มื้อค่ำวันนี้เป็นครั้งแรกที่คนจากสองตระกูลได้มาร่วมโต๊ะอาหารอย่างพร้อมเพรียง ศรีสุรางค์กับราตรีแทบจะกลืนอะไรไม่ลง ในขณะที่คนอื่นๆ ดูท่าเจริญอาหารกันถ้วนหน้า ผกากรองและบุตรชายรับประทานไปตามหน้าที่ ในขณะที่เทียนหยดตักข้าวเข้าปากคำหนึ่งก็จิ้มหน้าจอสมาร์ตโฟนไปทีหนึ่ง ส่วนสมัตถ์กำลังเอร็ดอร่อยกับกับข้าวที่รสชาติดีเหลือเกิน
“วันนี้กับข้าวอร่อยจัง คุณไปซื้อที่ร้านไหน” เขาหันไปถามภรรยา
ราตรีตักแกงเลียงมาชิมคำหนึ่งก็รู้ว่าอร่อยสมดังที่สามีว่า
“แม่ทำครับ” เด็กชายตัวน้อยตอบ หลังจากไปรับเขาที่โรงเรียน มารดาก็ขลุกอยู่ในครัวจนถึงค่ำ รสชาติอาหารนั้นเขาจำได้ขึ้นใจทุกอย่างเลย
สมัตถ์อิ่มตื้อขึ้นมาทันใด ยกแก้วน้ำขึ้นจิบอึกใหญ่ มองวงหน้าเด็กชายตัวน้อยก็เห็นว่าน่าเอ็นดูดีแท้ เสียแต่ว่ามีเค้าของรุ่งรดิศมากไป เขาเลยนึกชิงชังไปโดยปริยาย
“แม่...อยากกินไข่เจียว” เด็กชายร้องขอ
ผกากรองมองหาจานไข่เจียวก็เห็นว่าวางอยู่สุดโต๊ะอาหาร
“เทียน ตักไข่เจียวให้น้องหน่อย”
เทียนหยดเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอสมาร์ตโฟน มือซ้ายมีช้อนข้าว มือขวาจิ้มอยู่บนหน้าจอ เธอกำลังตอบกลับการสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่
“คือเอ่อ...นี่คุณ” เธอเรียกสมัตถ์ที่อยู่ใกล้จานไข่เจียวมากที่สุด “ช่วยตักไข่เจียวให้น้องฉันหน่อย”
สมัตถ์มองจานไข่เจียวสลับกับหน้าเทียนหยดและโอบนิธิ
“น้องเธอ ไม่ใช่น้องฉัน ตักเองสิ” เขาว่าแล้วไม่สนใจ
ผกากรองถอนหายใจเบาๆ เริ่มรำคาญคนบ้านนี้ขึ้นมาอีกหนหนึ่ง
เทียนหยดวางช้อนลงอย่างเคืองใจ เขายังทำเป็นเมิน แสร้งตักแกงเลียงในถ้วยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว เธอเลยคว้าเอาถ้วยน้ำปลาพริกไปเทใส่ถ้วยแกงเลียงเบาๆ แต่หนักหน่วงเหลือเกินในสายตาและความรู้สึกของคนทั้งโต๊ะ
“อุ๊ยตาย! ขอโทษทีค่ะ มันลื่น” บอกเขาแล้วยิ้มอย่างขออภัย คนอื่นๆ มัวแต่อึ้งจนพูดไม่ออก
สมัตถ์โกรธแทบควันออกหู เม้มริมฝีปากแน่น ช้อนของเขามีน้ำปลาอยู่เต็มเปี่ยม ดีที่ยังไม่ส่งเข้าปาก สุดท้ายเลยต้องวางช้อนคงอย่างขุ่นเคือง
“อิ่มแล้วค่ะแม่” บอกมารดาแล้วลุกยืน ไม่มีอารมณ์จะกินต่อ
ผกากรองส่ายหน้าในการกระทำของบุตรสาว “เดี๋ยว ไปเอาแกงมาใหม่”
“คะ?”
“ฉันบอกว่าไปตักแกงมาใหม่”
“โธ่แม่!” เทียนหยดอยากกระทืบเท้าเร่าๆ เหมือนเด็กน้อยเหลือเกิน “ให้สาวใช้ไปตักสิคะ”
“สาวใช้บ้านเขา ไม่ใช่สาวใช้บ้านเรา ไปตักมาเทียนหยด” ผู้เป็นมารดาสั่งบุตรสาวด้วยเสียงต่ำอย่างไม่พอใจ
เทียนหยดรู้ด้วยสัญชาตญาณ รีบยกแกงเลียงถ้วยดังกล่าวออกจากโต๊ะเพื่อไปเปลี่ยนมาให้ หน้าตานั้นยังบูดบึ้งไม่พอใจ
ผกากรองส่ายหน้าระอา “เล่นเป็นเด็กไปได้ โตซะเปล่า”
สมัตถ์มองผกากรองอย่างใช้ความคิด รู้สึกดียามได้เห็นการอบรมสั่งสอนของสตรีนางอื่นที่มิใช่มารดาของตัวเอง คนเรามีวิถีการเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน และเขารู้สึกดีที่ผกากรองเลือกปรามกิริยาอันไม่เหมาะของบุตรสาวด้วยการดัดนิสัยหล่อน เขายกจานไข่เจียวมาวางแทนที่ถ้วยแกง เด็กน้อยเอื้อมมือมาตักอย่างเกร็งๆ วงหน้าเล็กๆ ของโอบนิธิช่างน่าดึงดูดใจ เจ้าหนูผิวสวยเหมือน หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู แต่คงไม่ใช่สำหรับเขาหรอก
ชายหนุ่มหันกลับมาจัดการอาหารในจานตัวเอง หางตาแลเห็นย่าและภรรยาเริ่มตักอะไรเข้าปากบ้างแล้ว และจู่ๆ น่องไก่ชิ้นหนึ่งก็ถูกวางลงจานเขา เขาเงยหน้าขึ้นมอง หนูน้อยรีบหลบสายตา ก้มลงมองแต่จานตัวเอง สักพักจึงเงยขึ้นมาสบตาอย่างขลาดๆ เดาว่าคงจะกลัวเขากระมัง
“น่องไก่ครับ แม่ทำอร่อย”
หนูน้อยบอกเสียงชัดแจ๋ว แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อ ศรีสุรางค์กับราตรีหันมามองสมัตถ์เป็นตาเดียว ในขณะที่ผกากรองเอามือลูบศีรษะบุตรชายเบาๆ
ผกากรองไม่ได้ห้ามโอบนิธิในเรื่องความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นางระลึกเสมอว่าความโกรธแค้นใดๆ ของพวกผู้ใหญ่ก็ย่อมเป็นของผู้ใหญ่ไม่เกี่ยวกับเด็กเลย นางหวังว่าโอบนิธิจะอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข อย่างน้อยก็ถึงตอนปิดเทอมที่พวกนางจะย้ายกลับไปที่บ้านสวนเป็นการชั่วคราว
สมัตถ์เขี่ยน่องไก่ชิ้นนั้นไปวางไว้ขอบจาน ทว่าไม่ถึงนาที มันก็ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะตักเข้าปาก เป็นจังหวะเดียวกับที่เทียนหยดพาหน้าบูดๆ ของหล่อนออกมาพร้อมถ้วยแกง หล่อนวางมันลงอย่างเบามือ
“แค่นี้ใช่ไหมคะ”
“อือฮึ จะไปไหนก็ไป” ผกากรองไล่กลายๆ
เทียนหยดถอนหายใจ แล้วหยิบเอาสมาร์ตโฟนของตัวเองขึ้นมาถือไว้ ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหาร สงครามอารมณ์ขนาดย่อมที่โต๊ะอาหารนั้นไม่มีค่าพอให้เธอเอามาใส่ใจ มีลูกค้ารายใหญ่รอท่าอยู่พร้อมกับเงินที่เจ้าหล่อนจะโอนมาให้เป็นค่าแป้งล็อตใหม่ของ บล็องค์เต้ เธอกำลังคิดถึงการประชาสัมพันธ์ในโทรทัศน์ และถ้ามันไปได้ดี เธอก็อยากมีบริษัทเล็กๆ มีออฟฟิศเป็นหลักแหล่ง ไม่ใช่ทำงานแค่ผ่านหน้าจอสมาร์ตโฟน
สมัตถ์กำลังจะล้มตัวลงนอนในตอนที่ศรีภรรยาแต่งตัวสวยและเซ็กซี่ ราตรีบอกว่าเพื่อนนัดออกไปเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิด เขาอยากห้ามหล่อนหรอกนะ แต่นี่เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่หล่อนจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตา ตอนที่บริหารโรงแรมช่วยเขานั้น หล่อนทำหน้าที่เลขาได้อย่างดีเยี่ยมจนแทบไม่มีเวลาเข้าแม้แต่ร้านเสริมสวยด้วยซ้ำ นับว่านี่คือโอกาสที่อยู่ในช่วงวิกฤติเลยล่ะเขาลุกไปหาภรรยาที่หน้ากระจกเงา กอดเอวเจ้าหล่อนไว้แล้วก้มลงไปหาซอกคอขาวๆ บรรจงจุมพิตและซุกไซ้อย่างที่เคยทำยามต้องการปลุกเร้าสาวเจ้าให้มีอารมณ์พิศวาส“อือ...ไม่เอานะคะ ไนท์รีบไป สามทุ่มแล้ว”“ไม่ต้องไปไม่ได้เหรอ วันนี้ผมเครียดจัง คุณอยู่กับผมดีกว่า” ร้องขอแล้ววางจมูกคมๆ ลงกับแก้มบาง สูดดมแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว กระโปรงที่หล่อนสวมนั้นสั้นเหนือเข่าขึ้นมามากโข เขาสามารถลูบไล้ต้นขางามได้ง่ายๆ เลย“อย่าค่ะสมัตถ์ ไนท์รีบนะคะ กลับมาค่อยมาต่อนะ...อือ...” บอกอย่างนั้นแต่ครางอืออาเมื่อสามีสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง ฝ่ามือเขากอบกุมเนินนุ่มที่ปกคลุมด้วยผ้าบางๆ ของกางเกงชั้นใน สมัตถ์พยายามปลุกอารมณ์เธอ แต่มันช่างไม่เหมาะไม่ควร ตอนนี้เธอรีบนะ เพื่อนๆ รออยู่ที่ผับแล้ว“น
ลูกบ้านนี้ได้แม่กันหมดหรือไงถึงได้มีความขาวที่น่าพิสมัยเช่นนี้ หล่อนตัวสูง แต่ยังไม่สูงเท่าเขา พวงผมที่รวบเป็นหางม้าสูงอยู่เป็นนิตย์ บัดนี้ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ผมหล่อนยาว ดำขลับและมันวับ หล่อนเดินไปเดินมา และในจังหวะที่หันหน้ามาทางนี้ ก็ทำให้เขาอดใจไม่ไหวต้องเดินไปพิสูจน์บางอย่างใกล้ๆ“อ่า...ค่ะๆ สองหมื่นตลับนะคะ เดี๋ยวฉันจะให้เจ้าหน้าที่ทำเอกสารแล้วส่งเมลไปให้ จ่ายก่อนครึ่งหนึ่งตามที่ตกลงไว้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สวัสดีค่ะ”เทียนหยดรีบวางสายลูกค้าเมื่อเห็นร่างสูงของสมัตถ์เดินมาทางนี้ ใบหน้าเขาเรียบเฉยจนเดาอารมณ์ไม่ถูก ทว่าเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ จึงได้เห็นว่าหน้าเขาแดงนิดๆ และมีกลิ่นเบียร์จางๆ โชยมาหญิงสาวเดินหนีก่อนที่เขาจะมาถึงตัว“เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหน กลัวหรือไง” ถามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ กวาดตามองร่างน้อยผ่านๆ และก็มั่นใจว่าใต้เสื้อกล้ามตัวน้อยนั้นหล่อนมิได้สวมเสื้อชั้นใน ปลายถันเล็กๆ ดุนดันเสื้อออกมาจนเห็นเป็นรูปทรง คอเสื้อของหล่อนไม่ได้เว้าแหว่งอะไร มันปกปิดเหนือเนินหน้าอก แต่รัดรึงเห็นรูปทรงชัดเจน หน้าอกหล่อนใหญ่พอตัว ใหญ่กว่าของราตรีเสียอีก และให้ตายเถอะ บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ระหว่างซอ
EP 3พิษรัก_________อรุณรุ่งวันใหม่สตรีร่างบอบบางในชุดสูทแบบสตรีสีเทาอ่อน กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ข้างรถของตัวเอง กางเกงผ้าไหมแบบพอดีตัวช่วยส่งให้เรียวขางามนั้นดึงดูดใจคนมอง ทว่าคนคนนั้นคงไม่ใช่สมัตถ์ ความไม่พอใจยังอัดแน่นอยู่ในอกเขาจนแม้แต่ความงามของเทียนหยดก็ไม่สามารถลบล้างมันไม่ได้ ใช่แล้วล่ะ ศรีภรรยาของเขากลับมาตอนรุ่งสาง และหล่อนปฏิเสธที่จะร่วมรักกับเขา มันทำให้เขาหงุดหงิดเป็นบ้า“คุณสมัตถ์ เดี๋ยว!”เทียนหยดร้องเรียกคนที่กำลังเดินไปขึ้นรถของตัวเอง สมัตถ์อยู่ในชุดที่เรียบร้อยอย่างนักธุรกิจผู้ช่ำชอง ทว่าใบหน้าเขาไม่มีความสดใสหลงเหลืออยู่ มันบูดบึ้งไร้รอยยิ้ม“อะไร!” เขาถามห้วนๆ หันหน้าหนีไม่ยอมสบตาหญิงสาว“คือ...รถฉันสตาร์ตไม่ติด ขอติดรถคุณไปบริษัทด้วยได้ไหม” บอกเขาอย่างเกรงๆ “เอ่อ...ถ้าคุณไม่สะดวก ฉันนั่งแท็ก...”“เธอขับ”ฟิ้ว...กุญแจรถถูกโยนมาใส่ร่างบางของเทียนหยด หญิงสาวหน้ายุ่งเพราะเกือบรับมันไม่ทันหนุ่มสาวขึ้นนั่งบนรถเรียบร้อย สมัตถ์ตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง ส่วนเทียนหยดเริ่มเคลื่อนรถออกนอกรั้วบ้านไปช้าๆ หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาดูเงียบจนเกินไป
“โธ่...แม่คะ หนูเป็นแฟนเขานะ มีอะไรก็ต้องช่วยกัน”“โอ๊ย...ฉันเบื่อฟังแล้วยังเทียน แกอย่าให้ความรักมันบังตาได้ไหม เรื่องอะไรแกก็ฉลาดนะ แต่ทำไมกับเรื่องผู้ชายแกถึงได้โง่นักนะ! เบื่อ! ฉันเบื่อ!”ผกากรองเท้าสะเอวร้องใส่หน้าบุตรสาว ลูกนั้นเราเลี้ยงได้แต่ตัวจริงๆเทียนหยดไม่หือไม่อือ ไม่เถียงมารดาแม้ว่าจะโดนด่าก็ตาม“รอบนี้มันจะเอาเท่าไหร่กันแน่”คนถูกถามไม่อยากตอบ แต่คนถามคงไม่เลิกราง่ายๆ สุดท้ายเลยต้องบอกตัวเลขออกไป“สองล้านค่ะ”“อื้อหือ...” เสียงสมัตถ์ครางออกมาอย่างตื่นตะลึง เขาไม่เชื่อหรอกว่าเทียนหยดกับแฟนหนุ่มจะเป็นเพียงแค่คนรัก พวกเขาอาจจะถึงขั้นสามีภรรยา เหลือแค่ยังไม่ได้ตบแต่งเป็นเรื่องเป็นราว ไม่อย่างนั้นเจ้าหล่อนจะกล้าทุ่มทุนขนาดนี้หรือ“แกเห็นไหม แกอายเขาไหม ฉันเคยเห็นแต่ผู้ชายทุ่มให้ผู้หญิง มีแต่แกนี่แหละที่ทุ่มให้ผู้ชาย ระวังนะยัยเทียน มันทรยศแกขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็ แกตายทั้งเป็นแน่ๆ น้ำตาได้เช็ดหัวเข่าก็คราวนี้แหละ”คนถูกประชดส่ายหน้ารัวๆ ขยับไปหามารดาหมายจะกอดนางปลอบโยน แต่สุดท้ายแล้วมารดาก็บ่ายเบี่ยง หน้าตาติดโกรธเคืองไม่หาย“เรารักกันนะคะแม่ ขอเวลาให้จีเก็บตังค์ก่อน รับรองว่า
EP 3/3 พิษรักเทียนหยดยังเงียบ จ้องหน้าเขาราวกับอยากจะถามให้ชัดว่าลิปสติกที่เธอเจอใต้โซฟาเป็นของใคร ทว่าสิ่งที่เอ่ยออกมากลับมีแค่…“ห้องรกค่ะ”“ขอโทษครับ...แม่บ้านที่เคยโทรเรียกไม่ว่างมาทำให้น่ะ ไปต่างจังหวัดสองสามวันแล้ว” จีรวัฒน์แก้ต่าง เขาลุกมานั่งพิงหลังกับหัวเตียง ลูบหน้าลูบตาแรงๆ อย่างต้องการเรียกหาความสดชื่น“ก็อย่าทำรกสิคะ”“โธ่เทียน...มันรกเอง จริงๆ” ว่าแล้วดึงเทียนหยดลงมานั่งด้วยกัน กอดร่างบางไว้ชั่วอึดใจก่อนที่เจ้าของจะดึงมือเขาออก “โอย...กอดก็ไม่ได้” ท้วงอย่างงอนๆ“แต่งเมื่อไหร่จะให้กอดค่ะ ตอนนี้เก็บค่าสินสอดไปก่อนนะคะ” คนสวยว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้แต่งงานกับจีรวัฒน์ไหม เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาดูเหมือนว่าเงินค่าสินสอดของเธอนั้นจะไม่งอกเงยขึ้นมาเลย มีแต่เงินที่จีรวัฒน์หยิบยืมไปต่างหากที่มันเพิ่มขึ้นๆ พวกเธอรู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ฐานะของจีรวัฒน์ไม่ค่อยดีนัก แต่เธอไม่ได้เอาส่วนนั้นมาเป็นข้อแม้ในการคบหา เขารักเธอ และคอยดูแลเธอมา พวกเราดูแลกันและกันในฐานะคนรัก คนรักจริงๆ เพราะไม่ได้มีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวข้องเลย เธอรู้ว่าจีรวัฒน์เองก็ต้องการ แต
“แม่ไม่ใช่คนเห็นแก่เงินนะคะ เทียนเชื่อว่าถ้าจีจริงใจกับเทียน รักเทียน และไม่ทรยศหักหลังเทียน ทำให้แม่มั่นใจว่าจีดูแลเทียนได้ เทียนว่าแม่คงไม่รังเกียจจีหรอกค่ะ มันอยู่ที่จีต่างหาก อยู่ที่ว่าตอนนี้ จีเต็มที่แค่ไหนกับสิ่งที่เราเป็นอยู่” เทียนหยดเอ่ยให้แฟนหนุ่มได้คิดจีรวัฒน์หน้าเจื่อนไปนิดหนึ่ง ทว่าก็สามารถทำให้มันเป็นปกติได้โดยไว“ไม่เอาน่า ไม่เอาเรื่องเครียดนะ ไปดูหนังกันดีกว่า เดี๋ยวไม่ทันรอบ เร็วเข้า” เขาเร่งเร้าด้วยไม่อยากตอบคำถามใดๆ ที่เทียนหยดเอ่ยมา เขายังไม่มีคำตอบให้หล่อนหรอก เขาชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมาย ทำงาน ได้เงิน เที่ยว ถ้ามีปัญหา เขาก็มีคนรักที่แสนดีอย่างเทียนหยดนี่ไงที่คอยช่วยทุกทาง แล้วเขาจะยังดิ้นรนให้ตัวเองต้องเหนื่อยทำไมเล่า ยิ่งการดิ้นรนเอาชนะใจว่าที่แม่ยายด้วยแล้ว มันไม่ชวนให้กระตือรือร้นเลยเทียนหยดส่ายหน้ายามได้ฟังวาจาว่าที่พ่อของลูก เธอคิดถูกไหมนะที่มาคบคนคนนี้ เขาดูเหมือนไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเธอเลย เขายังคล้ายชายที่เธอเพิ่งคบหาเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด ไม่มีความกระตือรือร้นในสิ่งใด ไม่ขวนขวาย ไม่ยอมคิดหาเงิน เอาแค่พอมีใช้ไปวันๆ ที่สำคั
หมับ!จู่ๆ แขนเรียวของบุตรสาวที่รักก็วางพาดที่รอบเอว ก่อนที่คนตัวเล็กจะขยับมานอนชิดนางในท่ากอดจากด้านหลัง“คิดถึงแม่จัง ไม่ได้กอดตั้งนานแล้วเนาะ” บอกมารดาพลางสูดเอากลิ่นหอมๆ จากแผ่นหลังนางผ่านชุดนอนผ้ามันลื่น“อือ...” เอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วตบเบาๆ บนหลังมือของบุตรสาว ด้วยว่าความใกล้ชิดฉันมารดากับบุตรถูกกางกั้นด้วยว่ากาลเวลาพรากมันไปชั่วเวลาหนึ่ง นางจึงขัดเขินไม่น้อยที่ถูกกอด เทียนหยดเองก็มิใช่เด็กชายเช่นโอบนิธิ หล่อนโตเป็นสาวพอที่จะออกเรือนแล้วด้วยซ้ำ “เอาแขนออกเลย ร้อน” นางว่าแล้วยกแขนบุตรสาวคืนเจ้าของ“โธ่...แม่อ่า...งก กอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้” บุตรสาวทำเป็นบ่นน้อยใจ“น้อยๆ หน่อยยัยเทียน จะนอนไหมฮึ ถ้าไม่นอนก็ลงไปนอนข้างล่างเลย”เมื่อถูกมารดาขู่เข้าให้ เทียนหยดเลยต้องตั้งหน้าตั้งตานับแกะในใจ จะได้พาตัวเองเข้าสู่นิทราอันแสนสุข และจากความเหนื่อยล้าในเรื่องงานและเรื่องหัวใจ หญิงสาวเลยผล็อยหลับไปในเวลาต่อมาผกากรองพลิกกายมาหาบุตรสาว แสงโคมไฟจากหัวเตียงที่ยังเรื่อเรืองทำให้แลเห็นใบหน้าขาวของเทียนหยดได้ชัดเจน เทียนหยดงดงามเสมอ หล่อนมีรูปเป็นทรัพย์ มีสมองอันชาญฉลาด บางครั้งนางก็ไม่พอใจที่เทีย
“ให้ตายเถอะ! บ้าชะมัด” หญิงสาวสบถอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี จับดูสองแก้มก็รู้ว่ามันร้อนยิ่งกว่าตอนที่เห็นสมัตถ์จูบกับภรรยาเขาที่สนามเมื่อคืนเสียอีก“เธอนั่นแหละบ้า มาทำอะไรที่นี่ ฉันนึกว่าไม่มีคนอยู่”“ฉันก็นึกว่ายังไม่มีใครตื่นนี่” เธอเถียง กอดอกแน่นเมื่อรับรู้ถึงความโล่งของกายสาว“ฉันมาหากาแฟดื่ม” เขาแก้ต่าง“เหมือนกัน”“แต่เธอควรสวมอะไรที่มากกว่าชุดคลุมอาบน้ำที่ไม่มีชั้นใน”“บอกตัวเองก่อนไหมฮะ! ฉันรู้นะ! มันแข็ง!” โพล่งออกไปด้วยเสียงที่ดังมากกว่ากระซิบเพียงเล็กน้อย ทุกถ้อยวาจาที่เอ่ยออกไปก็อยากตะโกนดังๆ หรอกนะ แต่ติดที่ว่ากลัวคนอื่นจะมารับรู้สถานการณ์นี้ด้วยเท่านั้นเองสมัตถ์หน้าแดง วาจาห่ามๆ ของหล่อนปลุกบางอย่างในตัวเขาให้ลุกฮือ“อะไรแข็งล่ะ” ถามหน้าด้านๆ รู้สึกสนุกยามได้แกล้งเทียนหยด“ก็...ก็...โอ๊ย...ฉันไม่พูดหรอก ลามก! อีตาบ้า!”แล้วเทียนหยดก็สะบัดก้นเดินจากไปอย่างเคืองๆ ส่วนสมัตถ์ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้น ยิ้มในความตรงไปตรงมาของแม่ตัวร้าย“ให้ตายเถอะ ยิ้มอะไรวะ” ถามตัวเองทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ก่อนจะเดินเข้าไปในส่วนของบาร์เล็กๆ แลหาเครื่องมือทำกาแฟสักแก้ว ทว่าบนเคาน์เตอร์ที่แลเห
EP 6ยั่วฟืดๆๆเสียงสูดน้ำมูกดังๆ ก่อนที่เทียนหยดจะเอาหน้าผากออกจากหลังสมัตถ์ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าจะดูหลังตัวเอง ไม่เห็นมันหรอก แต่รู้เชียวละว่ามันคงเป็นด่างดวงเพราะหยดน้ำตา“ขอโทษนะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับแผ่นหลัง” เธอบอกเขา ปาดน้ำตาลวกๆ“เธอโอเคแล้วใช่ไหม”“ไม่...ไม่โอเค แต่ฉันหิว ขอกินก่อนแล้วค่อยไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าที่ห้องก็ได้”สมัตถ์พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปแล้วนะ ลงมานานแล้วเดี๋ยวไนท์สงสัย”“สงสัยบ้าอะไรล่ะ คุณกับฉันไม่ได้ลักลอบทำอะไรสักหน่อย”เทียนหยดหน้ายุ่ง เขาจะกลัวเมียอะไรนักหนา“อือ...นั่นแหละ ฉันรักของฉัน”“ค่า เชิญค่ะสามีตัวอย่าง” เธอประชดแล้วก้มหน้าลงจานข้าว เลยไม่ได้เห็นสมัตถ์ยิ้มกว้างยามโดนประชด พอเขาออกนอกประตูไป แม่สาวอกหักก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่มีให้เธอบ้างนะ ที่สวรรค์ส่งมาให้ก็ช่างเลวได้ใจ ที่พอจะมองเห็นก็ดันมีเมียอยู่แล้ว ส
“แน่นะคะ ถ้าผิดคำสาบานล่ะ”“ขอให้...ขอให้เทียนลงโทษอย่างสาสม พอใจหรือยังครับ”จีรวัฒน์เอ่ยทีเล่นทีจริง แต่เทียนหยดถือว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาคือคำสาบานที่เขาได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว และหญิงสาวขอให้มันเป็นไปตามนั้น และเธอ...จะขอเริ่มบทลงโทษเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!“พอใจแล้วค่ะ จีน่ารักที่สุด” พูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วโผเข้าหาร่างเขาจนอีกฝ่ายหงายหลังบนโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เธอทาบทับเขาไว้ และมันทำให้จีรวัฒน์พอใจ“เทียนน่ารักจังที่เป็นแบบนี้”“แบบไหนคะ” ถามพลางใช้นิ้วแหวกสาบเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาให้แบะอ้าออก แล้วใช้มือบางลูบไล้แผงอกเปล่าเปลือยเล่นอย่างยั่วเย้า“ก็แบบนี้ไง แบบ...ยั่ว...”“เทียนเปล่ายั่ว ก็จีน่ารัก เทียนแค่แกล้งหรอกน่า”“จียอมให้เทียนแกล้งทั้งคืน” ไม่ว่าเปล่าๆ แต่ใช้มือข้างขวาลูบบั้นท้ายงามงอนไปมา ไม่ลืมขยำมันเบาๆ บั้นท้ายหล่อนช่างนุ่มหยุ่นขยำเท่าไหร่ก็มิมีเหลวอ่อน“แต่เทียนไม่ว่าง...” ลากเสียงยาวๆ แล้วก้มลงจุ
“โธ่เทียน...ก็...ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่แค่ห้าหกล้าน ถ้าขายจริงๆ มันอาจได้มากกว่านั้นเท่าตัวเลยก็ได้” จีรวัฒน์เริ่มหัวเสีย เทียนหยดปาดน้ำตา“งั้นจีเอาเงินมาคืนเทียนสิคะ เทียนจะได้เอาไปหมุน จีพูดอย่างนี้เทียนเสียใจนะ เทียนช่วยเหลือจีมาตลอด แต่พอเทียนลำบาก จีกลับไม่อยากช่วย ถามจริงๆ เถอะ รักเทียนบ้างไหม...” เทียนหยดเม้มปากแน่น ร้องไห้ฟูมฟายออกมา หยดน้ำตาแห่งความแค้นคลั่งหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจจีรวัฒน์นึกสงสารเลยดึงร่างน้อยมากอด กายหนุ่มสัมผัสกายสาวพาให้ความรุ่มร้อนบังเกิดอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา“ขอโทษนะเทียน จีขอโทษ...ขอเวลาจีหน่อยนะคนดี” ว่าพลางลูบแผ่นหลังบางเรื่อยลงมาถึงเอวคอดเทียนหยดตาเบิกโต รู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนของอีกฝ่าย ได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตาดุดันเพ่งมองไปข้างหน้าแต่ไม่ได้โฟกัสที่จุดใด แม้ในเวลาแห่งความทุกข์ จีรวัฒน์ก็ยังอยากทำบ้าๆ กับเธอ เอาสิจีรวัฒน์ ลองมาพนันกันดู!“เอามือออกนะจี เราเครียดกันอยู่นะ” บอกเสียงเง้างอนไม่จริงจัง จะชนะคนชอบฉวยโอกาส มันต้องทำให้แนบเนียน“ก็
มือเรียวยกป้องปากงาม หัวใจเต้นถี่ระรัว ทั้งโกรธ...ทั้งรัก ทั้งแค้นใจ! ไฟล์วิดีโอยังเล่นไปพร้อมๆ กับน้ำตาของเทียนหยดที่ไหลริน ริมฝีปากสั่นระริกเม้มแล้วเม้มอีก ดวงตาหลั่งสายธารออกมาราวกับน้ำตกผืนใหญ่ในฤดูฝนพรำ ยิ่งนั่งดู ยิ่งปวดใจ เฝ้ามองภาพคนรักของตัวเองกำลังนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงอื่น ทั้งสองปล้ำถอดเสื้อผ้ากันจนเหลือเพียงชุดชั้นใน และวินาทีที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากสองร่าง เธอก็กดหยุดวิดีโอ ก่อนที่หัวใจจะแตกสลายเพราะการกระทำของชายที่เธอจงรักภักดีเทียนหยดปิดพับหน้าจอกล้องถ่ายรูปเข้าหาตัว กล้องตัวนี้สมรรถภาพเยี่ยมยอด สามารถกดแชร์ภาพ แชร์วิดีโอลงแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กได้ทันที เธออยากทำใจจะขาด อยากประจานความชั่วร้ายของคนทั้งสอง แต่สุดท้าย...ก็เก็บมันเข้ากระเป๋าถือใบโต หักห้ามใจเอาไว้ ข่มความโกรธความเจ็บใจ ไว้รอวันเอาคืน ตอนนี้เธอยังมีสติไม่พอ เธอกำลังโกรธมาก! และทุกอย่างจะพังพินาศถ้าเธอสติแตก!“อือ...เทียน...มาแล้วเหรอ”เสียงถามดังอืออามาจากห้องนอน เทียนหยดรีบปาดน้ำตา หยิบเครื่องสำอางมาเติมแป้งเติมลิปสติก มิให้มีรอยพิรุธ ทว่าแต่งเติมอย่างไร
“ตายจริง ขอโทษนะคะ ไนท์ปวดหัวเลยลุกไม่ขึ้น ไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าวให้ทุกคนเลย” เอ่ยอย่างขออภัยแล้วนั่งลงข้างสามี สาวใช้รีบยกผ้ารองจานกับจานข้าวมาให้ ราตรียังตีหน้าสำนึกผิดจนสมัตถ์นึกสงสาร“ไม่เป็นไรครับ แม่น้องโอบทำกับข้าวแล้วล่ะ คุณกินสิ กำลังร้อนๆ เลย” ว่าแล้วตักแกงเลียงใส่ถ้วยเล็กๆ ให้ภรรยา แต่ราตรีที่ยังมีอาการเมาค้าง เกิดพะอืดพะอม ต้องยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “โอย...ไหวไหมไนท์”สมัตถ์ถามอย่างห่วงใย ท่าทีเอาใจใส่ภรรยานั้นทำเอาเทียนหยดหน้าสลด แน่ล่ะ จีรวัฒน์ไม่ได้ครึ่งของสมัตถ์เลย เป็นเธอมากกว่าที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเขา“พะอืดพะอมอย่างนี้จะมีข่าวดีหรือเปล่าคะ” ผกากรองตั้งข้อสังเกต แต่ทำให้สีหน้าของสมัตถ์เปลี่ยนไป เขาขยับนั่งตัวตรง หันไปมองภรรยา ฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมาจับมือเขา มันทำให้เขาพอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง“ถ้าหล่อนหมายถึงเรื่องลูกละก็ เป็นไปไม่ได้หรอก หลานฉันเป็นหมันน่ะ”“คุณย่าคะ!” ราตรีเอ่ยดังๆ ด้วยไม่อยากให้นางศรีสุรางค์เอ่ยเรื่องนี้“ทำไมฮึยัยไนท์ มันเรื่องจริง ยอมรับส
“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย“แม่! แม่คะ แม่!”“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วยสตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา“แม่ครับ...ฮึกๆ”“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นส
“เรื่องบางเรื่องก็น่าแปลกที่เราไม่สามารถหาคำตอบให้มันได้” เขาเปรยราวกับปลงแล้วทุกสิ่ง“บางทีเวลาอาจเป็นคำตอบ ฉันไม่รู้ว่าสามีฉันเอาอะไรมาวัดว่าคุณไว้ใจได้ อาจเป็นความรู้สึกผิดของเขา หรืออาจเพราะมันมีเหตุผลมากกว่านั้น ที่เขายกหุ้นให้คุณ แต่ฉันเชื่อใจเขานะ เขาคงไม่หาคนมาผลาญ RPS หรอก ในเมื่อเขาไว้ใจคุณ ฉันก็จะไว้ใจคุณ ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตามที่รุ่งรดิศอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่ ฉันมาแล้ว เวลาอาจช่วยไขข้อข้องใจให้เราก็ได้ รอไปด้วยกันไหมคุณสมัตถ์”แม้ไม่อยากเห็นด้วย แต่ไม่มีทางเลือกเลย สุดท้ายสมัตถ์ก็ต้องพยักหน้ารับคำนางผกากรอง นางยิ้มน้อยๆ ราวกับพอใจในคำตอบของเขา ก่อนจะยกเอาถาดฟักทองมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืน เขาลุกตามบ้าง ฟักทองเหลืองอร่ามในถาดอลูมิเนียมหากเอาไปทำแกงคงอร่อยไม่หยอก“แม่ผมไม่ค่อยเข้าครัวเท่าไหร่ เราชอบความสะดวก ซื้อมากิน หรือไม่ก็ไปกินที่ร้าน ผมชินเสียแล้วกับการที่แม่บ้านแม่เรือนไม่ค่อยทำหน้าที่” เขาเอ่ยขำๆ แต่เหมือนแก้ต่างให้ศรีภรรยาที่ยังหลับไม่ตื่น“ฉันเข้าใจค่ะ คนเราถูกเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน ยัยเทียนเอง เห็นเป็
“ครับผม” เด็กน้อยทำตามอย่างว่าง่าย หอบเอาสมุดปากกาและตำราเข้าข้างใน“โอบรอข้างในนะคุณ” เธอบอก เขาพยักหน้า แต่ยังไม่ยอมลุก แม้ว่าเทียนหยดจะลุกไปหาของว่างในครัวแล้วก็ตาม“เรียกฉันว่าน้าก็ได้ เรียกคุณๆ มันยังไงชอบกล ไหนๆ ก็มาอยู่บ้านเดียวกัน” ผกากรองเอ่ย จับเอาฟักทองซีกหนึ่งมาฝานเปลือกออกด้วยมีดสองคม มือขาวๆ นั้นเริ่มดำด่างด้วยการกระทำของเปลือกฟักทอง ทว่าเจ้าของมิได้สนใจ สิ่งที่นางทำช่างขัดกับมาดคุณนายที่เป็น ผกากรองสวมชุดเดรสแบรนด์เนมร่วมสมัย ทว่าด้วยการออกแบบนั้นช่วยทำให้สมกับอายุของนาง มิได้ดูฉูดฉาดมากไป อยู่ในความพอเหมาะพอดี ดูเรียบหรูจนสมัตถ์ยังนึกชื่นชม“คุณไม่โกรธพวกเราแล้วเหรอ เมื่อก่อนยังเห็นเป็นศัตรู” เขาสะกิดใจ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผกากรองกับบุตรชายก็อยู่กันเงียบๆ ไม่ได้ทำบ้านให้ร้อนเป็นไฟอย่างที่เขาเคยคิด นางยังช่วยทำอาหารอร่อยๆ ขึ้นโต๊ะให้คนในบ้านรับประทาน อย่างไม่คิดว่าตัวเองจะเหนื่อย“ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรนี่ ถ้าคุณทำงานให้ RPS อย่างขันแข็ง ซื่อตรง แล้วฉันจะมองคุณเป็นศัตรูได้ยังไง ฉันไม่
EP 5ความจริงอันแสนเจ็บปวด______________วันอาทิตย์โอบนิธินั่งหน้ายุ่งอยู่ข้างมารดาที่กำลังปอกฟักทองลูกใหญ่ ผกากรองจะทำแกงเลียงกุ้งสดเป็นมื้อเที่ยงวันนี้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ นอกจากต้องดูแลโอบนิธิไปโรงเรียน จัดการเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขา นางยังมีหนึ่งอีกหน้าที่ นั่นคือทำอาหารขึ้นโต๊ะ เสริมไปกับอาหารที่ราตรีซื้อมา รสชาติของอาหารที่ปรุงใหม่กับของที่ซื้อขายนั้น ของที่ปรุงใหม่ย่อมอร่อยและดีกว่าเสมอ คนบ้านนี้กินอาหารที่นางทำอย่างเอร็ดอร่อย แต่เชื่อไหมว่านางไม่เคยได้รับคำขอบคุณแม้แต่ครั้งเดียว“แม่ครับ”“ว่าไง” นางย้อนถาม เหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเสื่อผืนหนาใต้ต้นอโศกหลังห้องครัว“แปลไม่ได้ครับ”“กูเกิ้ลสิลูก”คนเป็นลูกทำหน้างง ก้มมองการบ้านภาษาจีนกลางแล้วส่ายหน้า กูเกิ้ลช่วยแค่ให้เขาทำการบ้านเสร็จ แต่ไม่ได้ทำให้เข้าใจนี่นา เขาอยากเข้าใจมัน จะได้ไม่ต้องพึ่งกูเกิ้ลอีก_________เด็กน้อยถอนหายใจเบาๆ มองไปที่สนามด้านหนึ่งก็เห็นสมัตถ์กำลังตีกอล์ฟอยู่