แชร์

บทที่ 147

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
ซ่างตงเยว่เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดีกับนางเช่นนี้ ในที่สุดนางก็ทนต่อไปไม่ได้อีก เริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง

ทุกคนมองไปยังซ่างตงเยว่ที่ร้องไห้ออกมา ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย

เด็กคนนี้ร่างกายอ่อนแอผอมบางเช่นนี้ อีกทั้งยังถูกโรคร้ายทรมานมาตลอดปี

ช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารเสียจริง

เจี่ยนอันอันก็ตบหลังซ่างตงเยว่เบาๆ แล้วพูดปลอบโยนออกมา “ไม่ต้องร้องไห้แล้ว หากว่าร้องไห้มากจนเกินไปก็จะเปลี่ยนเป็นไม่น่ารักแล้วนะ”

คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้ซ่างตงเยว่หัวเราะออกมา

นางเช็ดน้ำตาบนใบหน้า แล้วเริ่มกินข้าวคำใหญ่ขึ้นมา

ซ่างตงเยว่ตัดสินใจแล้ว ว่าต่อให้ทั้งชาตินี้จะต้องเป็นวัวเป็นม้า ก็จะต้องติดตามเจี่ยนอันอัน

ซ่างชิวเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดีต่อบุตรสาวเขาเช่นนี้ ในใจของเขาก็ค่อยๆ ซาบซึ้งในบุญคุณของเจี่ยนอันอันเงียบๆ

รอจนเมื่อทุกคนทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ซ่างชิวและอวี๋ว่านก็ไปทำรถเข็นต่อ

ซ่างตงเยว่ย่อกายนั่งลงข้างกายของทั้งสองคน คอยมองพวกเขาทำงาน

นางพูดกับซ่างชิวออกมา “ท่านพ่อ วันนี้ป้าอวี้เฟิ่งมาเอาเงินที่บ้านของเรา”

ซ่างชิวเมื่อได้ยินคำนี้ ก็รีบหยุดงานในมือลง

เขาหันไปมองทางซ่างตงเยว่ “นางทำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 148

    นอกจากนี้ ครอบครัวของเขาเองก็ไม่มีอะไรที่มีค่า เป็นเพียงแค่บ้านผุพังเท่านั้นและไม่ว่าจะอย่างไรครอบครัวของอวี้เฟิ่ง ก็ไม่มีทางทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ออกมาได้เจี่ยนอันอันถามซ่างตงเยว่ “ทำไมเรื่องนี้เจ้าถึงไม่ยอมบอกพ่อของเจ้า?”ซ่างตงเยว่เหลือบมองไปยังซ่างชิว ก้มหน้าแล้วพูดออกมา “ท่านพ่อไม่เชื่อคำของข้า ข้าก็เลยไม่กล้าพูดออกมา”เจี่ยนอันอันถามซ่างชิวออกมาอีกครั้ง “บ้านของท่านหากว่าเมื่อไม่มีคนอาศัยแล้ว ก็จะมีคนเข้าครอบครองได้แต่ตามใจชอบหรือ?”ซ่างชิวพยักหน้าออกมาเบาๆ “หมู่บ้านชิงสุ่ยเป็นเมืองที่ยากจนมากที่สุดของเมืองอินเป่ย” “ในปีนั้นหลังจากการสังหารหมู่แล้ว มีทั้งที่ตาย และจากที่นี่ไป” “บ้านที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นั้น ก็ถูกหัวหน้าหมู่บ้านจัดสรรปันส่วนบ้านว่างเหล่านี้ให้กับทุกคน” “ครอบครัวของข้าก็เหลือเพียงแค่พวกเราสองพ่อลูก ก็เลยไม่ได้ต้องการบ้านหลังอื่นอีก”เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เรื่องนี้จะต้องมีที่มา ล้วนแต่มีที่มาจากหัวหน้าหมู่บ้านหากว่าหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ออกหน้าจัดสรรบ้านแล้ว อวี้เฟิ่งก็คงไม่คิดครอบครองบ้านของซ่างชิวแต่เรื่องที่ดินของบ้านซ่างชิวไม่อาจทำการเพาะป

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 149

    ฉู่จวินหลุนได้ยินฟางอิ๋งพูดออกมา เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น รถเข็นก็สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเองไม่นานเขาก็เข้าใจมันและควบคุมรถเข็นได้ แล้วเดินทางไปได้ทุกที่ที่เขาต้องการใบหน้าของฉู่จวินหลุน ค่อยๆ เผยรอยยิ้มที่ยากจะเห็นได้ออกมาเขาอุ้มฉู่จื่อซีขึ้นมาบนขาของตนเองพาเขาหมุนวนไปทั่วลานรอจนเมื่อฉู่จวินหลุนเหนื่อยแล้ว ถึงได้คืนรถเข็นให้กับเจี่ยนอันอัน“รถเข็นนี้ไม่เลวเลย พี่ใหญ่ชอบมันมาก”ฉู่จวินหลุนนั่งอยู่ในลาน ในใจรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งมีรถเข็นคันนี้ ต่อไปเขาก็ไม่ต้องถูกคนอุ้มไปมาแล้วเจี่ยนอันอันมองไปยังรถเข็น เห็นว่าบนนั้นมีปุ่มกลไกหายไปปุ่มหนึ่งแล้วอาวุธลับที่ซ่อนอยู่วางเอาไว้ที่ไหนกัน?เจี่ยนอันอันหันไปมองทางอวี๋ว่าน “พี่อวี๋ กลไลอาวุธลับของรถเข็นอยู่ที่ไหนกัน ทำไมข้าถึงได้หามันไม่เจอ?”อวี๋ว่านเดินเข้ามา ชี้ไปยังด้านหน้าของพนักแขนแล้วพูดว่า “แม่นางลองดู ตรงนี้มีช่องซ่อนอยู่ อาวุธลับสามารถวางไว้ในนั้นได้” “ขอเพียงแค่กดปุ่มไปเบาๆ อาวุธลับก็จะลอยออกมาจากด้านใน”เจี่ยนอันอันกดช่องลับนั้นเบาๆ และได้ยินเสียง ‘ฟึบ’ ดังออกมาเบาๆ ช่องลับเปิดออก ก้อนหินก้อนเล็กๆ ก็ลอยออกม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 150

    รอจนเมื่อพวกของซ่างชิวทั้งสามคนจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันก็หยิบเอาอาวุธลับออกมาจากคลังอาวุธในห้วงมิติจำนวนหนึ่ง แล้วใส่เข้าไปในกลไกของรถเข็นฉู่จวินหลุนเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันเหมือนราวกับว่าเสกอาวุธออกมาราวกับว่าใช้มายากลในใจของเขาทันใดนั้นก็เริ่มบ่นพึมพำออกมาในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง แล้วจะไปมีอาวุธลับซ่อนอยู่ที่กายได้อย่างไรกัน?ฉู่จวินหลุนส่งเสียงถามออกมา “อันอัน อาวุธลับพวกนี้เจ้าไปเอามาจากที่ใดกัน?”เจี่ยนอันอันรู้ว่าฉู่จวินหลุนจะต้องถามออกมา นางก็หาเหตุผลเอาไว้แล้ว“ข้าซื้อมันมาจากท่านรองหัวหน้าตอนอยู่ที่ค่ายเทียนอวิ๋นเจ้าค่ะ”ในใจของฉู่จวินหลุนคิด ค่ายเทียนอวิ๋นเป็นค่ายโจร หากว่าที่นั่นจะมีอาวุธลับอยู่ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปเพียงแต่ไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะคิดได้รอบคอบเช่นนี้เกรงว่านางก็คงจะคิดเอาไว้นานแล้ว ว่าต่อไปจะต้องสร้างรถเข็นที่ติดตั้งอาวุธลับซ่อนเอาไว้ให้เขาโชคดีที่มีหมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนที่สามารถสร้างเข็นนี้ได้อาวุธลับเหล่านี้ ต่อไปก็จะต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างแน่นอนเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่จวินหลุนเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกสายตาของเขาที่มองไปยังเจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 151

    ฮูหยินรองเมื่อเห็นว่าฮูหยินใหญ่กลับมา นางก็รีบร้อนถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้าง ทางด้านอันอันเห็นด้วยหรือไม่?”เหล่าญาติอีกห้าคนก็รุมเข้ามาฮูหยินใหญ่ยิ้มหรี่ตาแล้วพยักหน้า “ตกลงแล้ว”ฮูหยินรองเมื่อได้ยินเข้า ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา “คราวนี้ดีแล้ว ข้ารอดื่มเหล้ามงคลของจวินสิงและอันอันมาโดยตลอด”ฉีเซินหย่วนญาติคนสนิทยิ้มออกมาแล้วลูบเคราเขาเป็นอาของฮูหยินรอง และยังเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักเดิมทีเขาเพียงแค่มาเยี่ยมฮูหยินรองที่จวนเยียนอ๋องกลับไม่คิดเลยว่าหลังจากเพิ่งเข้าพักได้เพียงแค่วันเดียว ก็บังเอิญพบเข้ากับเรื่องที่จวนเยียนอ๋องถูกตรวจค้นเข้าและฮ่องเต้ก็มีบัญชาออกมา ขอเพียงแค่คนที่เข้าไปยังจวนเยียนอ๋อง ก็จะถูกมองว่าเป็นพรรคพวกเดียวกับเยียนอ๋องหากว่าเป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ก็จะถูกลดระดับให้เป็นสามัญชนเท่านั้น ฉีเซินหย่วนเองก็ไม่ยกเว้น ถูกเนรเทศมาที่นี่ด้วยกันกับคนในตระกูลเยียนอ๋องฉีเซินหย่วนเองก็ไม่ได้กล่าวโทษฉู่จวินสิงเพราะว่าเหตุนี้ เขาเป็นขุนนางในราชสำนักมาหลายปี และรู้ถึงพฤติกรรมของฮ่องเต้ฉู่ชางเหยียนดีนอกจากนี้แล้วคำสั่งของฮ่องเต้ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ฉี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 152

    นางยังคิดว่าฉู่จวินสิงไม่ใช่คนที่จะต่อต้านเรื่องนี้ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ฉู่จวินสิงทำเช่นนั้น คงจะเป็นเพราะว่าอยากให้ร่างกายของตนเองดีขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วให้เขาได้กราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับนางโดยเร็วเมื่อคิดว่าผ่านไปอีกไม่กี่วัน ร่างกายของฉู่จวินสิงก็จะฟื้นฟูได้เต็มที่เมื่อถึงเวลานั้น นางก็จะแต่งงานกับฉู่จวินสิงใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมาเมื่อดื่มยาติดต่อกันสามวัน ฟางอิ๋งก็พบว่าร่างกายของตนเองในตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บตรงหน้าอกอีกดูเหมือนว่าพิษที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของนางจะหายไปกว่าครึ่งแล้วผลยาของเจี่ยนอันอันนั้นช่างน่าประหลาดจริงๆ เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ สามวันเท่านั้น นางก็ดีขึ้นเยอะมากแล้วหากว่าดื่มยาขมๆ นี้ต่อไปอีกไม่กี่วัน เกรงว่าพิษในร่างกายของนางก็คงจะสลายหายไปจนหมดฟางอิ๋งหยิบชามยาขึ้นมา ดื่มยาเหลวๆ ในนั้นไปจนหมดเจี่ยนอันอันมอบลูกกวาดผลไม้ให้ฟางอิ๋งชิ้นหนึ่งฟางอิ๋งกินลูกกวาดผลไม้ลงไป แล้วพูดออกมาอย่างงงงวย “อันอัน ในถุงเฉียนคุนของเจ้า ตกลงแล้วมีของกี่อย่างกันแน่” “ทำไมข้าถึงได้มองเห็นเจ้านำของที่แตกต่างกันออกมาตลอดเลย?” “นอกจากนี้แล้วของบางอย่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 153

    เขาเป็นคนที่ต่อต้านการดื่มยามากที่สุด แต่เพื่อที่จะฟื้นตัวได้โดยเร็ว เขาจะต้องบังคับตนเองให้ดื่มมันเจี่ยนอันอันมองท่าทีต่อต้านของเขาออก ในใจของนางก็ลอบขบขันขึ้นมาที่แท้ฉู่จวินสิงไม่เพียงแต่กลัวแมลง ยังกลัวการดื่มยาอีกด้วยดูเหมือนว่าไม่ว่าผู้ชายจะหล่อเหลาแค่ไหน และถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอ๋อง ก็ยังมีด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบอยู่ไม่นานก็มาถึงตอนค่ำ ทุกคนเพิ่งจะกินข้าวกันเสร็จท้องฟ้าก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็นระยะๆไม่นานฝนก็ตกเสียงดัง ‘เปาะแปะ’ ลงมาดีที่เรือนหลังนี้ถูกซ่างชิวและอวี๋ว่านปรับปรุงใหม่แล้วรอบหนึ่งถึงแม้ว่าฝนจะตกหนัก ก็ไม่พบว่ามีตรงจุดไหนที่ฝนรั่วลงมาสำหรับครอบครัวของฉู่จวินสิงแล้ว ฝนตกหนักก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรแต่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยแล้ว กลับเป็นเพราะว่าจู่ๆ ที่เกิดฝนตกหนักขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นเป็นอย่างมากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนเดิมทีที่ดินในหมู่บ้านชิงสุ่ยแห้งแล้งเป็นอย่างมาก ก็ถูกฝนตกหนักครั้งนี้ทำให้ชุ่มชื้นขึ้นมาเมื่อถึงเช้าวันถัดมา ฝนตกหนักก็หยุดลงชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ย ทั้งหมดพากันเดินออกมาจากในห้องด้วยความตื่นเต้น“สวรรค์

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 154

    ฉู่จวินสิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอัน เขาพูดออกมาเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากว่าเจ้าสามารถเสกเป็นอิฐหินบางส่วนจากจวนเยียนอ๋องได้ ข้าก็จะสามารถช่วยเจ้าโกหกได้”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาในตอนที่นางย้ายจวนเยียนอ๋องมานั้น ไม่ว่านางจะพบอะไรก็หยิบเอามาจนหมดนางมองเห็นอิฐหินจำนวนมากที่วางเรียงกันชิดติดผนังอยู่ ก็รวบรวมย้ายทั้งหมดนั้นเข้าไปในห้วงมิติในตอนนั้นเจี่ยนอันอันคิดว่า หากว่าที่เนรเทศนั้นไม่มีเรือนให้อยู่นางก็สามารถนำอิฐหินเหล่านี้ออกมาสร้างเรือนได้กลับไม่คิดเลยว่า วันนี้สามารถใช้อิฐหินเหล่านั้น มาปูพื้นดินภายในลานบ้านได้เจี่ยนอันอันมองไปยังฉู่จวินสิงด้วยความตื่นเต้น “พูดเป็นเล่นไป ข้าเอาอิฐหินมาจากจวนเยียนอ๋องด้วยจริงๆ”ฉู่จวินสิงเมื่อได้ยินคำนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียง “พรืด” หัวเราะออกมาอิฐหินเหล่านั้นเขาคิดจะใช้เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศรอจนเมื่อเขาแต่งงานกับเจี่ยนอันอันแล้ว เขาจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศนั้นทว่าบ้านพักตากอากาศนี้ยังไม่ทันได้สร้างขึ้นมา เขาก็ถูกส่งไปสังหารศัตรูที่สนามรบรอจนเมื่อเขากลับมาแล้ว ก็ถูกฮ่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 155

    ฉู่อันเจ๋อกลอกตาไปมา แล้วพูดกับฮูหยินว่า “แม่ใหญ่ พี่รองพูดถูกแล้ว” “อิฐหินเหล่านั้น เป็นข้าที่เคลื่อนย้ายเข้าไปในถุงเฉียนคุนเองขอรับ” “ภายหลังพี่สะใภ้รองมายังจวนอ๋อง ข้าก็ค่อยๆ นำถุงเฉียนคุนมอบให้กับนาง”ฮูหยินใหญ่เมื่อเห็นว่าพวกเขาสองพี่น้องพูดออกมาเช่นนี้ ถึงได้วางความสงสัยที่มีในใจคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินฮูหยินใหญ่ถามออกมาพวกเขาก็มองไปยังในเรือนที่จู่ๆ ปูทางเดินเล็กๆ เสร็จแล้ว ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทว่าเมื่อได้ยินคำของฉู่อันเจ๋อแล้ว พวกเขาก็คลายความสงสัยในใจทั้งหมดทันทีในตอนนี้เจี่ยนอันอันมายังด้านนอกเรือนแล้ว ก็เห็นชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยกำลังยืนพูดคุยกันเสียงดังตรงหน้าประตูพวกเขากำลังตื่นเต้นที่จู่ๆ เมื่อคืนก็เกิดฝนตกหนักขึ้นมีชาวบ้านหลายคนที่มองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็หยุดพูดคุยกันมาทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจชาวบ้านเหล่านั้น นางมองไปยังทางทิศทางบ้านก็เห็นว่าซ่างชิวไม่ได้ออกมาโชคดีที่อวี๋ว่านมองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ามีรอยยิ้มทันที“แม่นาง เมื่อคืนวานนี้เรือนของท่านไม่มีฝนรั่วใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าอวี๋ว่านยัง

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status