“พอแค่นี้เหอะ แฮกระบบแล้วลบทั้งหมดซะ เอาแค่นี้พอ ค่าตบฉันไม่ได้แพงขนาดนั้น”
“นับว่านางยังโชคดีที่เจอตันหยงของเรา ถ้าเป็นฉันนะยัยนี่ไม่ได้เกิดอีกแน่”
“ยังไงเธอก็เป็นผู้หญิง เหลือทางรอดให้เธอบ้างเถอะ”
“โอเค ตามนั้น”
ตันหยงเริ่มแฮกเข้าระบบของกล้องวงจรปิดและลบภาพของนางแบบสาวตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนกระทั่งเข้าห้องไปกับนายทุนออกจนหมด แคทที่นั่งดูอยู่ได้แต่ส่ายหน้าเสียดาย
“เฮ้อ…แกจะใจดีไปหรือเปล่านะ”
“ไม่หรอก แกคิดว่าฉันจะใจดีแบบนั้นเลยเหรอ ฉันสำรองไฟล์เอาไว้อีกที่หนึ่งแล้ว เอาไว้วันไหนเธอแว้งกัดขึ้นมา วันนั้นฉันจะไม่ใจอ่อนอีก”
“ต้องแบบนี้สิถึงจะเป็นตันหยงของแท้ ว่าแต่…คุณนายคนนั้นคงหวงลูกชายมากเลยนะถึงได้ทำถึงขนาดนี้”
“แกก็เห็นเบื้องหลังแล้วนี่ ถ้าแกเป็นแม่ของเขาแกจะไม่กันผู้หญิงแบบนั้นออกจากชีวิตลูกแกเหรอ”
“ก็…นะ ที่จริงน่าจะให้เขาเห็นธาตุแท้เธอเองสิจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ คนเป็นแม่ก็ไม่น่าจะยุ่งกับชีวิตลูกชายขนาดนั้นป่าววะแก”
“พูดยาก คนรวยมักจะทำอะไรที่เราไม่เข้าใจเสมอแหละ”
“นั่นสินะ เอาละเราจะเอาระบบแฮกเกอร์ของมายแองเจิลนี่ออกจากที่นี่เลยไหม”
“ไม่ต้อง ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เก็บเอาไว้ก่อน”
“นี่เธอจ๋า นี่เป็นที่ที่แปดแล้วนะ เซิร์ฟเวอร์จะรับไม่ไหวเอานะ”
“ฉันสั่งสำรองเพิ่มให้แกแล้ว ทีนี่เลิกบ่นได้หรือยัง”
“อู๊วว เทพตันหยงจงเจริญ นี่แกเอาเงินค่าจ้างไปซื้อเซิร์พเวอร์เพิ่มเลยเหรอ”
“ในส่วนของทิปน่ะคุ้มค่าก็ลงทุน ไปก่อนนะ”
“นี่ วันนี้จะไปไหนอีกละ"
“แกลืมแล้วเหรอว่าเราเป็นนักศึกษาฝึกงานน่ะ”
“เออ จริงด้วย ไปเถอะ ๆ แต่ทำไมต้องเป็นโรงพยาบาลด้วยนะ”
“ระบบปฏิบัติการที่โรงพยาบาลที่ผิดพลาดไม่ได้ นั่นไม่ใช่การฝึกงานที่คู่ควรและท้าทายความสามารถของว่าที่โปรแกรมเมอร์หรอกเหรอ อย่าบ่นรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะ”
“จ้า ๆ ไปจ้า”
โรงพยาบาล
“สวัสดีนักศึกษาทุกคน วันนี้จะให้พวกคุณแบ่งแผนกไปรับผิดชอบตามจุดต่าง ๆ นะครับ เอาละ แต่ละคนจะมีเอกสารส่งตัวอยู่แล้ว จากนี้อีกสามเดือนก็ขอให้พวกคุณเรียนรู้ให้มากนะครับ”
""ขอบคุณค่ะ/ครับ""
“แคท แกไปที่ไหน”
“แผนกฉุกเฉิน แกละ”
“อายุรกรรม”
“ฉุกเฉินอยู่ชั้นหนึ่ง อายุรกรรมชั้นสี่ ห้องอาหารอยู่ชั้นสิบเอ็ด เอาเป็นว่าตอนเที่ยงมาเจอกันที่ห้องอาหารนะ”
“โอเคแยกกัน”
“แยกกัน”
ตันหยงเดินตามเพื่อนอีกสามคนคือส้ม กิต และน้ำไปที่แผนกอายุรกรรม เธอไม่ค่อยสนิทกับใครในนี้เท่าไหร่นัก เพราะเธอเป็นพวกเด็กเนิร์ดที่อยู่ในห้องเรียนที่ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร
“ถึงแล้วละ นี่ ๆ ได้ยินว่าหมอแผนกอายุรกรรมหล่อมากเลยนะ”
“เหรอ ส้มแกนี่รู้ดีจริง ๆ เลย เอ่อ ตันหยงเธอก็ไปที่แผนกอายุรกรรมเหรอ”
“อ้อ..เอ้อใช่”
“เราชื่อกิตนะ ที่จริงอยากทักทายเธอมานานแล้วละแต่เหมือนเธอจะไม่ค่อยคุยกับคนอื่นเลย”
“อ้อ ใช่เรา…คุยไม่ค่อยเก่งนะ”
“เด็กเนิร์ดอ่ะนะ พูดยาก”
“ส้ม!!”
น้ำพยายามปรามส้ม เพื่อนคณะเดียวกันที่พูดแขวะตันหยงขึ้น แม้ว่าทั้งสองจะไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ส้มก็นับว่าเป็นคนสวยของคณะวิศวะ เธอเป็นรองแค่ดาวคณะและดาวมหาลัยเท่านั้น เมื่อลิฟต์ถึงชั้นเจ็ด แต่ละคนก็เดินออกมา
“ตันหยงเอาเอกสารมาสิ เราจะรวบรวมและไปส่งให้”
“อ้อ ขอบใจนะ…กิต”
“ไม่เป็นไรจากนี้ก็ฝากตัวด้วยนะ”
“ได้เลย”
“งั้นพวกเรานั่งรอตรงนี้เถอะ”
น้ำชวนทุกคนมานั่ง แต่เมื่อกำลังเดินไปพวกเธอก็พบคุณหมอที่เดินออกมาจากห้องพักส่วนตัวมาที่ เค้าน์เตอร์ ส้มหันไปมองเขาด้วยความสนใจทันทีพร้อมกับเดินไปที่กิตเพื่อจะแย่งเอกสารในมือเขาและเดินไปที่เค้าน์เตอร์เอง
“สวัสดีค่ะ นักศึกษาฝึกงานค่ะ นี่เอกสารค่ะไม่ทราบว่า…”
เธอเอ่ยทักคุณหมอหนุ่มแว่นที่ดูท่าทางใจดีที่ยืนอยู่หน้าเค้าน์เตอร์และทำสายตาหวานให้เขา แต่เขากลับหันมามองเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย ตันหยงหันไปมองด้วยความอยากรู้ในทันที แม้ว่าจะผ่านแว่นตานั้นแต่เธอก็จำเขาได้แม่นยำ
“เอ่อ….”
“นักศึกษา เค้าน์เตอร์ก็อยู่ที่นี่ นั่นเจ้าหน้าที่ที่จะรับเรื่องให้คุณ ผมเป็นหมอไม่ได้มีหน้าที่ตอบคำถามของคุณ”
เขาตอบและคว้าแฟ้มบางอย่างและเดินออกจากเค้าน์เตอร์นั้นไปทันทีทิ้งให้ส้มที่ยืนถือเอกสารอยู่ที่แทบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะความอับอาย กิตรีบเดินไปหาเธอทันทีพร้อมกับรีบยื่นเอกสารและมีเจ้าหน้าที่ยืนรออยู่
“คุณหมอที่นี่ดุจังเลยเนอะ”
“นั่นสิ ดุจนไม่น่าเข้าไปคุยด้วยเลยทางที่ดีห่าง ๆ เอาไว้ชีวิตน่าจะปลอดภัยมากกว่า”
“ตันหยงพูดตลกจังเลย คิดไม่ถึงว่าเธอเป็นคนตลกแบบนี้ น่าแปลกที่ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”
“เราเป็นคนคุยไม่เก่งน่ะ แล้วก็…”
“เรารู้ ข่าวลือที่บอกว่าเธอหยิ่งนั่นใช่ไหม แต่เราคิดว่าเธอแค่เริ่มคุยกับคนอื่นไม่เป็นใช่ไหม”
“ขอบใจที่เข้าใจนะน้ำ ยินดีที่ได้ฝึกงานร่วมกัน สามเดือนนี้ก็ฝากตัวด้วย”
“ยินดี ๆ เราคงได้คุยกันบ่อยขึ้นนะ เรารู้ว่าเธอเก่งมาก”
“ไม่หรอก ก็เรียนเหมือน ๆ กันนั่นแหละ เอาตัวรอดไป”
น้ำหัวเราะกับคำพูดที่ตันหยงพูด ที่จริงเพื่อน ๆ ในคณะก็ไม่ได้จะเข้าหายากขนาดนั้น แต่ตันหยงไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครเพราะเหตุผลบางอย่าง เธอไม่ได้มีพร้อมเหมือนคนอื่น พ่อแม่เสียเพราะอุบัติเหตุตอนเธออยู่ปีหนึ่ง ทิ้งหนี้สินมากมายเอาไว้ให้ ตั้งแต่นั้นเธอต้องขายบ้านและรถยนต์ของพ่อ สมบัติทั้งหมดให้กลายเป็นเงินเพื่อจะได้มาจ่ายค่าเทอม
หากไม่ได้พบแคท เพื่อนสนิทที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในบางครั้งที่ลำบาก ตันหยงก็คิดว่าเธอคงมาไม่ได้ถึงขนาดนี้ ทั้งหางานพิเศษให้ทำตลอดจนงานที่ต้องปลอมตัวเพื่อ แฮกระบบและรับงานเหมือนวันก่อน ที่เธอทำได้เพราะทุกครั้งเธอต้องปลอมตัวและสวมวิกทุกครั้งเธอจึงมีความมั่นใจ
“ตันหยง ไปกันเถอะ”
“อ้อ ไปกัน”
ห้องทำงานที่พวกเธอถูกส่งมาเป็นเหมือนกับศูนย์ระบบของคอมพิวเตอร์ แต่ละคนมีโต๊ะเป็นของตัวเองแต่คอมพิวเตอร์มีเพียงสองเครื่อง ในห้องมีโต๊ะประชุมเล็กตั้งอยู่ตรงกลางห้อง
“พวกเธออยู่ในห้องนี้นะ ระบบงานก็ตามนี้ช่วงแรกจะให้ศึกษาเรื่องเอกสารไปก่อน นี่เธอน่ะ”
“หนูเหรอคะ”
“ใช่เธอนั่นแหละ เอาเอกสารนี้ออกไปข้างนอกและถ่ายเอกสารมาให้เพื่อน ๆ กรอกที”
“อ่อ น้ำ เอาไปสิ ไปถ่ายเอกสาร”
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมองหน้าของส้มทันทีและสั่งเสียงแข็งเมื่อเห็นว่าน้ำรับเอกสารนั้นมา
“หยุดก่อน ฉันสั่งเธอไม่ได้สั่งเพื่อนเธอ”
“แต่ว่างานถ่ายเอกสารนี่ใช่งานของโปรแกรมเมอร์เหรอคะ”
“เธอชื่ออะไร ฉันจะได้รายงาน…”
“ก็ได้ค่ะ!!”
“นี่เธอขึ้นเสียงเหรอ”
“ก็ได้ค่ะ ส้มไปเอง”
เธอดึงเอกสารจากมือน้ำจนกระดาษบาดไปที่นิ้ว น้ำไม่กล้าร้องแต่ตันหยงรีบหยิบกระดาษเปียกในกระเป๋าออกมาเช็ดแผลให้
“เจ็บไหมน้ำ ถือไว้ก่อนนะเรามีพลาสเตอร์”
“ขอบใจนะตันหยง”
“ไม่เป็นไร ๆ”
ไม่นานส้มก็เดินเอาเอกสารที่เดินไปถ่ายเอกสารมาส่งให้กับทุกคนอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ทุกพฤติกรรมอยู่ในสายตาของ"วิชุดา หรือ พี่ออย" หัวหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงานในครั้งนี้จนหมด
“เอาละ แนะนำตัวเองหน่อย ฉันชื่อวิชุดา เรียกพี่ออยก็ได้”
""สวัสดีค่ะพี่ออย""
"เอาละ ในเมื่อรู้จักกันแล้ว แผนกของเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบที่ส่งผลตรวจไปที่ห้องแล็บระบบที่จัดส่งนี้ต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์นำทาง แต่ละครั้งคุณหมอจะส่งหลอดที่ต้องตรวจมาที่ท่อนี้และกดส่งชั้นที่ต้องตรวจสอบ“อี๊ หมายถึง…”ส้มถึงกับอุทานออกมาในทันที วิชุดานึกเอาไว้แล้วว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เรื่องเยอะที่สุดแต่เธอก็พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้มากที่สุดเพราะเธอเป็นผู้ใหญ่“ใช่ อย่างที่เธอคิดนั่นแหละ มีทั้งเลือด ปัสสาวะ อุจจาระของคนไข้ ทุกอย่าง หน้าที่ของพวกเธอคือดูแลระบบพวกนี้ให้ทำงานให้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้น”“อย่าบอกนะคะว่า….เราต้องถือพวกนั้นไปส่งน่ะ”“ก็ดูแลให้เครื่องทำงานตามปกติก็แล้วกัน เอาละวันแรกก็ไม่มีอะไรมาก เดี๋ยวจะพาไปรู้จักกับคนในแผนกทั้งหมด”“รวมถึงคุณหมอด้วยไหมคะ”วิชุดาข่มใจครั้งแล้วครั้งเล่ากับความอยากรู้อยากเห็นของนักศึกษาคนนี้ เธอไม่ตอบแต่เดินนำทุกคนออกมาเพื่อแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก“นี่พี่ขวัญ พี่อ้อม พยาบาลประจำเค้าน์เตอร์กะนี้ ยังมีอีกสองคนที่จะมาสลับเอาไว้พวกเธอมาเข้ากะแล้วค่อยแนะนำอีกที”“สวัสดีค่ะพี่อ้อม พี่ขวัญ”“สวัสดีค่ะทุกคน”“คุณหมอประจำในแผนกเรามีสามท่าน หมอชลดา หมอนิรุตน์ แล
ออยรู้ดีว่าตันหยงเก่งเรื่องระบบคอมพิวเตอร์เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยให้ตันหยงช่วยกู้ไฟล์ข้อมูลที่พยาบาลเผลอลบกลับมาได้จนหมด แต่ตันหยงบอกให้เธอเก็บเป็นความลับเพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับเพื่อน ๆ ที่ฝึกงานด้วยกัน โดยเฉพาะส้ม“พี่ออย นี่คอมพิวเตอร์ของใครคะ”เธอถามเพราะเธอไม่เคยเข้ามาในห้องนี้มาก่อน เป็นห้องทำงานส่วนตัวที่ดูหรูหรามากกว่าห้องของคุณหมอคนอื่น ๆ และอยู่ด้านในสุด“ห้องคุณหมอตะวัน คอมคุณหมอมีปัญหาตั้งแต่เมื่อคืน ทีนี้ปัญหามันคือข้อมูลคนไข้อยู่ในนี้ถูกลบออกไปหมดเหมือนโดนไวรัสน่ะ แล้วถ้าจะให้พวกพี่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลทีละคน คงใช้เวลาเกือบสองปีละมั้ง”“รายชื่อคนไข้ มีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“ก็มากอยู่ หมอตะวันเป็นหมอที่เก่ง ตอนนี้เขามีสอนที่มหาวิทยาลัยเป็นอาจารย์พิเศษ ยังไม่กลับเข้ามา ถ้าเขารู้ว่าคอมมีปัญหาละก็….เฮ้อ…คอพี่ขาดแน่”“เดี๋ยวหยงลองดูให้นะคะ…ไหนดูซิว่าใครกล้ามายุ่งกับคอมของพ่อตัวร้าย”“หืม พ่อตัวร้ายเลยเหรอ หยงกับหมอไม่เคยพบกันนี่”“วันแรกไงคะ คุณหมอตวาดส้มจนหน้าหงายจนทุกคนขยาดเลยละค่ะ”“อ๋อ วันนั้นนั่นเองที่จริงวันนั้นคุณหมออารมณ์เสียมาก่อนน่ะ เพราะ….เรื่องในข่าว”“ข่าว..พี่ออ
ทุกคนแยกย้ายเข้าไปพักในห้องของตัวเอง คืนนี้พวกเขาดื่มหนักกันมาก แม้แต่ตันหยงเองก็ถูกพี่ ๆคะยั้นคะยอให้ดื่ม ซึ่งเธอคออ่อนมากดื่มแค่สองแก้วก็เดินตาเบลอแล้ว“ห้อง หนึ่ง…หนึ่ง…สอง….สาม อยู่นี่เอง”เธอมองเลขห้องและเห็นว่าประตูไม่ได้ปิดไว้ เธอรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยแต่คิดว่าโรงแรมระดับนี้คงไม่มีอะไร เธอคงลืมปิดให้สนิทตอนออกไป ตันหยงเปิดประตูเข้าไปและปิดล็อกทันที“ห้องทำไมดูแปลก ๆ ไปกว่าเดิมละเนี่ย”เธอเดินไปเปิดม่านดู แต่ข้างนอกนั้นมืดสนิท เห็นเพียงแสงไฟบางดวงที่ชายหาดด้านล่างและสระว่ายน้ำในโรงแรมเท่านั้น เธอนั่งมองดูทิวทัศน์ที่ไม่ต่างกับตอนเข้ามาเท่าไหร่จนไม่ได้สังเกตเสียงน้ำในห้องน้ำ เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกมา ตันหยงยังคงนั่งเหม่ออยู่ที่เดิม“นั่นใครน่ะ”“หืม…ใคร ทำไม”ตันหยงนั่งอยู่ในความมืด เสียงที่ทักเธอเป็นเสียงผู้ชาย ตอนนี้เธอเริ่มเมาและแยกไม่ออกว่ากำลังฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริง สาวน้อยเดินโซเซเข้ามาจนคนที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำรู้สึกสยอง นี่เขาโดนผีหลอกงั้นเหรอ“หืม ว่าไง ใครมีปัญหา”“คุณ…นี่คุณเมาแล้ว…”“เมา ใครเมา ฉันไม่เมา ยังดื่มได้อีก มา ๆๆ ดื่ม ๆ เหล้ายังเหลืออีกเยอะเลยพี่ออย สั่งเหล้
ตันหยงรีบลุกขึ้นจากเตียงในทันทีด้วยความตกใจ เธอรู้สึกว่าขาไม่มีแรงแม้แต่จะยืนและตกใจมากกว่านั้นเมื่อมีของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากช่องคลอดของเธอ“นี่มัน….”เธอพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นและเริ่มสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและค่อย ๆ พยุงตัวออกไปที่หน้าห้องโดยไม่หันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงเลยเมื่อมองลอดตาแมวออกไปพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอก เธอรีบเปิดประตูออกไปอย่างรวดเร็วและมองหาห้องของตัวเอง เธอรีบเปิดประตูและเข้าไปในห้องและลงกลอนแน่นหนาพร้อมกับพาร่างที่ไร้เรี่ยวแรงไปที่เตียงพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น“ไอ้บ้า ไอ้คนเลว…..”แต่เธอก็จะโทษเขาไม่ได้ เมื่อคืนนี้เป็นเธอที่เข้าห้องผิดไปหาเขาเอง ความทรงจำบางอย่างเริ่มผุดขึ้นมา ก่อนหน้านั้นเป็นเขาที่เริ่มก่อน แต่พอจบรอบแรกไปแล้ว“อ๊าา….อื้มมม”“อะไรกัน คุณยังไหวงั้นเหรอ”“ไหวสิ คุณจะหยุดแล้วเหรอไหนบอกว่าจะทำให้มีความสุขไงละ อ๊ะ อื้ออ…”ลิ้นของเขาพุ่งไปจัดการหน้าอกอวบทันทีที่เธอกล่าวท้าทาย ตันหยงจำได้เช่นกันว่าเธอเป็นคนท้าทายเขาและยังเป็นคนขึ้นขย่มบนตัวคุณหมอหนุ่มเองด้วยในรอบสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะหมดแรงและนอนหลับไป เธอยังสั่งให้เขากอดเธอเอาไว้ในตอน
เมื่อเธอซื้อของเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาจนชนเข้ากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อขอโทษเขาเพราะเธอมัวแต่เดินก้มหน้า“ขอโทษค่ะ”“ไม่เป็นไรครับ นี่ยาคุณตกแล้ว”“ขอบคุณค่ะ”เขาหยิบยาใส่ซองให้เธอเมื่อเธอรีบรับและรีบเดินออกไปเขาจึงเดินไปที่เค้าน์เตอร์ยา“เอายาคุมฉุกเฉินครับ”“ได้ค่ะ”เมื่อเภสัชกรประจำร้านอธิบายการใช้งานแล้วเขาก็เดินและดูแผงยานั้นทันที เขารู้สึกแปลกเพราะเมื่อครู่ เด็กสาวคนนั้นเองก็พึ่งซื้อยาแบบเดียวกับเขาไป เธอดูคุ้นหน้าคุ้นตาแต่นั่นไม่ใช่ธุระของเขา “ยาที่สั่งครับ”“ที่สั่งไว้ทำหรือยัง”“กำลังตรวจสอบอยู่ครับ”"เอาละ ออกไปก่อนเถอะ"“ครับ”หมอตะวันเดินลงไปที่ห้องอาหารเช้าที่จัดเอาไว้สำหรับเฉพาะของโรงพยาบาล โรงแรมนี้ก็เป็นธุรกิจของแม่เขาเช่นกันเขาถึงได้เลือกที่นี่ให้เจ้าหน้าที่และเด็กฝึกงานมาพักที่นี่“คุณหมอตะวัน”“ขอโทษทีนะครับเมื่อคืนผมกลับมาไม่ทัน คืนนี้ก็เต็มที่กันอีกครั้งนะครับ”“ค่ะ ขอบคุณนะคะเมื่อคืนนี้อาหารดีมากเลยค่ะ”“ยินดีครับ ดีใจที่พวกคุณชอบเชิญตามสบายนะคะ”ส้มดูจะตื่นเต้นมากกว่าใครเมื่อเห็นหมอตะวันเดินเข้ามา เธอทำราวกับอยากแสดงตัวเต็มที่ว่าเป็นใครแต่ก็ไม
“คุณส้มครับ!!”พิภพเอ่ยปรามเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยรู้ว่าคุณหมอตะวันนอกจากจะเป็นหมอแล้วเขายังเป็นนายน้อยหมื่นล้าน ทายาทนักธุรกิจอันดับต้น ๆ ของประเทศ ไม่ต่างกับมาเฟีย รอยยิ้มร้ายนั้นส่งมาให้เธออีกครั้ง“นี่ จะบอกให้นะ หากคุณบอกเรื่องนี้ออกไป คุณคิดว่าคนอื่นจะมองผมหรือคุณว่ายังไง เดิมทีผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ผู้หญิงที่ผมควงไม่มีทางเป็นคนกระจอกเลยสักคน คุณถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานพวกนั้นมากเมื่อเทียบกับพวกเธอ แล้วที่สำคัญถ้าคุณกล้าพูดเรื่องนี้ไปจริง ๆ เกรงว่านอกจากจะไม่มีใครเชื่อแล้ว จะมองว่าคุณมันง่ายมากกว่า ผมไม่รับประกันนะว่าใครกันแน่ที่จะเสียเปรียบ คุณจะลองดูก็ได้”ส้มนั่งตัวเกร็งเพราะความโกรธและโมโห แม้ว่าจะเคยรู้ว่าเขาปากร้ายแต่นี่มันเกินไปแล้ว คำพูดที่เอาแต่ดูถูกและไม่ให้เกียรติเธอแบบนี้เขายังพูดออกมาได้หน้าตาเฉย ในตอนนี้เธอเองก็ไม่มีอะไรที่จะใช้เป็นแต้มต่อกับเขาได้เลย“เอาละ พิภพ จากนี้ก็ฝากด้วยนะ ผมจะกลับไปนอนเอาแรงหน่อย”“ครับ”ส้มนั่งกัดฟันอยู่ที่โต๊ะและกำหมัดแน่นโดยที่ไม่กล้ามองหน้าพิภพที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ“คุณครับ พวกคนอื่น ๆ รอคุณอยู่”“ฉันไม่อยากไป ฉันจะกลับห้อง”“ไม่ได้ครับ
ตันหยงเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์แต่เขากลับทำหน้าเป็นเชิงถามว่า“ทำไมละ มีปัญหาเหรอ” ส่งกลับมาให้เธอ ตันหยงอยากจะผลักเขาออกไปแต่พื้นที่ในลิฟต์แคบจนทำให้เธอขยับไม่ได้เลยจนถึงชั้นหนึ่งของโรงแรม ทั้งคู่ต้องรอให้ครอบครัวนั้นออกไปจนหมดถึงเดินออกไป“เดี๋ยวก่อน นั่นคุณจะไปไหน”“คุณหมอคะ เรื่องนี้คิดว่า….”“พอดีผมว่าจะชวนไปกินข้าวน่ะ ผมหิว เมื่อกี้นี้เหมือนได้ยินเสียงท้องคุณร้อง คุณก็น่าจะลงมาหาอะไรกินใช่ไหมล่ะ”“ค่ะ ฉันคิดว่าจะหากินอะไรง่าย ๆ แถวนี้ดีกว่า สะดวกดีที่สำคัญ..”“ดีเลย ไปเถอะผมรู้จักร้านอร่อย ๆ ไปเป็นเพื่อนหน่อย”“เดี๋ยว นี่คุณ…คุณหมอคะ คือว่า...หยงไม่สะดวก...”ตันหยงถูกเขาดึงมือเดินออกไปยังที่จอดรถด้านหลัง เดิมทีตะวันคิดว่าจะออกมาเดินเล่นริมหาด แต่พอเจอเธอเข้าเขาเลยเปลี่ยนแผนนิดหน่อยและดึงกุญแจรถมาจากมือของพิชิต เขาเปิดรถหรูและเปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถแต่ตันหยงมีเหรอจะยอมง่าย ๆ“จะไปไหนเหรอคะ”“ไปกินข้าวไงถามได้ ขึ้นไปสิ ที่นี่ไม่มีเพื่อนหรือคนในแผนกหรอก เอาละรีบไปเดี๋ยวจะหิวตายซะก่อน”“เดี๋ยวสิคะ หยงบอกแล้วว่า…”เขาไม่ฟังเธอและดันเธอเข้าไปนั่งในรถและดึงเข็มขัดมารัดเธอพร้
คำถามนี้ทำเอาคนที่ถูกถามนิ่งไปเลยทีเดียว เขานึกสนุกกับท่าทางของเธอจนแทบจะทนไม่ไหว อยากจับคนข้าง ๆ มาหอมเสียเหลือเกินผิดแต่ว่าในตอนนี้เขาและเธอไม่ได้นับว่าเป็นอะไรกันเขาเองก็ยังไม่อยากบอกเธอว่าเขารู้แล้วว่าคนเมื่อคืนนี้คือเธอเพราะกลัวว่าเธอจะไม่ยอมรับ เขาต้องเอาชนะใจเธออย่างน้อยครึ่งหนึ่งก่อนที่จะบอกเธอ“เป็นอะไรไป ถ้าคุณไม่ชอบกินกุ้งก็กินปูนี่สิ ผมสั่งมาด้วย โน่นก็ปลาหมึก หรือว่าหมดนี่คุณไม่อยากกินเลย จะกินแต่ต้มจืดงั้นเหรอ ไม่เอาน่า มาทะเลก็ต้องกินซีฟู้ดสิ”“ไม่ใช่ค่ะ กินค่ะ กินเดี๋ยวนี้เลยหยงก็แค่…จะแกะให้คุณหมอก่อนแล้วค่อยกิน”“ไม่ต้องหรอก ผมเห็นคุณทำแล้วเดี๋ยวคุณมัวแต่แกะให้ก็ไม่ได้กินพอดี เอาสิลองกินนี่หน่อย หมึกผัดไข่เค็มที่นี่ถือว่าใช้ได้เลย”“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”เขาตักอาหารให้เธอหลายอย่างเพราะเห็นเธอไม่ค่อยกินอะไร ตะวันไม่อยากทำลายบรรยากาศที่กำลังดีแบบนี้ ตันหยงเองก็กินทุกอย่างที่เขาตักให้ มาในตอนนี้กลายเป็นเขาที่แกะกุ้งให้เธอกิน“พอแล้วค่ะคุณหมอ หยงเริ่มอิ่มแล้วค่ะ”“น้ำส้มนั่น รีบกินสิปล่อยเอาไว้นานจะไม่อร่อย”“ค่ะ ๆ”เขาพูดและบอกให้เธอกินตามราวกับเป็นฝ่ายโภชนาการ ตันหยงได้แต่