แชร์

บทที่ 149

ผู้แต่ง: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ฉู่จวินหลุนได้ยินฟางอิ๋งพูดออกมา เพียงแค่กดปุ่มเท่านั้น รถเข็นก็สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเอง

ไม่นานเขาก็เข้าใจมันและควบคุมรถเข็นได้ แล้วเดินทางไปได้ทุกที่ที่เขาต้องการ

ใบหน้าของฉู่จวินหลุน ค่อยๆ เผยรอยยิ้มที่ยากจะเห็นได้ออกมา

เขาอุ้มฉู่จื่อซีขึ้นมาบนขาของตนเอง

พาเขาหมุนวนไปทั่วลาน

รอจนเมื่อฉู่จวินหลุนเหนื่อยแล้ว ถึงได้คืนรถเข็นให้กับเจี่ยนอันอัน

“รถเข็นนี้ไม่เลวเลย พี่ใหญ่ชอบมันมาก”

ฉู่จวินหลุนนั่งอยู่ในลาน ในใจรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

มีรถเข็นคันนี้ ต่อไปเขาก็ไม่ต้องถูกคนอุ้มไปมาแล้ว

เจี่ยนอันอันมองไปยังรถเข็น เห็นว่าบนนั้นมีปุ่มกลไกหายไปปุ่มหนึ่ง

แล้วอาวุธลับที่ซ่อนอยู่วางเอาไว้ที่ไหนกัน?

เจี่ยนอันอันหันไปมองทางอวี๋ว่าน “พี่อวี๋ กลไลอาวุธลับของรถเข็นอยู่ที่ไหนกัน ทำไมข้าถึงได้หามันไม่เจอ?”

อวี๋ว่านเดินเข้ามา ชี้ไปยังด้านหน้าของพนักแขนแล้วพูดว่า “แม่นางลองดู ตรงนี้มีช่องซ่อนอยู่ อาวุธลับสามารถวางไว้ในนั้นได้”

“ขอเพียงแค่กดปุ่มไปเบาๆ อาวุธลับก็จะลอยออกมาจากด้านใน”

เจี่ยนอันอันกดช่องลับนั้นเบาๆ และได้ยินเสียง ‘ฟึบ’ ดังออกมาเบาๆ ช่องลับเปิดออก ก้อนหินก้อนเล็กๆ ก็ลอยออกม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 150

    รอจนเมื่อพวกของซ่างชิวทั้งสามคนจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันก็หยิบเอาอาวุธลับออกมาจากคลังอาวุธในห้วงมิติจำนวนหนึ่ง แล้วใส่เข้าไปในกลไกของรถเข็นฉู่จวินหลุนเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันเหมือนราวกับว่าเสกอาวุธออกมาราวกับว่าใช้มายากลในใจของเขาทันใดนั้นก็เริ่มบ่นพึมพำออกมาในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง แล้วจะไปมีอาวุธลับซ่อนอยู่ที่กายได้อย่างไรกัน?ฉู่จวินหลุนส่งเสียงถามออกมา “อันอัน อาวุธลับพวกนี้เจ้าไปเอามาจากที่ใดกัน?”เจี่ยนอันอันรู้ว่าฉู่จวินหลุนจะต้องถามออกมา นางก็หาเหตุผลเอาไว้แล้ว“ข้าซื้อมันมาจากท่านรองหัวหน้าตอนอยู่ที่ค่ายเทียนอวิ๋นเจ้าค่ะ”ในใจของฉู่จวินหลุนคิด ค่ายเทียนอวิ๋นเป็นค่ายโจร หากว่าที่นั่นจะมีอาวุธลับอยู่ก็เป็นเรื่องปกติทั่วไปเพียงแต่ไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะคิดได้รอบคอบเช่นนี้เกรงว่านางก็คงจะคิดเอาไว้นานแล้ว ว่าต่อไปจะต้องสร้างรถเข็นที่ติดตั้งอาวุธลับซ่อนเอาไว้ให้เขาโชคดีที่มีหมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนที่สามารถสร้างเข็นนี้ได้อาวุธลับเหล่านี้ ต่อไปก็จะต้องได้ใช้ประโยชน์อย่างแน่นอนเมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่จวินหลุนเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกสายตาของเขาที่มองไปยังเจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 151

    ฮูหยินรองเมื่อเห็นว่าฮูหยินใหญ่กลับมา นางก็รีบร้อนถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้าง ทางด้านอันอันเห็นด้วยหรือไม่?”เหล่าญาติอีกห้าคนก็รุมเข้ามาฮูหยินใหญ่ยิ้มหรี่ตาแล้วพยักหน้า “ตกลงแล้ว”ฮูหยินรองเมื่อได้ยินเข้า ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มยินดีออกมา “คราวนี้ดีแล้ว ข้ารอดื่มเหล้ามงคลของจวินสิงและอันอันมาโดยตลอด”ฉีเซินหย่วนญาติคนสนิทยิ้มออกมาแล้วลูบเคราเขาเป็นอาของฮูหยินรอง และยังเป็นขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักเดิมทีเขาเพียงแค่มาเยี่ยมฮูหยินรองที่จวนเยียนอ๋องกลับไม่คิดเลยว่าหลังจากเพิ่งเข้าพักได้เพียงแค่วันเดียว ก็บังเอิญพบเข้ากับเรื่องที่จวนเยียนอ๋องถูกตรวจค้นเข้าและฮ่องเต้ก็มีบัญชาออกมา ขอเพียงแค่คนที่เข้าไปยังจวนเยียนอ๋อง ก็จะถูกมองว่าเป็นพรรคพวกเดียวกับเยียนอ๋องหากว่าเป็นขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ก็จะถูกลดระดับให้เป็นสามัญชนเท่านั้น ฉีเซินหย่วนเองก็ไม่ยกเว้น ถูกเนรเทศมาที่นี่ด้วยกันกับคนในตระกูลเยียนอ๋องฉีเซินหย่วนเองก็ไม่ได้กล่าวโทษฉู่จวินสิงเพราะว่าเหตุนี้ เขาเป็นขุนนางในราชสำนักมาหลายปี และรู้ถึงพฤติกรรมของฮ่องเต้ฉู่ชางเหยียนดีนอกจากนี้แล้วคำสั่งของฮ่องเต้ไม่มีใครสามารถคัดค้านได้ฉี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 152

    นางยังคิดว่าฉู่จวินสิงไม่ใช่คนที่จะต่อต้านเรื่องนี้ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ฉู่จวินสิงทำเช่นนั้น คงจะเป็นเพราะว่าอยากให้ร่างกายของตนเองดีขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วให้เขาได้กราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับนางโดยเร็วเมื่อคิดว่าผ่านไปอีกไม่กี่วัน ร่างกายของฉู่จวินสิงก็จะฟื้นฟูได้เต็มที่เมื่อถึงเวลานั้น นางก็จะแต่งงานกับฉู่จวินสิงใบหน้าของเจี่ยนอันอันก็ค่อยๆ แดงก่ำขึ้นมาเมื่อดื่มยาติดต่อกันสามวัน ฟางอิ๋งก็พบว่าร่างกายของตนเองในตอนนี้ไม่มีอาการเจ็บตรงหน้าอกอีกดูเหมือนว่าพิษที่หลงเหลืออยู่ในร่างกายของนางจะหายไปกว่าครึ่งแล้วผลยาของเจี่ยนอันอันนั้นช่างน่าประหลาดจริงๆ เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ สามวันเท่านั้น นางก็ดีขึ้นเยอะมากแล้วหากว่าดื่มยาขมๆ นี้ต่อไปอีกไม่กี่วัน เกรงว่าพิษในร่างกายของนางก็คงจะสลายหายไปจนหมดฟางอิ๋งหยิบชามยาขึ้นมา ดื่มยาเหลวๆ ในนั้นไปจนหมดเจี่ยนอันอันมอบลูกกวาดผลไม้ให้ฟางอิ๋งชิ้นหนึ่งฟางอิ๋งกินลูกกวาดผลไม้ลงไป แล้วพูดออกมาอย่างงงงวย “อันอัน ในถุงเฉียนคุนของเจ้า ตกลงแล้วมีของกี่อย่างกันแน่” “ทำไมข้าถึงได้มองเห็นเจ้านำของที่แตกต่างกันออกมาตลอดเลย?” “นอกจากนี้แล้วของบางอย่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 153

    เขาเป็นคนที่ต่อต้านการดื่มยามากที่สุด แต่เพื่อที่จะฟื้นตัวได้โดยเร็ว เขาจะต้องบังคับตนเองให้ดื่มมันเจี่ยนอันอันมองท่าทีต่อต้านของเขาออก ในใจของนางก็ลอบขบขันขึ้นมาที่แท้ฉู่จวินสิงไม่เพียงแต่กลัวแมลง ยังกลัวการดื่มยาอีกด้วยดูเหมือนว่าไม่ว่าผู้ชายจะหล่อเหลาแค่ไหน และถึงแม้ว่าจะเป็นท่านอ๋อง ก็ยังมีด้านที่ไม่สมบูรณ์แบบอยู่ไม่นานก็มาถึงตอนค่ำ ทุกคนเพิ่งจะกินข้าวกันเสร็จท้องฟ้าก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังขึ้นเป็นระยะๆไม่นานฝนก็ตกเสียงดัง ‘เปาะแปะ’ ลงมาดีที่เรือนหลังนี้ถูกซ่างชิวและอวี๋ว่านปรับปรุงใหม่แล้วรอบหนึ่งถึงแม้ว่าฝนจะตกหนัก ก็ไม่พบว่ามีตรงจุดไหนที่ฝนรั่วลงมาสำหรับครอบครัวของฉู่จวินสิงแล้ว ฝนตกหนักก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกอะไรแต่สำหรับชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยแล้ว กลับเป็นเพราะว่าจู่ๆ ที่เกิดฝนตกหนักขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันตื่นเต้นเป็นอย่างมากฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนเดิมทีที่ดินในหมู่บ้านชิงสุ่ยแห้งแล้งเป็นอย่างมาก ก็ถูกฝนตกหนักครั้งนี้ทำให้ชุ่มชื้นขึ้นมาเมื่อถึงเช้าวันถัดมา ฝนตกหนักก็หยุดลงชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ย ทั้งหมดพากันเดินออกมาจากในห้องด้วยความตื่นเต้น“สวรรค์

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 154

    ฉู่จวินสิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนอันอัน เขาพูดออกมาเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นกังวลไป หากว่าเจ้าสามารถเสกเป็นอิฐหินบางส่วนจากจวนเยียนอ๋องได้ ข้าก็จะสามารถช่วยเจ้าโกหกได้”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินคำนี้ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาในตอนที่นางย้ายจวนเยียนอ๋องมานั้น ไม่ว่านางจะพบอะไรก็หยิบเอามาจนหมดนางมองเห็นอิฐหินจำนวนมากที่วางเรียงกันชิดติดผนังอยู่ ก็รวบรวมย้ายทั้งหมดนั้นเข้าไปในห้วงมิติในตอนนั้นเจี่ยนอันอันคิดว่า หากว่าที่เนรเทศนั้นไม่มีเรือนให้อยู่นางก็สามารถนำอิฐหินเหล่านี้ออกมาสร้างเรือนได้กลับไม่คิดเลยว่า วันนี้สามารถใช้อิฐหินเหล่านั้น มาปูพื้นดินภายในลานบ้านได้เจี่ยนอันอันมองไปยังฉู่จวินสิงด้วยความตื่นเต้น “พูดเป็นเล่นไป ข้าเอาอิฐหินมาจากจวนเยียนอ๋องด้วยจริงๆ”ฉู่จวินสิงเมื่อได้ยินคำนี้เข้า ก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียง “พรืด” หัวเราะออกมาอิฐหินเหล่านั้นเขาคิดจะใช้เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศรอจนเมื่อเขาแต่งงานกับเจี่ยนอันอันแล้ว เขาจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศนั้นทว่าบ้านพักตากอากาศนี้ยังไม่ทันได้สร้างขึ้นมา เขาก็ถูกส่งไปสังหารศัตรูที่สนามรบรอจนเมื่อเขากลับมาแล้ว ก็ถูกฮ่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 155

    ฉู่อันเจ๋อกลอกตาไปมา แล้วพูดกับฮูหยินว่า “แม่ใหญ่ พี่รองพูดถูกแล้ว” “อิฐหินเหล่านั้น เป็นข้าที่เคลื่อนย้ายเข้าไปในถุงเฉียนคุนเองขอรับ” “ภายหลังพี่สะใภ้รองมายังจวนอ๋อง ข้าก็ค่อยๆ นำถุงเฉียนคุนมอบให้กับนาง”ฮูหยินใหญ่เมื่อเห็นว่าพวกเขาสองพี่น้องพูดออกมาเช่นนี้ ถึงได้วางความสงสัยที่มีในใจคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินฮูหยินใหญ่ถามออกมาพวกเขาก็มองไปยังในเรือนที่จู่ๆ ปูทางเดินเล็กๆ เสร็จแล้ว ในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมาทว่าเมื่อได้ยินคำของฉู่อันเจ๋อแล้ว พวกเขาก็คลายความสงสัยในใจทั้งหมดทันทีในตอนนี้เจี่ยนอันอันมายังด้านนอกเรือนแล้ว ก็เห็นชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ยกำลังยืนพูดคุยกันเสียงดังตรงหน้าประตูพวกเขากำลังตื่นเต้นที่จู่ๆ เมื่อคืนก็เกิดฝนตกหนักขึ้นมีชาวบ้านหลายคนที่มองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็หยุดพูดคุยกันมาทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจชาวบ้านเหล่านั้น นางมองไปยังทางทิศทางบ้านก็เห็นว่าซ่างชิวไม่ได้ออกมาโชคดีที่อวี๋ว่านมองเห็นเจี่ยนอันอัน ก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ามีรอยยิ้มทันที“แม่นาง เมื่อคืนวานนี้เรือนของท่านไม่มีฝนรั่วใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าอวี๋ว่านยัง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 156

    อวี๋ว่านเดินเข้ามาแล้วกล่าวแนะนำกับเจี่ยนอันอัน “แม่นาง นี่คือภรรยาของข้า หลิวซื่อ”“เมื่อวานนางยังต่อว่าข้าอยู่เลย ว่าเหตุใดถึงรับค่าแรงจากท่านมากมายขนาดนั้น”เจี่ยนอันอันฟังแล้วก็ส่งยิ้มให้กับหลิวซื่อ“ค่าแรงนั้นเป็นสิ่งที่พี่อวี๋สมควรได้รับ พวกท่านเก็บไว้ใช้เถิด อย่าโทษพี่อวี๋อีกเลย”หลิวซื่อฟังแล้วก็ยิ้มอย่างเขินอาย นางเริ่มรู้สึกมีไมตรีต่อเจี่ยนอันอันมากขึ้นขณะที่ซ่างตงเยว่เห็นว่าเจี่ยนอันอันมาแล้ว นางรีบก้าวลงจากเตียงอุ่นแล้วโผเข้ามากอดเจี่ยนอันอันแน่น“ท่านอา ท่านพ่อของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่างตงเยว่ที่กำลังโศกเศร้า พอได้เห็นเจี่ยนอันอัน ก็ร้องไห้หนักขึ้นเจี่ยนอันอันลูบหลังนางเบาๆ พลางเอ่ยปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน “เรื่องนี้ข้าได้ยินมาแล้ว เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ ข้าจะหาทางช่วยเอง”ตอนนี้ซ่างตงเยว่เชื่อใจเจี่ยนอันอันมากที่สุดฟังนางบอกว่าจะคิดหาทางช่วย ซ่างตงเยว่ก็หยุดร้องทันทีนางใช้ปลายแขนเสื้อเช็ดน้ำตาบนใบหน้า แล้วเงยหน้ามองเจี่ยนอันอัน“ท่านอา ท่านจะช่วยหาท่านพ่อของข้ากลับมาได้จริงๆ ใช่ไหมเจ้าคะ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าอย่างหนักแน่น “เจ้าอย่าได้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 157

    เจี่ยนอันอันเห็นซ่างตงเยว่นั่งอยู่ที่โต๊ะโดยที่ไม่ได้กินข้าวแม้แต่เม็ดเดียวดวงตาของนางบวมช้ำจากการร้องไห้ เห็นได้ชัดว่านางร้องไห้มาทั้งคืนเจี่ยนอันอันจึงพูดปลอบอย่างอ่อนโยนว่า “ตงเยว่ อย่าเสียใจไปเลย เจ้ากินข้าวเถิด”“พ่อของเจ้าจะไม่ได้ถูกขังอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอนานนัก ข้าจะพาพ่อของเจ้ากลับมาให้ได้”ทุกคนในที่นั้นก็พากันช่วยกันปลอบซ่างตงเยว่ ให้นางกินข้าวเสียก่อนเมื่อซ่างตงเยว่ได้ยินเจี่ยนอันอันยืนยันซ้ำๆ ว่านางจะพาซ่างชิวกลับมาให้ได้ในที่สุดนางก็ยอมยกตะเกียบขึ้นและเริ่มกินข้าวฉู่จวินสิงพูดเสียงเข้มว่า “เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ข้าก็จะไปที่ว่าการอำเภอพร้อมกับอันอันด้วย”“ข้าอยากเห็นนักว่า นายอำเภอผู้นั้นมีกี่หัวให้ข้าฟันออกมาได้”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าฉู่จวินสิงจะไปด้วย นางก็รีบตอบรับทันทีไม่นานทุกคนก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อย เจี่ยนอันอันก็เตรียมตัวออกเดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเซิ่งฟางในฐานะอดีตเจ้าเมืองอินเป่ยย่อมตามไปด้วย ส่วนเหยียนเซ่าก็กลัวว่าฉู่จวินสิงไปที่ว่าการอำเภอแล้วจะถูกนายอำเภอกลั่นแกล้งเขาในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของฉู่จวินสิง จึงขอตามไปที่ว่าการอำเภอด้วย

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status