เมื่อเข้ามาในภายห้องรับรอง อัครวินท์ก็เดินตรงไปนั่งโซฟาตัวยาวอย่างสบายใจ พร้อมกับหยิบรีโมทมากดเปิดดูสิ่งที่ตนสนใจ ภายในห้องสี่เหลี่ยมกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นมีโซฟาตัวยาวและโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่กลางห้องครบเซต ตู้เย็น แอร์ เครื่องชงกาแฟ ทีวี และห้องน้ำขนาดพอดีกับห้อง
"มานั่งนี่!"อัครวินท์ตบโซฟาเบาๆ "..."ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินไปนั่งแต่โดยดี ระหว่างรอให้อาหารมาเสริฟก็เลื่อนดูจอสี่เหลี่ยมเครื่องหรูไปพรางๆ ~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~ 'ปาริฉัตร' เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงดังขึ้นต่อเนื่องหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าของเครื่องจะไม่กดรับเสียที จนร่างบางต้องหันมามอง "รับสักทีสิ จะปล่อยให้มันดังอยู่แบบนั้นหรอ ถ้าไม่รับก็ตัดสายไปรำคาญ!"เธอกล่าวด้วยความหงุดหงิดที่เขาไม่ยอมกดรับเสียที "รับให้หน่อยสิ!" "ฉันไม่ได้เสียมายาทเหมือนนายนะ ที่ชอบถือวิสาสะหยิบนู้นหยิบนี่ตามอำเภอใจตัวเองน่ะ" "รับให้หน่อย"เขาไม่เถียงเธอที่บ่นใส่เขา แต่กลับบอกอีกรอบเพื่อให้สาวน้อยร่างบางนั้นรับให้ "แม่ดาราคนนั้นนี่!"เธอเลิกคิ้วถามเมื่อหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา "อืม..." แต่แล้วเธอก็กดรับสาย และเสียงแหลมๆ ก็พูดขึ้นมาในทันทีที่เธอเลื่อนรับสายเธอ [ซันคะ ฉัตรอยากเคลียร์กับซัน] เธอเปิดสปีกเกอร์โฟนให้เขาได้ยินด้วย แล้วมองหน้าเขาเพื่อขอความคิดเห็นว่าจะตอบปรายสายยังไง แต่แล้ว อัครวินท์ก็คว้าใบหน้าของสาวสวยตรงหน้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ไม่นานเธอก็เคลิ้มตามเขาไป มือหนาประคองท้ายทอยของเธอไว้ให้รับกับริมฝีปากของเขาอย่างถนัดถนี่ มืออีกข้างลูบไล้ขาเรียวไร้ไขมันส่วนเกิน ก่อนที่จะสอดเข้าใต้กระโปรงสั้นของเธอ "อื้ม..."นิ้วเรียวเขี่ยติ่งเกสรเบาๆ จนร่างบางนั้นเสียวกระสันไปทั้งตัวจนเผลอครางออกมา "อ๊ะ!..." [ซันคะ ซันอยู่กับใคร!...] เสียงครางของเอวารินทร์ดังเข้าไปในโทรศัพท์เครื่องหรูจนปรายสายต้องเอ่ยถามขึ้น ใบหน้าหล่อ เลื่อนออกมามองใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่ของเธออย่างหลงไหล จมูกโด่งกดลงไปที่แก้มเนียนแล้วสูดกลิ่นหอมๆ จนสุดปอด เขาค่อยๆ เลื่อนไปที่ซอกคอหอมกรุ่นของเธอและไล้เลียเบาๆ จนเธอสะท้านไปทั้งตัวด้วยความเสียวกระสันจนต้องหายใจเข้าออกถี่ๆ "อื้ม..."เสียงร่างสูงครางออกมาเพื่อจงใจให้ปรายสายได้ยินเสียงของเขา มือหนาใช้นิ้วเรียวเขี่ยเจ้าแพนตี้ตัวจิ๋วเบี่ยงไปด้านข้าง จากนั้นก็ใช้นิ้วที่ยาวที่สุดกดลงไปจนสุดนิ้ว เลื่อนเข้าออกเบาๆ ก่อนที่จะค่อยๆ เร่งจังหวะให้รัวเร็วขึ้น "อ๊ะ!...อ๊าส์..."เสียงหวานๆ ของเธอมันทำให้เขาหัวใจสั่นไหว ตายและ อารมณ์เตลิดไปหมดแล้ว ความเป็นชายแข็งขึงดุนดันกางเกงจนแทบปริ "อ๊ะ...พี่ซันขา..."และแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เสียงหวานๆ นั่นเอ่ยเรียกชื่อเขางั้นหรอ แม่คุณพ่อคุณเอ้ย ตายแน่ๆ ใจบางหมดแล้ว แค่เสียงครางหวานๆ ก็ว่าเตลิดแล้วนี่ครางชื่อเขาอีก หลงจนหาทางออกไม่เจอแล้วแม่คุณ "อื้ม...พี่ชอบให้เอวาครางชื่อพี่แบบนี้จัง"พูดจบเขาก็ก้มลงไปจุมพิตที่ปากบางแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงอมชมพูน่าจูบนั่น ปากนุ่มๆ ละมุนหวานลิ้นอย่างไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนแต่กลับได้ลิ้มลองที่เธอ [ซัน! ซัน!] จากนั้น ปรายสายก็วางไป เมื่อรู้ว่ากำลังฟังเสียงอะไรอยู่ คงจะเป็นบทรักเร่าร้อนกันสินะ แล้วดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเสียงเรียกของเธอเลยสักนิด พลั่ก! "ออกไปได้และ!"เมื่อเห็นว่าปรายสายตัดไป เอวารินทร์ก็รีบผลักร่างสูงออกทันที ละครจบแล้วถ้าเล่นต่อมีหวังเธอได้คล้อยตามไปกับเขาแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไปตามเกมส์เขาแล้วก็ตาม ร่างบางสะบัดศีรษะเบาๆ เพื่อไล่ความมึนเมาออกไป แต่ยังพอตั้งสติได้ และถ้าไม่มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็คงไม่กล้าแสดงละครสุดเร่าร้อนให้ปรายสายได้ยินแบบนั้นหรอก มันน่าอายชะมัด "อื้อ...อย่าใจร้ายนักสิ ข้างล่างเธอต้องการฉันแล้วดูสิ เยิ้มเชียว"ไม่พูดเปล่า แต่มือหนานั้นลูบไล้เบาๆ ที่ขาเรียวของเธอเพื่อเร้าอารมณ์ อีกครั้งหวังให้ไฟกองเดิมมันติด "ไม่ อย่าบังคับฉันนะ เมื่อกี้ฉันอุตส่าห์ช่วยนาย หัดสำนึกบุญคุณกันบ้าง"เธอเฉไฉทั้งที่เล่นละครก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็เผลอเคลิ้มไปด้วยรสรักที่เขามอบให้ มันช่างวาบหวามเสียเหลือเกิน "ก็กำลังจะตอบแทนบุญคุณอยู่นี่ไง...อ้อ...ฉันชอบให้เธอครางชื่อฉันแบบเมื่อกี้นะ"เสียงแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูขาว ก่อนที่จะเป่าลมร้อนๆ รดไปที่ต้นคอของเธอจนไรขนตั้งชูชันไปทั่วทั้งร่าง นี่เขาจะแกล้งเธอไปถึงไหนกัน คนบ้า! "ฉันแสดง! เข้าใจ๊!"มือบางปัดมือปลาหมึกของเขาออก พร้อมกับจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย จากนั้นก็ค่อยๆ เขยิบออกห่างจากร่างสูงไม่ให้ใกล้ชิดกันมากเกินไป "แสดงจนจบเลยไม่ได้หรอ นะๆๆ"เขาอ้อนวอนเธอทำเอาเธอเกือบไหววูบไปกับเขา "ไม่! เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วอีกอย่างที่ฉันทำเมื่อกี้ เพราะแค่กำจัดยัยนั่นให้ออกห่างจากนาย งานของฉันจะได้จบเร็วๆ นายจะได้เลิกวุ่นวายกับฉันสักที"ไม่รู้ทำไม พอแม่สาวข้างๆ พูดออกมาแบบนั้นกลับไม่ได้รู้สึกดีเลย ลึกๆ แล้วเขาอยากให้เธอเป็นของเขา เมื่อไหร่กันนะเธอจะเต็มใจให้เขาจริงๆ ไม่ใช่เพราะทำตามคำสั่งใคร "อยากอยู่ห่างจากฉันขนาดนั้นเลย!"เสียงประชดประชันทำให้ร่างบอบบางมองไปยังใบหน้าหล่อๆ ชั่วครู่อย่างไม่ค่อยเข้าใจ "ใช่ ฉันไม่ชอบอยู่ใกล้คนเจ้าชู้ หื่นกามแบบนาย ยิ่งอยู่ใกล้ ฉันยิ่งไม่ปลอดภัย" "แต่ก็เคยกันมาแล้วนี่ ไหนๆ ก็จะแต่งงานกันแล้วก็ทำหน้าที่ให้สมจริงไปเลยสิ" "ไม่มีทาง ฉันจะไม่ยอมให้นายมาบังคับขืนใจฉันอีกเป็นอันขาด" "หึ! ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะรู้สึกยังไง ในเมื่อพูดดีๆ ไม่ชอบ ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน เพราะอะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ ไม่เว้นแม้แต่ตัวเธอ!"ความหงุดหงิดเข้าครอบงำ แต่อารมณ์ใคร่ยังคงต้องการอยู่ แต่ในเมื่อร่างบางไม่เป็นใจให้เขา เขาก็ต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ร่างสูงเดินเข้าห้องน้ำไป หวังเพียงจะปลดปล่อยเจ้ามังกรตัวร้ายที่มันพร้อมพ่นพิษให้แตกกระจาย เขาค่อยๆ รูดซิปออกแล้วควักเจ้ามังกรออกมา แล้วรูดเข้ารูดออกตามแรงรักแรงปรารถนาอันเร่าร้อนของเขา "อื้อ...อ๊าส์...อ๊าส์..."เสียงครางดังออกมานอกห้องน้ำ ทำให้ร่างบางต้องยกมือน้อยๆ ขึ้นมาปิดหู น่าเกลียด ทำไมต้องมาเจออะไรทุเรศแบบนี้ด้วย คนอะไรหื่นกาม หื่นกระหาย ไปอดยากปากแห้งมาจากไหนนักหนา "อ๊าส์...."เขาชักเข้าชักออกเร็วขึ้นและแรงขึ้น มืออีกข้างค้ำผนักเอาไว้ จากนั้นไม่นานเจ้ามังกรของเขาก็ผงกหัวหงึกๆ ก่อนจะปลดปล่อยพิษร้ายออกมาจนหมด "อื้อ..."บ้าเอ้ย ผู้หญิงตั้งมากมาก็พร้อมจะถวายตัวให้กับเขาทั้งนั้น มีแต่แม่นี่แหละที่ล่อให้เขามีอารมณ์แต่กลับผลักไสไล่ส่งเขาอย่างเลือดเย็น หึ อย่าให้ถึงคอนโดนะ จะเล่นให้เดินออกจากเตียงไม่ไหวเลย จะโกรธก็จะไม่สนใจอีกแล้วในเมื่อพูดดีด้วยแล้วไม่เอาเอง ต้องเจอของแข็งเท่านั้น เอวารินทร์ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนฉันไปได้กี่น้ำ ตั้งแต่นี้ต่อไปจะไม่ใจดีด้วยแล้ว!เมื่องานเลี้ยงจบลงแขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เหลือก็แต่ครอบครัวของเอวารินทร์และอัครวินท์ที่ยังคงอยู่เป็นกลุ่มสุดท้าย"สุขสันต์วันเกิดอีกทีนะคะคุณพ่อ"เอวารินทร์กล่าว"นี่ก็ดึกมากแล้ว พาน้องกลับบ้านเลยก็ได้ซัน""เอ่อ...วันนี้เอวาจะนอนคอนโดครับพ่อ พรุ่งนี้มีเรียนของอยู่คอนโด ถ้ากลับบ้านเดี๋ยวพรุ่งนี้จะวกไปวกมา""อ้อ งั้นหรอ งั้นก็ไปส่งน้องที่คอนโด แล้วอย่ารังแกน้อง ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่"อัครเดชคาดโทษเจ้าลูกชายตัวแสบ"อย่าดื้อกับพี่เขานะเราน่ะ"คุณหญิงพัชรินทร์ปรามลูกสาว"แม่~"ทำไมทุกคนต้องไว้ใจให้นายนี่อยู่กับเธอด้วย เจ้าเล่ห์ กะล่อน แถมยังหื่นกามอีก"ฝากน้องด้วยนะซัน ถ้าน้องดื้อจัดการได้เลยนะ แม่อนุญาต""แม่!"นี่ไง แม่นี่ตัวดีเลย เปิดทางให้คนแบบนี้มารังแกลูกสาวของตัวเองได้ยังไงกันนะ"ครับแม่ ผมจะดูแลน้องเป็นอย่างดีเลยครับ แม่ไม่ต้องห่วง ผมจะไปรับไปส่ง รับรองครับ"อัครวินท์ตอบพัชรินทร์อย่างสุภาพ แหมทำตัวเป็นลูกเขยที่ดี เอาหน้าชัดๆ อยากให้เห็นเบื้องหลังความร้ายกาจของอีตานี่เสียจริงๆ เธอกล่าวในใจจากนั้นทั้งคู่ก็ออกมาจากงานเลี้ยง ภายในรถที่เงียบอีกแล้ว มันชวนอึดอัดทุกครั้
เมื่อใกล้รุ่งสางอัครวินท์สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเนื่องจากรู้สึกถึงความร้อนจนเหงื่อเขาออก ลำตัวและร่างกายที่แนบกันเกือบจะทุกสัดส่วนต่างก็ร้อนจนเหงื่อออกไปด้วย"เอวา...ทำไมตัวร้อนขนาดนี้"ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้เริ่มเป็นกังวลเล็กน้อย คิ้วหนาขมวดมุ่นจนแทบจะเป็นปม "ถึงกับไข้ขึ้นเลยหรอเนี้ย?"เขาพึมพำกับตัวเองจากนั้นก็รีบเปิดไฟหัวเตียงแล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เอวารินทร์ที่ตอนนี้ร้อนลุ่มอย่างกับไฟ"อื้ม..."เธอเบี่ยงหน้าหลบความเย็นที่ปะทะใบหน้านวลด้วยความรำคาญ"เห้อ...ยัยแสบ...แค่นี้ทำเป็นใจเสาะไปได้"ปากก็บ่นไปแบบนั้นแหละ แต่มือก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้หล่อนด้วยความเต็มใจ จากนั้นก็เอาเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขามาสวมใส่ให้แทน จะเอาเสื้อผ้าแฟนเก่ามาใส่ให้เดี๋ยวตื่นมาก็กลัวว่าจะอาละวาดอีก เอาแบบนี้แหละดีแล้วตลอดจนถึงเช้าร่างสูงไม่ได้นอนต่อเลย เนื่องจากร่างบางเอาแต่นอนละเมอ จนเขาอดห่วงไม่ได้ แถมต้องคอยเช็ดตัวให้อีก จนตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงแล้ว เขาจึงลงไปหาซื้อข้าวและยามาไว้ให้ร่างบาง วันนี้เอวารินทร์ต้องขาดเรียนเนื่องจากไม่สบาย แล้วเขาก็ให้คนไปลาป่วยให้เธอแล้ว ดีหน่อยที่วิชานี้เป็นแค่วิชาบูร เลยไม่ได้
"แต่ฉันเหลือเงินก้อนสุดท้ายอยู่นะ เดี๋ยวตั้งใจทำงานแล้วบอกพ่อแม่ว่าเลิกกับยัยนั่นแล้วแม่คงให้เงินเดือนเหมือนเดิม อีกอย่างฉันเป็นถึงรองประธานฉันมีเงินเดือนจ่ายเธอก็แล้วกัน""เงินเดือนนาย พ่อนายบอกว่าโอนเข้าบช ฉันนะ""ว่าไงนะ!""ฉันรู้...ว่านายได้ยิน...ฮึฮึ"เธอหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ที่สามารถปั่นประสาทคนแบบเขาได้ แถมพ่อแม่ตานี่ยังไว้ใจเธอให้คุมประพฤติและการใช้เงินของเขาอีก"..."เขาถึงกับพูดไม่ออก พ่อนะพ่อ!"แต่ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ นายจะทำอะไรก็เบิกจากฉัน ฉันจะเขียนรายงานพ่อนายว่าเอาไปใช้อะไร เท่าไหร่ ทุกการใช้จ่ายต้องผ่านฉันถ้าอนุมัติก็ได้ ถ้าไม่...ก็อดนะจ๊ะ...ที่รัก"คนตัวเล็กใช้นิ้วเชยคางเขาเบาๆ อย่างกวนๆ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เนื่องจากยังคงอ่อนเพลียจากพิษไข้อยู่เล็กน้อย"อะแฮ่ม...สงสัยจะพูดมากไปหน่อย...หิวน้ำจังเลย..."เธอกล่าวลอยๆ พร้อมกับเอามือมาลูบลำคอเบาๆ"หึ่ย!...อย่าให้ถึงตาฉันนะ"อัครวินท์หงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินไปรินน้ำใส่แก้วให้เธอแต่โดยดี "แสบนักนะ ได้ทีเอาใหญ่...ปล่อยให้ตายใจไปก่อน...ก็อยากจะรู้ว่าใครกันแน่ที่จะคุ้มกว่ากัน"เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อมีแผนร้ายแล่นเข้ามาในหัว
เอวารินทร์ย่างกายเข้ามาในคลับหลังจากที่การ์ดด้านนอกตรวจบัตรเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบเดินเข้าไปยังที่ประจำที่เคยจองไว้ตามเคย ครั้งนี้เธอเข้ามากับเกวรี ส่วนจีโน่จะตามมาสมทบทีหลัง วันนี้เธอมาในชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้นจู๋ พร้อมกับโซ่สีทองคล้องแขนทั้งสองข้าง ชายกระโปรงแต่งด้วยขนฟุ้งฟิ้งสีเดียวกับชุด และส้นสูงสีดำ4นิ้วเพื่อเพิ่มความสง่างามยิ่งขึ้น ผมมวยต่ำปล่อยปอยผมเล็กๆ พอให้ดูหวานขึ้นตึก ตึก ตึก!เสียงส้นสูงกระทบกับพื้น ดึงดูดสายตายสุดหื่นกระหายหลายคู่ให้มองมาที่เธอ เอวบาง หุ่นสุดเซ็กซี่ยั่วยวนสะกดทุกสายตา"มิเกล เข้าไปรอในห้องก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันตามไป ขอไปจัดการหัวขโมยก่อน"เอวารินทร์เอ่ยบอกเพื่อนรักอย่างเกวรีให้เข้าไปรอที่ห้องที่ได้จองกันเอาไว้ ก่อนที่จะปรายตาไปมองห้องซุปเปอร์วีไอพีอีกห้องที่มีสามหนุ่มกำลังนั่งคลอเคลียกับสาวๆ อยู่อย่างเพลินใจทันทีที่เปิดประตูเข้าไป สายตาก็มองไปยังหญิงสาวสุดเซ็กซี่ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ที่กำลังออดอ้อนออเซาะอัครวินท์ประหนึ่งว่าจะกินกันตรงนั้นอยู่ลอมล่อพลั่ก!"เห้ย!/เห้ย/เชี้ย!!"ทั้งสามหนุ่มเอ่ยอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตื่นตกใจที่อยู่ๆ เอวารินทร์ก็เขวี้ยงกระเป๋าถือราคาแ
"มิเกล แกว่าฉันควรสารภาพรักกับเอวาดีไหม"จีโน่กระซิบถามเกวรี"อย่าเพิ่งเลย แกก็รู้ว่ามันต้องแต่งงาน แค่นั้นมันก็เครียดพอแล้ว"เกวรีเสนอ"พวกแกนินทาฉันอยู่หรอ?"เอวารินทร์หันมาถามเพื่อนระหว่างที่กำลังยกแอลกอฮอล์ในมือกระดกรอดเดียว"เปล่า! เอ้อ...เดี๋ยวฉันเทเหล้าให้แกดีกว่า"ว่าแล้วจีโน่ก็เติมเหล้าให้เธอ"ส่วนฉัน...ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อย่าเพิ่งกินจนเมาล่ะเอวา""อืม...ไม่เมาหรอก"ผ่านไป20นาที"พอได้แล้วเอวา ไหนว่าอีกแก้วเดียวไง"จีโน่ยื่นมือไปแย่งแก้วเหล้าของเอวารินทร์มาถือไว้"จีโน่...เอามาน้าาาา""เสียงยานขนาดนี้...แก้วนี้ฉันกินแทนเอง...เช็คบิลด้วยครับ"จากนั้นจีโน่ก็เรียกเก็บตังค์ทันที"ยังไม่อยากกลับเลย""โอ๋ๆ ...ไว้วันหลังค่อยมากันใหม่นะ"จีโน่เอื้อมมือไปโยกศีรษะเพื่อนรักที่แอบรักเบาๆ อย่างเอ็นดู แววตาของเขาจ้องมองดวงหน้าสวยหวานซ่อนเปรี้ยวอย่างหลงไหล เมื่อไหร่กันนะ ถึงจะใจกล้าบอกรักสักที กลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะเผลอไปหลงรักผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วย"ทำไมนายน่ารักกับฉันแบบนี้นะจีโน่"มือน้อยๆ เอื้อมมาจับแก้มของเพื่อนรักตรงหน้า ตอนนี้ใบหน้าหวานของเธออยู่ใกล้กับเขาแค่นิดเดียว หัวใจของชายหนุ่
อัครวินท์ขับรถเข้ามารอเอวารินทร์อยู่หน้าตึกคณะบริหารที่เธอเรียน เพียงไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไปคลับกับเธอ ใบหน้าหล่อนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่ดูเหมือนจะพออกพอใจยิ้มหวาน หัวเราะร่าของเธอ เป็นรอยยิ้มที่เขาแทบจะไม่ค่อยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ"ทำไมมาช้าจัง แล้วไอ้นั่นเป็นใคร ทำไมถึงได้ออกมากับมัน"เมื่อร่างบางเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำที่ข้างกายเขา เขาก็ถามขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจทันที"แฟน...""ไปเลิกกับมัน!!""ไม่! แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องเลิก"เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก จากนั้นก็กอดอกแล้วหลับตาลงทันทีเพื่อตัดปัญหาการมีปากเสียงกับเขา"จิ๊!"เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดกับท่าทีที่ไม่เอ็นจอย "ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย อยู่กับฉันมันอึดอัดขนาดนั้น ทีกับผู้ชายคนอื่นล่ะยิ้มหน้าระรื่นเชียว"เขากล่าวประชดประชัน พูดมาแล้วก็หงุดหงิดเสียนี่"ฉันไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายพูดมาก"เธอกล่าวทั้งที่ตายังหลับอยู่ เธอเหนื่อยที่จะต้องทะเราะ แล้ววันนี้ทั้งวันเธอทำงานจนหัวปั่น คงไม่มีอารมณ์มาสู้รบปรบมือกับเขานักหรอก "ฉันเหนื่อย ถ้าจะชวนทะเราะฉันจะกลับเอง""เหนื่อย? ไปทำอะไรกัน
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ