"เอาละ ในเมื่อรู้จักกันแล้ว แผนกของเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบที่ส่งผลตรวจไปที่ห้องแล็บระบบที่จัดส่งนี้ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำทาง แต่ละครั้งคุณหมอจะส่งหลอดที่ต้องตรวจมาที่ท่อนี้และกดส่งชั้นที่ต้องตรวจสอบ
“อี๊ หมายถึง…”
ส้มถึงกับอุทานออกมาในทันที วิชุดานึกเอาไว้แล้วว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เรื่องเยอะที่สุดแต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้มากที่สุดเพราะเธอเป็นผู้ใหญ่
“ใช่ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ มีทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระของคนไข้ ทุกอย่าง หน้าที่ของพวกเธอคือดูแลระบบพวกนี้ให้ทำงานให้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้น”
“อย่าบอกนะคะว่า….เราต้องถือพวกนั้นไปส่งน่ะ”
“ก็ดูแลให้เครื่องทำงานตามปกติก็แล้วกัน เอาละวันแรกก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวจะพาไปรู้จักกับคนในแผนกทั้งหมด”
“รวมถึงคุณหมอด้วยไหมคะ”
วิชุดาข่มใจครั้งแล้วครั้งเล่ากับความอยากรู้อยากเห็นของนักศึกษาคนนี้ เธอไม่ตอบแต่เดินนำทุกคนออกมาเพื่อแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก
“นี่พี่ขวัญ พี่อ้อม พยาบาลประจำเค้าน์เตอร์กะนี้ ยังมีอีกสองคนที่จะมาสลับเอาไว้พวกเธอมาเข้ากะแล้วค่อยแนะนำอีกที”
“สวัสดีค่ะพี่อ้อม พี่ขวัญ”
“สวัสดีค่ะทุกคน”
“คุณหมอประจำในแผนกเรามีสามท่าน หมอชลดา หมอนิรุตน์ และคุณหมอตะวัน”
“คุณหมอชลดาคะ เด็กฝึกงานค่ะ”
“หมอชลดา หมอหญิงเพียงคนเดียวในแผนกออกมายืนยิ้มเพื่อรับไหว้ทุกคนที่เข้ามาฝึกงาน เธอเป็นคุณหมอใจดีที่ยิ้มให้ทุกคน กล่าวทักทายเล็กน้อยและกลับเข้าห้องเพื่อรอตรวจคนไข้”
“คุณหมอนิรุตน์คะ เด็กฝึกงานค่ะ”
“อ้อ สวัสดีทุกคน ตามสบายนะ คนสวยฝากดูแลด้วยนะ ผมไปห้องผ่าตัดก่อน คุณหมอตะวันล่วงหน้าไปแล้ว”
“ได้ค่ะคุณหมอ”
“ว๊า คุณหมอตะวันไม่อยู่ น่าเสียดายจัง”
“ส้ม สำรวมหน่อย”
“อะไรละน้ำ กระทุ้งอยู่ได้เป็นบ้าอะไร”
“เอาละ บอกไว้อีกอย่าง กฎระเบียบของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ อ่านและจำให้ขึ้นใจอย่าสร้างความวุ่นวายและอย่าเสียมารยาท..กับคุณหมอ และขอเตือนว่าอย่าได้ถามเรื่องส่วนตัวกับคุณหมอเป็นอันขาด”
พวกเธอเดินกลับเข้ามาในห้องทำงานและนั่งอ่านกฎระเบียบของโรงพยาบาลรวมไปถึงงานที่ต้องแบ่งหน้าที่กันดูแล ส้มเริ่มอิดออดและรู้สึกว่าเบื่อกับการที่จะต้องดูแลระบบนี้ขึ้นมา
“แย่จังเลย เรื่องอะไรต้องมาทำหน้าที่เฝ้าเครื่องส่งฉี่ละเนี่ย เฮ้อ”
“นี่ตันหยงเที่ยงนี้ไปกินข้าวที่ไหนเหรอ”
“นัดกับแคทเอาไว้ว่าจะลองไปกินที่ห้องอาหารน่ะ ไปด้วยกันไหมกิต”
“เอาสิ ๆ พวกเธอละ ไปไหม”
“ไป ๆ เราไปด้วย”
“นี่พวกเธอไม่เบื่อบ้างเหรอ อยู่ในโรงบาลทั้งวันแล้วยังต้องกินข้าวในห้องอาหารโรงบาลอีก ไม่เอาด้วยหรอก เหม็นกลิ่นยาฆ่าเชื้อ ไปกินข้างนอกดีกว่าอยากกินสเต๊ก”
“เราไปด้วยนะตันหยง”
“น้ำ!!”
ส้มมองหน้าเพื่อนที่จู่ ๆ ก็จะทิ้งเธอไปกับตันหยง ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้คอยตามเธออยู่ตลอดเวลา น้ำหันมามองหน้าส้มที่ยังไม่พอใจและเอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก
“ส้ม เราว่าจะลองกินที่นี่ดู มันสะดวกและไม่เสียเวลา อีกอย่างช่วงนี้คงต้องรัดเข็มขัดเรื่องการใช้จ่ายแล้วด้วย”
“แต่ว่า..แค่สเต๊กเองนะ”
“ไม่ละ เราไม่ไป ส้มไปเองเถอะนะมื้อนี้เราขอตัว ไปกันเลยไหม”
“ไปสิ”
ส้มถูกเพื่อนทิ้งเป็นครั้งแรก เธอเริ่มหันมามองหน้าตันหยงและเริ่มไม่พอใจนิด ๆ
“ตามใจพวกเธอเถอะ”
ห้องอาหารชั้น 11
“ตันหยง ทางนี้ ๆ”
แคทมาถึงก่อนแล้วและยังจองโต๊ะเอาไว้แล้ว เธอแปลกใจเมื่อเห็นเพื่อนอีกสองคนตามมาด้วย
“เธอชื่อ..น้ำ และนายก็กิตติสินะ”
“ว๊าว ยอดไปเลย แคทจำชื่อเพื่อนในคลาสแม่นจังเลย”
“แน่นอนสิ แม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกับใครแต่เรื่องจำชื่อคนน่ะเราแม่นมากเลยละ เอาละไปสั่งข้าวกันเถอะ อาหารที่นี่น่ากินทุกอย่างเลย”
พวกเขาผลัดกันไปสั่งอาหาร ตันหยงกับแคทนั่งรอน้ำและกิตที่เดินไปซื้อข้าวอยู่ที่โต๊ะและเริ่มแลกเปลี่ยนกันว่าแต่ละคนได้ดูแลเรื่องอะไร
“ก็ดูไม่น่าเบื่อดีนะ แต่ออกจะเหมาะกับคนที่ใจแข็งนิดหนึ่ง เพราะคนไข้ที่เข้ามาแต่ละคนคือ…ช่างเถอะ ว่าแต่เห็นพวกนั้นคุยกันว่าหมอที่แผนกหล่อมากเลยนี่ เจอหรือยังละ ที่แผนกฉุกเฉินมองใครก็เหมือนกันหมดเพราะทุกคนใส่แต่แมส”
“เป็นความบังเอิญที่วินาศสันตะโรเลยละแก”
“ว่ายังไงนะ แกจะบอกว่า….”
ตันหยงกระซิบบอกบางอย่างกับแคทจนเธอตกใจจนหลายคนเริ่มหันมามอง
“แก โลกมันกลมหรือพรหมลิขิตละนี่”
“พรหมลิขิตบ้าอะไร เขายังไม่เห็นหน้าฉัน จำไม่ได้และ…บุคลิกนั่นผิดกับที่เคยเจอเลย เขาด่ายัยส้มไปชุดใหญ่ที่เดินไปถามเขาเรื่องเอกสาร”
“แกแน่ใจนะว่าเขาจะจำแกไม่ได้”
“แก อยากสลับแผนกกับฉันไหม”
“เอ้อ…ถ้าเป็นก่อนหน้านี้คงได้แหละ แต่ตอนนี้รายงานตัวแล้วนี่”
""เฮ้อ….""
“ถอนหายใจอะไรกันทั้งสองคน ไปเถอะ อาหารน่ากินมากเลยเดี๋ยวเราเฝ้าโต๊ะให้ เราซื้อเสร็จแล้ว”
“เอาวะ กองทัพเดินด้วยท้อง ไป”
กิตมองหน้าสองสาวที่เรียกความฮึดขึ้นมาอย่างน่าประหลาดจนเขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อทั้งคู่เดินออกไปเลือกอาหาร ซึ่งเรียกได้ว่าเรียกความสนใจให้คนที่ห้องอาหารได้มากพอสมควรเพราะทั้งคู่เป็นนักศึกษาที่หน้าตาดี
แคทแม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งดาวคณะหรือดาวมหาลัยแต่เธอแค่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลยไม่ได้ลงแข่งเท่านั้น ตันหยงเองก็เช่นกัน
“นี่ ดูสิ น่ารักมากเลยว่ะ”
“อ๋อน้องคนนั้นอยู่แผนกฉุกเฉิน”
“ไม่ อีกคนสิคนที่ผมสั้นนั่นน่ะ ขาวอย่างกับเจ้าหญิงหิมะ”
“ไม่รู้ว่ะ”
“เหมือนจะอยู่ชั้นสี่ หรือชั้นเจ็ดนี่แหละ”
“ต้องสืบ ๆ”
“พอเถอะ จัดการในสต๊อกให้เรียบร้อยก่อนเถอะ”
ดูเหมือนว่าสองคนที่ถูกพูดถึงจะไม่รู้เรื่องเลยว่าในตอนนี้พวกเธอล้วนเป็นที่พูดถึงทั้งโรงพยาบาล
สองสัปดาห์ผ่านไป
“โอ๊ย ไม่ไหวแล้วนะ วันๆใช้แต่เอาเอกสารไปให้คนโน้นคนนี้ นี่มันงานอะไรกัน”
“ส้ม เราเป็นแค่เด็กฝึกงาน เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำเถอะน่า”
“นั่นสิครับ ทุกงานก็สำคัญหมดนั่นแหละ”
“นี่พวกเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ ตันหยง เธอเองก็ยอมทำงานเบ๊นี่เหรอ”
“เบ๊ ส้มเธอก็พูดเกินไป งานทุกงานมันก็เกี่ยวข้องกันทั้งนั้นแหละ”
“ใช่สิ เธอไม่เคยเอา…อีพวกนั้นไปส่งที่ห้องแล็บนี่”
“ก็เครื่องไม่เคยมีปัญหานี่ แล้วจะให้ฉันเอาไปส่งได้ยังไง”
“ย่ะ ไม่ต้องอวดก็ได้มั้งว่าเก่งน่ะ”
“ส้ม เราว่าไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ”
“แหมน้ำ พอมีเพื่อนเรียนเก่งเป็นเด็กเนิร์ดนี่เถียงเก่งขึ้นเยอะเลยเนอะ”
“ว่าไงนะ พูดใหม่สิ”
“ทำไม เธอมีปัญหาอะไร”
“ตันหยง”
วิชุดาเข้ามาห้ามสงครามครั้งนี้ได้ทัน เธอสังเกตถึงความผิดปกติได้ในทันทีแต่ก็ไม่พูดออกมา
“ตันหยง ออกมานี่หน่อย”
“ค่ะพี่ออย”
ตันหยงยังมองส้มอย่างไม่พอใจเมื่อเดินตามออยออกไป ก่อนถึงเค้าน์เตอร์ ออยจึงหันมา
“เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะก็แค่เรื่องไร้สาระ พี่ออยมีอะไรให้หยงทำเหรอคะ หยงกำลังเบื่อเลยค่ะ”
“อะไรกัน คนอื่นชอบบ่นว่าไม่ใช่หน้าที่โปรแกรมเมอร์ แต่เรากลับของานทำเหรอ”
“อย่าพูดถึงเลยค่ะ ว่าแต่พี่ออยมีอะไรเหรอคะ”
“มานี่สิ มาดูคอมพิวเตอร์ให้พี่ทีสิพี่จนปัญญาแล้วละ”
ออยรู้ดีว่าตันหยงเก่งเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยให้ตันหยงช่วยกู้ไฟล์ข้อมูลที่พยาบาลเผลอลบกลับมาได้จนหมด แต่ตันหยงบอกให้เธอเก็บเป็นความลับเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน ๆ ที่ฝึกงานด้วยกัน โดยเฉพาะส้ม“พี่ออย นี่คอมพิวเตอร์ของใครคะ”เธอถามเพราะเธอไม่เคยเข้ามาในห้องนี้มาก่อน เป็นห้องทำงานส่วนตัวที่ดูหรูหรามากกว่าห้องของคุณหมอคนอื่น ๆ และอยู่ด้านในสุด“ห้องคุณหมอตะวัน คอมคุณหมอมีปัญหาตั้งแต่เมื่อคืน ทีนี้ปัญหามันคือข้อมูลคนไข้อยู่ในนี้ถูกลบออกไปหมดเหมือนโดนไวรัสน่ะ แล้วถ้าจะให้พวกพี่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลทีละคน คงใช้เวลาเกือบสองปีละมั้ง”“รายชื่อคนไข้ มีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“ก็มากอยู่ หมอตะวันเป็นหมอที่เก่ง ตอนนี้เขามีสอนที่มหาวิทยาลัยเป็นอาจารย์พิเศษ ยังไม่กลับเข้ามา ถ้าเขารู้ว่าคอมมีปัญหาละก็….เฮ้อ…คอพี่ขาดแน่”“เดี๋ยวหยงลองดูให้นะคะ…ไหนดูซิว่าใครกล้ามายุ่งกับคอมของพ่อตัวร้าย”“หืม พ่อตัวร้ายเลยเหรอ หยงกับหมอไม่เคยพบกันนี่”“วันแรกไงคะ คุณหมอตวาดส้มจนหน้าหงายจนทุกคนขยาดเลยละค่ะ”“อ๋อ วันนั้นนั่นเองที่จริงวันนั้นคุณหมออารมณ์เสียมาก่อนน่ะ เพราะ….เรื่องในข่าว”“ข่าว..พี่ออ
ทุกคนแยกย้ายเข้าไปพักในห้องของตัวเอง คืนนี้พวกเขาดื่มหนักกันมาก แม้แต่ตันหยงเองก็ถูกพี่ ๆคะยั้นคะยอให้ดื่ม ซึ่งเธอคออ่อนมากดื่มแค่สองแก้วก็เดินตาเบลอแล้ว“ห้อง หนึ่ง…หนึ่ง…สอง….สาม อยู่นี่เอง”เธอมองเลขห้องและเห็นว่าประตูไม่ได้ปิดไว้ เธอรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยแต่คิดว่าโรงแรมระดับนี้คงไม่มีอะไร เธอคงลืมปิดให้สนิทตอนออกไป ตันหยงเปิดประตูเข้าไปและปิดล็อกทันที“ห้องทำไมดูแปลก ๆ ไปกว่าเดิมละเนี่ย”เธอเดินไปเปิดม่านดู แต่ข้างนอกนั้นมืดสนิท เห็นเพียงแสงไฟบางดวงที่ชายหาดด้านล่างและสระว่ายน้ำในโรงแรมเท่านั้น เธอนั่งมองดูทิวทัศน์ที่ไม่ต่างกับตอนเข้ามาเท่าไหร่จนไม่ได้สังเกตเสียงน้ำในห้องน้ำ เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมา ตันหยงยังคงนั่งเหม่ออยู่ที่เดิม“นั่นใครน่ะ”“หืม…ใคร ทำไม”ตันหยงนั่งอยู่ในความมืด เสียงที่ทักเธอเป็นเสียงผู้ชาย ตอนนี้เธอเริ่มเมาและแยกไม่ออกว่ากำลังฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริง สาวน้อยเดินโซเซเข้ามาจนคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำรู้สึกสยอง นี่เขาโดนผีหลอกงั้นเหรอ“หืม ว่าไง ใครมีปัญหา”“คุณ…นี่คุณเมาแล้ว…”“เมา ใครเมา ฉันไม่เมา ยังดื่มได้อีก มา ๆๆ ดื่ม ๆ เหล้ายังเหลืออีกเยอะเลยพี่ออย สั่งเหล้
ตันหยงรีบลุกขึ้นจากเตียงในทันทีด้วยความตกใจ เธอรู้สึกว่าขาไม่มีแรงแม้แต่จะยืนและตกใจมากกว่านั้นเมื่อมีของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากช่องคลอดของเธอ“นี่มัน….”เธอพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นและเริ่มสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ พยุงตัวออกไปที่หน้าห้องโดยไม่หันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงเลยเมื่อมองลอดตาแมวออกไปพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอก เธอรีบเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็วและมองหาห้องของตัวเอง เธอรีบเปิดประตูและเข้าไปในห้องและลงกลอนแน่นหนาพร้อมกับพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงไปที่เตียงพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น“ไอ้บ้า ไอ้คนเลว…..”แต่เธอก็จะโทษเขาไม่ได้ เมื่อคืนนี้เป็นเธอที่เข้าห้องผิดไปหาเขาเอง ความทรงจำบางอย่างเริ่มผุดขึ้นมา ก่อนหน้านั้นเป็นเขาที่เริ่มก่อน แต่พอจบรอบแรกไปแล้ว“อ๊าา….อื้มมม”“อะไรกัน คุณยังไหวงั้นเหรอ”“ไหวสิ คุณจะหยุดแล้วเหรอไหนบอกว่าจะทำให้มีความสุขไงละ อ๊ะ อื้ออ…”ลิ้นของเขาพุ่งไปจัดการหน้าอกอวบทันทีที่เธอกล่าวท้าทาย ตันหยงจำได้เช่นกันว่าเธอเป็นคนท้าทายเขาและยังเป็นคนขึ้นขย่มบนตัวคุณหมอหนุ่มเองด้วยในรอบสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะหมดแรงและนอนหลับไป เธอยังสั่งให้เขากอดเธอเอาไว้ในตอน
เมื่อเธอซื้อของเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาจนชนเข้ากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อขอโทษเขาเพราะเธอมัวแต่เดินก้มหน้า“ขอโทษค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ นี่ยาคุณตกแล้ว”“ขอบคุณค่ะ”เขาหยิบยาใส่ซองให้เธอเมื่อเธอรีบรับและรีบเดินออกไปเขาจึงเดินไปที่เค้าน์เตอร์ยา“เอายาคุมฉุกเฉินครับ”“ได้ค่ะ”เมื่อเภสัชกรประจำร้านอธิบายการใช้งานแล้วเขาก็เดินและดูแผงยานั้นทันที เขารู้สึกแปลกเพราะเมื่อครู่ เด็กสาวคนนั้นเองก็พึ่งซื้อยาแบบเดียวกับเขาไป เธอดูคุ้นหน้าคุ้นตาแต่นั่นไม่ใช่ธุระของเขา “ยาที่สั่งครับ”“ที่สั่งไว้ทำหรือยัง”“กำลังตรวจสอบอยู่ครับ”"เอาละ ออกไปก่อนเถอะ"“ครับ”หมอตะวันเดินลงไปที่ห้องอาหารเช้าที่จัดเอาไว้สำหรับเฉพาะของโรงพยาบาล โรงแรมนี้ก็เป็นธุรกิจของแม่เขาเช่นกันเขาถึงได้เลือกที่นี่ให้เจ้าหน้าที่และเด็กฝึกงานมาพักที่นี่“คุณหมอตะวัน”“ขอโทษทีนะครับเมื่อคืนผมกลับมาไม่ทัน คืนนี้ก็เต็มที่กันอีกครั้งนะครับ”“ค่ะ ขอบคุณนะคะเมื่อคืนนี้อาหารดีมากเลยค่ะ”“ยินดีครับ ดีใจที่พวกคุณชอบเชิญตามสบายนะคะ”ส้มดูจะตื่นเต้นมากกว่าใครเมื่อเห็นหมอตะวันเดินเข้ามา เธอทำราวกับอยากแสดงตัวเต็มที่ว่าเป็นใครแต่ก็ไม
“คุณส้มครับ!!”พิภพเอ่ยปรามเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยรู้ว่าคุณหมอตะวันนอกจากจะเป็นหมอแล้วเขายังเป็นนายน้อยหมื่นล้าน ทายาทนักธุรกิจอันดับต้น ๆ ของประเทศ ไม่ต่างกับมาเฟีย รอยยิ้มร้ายนั้นส่งมาให้เธออีกครั้ง“นี่ จะบอกให้นะ หากคุณบอกเรื่องนี้ออกไป คุณคิดว่าคนอื่นจะมองผมหรือคุณว่ายังไง เดิมทีผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ผู้หญิงที่ผมควงไม่มีทางเป็นคนกระจอกเลยสักคน คุณถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานพวกนั้นมากเมื่อเทียบกับพวกเธอ แล้วที่สำคัญถ้าคุณกล้าพูดเรื่องนี้ไปจริง ๆ เกรงว่านอกจากจะไม่มีใครเชื่อแล้ว จะมองว่าคุณมันง่ายมากกว่า ผมไม่รับประกันนะว่าใครกันแน่ที่จะเสียเปรียบ คุณจะลองดูก็ได้”ส้มนั่งตัวเกร็งเพราะความโกรธและโมโห แม้ว่าจะเคยรู้ว่าเขาปากร้ายแต่นี่มันเกินไปแล้ว คำพูดที่เอาแต่ดูถูกและไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้เขายังพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ในตอนนี้เธอเองก็ไม่มีอะไรที่จะใช้เป็นแต้มต่อกับเขาได้เลย“เอาละ พิภพ จากนี้ก็ฝากด้วยนะ ผมจะกลับไปนอนเอาแรงหน่อย”“ครับ”ส้มนั่งกัดฟันอยู่ที่โต๊ะและกำหมัดแน่นโดยที่ไม่กล้ามองหน้าพิภพที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ“คุณครับ พวกคนอื่น ๆ รอคุณอยู่”“ฉันไม่อยากไป ฉันจะกลับห้อง”“ไม่ได้ครับ
ตันหยงเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์แต่เขากลับทำหน้าเป็นเชิงถามว่า“ทำไมละ มีปัญหาเหรอ” ส่งกลับมาให้เธอ ตันหยงอยากจะผลักเขาออกไปแต่พื้นที่ในลิฟต์แคบจนทำให้เธอขยับไม่ได้เลยจนถึงชั้นหนึ่งของโรงแรม ทั้งคู่ต้องรอให้ครอบครัวนั้นออกไปจนหมดถึงเดินออกไป“เดี๋ยวก่อน นั่นคุณจะไปไหน”“คุณหมอคะ เรื่องนี้คิดว่า….”“พอดีผมว่าจะชวนไปกินข้าวน่ะ ผมหิว เมื่อกี้นี้เหมือนได้ยินเสียงท้องคุณร้อง คุณก็น่าจะลงมาหาอะไรกินใช่ไหมล่ะ”“ค่ะ ฉันคิดว่าจะหากินอะไรง่าย ๆ แถวนี้ดีกว่า สะดวกดีที่สำคัญ..”“ดีเลย ไปเถอะผมรู้จักร้านอร่อย ๆ ไปเป็นเพื่อนหน่อย”“เดี๋ยว นี่คุณ…คุณหมอคะ คือว่า...หยงไม่สะดวก...”ตันหยงถูกเขาดึงมือเดินออกไปยังที่จอดรถด้านหลัง เดิมทีตะวันคิดว่าจะออกมาเดินเล่นริมหาด แต่พอเจอเธอเข้าเขาเลยเปลี่ยนแผนนิดหน่อยและดึงกุญแจรถมาจากมือของพิชิต เขาเปิดรถหรูและเปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถแต่ตันหยงมีเหรอจะยอมง่าย ๆ“จะไปไหนเหรอคะ”“ไปกินข้าวไงถามได้ ขึ้นไปสิ ที่นี่ไม่มีเพื่อนหรือคนในแผนกหรอก เอาละรีบไปเดี๋ยวจะหิวตายซะก่อน”“เดี๋ยวสิคะ หยงบอกแล้วว่า…”เขาไม่ฟังเธอและดันเธอเข้าไปนั่งในรถและดึงเข็มขัดมารัดเธอพร้
คำถามนี้ทำเอาคนที่ถูกถามนิ่งไปเลยทีเดียว เขานึกสนุกกับท่าทางของเธอจนแทบจะทนไม่ไหว อยากจับคนข้าง ๆ มาหอมเสียเหลือเกินผิดแต่ว่าในตอนนี้เขาและเธอไม่ได้นับว่าเป็นอะไรกันเขาเองก็ยังไม่อยากบอกเธอว่าเขารู้แล้วว่าคนเมื่อคืนนี้คือเธอเพราะกลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับ เขาต้องเอาชนะใจเธออย่างน้อยครึ่งหนึ่งก่อนที่จะบอกเธอ“เป็นอะไรไป ถ้าคุณไม่ชอบกินกุ้งก็กินปูนี่สิ ผมสั่งมาด้วย โน่นก็ปลาหมึก หรือว่าหมดนี่คุณไม่อยากกินเลย จะกินแต่ต้มจืดงั้นเหรอ ไม่เอาน่า มาทะเลก็ต้องกินซีฟู้ดสิ”“ไม่ใช่ค่ะ กินค่ะ กินเดี๋ยวนี้เลยหยงก็แค่…จะแกะให้คุณหมอก่อนแล้วค่อยกิน”“ไม่ต้องหรอก ผมเห็นคุณทำแล้วเดี๋ยวคุณมัวแต่แกะให้ก็ไม่ได้กินพอดี เอาสิลองกินนี่หน่อย หมึกผัดไข่เค็มที่นี่ถือว่าใช้ได้เลย”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”เขาตักอาหารให้เธอหลายอย่างเพราะเห็นเธอไม่ค่อยกินอะไร ตะวันไม่อยากทำลายบรรยากาศที่กำลังดีแบบนี้ ตันหยงเองก็กินทุกอย่างที่เขาตักให้ มาในตอนนี้กลายเป็นเขาที่แกะกุ้งให้เธอกิน“พอแล้วค่ะคุณหมอ หยงเริ่มอิ่มแล้วค่ะ”“น้ำส้มนั่น รีบกินสิปล่อยเอาไว้นานจะไม่อร่อย”“ค่ะ ๆ”เขาพูดและบอกให้เธอกินตามราวกับเป็นฝ่ายโภชนาการ ตันหยงได้แต่
ตะวันไม่ได้ตอบเธอแต่ลอบยิ้มในใจ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างระวังตัว แน่นอนว่าจะต้องมีคนที่คอยดูเวลาที่เขาเจอเรื่องและต้องถ่ายคลิปเอาไว้ตลอดเวลา และอยู่ที่เขาอีกเช่นกันที่จะให้ปล่อยคลิปนั้นหรือเปล่า เรื่องนี้มีแต่เขากับพิภพเท่านั้นที่รู้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ใช้วิธีนี้กับหลาย ๆคนที่เขาสลัดไม่หลุด“ทำไมคุณหมอยิ้มแปลก ๆละคะ”“ทำไมมาสงสัยผมซะแล้วล่ะ ผมอิ่มมากก็เลยอารมณ์ดี ไม่ได้เหรอ”“ยิ้มแบบนั้นมันน่าสงสัยชัด ๆ”“เอ๊าคุณ ผมยิ้มก็ไม่ได้เหรอแปลกคนจริง ๆ”“ที่จริงคุณหมอยิ้มแบบนี้แล้วหล่อดีออกนะคะ ทำไมตอนอยู่โรงพยาบาลเอาแต่ทำหน้ามุ่ย”“หน้ามุ่ยงั้นเหรอ คุณมองเป็นแบบนั้นเหรอ”“ไม่ใช่เฉพาะหยงค่ะ ทุกคนก็เห็นเป็นแบบนั้นแหละค่ะ คุณดูไม่ได้เป็นกันเองแบบนี้นี่คะ”“แล้วก่อนหน้านี้ ผม..ดูเป็นยังไง”“ดุ โหด ไม่เป็นมิตร ไม่น่าเข้าใกล้”“น่ารังเกียจขนาดนั้นเลย แย่จัง”“ไม่ได้แย่หรอกค่ะ มันเหมือนกับว่าคุณหมอมีกำแพงหนาที่มองไม่เห็น แยกตัวคุณออกจากคนอื่น ๆ ก็เท่านั้นเอง”“โดยปกติงานที่โรงพยาบาลจะเครียดมาก การดูแลชีวิตคนเป็นสิ่งที่กดดันสำหรับหมออย่างพวกเรา ดังนั้นบางทีผมก็อาจจะเผลอทำแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว คุณพูดมาก็ดีแล
“คุณพ่อครับ ตันหยงพึ่งจะเรียนจบเองนะครับ งานแต่งก็ยังอีกสี่เดือนกว่าจะจัด เรือนหอก็ยังตกแต่งอยู่”“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย มีหลานก่อนก็ได้นี่นาหรือว่าอาหยง กลัวว่าจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยงั้นเหรอ ไอหยาไม่ต้องกลัวหรอกยังไงหลานสะใภ้ปู่ก็สวยอยู่แล้วละน่า”“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะคุณปู่ คือว่า….”“คุณปู่ครับ ผมรู้หน้าที่ดีน่า คุณปู่อยากได้หลานกี่คนก็มาบอกผมสิ ผมเป็นคนทำนะไปขอตันหยงทำไมกันแล้วก็พวกคุณปู่กับพ่อใช้งานเมียผมให้น้อย ๆ หน่อยสิครับพวกเราจะได้มีเวลาทำหลานให้เยอะ ๆ หน่อย นี่อะไรใช้งาน หยงอย่างกับพนักงานของบริษัท ดูสิผอมไปหมดแล้วเนี่ย ชุดต้องแก้อีกแล้ว”“ไอ้นี่มันขี้บ่นได้แม่จริง ๆ เลย”“คุณคะ พูดดี ๆ นั่นก็ลูกคุณเหมือนกันลองพูดใหม่สิว่าเหมือนใคร”“เหมือนผมเอง เหมือนผม ๆ ตกลงไหม”“โธ่พ่อ ต่อหน้าแม่ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที”“นี่ แกหัดเรียนรู้เอาไว้บ้างก็ดี เชื่อเมียไว้ชีวิตจะสบาย”“งั้นเหรอครับพ่อ เพราะเมียจะทำแทนเราเหรอ”“ไม่ใช่ จะได้ตัดเรื่องน่าเบื่อ แกอยากนั่งฟังเมียบ่นทั้งวันงั้นเหรอ”ตะวันหันไปยิ้มให้พ่ออย่างรู้ใจกันพร้อมกับหันไปที่ตันหยงและแม่ของเขาที่กำลังจัดแจงอาหารว่างในวันนี้“ว่าแต่เรือนหอแก
ตันหยงเบียดบั้นท้ายบดกับกลางลำตัวของคู่หมั้นหนุ่มเมื่อเขาเริ่มจัดการกับกางเกงในลูกไม้สีขาวชิ้นสุดท้ายและฝังจมูกไปที่บั้นท้ายของเธอ“อื้อ…หมอ ทำอะไร”“ยืนดี ๆ สิ แอ่นตัวหน่อย หอมมากเลย ตันหยง”เขาใช้เวลาสำรวจกลีบคู่งามจากด้านหลังซึ่งปกติไม่เคยทำ แต่วันนี้เขาเห็นว่าเธอตื่นเต้นกับบรรยากาศใหม่ ๆ บนเรือ เลยอยากทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อเพิ่มความตื่นเต้น“อ๊าา หมอ อย่าเลียแบบนั้นมันเสียว…อร๊อยย อ๊าา ทนไม่ไหวแล้ว ที่รักคะ”“หวานมาก ดูน้ำนี่สิ ตันหยง คุณชอบแบบนี้เองเหรอที่รัก”“อ๊าาา เร็วเข้า หยงต้องการมัน เอาเข้ามาเร็ว ๆ ที่รักคะได้โปรด”“ขอเลียอีกหน่อย”“อ๊าาาา หมอ…..อย่าเล่นแบบนี้ อ๊าาา”“ไม่เล่นแล้วก็ได้ ผมก็ไม่ไหวแล้ว”เขาเริ่มสอดใส่จากด้านหลังทันที ตันหยงแอ่นรับเขาได้ถูกจังหวะ เขาจึงสอดกายเข้าไปโดยง่ายมือของเธอดันที่กระจกและส่งเสียงร้องที่เร้าอารมณ์มากกว่าทุกครั้ง เขาคิดถูกแล้วที่พาเธอออกมาข้างนอกบ้าง อย่างน้อยเธอก็ยอมให้เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนอย่างว่าง่าย“หมอคะ อ๊าาา อื้อ….”ลิ้นหนาเอื้อมไปทักทายเธออีกครั้ง ตันหยงหันมารับพร้อมกับกอดรอบคอของเขาเอาไว้แน่นเพราะเธอต้องเอี้ยวตัวกลับ
“ก็…หยงก็รู้นี่ เราเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้าง คืนนี้พักที่นี่นะ”“แต่ว่าคุณไม่บอกหยงสักคำว่าเราจะค้าง หยงไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย”“ผมเตรียมมาให้หมดแล้ว”“คุณทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ”“เอาน่า โปรแกรมนี้ผมจัดเตรียมเพื่อคุณเลยนะ ไม่ต้องห่วงงานของคุณพ่อหรอก ผมลางานให้คุณแล้วบอกว่าคุณเองก็ต้องพักผ่อนสายตาบ้าง”“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ หยงไม่ได้อยากจะมาสักหน่อย”“ผมไม่อยากให้คุณหักโหมมากเกินไป ยังไงคุณก็ยังเป็นเด็กมหาลัยอยู่นะ”“แต่คุณก็น่าจะบอกหยงก่อนนี่คะ”“โกรธเหรอ”เขาเดินมายืนซ้อนด้านหลังของเธอและกอดตันหยงที่จับราวระเบียงเรือเอาไว้ เธอพึ่งรู้ตัวว่าเรือจอดแล้ว“หมอคะ อย่าทำรุ่มร่ามสิคะคนเยอะแยะ”“นี่เรือส่วนตัว กลัวอะไรถึงมีคนก็อยู่เรือลำอื่นต้องสนด้วยเหรอ”“หมอคะ นี่คุณวางแผนอะไรอยู่กันแน่คะ”ตันหยงหันมา ในเมื่อหนีไม่ได้ก็เผชิญหน้าไปเลย เขาบอกเองว่านี่เรือส่วนตัว ถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าที่นี่มีเพียงแค่พวกเขากับคนขับเรือ แต่เมื่อครู่ตันหยงเห็นว่ามีเรือเล็กมารับคนขับกลับไปแล้ว“ผมไม่พาคุณมาขายหรอก หิวหรือยังไปกินข้าวกัน”“ค่ะ”ตะวันพาเธอเดินมาที่ด้านในที่มีโต๊ะอาหารวางอยู่ อาหารเย็นเตรียมเอาไว้สำหร
เขายกน้องชายที่ยังแข็งแกร่งอยู่ในมือให้เธอดู ตันหยงพลิกตัวหันไปคร่อมบนตัวเขาเอาไว้และเริ่มใช้ลิ้นกับปลายยอดอกสีเข้มตรงหน้า เธอเองก็ไม่ปิดบังความคิดถึงเอาไว้แล้วเช่นกัน“อาา หยง อย่าเร่งสิ ผมจะทนไม่ไหว อาจจะเผลอทำรุนแรง…”“คิดว่าแรงได้คนเดียวงั้นเหรอคะ หมอคะหยงคิดถึงหมอนะคะ”“ยอมสารภาพมาแล้วเหรอเด็กดื้อ กว่าจะพูดออกมาต้องรอให้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ”“ก็หยงกลัวว่าคุณ….”“ผมที่คุณเคยเจอครั้งแรกกับตอนนี้คนละคนกันแล้วนะ ไม่เชื่อจะพิสูจน์ให้ดู”“อ๊ะ อย่าค่ะ หยงขออยู่ข้างบนบ้าง อ๊าา หมอ มัน…แน่น จุก อ๊าาา หมอ!! เสียว อร๊ายยย”หยงเริ่มขยับเอวเล็ก ๆ แต่เซ็กซี่จนตะวันเริ่มหน้าแดงก่ำเพราะทนไม่ไหวกับการยั่วยวนแบบนี้ไม่ได้ เขาแพ้เธอทุกครั้งกับท่านี้ และมักจะทนได้ไม่นานเพราะมันทั้งเสียวและเร้าอารมณ์เป็นที่สุด “หยง โน้มลงมาหน่อย อยากกินนม”“อ๊าา ดูดแรงกว่านี้หน่อยค่ะ อ๊าา นั่นแหละที่รัก อ๊าา เด้งรับหน่อย อื้อ…ไม่ไหว จะแตก หมอคะ อ๊าา”“หยง…ตันหยง เมียจ๋า อาา…..เสียวมาก พอก่อน ท่านี้ไม่ไหว หันหลังไป”“แต่ว่า…หยงอยากมองหน้าหมอ”“แต่ผมจะทนไม่ไหว ขอท่านี้ก่อน คิดถึง”“หมอบ้า!!”“ทำไม ท่าหมามันเร่งอารมณ์คุณสิ
ตะวันวิ่งเข้ามาในห้องเพราะเธอไม่ได้ล็อกประตูเพราะนี่ยังไม่ห้าโมงแต่ว่าข้างนอกเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเขาตัวเปียกเพราะรีบวิ่งลงจากรถและวิ่งเข้ามาในบ้านนึกเอาไว้แล้วว่าเธอคงจะกลัวแต่ไม่คิดว่าจะมากขนาดนี้ ร่างบางโผเข้าหาเขาทันที ตัวเธอสั่นเป็นลูกนกที่ตกจากรังหาแม่ไม่เจอ เขาไม่ควรปล่อยให้เธออยู่คนเดียวแบบนี้เลย“หยง ผมมาแล้วไม่ต้องกลัวนะ”“ฮือ…คุณไปไหนมา กรี๊ด!! ฟ้า…ฟ้าผ่าอีกแล้ว”เสียงฟ้าผ่าทำให้เธอกรีดร้องอีกครั้ง เธอกอดเขาเอาไว้แน่น หัวใจเธอเต้นแรงจนเขากลัวว่าเธอจะช็อกเพราะความตื่นกลัว เธอในตอนนี้เหมือนกับเป็นโรค แพนิกจนเขาต้องกอดเธอเอาไว้แน่นพร้อมกับลูบหลังเธอพลางปลอบ“ไม่ต้องกลัวนะผมอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะหยง ได้ยินผมไหมพยักหน้าให้ผมหน่อย”เธอทำตามที่เขาบอกแต่ตัวยังสั่นอยู่จนเขาไม่ค่อยวางใจ ภาพที่เขาวิ่งเข้ามาเห็นคือเธอซุกตัวกอดเข่าอยู่มุมห้องและกรีดร้องจนน่าสงสาร เขาจะกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วแต่ว่างานยังไม่เสร็จก็เลยต้องมาในวันนี้ “หยงกลัว กรี๊ด!!!”“หยง ผมอยู่นี่มองหน้าผมเอาไว้ มองสิหยงอย่าหลับตา ตั้งสติก่อนหายใจเข้าลึก ๆ เชื่อผม ผมช่วยคุณได้”เขาเอามือปิดที่หูของเธอ ตันหยงค่อ
“แต่นั่งแบบนี้มันอึดอัด ขยับไปนั่งตรงโน้น”“แต่ผมอยากนั่งใกล้ ๆ คุณนี่ จะได้แกะกุ้งให้คุณด้วย”“เอาแต่ใจไม่เปลี่ยน”“ใครใช้ให้คุณมีเสน่ห์เกินไปละ ผมถึงได้คลั่งรักคุณขนาดนี้ ช่วยไม่ได้ละนะ”“ปากเปราะ”“พูดจริง ๆ ไม่เชื่อเหรอลองชิมก็ได้นะ”“อาหารมาแล้วครับ”เสียงของบริกรที่เคาะประตูทำเอาอารมณ์ของตะวันเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที “กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว”ตันหยงขยับออกมาและรอให้บริกรนำอาหารที่เขาสั่งวางบนโต๊ะจนหมดและขอตัวออกไป ปล่อยให้ทั้งคู่ได้มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกด้วยกัน“ที่จริงห้องที่คุณพักอยู่ตอนนี้ก็เห็นพระอาทิตย์ตกดินเหมือนกันนะ คุณไม่เคยดูเหรอ”“ไม่ค่ะ หยงปิดม่านไว้ตลอดเลย”“ทำไมละคงไม่คิดว่าจะมีใครส่องคุณจากกลางทะเลหรอกมั้ง คุณไม่รู้เหรอว่าที่วิลล่านั่นมีอุปกรณ์ช่วยตรวจจับการสอดส่องจากข้างนอก”“รู้สิคะ แค่ไม่อยากให้สมาธิว่อกแว่กเท่านั้น แล้วก็กลางคืน….”“คุณกลัวผีเหรอ”“คุณหมอคะ อย่ามาล้อเล่น”“ให้ตายสิ เรื่องจริงเหรอ”“กินข้าวสิคะ ไหนบอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ”เขาหันมายิ้มให้กับคนข้าง ๆ ดีละเขารู้จุดอ่อนเธอแล้ว และรู้แล้วว่าคืนนี้จะทำยังไงให้ได้เข้าไปในห้องนอนนั่น เขาแกะกุ
“แต่ไม่ผิดที่หยงจะสงสัย”“ไม่เลยคุณไม่ผิด เป็นผมก็คงคิดแบบนั้น”“ก่อนหน้านั้นตัวพวกคุณแทบจะติดกันเป็นแฝดสยาม”“นั่นเพราะเธอช่วยในการผ่าตัดองค์ชายของบารามัสที่ถูกยิงเฉียดกะโหลกมา ผมกับศัลยแพทย์อีกสองคนต้องเฝ้าดูอาการอยู่เกือบสิบวัน ก็เลย…ไม่ค่อยได้กลับบ้าน”“วันนั้นคุณพาเธอมาที่ห้อง”“วันนั้นผมกับเธอต้องไปต้อนรับพระราชาของบารามัส ก็เลยแวะมาเอาสูทที่ห้อง เธอติดรถมาด้วยและลงรถมาเพราะบอกว่าอยากเข้าห้องน้ำ แต่นอกจากห้องน้ำแขกข้างนอกแล้ว ผมไม่ได้ให้เธอแตะต้องอะไรในห้องของเราเลยนะตันหยง”“องค์ชายที่เสด็จเยือนประเทศไทย ทำไมเกิดอุบัติเหตุ หรือว่า…”“ถูกลอบปลงพระชนม์ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเราคุณพ่อผมรับเรื่องต่อและประสานงานกับทางบารามัสแล้ว หน้าที่ผมก็จบแล้วตั้งแต่ช่วยองค์ชายให้พ้นวิกฤติผมก็ไม่มีธุระจะต้องทำงานกับอิงฟ้าอีก แต่เรื่องข่าวลือนั่น ผมเองก็พึ่งรู้หลังจากที่คุณหนีมาตันหยงคุณเชื่อผมได้ไหม”“คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ”“หยง แต่ว่าผม…”“แค่ออกไปจากห้อง หยงแค่อยากจะคิดอะไรบางอย่าง ไม่ต้องกลัวว่าหยงจะหนีหยงรับปากจะทำงานให้คุณปู่กับคุณพ่อของคุณให้เสร็จ งานพึ่งเริ่มได้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์”“งั้น…
วิลล่าหรู พัทยาเหนือตะวันรีบขับรถตรงมาจากใจกลางกรุงเทพมาถึงพัทยาในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง เขาขับมาถึงวิลล่าส่วนตัวของคุณนายศิริขวัญที่สร้างเอาไว้เพื่อพักผ่อนโดยเฉพาะแต่พักหลัง ๆ กลับไม่ค่อยได้มีคนมาพักเพราะแต่ละคนมีภารกิจส่วนตัว“คุณหมอตะวัน”“ป้าแช่ม เงียบก่อน”“เอ่อ….”“แม่บอกผมแล้ว ตันหยงอยู่ไหน”“คุณหยงอยู่ที่ห้องค่ะ น่าจะนอนกลางวันเพราะเมื่อคืนนี้เห็นคุณท่านให้ทำงานจนดึกค่ะ”“คุณท่านคนไหนละ”“คุณ…คุณปู่ของคุณหมอที่มาเก๊าค่ะ”“หึ เอาเมียผมมาซ่อนแล้วยังจะใช้งานอีกนะ ร้ายกาจมาก ป้าไม่ต้องบอกเธอเดี๋ยวผมขึ้นไปหาเธอเอง”“ค่ะ ๆ”เขาเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง ตันหยงนอนในห้องที่เขาเคยพักเมื่อมาอยู่ที่นี่ เป็นห้องที่มองเห็นทะเลและทิวทัศน์ของพัทยาเกือบทั้งหมด เวลากลางคืนจะสวยมากเพราะจะเห็นแสงไฟในเมืองอีกทั้งในทะเลก็มักจะมีเรือตกปลาหมึกหรือเรือสำราญที่จุดพลุอยู่ประจำ แต่ที่นี่เก็บเสียงหากไม่ออกไปนอกระเบียงก็จะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยตะวันเดินเข้าไป ตันหยงไม่ได้ล็อกประตู เธอเป็นแบบนี้เสมอ ไม่ค่อยระวังตัวเท่าไหร่แต่นั่นคงเพราะตอนที่อยู่กับเขาเธอเองก็ไม่ค่อยจะล็อกประตู มีเพียงครั้งเดียวก็ตอนที่อิงฟ้าไป
ตะวันหยุดภาพเอาไว้พร้อมกับโยนปึกเอกสารมาวางให้ตรงหน้าทั้งคู่ที่ทำหน้าตาตกใจราวกับถูกหมายเรียกจากตำรวจ“นี่คือเอกสารการเข้าแจ้งความของคู่กรณีของคุณ แต่เขาช้ากว่าคุณไปนิดหน่อยเพราะคุณหนีกลับมาเมืองไทยก่อนหน้านั้นแล้ว และครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ในนั้นคือรูปก่อนหน้านั้นที่คุณ….เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน ซึ่งผมเองก็แปลกใจว่าทำไมผมถึงกลายเป็นเหตุผลที่คุณจะกลับเมืองไทย”“ไม่นะคะแม่ เรื่องนี้อิง…อธิบายได้”“อธิบายอะไร แกจะอธิบายอะไร!! งามหน้าขนาดนี้ยังกล้ามาบอกว่าอยากแต่งงานกับตะวัน แกมัน….ทำไมละอิงฟ้า ทำไม!!”คุณนายรัศมีแทบล้มทั้งยืนเมื่อเห็นบางอย่างในซองเอกสารที่ตะวันนำมาให้ หากว่าอิงฟ้ายอมถอยแต่แรก เขาคงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อให้เธอหยุดรุกรานเขา แต่นี่ถึงกับลามมายุ่งวุ่นวายถึงที่บ้านและคุณแม่ของเขา เรื่องนี้ทำให้ความอดทนของเขาขาดผึงลงในทันที“พวกคุณ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ถือว่าฉันให้เกียรติพวกคุณ จากนี้อย่าได้มาให้ฉันเห็นหน้าอีกและเครื่องเพชรนั่นก็ไม่ต้องเอามาคืนอีกแล้ว มันสกปรกเกินไปที่ฉันจะเอากลับมา ออกไปเถอะ”“คุณศิริขวัญคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็ก ๆ เราเป็นผู้ใหญ่…”“คุณรัศมี คำนี้