แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: ลั่วเหล่ย
“คุณเกา ฉันดูแล้วคุณก็เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ทำไมถึงไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้? รับการรักษาตามอำเภอใจในช่วงวิกฤติ ถึงเวลาถูกหลอกเงินหลอกความรู้สึก เสียใจภายหลังก็ไม่ทัน”

“ที่สำคัญก็คือ รักษาผู้ป่วยล่าช้า ตอนนั้นจะไม่มีที่ให้คุณร้องไห้ด้วยซ้ำ”

เกาชิงเหยียนโมโห “คุณลั่วไม่ใช่ต้มตุ๋น!”

หลี่เหวินหัวส่งเสียงไม่พอใจเบา ๆ และพูดอย่างดูถูก “แพทย์แผนจีนนั้นใช้ไม่ได้ เทียบกับแพทย์แผนตะวันตกไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้น ใช้หลอกลวงตบตาผู้ป่วยกับครอบครัว ไร้คุณธรรมที่สุด ไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วเป็นอะไร?”

“คุณลั่ว คุณอย่าโมโหเด็ดขาดนะคะ” เกาชิงเหยียนรีบพูดปลอบลั่วอู๋ฉาง

หลี่เหวินหัวขมวดคิ้ว ถึงแม้พูดว่าลั่วอู๋ฉางออร่าไม่ธรรมดา แต่ว่าอายุน้อยเกินไปหน่อยไหม!

ในเมื่ออาชีพหมอ ต้องใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์ระยะยาว เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตกตะกอนและสรุปความ สามารถเข้าถึงระดับผู้เชี่ยวชาญได้ ใครบ้างที่อายุไม่เยอะ?

ไอ้หนุ่มตรงหน้า ดูท่าทางก็แค่ยี่สิบกว่าปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ มากสุดก็แค่ฝืมือระดับเด็กฝึกหัด

ไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วคืออะไร?

เป็นต้มตุ๋นอย่างน้อยลักษณะภายนอกก็ต้องดีหน่อย แบบนี้เนี่ยนะ จะโกหกใครได้?

หลี่เหวินหัวมั่นใจว่าเกาชิงเหยียนพึ่งพาหมอซี้ซั้วในช่วงวิกฤติ ถึงได้ทำความผิดที่โง่เขลาแบบนี้

ในฐานะผู้มีอำนาจในสายงาน หลี่เหวินหัวไม่มีทางยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน จะต้องเปิดโปงทันที

“ไอ้หนุ่ม นายจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่ไหน วุฒิการศึกษาอะไร อาจารย์เป็นใคร?” หลี่เหวินหัวพูดบีบคั้น

ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเรียบเฉย พูดว่า “ฉันไม่เคยเรียนแพทยศาสตร์ แน่นอนว่าไม่มีวุฒิการศึกษา เรื่องที่ว่าอาจารย์เป็นใคร ขออภัยที่ไม่สามารถบอกได้ อาจารย์เป็นคนบุคคลลึกลับ”

คำพูดพวกนี้เป็นเรื่องจริงทั้งหมด เขารู้แค่ว่าอาจารย์ถูกเรียกด้วยความเคารพว่าเทพอวี้ เป็นชายชราที่มีฝีมือยอดเยี่ยมด้านต่าง ๆ

เทพอวี้ เป็นเสียงพ้องกับเทพนรก

หลังจากที่ลั่วอู๋ฉางเข้าคุก เป็นโชคดีที่ได้เป็นศิษย์ของเขา เพราะว่าพรสวรรค์ล้ำเลิศ เขาใช้เวลาเพียงหนึ่งปี เรียนรู้เทคนิคสุดยอดต่าง ๆ ของอาจารย์ได้อย่างชำนาญ

จากนั้น อาจารย์ก็มอบความรับผิดชอบในการจัดการเรือนจำหลงตันสวรรค์ ตัวเองกลับซ่อนตัวอย่างไร้ร่องรอย

ลั่วอู๋ฉางฝากฝังให้คนไปสืบข่าวของอาจารย์หลายครั้งแล้ว ผลปรากฏว่าไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย

หลี่เหวินหัวยิ้มพูดอย่างเหยียดหยาม “เบิกตาต่ำ ๆ ของนายให้ดี ต่อให้เป็นโรงพยาบาลระดับสูงในท้องถิ่นอย่างโรงพยาบาลเมืองจิงไห่แบบนี้ หมอฝึกหัดก็ต้องระดับปริญญาเอกสองใบ”

“ยังกล้าพูดว่าตัวเองไม่ใช่ต้มตุ๋น ไอ้คนไร้ยางอาย หลอกลวงต้มตุ๋นมาจนถึงในโรงพยาบาล แกเอาความกล้ามาจากไหน?”

หลิวตงฉี่โบกมือขึ้น "ไล่เขาออกไป อย่ามาเกะกะอยู่ตรงนี้"

เกาชิงเหยียนโมโหแล้ว รีบพูดออกมา “ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว ไว้หน้าฉันหน่อย! ในเมื่อผู้เชี่ยวชาญหลายท่านอยู่ที่นี่ รักษาให้คุณพ่อฉันก่อนเถอะค่ะ นี่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด”

หลี่เหวินหัวเหลือบมองลั่วอู๋ฉาง “ให้ไอ้ต้มตุ๋นนี่ดูหน่อยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ หากเขาตระหนักถึงความผิดของตัวเอง เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงความผิดพลาดในอดีต ก็ถือว่าเป็นบุญกุศลของฉัน”

จากนั้น เขาพูดอย่างไม่ต้องสงสัย “ตอนนี้สำคัญที่สุดคือระบุแหล่งที่มาของพิษ ฉันวินิจฉัยว่าสารพิษซ่อนอยู่ในกระดูก ดังนั้นจึงตรวจสอบไม่พบ”

มีเพียงวิธีเดียวที่ใช้ได้ คือต้องเจาะกระดูก จนกระทั่งหาสาเหตุพบ

หลิวตงฉี่กับผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งพากันพยักหน้า แสดงความเห็นด้วย

อย่างไรซะหลี่เหวินหัวก็มีสมญานามที่มีอำนาจ ใครกล้ามีข้อสงสัยต่อเขา?

“ร่างกายมนุษย์มีกระดูกสองร้อยกว่าชิ้น จะแทงทะลุได้อย่างไร?” ลั่วอู๋ฉางถามขึ้นกะทันหัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 12

    “ต้องให้นายบอกด้วยเหรอ ผู้มีอำนาจจะไม่รู้เหรอ?”หลี่เหวินหัวถลึงตาใส่ลั่วอู๋ฉาง พูดด้วยเสียงไม่พอใจ “แน่นอนว่าต้องหาจุดสำคัญแล้วทำการเจาะ เตรียมใช้อุปกรณ์ได้”ลั่วอู๋ฉางพูดตอบโต้ “ต่อให้คุณเจาะกระดูกเขาทั้งตัวจนเป็นรังแตน ก็หาแหล่งที่มาของพิษไม่ได้ อีกทั้งสภาพของผู้ป่วย ไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนี้ด้วยซ้ำ”“พูดบ้าบออะไร รุ่นพี่ของฉันจะพลาดได้อย่างไร? แผลเจาะกระดูกเล็กมาก ๆ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย นายไม่เข้าใจ ไม่ต้องพูดแล้ว ทำให้ตัวเองดูโง่ ไม่ ไม่ขายขี้หน้าเหรอ!” หลิวตงฉี่ตวาดเสียงดังลั่วอู๋ฉางพูด "เจาะกระดูกไม่กระทบต่อผู้ป่วยทั่วไป แต่ว่าเกาฉี่เฉียงใกล้จะหมดไฟแล้ว ทนกับความทรมานไม่ไหว"“นายใจกล้ามาก นี่สงสัยในอำนาจของรุ่นพี่ของฉันเหรอ!”หลี่เหวินหัวยิ้มเยาะ “ไอ้หนุ่ม นายก็แค่กังวลว่าฉันจะหาสาเหตุที่ป่วยพบ แล้วไม่มีโอกาสหลอกลวงแล้ว ถูกต้องไหม?”เกาชิงเหยียนลำบากใจทั้งสองฝ่าย ทั้งสองด้านต่างมารักษาให้พ่อเธอ ตัวเองถูกบีบอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าเข้าข้างใคร เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสม“พูดถึงตรงนี้แล้ว คุณไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร อย่าเสียใจภายหลังก็พอ” ลั่วอู๋ฉางพูดจบ เคลื่อนสายตาไปที่ด้านข

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 13

    ผู้หญิงปากร้ายแว้งกัด พูดใส่ไฟกับบิดเบือนความจริง เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาหยางซิ่งเหวินยุยงเสริมส่ง “ลั่วอู๋ฉางติดคุกสี่ปี หลังจากออกมาจากคุก เปลี่ยนไปใช้ความรุนแรง ไม่น่าแปลกใจสักนิด”หยางหว่านอวี่สับสนอย่างมาก ด้านหนึ่งไม่เชื่อว่าลั่วอู๋ฉางจะทำเรื่องแบบนี้ได้ อีกด้านก็สงสารแม่กับน้องชายแต่ไม่ว่าอย่างไร ตบตีคนไม่ถูกต้องทำร้ายคน ยิ่งไม่ได้!“พวกคุณไม่ต้องพูดแล้ว หนูจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ เรียกร้องความยุติธรรมให้พวกคุณ!”หยางหว่านอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาลั่วอู๋ฉางอย่างเร็ว พูดด้วยน้ำเสียงซักถาม “นายทำร้ายแม่กับน้องชายฉันเหรอ?”“ฉันไม่ปฏิเสธ เธอจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้”หยางหว่านอวี่โมโหทันที “ลั่วอู๋ฉาง เดิมทีฉันยังมีหวังกับนายนิดหน่อย คิดไม่ถึง นายจะพูดโดยไม่รับผิดชอบแบบนี้ แม่ของฉันพูดถูก นายก็คือผู้ชายชั่วที่รักษาไม่หาย!”ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเบา ๆ “คำพูดนี้ เธอไม่รู้สึกคุ้นหูเหรอ?”หยางหว่านอวี่นิ่งอึ้ง เหมือนคิดอะไรขึ้นได้คุ้นหูจริง ๆ เป็นคำพูดที่ตัวเองพูดกับลั่วอู๋ฉาง ตอนที่อยู่หน้าเรือนจำไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กลับถูกส่งกลับมาเหมือนเดิมเหยียดหยามกันเกินไปแล้ว!ด่าเขาว่าเป็นคน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 14

    เกาชิงเหยียนน้ำตาคลอ ท่าทางที่สะอื้นเห็นแล้วน่าสงสารหลี่เหวินหัวถลึงตาโต พูดเสียงดัง "คุณเกา คุณร้อนใจจนสับสนไปแล้ว ขอร้องไอ้คนต้มตุ๋นทำไม?"“ไม่ขอร้อง หรือจะให้พึ่งคุณเหรอ?” เกาชิงเหยียนตวาดด้วยความโมโหความความจริงพิสูจน์แล้ว ลั่วอู๋ฉางถูกต้องแล้วเขาบอกว่าห้ามเจาะ เกิดปัญหาจริง ๆ ด้วย เพียงแต่ผลที่ตามมาใหญ่หลวงเกินไปเกาชิงเหยียนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ไม่แน่นอนของตัวเอง ตอนนี้คนที่ช่วยพ่อได้ มีเพียงลั่วอู๋ฉาง“ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป นายอย่าคิดที่จะมีชีวิตออกจากเมืองจิงไห่!”หลี่เหวินหัวร้อนรน เริ่มปัดความรับผิดชอบอย่างรวดเร็ว “นี่จะโทษฉันได้อย่างไร ฉันพยายามเต็มที่แล้ว แผนการรักษาพ่อคุณเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นพยานได้”“แม้แต่ฉันยังรักษาไม่ได้ ต่อให้เทพเซียนมาก็ไม่มีประโยชน์ แสดงว่าพ่อของคุณโชคไม่ดี ชีวิตเป็นแบบนี้ เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นกฎธรรมชาติ ดึงดันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีหนทาง”“เพื่อเป็นการชดเชย ฉันสามารถนำศพของเขาไปเมืองหลวง ตรวจสอบสาเหตุให้ชัดเจน ถือว่าให้คำอธิบายกับคุณ”หลี่เหวินหัวพบเจอเศรษฐีผู้มีอำนาจจนเคยชิน ใครบ้างที่ไม่แสดงความเคารพต่อเขา จึง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 15

    ลั่วอู๋ฉางหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งขึ้นมา ฝังลงไปบนจุดเทียนเหมินของเกาฉี่เฉียง รวดเร็วราวกับไฟฟ้าจากนั้นก็จุดไป่หุ้ย จุดไท่หยาง จุดเฟิงฉือ……เข็มหนึ่งเร็วกว่าอีกเข็มหนึ่ง ฝีมือที่รวดเร็วราวกับฟ้าแลบ ทำให้คนตาพร่ามัว“ตั้งใจทำท่าหลอกลวง” หลี่เหวินหัวพูดดูถูกหลิวตงฉี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง กลืนน้ำลายคำใหญ่ พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “รุ่นพี่ พูดแบบนี้ก็ไม่ได้”"จุดที่เขาฝังเข็มเหล่านี้ต่างเป็นจุดตาย ที่แม้แต่คนปกติยังไม่กล้าแตะต้อง เพียงพอที่พิสูจน์ว่าฝีมือสูงและใจกล้า"แตกต่างกับหลี่เหวินหัวแพทย์แผนตะวันตกที่หัวรั้นหลิวตงฉี่เคยเรียนแพทย์แผนจีนอยู่ช่วงหนึ่ง เห็นว่าฝีมือของลั่วอู๋ฉางไม่ธรรมดาหลี่เหวินหัวพูดเหน็บแนม “ทั้งที่รู้ว่าไม่มีผลแต่ไม่ยอมปล่อยวางก็เท่านั้น แน่ตรงไหน!”“ตอนนี้นายรู้แล้วยังว่าทำไมพวกเราจบจากที่เดียวกัน แต่ความแตกต่างกันเยอะขนาดนี้ นายเชื่อของไร้สาระพวกนี้มากเกินไป ไม่มีทางที่จะมีชีวิตถึงระดับสูงเหมือนกับฉัน”หากเป็นตอนปกติ หลิวตงฉี่ต้องรู้สึกละอายใจจนหน้าแดงไปหมดแล้วแต่ตอนนี้ เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำ “สั่งสอน” ของรุ่นพี่ สายตาจ้องมองไปที่ข้างเตียง อุทานออกมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 16

    พูดจาใหญ่โตมาก เขากล้าได้อย่างไร!หลี่เหวินหัวตกตะลึงทันที วัยรุ่นคนนี้หยิ่งผยองเกินไปแล้วตัวเองเป็นหมอมาหลายสิบปี ต่อให้มีชื่อเรียกว่าผู้มีอำนาจ ได้รับการเยินยอจากในวงการและผู้ป่วยญาติผู้ป่วย ก็ไม่กล้าพูดออกมาแบบนี้“คนฟื้นชีวิตขึ้นมาไม่ใช่ความสามารถ รักษาหายถึงจะใช่ นายยังห่างไกล!”หลี่เหวินหัวพูดตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้ “ฉันถามนาย ผู้ป่วยโดนพิษอะไร นายรู้ไหม?”ไม่รอให้ลั่วอู๋ฉางให้คำตอบ เขาก็พูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ “นายไม่รู้แน่นอน! ดังนั้นจึงรักษาสุ่มสี่สุ่มห้า เปอร์เซ็นต์ที่จะสำเร็จน้อยกว่าถูกลอตเตอรี่ด้วยซ้ำ โชคดีไม่ได้เข้าข้างบุคคลคนเดียวตลอดไป”“การกระทำที่เสี่ยงโชคแบบนี้ของนาย ถ้าหากทำสำเร็จ ฉันจะเขียนชื่อกลับหัว!”เกาชิงเหยียนไม่เพียงผิดหวังกับผู้มีอำนาจที่ว่าอย่างถึงที่สุด แต่ยังรังเกียจอย่างมาก “คนที่ไม่รักษาสัจจะ อย่าสาบานเลยดีกว่า จะได้ไม่ตกเป็นที่น่าหัวเราะของผู้เชี่ยวชาญ”หลี่เหวินหัวหน้าเหี่ยวย่นแดงก่ำทันที ถลึงตาโตตอบโต้กลับเสียงดัง “เมื่อครู่เป็นเพราะเขาโชคดี นับไม่ได้ ฉันไม่ยอมแพ้แน่นอน!”ลั่วอู๋ฉางฝังเข็มอย่างแม่นยำโดยไร้ความผิดพลาด แล้วพูดไปด้วย “งั้นฉันจะให

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 17

    ดวงตาสองข้างเล็กกว่าเมล็ดข้าวฟ่าง อ้าปากแลบลิ้นสองแฉกสีดำ ส่งเสียงฟ่อ ๆ ทำให้คนขนลุกขนพอง“งู งูจริง ๆ ด้วย!” หลิวตงฉี่อุทานออกมางูตัวเล็กเหมือนกับตื่นตระหนก ร่างกายมุดออกมาจากรูเล็ก ๆ ทันที แล้วงอตัวจะกระโดดหนีไปมันเล็กขนาดนั้น หนีไปก็จะหาไม่เจอแล้วในตอนนี้เอง ลั่วอู๋ฉางถือแก้วกระเบื้องรับเอาไว้ จากนั้นปิดฝาลงงูตัวเล็กเลื้อยไปมาอยู่ในขวด หมดหนทางหนีเกาชิงเหยียนตกตะลึงจนหน้าซีด ถามขึ้น “คุณมังกรลั่ว นี่คืออะไรคะ?”ลั่วอู๋ฉางวางขวดลง พูด “หนอนงูทอง หนอนคุณไสยที่พิษร้ายแรงที่สุดในอาณาเขตแม้ว คนที่ปล่อยหนอนจะนำเซลล์ไข่งูผสมในน้ำ หรือในอาหาร เข้าไปในท้องของเหยื่อโดยไม่รู้ตัว ฟักตัวเป็นหนอนงูทอง”“มีคนทำร้ายพ่อฉันจริง ๆ ด้วย!” เกาชิงเหยียนดวงตาสั่นคลอน จากนั้นก็เผยความอาฆาตที่เย็นชา“เขากลับตัวกลับใจแล้ว คนพวกนั้นยังไม่ยอมปล่อยเขา ให้ฉันสืบออกมาได้ว่าใครเป็นคนทำ ไม่มีทางปล่อยมันไปแน่นอน!”พี่ตาวพูดด้วยหน้าตาดุดัน “หลังจากคุณหนูสืบออกมาได้ ให้บอกกับผมทันที ผมจะพาคนไปเอาเลือดมันออกด้วยตัวเอง!”ในตอนนี้เอง ดวงตาของเกาฉี่เฉียงขยับเล็กน้อย จากนั้น ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ“ที่นี่คือที่ไ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 18

    “อนาคตสงเคราะห์คนยากไร้ต่อไป ทำความดีให้มาก ๆ ฉันรับรองว่านายจะอายุยืนยาวร้อยปี” ลั่วอู๋ฉางพูดคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครกล้าสงสัยประโยคนี้ ลั่วอู๋ฉางใช้ทักษะการแพทย์ที่ประณีตของตัวเอง ทำให้พวกเขาตกตะลึงกันหมดเกาฉี่เฉียงรีบพูดขึ้น “ขอบคุณคุณลั่วมาก ฉันจะจดจำคำสั่งสอนของท่าานไว้ สาบานว่าจะเป็นคนดี ตอบแทนสังคมอย่างเต็มที่”หลี่เหวินหัวใช้สายตาละอายใจอย่งมาก มองไปทางรุ่นน้องหลิวตงฉี่ที่ประทับใจอย่างสุดซึ้งนี่ถึงจะเป็นความเมตตาของหมอลั่วอู๋ฉางถอนเข็มไปด้วย พูดไปด้วย “นายหมดสติไปนานมาก และก็เสียเลือดดีไปเยอะ การทำงานของร่างกายบกพร่องอย่างรุนแรง ต่อไปนายจะสลบไปอีกสามวัน นี่เป็นขั้นตอนการรักษาของฉันที่ขาดไม่ได้ นายไม่ต้องเป็นกังวล”“อีกสามวัน ฉันจะฝังเข็มให้นายอีกครั้ง ก็จะหายดี”เกาฉี่เฉียงแสดงความขอบคุณอีกครั้ง “บุญคุญที่ทำให้มีชีวิตของคุณลั่ว ฉันซาบซึ้งอย่างมาก ฉันคำขอร้อง หวังว่าคุณลั่วจะช่วยเหลือ”“นายว่ามา”เกาฉี่เฉียงมองไปทางลูกสาวเกาชิงเหยียน พูดว่า “ช่วงเวลาที่ฉันสลบไสล ย่อมหลีกไม่ได้ที่ฝูงมังกรไม่มีจ่าฝูง คิดว่าในตระกูลใกล้จะวุ่นวายแล้ว ขอให้คณช่วยดูแลเสี่ยวเหยียนหน่อ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 19

    แพทย์แผนตะวันตกชอบดูถูกแพทย์แผนจีนดั้งเดิม ลั่วอู๋ฉางกลับไม่เคยดูถูกแพทย์แผนตะวันตกจากที่เขาดู มาตรฐานของแพทย์มีระดับสูงต่ำ ทักษะการแพทย์กลับไม่มี ในเมื่อต่างช่วยกันรักษาผู้บาดเจ็บ ทำไมต้องแบ่งสูงต่ำด้วย?หลี่เหวินหัวขมวดคิ้วถาม “ความหมายของคุณคือ?”“จัดการอารมณ์ อุทิศตนให้กับการแพทย์ด้วยทัศนคติที่ถูกต้องและกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น ช่วยเหลือและรักษาคนให้มากขึ้น อย่าลืมเป้าหมายในตอนแรก” ลั่วอู๋ฉางพูดขึ้นหลี่เหวินหัวนิ่งอึ้ง เหมือนเข้าใจได้ทันทีเขาโค้งคำนับเก้าสิบองศาให้ลั่วอู๋ฉาง พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณคุณลั่วที่ชี้แนะ ผมคิดว่าผมเข้าใจแล้วว่าต่อไปควรทำอย่างไร ขอบคุณความใจกว้างของคุณอีกครั้ง ลาก่อนนะครับ”ตั้งแต่นี้ไป หลี่เหวินหัวเปลี่ยนนิสัยเย่อหยิ่งตั้งตัวอยู่เหนือคนอื่นก่อนหน้านี้ มุ่งเน้นไปที่การช่วยชีวิตและการวิจัยทางการแพทย์ สุดท้ายกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจและชื่อเสียงภายในประเทศที่แท้จริงเกาชิงเหยียนใช้สายตาเลื่อมใสอย่างมากมองไปที่ลั่วอู๋ฉาง หน้าสวยงดงามเขียนคำว่า “ยอมรับ” ตัวโต ๆจากฝีมือการแพทย์ของลั่วอู๋ฉาง ทั้ง ๆ ที่สามารถดูหมิ่นฝูงชนได้ ทำให้สายงานเดียวก

บทล่าสุด

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1059

    ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1058

    คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1057

    เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1056

    ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1055

    ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1054

    พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1053

    พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1052

    หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1051

    หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status