"แกร่ก!"ขาทั้งสองข้างของหยางจวิ้นหาวหักออก ปรากฏเป็นมุมที่แปลกประหลาด ข้อต่อกระดูกแทงทะลุเนื้อ เลือดไหลอาบทันที“อ๊าก! ขากู......”หยางจวิ้นหาวเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เสียงร้องโอดครวญดังก้องอยู่ภายในห้องสวีชุ่ยหลานรีบโผเข้าไปหาลูกชาย พูดตะโกนเสียงดังลั่น “ผู้หญิงบ้า แกกล้าทำกับลูกชายฉันแบบนี้ได้อย่างไร!”พูดไปพูดมา เธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจะโทรไปเรียกตัวช่วย แต่ถูกบอดี้การ์ดปัดจนกระเด็น ตกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ“จำเอาไว้ ห้ามดูถูกคุณมังกรลั่ว อยากแก้แค้น มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันชื่อเกาชิงเหยียน!”เกาชิงเหยียนน้ำเสียงเย็นชา พูดทีละคำ “โยนพวกมันสองคนออกไป ห้องนี้ไม่อนุญาตให้ใครรบกวนทั้งนั้น”“ลั่วอู๋ฉางแกมันสารเลว มองดูลูกชายฉันถูกหักขา พวกแกชายหญิงสารเลวต้องตายแน่ ตระกูลของพวกเราไม่มีทางปล่อยแกไป คอยดู......”เหล่าบอดี้การ์ดมองข้ามทั้งสองที่โหวกเหวกโวยวาย หิ้วปีกแล้วพาออกไปข้างนอกในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอย่างรวดเร็ว เกาชิงเหยียนพูดอย่างเคารพ “คุณลั่ว ฉันพาคุณพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลแห่งที่หนึ่งตามอำเภอใจ ท่านไม่โกรธใช่ไหมคะ?”ทางด้านโรงพยาบาลไม่เพียงมีลานจอดเฮลิคอปเตอ
“โกหก ฉันไม่เคยได้ยินว่าโรงพยาบาลถูกปิดล้อม โกหกยังไม่เป็น คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ?”ในตอนนี้เอง หยางซิ่งเหวินพาคนสองสามคนตามมาอย่างร้อนรนเขามองดูลูกชายที่นอนอยู่บนเตียงเข็น และภรรยาที่หน้าตาฟกช้ำ พูดด้วยความตกตะลึง “ทำไมถึงอาการสาหัสแบบนี้?”“เป็นเพราะไอ้ระยำลั่วอู๋ฉาง บงการให้นังโสเภณีกระทืบตบตี คุณไม่รู้ว่าพวกมันลงมือหนักขนาดไหน เจ็บจะตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานร่ำไห้ขึ้นมาทันทีหยางซิ่งเหวินข่มความโมโหไว้ พูดว่า “พวกคุณวางใจได้ ผมไม่มีทางปล่อยไอ้ระยำนั่นไปง่าย ๆ ตอนนี้การรักษาเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมถึงไม่เข้าห้องผู้ป่วยล่ะ?”สวีชุ่ยหลานพูดใส่ไฟอธิบาย พูดประชด หัวหน้าเข้าเวรโมโหจนกลอกตามอง“ฉันหาผู้อำนวยการของพวกเขา ไม่เชื่อหรอกว่า ด้วยสถานะของตระกูลเรา แม้แต่ห้องผู้ป่วยชั้นสูงก็เข้าพักไม่ได้” หยางซิ่งเหวินตบหน้าอกรับประกัน โทรไปหาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจสวีชุ่ยหลานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ยินแล้วยัง? ไอ้พวกตาต่ำ อีกเดี๋ยวฉันจะฟ้องแกให้หนัก ให้แกรับผิดชอบทั้งหมด”แต่ไม่นานนัก หยางซิ่งเหวินกลับมาด้วยสีหน้าซับซ้อนสวีชุ่ยหลานมัวแต่หยิ่งผยอง ไม่ได้สังเกตสีหน้าของสามีด้วยซ้ำ ออกคำสั
“ฉันไม่รู้จัก จะเป็นคนที่ฉันหามาได้อย่างไร”เกาชิงเหยียนถลึงตาโต รีบพูดอธิบายต่อลั่วอู๋ฉาง “คุณลั่ว คุณอย่าได้เชื่อนะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน”เรื่องหนึ่งรับผิดชอบแค่คนเดียว ไม่มีทางรบกวนคนที่สอง นั่นเป็นความผิดมหันต์ทั้ง ๆ ที่เชิญหมอเทวดามังกรลั่วแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางหาคนอื่นมาเข้าแทรก แบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อมั่นลั่วอู๋ฉาง เกาชิงเหยียนจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ได้อย่างไร“ห๊ะ? งั้นเขาเป็นใคร!”ใบหน้าของพี่ตาวงุนงงไปหมด “พวกเราเพิ่งหามพี่เฉียงเข้าห้องผู้ป่วย เขาก็ตามเข้ามาด้วย ฉันคิดว่าคุณหนูเชิญมาเสียอีก”ในตอนนี้เอง คนที่สวมชุดกาวน์ผลักประตูเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาก็คือหลิวตงฉี่ผู้อำนวยกาารของที่นี่ ด้านหลังตามมาด้วยกลุ่มคนแผนกผู้เชี่ยวชาญ“คุณเกา ผมแนะนำหน่อย ท่านนี้คือรุ่นพี่ของผม ศาสตราจารย์หลี่เหวินหัว ผู้ทรงอำนาจสองแขนงในด้านประสาทวิทยาและพิษวิทยาของเมืองหลวง!” หลิวตงฉี่พูดเกาชิงเหยียนดวงตาเป็นประกายทันที และพูดด้วยความตกตะลึง “ศาสตราจารย์หลี่ที่เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์แพทย์แผนตะวันตก?”ชายชราหันมา มองเกาชิงเหยียน โบกมือพูดด้วยความถ่อมตัว “ฉันคือหลี่เหวินหัว
“คุณเกา ฉันดูแล้วคุณก็เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ทำไมถึงไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้? รับการรักษาตามอำเภอใจในช่วงวิกฤติ ถึงเวลาถูกหลอกเงินหลอกความรู้สึก เสียใจภายหลังก็ไม่ทัน”“ที่สำคัญก็คือ รักษาผู้ป่วยล่าช้า ตอนนั้นจะไม่มีที่ให้คุณร้องไห้ด้วยซ้ำ”เกาชิงเหยียนโมโห “คุณลั่วไม่ใช่ต้มตุ๋น!”หลี่เหวินหัวส่งเสียงไม่พอใจเบา ๆ และพูดอย่างดูถูก “แพทย์แผนจีนนั้นใช้ไม่ได้ เทียบกับแพทย์แผนตะวันตกไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้น ใช้หลอกลวงตบตาผู้ป่วยกับครอบครัว ไร้คุณธรรมที่สุด ไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วเป็นอะไร?”“คุณลั่ว คุณอย่าโมโหเด็ดขาดนะคะ” เกาชิงเหยียนรีบพูดปลอบลั่วอู๋ฉางหลี่เหวินหัวขมวดคิ้ว ถึงแม้พูดว่าลั่วอู๋ฉางออร่าไม่ธรรมดา แต่ว่าอายุน้อยเกินไปหน่อยไหม!ในเมื่ออาชีพหมอ ต้องใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์ระยะยาว เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตกตะกอนและสรุปความ สามารถเข้าถึงระดับผู้เชี่ยวชาญได้ ใครบ้างที่อายุไม่เยอะ?ไอ้หนุ่มตรงหน้า ดูท่าทางก็แค่ยี่สิบกว่าปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ มากสุดก็แค่ฝืมือระดับเด็กฝึกหัดไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วคืออะไร?เป็นต้มตุ๋นอย่างน้อยลักษณะภายนอกก็ต้องดีหน่อย แบบนี้เนี่ย
“ต้องให้นายบอกด้วยเหรอ ผู้มีอำนาจจะไม่รู้เหรอ?”หลี่เหวินหัวถลึงตาใส่ลั่วอู๋ฉาง พูดด้วยเสียงไม่พอใจ “แน่นอนว่าต้องหาจุดสำคัญแล้วทำการเจาะ เตรียมใช้อุปกรณ์ได้”ลั่วอู๋ฉางพูดตอบโต้ “ต่อให้คุณเจาะกระดูกเขาทั้งตัวจนเป็นรังแตน ก็หาแหล่งที่มาของพิษไม่ได้ อีกทั้งสภาพของผู้ป่วย ไม่อนุญาตให้คุณทำแบบนี้ด้วยซ้ำ”“พูดบ้าบออะไร รุ่นพี่ของฉันจะพลาดได้อย่างไร? แผลเจาะกระดูกเล็กมาก ๆ ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย นายไม่เข้าใจ ไม่ต้องพูดแล้ว ทำให้ตัวเองดูโง่ ไม่ ไม่ขายขี้หน้าเหรอ!” หลิวตงฉี่ตวาดเสียงดังลั่วอู๋ฉางพูด "เจาะกระดูกไม่กระทบต่อผู้ป่วยทั่วไป แต่ว่าเกาฉี่เฉียงใกล้จะหมดไฟแล้ว ทนกับความทรมานไม่ไหว"“นายใจกล้ามาก นี่สงสัยในอำนาจของรุ่นพี่ของฉันเหรอ!”หลี่เหวินหัวยิ้มเยาะ “ไอ้หนุ่ม นายก็แค่กังวลว่าฉันจะหาสาเหตุที่ป่วยพบ แล้วไม่มีโอกาสหลอกลวงแล้ว ถูกต้องไหม?”เกาชิงเหยียนลำบากใจทั้งสองฝ่าย ทั้งสองด้านต่างมารักษาให้พ่อเธอ ตัวเองถูกบีบอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าเข้าข้างใคร เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสม“พูดถึงตรงนี้แล้ว คุณไม่เชื่อฉันก็ไม่เป็นไร อย่าเสียใจภายหลังก็พอ” ลั่วอู๋ฉางพูดจบ เคลื่อนสายตาไปที่ด้านข
ผู้หญิงปากร้ายแว้งกัด พูดใส่ไฟกับบิดเบือนความจริง เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมาหยางซิ่งเหวินยุยงเสริมส่ง “ลั่วอู๋ฉางติดคุกสี่ปี หลังจากออกมาจากคุก เปลี่ยนไปใช้ความรุนแรง ไม่น่าแปลกใจสักนิด”หยางหว่านอวี่สับสนอย่างมาก ด้านหนึ่งไม่เชื่อว่าลั่วอู๋ฉางจะทำเรื่องแบบนี้ได้ อีกด้านก็สงสารแม่กับน้องชายแต่ไม่ว่าอย่างไร ตบตีคนไม่ถูกต้องทำร้ายคน ยิ่งไม่ได้!“พวกคุณไม่ต้องพูดแล้ว หนูจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้ เรียกร้องความยุติธรรมให้พวกคุณ!”หยางหว่านอวี่หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาลั่วอู๋ฉางอย่างเร็ว พูดด้วยน้ำเสียงซักถาม “นายทำร้ายแม่กับน้องชายฉันเหรอ?”“ฉันไม่ปฏิเสธ เธอจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้”หยางหว่านอวี่โมโหทันที “ลั่วอู๋ฉาง เดิมทีฉันยังมีหวังกับนายนิดหน่อย คิดไม่ถึง นายจะพูดโดยไม่รับผิดชอบแบบนี้ แม่ของฉันพูดถูก นายก็คือผู้ชายชั่วที่รักษาไม่หาย!”ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเบา ๆ “คำพูดนี้ เธอไม่รู้สึกคุ้นหูเหรอ?”หยางหว่านอวี่นิ่งอึ้ง เหมือนคิดอะไรขึ้นได้คุ้นหูจริง ๆ เป็นคำพูดที่ตัวเองพูดกับลั่วอู๋ฉาง ตอนที่อยู่หน้าเรือนจำไม่ใช่เหรอ ตอนนี้กลับถูกส่งกลับมาเหมือนเดิมเหยียดหยามกันเกินไปแล้ว!ด่าเขาว่าเป็นคน
เกาชิงเหยียนน้ำตาคลอ ท่าทางที่สะอื้นเห็นแล้วน่าสงสารหลี่เหวินหัวถลึงตาโต พูดเสียงดัง "คุณเกา คุณร้อนใจจนสับสนไปแล้ว ขอร้องไอ้คนต้มตุ๋นทำไม?"“ไม่ขอร้อง หรือจะให้พึ่งคุณเหรอ?” เกาชิงเหยียนตวาดด้วยความโมโหความความจริงพิสูจน์แล้ว ลั่วอู๋ฉางถูกต้องแล้วเขาบอกว่าห้ามเจาะ เกิดปัญหาจริง ๆ ด้วย เพียงแต่ผลที่ตามมาใหญ่หลวงเกินไปเกาชิงเหยียนรู้สึกอับอายกับการกระทำที่ไม่แน่นอนของตัวเอง ตอนนี้คนที่ช่วยพ่อได้ มีเพียงลั่วอู๋ฉาง“ถ้าพ่อฉันเป็นอะไรไป นายอย่าคิดที่จะมีชีวิตออกจากเมืองจิงไห่!”หลี่เหวินหัวร้อนรน เริ่มปัดความรับผิดชอบอย่างรวดเร็ว “นี่จะโทษฉันได้อย่างไร ฉันพยายามเต็มที่แล้ว แผนการรักษาพ่อคุณเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว พวกเขาเป็นพยานได้”“แม้แต่ฉันยังรักษาไม่ได้ ต่อให้เทพเซียนมาก็ไม่มีประโยชน์ แสดงว่าพ่อของคุณโชคไม่ดี ชีวิตเป็นแบบนี้ เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นกฎธรรมชาติ ดึงดันไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีหนทาง”“เพื่อเป็นการชดเชย ฉันสามารถนำศพของเขาไปเมืองหลวง ตรวจสอบสาเหตุให้ชัดเจน ถือว่าให้คำอธิบายกับคุณ”หลี่เหวินหัวพบเจอเศรษฐีผู้มีอำนาจจนเคยชิน ใครบ้างที่ไม่แสดงความเคารพต่อเขา จึง
ลั่วอู๋ฉางหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งขึ้นมา ฝังลงไปบนจุดเทียนเหมินของเกาฉี่เฉียง รวดเร็วราวกับไฟฟ้าจากนั้นก็จุดไป่หุ้ย จุดไท่หยาง จุดเฟิงฉือ……เข็มหนึ่งเร็วกว่าอีกเข็มหนึ่ง ฝีมือที่รวดเร็วราวกับฟ้าแลบ ทำให้คนตาพร่ามัว“ตั้งใจทำท่าหลอกลวง” หลี่เหวินหัวพูดดูถูกหลิวตงฉี่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง กลืนน้ำลายคำใหญ่ พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “รุ่นพี่ พูดแบบนี้ก็ไม่ได้”"จุดที่เขาฝังเข็มเหล่านี้ต่างเป็นจุดตาย ที่แม้แต่คนปกติยังไม่กล้าแตะต้อง เพียงพอที่พิสูจน์ว่าฝีมือสูงและใจกล้า"แตกต่างกับหลี่เหวินหัวแพทย์แผนตะวันตกที่หัวรั้นหลิวตงฉี่เคยเรียนแพทย์แผนจีนอยู่ช่วงหนึ่ง เห็นว่าฝีมือของลั่วอู๋ฉางไม่ธรรมดาหลี่เหวินหัวพูดเหน็บแนม “ทั้งที่รู้ว่าไม่มีผลแต่ไม่ยอมปล่อยวางก็เท่านั้น แน่ตรงไหน!”“ตอนนี้นายรู้แล้วยังว่าทำไมพวกเราจบจากที่เดียวกัน แต่ความแตกต่างกันเยอะขนาดนี้ นายเชื่อของไร้สาระพวกนี้มากเกินไป ไม่มีทางที่จะมีชีวิตถึงระดับสูงเหมือนกับฉัน”หากเป็นตอนปกติ หลิวตงฉี่ต้องรู้สึกละอายใจจนหน้าแดงไปหมดแล้วแต่ตอนนี้ เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำ “สั่งสอน” ของรุ่นพี่ สายตาจ้องมองไปที่ข้างเตียง อุทานออกมา
"ยังมีใครอีก?" น้ำเสียงของลั่วอู๋ฉางสงบนิ่งยิ่งนัก แต่กลับสร้างความหวาดกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้กวานเหวินเหยารีบก้มหน้าลงทันที เกรงว่าจะสบตากับลั่วอู๋ฉางเข้า"คุณหนูหนานกง ไปกันเถอะ" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหนานกงจือรั่วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มกว้างดั่งดอกไม้บาน "ได้ค่ะ!"เมื่อเห็นพวกเขาเดินจากไป หลินเชี่ยนกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาเปล่งประกายความเคียดแค้นเมื่อทั้งห้าคนเดินห่างออกจากพื้นที่ใจกลางภูเขาชางหลง สัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อยๆ ดีขึ้นเย่ปิงเหยาวุ่นอยู่กับการติดต่อคนรู้จักทันที เพื่อสอบถามวิธีการถ่ายทอดพลังเข้าสู่แท่งคริสตัล"ได้เรื่องแล้ว!"ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่ปิงเหยาก็ยิ้มออกมา "มีคนบอกฉันว่า มีชายคนหนึ่งชื่อหมอพิษกระหายเลือด เขารู้วิธีนี้""แต่เขาเป็นพวกอารมณ์สองขั้ว แถมมีศัตรูนับไม่ถ้วน ช่วงหลายปีมานี้เขาหายตัวไปจากยุทธภพ แทบไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน""ฉันได้ขอให้เพื่อนช่วยตามหาแล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าว"คิ้วคมของลั่วอู๋ฉางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาพึมพำกับตัวเอง "หมอพิษกระหายเลือด...ทำไมชื่อฟังดูคุ้นๆ นะ""เธอก็เป็นคนในวงการแพทย์ จะเคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่แปลกหรอก"
เมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางที่หันหลังเดินจากไป พร้อมกับนึกถึงอาการป่วยของปู่ที่ทรุดหนัก หลินเชี่ยนก็กัดฟันกรอดด้วยความแค้น"เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้!"เฉินเหล่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าหญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ที่ไหน รอเราออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาวิธีอีกทีเถอะ""จะมีวิธีอะไรได้ คนบ้านั้นมันไม่ฟังใครเลย!" หลินเชี่ยนนึกถึงท่าทางหยิ่งยโสของลั่วอู๋ฉางแล้วก็ยิ่งโกรธเฉินเหล่าฝืนยิ้มและพูด "ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ คุณหนูใหญ่ก็คงต้องลดท่าทีลงไปขอโทษเขา เขาบอกให้ไปหาเขา แสดงว่ายังมีโอกาสอยู่...""ให้ฉันไปขอโทษเขาเนี่ยนะ? ทำไมต้องทำด้วย!" หลินเชี่ยนตาโต"คิดถึงสุขภาพของท่านหัวหน้าตระกูลไว้สิครับ เมื่อเทียบกับคำขอโทษประโยคเดียว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย!" เฉินเหล่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมหลินเชี่ยนไม่โง่ เธอรู้ว่าในถิ่นทุรกันดารนี้ เธอไม่มีทางสู้ลั่วอู๋ฉางได้รอออกไปข้างนอกก่อน ใช้อิทธิพลของตระกูลหลินกดดันเขา ถึงตอนนั้นค่อยไปเจรจาใหม่ก็ยังไม่สายเมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางกับพวกกำลังจะเดินไปไกลแล้ว ในที่สุดซืออวิ๋นหานก็ทนไม่ไหวและตะโกนขึ้น "ลั่วอู๋ฉาง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!""นายฆ
มันต้องเป็นข้ออ้างที่ไอ้เด็กนี่กุขึ้นมาแน่ๆ!"ลั่วอู๋ฉาง นายว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ของตระกูลฉันลอบโจมตีนาย มีหลักฐานหรือเปล่า?" ซืออวิ๋นหานกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธที่กำลังจะปะทุลั่วอู๋ฉางกล่าวอย่างไม่แยแสว่า "แค่ฆ่าคนสักคนสองคนเท่านั้น ต้องการหลักฐานอะไรกัน?""นาย..." ซืออวิ๋นหานโกรธจนหน้าอกสะท้าน มือข้างหนึ่งกำด้ามดาบแน่นซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดเสียงดังว่า "ศิษย์พี่ฉันเป็นคนมีคุณธรรม ใจกว้าง และไม่เคยหาเรื่องใครก่อน""แต่หากใครมาหาเรื่อง ศิษย์พี่ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ!""คนที่ชื่อซือเทียนฉีนั่น คิดจะฆ่าพวกเราเพื่อแย่งชิงสมบัติ สมควรตายแล้ว!"ซืออวิ๋นหานเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงภาพที่ลั่วอู๋ฉางสังหารพญานาคในพริบตา ก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นจนทั่วหัว ทำให้เขายอมถอยอย่างรวดเร็วเขาไม่กล้าจริงๆ!ลั่วอู๋ฉางเห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า "ไปกันเถอะ""เดี๋ยวก่อน!"คราวนี้คนที่พูดคือหลินเชี่ยน ท่าทีราวกับออกคำสั่งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจคำเตือนของเฉินเหล่า"ไอ้แซ่ลั่ว ฉันถามนาย หญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ในมือนายหรือเปล่า?"หลินเชี่ยนจ้องเขาเขม็งและกล่าวว่า "ตั้งแต่พญาน
"คุณหนูหลิน ไม่ใช่ว่าพวกเราไร้ความสามารถ แต่ข้างล่างว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของหญ้าวิเศษเลย"ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลกวาน พูดไปตัวสั่นไปว่า "พวกเราค้นจนทั่วแล้ว แต่สุดท้ายก็หาอะไรไม่เจอเลย"ปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลซือที่อยู่ข้างๆ กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มอย่างเต็มที่ พลางเสริมว่า "ไม่มีจริง ๆ ครับ!"ในที่ไกลๆ ชายสูงวัยที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งเสร็จ แต่ผมยังเปียกอยู่ กล่าวว่า "เห็นไหมว่าพวกเราไม่ได้โกหก พูดจริงทั้งนั้น!"เพื่อหลีกเลี่ยงการฮุบไว้คนเดียว ทุกครั้งจะเลือกคนจากทั้งสองตระกูลลงไปด้วยกันเพื่อคอยตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันนี่เป็นกลุ่มที่สองแล้ว แต่ก็ยังกลับมามือเปล่าหลินเชี่ยนจ้องตาเขม็งพูดว่า "มันต้องมีสิ พวกนายไม่มีความสามารถเองถึงได้หาไม่เจอ!""ไอ้คนแซ่กวาน แล้วก็ซืออวิ๋นหาน พวกนายเพิ่งสัญญาต่อหน้าฉันเองว่าต้องเก็บหญ้าวิเศษมาได้แน่ๆ!""เสียเวลาตั้งนาน ได้แค่นี้เนี่ยนะ?"ทั้งสองคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก"คุณหนูหลิน ใจเย็นๆ นะครับ เดี๋ยวพวกเราจะส่งคนลงไปอีก" กวานเหวินเหยาพูดอย่างหน้าด้านๆซืออวิ๋นหานรีบพยักหน้า "ใช่ครับๆ ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ ยิ่งยากก็
ลั่วอู๋ฉางถามต่อว่า "ดังนั้น พวกเขาเลยฆ่ากันเองใช่ไหมครับ?""ใช่แล้ว!"เย่ปิงเหยาพยักหน้า "ในช่วงค่ำคืนเดียว พวกเขาที่ต่างก็มีแผนร้ายในใจ สุดท้ายก็ปะทุออกมาเมื่อเช้าวานนี้""ทุกคนต่างพยายามยึดถ้ำแห่งนี้เป็นของตัวเอง ใช้วิธีสกปรกเช่นวางยาและโจมตีแบบลอบกัดอย่างต่อเนื่อง""ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาคิดไม่ซื่อ จึงระวังตัวไว้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังกลายเป็นเป้าหมายหลัก ไม่เพียงถูกทำร้ายยังถูกวางยาพิษด้วย"พูดถึงตรงนี้ เย่ปิงเหยาก็แสดงสีหน้ายินดีแล้วพูดว่า "ยังดีที่ฉันรู้วิชาแพทย์ จึงสามารถควบคุมพิษไว้ได้""และด้วยวิชาแกล้งตายที่ตาแก่นั่นสอนฉัน ทำให้ฉันหลอกพวกเขาได้อย่างสนิทใจ ไม่เช่นนั้นฉันคงตายสภาพอนาถกว่าพวกเขาแน่"เพียงแค่เย่ปิงเหยาคิดถึงใบหน้าชั่วร้ายของพวกเขา เธอก็อดโมโหไม่ได้แม้พวกเขาจะตายหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดความเกลียดชังของเย่ปิงเหยาได้!ในความเป็นจริง หากลั่วอู๋ฉางและพวกไม่ได้มาทันเวลา เย่ปิงเหยาคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาเองได้อย่างช้าสุด เธอคงต้องจบชีวิตลงในเย็นวันนี้"อาจารย์หญิง ท่านมั่นใจหรือว่านี่คือแก่นของคริสตัลสวรรค์?"ลั่วอู๋ฉางยื่นมือไปหักคริสตัลชิ้นหนึ
เย่ปิงเหยานอนหลับอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดเซียวและนิ่งสนิทไม่ขยับข้างๆ ยังมีศพอีกเจ็ดหรือแปดร่างที่เสียชีวิตแล้ว บนพื้นเต็มไปด้วยคราบเลือดที่เกรอะกรังซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบวิ่งตรงไป ซูเทียนคั่วตามหลังไปพร้อมกับตะโกนว่า "เฉี่ยนเฉี่ยนระวังนะ ที่นี่อันตราย!"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อย ชัดเจนว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้นพญานาคเคยบอกไว้ว่าภายในถ้ำคริสตัลขาวไม่มีสัตว์ร้ายเฝ้าอยู่ที่นี่อยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของพญานาค มันไม่อนุญาตให้สัตว์ร้ายอื่นๆ เข้ามาใกล้"ที่นอนของตน ย่อมไม่ยอมให้ใครมานอนกรนข้างๆ ได้"จากสภาพเลือดที่แห้งกรัง สามารถประเมินได้ว่าพวกเขาเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมงนั่นคือช่วงเวลาที่เย่ปิงเหยาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ"อาจารย์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนประคองเย่ปิงเหยาขึ้นมาแล้วตะโกนเรียก"ร่างกายยังอุ่นอยู่ ลมหายใจแผ่วเบา แต่ยังไม่ตาย!" ซูเทียนคั่วยื่นสองนิ้วตรวจไปอังลมหายใจของเย่ปิงเหยาลั่วอู๋ฉางเดินเข้ามา ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบพูดว่า "ศิษย์พี่ อาจารย์เป็นอะไรไปคะ?""ลมหายใจรวยริน ถูกพิษร้ายแรง แถมยังบาดเจ็บภายในรุนแรง"ลั่วอู๋ฉางพูดว่า "โชคดีที่พบตัวทันเวลา เดี๋ยวพี
ซืออวิ๋นหานพูดอย่างหน้าด้านๆ ว่า "เมื่อกี้มันอันตรายมากเลยนะ ฉันเกือบคิดไปแล้วว่า เราคงต้องตายจากกันแล้ว ปวดใจมากเลย!”“โชคดีที่ฟ้าดินเมตตา เราทั้งคู่ปลอดภัยดี นี่แสดงว่าเราสองคนมีวาสนาต่อกันไม่ใช่น้อยเลยนะ!”หนานกงจือรั่วมองตามลั่วอู๋ฉางที่เดินจากไป แล้วหันมาจ้องเขม็งใส่ซืออวิ๋นหานด้วยความโกรธกวานเหวินเหยาที่อยู่ข้างๆ มองไปรอบๆ อย่างสนใจ"ศพของเจ้าพญานาคตัวนี้น่าจะมีประโยชน์อะไรบ้างนะ?"ชายคนนั้นเดินเข้าไปด้วยความโลภ เอื้อมมือไปสัมผัสเกล็ดที่แข็งอย่างมากแล้วพูดว่า "ถ้าเอาไปทำโล่ มันน่าจะกันการโจมตีของนักบู๊ระดับปรมาจารย์ได้สบายๆ เลย!""ส่วนหนังพญานาคนี่ ถ้าเอาไปทำชุดเกราะ การป้องกันจะต้องดีกว่าเกราะระดับสามแน่ๆ"ซืออวิ๋นหานรีบวิ่งเข้ามาพูดเสียงดังว่า "ไอ้คนแซ่กวาน ฉันขอเตือน นายอย่าคิดจะเก็บไว้คนเดียวนะ!""ศพของพญานาคตัวนี้ก็เหมือนสมบัติในภูเขา ไม่มีเจ้าของ ใครเจอก็มีสิทธิ์ครอบครองทั้งนั้น!”กวานเหวินเหยาถลึงตาใส่ก่อนตอบอย่างหงุดหงิดว่า "ฉันก็อยากจะเก็บไว้เองอยู่หรอก แต่มันใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะเอาไปยังไงได้?""ก็เอาไปให้ได้เยอะที่สุดสิ ไม่ทำให้นายเหนื่อยตายหรอก!"ทั้งสองคนยังค
ท่าทีที่หนักแน่นของหลินเชี่ยน และน้ำเสียงที่เด็ดขาดอย่างชัดเจน เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ยื่นให้เย่ชิงซานเกาะเพื่อความอยู่รอด"ขอบคุณคุณหนูหลิน!" เย่ชิงซานรู้สึกซาบซึ้งจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เขาเคยคิดว่าตัวเองต้องตายแน่นอน แต่ตอนนี้เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน เปลวไฟแห่งความหวังก็พลันลุกโชนขึ้น"เธอ ปกป้องเขาไม่ได้หรอก!"ลั่วอู๋ฉางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นี่เป็นความแค้นส่วนตัวระหว่างฉันกับเย่ชิงซาน ไม่เกี่ยวกับเธอ""ขอบอกเลย วันนี้ เขาไม่มีโอกาสได้เดินออกไปจากที่นี่อย่างมีชีวิตแน่!"หลินเชี่ยนโกรธจัด ตะโกนด้วยความโมโห "ไอ้คนแซ่ลั่ว นายอย่าคิดว่าการฆ่าพญานาคได้ จะทำให้นายไม่เห็นหัวใครนะ!""ต่อหน้าตระกูลหลินที่ยิ่งใหญ่ของเรา นายยังช่างชั้นนัก!""อีกอย่าง เรื่องที่นายทำให้เสี่ยวเฉียงตายยังไม่จบ แล้วตอนนี้นายยังกล้ามาขัดใจคุณหนูใหญ่อย่างฉันอีก ฉันว่านายคงไม่อยากมีชีวิตแล้วสินะ!"หลินเชี่ยนที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มองลั่วอู๋ฉางอยู่ในสายตาเลยนายเก่งกว่าพญานาค แล้วมันจะทำไม?พญานาคมันก็เป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่ง มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "เชื้อพระวงศ์
หลินเชี่ยนเบิกตากว้าง "เฉินเหล่า คุณเห็นไหม คนพรรค์นี้ไม่คิดจะรับน้ำใจของคุณเลย แล้วคุณยังจะไปพูดดีกับเขาอีกทำไม?""คนที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ ไม่ยอมมองข้อผิดพลาดของตัวเอง คุณยังจะปกป้องเขาอีกเหรอ?"เฉินเหล่าปรี่เข้ามาปิดปากหลินเชี่ยน "คุณหนูใหญ่ พูดให้น้อยลงหน่อยเถอะครับ!"หากไม่เห็นแก่ความมีเหตุผลของตาแก่คนนี้ ต่อให้ลั่วอู๋ฉางไม่ฆ่าหลินเชี่ยน เขาก็คงตบหน้าหญิงสาวคนนี้ไปแล้วคนอื่นอาจเกรงกลัวตำแหน่งคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลินของเธอ แต่เขาไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่!ลั่วอู๋ฉางเลิกสนใจหญิงสาวนิสัยเสียคนนี้ เขากระโดดขึ้นไปยืนบนหัวพญานาค เหยียบตรงเปลือกตาด้านล่างของมันไม่นานนัก ในมือของลั่วอู๋ฉางก็มีลูกแก้วที่เปล่งแสงสีทองระเรื่อ เพิ่มขึ้นมามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณห้าเซนติเมตร เมื่อถือในมือให้ความรู้สึกอบอุ่นนี่ก็คือแก่นปีศาจของพญานาคที่บำเพ็ญตบะมานานถึง 1,500 ปีเมื่อเทียบกับลูกแก้วของเผ่าจิ้งจอกครั้งก่อน ยังห่างไกลกันมากแต่อย่างไรก็ตาม หากใช้เป็นของขวัญให้หูเยว่ซี ก็นับว่าใช้ได้หลินเชี่ยนโวยวายใส่เฉินเหล่าอยู่พักหนึ่ง ก่อนพูดด้วยใบหน้าไม่พอใจว่า "เรือดำน้ำไม่มีแล้ว จะเอาหญ้าน้ำแข็งใ