เมื่อเข้ามาในภายห้องรับรอง อัครวินท์ก็เดินตรงไปนั่งโซฟาตัวยาวอย่างสบายใจ พร้อมกับหยิบรีโมทมากดเปิดดูสิ่งที่ตนสนใจ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟาตัวยาวและโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่กลางห้องครบเซต ตู้เย็น แอร์ เครื่องชงกาแฟ ทีวี และห้องน้ำขนาดพอดีกับห้อง
"มานั่งนี่!"อัครวินท์ตบโซฟาเบาๆ "..."ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินไปนั่งแต่โดยดี ระหว่างรอให้อาหารมาเสริฟก็เลื่อนดูจอสี่เหลี่ยมเครื่องหรูไปพรางๆ ~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~ 'ปาริฉัตร' เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของเครื่องจะไม่กดรับเสียที จนร่างบางต้องหันมามอง "รับสักทีสิ จะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นหรอ ถ้าไม่รับก็ตัดสายไปรำคาญ!"เธอกล่าวด้วยความหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมกดรับเสียที "รับให้หน่อยสิ!" "ฉันไม่ได้เสียมายาทเหมือนนายนะ ที่ชอบถือวิสาสะหยิบนู้นหยิบนี่ตามอำเภอใจตัวเองน่ะ" "รับให้หน่อย"เขาไม่เถียงเธอที่บ่นใส่เขา แต่กลับบอกอีกรอบเพื่อให้สาวน้อยร่างบางนั้นรับให้ "แม่ดาราคนนั้นนี่!"เธอเลิกคิ้วถามเมื่อหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา "อืม..." แต่แล้วเธอก็กดรับสาย และเสียงแหลมๆ ก็พูดขึ้นมาในทันทีที่เธอเลื่อนรับสายเธอ [ซันคะ ฉัตรอยากเคลียร์กับซัน] เธอเปิดสปีกเกอร์โฟนให้เขาได้ยินด้วย แล้วมองหน้าเขาเพื่อขอความคิดเห็นว่าจะตอบปรายสายยังไง แต่แล้ว อัครวินท์ก็คว้าใบหน้าของสาวสวยตรงหน้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ไม่นานเธอก็เคลิ้มตามเขาไป มือหนาประคองท้ายทอยของเธอไว้ให้รับกับริมฝีปากของเขาอย่างถนัดถนี่ มืออีกข้างลูบไล้ขาเรียวไร้ไขมันส่วนเกิน ก่อนที่จะสอดเข้าใต้กระโปรงสั้นของเธอ "อื้ม..."นิ้วเรียวเขี่ยติ่งเกสรเบาๆ จนร่างบางนั้นเสียวกระสันไปทั้งตัวจนเผลอครางออกมา "อ๊ะ!..." [ซันคะ ซันอยู่กับใคร!...] เสียงครางของเอวารินทร์ดังเข้าไปในโทรศัพท์เครื่องหรูจนปรายสายต้องเอ่ยถามขึ้น ใบหน้าหล่อ เลื่อนออกมามองใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่ของเธออย่างหลงไหล จมูกโด่งกดลงไปที่แก้มเนียนแล้วสูดกลิ่นหอมๆ จนสุดปอด เขาค่อยๆ เลื่อนไปที่ซอกคอหอมกรุ่นของเธอและไล้เลียเบาๆ จนเธอสะท้านไปทั้งตัวด้วยความเสียวกระสันจนต้องหายใจเข้าออกถี่ๆ "อื้ม..."เสียงร่างสูงครางออกมาเพื่อจงใจให้ปรายสายได้ยินเสียงของเขา มือหนาใช้นิ้วเรียวเขี่ยเจ้าแพนตี้ตัวจิ๋วเบี่ยงไปด้านข้าง จากนั้นก็ใช้นิ้วที่ยาวที่สุดกดลงไปจนสุดนิ้ว เลื่อนเข้าออกเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เร่งจังหวะให้รัวเร็วขึ้น "อ๊ะ!...อ๊าส์..."เสียงหวานๆ ของเธอมันทำให้เขาหัวใจสั่นไหว ตายและ อารมณ์เตลิดไปหมดแล้ว ความเป็นชายแข็งขึงดุนดันกางเกงจนแทบปริ "อ๊ะ...พี่ซันขา..."และแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เสียงหวานๆ นั่นเอ่ยเรียกชื่อเขางั้นหรอ แม่คุณพ่อคุณเอ้ย ตายแน่ๆ ใจบางหมดแล้ว แค่เสียงครางหวานๆ ก็ว่าเตลิดแล้วนี่ครางชื่อเขาอีก หลงจนหาทางออกไม่เจอแล้วแม่คุณ "อื้ม...พี่ชอบให้เอวาครางชื่อพี่แบบนี้จัง"พูดจบเขาก็ก้มลงไปจุมพิตที่ปากบางแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงอมชมพูน่าจูบนั่น ปากนุ่มๆ ละมุนหวานลิ้นอย่างไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนแต่กลับได้ลิ้มลองที่เธอ [ซัน! ซัน!] จากนั้น ปรายสายก็วางไป เมื่อรู้ว่ากำลังฟังเสียงอะไรอยู่ คงจะเป็นบทรักเร่าร้อนกันสินะ แล้วดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเสียงเรียกของเธอเลยสักนิด พลั่ก! "ออกไปได้และ!"เมื่อเห็นว่าปรายสายตัดไป เอวารินทร์ก็รีบผลักร่างสูงออกทันที ละครจบแล้วถ้าเล่นต่อมีหวังเธอได้คล้อยตามไปกับเขาแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไปตามเกมส์เขาแล้วก็ตาม ร่างบางสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อไล่ความมึนเมาออกไป แต่ยังพอตั้งสติได้ และถ้าไม่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็คงไม่กล้าแสดงละครสุดเร่าร้อนให้ปรายสายได้ยินแบบนั้นหรอก มันน่าอายชะมัด "อื้อ...อย่าใจร้ายนักสิ ข้างล่างเธอต้องการฉันแล้วดูสิ เยิ้มเชียว"ไม่พูดเปล่า แต่มือหนานั้นลูบไล้เบาๆ ที่ขาเรียวของเธอเพื่อเร้าอารมณ์ อีกครั้งหวังให้ไฟกองเดิมมันติด "ไม่ อย่าบังคับฉันนะ เมื่อกี้ฉันอุตส่าห์ช่วยนาย หัดสำนึกบุญคุณกันบ้าง"เธอเฉไฉทั้งที่เล่นละครก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เผลอเคลิ้มไปด้วยรสรักที่เขามอบให้ มันช่างวาบหวามเสียเหลือเกิน "ก็กำลังจะตอบแทนบุญคุณอยู่นี่ไง...อ้อ...ฉันชอบให้เธอครางชื่อฉันแบบเมื่อกี้นะ"เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูขาว ก่อนที่จะเป่าลมร้อนๆ รดไปที่ต้นคอของเธอจนไรขนตั้งชูชันไปทั่วทั้งร่าง นี่เขาจะแกล้งเธอไปถึงไหนกัน คนบ้า! "ฉันแสดง! เข้าใจ๊!"มือบางปัดมือปลาหมึกของเขาออก พร้อมกับจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย จากนั้นก็ค่อยๆ เขยิบออกห่างจากร่างสูงไม่ให้ใกล้ชิดกันมากเกินไป "แสดงจนจบเลยไม่ได้หรอ นะๆๆ"เขาอ้อนวอนเธอทำเอาเธอเกือบไหววูบไปกับเขา "ไม่! เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วอีกอย่างที่ฉันทำเมื่อกี้ เพราะแค่กำจัดยัยนั่นให้ออกห่างจากนาย งานของฉันจะได้จบเร็วๆ นายจะได้เลิกวุ่นวายกับฉันสักที"ไม่รู้ทำไม พอแม่สาวข้างๆ พูดออกมาแบบนั้นกลับไม่ได้รู้สึกดีเลย ลึกๆ แล้วเขาอยากให้เธอเป็นของเขา เมื่อไหร่กันนะเธอจะเต็มใจให้เขาจริงๆ ไม่ใช่เพราะทำตามคำสั่งใคร "อยากอยู่ห่างจากฉันขนาดนั้นเลย!"เสียงประชดประชันทำให้ร่างบอบบางมองไปยังใบหน้าหล่อๆ ชั่วครู่อย่างไม่ค่อยเข้าใจ "ใช่ ฉันไม่ชอบอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ หื่นกามแบบนาย ยิ่งอยู่ใกล้ ฉันยิ่งไม่ปลอดภัย" "แต่ก็เคยกันมาแล้วนี่ ไหนๆ ก็จะแต่งงานกันแล้วก็ทำหน้าที่ให้สมจริงไปเลยสิ" "ไม่มีทาง ฉันจะไม่ยอมให้นายมาบังคับขืนใจฉันอีกเป็นอันขาด" "หึ! ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะรู้สึกยังไง ในเมื่อพูดดีๆ ไม่ชอบ ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน เพราะอะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเธอ!"ความหงุดหงิดเข้าครอบงำ แต่อารมณ์ใคร่ยังคงต้องการอยู่ แต่ในเมื่อร่างบางไม่เป็นใจให้เขา เขาก็ต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำไป หวังเพียงจะปลดปล่อยเจ้ามังกรตัวร้ายที่มันพร้อมพ่นพิษให้แตกกระจาย เขาค่อยๆ รูดซิปออกแล้วควักเจ้ามังกรออกมา แล้วรูดเข้ารูดออกตามแรงรักแรงปรารถนาอันเร่าร้อนของเขา "อื้อ...อ๊าส์...อ๊าส์..."เสียงครางดังออกมานอกห้องน้ำ ทำให้ร่างบางต้องยกมือน้อยๆ ขึ้นมาปิดหู น่าเกลียด ทำไมต้องมาเจออะไรทุเรศแบบนี้ด้วย คนอะไรหื่นกาม หื่นกระหาย ไปอดยากปากแห้งมาจากไหนนักหนา "อ๊าส์...."เขาชักเข้าชักออกเร็วขึ้นและแรงขึ้น มืออีกข้างค้ำผนักเอาไว้ จากนั้นไม่นานเจ้ามังกรของเขาก็ผงกหัวหงึกๆ ก่อนจะปลดปล่อยพิษร้ายออกมาจนหมด "อื้อ..."บ้าเอ้ย ผู้หญิงตั้งมากมาก็พร้อมจะถวายตัวให้กับเขาทั้งนั้น มีแต่แม่นี่แหละที่ล่อให้เขามีอารมณ์แต่กลับผลักไสไล่ส่งเขาอย่างเลือดเย็น หึ อย่าให้ถึงคอนโดนะ จะเล่นให้เดินออกจากเตียงไม่ไหวเลย จะโกรธก็จะไม่สนใจอีกแล้วในเมื่อพูดดีด้วยแล้วไม่เอาเอง ต้องเจอของแข็งเท่านั้น เอวารินทร์ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนฉันไปได้กี่น้ำ ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่ใจดีด้วยแล้ว!เมื่องานเลี้ยงจบลงแขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เหลือก็แต่ครอบครัวของเอวารินทร์และอัครวินท์ที่ยังคงอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย"สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะคะคุณพ่อ"เอวารินทร์กล่าว"นี่ก็ดึกมากแล้ว พาน้องกลับบ้านเลยก็ได้ซัน""เอ่อ...วันนี้เอวาจะนอนคอนโดครับพ่อ พรุ่งนี้มีเรียนของอยู่คอนโด ถ้ากลับบ้านเดี๋ยวพรุ่งนี้จะวกไปวกมา""อ้อ งั้นหรอ งั้นก็ไปส่งน้องที่คอนโด แล้วอย่ารังแกน้อง ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่"อัครเดชคาดโทษเจ้าลูกชายตัวแสบ"อย่าดื้อกับพี่เขานะเราน่ะ"คุณหญิงพัชรินทร์ปรามลูกสาว"แม่~"ทำไมทุกคนต้องไว้ใจให้นายนี่อยู่กับเธอด้วย เจ้าเล่ห์ กะล่อน แถมยังหื่นกามอีก"ฝากน้องด้วยนะซัน ถ้าน้องดื้อจัดการได้เลยนะ แม่อนุญาต""แม่!"นี่ไง แม่นี่ตัวดีเลย เปิดทางให้คนแบบนี้มารังแกลูกสาวของตัวเองได้ยังไงกันนะ"ครับแม่ ผมจะดูแลน้องเป็นอย่างดีเลยครับ แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะไปรับไปส่ง รับรองครับ"อัครวินท์ตอบพัชรินทร์อย่างสุภาพ แหมทำตัวเป็นลูกเขยที่ดี เอาหน้าชัดๆ อยากให้เห็นเบื้องหลังความร้ายกาจของอีตานี่เสียจริงๆ เธอกล่าวในใจจากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาจากงานเลี้ยง ภายในรถที่เงียบอีกแล้ว มันชวนอึดอัดทุกครั้
เมื่อใกล้รุ่งสางอัครวินท์สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเนื่องจากรู้สึกถึงความร้อนจนเหงื่อเขาออก ลำตัวและร่างกายที่แนบกันเกือบจะทุกสัดส่วนต่างก็ร้อนจนเหงื่อออกไปด้วย"เอวา...ทำไมตัวร้อนขนาดนี้"ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้เริ่มเป็นกังวลเล็กน้อย คิ้วหนาขมวดมุ่นจนแทบจะเป็นปม "ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรอเนี้ย?"เขาพึมพำกับตัวเองจากนั้นก็รีบเปิดไฟหัวเตียงแล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เอวารินทร์ที่ตอนนี้ร้อนลุ่มอย่างกับไฟ"อื้ม..."เธอเบี่ยงหน้าหลบความเย็นที่ปะทะใบหน้านวลด้วยความรำคาญ"เห้อ...ยัยแสบ...แค่นี้ทำเป็นใจเสาะไปได้"ปากก็บ่นไปแบบนั้นแหละ แต่มือก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หล่อนด้วยความเต็มใจ จากนั้นก็เอาเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขามาสวมใส่ให้แทน จะเอาเสื้อผ้าแฟนเก่ามาใส่ให้เดี๋ยวตื่นมาก็กลัวว่าจะอาละวาดอีก เอาแบบนี้แหละดีแล้วตลอดจนถึงเช้าร่างสูงไม่ได้นอนต่อเลย เนื่องจากร่างบางเอาแต่นอนละเมอ จนเขาอดห่วงไม่ได้ แถมต้องคอยเช็ดตัวให้อีก จนตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงแล้ว เขาจึงลงไปหาซื้อข้าวและยามาไว้ให้ร่างบาง วันนี้เอวารินทร์ต้องขาดเรียนเนื่องจากไม่สบาย แล้วเขาก็ให้คนไปลาป่วยให้เธอแล้ว ดีหน่อยที่วิชานี้เป็นแค่วิชาบูร เลยไม่ได้
"แต่ฉันเหลือเงินก้อนสุดท้ายอยู่นะ เดี๋ยวตั้งใจทำงานแล้วบอกพ่อแม่ว่าเลิกกับยัยนั่นแล้วแม่คงให้เงินเดือนเหมือนเดิม อีกอย่างฉันเป็นถึงรองประธานฉันมีเงินเดือนจ่ายเธอก็แล้วกัน""เงินเดือนนาย พ่อนายบอกว่าโอนเข้าบช ฉันนะ""ว่าไงนะ!""ฉันรู้...ว่านายได้ยิน...ฮึฮึ"เธอหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ที่สามารถปั่นประสาทคนแบบเขาได้ แถมพ่อแม่ตานี่ยังไว้ใจเธอให้คุมประพฤติและการใช้เงินของเขาอีก"..."เขาถึงกับพูดไม่ออก พ่อนะพ่อ!"แต่ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ นายจะทำอะไรก็เบิกจากฉัน ฉันจะเขียนรายงานพ่อนายว่าเอาไปใช้อะไร เท่าไหร่ ทุกการใช้จ่ายต้องผ่านฉันถ้าอนุมัติก็ได้ ถ้าไม่...ก็อดนะจ๊ะ...ที่รัก"คนตัวเล็กใช้นิ้วเชยคางเขาเบาๆ อย่างกวนๆ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เนื่องจากยังคงอ่อนเพลียจากพิษไข้อยู่เล็กน้อย"อะแฮ่ม...สงสัยจะพูดมากไปหน่อย...หิวน้ำจังเลย..."เธอกล่าวลอยๆ พร้อมกับเอามือมาลูบลำคอเบาๆ"หึ่ย!...อย่าให้ถึงตาฉันนะ"อัครวินท์หงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินไปรินน้ำใส่แก้วให้เธอแต่โดยดี "แสบนักนะ ได้ทีเอาใหญ่...ปล่อยให้ตายใจไปก่อน...ก็อยากจะรู้ว่าใครกันแน่ที่จะคุ้มกว่ากัน"เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อมีแผนร้ายแล่นเข้ามาในหัว
เอวารินทร์ย่างกายเข้ามาในคลับหลังจากที่การ์ดด้านนอกตรวจบัตรเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบเดินเข้าไปยังที่ประจำที่เคยจองไว้ตามเคย ครั้งนี้เธอเข้ามากับเกวรี ส่วนจีโน่จะตามมาสมทบทีหลัง วันนี้เธอมาในชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้นจู๋ พร้อมกับโซ่สีทองคล้องแขนทั้งสองข้าง ชายกระโปรงแต่งด้วยขนฟุ้งฟิ้งสีเดียวกับชุด และส้นสูงสีดำ4นิ้วเพื่อเพิ่มความสง่างามยิ่งขึ้น ผมมวยต่ำปล่อยปอยผมเล็กๆ พอให้ดูหวานขึ้นตึก ตึก ตึก!เสียงส้นสูงกระทบกับพื้น ดึงดูดสายตายสุดหื่นกระหายหลายคู่ให้มองมาที่เธอ เอวบาง หุ่นสุดเซ็กซี่ยั่วยวนสะกดทุกสายตา"มิเกล เข้าไปรอในห้องก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันตามไป ขอไปจัดการหัวขโมยก่อน"เอวารินทร์เอ่ยบอกเพื่อนรักอย่างเกวรีให้เข้าไปรอที่ห้องที่ได้จองกันเอาไว้ ก่อนที่จะปรายตาไปมองห้องซุปเปอร์วีไอพีอีกห้องที่มีสามหนุ่มกำลังนั่งคลอเคลียกับสาวๆ อยู่อย่างเพลินใจทันทีที่เปิดประตูเข้าไป สายตาก็มองไปยังหญิงสาวสุดเซ็กซี่ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ที่กำลังออดอ้อนออเซาะอัครวินท์ประหนึ่งว่าจะกินกันตรงนั้นอยู่ลอมล่อพลั่ก!"เห้ย!/เห้ย/เชี้ย!!"ทั้งสามหนุ่มเอ่ยอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตื่นตกใจที่อยู่ๆ เอวารินทร์ก็เขวี้ยงกระเป๋าถือราคาแ
"มิเกล แกว่าฉันควรสารภาพรักกับเอวาดีไหม"จีโน่กระซิบถามเกวรี"อย่าเพิ่งเลย แกก็รู้ว่ามันต้องแต่งงาน แค่นั้นมันก็เครียดพอแล้ว"เกวรีเสนอ"พวกแกนินทาฉันอยู่หรอ?"เอวารินทร์หันมาถามเพื่อนระหว่างที่กำลังยกแอลกอฮอล์ในมือกระดกรอดเดียว"เปล่า! เอ้อ...เดี๋ยวฉันเทเหล้าให้แกดีกว่า"ว่าแล้วจีโน่ก็เติมเหล้าให้เธอ"ส่วนฉัน...ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อย่าเพิ่งกินจนเมาล่ะเอวา""อืม...ไม่เมาหรอก"ผ่านไป20นาที"พอได้แล้วเอวา ไหนว่าอีกแก้วเดียวไง"จีโน่ยื่นมือไปแย่งแก้วเหล้าของเอวารินทร์มาถือไว้"จีโน่...เอามาน้าาาา""เสียงยานขนาดนี้...แก้วนี้ฉันกินแทนเอง...เช็คบิลด้วยครับ"จากนั้นจีโน่ก็เรียกเก็บตังค์ทันที"ยังไม่อยากกลับเลย""โอ๋ๆ ...ไว้วันหลังค่อยมากันใหม่นะ"จีโน่เอื้อมมือไปโยกศีรษะเพื่อนรักที่แอบรักเบาๆ อย่างเอ็นดู แววตาของเขาจ้องมองดวงหน้าสวยหวานซ่อนเปรี้ยวอย่างหลงไหล เมื่อไหร่กันนะ ถึงจะใจกล้าบอกรักสักที กลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะเผลอไปหลงรักผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วย"ทำไมนายน่ารักกับฉันแบบนี้นะจีโน่"มือน้อยๆ เอื้อมมาจับแก้มของเพื่อนรักตรงหน้า ตอนนี้ใบหน้าหวานของเธออยู่ใกล้กับเขาแค่นิดเดียว หัวใจของชายหนุ่
อัครวินท์ขับรถเข้ามารอเอวารินทร์อยู่หน้าตึกคณะบริหารที่เธอเรียน เพียงไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไปคลับกับเธอ ใบหน้าหล่อนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่ดูเหมือนจะพออกพอใจยิ้มหวาน หัวเราะร่าของเธอ เป็นรอยยิ้มที่เขาแทบจะไม่ค่อยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ"ทำไมมาช้าจัง แล้วไอ้นั่นเป็นใคร ทำไมถึงได้ออกมากับมัน"เมื่อร่างบางเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำที่ข้างกายเขา เขาก็ถามขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจทันที"แฟน...""ไปเลิกกับมัน!!""ไม่! แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องเลิก"เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก จากนั้นก็กอดอกแล้วหลับตาลงทันทีเพื่อตัดปัญหาการมีปากเสียงกับเขา"จิ๊!"เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดกับท่าทีที่ไม่เอ็นจอย "ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย อยู่กับฉันมันอึดอัดขนาดนั้น ทีกับผู้ชายคนอื่นล่ะยิ้มหน้าระรื่นเชียว"เขากล่าวประชดประชัน พูดมาแล้วก็หงุดหงิดเสียนี่"ฉันไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายพูดมาก"เธอกล่าวทั้งที่ตายังหลับอยู่ เธอเหนื่อยที่จะต้องทะเราะ แล้ววันนี้ทั้งวันเธอทำงานจนหัวปั่น คงไม่มีอารมณ์มาสู้รบปรบมือกับเขานักหรอก "ฉันเหนื่อย ถ้าจะชวนทะเราะฉันจะกลับเอง""เหนื่อย? ไปทำอะไรกัน
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่