"แกร่ก!"ขาทั้งสองข้างของหยางจวิ้นหาวหักออก ปรากฏเป็นมุมที่แปลกประหลาด ข้อต่อกระดูกแทงทะลุเนื้อ เลือดไหลอาบทันที“อ๊าก! ขากู......”หยางจวิ้นหาวเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เสียงร้องโอดครวญดังก้องอยู่ภายในห้องสวีชุ่ยหลานรีบโผเข้าไปหาลูกชาย พูดตะโกนเสียงดังลั่น “ผู้หญิงบ้า แกกล้าทำกับลูกชายฉันแบบนี้ได้อย่างไร!”พูดไปพูดมา เธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจะโทรไปเรียกตัวช่วย แต่ถูกบอดี้การ์ดปัดจนกระเด็น ตกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ“จำเอาไว้ ห้ามดูถูกคุณมังกรลั่ว อยากแก้แค้น มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันชื่อเกาชิงเหยียน!”เกาชิงเหยียนน้ำเสียงเย็นชา พูดทีละคำ “โยนพวกมันสองคนออกไป ห้องนี้ไม่อนุญาตให้ใครรบกวนทั้งนั้น”“ลั่วอู๋ฉางแกมันสารเลว มองดูลูกชายฉันถูกหักขา พวกแกชายหญิงสารเลวต้องตายแน่ ตระกูลของพวกเราไม่มีทางปล่อยแกไป คอยดู......”เหล่าบอดี้การ์ดมองข้ามทั้งสองที่โหวกเหวกโวยวาย หิ้วปีกแล้วพาออกไปข้างนอกในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอย่างรวดเร็ว เกาชิงเหยียนพูดอย่างเคารพ “คุณลั่ว ฉันพาคุณพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลแห่งที่หนึ่งตามอำเภอใจ ท่านไม่โกรธใช่ไหมคะ?”ทางด้านโรงพยาบาลไม่เพียงมีลานจอดเฮลิคอปเตอ
“โกหก ฉันไม่เคยได้ยินว่าโรงพยาบาลถูกปิดล้อม โกหกยังไม่เป็น คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ?”ในตอนนี้เอง หยางซิ่งเหวินพาคนสองสามคนตามมาอย่างร้อนรนเขามองดูลูกชายที่นอนอยู่บนเตียงเข็น และภรรยาที่หน้าตาฟกช้ำ พูดด้วยความตกตะลึง “ทำไมถึงอาการสาหัสแบบนี้?”“เป็นเพราะไอ้ระยำลั่วอู๋ฉาง บงการให้นังโสเภณีกระทืบตบตี คุณไม่รู้ว่าพวกมันลงมือหนักขนาดไหน เจ็บจะตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานร่ำไห้ขึ้นมาทันทีหยางซิ่งเหวินข่มความโมโหไว้ พูดว่า “พวกคุณวางใจได้ ผมไม่มีทางปล่อยไอ้ระยำนั่นไปง่าย ๆ ตอนนี้การรักษาเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมถึงไม่เข้าห้องผู้ป่วยล่ะ?”สวีชุ่ยหลานพูดใส่ไฟอธิบาย พูดประชด หัวหน้าเข้าเวรโมโหจนกลอกตามอง“ฉันหาผู้อำนวยการของพวกเขา ไม่เชื่อหรอกว่า ด้วยสถานะของตระกูลเรา แม้แต่ห้องผู้ป่วยชั้นสูงก็เข้าพักไม่ได้” หยางซิ่งเหวินตบหน้าอกรับประกัน โทรไปหาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจสวีชุ่ยหลานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ยินแล้วยัง? ไอ้พวกตาต่ำ อีกเดี๋ยวฉันจะฟ้องแกให้หนัก ให้แกรับผิดชอบทั้งหมด”แต่ไม่นานนัก หยางซิ่งเหวินกลับมาด้วยสีหน้าซับซ้อนสวีชุ่ยหลานมัวแต่หยิ่งผยอง ไม่ได้สังเกตสีหน้าของสามีด้วยซ้ำ ออกคำสั
“ฉันไม่รู้จัก จะเป็นคนที่ฉันหามาได้อย่างไร”เกาชิงเหยียนถลึงตาโต รีบพูดอธิบายต่อลั่วอู๋ฉาง “คุณลั่ว คุณอย่าได้เชื่อนะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน”เรื่องหนึ่งรับผิดชอบแค่คนเดียว ไม่มีทางรบกวนคนที่สอง นั่นเป็นความผิดมหันต์ทั้ง ๆ ที่เชิญหมอเทวดามังกรลั่วแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางหาคนอื่นมาเข้าแทรก แบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อมั่นลั่วอู๋ฉาง เกาชิงเหยียนจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ได้อย่างไร“ห๊ะ? งั้นเขาเป็นใคร!”ใบหน้าของพี่ตาวงุนงงไปหมด “พวกเราเพิ่งหามพี่เฉียงเข้าห้องผู้ป่วย เขาก็ตามเข้ามาด้วย ฉันคิดว่าคุณหนูเชิญมาเสียอีก”ในตอนนี้เอง คนที่สวมชุดกาวน์ผลักประตูเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาก็คือหลิวตงฉี่ผู้อำนวยกาารของที่นี่ ด้านหลังตามมาด้วยกลุ่มคนแผนกผู้เชี่ยวชาญ“คุณเกา ผมแนะนำหน่อย ท่านนี้คือรุ่นพี่ของผม ศาสตราจารย์หลี่เหวินหัว ผู้ทรงอำนาจสองแขนงในด้านประสาทวิทยาและพิษวิทยาของเมืองหลวง!” หลิวตงฉี่พูดเกาชิงเหยียนดวงตาเป็นประกายทันที และพูดด้วยความตกตะลึง “ศาสตราจารย์หลี่ที่เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์แพทย์แผนตะวันตก?”ชายชราหันมา มองเกาชิงเหยียน โบกมือพูดด้วยความถ่อมตัว “ฉันคือหลี่เหวินหัว
“คุณเกา ฉันดูแล้วคุณก็เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ทำไมถึงไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้? รับการรักษาตามอำเภอใจในช่วงวิกฤติ ถึงเวลาถูกหลอกเงินหลอกความรู้สึก เสียใจภายหลังก็ไม่ทัน”“ที่สำคัญก็คือ รักษาผู้ป่วยล่าช้า ตอนนั้นจะไม่มีที่ให้คุณร้องไห้ด้วยซ้ำ”เกาชิงเหยียนโมโห “คุณลั่วไม่ใช่ต้มตุ๋น!”หลี่เหวินหัวส่งเสียงไม่พอใจเบา ๆ และพูดอย่างดูถูก “แพทย์แผนจีนนั้นใช้ไม่ได้ เทียบกับแพทย์แผนตะวันตกไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้น ใช้หลอกลวงตบตาผู้ป่วยกับครอบครัว ไร้คุณธรรมที่สุด ไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วเป็นอะไร?”“คุณลั่ว คุณอย่าโมโหเด็ดขาดนะคะ” เกาชิงเหยียนรีบพูดปลอบลั่วอู๋ฉางหลี่เหวินหัวขมวดคิ้ว ถึงแม้พูดว่าลั่วอู๋ฉางออร่าไม่ธรรมดา แต่ว่าอายุน้อยเกินไปหน่อยไหม!ในเมื่ออาชีพหมอ ต้องใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์ระยะยาว เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตกตะกอนและสรุปความ สามารถเข้าถึงระดับผู้เชี่ยวชาญได้ ใครบ้างที่อายุไม่เยอะ?ไอ้หนุ่มตรงหน้า ดูท่าทางก็แค่ยี่สิบกว่าปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ มากสุดก็แค่ฝืมือระดับเด็กฝึกหัดไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วคืออะไร?เป็นต้มตุ๋นอย่างน้อยลักษณะภายนอกก็ต้องดีหน่อย แบบนี้เนี่ย
“ต้องให้นายบอกด้วยเหรอ ผู้มีอำนาจจะไม่รู้เหรอ?”หลี่เหวินหัวถลึงตาใส่ลั่วอู๋ฉาง พูดด้วยเสียงไม่พอใจ “แน่นอนว่าต้องหาจุดสำคัญแล้วทำการเจาะ เตรียมใช้อุปกรณ์ได้”ลั่วอู๋ฉางพูดตอบโต้ “ต่อให้คุณเจาะกระดูกเขาทั้งตัวจนเป็นรังแตน ก็หาแหล่งที่มาของพิษไม่ได้ อีกทั้งสภาพของผู้ป่วย ไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนี้ด้วยซ้ำ”“พูดบ้าบออะไร รุ่นพี่ของฉันจะพลาดได้อย่างไร? แผลเจาะกระดูกเล็กมาก ๆ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย นายไม่เข้าใจ ไม่ต้องพูดแล้ว ทำให้ตัวเองดูโง่ ไม่ ไม่ขายขี้หน้าเหรอ!” หลิวตงฉี่ตวาดเสียงดังลั่วอู๋ฉางพูด "เจาะกระดูกไม่กระทบต่อผู้ป่วยทั่วไป แต่ว่าเกาฉี่เฉียงใกล้จะหมดไฟแล้ว ทนกับความทรมานไม่ไหว"“นายใจกล้ามาก นี่สงสัยในอำนาจของรุ่นพี่ของฉันเหรอ!”หลี่เหวินหัวยิ้มเยาะ “ไอ้หนุ่ม นายก็แค่กังวลว่าฉันจะหาสาเหตุที่ป่วยพบ แล้วไม่มีโอกาสหลอกลวงแล้ว ถูกต้องไหม?”เกาชิงเหยียนลำบากใจทั้งสองฝ่าย ทั้งสองด้านต่างมารักษาให้พ่อเธอ ตัวเองถูกบีบอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าเข้าข้างใคร เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสม“พูดถึงตรงนี้แล้ว คุณไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร อย่าเสียใจภายหลังก็พอ” ลั่วอู๋ฉางพูดจบ เคลื่อนสายตาไปที่ด้านข
ผู้หญิงปากร้ายแว้งกัด พูดใส่ไฟกับบิดเบือนความจริง เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาหยางซิ่งเหวินยุยงเสริมส่ง “ลั่วอู๋ฉางติดคุกสี่ปี หลังจากออกมาจากคุก เปลี่ยนไปใช้ความรุนแรง ไม่น่าแปลกใจสักนิด”หยางหว่านอวี่สับสนอย่างมาก ด้านหนึ่งไม่เชื่อว่าลั่วอู๋ฉางจะทำเรื่องแบบนี้ได้ อีกด้านก็สงสารแม่กับน้องชายแต่ไม่ว่าอย่างไร ตบตีคนไม่ถูกต้องทำร้ายคน ยิ่งไม่ได้!“พวกคุณไม่ต้องพูดแล้ว หนูจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ เรียกร้องความยุติธรรมให้พวกคุณ!”หยางหว่านอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาลั่วอู๋ฉางอย่างเร็ว พูดด้วยน้ำเสียงซักถาม “นายทำร้ายแม่กับน้องชายฉันเหรอ?”“ฉันไม่ปฏิเสธ เธอจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้”หยางหว่านอวี่โมโหทันที “ลั่วอู๋ฉาง เดิมทีฉันยังมีหวังกับนายนิดหน่อย คิดไม่ถึง นายจะพูดโดยไม่รับผิดชอบแบบนี้ แม่ของฉันพูดถูก นายก็คือผู้ชายชั่วที่รักษาไม่หาย!”ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเบา ๆ “คำพูดนี้ เธอไม่รู้สึกคุ้นหูเหรอ?”หยางหว่านอวี่นิ่งอึ้ง เหมือนคิดอะไรขึ้นได้คุ้นหูจริง ๆ เป็นคำพูดที่ตัวเองพูดกับลั่วอู๋ฉาง ตอนที่อยู่หน้าเรือนจำไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กลับถูกส่งกลับมาเหมือนเดิมเหยียดหยามกันเกินไปแล้ว!ด่าเขาว่าเป็นคน
เกาชิงเหยียนน้ำตาคลอ ท่าทางที่สะอื้นเห็นแล้วน่าสงสารหลี่เหวินหัวถลึงตาโต พูดเสียงดัง "คุณเกา คุณร้อนใจจนสับสนไปแล้ว ขอร้องไอ้คนต้มตุ๋นทำไม?"“ไม่ขอร้อง หรือจะให้พึ่งคุณเหรอ?” เกาชิงเหยียนตวาดด้วยความโมโหความความจริงพิสูจน์แล้ว ลั่วอู๋ฉางถูกต้องแล้วเขาบอกว่าห้ามเจาะ เกิดปัญหาจริง ๆ ด้วย เพียงแต่ผลที่ตามมาใหญ่หลวงเกินไปเกาชิงเหยียนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ไม่แน่นอนของตัวเอง ตอนนี้คนที่ช่วยพ่อได้ มีเพียงลั่วอู๋ฉาง“ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป นายอย่าคิดที่จะมีชีวิตออกจากเมืองจิงไห่!”หลี่เหวินหัวร้อนรน เริ่มปัดความรับผิดชอบอย่างรวดเร็ว “นี่จะโทษฉันได้อย่างไร ฉันพยายามเต็มที่แล้ว แผนการรักษาพ่อคุณเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นพยานได้”“แม้แต่ฉันยังรักษาไม่ได้ ต่อให้เทพเซียนมาก็ไม่มีประโยชน์ แสดงว่าพ่อของคุณโชคไม่ดี ชีวิตเป็นแบบนี้ เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นกฎธรรมชาติ ดึงดันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีหนทาง”“เพื่อเป็นการชดเชย ฉันสามารถนำศพของเขาไปเมืองหลวง ตรวจสอบสาเหตุให้ชัดเจน ถือว่าให้คำอธิบายกับคุณ”หลี่เหวินหัวพบเจอเศรษฐีผู้มีอำนาจจนเคยชิน ใครบ้างที่ไม่แสดงความเคารพต่อเขา จึง
ลั่วอู๋ฉางหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งขึ้นมา ฝังลงไปบนจุดเทียนเหมินของเกาฉี่เฉียง รวดเร็วราวกับไฟฟ้าจากนั้นก็จุดไป่หุ้ย จุดไท่หยาง จุดเฟิงฉือ……เข็มหนึ่งเร็วกว่าอีกเข็มหนึ่ง ฝีมือที่รวดเร็วราวกับฟ้าแลบ ทำให้คนตาพร่ามัว“ตั้งใจทำท่าหลอกลวง” หลี่เหวินหัวพูดดูถูกหลิวตงฉี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง กลืนน้ำลายคำใหญ่ พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “รุ่นพี่ พูดแบบนี้ก็ไม่ได้”"จุดที่เขาฝังเข็มเหล่านี้ต่างเป็นจุดตาย ที่แม้แต่คนปกติยังไม่กล้าแตะต้อง เพียงพอที่พิสูจน์ว่าฝีมือสูงและใจกล้า"แตกต่างกับหลี่เหวินหัวแพทย์แผนตะวันตกที่หัวรั้นหลิวตงฉี่เคยเรียนแพทย์แผนจีนอยู่ช่วงหนึ่ง เห็นว่าฝีมือของลั่วอู๋ฉางไม่ธรรมดาหลี่เหวินหัวพูดเหน็บแนม “ทั้งที่รู้ว่าไม่มีผลแต่ไม่ยอมปล่อยวางก็เท่านั้น แน่ตรงไหน!”“ตอนนี้นายรู้แล้วยังว่าทำไมพวกเราจบจากที่เดียวกัน แต่ความแตกต่างกันเยอะขนาดนี้ นายเชื่อของไร้สาระพวกนี้มากเกินไป ไม่มีทางที่จะมีชีวิตถึงระดับสูงเหมือนกับฉัน”หากเป็นตอนปกติ หลิวตงฉี่ต้องรู้สึกละอายใจจนหน้าแดงไปหมดแล้วแต่ตอนนี้ เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำ “สั่งสอน” ของรุ่นพี่ สายตาจ้องมองไปที่ข้างเตียง อุทานออกมา
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค