แชร์

บทที่ 6

“อะไรนะ? ห้องสวีทคืนละห้าหมื่นกว่าบาท ไอ้ระยำนี่มันกล้าได้อย่างไร ใช้เงินคนอื่นไม่เสียดายใช่ไหม ดูท่า มันหลอกเอาเงินจากพี่สาวของแกไปไม่น้อย” สวีชุ่ยหลานรู้สึกเสียดายเงิน โมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่

หยางจวิ้นหาวพูดอย่างเดือดดาล “ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผมยังไม่เคยพักที่ห้องสวีทเลย!”

สองแม่ลูกลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เดินทางไปที่โรงแรมด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

ในห้อง ลั่วอู๋ฉางเปิดกระเป๋าผ้าออก เพียงแค่บัตรเครดิตแบล็กการ์ดก็มีสิบกว่าใบ

ขุนนางชั้นสูงผู้สูงศักดิ์มาให้เขารักษาโรค จะต้องเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งออกมาเป็นค่ารักษา ลั่วอู๋ฉางเก็บไว้เพียงส่วนเดียว เก้าส่วนที่เหลือเอาออกมาทำการกุศล

ต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ยังสั่งสมความมั่งคั่งไว้มากมาย

ความจริงแล้ว เพียงแค่หยางหว่านอวี่พูดมาประโยคเดียว ลั่วอู๋ฉางก็ให้ชีวิตที่เหมือนกับราชินีได้

ทั้ง ๆ ที่มีทางลัด เธอกลับเลือกที่จะเดินทางอ้อม

จากนั้นก็มีกระเป๋าเข็มหนังกวางชุดหนึ่ง นี่เป็นของเพียงชิ้นเดียวที่อาจารย์ของเขาส่งต่อให้เขา สำหรับลั่วอู๋ฉางแล้วมันสำคัญอย่างมาก ตั้งแต่เขาสืบทอดมรดก ตาแก่ก็ซ่อนตัวขึ้นมา ไม่เผยโฉมหน้าอีกเลย

“ปังปังปัง!”

เสียงทุบประตูที่ร้อนรนดังขึ้น ลั่วอู๋ฉางคิดว่าเกาชิงเหยียน จึงลุกขึ้นเปิดประตู

“แม่ จวิ้นหาว พวกคุณมาได้อย่างไร?” ลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง

ตอนที่สวีชุ่ยหลานได้ยินคำเรียกนี้ ใบหน้าที่เดิมทีเต็มไปด้วยความเดือดดาล มีความเกลียดชังเพิ่งขึ้นมาอีกทันที!

“ทำไม พวกเรามาไม่ได้เหรอ คิดว่าใช้เงินพี่สาวของฉันเข้าพักห้องสวีทแล้วเจ๋งมากเหรอ?” หยางจวิ้นหาวผลักลั่วอู๋ฉางอย่างแรง ทั้งสองคนเดินกร่างเข้ามา นั่งลงบนโซฟา

สวีชุ่ยหลานพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึง “เรื่องของหว่านอวี่ ฉันรับรู้หมดแล้ว”

ลั่วอู๋ฉางพยักหน้า “พวกเราหย่ากันแล้ว”

สวีชุ่ยหลานส่งเสียงไม่พอใจออกมาทันที “ไอ้หนุ่ม ถือว่านายเจียมตัว! เจอคนชั่วอย่างนาย ลูกสาวของฉันดวงซวยไปหลายพบหลายชาติ!”

“นายเสียเวลาเธอเต็ม ๆ สี่ปี ไม่อย่างนั้น ลูกสาวของฉันคงได้เป็นคุณนายตระกูลร่ำรวยตั้งนานแล้ว นายยังมีหน้าขอเงินจากเธอ ช่างไร้มโนธรรมอย่างมาก จิตใต้สำนึกของนายถูกหมากินไปแล้วเหรอ?”

ลั่วอู๋ฉางนิ่งอึ้ง ฉันเป็นคนชั่ว?

ตอนนั้นถ้าหากฉันไม่ยืนออกมา ตระกูลหยางคงจะบ้านแตกสาแหลกขาดไปตั้งนานแล้ว หยางจวิ้นหาวไม่ติดคุกแปดปีสิบปี ก็อย่าคิดที่จะออกมา!

“แม่ พูดมากกับมันทำไม!”

หยางจวิ้นหาวยกนิ้วขึ้น ออกคำสั่ง “ไอ้สกุลลั่ว เรื่องอื่นฉันไม่สนใจ แต่เงินก้อนนั้น นายต้องคืนมาซะดี ๆ!”

“เงินอะไร?” ลั่วอู๋ฉางงุนงงไปหมด

หยางจวิ้นหาวถลึงตาโตทันที “แม่งไม่ต้องแกล้งทำไม่รู้เรื่องอยู่ตรงนี้ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายหลอกเอาบ้านหนึ่งหลัง รถหนึ่งคัน ยังมีเงินอีกสิบห้าล้านบาทไปจากพี่สาวฉัน นี่เป็นเงินของตระกูลพวกเรา”

ลั่วอู๋ฉางปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “ของพวกนี้ที่นายพูด ฉันไม่ได้เอาไป”

“โกหก เงินทองใครบ้างไม่ต้องการ? นายคิดว่าพวกเราเป็นเด็กสามขวบเหรอ ไม่ได้เอาเงินไปนายจะพักอยู่ที่นี่ได้เหรอ!” สวีชุ่ยหลานสบถด่าอย่างกับผู้หญิงปากคอเราะราย

ลั่วอู๋ฉางคิดว่ามีแต่หยางหว่านอวี่ที่เปลี่ยนไป เมื่อก่อนดีกับตระกูลหยางของพวกเขาขนาดนั้น ต่อให้พวกเขาไม่ซาบซึ้งในบุญคุณ อย่างน้อยก็คิดถึงมิตรภาพเก่า ๆ บ้าง

หยางหว่านอวี่ดึงดันจะหย่าร้าง ในฐานะครอบครัวต่อให้พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพียงแค่พูดถ้อยคำที่มีความเป็นธรรม ลั่วอู๋ฉางก็จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างมาก

แต่ตอนนี้ดูแล้ว ครอบครัวนี้สันดานเหมือนกันหมด!

ลั่วอู๋ฉางขี้เกียจพูดให้มากความ “พวกคุณโทรไปยืนยันกับหยางหว่านอวี่ ฉันอยู่ที่นี่ ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับเธอ”

“พวกคุณ ไปได้แล้ว”

พูดเอ่ยปากส่งแขกได้ ไม่เพียงแสดงว่าลั่วอู๋ฉางมีการศึกษา ยิ่งแสดงว่าเขากำลังพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

“นายคิดว่าพูดแบบนี้ พวกเราจะเชื่อเหรอ? อย่าฝันกลางวัน โฉนดบ้าน กุญแจรถแล้วก็บัตรธนาคาร เอาออกมาให้หมด ไม่อย่างนั้นฉันไม่เกรงใจกับนายแล้ว” สวีชุ่ยหลานพูดด้วยความโมโห

เห็นได้ชัดว่าหยางจวิ้นหาวทนไม่ไหวแล้วจึงลงมือโดยตรง “ในเมื่อไอ้นักโทษนี่ไม่ให้ความร่วมมือ ฉันก็จะค้นด้วยตัวเอง!”

พูดจบ เขาหยิบกระเป๋าผ้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา เขย่าของที่อยู่ข้างในออกมาจนหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status