รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์
"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว "พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่ "สวัสดีครับแม่" "สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว "พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?" "เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ" "ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย "ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า "ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก...แล้วนี่น้องดื้อกับเราไหมซัน...ได้ข่าวว่าโดนน้องริบทรัพย์สินหรอ?" "ครับแม่ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมยอมให้ริบครับ" "เรานี่ก็ร้าย!!" "ร้ายอะไรคะแม่...แม่พี่ซันจัดการเอง" "ครับแม่ อย่าว่าน้องเลยครับ...แม่ผมจัดการเองทั้งหมดเลย...ถ้าจะโทษคงต้องโทษแม่ครับที่เจ้าแผนการ"ร่างสูงออกโรงปกป้องเธอ ทำเอาร่างบางนั้นใจกระตุกวูบไหวอย่างรู้สึกดีเบาๆ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่านไปอย่างราบรื่น ทั้งสามคนพูดคุยกัน ถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสา บนโต๊ะอาหารมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่อึดอัดเหมือนเมื่อก่อนที่ทั้งคู่รู้จักกันครั้งแรก พัชรินทร์ยังจำได้ดีว่าวันนั้นลูกสาวของตนแสบแค่ไหน สร้างวีรกรรมไว้มาก ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นบรรยากาศแบบนี้ที่เธออยากเห็น และทุกอย่างกำลังจะไปได้สวยตามที่ทั้งสองครอบครัวหวังจะให้เป็น "ไว้โอกาสหน้าผมจะพาน้องมาอีกนะครับแม่"อัครวินท์ยกมือไหว้ว่าที่แม่ยายด้วยความนอบน้อมพร้อมกับระบายยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่จะโอบไหล่ร่างบางไปที่รถ การกระทำของทั้งคู่ถูกเธอมองจนสุดสายตา "ใกล้เป็นจริงแล้วสินะ ทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ"เธอกล่าวด้วยความปราบปลื้มใจหลังจากที่กลับมาจากบ้าน เอวารินทร์ก็กลับมานั่งทำโปรเจคที่ไม่ว่าจะส่งไปกี่รอบก็ยังไม่ผ่านอยู่ดี อารมณ์เพิ่งจะดีไปแต่กลับห้องมาก็เข้าสู่โหมดเครียดจนได้
"กว่าจะจบทำไมมันถึงได้ยากเย็นขนาดนี้เนี่ยห๊ะ!"ร่างบางนั่งบ่นแต่มือก็ยังคงกดๆ คลิ๊กๆ แก้โปรเจคที่อยู่บนหน้าจอข้างหน้าเธอ เธอนั่งบ่นอยู่คนเดียวลำพัง แต่แล้วความอดทนก็หมดลงเมื่ออยู่ๆ เพื่อนรักอย่างเกวรีก็ส่งซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่มาให้เธอดู "โอ้ย...ยัยมิเกล...เพื่อนบ้า...โปรเจคจะเสร็จไหมเนี้ย...แต่สักตอนสองตอนคงไม่เป็นไรมั้ง...ผ่อนคลาย"จากนั้นเธอก็พับหน้าจอโปรเจคลงแล้วเปิดซีรีย์ดูทันที แต่มีหรอที่มันจะจบแค่ตอนสองตอน แน่นอนว่ามันตามมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ปาไปที่ตอนที่5แล้ว อีกด้าน... อัครวินท์เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของร่างบางกะจะขออนุญาติไปดื่มกับเพื่อน แต่ก็เห็นว่าร่างบางหลับคาหน้าจอที่มีโปรเจคและซีรี่ส์เปิดค้างซ้อนกันไว้ ร่างสูงส่ายหัวเบาๆ ที่เธอยังมีกระจิตกระใจผ่อนคลายทั้งที่ควรที่จะทำให้เสร็จ "เห้อ...เธอนี่จริงๆ เลย" ~เสียงโทรศัพท์ของซัน~ 'คิมหันต์' "อืม..." [ยังไง...พวกกูรออยู่...จะมาตอนร้านปิดหรือไงไอ้เวร] "กูคงไม่ได้ไปแล้วว่ะ..." [เอ้าไอ้นี่...แล้วพวกกูก็มาเก้อ? ...] "จะทำโปรเจคแค่นี้นะ!!"จากนั้นเขาก็ตัดสายเพื่อนรักไปทันที ร่างหนาช้อนร่างบางไปวางลงที่นอนอย่างเบามือ พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างให้เธอ ส่วนเขาก็มานั่งลงที่เก้าอี้แล้วนั่งแก้โปรเจคให้เธอที่ยังคงทำค้างเอาไว้ โชคดีหน่อยที่เขาและเธอเรียนคณะบริหารเหมือนกัน โปรเจคที่เธอทำมันเลยเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา ใช้เวลาไม่นานเขาก็ทำจนเสร็จ แต่เมื่อหันไปมองร่างบางที่อยู่บนเตียงก็เผลอยิ้มออกมาทันที ไม่คิดว่าจะขี้เซาขนาดนี้ เช้าวันต่อมา... ร่างบางตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่สดใส อิ่มเอิบ ที่นอนหลับเต็มอิ่ม แต่พอย้อนคิดไปเมื่อคืน "เมื่อคืน...ฉันนั่งทำโปรเจคอยู่นี่...ตายแล้ว...โปรเจคยังไม่เสร็จเลยแย่แน่ๆ ...จะส่งทันไหมละเนี้ย ส่งไม่เกินเที่ยงด้วยสิ" "เอ...แล้วฉันมานอนนี่ได้ไงนะ..." แต่ร่างบางก็ไม่สนใจแถมยังรีบลุกขึ้นไปยังโน๊ตบุ๊คที่เธอทำงานค้างเอาไว้ทันที และก็ต้องตื่นตะลึงอีกรอบเมื่อโปรเจคของเธอนั้นมันเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว "อย่าบอกนะว่า...พี่ซันทำหรอ? ...บ้าหน่า...เขาจะใจดีขนาดนั้นเลย?" แกร๊ก! "ไง...ตื่นแล้วหรอ?" "พี่ซัน...ทำโปรเจคให้เอวาหรอคะ" "อื้ม...ส่งเมลให้แล้วด้วยนะ...ลองเปิดดูสิ" "พูดเล่นพูดจริง?" "ก็ลองเปิดดูเองสิ"เขาไหวไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจนักก่อนจะเดินออกจากห้องของเธอไป หมับ! จุ๊ฟๆๆๆๆๆ! ร่างบางวิ่งไปกอดเขาจากข้างหลัง พร้อมกับรัวจูบลงบนแผ่นหลังกว้างของร่างสูง จนร่างสูงตัวแข็งทื่อเพราะกำลังตกใจกับการกระทำของคนตัวเล็กที่ทำกับเขา หัวใจแกร่งสั่นไหว แถมยังเต้นแรงกว่าปกติอีก "ขอบคุณนะคะ...ทำไมน่ารักขนาดนี้เนี้ย" "..." "ไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า"เอวารินทร์กล่าวด้วยท่าทีอารมณ์ดี "จะไปไหน?" "ไปทำเรื่องจบ โปรเจคเสร็จแล้วแถมเมื่อกี้อาจารย์เมลมาบอกว่าโปรเจคผ่านแล้วด้วย..." "จะจบแล้ว ดีใจด้วยนะครับ"อัครวินท์หันหน้ามาแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกว่ายินดีด้วยจริงๆ "ขอบคุณพี่ซันนะคะ...เอวาแก้ไปตั้งร้อยรอบไม่ผ่านสักที..." "จะผ่านได้ไงล่ะแม่คุณ บทความซ้ำๆ แบบนี้ใครๆ ก็เขียนได้...ต้องแปลกใหม่แล้วก็เป็นเอกลักษณ์...เรียบเรียงคำให้อ่านเข้าใจง่ายแต่ไม่ใช่ใช้ภาษาธรรมดาแต่ต้องใช้ภาษาทางการ" "จะยังไงก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้ผ่านแล้ว เย้ๆ ไปฉลองกันไหมคะ?" "ได้...ตามใจเอวาเลย..."สิ้นประโยคของอัครวินท์เอวารินทร์ก็รีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปยื่นเรื่องจบที่มหาวิทยาลัยโดยมีสารถีอย่างอัครวินท์พามา "เอ้าเอวา...มายื่นเรื่องจบเหมือนกันหรอ?" จีโน่เอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นก็ต้องหุบลงเมื่อเจอสายตาของอัครวินท์จ้องอย่างไม่วางตา "อื้ม...ฉันเพิ่งทำโปรเจคผ่านน่ะ...อีกอย่างเหลือแค่ตัวเดียวแล้วเลยมายื่นเรื่องจบเลย...แกผ่านแล้วเหมือนกันใช่ป้ะ" "อื้ม...แล้วมิเกลล่ะ..." "รายนั้นยื่นไปก่อนเราอีก...คนนั้นไม่ต้องห่วงหรอกเรียนเก่ง..." "แล้ว..."จีโน่ส่งสายตาเป็นคำถามที่เห็นร่างสูงของอัครวินท์ยืนข้างๆ แถมยังเอาแต่ปั้นหน้ายักษ์ใส่เขาอย่างกับจะฆ่าเขาอย่างไงอย่างงั้น "เอ่อ...สามีฉันเอง"เธอยิ้มตอบแห้งๆ แต่คนข้างๆ กลับยิ้มกว้างอย่างพออกพอใจ แถมยังยักคิ้วส่งไปให้เพื่อนของเธอด้วยท่าทีที่เหนือกว่า แน่นอนเขารู้ว่าไอ้หมอนี่คิดยังไงกับว่าที่เจ้าสาวของเขา เพราะวันนั้นดันบอกว่าเธอเป็นแฟน แล้วเขาก็ไม่ชอบขี้หน้าไอ้หมอนี่ตั้งแต่ตอนแรกแล้วด้วย "อ้อ...เอ้อ...ฉันขอตัวก่อนนะพอดีเสร็จธุระแล้ว" "เดี๋ยวดิจีโน่...คืนนี้ไปฉลองกันนะ...เดี๋ยวชวนมิเกลด้วย"ร่างสูงขมวดคิ้วจนเป็นปมที่เธอชวนไอ้หน้าอ่อนนี่ไปด้วย "ได้ดิ...ที่เดิมนะ"ครั้งนี้เป็นจีโน่ที่ยักคิ้วกลับมาให้เขาบ้าง ก็แน่ล่ะเขารู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้ทั้งคู่ไม่ได้เต็มใจแต่งกันตั้งแต่แรก แล้วเขาเองก็มีสิทธิ์ ในเมื่อใจเธอไม่ได้มอบให้ผู้ชายข้างๆ เธอเสียหน่อย เขาเองก็ยังมีโอกาสเช่นกันหลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ตื้อดึ่งๆ ตื้อดึ่งๆ!!เสียงกดออดหน้าประตูรัวๆ จนเจ้าของห้องต้องรีบลุกไปส่องตาแมวดูว่าใครกันที่ เล่นซนกดรัวๆ แบบนี้"เชี้ย!! พี่ซันมา"เกวรีอุทานบอกเพื่อนเสียงดัง ส่วนเอวารินทร์กำลังหน้าแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ จากตอนแรกกะจะไปที่คลับ แต่เพราะความไม่ชอบคนเยอะแล้วคิดว่าต้องเมาคอพับกันแน่ๆ จึงตัดสินใจซื้อมาดื่มที่ห้องมันซะเลย"อย่าเปิดนะ!!"ร่างบางบอกเพื่อนสาวเสียงแข็ง เนื่องจากเกวรียังไม่เมา"แต่เขากดนานแล้วนะเอวา""ก็ปล่อยเขากดไปสิ เดี๋ยวเมื่อยก็กลับไปเองแหละ"อึก ปึ่ง!เอวารินทร์ยกแก้วแอลกอฮอล์ดื่มรวดเดียวหมด แล้วจัดการเติมใหม่พร้อมกับกระดกเข้าไปอีกแก้ว"โมโหชะมัด...พวกบ้ากาม...เหอะ!!..."เอวารินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด"เอวาใจเย็นๆ แกเมาแล้วนะ"เกวรีแย่งแก้วมาจากมือเพื่อน แล้วกระดกเข้าปากแทน"อยากกินก็เทเองดิเกล...""อ่ะได้..."เกวรีหยิบแก้วอีกใบมาเติมจากนั้นก็ชนกับแก้วอีกใบของเอวารินทร์เพล้ง!!"ชน!!!"อึก!!ทั้งคู่นั่งดื่มกันโดยที่ไม่สนใจ เสียงออดที่ดังสนั่นหวั่นไหวอยู่หน้าห้อง บวกกับเสียงเคาะประตูจนประตูมันจะทะลุเข้ามาอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็ยังคงดื้อนั่งหัวเราะชนแก้วกันอยู่ในห้องอย่างสบ
ทันทีที่รถขับเข้ามาในลิฟท์ ขณะที่ลิฟต์ค่อยๆ พุ่งทะยานขึ้นไปสู่ชั้นสูงสุดของตึก ภายในรถก็ยังคงเงียบกริบไม่มีเสียงของใครเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินร่างบางกอดอก แล้วนั่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเพราะไม่อยากที่จะมองหน้าของคนขับข้างกาย ให้ยิ่งรู้สึกมัวหมองใจ"นี่กะจะไม่คุยกันเลยใช่ไหม...ไม่คิดจะให้พี่อธิบายอะไรเลยหรอ""เลิกพูดคำว่าพี่ได้แล้ว ฉันมีพี่ชายคนเดียว""เอวา!!!"ร่างสูงตวาดลั่นรถกับคำพูดของเธอที่เอาแต่พยศ"...""เฮ้อ..."ร่างสูงถอดหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะพูดประโยคต่อไป "ผู้หญิงพวกนั้นเป็นผู้หญิงเก่าๆ ที่พี่เคยมีอะไรด้วยจริง แต่มันนานแล้ว""บอกฉันทำไม...""เอวา...มีเหตุผลหน่อยดิ...แล้วก็ฟังกันบ้างได้ไหม??""...""ผู้หญิงพวกนั้น...พี่มีอะไรด้วยครั้งเดียวตอนเหงาๆ สมัยที่ยังคบกับฉัตร...""ขนาดมีแฟนยังไปเอากับคนอื่น...แล้วฉันจะเชื่อใจได้ไงว่าคบกับฉันอยู่แล้วคุณจะไม่ไปเอากับคนอื่นเหมือนที่เคยทำกับแฟนเก่าคุณ!!""ก็ตอนนั้นฉัตรเพิ่งเข้าวงการ แล้วก็ไม่ค่อยกลับมา อีกอย่างพี่ก็ไม่เคยออกสื่อเปิดตัวกับฉัตร แล้วฉัตรก็ยอมให้พี่ซื้อกินเป็นครั้งคราวระหว่างที่ฉัตรไม่อยู่""งั้นแปลว่าถ้าคุณไม่อยู่ฉันก็ซื้
"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น"หรือฉันควรไปง้อ?"แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ"เอ่อ...มะ...มิเกล..."[อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ"เขาจะทำอะไรอยู่นะ?""เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงี
"หูหนวกหรือไงพี่ซัน!!"เอวารินทร์ท้วง แต่ยิ่งเธอดิ้น เขากลับยิ่งกระชากแรงขึ้น แถมขายาวๆ ของเขาก็ทำให้เธอแทบจะวิ่งตาม"...""พี่ซันเอวาเจ็บ...ปล่อยเอวาเดี๋ยวนี้!!"ติ้ง!!เสียงลิฟต์เปิดออก อัครวินท์ลากร่างบางเข้าไปด้านใน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็ดันร่างบางเข้าไปชิดผนักแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันเอาไว้โดยมีร่างบางอยู่ตรงกลาง"โสด!! หึ!...""เอวาไม่ได้ไปบอกใครว่าโสดนะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ"เธอพยายามหว่านล้อม"ไม่บอกแล้วไอ้เหนือมันพูดแบบนั้นออกมาได้ไง?"เสียงเข้มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "รู้ใช่ไหมว่าต้องเจอกับอะไร?""รู้ค่ะ..."เองารินทร์หลุบตาลงต่ำเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดมือหนาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้อย่างแรงอยู่หลายนาที มือหนาอีกข้างซุกซนลูบไล้บั้นท้ายงามงอนของร่างบาง"อื้อ~"เสียงครางของร่างบางเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังโกรธจัดถึงกับยกยิ้มร้ายอย่างพอใจมือหนาล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงสั้นตัวจิ๋วของเธอแล้วขย้ำบั้นท้ายของเธออย่างหมั่นเขี้ยว ปากก็บดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางต้องทุบอกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจติ้ง!!เมื่อถึ
หลังจากเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวและของจิปาถะต่างๆ เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อ1อาทิตย์ ทั้งสองสาวก็กลับมายังห้องพัก แต่พอมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปดินเนอร์กับแสงเหนือตามที่ได้นัดกันเอาไว้"พี่เหนือนี่เขาน่ารักเนาะ ตรงๆ ดีอ่า"เอวารินทร์เอ่ยขึ้น พร้อมกับแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"ก็น่ารักดี แต่ต้องรอดูไปเรื่อยๆ""ถ้าพี่เขาดีเสมอต้นเสมอปลาย...แกจะคบกับเขาป้ะ?""ก็คงคบ แกก็รู้ฉันแพ้คนเอาใจใส่""แล้ว...พี่คิมล่ะ?""ก็...ไม่รู้สิ...พูดยากว่ะแก...เขาเป็นคนแรกของฉัน...แต่ก็นั่นแหละต่างคนต่างเมา...อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ปกติป้ะ?""อืม...จะว่าไปฉันก็...คิดถึงพี่ซันอยู่นะ...พอห่างกันออกมาแบบนี้แล้ว""คิดถึงก็โทรหา...อย่าทำอะไรให้มันซับซ้อน..."เกวรีกล่าว พร้อมกับตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ"ขออยู่แบบนี้อีกนิด จะได้แน่ใจว่าจริงๆ แล้วฉันก็ต้องการเขา"~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'พี่แสงเหนือ'"เอวาเสร็จหรือยังพี่เหนือโทรตามแล้ว""เสร็จแล้วๆ"เอวารินทร์วางแปรงปัดแก้มลงแล้วลุกไปสะพายกระเป๋าทันที"ค่ะพี่เหนือ..."[น้องมิเกลครับ...พี่ถึงแล้วนะครับ...จองห้องไว้แล้ว...ชั้นบนสุดห้องกระจก1008นะครับ]
"มาพักผ่อนกันหรอครับสาวๆ"แสงเหนือเอ่ยถามระหว่างที่ส่งเมนูอาหารคืนพนักงานหลังจากที่สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มาพักผ่อนค่ะสักอาทิตย์"เอวารินทร์ตอบ เพราะแผนมาพักสมองของเธอ อยากอยู่คนเดียวนานหน่อย แต่ในเมื่อเอาเพื่อนมาด้วยเลยลากมาอยู่ด้วยกันเลย"แล้วพี่เหนือละคะมาทำอะไร...มาพักผ่อนเหมือนกันหรอคะ"เกวรีถาม"เปล่าครับ...พี่มาทำงาน...มาดูทำเลทำรีสอร์ทน่ะ...แต่เหมือนเจ้าของที่ดินที่พี่สนใจเขาจะยังไม่อยากขาย""อ้อ...อยากได้มากเลยหรอคะ...ทำไมถึงไม่ไปหาที่อื่น">เกวรี"ถูกใจครับ...ทั้งทำเล...และปัจจัยอื่นๆ หลายอย่าง...พี่เสนอราคาสูงด้วยแต่ก็ไม่ยอมขาย..."ใบหน้าแสงเหนือดูเป็นกังวลเล็กๆ"งั้นก็แปลว่าจะอยู่นี่นานเลยหรอคะ? ...">เกวรี"ครับ...จนกล่าวเขาจะใจอ่อน""เอาใจช่วยนะคะ...ขอให้เขาใจอ่อนเร็วๆ""อื้ม...เมื่อกี้เพื่อนพี่ที่เป็นหุ้นส่วนรีสอร์ทบอกจะมาที่นี่กับเพื่อนอีกคน...เผื่อน้องเอวาสนใจเพื่อนพี่...พี่จะแนะนำให้รู้จัก"แสงเหนือกล่าวบอกเอวารินทร์ที่เอาแต่จ้องโทรไม่วางตา พร้อมขมวดคิ้วจนเป็นปม"น้องเอวา...น้องเอวาครับ!!""คะ...เมื่อกี้พี่เหนือว่าไงนะคะ?""พี่เหนือบอกว่าเพื่อนเขาจะมาอีก2คน...เขาจะแ
ผ่านไปไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เข้ามาในคอนโดของอัครวินท์เป็นที่เรียบร้อย แต่สภาพเพื่อนค่อนข้างที่จะอนาจารเป็นอย่างมาก สภาพเปลือยไม่พอแถมยังโดนล็อกข้อมือติดกับเตียงอีกต่างหาก"เชี้ยซัน!! มึงไปทำอีท่าไหนวะถึงได้มีสภาพทุเรศแบบนี้...""มึงเลิกพูดมากแล้วมาไขกุญแจกูสักทีเถอะ อย่าให้มึงเจอแบบกูก็แล้วกัน!!""ไอ้จิม...หน้าที่มึงแล้ว"คิมหันต์หันไปสั่งลูกน้องให้ไปปลดกุญแจ พร้อมกับมองเพื่อนด้วยแววตาที่สมเพช"สาบานได้เลยว่าคาสิโนว่าแบบมึงโดนผู้หญิงหลอกแบบนี้ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ซัน"เขากล่าวออกมาเมื่อเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง"ทีมึงล่ะ หลับจนไม่รู้ว่าเมียหาย!!"อัครวินท์สวน"ไม่ใช่เมีย!!""ไม่ใช่เมียแต่เอาเขา มึงจะทำอะไรกูไม่เคยว่านะ...แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย กูเตือนด้วยความหวังดี""มึงก็รู้กูมีคู่หมั้นแล้ว"แววตาคมหลบต่ำลงเล็กน้อย"แล้วมึงไปดึงเขาเข้ามาทำไม!!""ทีแรกก็กะจะเล่นๆ ก็มิเกลน่าสนใจดี""เล่นหลายรอบเชียวนะมึงอ่า ไม่เรียกว่าเล่นแล้วมั้ง""พูดมากชิบ...กูให้ไอ้จิมล็อคมึงไว้แบบเดิมดีไหมเนี้ย??"อัครวินทน์เดินไปหยิบเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่งมาสวมใส่ จนเรียบร้อยจากนั้นก็มาเช็คระบบติดตามในโทรศัพท์ที
เอวารินทร์ขับรถมาจนถึงคฤหาสน์หลังงามภายนอกดูเหมือนจะเป็นแค่บ้านคนรวยแต่พอมองเข้าไปมีบอร์ดี้การ์ดเต็มไปหมดทั่วทุกมุมคฤหาสน์"เชี้ย!! บ้านมาเฟียป้ะเนี่ย"เอวารินทร์อุทานกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมหันต์นั้นเป็นใคร"มาหาใครครับคุณ"ชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจอดรถแล้วด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าทางเข้าคฤหาสน์"เอ่อ...มาหาพี่คิมหันต์กับมิเกลค่ะ เพื่อนฉัน""อ้อ...คุณมิเกล...เชิญด้านในก่อนครับ"จากนั้นประตูก็เลื่อนออกอัตโนมัติ แล้วร่างบางก็ขับไปจอดเทียบตรงทางเข้าประตูบ้านของคิมหันต์ทันทีไม่นาน เกวรีก็วิ่งออกมา ด้วยใบหน้ารุกรี้รุกรนแปลกๆ"พี่คิมล่ะ?""นอนอยู่ยังไม่ตื่น แกพาฉันออกไปทีฉันไม่อยากอยู่บ้านกับอีตาบ้านี่ หื่นกาม!!""สงสัยจะหื่นกามยกแก๊งค์..."เอวารินทร์กล่าวก่อนจะจูงมือเกวรีไปที่รถของตัวเอง"แล้วออกมาแบบนี้พี่คิมเขาไม่ว่าหรอ??""ก็เขาไม่รู้ไง รีบไปกันเถอะค่อยคุยกัน"ทั้งคู่ขับออกมาจากหน้าคฤหาสน์ แต่ระหว่างที่กำลังจะออกไปที่ประตูสุดท้าย ก็ถูกการ์ดกันเอาไว้ก่อน"ขอโทษครับ...นายสั่งไม่ให้คุณออกไปจากที่นี่ครับ...""พี่คิมบอกให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เมื่อกี้นี้เลย หรือจะขัดค
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื