อัครวินท์ขับรถเข้ามารอเอวารินทร์อยู่หน้าตึกคณะบริหารที่เธอเรียน เพียงไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไปคลับกับเธอ ใบหน้าหล่อนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่ดูเหมือนจะพออกพอใจยิ้มหวาน หัวเราะร่าของเธอ เป็นรอยยิ้มที่เขาแทบจะไม่ค่อยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ
"ทำไมมาช้าจัง แล้วไอ้นั่นเป็นใคร ทำไมถึงได้ออกมากับมัน" เมื่อร่างบางเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำที่ข้างกายเขา เขาก็ถามขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจทันที "แฟน..." "ไปเลิกกับมัน!!" "ไม่! แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องเลิก"เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก จากนั้นก็กอดอกแล้วหลับตาลงทันทีเพื่อตัดปัญหาการมีปากเสียงกับเขา "จิ๊!"เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดกับท่าทีที่ไม่เอ็นจอย "ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย อยู่กับฉันมันอึดอัดขนาดนั้น ทีกับผู้ชายคนอื่นล่ะยิ้มหน้าระรื่นเชียว"เขากล่าวประชดประชัน พูดมาแล้วก็หงุดหงิดเสียนี่ "ฉันไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายพูดมาก"เธอกล่าวทั้งที่ตายังหลับอยู่ เธอเหนื่อยที่จะต้องทะเราะ แล้ววันนี้ทั้งวันเธอทำงานจนหัวปั่น คงไม่มีอารมณ์มาสู้รบปรบมือกับเขานักหรอก "ฉันเหนื่อย ถ้าจะชวนทะเราะฉันจะกลับเอง" "เหนื่อย? ไปทำอะไรกันมาล่ะถึงเหนื่อย?"แต่ก็ไม่วายทำให้เขาโมโหขึ้นไปอีก ก็จะให้เขาคิดยังไง เดินออกมาพร้อมผู้ชายแล้วบอกเหนื่อย มันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ "แล้วแต่นายจะคิดเถอะ ฉันไม่มีอารมณ์จะทะเราะกับนายหรอกนะ"แค่โปรเจคจบก็วิ่งจนหัวปั่นแล้ว แถมยังต้องแก้ตั้งหลายรอบจนกว่าอาจารย์จะพอใจ นี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแก้ล่าสุดจะผ่านไหม ยังจะต้องมามีปากเสียงกับคนไร้เหตุผลแบบเขาอีก "บอกมาว่าไปทำอะไรกับมันมา!" แกร๊ก! หมับ! สิ้นสุดประโยคของอัครวินท์เธอก็เตรียมที่จะเปิดประตูรถลงไปทันที แต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้ซะก่อน "ฟู่ว"ร่างสูงถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนที่จะตั้งสติแล้วดับร้อนที่ตัวเองก่อน "โอเคๆ ฉันจะไม่ทะเลาะ จะไม่หาเรื่อง...แต่ขอ...วันนี้ต้องไปกินข้าวที่บ้านฉันก่อน" "อืม...ระหว่างนี้ของีบหน่อยนะ"เธอตอบเสียงเรียบนิ่งก่อนที่จะข่มตาหลับลงไปอีกครั้งด้วยความเหนื่อยล้า @คฤหาสค์อัครเดชาชัย ร่างสูงขับรถมาจอดรถในลานจอดรถเสร็จ ก็หันมามองร่างบางที่เอาแต่หลับตาพริ้ม ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวของเธอตอนนี้มันสะกดสายตาของเขาจนต้องเข้าไปมองใกล้ๆ กลิ่นกายสาวหอมอ่อนๆ หวานละมุนชวนให้ยิ่งหลงไหลนั้นโชยเข้าที่จมูกของเขา จนต้องเผลอสูดเข้าไปจนเต็มปอด เขามองหน้าสวยนั้นอยู่นาน ก่อนที่จะรีบสะบัดความคิดเพ้อเจ้อออกแล้วสะกิดแขนร่างบางให้ตื่นจากห้วงภวังค์ "เอวา...ถึงแล้ว..." "อื้ม..."ร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ใบหน้าตอนนี้บ่งบอกได้ว่าเธอเหนื่อยแค่ไหน "ปะ...เข้าไปในบ้านกันพ่อแม่รออยู่"อัครวินท์กล่าวพร้อมกับเดินลงจากรถและอ้อมลงไปเปิดประตูให้เธอ "ฉันเปิดเองก็ได้นะ" "เอาน่า...พ่อแม่จับตามองอยู่"เขากล่าวพร้อมกับส่งสายตาให้ร่างบางนั้นมองไปยังห้องรับรองที่อยู่ติดกับโรงจอดรถ ซึ่งมีพ่อแม่ของเขาแอบแง้มผ้าม่านส่องดูทั้งคู่อยู่ "แล้วก็ยิ้มด้วย" "เห้อ...นายนี่มันจริงๆ เลย"ถึงแม่จะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมส่งยิ้มหวานให้เขาแต่โดยดี รอยยิ้มที่เขาอยากได้มานาน แล้วก็แทบจะไม่ค่อยได้เห็น เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มมาทีเขาแทบจะละลายลงไปกองอยู่ตรงนั้นเสียตอนนี้เลย "เวลาเธอยิ้ม เธอน่ารักที่สุดเลยนะรู้ตัวไหม"และคำพูดของเขาก็ทำเอาร่างบางถึงกับอายจนตัวม้วน ไม่คิดเลยว่าวายร้ายอย่างเขาจะชมเธอเป็น ปกติจ้องแต่จะทะเลาะ "เธอเหมาะกับรอยยิ้มที่สุดเลย"เขากระซิบที่ข้างหูอีกครั้งเมื่อรู้ว่าร่างบางนั้นเขิน แหมบ้ายอเหมือนกันนี่หว่า เขาคิด "สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่"เอวารินทร์กล่าวทักทายผู้ใหญ่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส "สวัสดีจ๊ะหนูเอวา เรียนมาเหนื่อยๆ เข้ามาทานของว่างรอก่อนมา เดี๋ยวรอทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนค่อยกลับ"คุณหญิงวินทร์รวีกล่าวกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "เจ้าซันมันทำตัวเป็นภาระหนูไหม บอกพ่อได้นะ"อัครเดชเอ่ยถามเอวารินทร์อีกเสียง "เอ่อ..."เอวารินทร์เหลือบมองร่างสูงที่ทำเอาเขาปวดหัวอยู่ไม่เว้นแต่ละวันชั่วครู่ ก่อนที่จะตอบออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอีกครั้ง "ไม่เลยค่ะพ่อ พี่ซันน่ารักกับเอวามากเลยค่ะ แถมยังทำอาหารให้เอวาทานด้วยนะคะ" ไม่น่าเชื่อ ว่าเธอจะพูดด้านบวกของเขา ทำเอาร่างสูงยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ "ตายจริง...ไม่น่าเชื่อเลยนะคุณ...ลูกชายแม่เนี้ยนะทำอาหาร?"จริงๆ ก็อยากจะบอกว่าก็แค่ต้มบะหมี่ค่ะแม่ แต่เดี๋ยวอีตานี่จะจ้องตาเขม็งอีกเลยตามน้ำไปก่อน "โธ่แม่...มองผมในแง่ดีบ้างสิครับ"อัครวินท์ออดออนแม่ด้วยสายตาเหมือนเด็กน้อย ทำเอาร่างบางเผลอยิ้มออกมากับท่าทีเหมือนเด็กของเขา "คุณแม่คะ...จริงๆ เรื่องเงิน...เอ่อ...แม่ไม่ต้องโอนให้เอวาก็ได้ค่ะ...พี่ซันเขาโตแล้ว...เอวาว่าพี่ซันน่าจะจัดการเองได้..."เธอพยายามช่วยพูดให้ร่างสูง เพราะเธอเองก็ไม่อยากไปจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ของเขาเท่าไหร่ "ไม่เป็นไรหรอกเอวา เงินพี่ก็เหมือนเงินเอวานั่นแหละ ให้แม่จัดการไปเถอะ"ไม่รู้ทำไมแต่ประโยคนี้มันทำให้เธอรู้สึกดีไม่น้อย มันเหมือนว่าเธอสำคัญกับเขายังไงอย่างงั้น ทำเอาพ่อกับแม่ของอัครวินท์ที่อยู่ข้างๆ ถึงกับประทับใจกับคำพูดของลูกชาย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าท่าทีจะเปลี่ยนใจไปจากแต่ก่อนแทบจะสะบัดคราบผู้ชายเละเทะไปหมดสิ้น "เอวาแน่ใจนะลูก?"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยย้ำ "ไม่เอาแม่ ให้เอวาเก็บน่ะดีแล้ว ผมไม่ค่อยได้ใช้อะไรด้วยอีกอย่าง ผมเลิกกับฉัตรแล้ว..." "แม่ไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมตาซัน!" "แล้ว...แบบนี้เอวายังจะได้แต่งงานกับพี่ซันอยู่ไหมคะ...ในเมื่อภารกิจจบแล้ว?"เธอถามอ่ำๆ อึ้ง เพราะกลัวว่าถ้านานกว่านี้เธอกลัวว่าเธอจะเผลอมีใจให้กับเขาจริงๆ คำพูดของเธอทำเอาอัครวินท์นั้นรู้สึกใจหายวาบอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้เขาอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงตรงหน้าซะแล้ว อยากแต่งด้วยเพราะอยากเอาชนะหัวใจเธอ ไม่ใช่เพราะคำสั่งแม่ และนับวันความใกล้ชิดมันก็เริ่มทำให้เขามีความรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก "อีกเดือนกว่า ก็จะถึงงานแต่งแล้ว ไว้เอวาว่างเมื่อไหร่พี่จะพาไปลองชุดแต่งงานนะ"อัครวินท์กล่าวขึ้น ทำเอาร่างบางมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงอยากแต่งกับเธอนักทั้งที่ก่อนหน้านี้กลับคัดค้านหัวชนฝา "ดีเลยจ่ะ แม่เห็นลูกและหนูเอวาเข้ากันได้แม่ก็ดีใจ"มันต้องเข้ากันได้อยู่แล้วครับ ถึงแม้จะเข้ายากหน่อย อัครวินท์คิดในใจ "พ่อก็โล่งใจที่แกไม่ไปคว้าเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาทำเมีย" "เอ่อ...ขอโทษครับที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องหนักใจ...แต่ต่อไปผมจะทำตามที่พ่อกับแม่ต้องการนะครับ ผมจะเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่ทุกคำเลย"อะ เข้าโหมดลูกที่ดีซะงั้น จากนั้นเขาก็ยักคิ้วหลิ่วตาใส่เธออย่างกวนๆ จนร่างบางต้องส่งค้อนวงใหญ่มาให้เขา หึ่ย! ดันไปเข้าข้างพ่อแม่ซะได้แทนที่จะช่วยกันค้านจะได้ไม่ต้องมาทำเรื่องบ้าๆ นี่ "ได้ข่าวว่าย้ายไปอยู่กับน้องด้วยนี่...เอวาพี่ซันไปรบกวนหนูหรือเปล่าลูก"ใจก็อยากจะตอบแม่เขาไปว่ากวนค่ะ อึดอัดจะแย่ แต่สุดท้ายก็ตอบได้แค่ "ไม่เลยค่ะคุณแม่ แต่ห้องเอวาน่าจะเล็กไปนิด...กลัวพี่ซันจะอึดอัด"และเธอก็โยนภาระให้เขาซะงั้น "งั้นพรุ่งนี้พ่อซื้อคอนโดให้ใหม่ดีกว่า เอาแบบขับรถเข้าไปจอดข้างบนได้ด้วย จะได้สะดวก"โอ้ พ่อสามีสายเปย์ที่แท้ทรู เอวารินทร์ตาลุกวาวเลยค่ะนาทีนี้ "เอ่อ...จะดีหรอคะคุณพ่อ"ถึงแม้ปากจะเกรงใจแต่ในใจนี่ตอบตกลงไปแล้วนะ "ก็ดีครับคุณพ่อ เอาแบบมีสระว่ายน้ำด้วยก็ดีนะครับ เผื่อเอาไว้ออกกำลังกายด้วย เผื่อเอวาอยากจัดปาร์ตี้ด้วยจะได้ไม่ต้องไปแออัดที่คลับ"แล้วเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าเธออยากได้คอนโดใหม่จึงทำทีเออออไปกับพ่อเพื่อเอาใจหญิงสาวร่างบางที่ดูก็เหมือนว่าจะเก็บอาการไม่อยู่ ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารค่ำ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่านไปอย่างราบรื่น นับวันพ่อกับแม่ของอัครวินท์ก็ยิ่งรักและเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้าอาจเพราะความเป็นตัวเอง ความน่ารักสดใสเลยทำให้ท่าอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ "เอวากลับก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่"ร่างบางยกมือไหว้ผู้ใหญ่อย่างนอบน้อม "จ่ะ เดินทางกันดีๆ นะลูก ขาดเหลืออะไรก็บอกพ่อกับแม่เลยทถ้าพี่ซันรังแกหนูก็บอกแม่ได้เลยแม่จะรีบจัดการ" "โธ่แม่จัดการอะไรล่ะครับ ผมซันลูกแม่นะ" "ได้ค่ะแม่ ถ้าพี่ซันเกเรเอวาจะบอกแม่ให้จัดการทันทีเลยค่ะ"เธอกล่าว @คอนโดเอวารินทร์ "พอกลับมาอยู่กับฉัน2คนนี่ทำหน้าเหมือนไม่อยากอยู่ร่วมโลกกันอย่างงั้น ทำไม อยู่กับฉันลำบากใจมาก?"อัครวินท์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจที่เธอเอาแต่ปั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บนโซฟา "นาย..."สีหน้าของเอวารินทร์ไม่ค่อยดี แถมยังดูซีดๆ ทำเอาร่างสูงรีบพุ่งเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงทันที "เอวา...เธอเป็นอะไร?"ครั้งนี้ไม่ใช่น้ำเสียงกระแทกแดกดันแล้ว แต่กลับเป็นน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงเธอด้วยซ้ำ "ปวดท้อง ฉันปวดท้อง..."จากนั้นก็ก้มลงกุมท้อวตัวเองตัวงอ "ไปหาหมอไหม? ไหวหรือเปล่า" "เอ่อ...หยุดก่อน..."อัครวินท์เตรียมจะใช้มือช้อนร่างของเธอขึ้นมาอุ้มไว้ แต่ก็ถูกร่างบางห้ามไว้ซะก่อน "ทำไม ฉันจะพาไปหาหมอ..." "เอ่อ...ฉันคิดว่า...ฉันน่าจะปวดท้อง...ประจำเดือนน่ะ"ร่างบางหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เขา "แล้วฉันต้องทำยังไง ฉันไม่เคยดูแลผู้หญิงเวลามีประจำเดือน"น้ำเสียงดูกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนตอนนี้เขาเป็นห่วงเธอจนไม่รู้ว่าต้องทำตัวแบบไหน "คือ...ช่วยเดินไปหยิบผ้าอนามัยในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าชั้นล่างสุดให้หน่อยสิ"ถึงจะพูดไม่ค่อยเต็มเสียงแต่เธอก็จำเป็นต้องใช้เขา เพราะตอนนี้จะลุกเธอยังไม่มีแรงจะลุกเลย ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอและเปิดตู้หาสิ่งที่เรียกว่าผ้าอนามัย แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ แล้วมันหน้าตาเป็นยังไงกันล่ะเนี้ย "ไม่เจอเลย..." "สงสัยน่าจะหมด...ล่ะมั้ง..." "งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อให้" "เอ่อ...นาย...จะไปซื้อจริงๆ หรอ" เธอถามอ่ำๆ อึ้งๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจ "ทำไมอ่า...ผู้ชายเขาห้ามซื้อผ้าอนามัยหรอ"ถามแบบนี้ยังไม่รู้ชะตากรรมตาเองซะแล้ว เอวารินทร์คิด "ก็ไม่ค่อยมีใครเขาซื้อกันนะ...เอ่อ...นาย...ถ้าจะไปซื้อก็เร็วๆ หน่อยนะ...คือ...เลือดจะไหลหมดตัวแล้ว" @ร้านสะดวกซื้อ "ทำไมมันเยอะขนาดนี้วะ แล้วแบบนี้จะซื้อแบบไหนเนี้ย"อัครวินท์บ่นพึมพำคนเดียว เมื่อมองไปตรงชั้นวางผ้าอนามัยที่มันมีเยอะๆ แยะเต็มไปหมด "เอ่อ...ขอโทษนะคะ...ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ เห็นยืนตรงนี้มานานแล้ว"หญิงสาวใบหน้าหมวยๆ เดินเข้ามาถาม "เอ่อ...คือ...ผมมาซื้อผ้าอนามัยให้แฟนน่ะครับแต่ผมไม่รู้ว่าจะซื้อแบบไหน...ผมไม่เคยซื้อ"ชายหนุ่มตอบอ่ำๆ อึ้งๆ "มามากหรือมาน้อยคะ"หญิงสาวคนเดิมถาม "มันคืออะไรครับ?"เขาไม่เข้าใจกับคำถามของหล่อน "ประจำเดือนมาเยอะหรือมาน้อยคะ" "ไม่ทราบเหมือนกันครับ" "เอาแบบมีปีกหรือไม่มีคะ" "ต้องมีปีกด้วยหรอวะ เอาไปบินหรือไง..."เขาพึมพำเบาๆ อย่างไม่เข้าใจผู้หญิง ืำไมมันเรื่องเยอะขนาดนี้แค่ของใช้เล็กๆ รายละเอียดต้องเยอะขนาดนี้เลยหรือ "ว่าไงนะคะ?" "เอ่อ...งั้นผมเอาหมดนี่เลยครับ..."เขากล่าว เอาวะไม่ต้องเลือกและท่าจะเยอะขนาดนี้ ก็เหมาไปเลยสิครับ ไม่นานร่างสูงก็เดินเข้าห้องมาพร้อมกับหอบถุงะรุงพะรังมาเยอะแยะจนล้นมือ "นะ...นาย...ซื้ออะไรมาเยอะขนาดนี้อ่า" "ผ้าอนามัยไง..." "มะ...หมดนี่เลยหรอ!!"เธอถามอย่างไม่เชื่อหูของตัวเอง "อื้ม!" "นายจะซื้อมาขายหรือไง?" "ก็ฉันเลือกไม่เป็น" "ก็ทำไมไม่ถามเล่า โทรศัพท์ก็เอาไป...ถ่ายมาให้ดูก็ได้เดี๋ยวฉันเลือกเอง" "เออเนาะ...เอาน่า...ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเอาไปใช้ซะสิ"อัครวินท์นั่งปาดเหงื่อ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟาข้างๆ เธอ"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
"มิเกลกลับยังไงครับ ให้พี่ไปส่งไหม"ปราณเอ่ยถามร่างบางระหว่างที่ทุกคนกำลังจะแยกย้ายกันขึ้นรถ"เอ่อ...เดี๋ยวผมไปส่งเพื่อนผม...ผมดูแลเองได้"จีโน่กล่าวเพราะถึงยังไงถ้าปล่อยให้ไปกับสองคนนี้เขาไม่ไว้ใจ แถมลึกๆ แล้วก็เป็นห่วงเพื่อนรักคนนี้ด้วย"ค่ะ เกลกลับกับโน่ก็ได้ค่ะ"แม้จะตอบแบบนั้นแต่ก็ปรายตาไปมองคิมหันต์ที่กำลังมองอย่างคาดโทษ"งั้น...เอวากับพี่ซันไปส่งมิเกลก็ได้ค่ะ..."เอวารินทร์เสนอ เพราะดูเหมือนว่าถ้าเกวรีไปกับใครสักคนจะต้องลำบากใจแน่ๆ เธอเลยอาสาที่จะไปส่งเอง"ไม่ต้องหรอกเอวา เราไปส่งเอง...ปกติมิเกลก็กลับกับเราอยู่แล้ว"จีโน่ยืนกรานที่จะไปส่งเพื่อนสาวเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ ส่วนจีโน่ก็ไปส่งเกวรีตามระเบียบหมับ!!"ขอโทษนะครับ วันนี้กะจะเป็นป๋าซะหน่อย โดนเด็กนั่นตัดหน้าเฉยเลย"อัครวินท์กอดเอวเอวารินทร์จากทางด้านหลังแน่นพร้อมกับซุกๆ ใบหน้าหล่อๆ เข้าที่ซอกคอหอมๆ ที่คุ้นเคย"ไม่เป็นไรค่ะ ทีหลังก็พกเงินสดบ้างนะคะ เพราะเอวาไม่ได้ชอบนั่งทานร้านหรูๆ แบบพี่ซัน""เอวา...พรุ่งนี้ไปดูหนังกันไหม...ไปเที่ยวก็ได้""มาแปลก...พรุ่งนี้พี่ซันต้องทำงาน""ไม่อยากไปทำเลย...อยากอยู่ก
"คุณปล่อยฉันนะ แล้วออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้!!"เกวรีโวยวาย พร้อมกับสะบัดข้อมือให้พ้นจากพันธนาการของคนตัวโตกว่า แถมแรงยังเยอะกว่าเธออีกหลายเท่าจนไม่สามารถสลัดเขาออกได้เลย"เรียกพี่คิม...ทำไมเรียกฉันพี่ไม่ได้...ทีไอ้ปราณยังเรียกพี่ได้เลย"เขาหงุดหงิดเมื่อได้ยินสรรพนามที่เธอเรียกเขาแคว่ก!!"กรี๊ดดดดดด!"ร่างบางกรีดร้องทันทีที่คนตัวโตฉีกเสื้อผ้าน้อยชิ้นของเธอแล้วโยนลงพื้นไปอย่างไม่ใยดี"มานี่...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าตัวเธอมีแค่ฉันที่ได้""ไม่...ไม่นะ...ปล่อย""แล้วต่อไปนี้ ถ้าใครแตะต้องตัวเธอได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแบบไอ้จืดนั่นแน่...ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู!"เขาข่มเสียงต่ำ"คุณจะทำอะไรเพื่อนฉัน""เพื่อน?? ยังกล้าเรียกว่าเพื่อนอีกหรอ มันจะเคลมเธอยังจะเรียกมันว่าเพื่อนอีกหรอ?""นี่ ออกไปนะ...อย่ามาทำอะไรบ้าๆ กับฉันนะ...""วันนั้นเมา...วันนี้มีสติ...เธอรู้ไหมวันนั้นเธอทำฉันค้างแค่ไหน??""ค้างอะไรของคุณ?"ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดของเขา"ก็เธอเสร็จ แต่ฉันยังไม่เสร็จ!! เพราะฉะนั้นวันนี้เธอต้องรับผิดชอบฉัน!!"พูดจบเขาก็ซุกไซร้ไปที่ซอกคอของร่างเล็ก แม้เธอจะย่นคอหลบหลีกใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์แค่ไหนก็ไม่พ
ฟึ่บบ!!เสียงม่านสีครีมรูดออก ทำให้แสงที่สาดส่งเข้ามาภายในห้องนอน"อื้อ..."เสียงหนุ่มหล่อครางออกมาเมื่อเอวารินทร์รูดม่านเสียงดังจนมันทำให้เขาลืมตาตื่นขึ้นมา"มอนิ่งค่ะพี่ซัน"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่บ่งบอกว่าอารมณ์ดีแค่ไหน"อารมณ์ดีจังครับ...ตื่นนานแล้วหรอ..."ร่างสูงลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับขยี้ตาเบาๆ ปัดความงัวเงียที่ถูกรบกวนในเช้านี้ แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้หงุดหงิดร่างบางเลย"สักพักแล้วค่ะ...เบรคฟาสต์ไหมคะ??""ไข่ลวกครับ2ฟอง"คำพูดของร่างสูงทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงก่ำด้วยความเขินทันที"พี่ซันลุกไปล้างหน้าล้างตาเร็ว เดี๋ยวเอวาทำอาหารเช้ารอ""ทำไมวันนี้ อารมณ์ดีจัง...""ไม่ดีหรอคะ??""ดีครับ...ดีแล้ว...พี่ชอบเวลาเอวาอารมณ์ดี""ค่ะ...ไปอาบน้ำนะคะ...เดี๋ยวเอวาทำอาหารรอ...พี่ซันจะได้เข้าบริษัท"จากนั้นร่างสูงก็ลุกออกจากเตียงขนาดคิงไซส์ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำตามคำสั่งของคนตัวเล็ก"เข้าบริษัทกับพี่ไหม??"อัครวินท์เอ่ยถามระหว่างทานอาหารเช้า"ไม่ดีกว่าค่ะ...วันนี้เอวาจะไปช้อปปิ้ง...นัดกับมิเกลไว้..."คิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส่งรูปภาพคิมหันต์:ส
"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น"หรือฉันควรไปง้อ?"แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ"เอ่อ...มะ...มิเกล..."[อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ"เขาจะทำอะไรอยู่นะ?""เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงี
"หูหนวกหรือไงพี่ซัน!!"เอวารินทร์ท้วง แต่ยิ่งเธอดิ้น เขากลับยิ่งกระชากแรงขึ้น แถมขายาวๆ ของเขาก็ทำให้เธอแทบจะวิ่งตาม"...""พี่ซันเอวาเจ็บ...ปล่อยเอวาเดี๋ยวนี้!!"ติ้ง!!เสียงลิฟต์เปิดออก อัครวินท์ลากร่างบางเข้าไปด้านใน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็ดันร่างบางเข้าไปชิดผนักแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันเอาไว้โดยมีร่างบางอยู่ตรงกลาง"โสด!! หึ!...""เอวาไม่ได้ไปบอกใครว่าโสดนะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ"เธอพยายามหว่านล้อม"ไม่บอกแล้วไอ้เหนือมันพูดแบบนั้นออกมาได้ไง?"เสียงเข้มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "รู้ใช่ไหมว่าต้องเจอกับอะไร?""รู้ค่ะ..."เองารินทร์หลุบตาลงต่ำเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดมือหนาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้อย่างแรงอยู่หลายนาที มือหนาอีกข้างซุกซนลูบไล้บั้นท้ายงามงอนของร่างบาง"อื้อ~"เสียงครางของร่างบางเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังโกรธจัดถึงกับยกยิ้มร้ายอย่างพอใจมือหนาล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงสั้นตัวจิ๋วของเธอแล้วขย้ำบั้นท้ายของเธออย่างหมั่นเขี้ยว ปากก็บดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางต้องทุบอกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจติ้ง!!เมื่อถึ
หลังจากเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวและของจิปาถะต่างๆ เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อ1อาทิตย์ ทั้งสองสาวก็กลับมายังห้องพัก แต่พอมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปดินเนอร์กับแสงเหนือตามที่ได้นัดกันเอาไว้"พี่เหนือนี่เขาน่ารักเนาะ ตรงๆ ดีอ่า"เอวารินทร์เอ่ยขึ้น พร้อมกับแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"ก็น่ารักดี แต่ต้องรอดูไปเรื่อยๆ""ถ้าพี่เขาดีเสมอต้นเสมอปลาย...แกจะคบกับเขาป้ะ?""ก็คงคบ แกก็รู้ฉันแพ้คนเอาใจใส่""แล้ว...พี่คิมล่ะ?""ก็...ไม่รู้สิ...พูดยากว่ะแก...เขาเป็นคนแรกของฉัน...แต่ก็นั่นแหละต่างคนต่างเมา...อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ปกติป้ะ?""อืม...จะว่าไปฉันก็...คิดถึงพี่ซันอยู่นะ...พอห่างกันออกมาแบบนี้แล้ว""คิดถึงก็โทรหา...อย่าทำอะไรให้มันซับซ้อน..."เกวรีกล่าว พร้อมกับตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ"ขออยู่แบบนี้อีกนิด จะได้แน่ใจว่าจริงๆ แล้วฉันก็ต้องการเขา"~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'พี่แสงเหนือ'"เอวาเสร็จหรือยังพี่เหนือโทรตามแล้ว""เสร็จแล้วๆ"เอวารินทร์วางแปรงปัดแก้มลงแล้วลุกไปสะพายกระเป๋าทันที"ค่ะพี่เหนือ..."[น้องมิเกลครับ...พี่ถึงแล้วนะครับ...จองห้องไว้แล้ว...ชั้นบนสุดห้องกระจก1008นะครับ]
"มาพักผ่อนกันหรอครับสาวๆ"แสงเหนือเอ่ยถามระหว่างที่ส่งเมนูอาหารคืนพนักงานหลังจากที่สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มาพักผ่อนค่ะสักอาทิตย์"เอวารินทร์ตอบ เพราะแผนมาพักสมองของเธอ อยากอยู่คนเดียวนานหน่อย แต่ในเมื่อเอาเพื่อนมาด้วยเลยลากมาอยู่ด้วยกันเลย"แล้วพี่เหนือละคะมาทำอะไร...มาพักผ่อนเหมือนกันหรอคะ"เกวรีถาม"เปล่าครับ...พี่มาทำงาน...มาดูทำเลทำรีสอร์ทน่ะ...แต่เหมือนเจ้าของที่ดินที่พี่สนใจเขาจะยังไม่อยากขาย""อ้อ...อยากได้มากเลยหรอคะ...ทำไมถึงไม่ไปหาที่อื่น">เกวรี"ถูกใจครับ...ทั้งทำเล...และปัจจัยอื่นๆ หลายอย่าง...พี่เสนอราคาสูงด้วยแต่ก็ไม่ยอมขาย..."ใบหน้าแสงเหนือดูเป็นกังวลเล็กๆ"งั้นก็แปลว่าจะอยู่นี่นานเลยหรอคะ? ...">เกวรี"ครับ...จนกล่าวเขาจะใจอ่อน""เอาใจช่วยนะคะ...ขอให้เขาใจอ่อนเร็วๆ""อื้ม...เมื่อกี้เพื่อนพี่ที่เป็นหุ้นส่วนรีสอร์ทบอกจะมาที่นี่กับเพื่อนอีกคน...เผื่อน้องเอวาสนใจเพื่อนพี่...พี่จะแนะนำให้รู้จัก"แสงเหนือกล่าวบอกเอวารินทร์ที่เอาแต่จ้องโทรไม่วางตา พร้อมขมวดคิ้วจนเป็นปม"น้องเอวา...น้องเอวาครับ!!""คะ...เมื่อกี้พี่เหนือว่าไงนะคะ?""พี่เหนือบอกว่าเพื่อนเขาจะมาอีก2คน...เขาจะแ
ผ่านไปไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เข้ามาในคอนโดของอัครวินท์เป็นที่เรียบร้อย แต่สภาพเพื่อนค่อนข้างที่จะอนาจารเป็นอย่างมาก สภาพเปลือยไม่พอแถมยังโดนล็อกข้อมือติดกับเตียงอีกต่างหาก"เชี้ยซัน!! มึงไปทำอีท่าไหนวะถึงได้มีสภาพทุเรศแบบนี้...""มึงเลิกพูดมากแล้วมาไขกุญแจกูสักทีเถอะ อย่าให้มึงเจอแบบกูก็แล้วกัน!!""ไอ้จิม...หน้าที่มึงแล้ว"คิมหันต์หันไปสั่งลูกน้องให้ไปปลดกุญแจ พร้อมกับมองเพื่อนด้วยแววตาที่สมเพช"สาบานได้เลยว่าคาสิโนว่าแบบมึงโดนผู้หญิงหลอกแบบนี้ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ซัน"เขากล่าวออกมาเมื่อเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง"ทีมึงล่ะ หลับจนไม่รู้ว่าเมียหาย!!"อัครวินท์สวน"ไม่ใช่เมีย!!""ไม่ใช่เมียแต่เอาเขา มึงจะทำอะไรกูไม่เคยว่านะ...แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย กูเตือนด้วยความหวังดี""มึงก็รู้กูมีคู่หมั้นแล้ว"แววตาคมหลบต่ำลงเล็กน้อย"แล้วมึงไปดึงเขาเข้ามาทำไม!!""ทีแรกก็กะจะเล่นๆ ก็มิเกลน่าสนใจดี""เล่นหลายรอบเชียวนะมึงอ่า ไม่เรียกว่าเล่นแล้วมั้ง""พูดมากชิบ...กูให้ไอ้จิมล็อคมึงไว้แบบเดิมดีไหมเนี้ย??"อัครวินทน์เดินไปหยิบเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่งมาสวมใส่ จนเรียบร้อยจากนั้นก็มาเช็คระบบติดตามในโทรศัพท์ที
เอวารินทร์ขับรถมาจนถึงคฤหาสน์หลังงามภายนอกดูเหมือนจะเป็นแค่บ้านคนรวยแต่พอมองเข้าไปมีบอร์ดี้การ์ดเต็มไปหมดทั่วทุกมุมคฤหาสน์"เชี้ย!! บ้านมาเฟียป้ะเนี่ย"เอวารินทร์อุทานกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมหันต์นั้นเป็นใคร"มาหาใครครับคุณ"ชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจอดรถแล้วด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าทางเข้าคฤหาสน์"เอ่อ...มาหาพี่คิมหันต์กับมิเกลค่ะ เพื่อนฉัน""อ้อ...คุณมิเกล...เชิญด้านในก่อนครับ"จากนั้นประตูก็เลื่อนออกอัตโนมัติ แล้วร่างบางก็ขับไปจอดเทียบตรงทางเข้าประตูบ้านของคิมหันต์ทันทีไม่นาน เกวรีก็วิ่งออกมา ด้วยใบหน้ารุกรี้รุกรนแปลกๆ"พี่คิมล่ะ?""นอนอยู่ยังไม่ตื่น แกพาฉันออกไปทีฉันไม่อยากอยู่บ้านกับอีตาบ้านี่ หื่นกาม!!""สงสัยจะหื่นกามยกแก๊งค์..."เอวารินทร์กล่าวก่อนจะจูงมือเกวรีไปที่รถของตัวเอง"แล้วออกมาแบบนี้พี่คิมเขาไม่ว่าหรอ??""ก็เขาไม่รู้ไง รีบไปกันเถอะค่อยคุยกัน"ทั้งคู่ขับออกมาจากหน้าคฤหาสน์ แต่ระหว่างที่กำลังจะออกไปที่ประตูสุดท้าย ก็ถูกการ์ดกันเอาไว้ก่อน"ขอโทษครับ...นายสั่งไม่ให้คุณออกไปจากที่นี่ครับ...""พี่คิมบอกให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เมื่อกี้นี้เลย หรือจะขัดค
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื