อัครวินท์ขับรถเข้ามารอเอวารินทร์อยู่หน้าตึกคณะบริหารที่เธอเรียน เพียงไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไปคลับกับเธอ ใบหน้าหล่อนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่ดูเหมือนจะพออกพอใจยิ้มหวาน หัวเราะร่าของเธอ เป็นรอยยิ้มที่เขาแทบจะไม่ค่อยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ
"ทำไมมาช้าจัง แล้วไอ้นั่นเป็นใคร ทำไมถึงได้ออกมากับมัน" เมื่อร่างบางเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำที่ข้างกายเขา เขาก็ถามขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจทันที "แฟน..." "ไปเลิกกับมัน!!" "ไม่! แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องเลิก"เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก จากนั้นก็กอดอกแล้วหลับตาลงทันทีเพื่อตัดปัญหาการมีปากเสียงกับเขา "จิ๊!"เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดกับท่าทีที่ไม่เอ็นจอย "ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย อยู่กับฉันมันอึดอัดขนาดนั้น ทีกับผู้ชายคนอื่นล่ะยิ้มหน้าระรื่นเชียว"เขากล่าวประชดประชัน พูดมาแล้วก็หงุดหงิดเสียนี่ "ฉันไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายพูดมาก"เธอกล่าวทั้งที่ตายังหลับอยู่ เธอเหนื่อยที่จะต้องทะเราะ แล้ววันนี้ทั้งวันเธอทำงานจนหัวปั่น คงไม่มีอารมณ์มาสู้รบปรบมือกับเขานักหรอก "ฉันเหนื่อย ถ้าจะชวนทะเราะฉันจะกลับเอง" "เหนื่อย? ไปทำอะไรกันมาล่ะถึงเหนื่อย?"แต่ก็ไม่วายทำให้เขาโมโหขึ้นไปอีก ก็จะให้เขาคิดยังไง เดินออกมาพร้อมผู้ชายแล้วบอกเหนื่อย มันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ "แล้วแต่นายจะคิดเถอะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเราะกับนายหรอกนะ"แค่โปรเจคจบก็วิ่งจนหัวปั่นแล้ว แถมยังต้องแก้ตั้งหลายรอบจนกว่าอาจารย์จะพอใจ นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแก้ล่าสุดจะผ่านไหม ยังจะต้องมามีปากเสียงกับคนไร้เหตุผลแบบเขาอีก "บอกมาว่าไปทำอะไรกับมันมา!" แกร๊ก! หมับ! สิ้นสุดประโยคของอัครวินท์เธอก็เตรียมที่จะเปิดประตูรถลงไปทันที แต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้ซะก่อน "ฟู่ว"ร่างสูงถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่จะตั้งสติแล้วดับร้อนที่ตัวเองก่อน "โอเคๆ ฉันจะไม่ทะเลาะ จะไม่หาเรื่อง...แต่ขอ...วันนี้ต้องไปกินข้าวที่บ้านฉันก่อน" "อืม...ระหว่างนี้ของีบหน่อยนะ"เธอตอบเสียงเรียบนิ่งก่อนที่จะข่มตาหลับลงไปอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้า @คฤหาสค์อัครเดชาชัย ร่างสูงขับรถมาจอดรถในลานจอดรถเสร็จ ก็หันมามองร่างบางที่เอาแต่หลับตาพริ้ม ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวของเธอตอนนี้มันสะกดสายตาของเขาจนต้องเข้าไปมองใกล้ๆ กลิ่นกายสาวหอมอ่อนๆ หวานละมุนชวนให้ยิ่งหลงไหลนั้นโชยเข้าที่จมูกของเขา จนต้องเผลอสูดเข้าไปจนเต็มปอด เขามองหน้าสวยนั้นอยู่นาน ก่อนที่จะรีบสะบัดความคิดเพ้อเจ้อออกแล้วสะกิดแขนร่างบางให้ตื่นจากห้วงภวังค์ "เอวา...ถึงแล้ว..." "อื้ม..."ร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ใบหน้าตอนนี้บ่งบอกได้ว่าเธอเหนื่อยแค่ไหน "ปะ...เข้าไปในบ้านกันพ่อแม่รออยู่"อัครวินท์กล่าวพร้อมกับเดินลงจากรถและอ้อมลงไปเปิดประตูให้เธอ "ฉันเปิดเองก็ได้นะ" "เอาน่า...พ่อแม่จับตามองอยู่"เขากล่าวพร้อมกับส่งสายตาให้ร่างบางนั้นมองไปยังห้องรับรองที่อยู่ติดกับโรงจอดรถ ซึ่งมีพ่อแม่ของเขาแอบแง้มผ้าม่านส่องดูทั้งคู่อยู่ "แล้วก็ยิ้มด้วย" "เห้อ...นายนี่มันจริงๆ เลย"ถึงแม่จะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมส่งยิ้มหวานให้เขาแต่โดยดี รอยยิ้มที่เขาอยากได้มานาน แล้วก็แทบจะไม่ค่อยได้เห็น เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มมาทีเขาแทบจะละลายลงไปกองอยู่ตรงนั้นเสียตอนนี้เลย "เวลาเธอยิ้ม เธอน่ารักที่สุดเลยนะรู้ตัวไหม"และคำพูดของเขาก็ทำเอาร่างบางถึงกับอายจนตัวม้วน ไม่คิดเลยว่าวายร้ายอย่างเขาจะชมเธอเป็น ปกติจ้องแต่จะทะเลาะ "เธอเหมาะกับรอยยิ้มที่สุดเลย"เขากระซิบที่ข้างหูอีกครั้งเมื่อรู้ว่าร่างบางนั้นเขิน แหมบ้ายอเหมือนกันนี่หว่า เขาคิด "สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่"เอวารินทร์กล่าวทักทายผู้ใหญ่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส "สวัสดีจ๊ะหนูเอวา เรียนมาเหนื่อยๆ เข้ามาทานของว่างรอก่อนมา เดี๋ยวรอทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนค่อยกลับ"คุณหญิงวินทร์รวีกล่าวกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เจ้าซันมันทำตัวเป็นภาระหนูไหม บอกพ่อได้นะ"อัครเดชเอ่ยถามเอวารินทร์อีกเสียง "เอ่อ..."เอวารินทร์เหลือบมองร่างสูงที่ทำเอาเขาปวดหัวอยู่ไม่เว้นแต่ละวันชั่วครู่ ก่อนที่จะตอบออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอีกครั้ง "ไม่เลยค่ะพ่อ พี่ซันน่ารักกับเอวามากเลยค่ะ แถมยังทำอาหารให้เอวาทานด้วยนะคะ" ไม่น่าเชื่อ ว่าเธอจะพูดด้านบวกของเขา ทำเอาร่างสูงยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ "ตายจริง...ไม่น่าเชื่อเลยนะคุณ...ลูกชายแม่เนี้ยนะทำอาหาร?"จริงๆ ก็อยากจะบอกว่าก็แค่ต้มบะหมี่ค่ะแม่ แต่เดี๋ยวอีตานี่จะจ้องตาเขม็งอีกเลยตามน้ำไปก่อน "โธ่แม่...มองผมในแง่ดีบ้างสิครับ"อัครวินท์ออดออนแม่ด้วยสายตาเหมือนเด็กน้อย ทำเอาร่างบางเผลอยิ้มออกมากับท่าทีเหมือนเด็กของเขา "คุณแม่คะ...จริงๆ เรื่องเงิน...เอ่อ...แม่ไม่ต้องโอนให้เอวาก็ได้ค่ะ...พี่ซันเขาโตแล้ว...เอวาว่าพี่ซันน่าจะจัดการเองได้..."เธอพยายามช่วยพูดให้ร่างสูง เพราะเธอเองก็ไม่อยากไปจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ของเขาเท่าไหร่ "ไม่เป็นไรหรอกเอวา เงินพี่ก็เหมือนเงินเอวานั่นแหละ ให้แม่จัดการไปเถอะ"ไม่รู้ทำไมแต่ประโยคนี้มันทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อย มันเหมือนว่าเธอสำคัญกับเขายังไงอย่างงั้น ทำเอาพ่อกับแม่ของอัครวินท์ที่อยู่ข้างๆ ถึงกับประทับใจกับคำพูดของลูกชาย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าท่าทีจะเปลี่ยนใจไปจากแต่ก่อนแทบจะสะบัดคราบผู้ชายเละเทะไปหมดสิ้น "เอวาแน่ใจนะลูก?"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยย้ำ "ไม่เอาแม่ ให้เอวาเก็บน่ะดีแล้ว ผมไม่ค่อยได้ใช้อะไรด้วยอีกอย่าง ผมเลิกกับฉัตรแล้ว..." "แม่ไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมตาซัน!" "แล้ว...แบบนี้เอวายังจะได้แต่งงานกับพี่ซันอยู่ไหมคะ...ในเมื่อภารกิจจบแล้ว?"เธอถามอ่ำๆ อึ้ง เพราะกลัวว่าถ้านานกว่านี้เธอกลัวว่าเธอจะเผลอมีใจให้กับเขาจริงๆ คำพูดของเธอทำเอาอัครวินท์นั้นรู้สึกใจหายวาบอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้เขาอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงตรงหน้าซะแล้ว อยากแต่งด้วยเพราะอยากเอาชนะหัวใจเธอ ไม่ใช่เพราะคำสั่งแม่ และนับวันความใกล้ชิดมันก็เริ่มทำให้เขามีความรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก "อีกเดือนกว่า ก็จะถึงงานแต่งแล้ว ไว้เอวาว่างเมื่อไหร่พี่จะพาไปลองชุดแต่งงานนะ"อัครวินท์กล่าวขึ้น ทำเอาร่างบางมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงอยากแต่งกับเธอนักทั้งที่ก่อนหน้านี้กลับคัดค้านหัวชนฝา "ดีเลยจ่ะ แม่เห็นลูกและหนูเอวาเข้ากันได้แม่ก็ดีใจ"มันต้องเข้ากันได้อยู่แล้วครับ ถึงแม้จะเข้ายากหน่อย อัครวินท์คิดในใจ "พ่อก็โล่งใจที่แกไม่ไปคว้าเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาทำเมีย" "เอ่อ...ขอโทษครับที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องหนักใจ...แต่ต่อไปผมจะทำตามที่พ่อกับแม่ต้องการนะครับ ผมจะเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่ทุกคำเลย"อะ เข้าโหมดลูกที่ดีซะงั้น จากนั้นเขาก็ยักคิ้วหลิ่วตาใส่เธออย่างกวนๆ จนร่างบางต้องส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขา หึ่ย! ดันไปเข้าข้างพ่อแม่ซะได้แทนที่จะช่วยกันค้านจะได้ไม่ต้องมาทำเรื่องบ้าๆ นี่ "ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่กับน้องด้วยนี่...เอวาพี่ซันไปรบกวนหนูหรือเปล่าลูก"ใจก็อยากจะตอบแม่เขาไปว่ากวนค่ะ อึดอัดจะแย่ แต่สุดท้ายก็ตอบได้แค่ "ไม่เลยค่ะคุณแม่ แต่ห้องเอวาน่าจะเล็กไปนิด...กลัวพี่ซันจะอึดอัด"และเธอก็โยนภาระให้เขาซะงั้น "งั้นพรุ่งนี้พ่อซื้อคอนโดให้ใหม่ดีกว่า เอาแบบขับรถเข้าไปจอดข้างบนได้ด้วย จะได้สะดวก"โอ้ พ่อสามีสายเปย์ที่แท้ทรู เอวารินทร์ตาลุกวาวเลยค่ะนาทีนี้ "เอ่อ...จะดีหรอคะคุณพ่อ"ถึงแม้ปากจะเกรงใจแต่ในใจนี่ตอบตกลงไปแล้วนะ "ก็ดีครับคุณพ่อ เอาแบบมีสระว่ายน้ำด้วยก็ดีนะครับ เผื่อเอาไว้ออกกำลังกายด้วย เผื่อเอวาอยากจัดปาร์ตี้ด้วยจะได้ไม่ต้องไปแออัดที่คลับ"แล้วเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าเธออยากได้คอนโดใหม่จึงทำทีเออออไปกับพ่อเพื่อเอาใจหญิงสาวร่างบางที่ดูก็เหมือนว่าจะเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารค่ำ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่านไปอย่างราบรื่น นับวันพ่อกับแม่ของอัครวินท์ก็ยิ่งรักและเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าอาจเพราะความเป็นตัวเอง ความน่ารักสดใสเลยทำให้ท่าอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ "เอวากลับก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่"ร่างบางยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม "จ่ะ เดินทางกันดีๆ นะลูก ขาดเหลืออะไรก็บอกพ่อกับแม่เลยทถ้าพี่ซันรังแกหนูก็บอกแม่ได้เลยแม่จะรีบจัดการ" "โธ่แม่จัดการอะไรล่ะครับ ผมซันลูกแม่นะ" "ได้ค่ะแม่ ถ้าพี่ซันเกเรเอวาจะบอกแม่ให้จัดการทันทีเลยค่ะ"เธอกล่าว @คอนโดเอวารินทร์ "พอกลับมาอยู่กับฉัน2คนนี่ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ร่วมโลกกันอย่างงั้น ทำไม อยู่กับฉันลำบากใจมาก?"อัครวินท์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจที่เธอเอาแต่ปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนโซฟา "นาย..."สีหน้าของเอวารินทร์ไม่ค่อยดี แถมยังดูซีดๆ ทำเอาร่างสูงรีบพุ่งเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงทันที "เอวา...เธอเป็นอะไร?"ครั้งนี้ไม่ใช่น้ำเสียงกระแทกแดกดันแล้ว แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเธอด้วยซ้ำ "ปวดท้อง ฉันปวดท้อง..."จากนั้นก็ก้มลงกุมท้อวตัวเองตัวงอ "ไปหาหมอไหม? ไหวหรือเปล่า" "เอ่อ...หยุดก่อน..."อัครวินท์เตรียมจะใช้มือช้อนร่างของเธอขึ้นมาอุ้มไว้ แต่ก็ถูกร่างบางห้ามไว้ซะก่อน "ทำไม ฉันจะพาไปหาหมอ..." "เอ่อ...ฉันคิดว่า...ฉันน่าจะปวดท้อง...ประจำเดือนน่ะ"ร่างบางหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เขา "แล้วฉันต้องทำยังไง ฉันไม่เคยดูแลผู้หญิงเวลามีประจำเดือน"น้ำเสียงดูกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนตอนนี้เขาเป็นห่วงเธอจนไม่รู้ว่าต้องทำตัวแบบไหน "คือ...ช่วยเดินไปหยิบผ้าอนามัยในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าชั้นล่างสุดให้หน่อยสิ"ถึงจะพูดไม่ค่อยเต็มเสียงแต่เธอก็จำเป็นต้องใช้เขา เพราะตอนนี้จะลุกเธอยังไม่มีแรงจะลุกเลย ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอและเปิดตู้หาสิ่งที่เรียกว่าผ้าอนามัย แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แล้วมันหน้าตาเป็นยังไงกันล่ะเนี้ย "ไม่เจอเลย..." "สงสัยน่าจะหมด...ล่ะมั้ง..." "งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อให้" "เอ่อ...นาย...จะไปซื้อจริงๆ หรอ" เธอถามอ่ำๆ อึ้งๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจ "ทำไมอ่า...ผู้ชายเขาห้ามซื้อผ้าอนามัยหรอ"ถามแบบนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมตาเองซะแล้ว เอวารินทร์คิด "ก็ไม่ค่อยมีใครเขาซื้อกันนะ...เอ่อ...นาย...ถ้าจะไปซื้อก็เร็วๆ หน่อยนะ...คือ...เลือดจะไหลหมดตัวแล้ว" @ร้านสะดวกซื้อ "ทำไมมันเยอะขนาดนี้วะ แล้วแบบนี้จะซื้อแบบไหนเนี้ย"อัครวินท์บ่นพึมพำคนเดียว เมื่อมองไปตรงชั้นวางผ้าอนามัยที่มันมีเยอะๆ แยะเต็มไปหมด "เอ่อ...ขอโทษนะคะ...ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ เห็นยืนตรงนี้มานานแล้ว"หญิงสาวใบหน้าหมวยๆ เดินเข้ามาถาม "เอ่อ...คือ...ผมมาซื้อผ้าอนามัยให้แฟนน่ะครับแต่ผมไม่รู้ว่าจะซื้อแบบไหน...ผมไม่เคยซื้อ"ชายหนุ่มตอบอ่ำๆ อึ้งๆ "มามากหรือมาน้อยคะ"หญิงสาวคนเดิมถาม "มันคืออะไรครับ?"เขาไม่เข้าใจกับคำถามของหล่อน "ประจำเดือนมาเยอะหรือมาน้อยคะ" "ไม่ทราบเหมือนกันครับ" "เอาแบบมีปีกหรือไม่มีคะ" "ต้องมีปีกด้วยหรอวะ เอาไปบินหรือไง..."เขาพึมพำเบาๆ อย่างไม่เข้าใจผู้หญิง ืำไมมันเรื่องเยอะขนาดนี้แค่ของใช้เล็กๆ รายละเอียดต้องเยอะขนาดนี้เลยหรือ "ว่าไงนะคะ?" "เอ่อ...งั้นผมเอาหมดนี่เลยครับ..."เขากล่าว เอาวะไม่ต้องเลือกและท่าจะเยอะขนาดนี้ ก็เหมาไปเลยสิครับ ไม่นานร่างสูงก็เดินเข้าห้องมาพร้อมกับหอบถุงะรุงพะรังมาเยอะแยะจนล้นมือ "นะ...นาย...ซื้ออะไรมาเยอะขนาดนี้อ่า" "ผ้าอนามัยไง..." "มะ...หมดนี่เลยหรอ!!"เธอถามอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง "อื้ม!" "นายจะซื้อมาขายหรือไง?" "ก็ฉันเลือกไม่เป็น" "ก็ทำไมไม่ถามเล่า โทรศัพท์ก็เอาไป...ถ่ายมาให้ดูก็ได้เดี๋ยวฉันเลือกเอง" "เออเนาะ...เอาน่า...ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเอาไปใช้ซะสิ"อัครวินท์นั่งปาดเหงื่อ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เธอ"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"ทำไมแฟนพี่สวยจังครับ พี่ชอบเอวาลุคนี้นะ น่ารักดียิ่งมองยิ่งละมุน"ร่างสูงกล่าวด้วยคำพูดหวานๆ เมื่อกลับมาจากบริษัท แล้วเห็นสาวสวยในลุคที่เปลี่ยนไป"ขอบคุณค่ะ"เอวารินทร์ตอบแค่นั้น ก่อนที่จะหันไปสนใจรายการทีวีตรงหน้า แต่แทนที่จะสนใจกลับเหม่อเหมือนคิดอะไรบางอย่างในหัว"ทำไมหน้าเครียดๆ ครับ ไปช็อปปิ้งไม่สนุกหรอ?"ร่างสูงถอดสูทตัวนอกออก แล้วพาดไว้บนเก้าอี้โต๊ะอาหาร จากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างๆ เธอที่โซฟาตัวยาวกลางห้อง"เอ่อ...เปล่าค่ะ..."ฟึ่บ!!"คิดอะไรอยู่ครับ?"มือหนาคว้าใบหน้าสวยหวานให้หันมามองหน้าเขา"พี่ซันคะ...เอ่อ...คือพี่คิมหันต์เป็นคนดีไหมคะ?""ทำไมถามแบบนั้น!!"ร่างสูงขมวดคิ้มเมื่อเธอถามถึงผู้ชายคนอื่น"คือไม่ใช่แบบที่พี่ซันคิดหรอกค่ะ...ถ้าเอวาบอก...พี่ซันห้ามบอกใครได้ไหมคะ""อื้ม...""คือวันนี้เอวาไปหามิเกลที่คอนโด...แล้วเจอพี่คิมหันต์""พูดจริง??"อัครวินท์ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่ก็พอเดาสถานการณ์ได้จากเมื่อคืน แค่ไม่คิดว่าจะไวไฟขนาดนี้"ค่ะ...แล้ว...พอไปที่ห้าง...ตอนทานอาหารกับมิเกล...ก็เจอควงสาวใหม่เข้ามากินข้าว...คือเอวาสงสารเพื่อน...กลัวเพื่อนจะคิดมาก""เฮ้อ...มันก็เสือนี่เนาะ...จะเข
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ