"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป
"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว "ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง "เอ่อ...เปล่าค่ะ..." ฟึ่บ!! "คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา "พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?" "ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น "คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ" "อื้ม..." "คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์" "พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้ "ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก" "เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข้าข้างเพื่อนก็คงไม่ได้...คิมมันเปลี่ยนผู้หญิงทุกวัน...ทางที่ดีถ้าเอวารักเพื่อนพี่ก็อยากให้ห่างออกมา...อย่าเล่นกับไฟเลย" "ขนาดนั้นเลยหรอคะ?"ใบหน้าหวานวิตกกังวลลงอย่างเห็นได้ชัด "แต่ไม่แน่หรอก...บางที...มิเกลอาจจะเอามันอยู่ก็ได้...ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของคนสองคนเถอะ...อย่าไปยุ่งเรื่องของเขาเลย...มายุ่งเรื่องของเราดีกว่า..."ปรายประโยคไม่พูดเปล่า แต่กลับรวบเอวบางมากอดไว้แล้วซุกไซร้ใบหน้าหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของเธออย่างหนัก จนร่างบางนั้นย่นคอหนีเพราะจั๊กกะจี้ "พี่ซัน...เอวาจั๊กกะจี้ค่ะ..."มือเล็กดันใบหน้าเขาออก "อยากให้ถึงวันแต่งงานเร็วๆ จัง อยากเข้าหอแล้ว"น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของเขากับสายตาเหมือนเสือจ้องตะครุบเหยื่อของเขาทำเอาเอวารินทร์ยกมือขึ้นฟาดด้วยความหมั่นไส้ "ทุกวันนี้ก็เหมือนเข้าหอแล้วค่ะ พี่ซันเล่นฉวยโอกาสกับเอวาตลอดเลย" "แค่เห็นหน้าเอวาพี่ก็อยากจับกดแล้ว อดใจไม่ไหว...เมียพี่สวยไปทั้งตัว...แถมอีกอย่างโหดสุดๆ ...แต่ก็น่ารักสุดๆ ไปเลย" "นี่คลั่งรักจริงๆ ใช่ไหมเนี้ย" "ครับ! เย็นนี้ไปทานข้าวข้างนอกกันไหม?" "ได้ค่ะ...พี่ซันไปอาบน้ำก่อนนะคะ...มาเหนื่อยๆ ..." "คร้าบบ...จริงๆ ไม่เหนื่อยครับ...เจอหน้าเอวาก็หายเหนื่อยแล้ว"ร่างสูงก้มลงจูบปากบางเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปอาบน้ำ ร่างบางยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข กับท่าทีคลั่งรักของเขา จะว่าไปเขาก็น่ารักใช้ได้เลยนะ ตื้อดึ่ง! ปรายฟ้า:คิดถึงจังค่ะ ไม่เจอกันนานเลย...เจอกันหน่อยไหมคะ ตื้อดึ่ง! มะปราง:อาหารกลางวันที่ปรางเสริฟให้ ถูกใจไหมคะท่านรอง ตื้อดึ่ง! ดุจดาว:เมื่อไหร่ดาวจะได้เจอคุณอีกคะซัน มาหาดาวบ้างนะคะดาวคิดถึงไซส์58ของซันใจจะขาด หลังจากที่ร่างสูงเข้าไปในห้องน้ำไม่นาน เสียงแชทของเขาก็ดังขึ้นรัวๆ ร่างบางเบนสายตาไปมองโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แชทก็ยังคงดังขึ้นอีก จึงหยิบขึ้นมาดู "คิดถึงกันมากสินะ รู้ไซส์กันซะด้วย!!!"มือบางกำโทรศัพท์เครื่องหรูแน่น เมื่ออ่านข้อความที่มันเด้งขึ้นมารัวๆ "ไม่ต้องกงต้องกินมันแล้วข้าวเย็นเนี้ย!!" ปึ่ง!!! โทรศัพท์เครื่องหรูถูกเธอกระแทกลงบนโต๊ะหน้าโซฟาอย่างแรง จนเกิดรอยร้าว จากนั้นก็เดินไปหยิบกระเป๋าและกุญแจรถออกจากห้องไปด้วยความโกรธทันที "เลวกันทั้งแก๊งค์นั่นแหละ!!"เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ใบหน้าหวานเห่อร้อนด้วยความโมโหที่มันสุมอยู่ในอก "มิเกล...ดื่มกัน"เอวารินทร์ต่อสายหาเพื่อนรัก [เป็นไรแก...ทำไมทำเสียงแบบนั้น...ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี้ย] "หงุดหงิด!! อยากดื่ม" [มาห้องฉันก่อน...ไปตอนนี้ร้านน่าจะยังไม่เปิด...ไปตอนนี้คงได้ไปช่วยเขาเปิดร้านแทน] "อืม...เดี๋ยวเข้าไปหา...กินข้าวก่อนไหมเดี๋ยวซื้อเข้าไป" [อืม...เอาสิ] "งั้นแค่นี้แหละ...เจอกัน"จากนั้นก็กดวางสายทันที ระหว่างทางขับรถมาที่คอนโดเพื่อน อัครวินท์ก็โทรหาเธอย้ำๆ เช่นกัน แต่ภายในใจตอนนี้เธอโมโหเกินที่รับสายเขาได้ "โทรมาทำไมนักหนา ลำคาญ!!"เธอบ่นกับตัวเอง อีกด้าน... ร่างสูงออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวสอบ แต่พอออกมาก็ไม่เจอสาวสวยแล้ว "เอวา...เอวาครับ..." "..."ไร้เสียงตอบรับใดๆ "เอวา..."เมื่อเดินหาทั่วคอนโดแล้วไม่เจอเขาจึงเดินเข้ามาแต่งตัว เพื่อไปดินเนอร์คืนนี้ ตื้อดึ่ง!! ดุจดาว:ทำไมอ่านแล้วไม่ตอบเลยคะ...ว่าไงคะวันนี้จะมาหาดุจดาวไหมคะ ปรายฟ้า:อ่านแล้วไม่ตอบนี่ที่เดิมหรือเปล่าคะ เสียงแชทเด้งรัวๆ ทำให้ร่างสูงเดินไปหยิบมาดู แต่โทรศัพท์ของเขามันกับมีรอยร้าวราวกับถูกกระแทก จากนั้นก็เห็นข้อความที่เด้งรัวๆ เข้ามาในเครื่อง เขาจึงกดเลื่อนอ่านข้อความด้านบนของทุกแชท "ชิบหาบและ...เอวาเห็นแล้วแน่เลย...โอ้ววว...ชะตาขาดแน่ไอ้ซัน!!!" "แล้วนึกยังไงวะเนี้ยถึงได้ทักมาพร้อมกันขนาดนี้"เขาบ่นกับตัวเอง แล้วต่อสายหาร่างบางที่คิดว่าน่าจะโกรธเขาแล้วเรียบร้อย ซัน:พวกมึง...เมียกูหายว่ะ เมื่อโทรหาเธอเป็นสิบๆ สายแต่ไม่มีวี่แววว่าเธอจะรับสาย เขาจึงทักหาเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือ ปราณ:แล้วทักบอกพวกกูเพื่อ?? ซัน:คือสาวๆ เก่าที่เคยวันไนท์ แม่งเสือกทักมาหากูพร้อมกันวันนี้ เอวาน่าจะเห็น แล้วตอนนี้ไม่รู้หายไปไหนแล้ว ปราณ:แล้วมึงไม่บล็อคไว้ล่ะ โคตรไม่โปร ซัน:ก็ปกติไม่เห็นทักมา แล้วกูเคยบอกว่าครั้งเดียวจบ ใครจะไปคิดว่าจะใจกล้าทักกูมา แล้ววันนี้กำลังจะไปได้ดี กูเพิ่งขอเขาคบเมื่อวาน เชี้ยวันนี้ดันมีเรื่องให้ปวดหัว แล้ววันนี้เขาจะไว้ใจกูไหมเนี้ย อัครวินท์ร่ายยาวระบายความในใจให้เพื่อนในกลุ่มฟัง คิมหันต์:เมียมึงอยู่กับมิเกล ปราณ:มึงรู้ได้ไง?? ซัน:เออ...มึงอยู่นั่นหรอ?? คิมหันต์:เปล่า...ไอ้แจ็คบอก ปราณ:แล้วไอ้แจ๊ค รู้ได้ไง...มึงให้ไปเฝ้ามิเกล?? คิมหันต์:กูติดประชุม...ไปล่ะ แล้วคิมหันต์ก็เงียบทันที ปราณ:มึงว่าไอ้คิมแปลกๆ ป้ะซัน ซัน:อืม...กูไปตามเมียกูก่อนนะ ปราณ:เอ้าไอ้ชิบหาย...ได้ประโยชน์แล้วเฉดหัวทิ้งเลยนะมึง "งานงอกแล้วไหมล่ะไอ้ซัน!!"เขาสบถกับตัวเอง ก่อนที่จะเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วมุ่งตรงไปยังคอนโดมิเกลทันทีด้วยความร้อนใจ@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย"เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี""แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?""ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ""แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน""เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ""ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย"ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเ
เมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ