอกค่ะ”
ณ บ้านโสภณวิชญ์อันโอ่อ่าสมฐานะเจ้าของ เจ้าบ้านใหญ่นั่งอยู่กับหลานชายบนโซฟาผ้าไหมสีเขียวอ่อน ถัดไปเป็นหลานสะใภ้และเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว ตรงข้ามกันนั้นเป็นร่างของสามแม่ลูกที่นั่งเรียงกันบนโซฟาตัวยาวเช่นกัน“บ้านนี้มีหลายห้อง แต่ว่า...”“แต่ว่ามีห้องว่างแค่ห้องเดียว ข้างบน”สมัตถ์เอ่ยขัดวาจาของย่า ไม่ได้เต็มใจกับการมาอยู่ที่นี่ของสามแม่ลูกสักนิด หากเป็นไปได้ก็อยากเอาน้ำยาฆ่าเชื้อมาสาดไล่เชียวล่ะ“ฉันนอนกับตาโอบได้ แต่ว่ายัยเทียน...” ผกากรองเปรยอย่างกังวล“น่าจะมีห้องว่างที่ข้างล่างนะคะ” เทียนหยดเอ่ยแทรกแล้วมองออกไปนอกประตูห้องรับแขก เธอเห็นประตูอยู่สองสามบาน น่าจะเป็นห้องละนะ“ข้างล่างเป็นห้องทำงานฉัน และห้องพักสำหรับแขก” สมัตถ์รีบบอก เทียนหยดยิ้มน้อยๆ“งั้นฉันอยู่ห้องรับแขกก็ได้”“ไม่ได้ ถ้าเธออยู่ห้องนั้น แล้วถ้าแขกมาล่ะ จะให้ปูเสื่อนอนหรือไง”ราตรีท้วงทันใด หน้าตานั้นไม่ต่างจากสามีมากนัก“แล้วจะให้ลูกฉันไปนอนที่ไหนล่ะ” ผกากรองถาม คอแข็งเป็นเอ็น ไม่ชอบใจคนบ้านนี้ไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำ“ความจริง...ห้องแม่บ้านเก่าก็ว่างนี่คะ กว้างขวางดีออก ข้างๆ ห้องคนใช้น่ะ” ราตรีบอกแล้วยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ
ชายหนุ่มกวาดตามองทั่วร่างงาม ชุดสูทแบบสตรีที่กระโปรงยาวเหนือเข่าขึ้นมาทำให้เขาเห็นขาขาวๆ เรียวๆ ของหล่อนเต็มตา หล่อนขาวจนผิวเนื้อแทบกลายเป็นสีกระดาษเลยก็ว่าได้ คงได้ความขาวมาจากมารดาหล่อนกระมังหมับ!“เอ๊ะ! มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ฮะ!” ร้องเสียงหลงเมื่อข้อมือข้างหนึ่งถูกเขากำแน่น เขาขยับมาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายกรุ่นอยู่แถวปลายจมูก“แล้วเธอล่ะ มีสิทธิ์อะไรมายืนต่อปากต่อคำกับฉันฉอดๆๆ ที่นี่ฉันใหญ่สุด”“แม่ฉันต่างหากใหญ่สุด” เธอเถียง“งั้นก็ไปเรียกแม่เธอมาสิ! เรียกมานั่งทำงานแทนฉันนี่!”เทียนหยดเม้มปากแน่น จนในคำท้าทาย“หึ...ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกแวดๆ ใส่ฉันซะที ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิง ไม่มีทางเก่งกว่าผู้ชายไปได้หรอก อ้อ...อย่าพยายาม อ่อยฉัน! ฉันมีเมียแล้ว!”เขาประกาศแล้วชี้ลงยังกระโปรงสั้นของหล่อน เทียนหยดถึงกับอ้าปากค้าง ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกห่าง“อีตาบ้า! ใครอ่อยฮะ! ฉันคงสติไม่ดีถ้าคิดอ่อยคุณ”ร้องใส่หน้าเขาแล้วเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน อารมณ์ขุ่นมัวไม่น้อยเมื่อโดนดูถูกจากผู้ชายตัวใหญ่ที่ไร้มารยาทสิ้นดี ระยะเวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ที่ได้พบเจอกันเป็นเรื่องเป็นราว เขาถือวิสาสะจับมือ
มื้อค่ำวันนี้เป็นครั้งแรกที่คนจากสองตระกูลได้มาร่วมโต๊ะอาหารอย่างพร้อมเพรียง ศรีสุรางค์กับราตรีแทบจะกลืนอะไรไม่ลง ในขณะที่คนอื่นๆ ดูท่าเจริญอาหารกันถ้วนหน้า ผกากรองและบุตรชายรับประทานไปตามหน้าที่ ในขณะที่เทียนหยดตักข้าวเข้าปากคำหนึ่งก็จิ้มหน้าจอสมาร์ตโฟนไปทีหนึ่ง ส่วนสมัตถ์กำลังเอร็ดอร่อยกับกับข้าวที่รสชาติดีเหลือเกิน“วันนี้กับข้าวอร่อยจัง คุณไปซื้อที่ร้านไหน” เขาหันไปถามภรรยาราตรีตักแกงเลียงมาชิมคำหนึ่งก็รู้ว่าอร่อยสมดังที่สามีว่า“แม่ทำครับ” เด็กชายตัวน้อยตอบ หลังจากไปรับเขาที่โรงเรียน มารดาก็ขลุกอยู่ในครัวจนถึงค่ำ รสชาติอาหารนั้นเขาจำได้ขึ้นใจทุกอย่างเลยสมัตถ์อิ่มตื้อขึ้นมาทันใด ยกแก้วน้ำขึ้นจิบอึกใหญ่ มองวงหน้าเด็กชายตัวน้อยก็เห็นว่าน่าเอ็นดูดีแท้ เสียแต่ว่ามีเค้าของรุ่งรดิศมากไป เขาเลยนึกชิงชังไปโดยปริยาย“แม่...อยากกินไข่เจียว” เด็กชายร้องขอผกากรองมองหาจานไข่เจียวก็เห็นว่าวางอยู่สุดโต๊ะอาหาร“เทียน ตักไข่เจียวให้น้องหน่อย”เทียนหยดเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอสมาร์ตโฟน มือซ้ายมีช้อนข้าว มือขวาจิ้มอยู่บนหน้าจอ เธอกำลังตอบกลับการสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่“คือเอ่อ...นี่คุณ” เธอเรียกสมัตถ
สมัตถ์กำลังจะล้มตัวลงนอนในตอนที่ศรีภรรยาแต่งตัวสวยและเซ็กซี่ ราตรีบอกว่าเพื่อนนัดออกไปเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด เขาอยากห้ามหล่อนหรอกนะ แต่นี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่หล่อนจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ตอนที่บริหารโรงแรมช่วยเขานั้น หล่อนทำหน้าที่เลขาได้อย่างดีเยี่ยมจนแทบไม่มีเวลาเข้าแม้แต่ร้านเสริมสวยด้วยซ้ำ นับว่านี่คือโอกาสที่อยู่ในช่วงวิกฤติเลยล่ะเขาลุกไปหาภรรยาที่หน้ากระจกเงา กอดเอวเจ้าหล่อนไว้แล้วก้มลงไปหาซอกคอขาวๆ บรรจงจุมพิตและซุกไซ้อย่างที่เคยทำยามต้องการปลุกเร้าสาวเจ้าให้มีอารมณ์พิศวาส“อือ...ไม่เอานะคะ ไนท์รีบไป สามทุ่มแล้ว”“ไม่ต้องไปไม่ได้เหรอ วันนี้ผมเครียดจัง คุณอยู่กับผมดีกว่า” ร้องขอแล้ววางจมูกคมๆ ลงกับแก้มบาง สูดดมแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว กระโปรงที่หล่อนสวมนั้นสั้นเหนือเข่าขึ้นมามากโข เขาสามารถลูบไล้ต้นขางามได้ง่ายๆ เลย“อย่าค่ะสมัตถ์ ไนท์รีบนะคะ กลับมาค่อยมาต่อนะ...อือ...” บอกอย่างนั้นแต่ครางอืออาเมื่อสามีสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง ฝ่ามือเขากอบกุมเนินนุ่มที่ปกคลุมด้วยผ้าบางๆ ของกางเกงชั้นใน สมัตถ์พยายามปลุกอารมณ์เธอ แต่มันช่างไม่เหมาะไม่ควร ตอนนี้เธอรีบนะ เพื่อนๆ รออยู่ที่ผับแล้ว“น
เวลา 14:30 นาฬิกา ณ สำนักงานที่ดินกรุงเทพฯ โฉนดที่ดินใบงามถูกส่งลงซองเอกสารแล้วเรียบร้อย ไม่ทันให้เจ้าของเก่าของมันได้พิจารณาด้วยซ้ำ หัวใจของจีรวัฒน์สั่นไหวแปลกๆ กลัวว่าจะไม่ได้โฉนดคืนก็กลัว กลัวว่าจะเสียเทียนหยดไปก็กลัว แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่มั่นใจอย่างหนึ่งว่าเทียนหยดไม่มีวันทอดทิ้งเขา หลายปีที่ผ่านมาหล่อนคอยช่วยเหลือเขามาตลอด เขาจะถือว่าครั้งนี้ ที่ยกที่ดินให้หล่อน เป็นการตอบแทนความดีของหล่อนก็แล้วกัน“ทีนี้จีก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว” เขาโอดครวญ“บ้านะสิ ยังเหลือตัวกับหัวใจ”เทียนหยดเย้า เดินควงแขนเขาไปยังลานจอดรถของสำนักงานที่ดิน“หัวใจก็ไม่เหลือ ให้เทียนไปเหมือนกัน”เทียนหยดแอบทำท่าแหวะใส่อากาศ แน่นอนว่าจีรวัฒน์ไม่มีทางได้เห็น“ขอให้จริงค่ะ ถ้าจีแอบมีคนอื่นนะ เทียนจะทำให้จีจดจำเทียนไปตลอดชีวิตเลย เทียนน่ะ...ทุ่มเทกับจี รักจีมากนะคะ จีน่าจะรู้ ที่ทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเรา ถ้าจีแอบทรยศเทียนละก็ เทียนคง...ใจสลาย”เธอเอ่ยแล้วสังเกตสีหน้าจีรวัฒน์ เขาช่าง
บทรักจากสองร่างยังดำเนินต่อไปอีกกว่าชั่วโมง ฝ่ายสามีจึงได้ปลดปล่อยสายธารแห่งชีวิตออกมาอย่างท่วมท้น พอๆ กับศรีภรรยาที่เสร็จสมอารมณ์ใคร่เป็นหนที่สอง สุขจนแทบหมดเรี่ยวแรง ได้แต่นอนหงายหอบหายใจที่กลางเตียงกว้างเคียงข้างสามีสมัตถ์นอนพักเหนื่อย เขาพร้อมจะปิดเปลือกตาลงด้วยความเพลีย แต่ฝ่ายศรีภรรยาคงไม่คิดเช่นนั้น ราตรียังไม่พอ หล่อนสะกิดเขาด้วยการลุกมาคร่อมร่างเขาไว้อีกครั้งหนึ่ง“ไม่ๆๆ หมดแรงแล้วไนท์จ๋า”เขาพึมพำ ดึงผ้านวมมาคลุมร่างด้วยว่ารู้สึกหนาว“โอย...อย่าเพิ่ง ไนท์ยังไม่อิ่มเลย อีกรอบนะคะมัตถ์ขา...” ศรีภรรยาออดอ้อนสมัตถ์ส่ายหน้าช้าๆ ดวงตาปิดลงไปแล้วแต่ยังไม่สนิท“ขอแปะโป้งไว้คืนวันเสาร์นะครับที่รัก”“ไม่เอา วันเสาร์ไนท์เที่ยวนี่คะ คืนนี้แหละ นะๆๆ”“อือ...ไนท์ก็ไม่ต้องเที่ยวสักคืนสิครับ นะครับ วันนี้ผมเพลียจัง ฝันดีนะที่รัก” เขาดึงคนร่างเล็กลงมานอนข้างกันแล้วจุมพิตหน้าผากมนอย่างแสนรัก ก่อนจะเข้าสู่นิทราอันแสนสุข ไม่ได้สนใจเลยว่าราตรีจะรู้สึกอย่างไรศรีภรรยาพลิก
[9]ก่อนใจจะสลาย___________มือสั่นๆ ของสมัตถ์ เคลื่อนลงไปหาร่างบาง ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ ราวกับถูกดึงดูดด้วยแม่เหล็กขนาดเท่าตึกสามชั้น มันดูดมือเขาเข้าไปหากางเกงชั้นในสีม่วงที่ห่อหุ้มความอวบอูม เขากลืนน้ำลายหนืดๆ ลงคอ จ้องมองมือตัวเองที่เข้าใกล้ส่วนนั้นของเทียนหยด และก่อนที่เขาจะทำอะไรให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็เลื่อนลงไปด้านล่าง เพื่อดึงผ้านวมมาปิดร่างหล่อน...จนชิดคอ“เฮ้อ...รอดตายแล้ว! สมัตถ์”สมัตถ์เดินตบอกเบาๆ ขึ้นมาจนถึงห้องนอน สิ่งที่มองเห็นติดตาเขาจนร่างกายรุ่มร้อนไปหมด เขาแลหาร่างภรรยาท่ามกลางแสงสลัวของไฟในห้อง หล่อนมิได้อยู่บนเตียง แต่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำปิดอยู่ มีแสงสว่างลอดออกมาจากช่องเล็กๆ ด้านล่าง เขาเดินไปรอหล่อนหน้าประตูนั้น และพอหล่อนเปิดมันออกมา เขาก็รวบร่างหล่อนไว้หมับ!“ว้าย! ตกใจหมดเลยสมัตถ์ นี่แน่ะ!”ภรรยาคนดีตีแขนสามีเปาะแปะไม่จริงจัง ยังอมยิ้มกับการกระทำของเขา“หอม
“เทียน...” จีรวัฒน์ครางชื่อเทียนหยดเสียงอ่อยเทียนหยดหันข้างให้ ทำทีปาดน้ำตาแม้รู้ว่ามันยังไม่ได้ไหลออกมา ก่อนจะเดินตรงไปที่ประตู ไม่ได้รีบร้อนนัก เพราะทุกย่างก้าวมันคือการท้าทายกับตัวเอง เธอเริ่มนับเลขห้าในใจ ตามด้วยสี่...สาม...สอง...หนึ่ง!“ก็ได้! เทียน! ก็ได้!”เธอหันหลังขวับ เลิกคิ้วสูงราวกับสงสัยทั้งที่รู้ว่าที่จีรวัฒน์จะเอ่ยออกมามันคือเรื่องใด “อะไรอีก เทียนรีบ”เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้าไปในห้องอย่างเร่งรีบ แล้วกลับออกมาพร้อมกับโฉนดที่ดินในมือ“เอาไปเลย พรุ่งนี้จีจะไปเซ็นให้มันเป็นชื่อเทียน เทียนจะได้เอาไปค้ำประกันเงินกู้ แต่ขอร้อง เทียนอย่าไปเลยนะ มันอันตราย จีห่วง” ท้ายเสียงอ่อนโยนจนตัวเองยังรู้สึก เขากับเทียนหยดคบกันมานาน ย่อมมีความผูกพันความแหนหวง แม้ไม่มากมาย แต่ก็ยังมี“จี...จริงๆ นะ จีให้เทียนยืมจริงๆ นะ” ถามอย่างตื่นตะลึง และพอเขาพยักหน้า เธอก็คว้าโฉนดมาไว้ในมือแล้วกระโดดกอดคอเขาจีรวัฒน์อุ้มเทียนหยดแนบแน่นเนิ่นนาน ดีใจที่สามารถรั้งหล่อนไว้ได้ กลัวแสนกลัวว่าหล่อนจะไป กลัวอันตรายที่สมัยนี้ไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิด เรื่องบางเรื่องมันเกิดขึ้นได้เสมอ เทียนหยดผู้ไร้เดียงส
โทรศัพท์ของจีรวัฒน์ยังมิได้ถูกดึงออกจากหูเลย เป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงที่เขาโทรหาคู่ขาคนเก่ง หล่อนบอกคล้ายๆ ว่าจะมาหาเขาในวันนี้ ทว่านี่ก็ค่ำแล้ว แต่ยังไร้วี่แวว เขาทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแรงๆ ตัดสินใจว่าจะนั่งทำงานต่ออีกสักนิดแล้วจะออกไปหาเด็กเลาจน์มานอนด้วย ช่วงนี้เขาเป็นอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกได้ถึงแรงปรารถนาของตัวเอง มันพลุ่งพล่านบ่อยครั้ง ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะเทียนหยด เพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของหล่อน ให้ตายเถอะ ถ้ารู้ว่าหล่อนจะร้อนแรงขนาดนั้น เขาคงล่อลวงให้หล่อนหลงอยู่ในบ่วงสวาทตั้งนานแล้ว ไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษรอให้หล่อนยินยอมพร้อมใจหรอกชายหนุ่มกลับไปที่โต๊ะทำงาน ตั้งสมาธิให้นิ่งแล้วเริ่มทำงานวาดแบบของตัวเอง กระทั่งเวลาสองทุ่มเศษๆ ประตูห้องเขาก็ถูกเปิดเข้ามา เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้นเป็นจังหวะทำให้เขารู้ว่าคนที่เดินเข้ามาคือใคร“โอ...คุณพระคุณเจ้า”จีรวัฒน์อุทานแล้วรีบลุกมาต้อนรับแม่สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่ยืนพิงกรอบประตูอยู่ ผมที่ดัดเป็นลอนบางๆ ทำให้เทียนหยดดูเปลี่ยนไป ชุดที่หล่อนสวมก็ด้วย มันสั้นเพียงแก้มก้น คอเสื้อนั้นก็คว้านลงลึกจนเห
“ฉันจะสั่งยานอนหลับทางอินเทอร์เน็ต”“ฉันจะโทรหาเมีย” เขาเอ่ยบ้าง เทียนหยดเบะปากใส่น้อยๆ แต่สมัตถ์ไม่สนใจ ถ้าหล่อนอยากอิจฉาคนมีความรักก็ช่างหล่อนเถิดหญิงสาวเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน เสิร์ชหาของที่ต้องการทางอินเทอร์เน็ตแล้วสั่งให้เขาเอามาส่งที่นี่โดยยอมเสี่ยงจ่ายเงินก่อนเพื่อความสะดวก“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”เขาบ่นให้ศรีภรรยา ด้วยว่าต่อสายไปสองสามครั้ง รออยู่เป็นนาทีก็ไม่มีคนรับ“มีกิ๊กหรือเปล่า” เสียงหวานของเทียนหยดเอ่ยประชดประชันสมัตถ์หน้าตึง “ปากเสียจริงๆ ไม่แปลกที่โดนสวมเขา”เทียนหยดอ้าปากค้าง นี่เธอโดนด่าอยู่ใช่ไหม เสียความมั่นใจนะโว้ย!“คุณสมัตถ์!”“อะไร”“แทงใจดำฉันจึ๊กๆ เลย! อีตาบ้า!” ด่าเขาแต่มีรอยยิ้มระบายที่มุมปากสมัตถ์เองก็เผลอยิ้มไปด้วย หล่อนเอามือทุบอกข้างซ้ายปึ้กๆ ช่างน่าขัน ดูท่าว่าเทียนหยดจะเริ่มทำใจได้แล้ว มันคงตัดใจได้ง่ายในเมื่อกล่อนกับแฟนยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย นอกจากความรู้สึกและเงิน
[8]ไม้ตาย**************กริ๊งๆๆเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาว เธอหยิบมันมาแนบหู ก่อนที่ปัญหาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่จะพรั่งพรูเข้ามาให้ต้องขบคิด เธอเจรจากับปลายสายราวสิบนาที ก่อนจะวางลงแล้วต่อสายหาผู้ช่วยผ่านโทรศัพท์มือถือ“นิดา”‘คะ คุณเทียน’“เรามีปัญหาแล้ว” เทียนหยดว่า ได้ยินเสียงครางของคนปลายสายดังแว่วมา‘ยังไงคะ’เทียนหยดลุกจากเก้าอี้มาคุยโทรศัพท์ดีๆ สมัตถ์มองหล่อนทางหางตา แล้วรีบเบนสายตาหลับมาที่จุดเดิม เพราะดวงตาเขาดันไปปะทะเข้ากับบั้นท้ายงอนงามยามเจ้าตัวขยับเคลื่อนไหว เรือนร่างของเทียนหยดช่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดึงดูดใจคนมองเหลือเกิน“โกดังของ RPS ไม่มีพื้นที่พอให้ของของเรา”‘ตายแล้ว! แล้วจะทำยังไงดีคะ จะไปหาเช่าโกดังที่ไหน แล้วกี่วันคะถึงจะต้องย้ายของออกมา’ ปลายสายมีความกังวล เพราะของที่ว่านั้นก็มีปริมาณมากอยู่“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากเช่าเลย มันเพิ่มต้นทุนให้เราโดยใช่เหตุ จะดีกว่าถ้าเรามีโกดังของเราเอง”‘ที่ไหนละคะบอส’“นั่นนะสิ!” หยดเทียนหัวเสีย มีเวลาอีกสองเดือน เธอต้องหาโกดังให้ได้ “ฉันมีเวลาหาอีกไม่มาก ความจริงถ้าเราระบายของที่มีตอนนี้ออกจากโกดังได้ภายในสองเดือน ของใหม
ศรีภรรยาผู้แสนดีของสมัตถ์เดินมาส่งเขาที่รถตามเคย ทั้งสองร่ำลากันและจบด้วยการที่ศรีภรรยาเอียงแก้มให้หอมเทียนหยดยืนมองแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะสงสารสมัตถ์เกินจะกล่าว พอเขาเคลื่อนรถออกไปราตรีก็เดินกลับเข้ามา ทั้งสองเดินสวนกันที่บันไดขึ้นลงด้านหน้า“รักกันจริงนะคะ” เทียนหยดเปิดฉาก อีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยนักแต่คงอดไม่ได้“แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็มาพรากสมัตถ์ไปจากฉันไม่ได้หรอก พวกสัมภเวสีเที่ยวขอส่วนบุญน่ะ ไปหาเอาข้างหน้า”“โอ้...แรง!” เทียนหยดทำตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงในคำผรุสวาทของอีกฝ่าย“เขาเป็นของฉัน ไม่มีวันชายตาแลคนอื่น อย่า...พยายาม” ราตรีเตือนเทียนหยดยิ้มเยาะ “อย่ามั่นใจนักสิ เคยได้ยินคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม คนเราทำอะไรไว้มันก็ได้รับผลอย่างนั้นแหละ”“เธอหมายถึงอะไร”“ฉันแค่พูดในสิ่งที่เคยได้ยินน่ะ” ตอบอย่างมีนัย“ฉันดีพอสำหรับเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลงฉันหัวปักหัวปำหรอก”“เฮอะ! น่าขำ” เทียนหยดทำทีหัวเราะอย
“อะไรไนท์ ผมไม่รู้เรื่อง”“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง! ก็ไอ้นี่มันอยู่ในรถคุณ! บอกมานะสมัตถ์ คุณมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมฮะ!” ไม่ถามเปล่าๆ แต่เข้าไปเค้นเอาความจริงด้วยการทุบตีสามี ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไปสิ้น ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจู่โจมหัวใจ ไม่ได้นึกถึงยามที่ตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นเลยเผียะ!หนึ่งตบของราตรีกระทบซีกแก้มสมัตถ์อย่างแรง ชายหนุ่มยืนนิ่ง กำเจ้าผ้าผืนเล็กในมืออย่างโกรธเคือง เพราะมันแท้ๆ ที่ทำให้เขาโดนตบฟรีๆ“ทำไม! พูดไม่ออกเลยใช่ไหม รักมันมากหรือสมัตถ์! รักมันมากก็ไปเอากับมัน อย่ามายุ่งกับฉัน!” ราตรีตะโกนใส่ น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากสั่นระริก ความโกรธวิ่งพล่านทั่วร่างเหมือนยาพิษชั้นดีที่กำลังแทรกซึมสู่หัวใจสมัตถ์ส่ายหน้า ชาที่ซีกแก้มเกินจะกล่าว รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่มุมปาก ราตรีมือหนักเหลือเกิน“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฟังผมบ้างไนท์ ผมรักคุณคนเดียว ไม่เคยมีใครจริงๆ ส่วนเจ้านี่ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง ผมไม่รู้จริงๆ สาบาน...” เขาเอ่ยความจริง พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบยามภร