“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ
“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ” “จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้” “แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย” “เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ “...” “นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง” “เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน “เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ” “อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว่าก็คงแค่แกล้งเล่นอีกตามเคย ไม่หลงกลหรอกนะ เธอคิดในใจ “ป้ะ...” “ไปไหนอีกอ่ะ” “ไปลองชุดแต่งงาน อยากแต่งงานและ” พูดจบเขาก็เดินผ่านหน้าเธอไป “เอ่อ เดี๋ยวส่งเอกสารไว้ที่เลขาผมเลยนะครับ ผมเอาห้องนี้” แต่ก็ไม่วายหันไปบอกเซลล์ที่พาทัวร์ห้องนี้ @เลิฟลี่สตูดิโอ “เลือกเลยนะ อยากได้ชุดไหนก็เลือกเลย แต่!!...ห้ามสั้น...ห้ามแหวกหน้า...แหวกหลัง...แหวกอก” “แต่งงานหรือบวชชี ถามจริง?” ถึงแม้ว่าเขาจะปรามเธอยังไง เธอก็ไม่สนใจเขาอยู่ดี แต่งงานทั้งทีก็อยากสวยๆ ไหม ปิดหมดมันจะไปสวยอะไรล่ะ เธอเดินเลือกชุดที่มันแขวนอยู่บนราว ระรานตาไปหมด สวยๆ ทั้งนั้นเลย เธอหยิบชุดนั้นชุดนี้มาเทียบตัวแล้วยื่นให้พนักงานที่เดินตามหลังมาสองสามชุด แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับชุดหนึ่ง เป็นชุกเกาะอกสีขาวขอบอกประดับไปด้วยดอกไม้สีขาวเป็นกลุ่มๆ ความยาวถึงหน้าขา กระโปรงด้านหลังเป็นชั้นฟูๆ ยาวลากพื้น ปักมุกและเพชรสีขาวระยิบระยับ สวยหรูแต่ก็แอบเก๋ไปในคราเดียวกัน “เอาชุดนี้ค่ะ” พนักงานพยักหน้าแล้วถือชุดนั้นมาให้เธอที่ห้องลองชุด “คุณเอวารินทร์คะ ยังไม่เลือกชุดไทยไว้ใส่ในพิธิรดน้ำสังฆ์เลยนะคะ” พนักงานกล่าว “ตายจริง ลืมเลยค่ะ” เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินไปที่โซนชุดไทยที่ก็ระรานตาเช่นเดียวกัน แต่ดีหน่อยที่เธอมีแบบไว้ในหัวแล้ว เลยเลือกหยิบชุดไทยจักรพรรดิสีขาวเงิน เพราะจะได้แมตช์กับเซตเครื่องเพชรเครื่องประดับสีเงิน และรองเท้าสีขาวของเธอที่มีอยู่แล้ว “คุณเอวานี่ตาถึงจริงๆ เลยนะคะ และมันก็ดูเข้ากับคุณเอวามากๆ เลยค่ะ” ผ่านไปไม่นานเอวารินทร์ก็เดินออกมาด้วยชุดแต่งงานที่เลือกไว้ชุดแรก อัครวินทร์มองสาวสวยที่อยู่ในชุดแต่งงานที่มันดูเข้ากับเธอมากๆ ใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่เมื่อปล่อยผมลอน ยาวถึงกลางหลังประดับด้วยผ้าคลุมผมสีขาวบางสะอาดตา เธอเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปาน มันทำให้เขาเผลอจ้องมองเธอจนเนิ่นนาน จนเจ้าตัวที่ถูกมองนานๆ ถึงกับต้องกระแอมเรียกสติคนร่างสูง ถูกจ้องนานๆ มันก็เขินเป็นนะ “สวยไหมคะ” เอวารินทร์ถามร่างสูง “เอ่อ...สวยสิ...” แต่ถึงแม้ว่ามันจะดูสั้นไปหน่อยเขาก็ไม่ขัดเพราะชุดนี้มันเข้ากับเธอจริงๆ จนปฏิเสธไม่ลงเลย ยอมให้สวยวันนึงก็แล้วกัน งานอื่นไม่ยอมแน่ เห็นว่าเป็นงานสำคัญที่มีครั้งเดียวในชีวิตหรอกนะ ส่วนอัครวินก็เลือกสูทสีขาวสะอาดตา เข้าชุดกับชุดเจ้าสาวของเอวารินทร์อย่างลงตัว เมื่อเห็นว่าถูกใจกันแล้ว และไม่เปลี่ยนแปลงอะไรทั้งคู่จึงเตรียมตัวไปถ่ายพรีเวดดิ่งต่อ โดยมีช่างภาพและฉากเซตรอไว้เรียบร้อยแล้ว “พร้อมนะครับ เจ้าสาวนั่งลงบนตักเจ้าบ่าวเลยนะครับ” ช่างภาพเอ่ยจัดฉาก เอวารินทร์อึกอักยังไม่ยอมที่จะนั่งลงบนตักร่างสูง จนเขาต้องกระตุกแขนเธอให้ล้มลงมานั่งบนตักของเขาแทน “ว๊าย!!...” เมื่อเธอล้มลงมานั่งบนตักแกร่งของเขาแล้ว เขาก็เอาคางมาเกยที่ไหล่ของเธอ แขนกำยำโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้แน่น “ตัวหอมจัง” เขากระซิบเสียงเบาข้างหูเธอ จนใบหน้าสวยนั้นขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย หัวใจดวงน้อยๆ กระตุกเต้นคร่อมจังหวะ “ดีครับ สวยครับ เจ้าสาวหันไปสบตาเจ้าบ่าวหน่อยครับ...หวานๆ ครับ...สวยครับ...จ้องกันสักพักนะครับ...ยิ้มครับ” สายตากลมโตของเธอสบประสานกับดวงตาคมๆ ของเขา เขาและเธอมองจ้องกันเนิ่นนานจนใบหน้าใกล้กันเรื่อยๆ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เผลออีกทีก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ของลมหายใจทั้งคู่ที่เป่ารดใส่กัน จมูกโด่งรั้นแตะเข้าที่แก้มนวลของเธอเบาๆ ฟ่อด! “นี่!” ร่างบางเอ็ดคนตัวสูงที่ฉวยโอกาสหอมแก้มของเธอพร้อมกับลูบแก้มของตัวเองเบาๆ “ขอหอมแก้มแบบเมื่อกี้อีกรอบครับ” ตากล้องบ้า จะบ้าจี้ไปกับคนกะล่อนแบบเขาทำไมนะ เธอบ่นอุบอิบในใจ ร่างสูงทำตามช่างภาพอย่างถูกอกถูกใจ พอใจที่ได้กลั่นแกล้งร่างบางบนตักที่เขินเขา มันช่างน่ารักน่าชังอะไรขนาดนี้ เขากล่าวในใจ “เดี๋ยวเจ้าสาวเดินไปหลังเก้าอี้นะครับ แล้วโอบรอบคอเจ้าบ่าว ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาซบที่ไหล่เจ้าบ่าวครับ...เจ้าบ่าวมองหน้าเจ้าสาวครับ...สวยครับ...ดีครับ...เซตต่อไปชุดไทยครับ...เบรกครับ” จากนั้นทั้งคู่ก็ไปเปลี่ยนชุดเตรียมเข้าฉากต่อไป ก๊อก ก๊อก ก๊อก “พี่คะ ถอดชุดให้เอวาหน่อยได้ไหมคะ เอวารูดซิบข้างหลังไม่ถึง” เอวารินทร์เอ่ยบอกกับพนักงานที่ดูเหมือนจะเข้ามาในห้องลองชุดพอดี โดยที่ไม่ได้หันไปมองเลยว่าด้านหลังนั้นคือว่าที่เจ้าบ่าว มือหนาค่อยๆ รูดซิบชุดสีขาวจนในที่สุดชุดนั้นก็รูดลงไปกองอยู่ที่พื้น เผยให้เห็นร่างบอบบางหุ่นสุดเซ็กซี่ที่มีแค่บราเกาะอกสีครีมและแพนตี้ตัวจิ๋วสีเดียวกัน หมับ จ๊วบ! “นี่นาย!” “หอมจังเลย วันนี้เอวาของพี่สวยมากเลยนะ” เสียงกระเส่ากระซิบเข้าที่ข้างใบหูขาวๆ ของเธอ พร้อมกับโอบกอดเธอไว้แน่น สถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ทำให้ร่างบางยืนนิ่งตัวสั่น ใจเต้นแรงกะหน่ำอย่างกับจะหลุดออกมาจากขั้วหัวใจ กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ของชายหนุ่มโชยเข้ามาที่จมูกจนเผลอสูดดมเข้าไปสุดปอด ในหัวของเธอตอนนี้มันเตลิดไปไกลแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยเพราะเธอรู้สึกดีกับสัมผัสของเขา “อื้ม พี่ซันหยุดนะ เดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น” ใบหน้าเนียนเห่อร้อนแดงขึ้นเพราะพิษเขินที่มันกำลังทำงาน “ถ้าไม่ติดที่เป็นประจำเดือนนะ เธอไม่รอดแน่ รอดตัวไปนะที่รัก” เสียงหวานๆ นั้นยิ่งทำให้เธอยิ่งใจเต้นแรง จากนั้นเขาก็พรมจูบไปที่ซอกคอขาวเนียนของเธอเบาๆ ก่อนที่จะผละออกอย่างแสนเสียดาย “ออกไปได้แล้วค่ะ เอวาจะเปลี่ยนชุด” เธอบอกทั้งที่ยังหันหลังให้กับเขาอยู่ ร่างสูงมองร่างบางที่ยืนตัวสั่นอย่างพอใจก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องตามที่เธอบอก “คนบ้า” เธอกล่าวเมื่อหันไปแล้วไม่เจอร่างสูงแล้ว เมื่อทั้งคู่เปลี่ยนชุดใหม่เสร็จก็มาถ่ายเซตชุดไทย และอีกหลายๆ ชุดที่ต้องเอาไว้ใช้เป็นรูปประกอบฉากในงาน จนแล้วจนรอดก็ค่ำพอดี ทำเอาหมดแรงกันไปเลย ไม่คิดว่าแค่ถ่ายรูปและเปลี่ยนชุดจะเหนื่อยขนาดนี้ “เหนื่อยไหมครับ เย็นนี้ไปทานข้าวบ้านเอวาไหม ไปไหว้พ่อแม่เอวาด้วย” อัครวินทร์เสนอ จะว่าไปแล้วเธอก็แทบจะไม่ได้กลับบ้านเลยช่วงนี้ ไปทานอาหารที่บ้านก็ดีเหมือนกัน เธอคิด “เอาสิคะ คิดถึงพ่อแม่เหมือนกัน” เธอระบายยิ้มให้ชายหนุ่ม จนร่างสูงเกือบจะล้มลงเพราะเสียการทรงตัว น้อยนักที่เธอจะส่งยิ้มหวานให้เขาขนาดนี้ นี่เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี้ย “พี่ชอบเวลาเอวายิ้มแบบนี้ให้พี่จัง ยิ้มแบบนี้บ่อยๆ นะ” แค่พูดแค่นี้ก็ทำเอาหญิงสาวที่ฟังอยู่ใจบางกันไปเลย “ปกติเอวาก็ยิ้มแบบนี้นะ” เธอตอบเคอะเขิน “ปกติทำแต่หน้ายักษ์ใส่น่ะสิ” “เดี๋ยวเถอะ” เธอค้อนวงใหญ่ใส่เขาจากนั้นก็หันไปคว้ากระเป๋ามาถือไว้แล้วเดินตรงไปยังรถคันหรูของอัครวินทร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถโซนวีไอพีของร้านรถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ตื้อดึ่งๆ ตื้อดึ่งๆ!!เสียงกดออดหน้าประตูรัวๆ จนเจ้าของห้องต้องรีบลุกไปส่องตาแมวดูว่าใครกันที่ เล่นซนกดรัวๆ แบบนี้"เชี้ย!! พี่ซันมา"เกวรีอุทานบอกเพื่อนเสียงดัง ส่วนเอวารินทร์กำลังหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ จากตอนแรกกะจะไปที่คลับ แต่เพราะความไม่ชอบคนเยอะแล้วคิดว่าต้องเมาคอพับกันแน่ๆ จึงตัดสินใจซื้อมาดื่มที่ห้องมันซะเลย"อย่าเปิดนะ!!"ร่างบางบอกเพื่อนสาวเสียงแข็ง เนื่องจากเกวรียังไม่เมา"แต่เขากดนานแล้วนะเอวา""ก็ปล่อยเขากดไปสิ เดี๋ยวเมื่อยก็กลับไปเองแหละ"อึก ปึ่ง!เอวารินทร์ยกแก้วแอลกอฮอล์ดื่มรวดเดียวหมด แล้วจัดการเติมใหม่พร้อมกับกระดกเข้าไปอีกแก้ว"โมโหชะมัด...พวกบ้ากาม...เหอะ!!..."เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด"เอวาใจเย็นๆ แกเมาแล้วนะ"เกวรีแย่งแก้วมาจากมือเพื่อน แล้วกระดกเข้าปากแทน"อยากกินก็เทเองดิเกล...""อ่ะได้..."เกวรีหยิบแก้วอีกใบมาเติมจากนั้นก็ชนกับแก้วอีกใบของเอวารินทร์เพล้ง!!"ชน!!!"อึก!!ทั้งคู่นั่งดื่มกันโดยที่ไม่สนใจ เสียงออดที่ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าห้อง บวกกับเสียงเคาะประตูจนประตูมันจะทะลุเข้ามาอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงดื้อนั่งหัวเราะชนแก้วกันอยู่ในห้องอย่างสบ
"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น"หรือฉันควรไปง้อ?"แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ"เอ่อ...มะ...มิเกล..."[อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ"เขาจะทำอะไรอยู่นะ?""เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงี
"หูหนวกหรือไงพี่ซัน!!"เอวารินทร์ท้วง แต่ยิ่งเธอดิ้น เขากลับยิ่งกระชากแรงขึ้น แถมขายาวๆ ของเขาก็ทำให้เธอแทบจะวิ่งตาม"...""พี่ซันเอวาเจ็บ...ปล่อยเอวาเดี๋ยวนี้!!"ติ้ง!!เสียงลิฟต์เปิดออก อัครวินท์ลากร่างบางเข้าไปด้านใน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็ดันร่างบางเข้าไปชิดผนักแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันเอาไว้โดยมีร่างบางอยู่ตรงกลาง"โสด!! หึ!...""เอวาไม่ได้ไปบอกใครว่าโสดนะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ"เธอพยายามหว่านล้อม"ไม่บอกแล้วไอ้เหนือมันพูดแบบนั้นออกมาได้ไง?"เสียงเข้มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "รู้ใช่ไหมว่าต้องเจอกับอะไร?""รู้ค่ะ..."เองารินทร์หลุบตาลงต่ำเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดมือหนาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้อย่างแรงอยู่หลายนาที มือหนาอีกข้างซุกซนลูบไล้บั้นท้ายงามงอนของร่างบาง"อื้อ~"เสียงครางของร่างบางเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังโกรธจัดถึงกับยกยิ้มร้ายอย่างพอใจมือหนาล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงสั้นตัวจิ๋วของเธอแล้วขย้ำบั้นท้ายของเธออย่างหมั่นเขี้ยว ปากก็บดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางต้องทุบอกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจติ้ง!!เมื่อถึ
หลังจากเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวและของจิปาถะต่างๆ เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อ1อาทิตย์ ทั้งสองสาวก็กลับมายังห้องพัก แต่พอมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปดินเนอร์กับแสงเหนือตามที่ได้นัดกันเอาไว้"พี่เหนือนี่เขาน่ารักเนาะ ตรงๆ ดีอ่า"เอวารินทร์เอ่ยขึ้น พร้อมกับแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"ก็น่ารักดี แต่ต้องรอดูไปเรื่อยๆ""ถ้าพี่เขาดีเสมอต้นเสมอปลาย...แกจะคบกับเขาป้ะ?""ก็คงคบ แกก็รู้ฉันแพ้คนเอาใจใส่""แล้ว...พี่คิมล่ะ?""ก็...ไม่รู้สิ...พูดยากว่ะแก...เขาเป็นคนแรกของฉัน...แต่ก็นั่นแหละต่างคนต่างเมา...อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ปกติป้ะ?""อืม...จะว่าไปฉันก็...คิดถึงพี่ซันอยู่นะ...พอห่างกันออกมาแบบนี้แล้ว""คิดถึงก็โทรหา...อย่าทำอะไรให้มันซับซ้อน..."เกวรีกล่าว พร้อมกับตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ"ขออยู่แบบนี้อีกนิด จะได้แน่ใจว่าจริงๆ แล้วฉันก็ต้องการเขา"~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'พี่แสงเหนือ'"เอวาเสร็จหรือยังพี่เหนือโทรตามแล้ว""เสร็จแล้วๆ"เอวารินทร์วางแปรงปัดแก้มลงแล้วลุกไปสะพายกระเป๋าทันที"ค่ะพี่เหนือ..."[น้องมิเกลครับ...พี่ถึงแล้วนะครับ...จองห้องไว้แล้ว...ชั้นบนสุดห้องกระจก1008นะครับ]
"มาพักผ่อนกันหรอครับสาวๆ"แสงเหนือเอ่ยถามระหว่างที่ส่งเมนูอาหารคืนพนักงานหลังจากที่สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มาพักผ่อนค่ะสักอาทิตย์"เอวารินทร์ตอบ เพราะแผนมาพักสมองของเธอ อยากอยู่คนเดียวนานหน่อย แต่ในเมื่อเอาเพื่อนมาด้วยเลยลากมาอยู่ด้วยกันเลย"แล้วพี่เหนือละคะมาทำอะไร...มาพักผ่อนเหมือนกันหรอคะ"เกวรีถาม"เปล่าครับ...พี่มาทำงาน...มาดูทำเลทำรีสอร์ทน่ะ...แต่เหมือนเจ้าของที่ดินที่พี่สนใจเขาจะยังไม่อยากขาย""อ้อ...อยากได้มากเลยหรอคะ...ทำไมถึงไม่ไปหาที่อื่น">เกวรี"ถูกใจครับ...ทั้งทำเล...และปัจจัยอื่นๆ หลายอย่าง...พี่เสนอราคาสูงด้วยแต่ก็ไม่ยอมขาย..."ใบหน้าแสงเหนือดูเป็นกังวลเล็กๆ"งั้นก็แปลว่าจะอยู่นี่นานเลยหรอคะ? ...">เกวรี"ครับ...จนกล่าวเขาจะใจอ่อน""เอาใจช่วยนะคะ...ขอให้เขาใจอ่อนเร็วๆ""อื้ม...เมื่อกี้เพื่อนพี่ที่เป็นหุ้นส่วนรีสอร์ทบอกจะมาที่นี่กับเพื่อนอีกคน...เผื่อน้องเอวาสนใจเพื่อนพี่...พี่จะแนะนำให้รู้จัก"แสงเหนือกล่าวบอกเอวารินทร์ที่เอาแต่จ้องโทรไม่วางตา พร้อมขมวดคิ้วจนเป็นปม"น้องเอวา...น้องเอวาครับ!!""คะ...เมื่อกี้พี่เหนือว่าไงนะคะ?""พี่เหนือบอกว่าเพื่อนเขาจะมาอีก2คน...เขาจะแ
ผ่านไปไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เข้ามาในคอนโดของอัครวินท์เป็นที่เรียบร้อย แต่สภาพเพื่อนค่อนข้างที่จะอนาจารเป็นอย่างมาก สภาพเปลือยไม่พอแถมยังโดนล็อกข้อมือติดกับเตียงอีกต่างหาก"เชี้ยซัน!! มึงไปทำอีท่าไหนวะถึงได้มีสภาพทุเรศแบบนี้...""มึงเลิกพูดมากแล้วมาไขกุญแจกูสักทีเถอะ อย่าให้มึงเจอแบบกูก็แล้วกัน!!""ไอ้จิม...หน้าที่มึงแล้ว"คิมหันต์หันไปสั่งลูกน้องให้ไปปลดกุญแจ พร้อมกับมองเพื่อนด้วยแววตาที่สมเพช"สาบานได้เลยว่าคาสิโนว่าแบบมึงโดนผู้หญิงหลอกแบบนี้ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ซัน"เขากล่าวออกมาเมื่อเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง"ทีมึงล่ะ หลับจนไม่รู้ว่าเมียหาย!!"อัครวินท์สวน"ไม่ใช่เมีย!!""ไม่ใช่เมียแต่เอาเขา มึงจะทำอะไรกูไม่เคยว่านะ...แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย กูเตือนด้วยความหวังดี""มึงก็รู้กูมีคู่หมั้นแล้ว"แววตาคมหลบต่ำลงเล็กน้อย"แล้วมึงไปดึงเขาเข้ามาทำไม!!""ทีแรกก็กะจะเล่นๆ ก็มิเกลน่าสนใจดี""เล่นหลายรอบเชียวนะมึงอ่า ไม่เรียกว่าเล่นแล้วมั้ง""พูดมากชิบ...กูให้ไอ้จิมล็อคมึงไว้แบบเดิมดีไหมเนี้ย??"อัครวินทน์เดินไปหยิบเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่งมาสวมใส่ จนเรียบร้อยจากนั้นก็มาเช็คระบบติดตามในโทรศัพท์ที
เอวารินทร์ขับรถมาจนถึงคฤหาสน์หลังงามภายนอกดูเหมือนจะเป็นแค่บ้านคนรวยแต่พอมองเข้าไปมีบอร์ดี้การ์ดเต็มไปหมดทั่วทุกมุมคฤหาสน์"เชี้ย!! บ้านมาเฟียป้ะเนี่ย"เอวารินทร์อุทานกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมหันต์นั้นเป็นใคร"มาหาใครครับคุณ"ชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจอดรถแล้วด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าทางเข้าคฤหาสน์"เอ่อ...มาหาพี่คิมหันต์กับมิเกลค่ะ เพื่อนฉัน""อ้อ...คุณมิเกล...เชิญด้านในก่อนครับ"จากนั้นประตูก็เลื่อนออกอัตโนมัติ แล้วร่างบางก็ขับไปจอดเทียบตรงทางเข้าประตูบ้านของคิมหันต์ทันทีไม่นาน เกวรีก็วิ่งออกมา ด้วยใบหน้ารุกรี้รุกรนแปลกๆ"พี่คิมล่ะ?""นอนอยู่ยังไม่ตื่น แกพาฉันออกไปทีฉันไม่อยากอยู่บ้านกับอีตาบ้านี่ หื่นกาม!!""สงสัยจะหื่นกามยกแก๊งค์..."เอวารินทร์กล่าวก่อนจะจูงมือเกวรีไปที่รถของตัวเอง"แล้วออกมาแบบนี้พี่คิมเขาไม่ว่าหรอ??""ก็เขาไม่รู้ไง รีบไปกันเถอะค่อยคุยกัน"ทั้งคู่ขับออกมาจากหน้าคฤหาสน์ แต่ระหว่างที่กำลังจะออกไปที่ประตูสุดท้าย ก็ถูกการ์ดกันเอาไว้ก่อน"ขอโทษครับ...นายสั่งไม่ให้คุณออกไปจากที่นี่ครับ...""พี่คิมบอกให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เมื่อกี้นี้เลย หรือจะขัดค
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื