"แต่ฉันเหลือเงินก้อนสุดท้ายอยู่นะ เดี๋ยวตั้งใจทำงานแล้วบอกพ่อแม่ว่าเลิกกับยัยนั่นแล้วแม่คงให้เงินเดือนเหมือนเดิม อีกอย่างฉันเป็นถึงรองประธานฉันมีเงินเดือนจ่ายเธอก็แล้วกัน"
"เงินเดือนนาย พ่อนายบอกว่าโอนเข้าบช ฉันนะ" "ว่าไงนะ!" "ฉันรู้...ว่านายได้ยิน...ฮึฮึ"เธอหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ที่สามารถปั่นประสาทคนแบบเขาได้ แถมพ่อแม่ตานี่ยังไว้ใจเธอให้คุมประพฤติและการใช้เงินของเขาอีก "..."เขาถึงกับพูดไม่ออก พ่อนะพ่อ! "แต่ไม่ต้องเสียใจหรอกนะ นายจะทำอะไรก็เบิกจากฉัน ฉันจะเขียนรายงานพ่อนายว่าเอาไปใช้อะไร เท่าไหร่ ทุกการใช้จ่ายต้องผ่านฉันถ้าอนุมัติก็ได้ ถ้าไม่...ก็อดนะจ๊ะ...ที่รัก"คนตัวเล็กใช้นิ้วเชยคางเขาเบาๆ อย่างกวนๆ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟา เนื่องจากยังคงอ่อนเพลียจากพิษไข้อยู่เล็กน้อย "อะแฮ่ม...สงสัยจะพูดมากไปหน่อย...หิวน้ำจังเลย..."เธอกล่าวลอยๆ พร้อมกับเอามือมาลูบลำคอเบาๆ "หึ่ย!...อย่าให้ถึงตาฉันนะ"อัครวินท์หงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินไปรินน้ำใส่แก้วให้เธอแต่โดยดี "แสบนักนะ ได้ทีเอาใหญ่...ปล่อยให้ตายใจไปก่อน...ก็อยากจะรู้ว่าใครกันแน่ที่จะคุ้มกว่ากัน"เขายกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อมีแผนร้ายแล่นเข้ามาในหัวของเขา "นี่จ่ะน้ำเย็นๆ ชื่นใจ..." "ขอบใจจ่ะลูกกระจ๊อก" "มันจะมากไปแล้วนะเธอเนี้ย"แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้โกรธเธอหรอก แค่รอที่จะเอาคืน หลังจากวันนี้ไปเงินก้อนนั้นคงต้องใช้ประหยัดๆ แล้วล่ะ จะเอามาใช้ฟุ่มเฟือยเหมือนแต่ก่อนก็คงไม่ได้ เพราะตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป เงินทุกบาททุกสตางค์จะต้องเข้ากระเป๋ายัยขี้งกนี่ นี่มันหน้าที่เมียแบบเต็มรูปแบบที่พ่อเป็นอยู่ทุกวันนี้นี่ พ่อเขาต้องมีปมแล้วเอามาลงกับลูกแน่ๆตกเย็น...
เอวารินทร์และอัครวินท์ย้ายข้าวของมายังคอนโดก็เย็นแล้ว ทำเอาทั้งคู่แทบไม่ได้พักเลย ส่วนคอนโดเก่าของอัครวินท์ก็ปล่อยขาย เพราะถึงอย่างไรถ้าต้องแต่งงานกันจริงๆ เธอก็คงไม่เยียบเข้าไปในที่ที่มันซ้ำคนอื่นแบบนี้ เลยจำใจให้เขามาอยู่คอนโดด้วย แต่ก็ยังคงสั่งว่าต้องอยู่คนละห้องโดยที่ต้องจ่ายค่าเช่าทุกอย่าง นี่นับวันยัยนี่ยิ่งทำตัวเหมือนแม่ ไม่ให้อิสระกับเขาเลย แก๊งค์คาสโนว่าตัวพ่อ คิมหันต์:เพื่อน วันนี้ดริ้งค์กันสักหน่อยไหม ปราณ: ดริ้งค์เชี้ยไรมึง กูเข้าเวร คิมหันต์:มึงก็แลกเวรดิ อย่าโง่ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาล มึงจะไปเข้าเวรเองทำไม ออกมากูเหงา ปราณ:เออ งั้นเดี๋ยวหาคนแลกก่อน ว่าแต่ไอ้เสือของพวกเราหายไปไหนแล้ว คิมหันต์:ติดเมียชัวร์กูว่ารายนั้นน่ะ ซัน:ติดเมียเชี้ยอะไร คนอย่างกูไม่เคยกลัวเมีย วันนี้เดี๋ยวกูไป...เจอกันที่เดิมวันนี้กูเลี้ยงเองไม่อั้น จากนั้นแชทกลุ่มก็เงียบไปหลังจากที่ทั้งสามสนทนากันเสร็จสิ้น สายตาคมกริบของอัครวินท์มองไปยังร่างบางที่เอาแต่จดจ่ออยู่หน้าจอคอม เหมือนกำลังเคร่งเครียดจะทำอะไรสักอย่าง "ทำงานหรอ?" "อืม...โปรเจ็คจบ"เธอตอบทั้งที่สายตาจ้องไปยังหน้าจอโน๊ตบุ๊คไม่ละสายตาไปไหนแถมมือเรียวก็ยังระเลงพิมพ์ลงไปทีาคีย์บอร์ดอย่างคล่องแคล่ว "งั้น...วันนี้ก็ไม่ได้ไปไหนน่ะสิ"อัครวินท์เอ่ยถามหยั่งเชิง "ไปกินข้าวกับเพื่อน ส่วนนายถ้าหิวก็ไปทำกินเองในตู้เย็น" "เอ้าไหนบอก กับข้าวฉันกินกับเธอไง ทำไมให้ทำกินเองอ่า แล้วฉันทำเองเป็นที่ไหน"เขาโวยวาย "งั้นเดี๋ยวออกไปซื้อกินเองก็ได้"เขากล่าวก่อนจะกดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นธนาคารเช็คดูยอดเงิน แต่ แต่ แต่ "เห้ย เงินฉันหายไปไหนหมดเนี่ย แล้วนี่อะไรเหลือแค่500 จะพออะไรวะ"เขาบ่นออกมาทันที นี่อะไรกันเนี่ย ยึดทรัพย์สินขนาดนี้แล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไงกัน "อ้อ...ลืมบอกคุณแม่ของนายแจ้งเข้ามาในไลน์บอกว่าเริ่มใช้เงิน500วันนี้เลย" แม่อีกแล้วหรอ แม่!! แล้วนี่จะทำยังไง นัดเพื่อนไว้แล้วแถมบอกจะเลี้ยงอีก เอาไงดีวะเนี้ยชีวิตรองประธานสุดหล่อ สุดเท่ห์ หมดกันคราบรองประธานที่สาวๆ หมายตามอง ร่างสูงเอามือกุมที่ขมับอย่างใช้ความคิดแต่แล้วสายตาก็พลันไปเห็นกระเป๋าสตางค์ของเอวารินทร์ที่อยู่ตรงโซฟา เขายืนกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย้างหนักใจ เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วแถมยังหน้าใหญ่ใจโตบอกจะเลี้ยงเพื่อนแบบไม่อั้นอีก คงต้องทำจริงๆ แล้วล่ะไอ้ซัน เขาคิด ก่อนจะหันซ้ายมองขวา ไอริสตาร์คลับ... รถเฟอร์รารี่ 296 GTBสีแดงคันหรูราคาเหยียบที่40กว่าล้านพุ่งทะยานมายังคลับดังย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งเที่ยวกลางคืนสำหรับนักท่องราตรีที่ดีที่สุดในย่านนี้ ร่างสูงเดินเข้ามาในร้านในชุดเสื้อเชิ้ตสีกรม กางเกงยีนส์แบรนด์ดังราคาแพงสีขาว รองเท้าหนังสีดำขัดมันเงา เขาเดินฝ่าฝูงชนที่เอาแต่ส่ายสะโพกโยกย้ายกันอย่างเมามันส์ โดยมีสายตาของเหล่าสาวๆ ที่หวังจะงาบเขาอยู่หลายคู่ เขาจึงหันไปโปรยยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้สาวๆ เหล่านั้น ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่นั้นถึงกับอายม้วนตัวกันไปเป็นแถบๆ "มึงจะบริหารเสน่ห์อีกนานไหมวะ ไปๆ พวกกูรอนานแล้ว ทำไมออกมาช้านักวะ"คิมหันต์เอ่ยถามเพื่อน เพราะปกติเพื่อนเขาจะมาตรงเวลาไม่เคยเลท "เนี้ยกูถึงออกมากินเหล้าอยู่นี่ไง เซ็งชิบ" "ไปนั่งก่อนแล้วค่อยระบาย"เพื่อนรักกล่าวพร้อมกับคล้องคอเพื่อนให้เดินตามไปยังห้องซุปเปอร์วีไอพีห้องประจำที่เคยจอง "มาแล้วหรอครับท่านรอง กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง กูแดกไปจะครึ่งขวดแล้ว"ปราณเอ่ยขึ้นเมื่อเพื่อนทั้งสองเดินกอดคอกันเข้ามานั่งที่โซฟา พร้อมกับเหล่าสาวๆ ที่รายล้อมกันคนละ1คน "ไหน...มีอะไรเล่ามาสิ"คิมหันต์เปิดประเด็นที่ยังคงค้างกันอยู่ "แม่ยึดเงินกู แถมทุกบาททุกสตางค์โอนเข้าบัญชีเอวาหมด มึงดูพ่อกับแม่ทำกับกูดิ ยังเห็นกูเป็นลูกอยู่หรือเปล่า" "เห้ย...มันขนาดนั้นเลยหรอวะ"ปราณเอ่ยถามพร้อมกับเอามือกอดร่างบอบบางของสาวผมลอนหุ่นอวบอัดสุดเซ็กซี่อยู่ข้างๆ "เออ จะทำอะไรก็ต้องรายงาน จะไปไหนก็ต้องขอ แถมเงินก็ต้องเบิกกับเอวา ถ้าไม่อนุมัติฉันก็อด" "เห้ยไอ้เสือ คนแบบมึงโดนดีแล้วว่ะ...นี่สินะคนจะมากำราบคนแบบมึงเนี่ย"คิมหันต์เอ่ย แต่ก็สงสารเพื่อนที่เคยใช้ชีวิตอิสระ "แล้วเรื่องแฟนมึงล่ะ ยังไงได้เคลียร์กันยัง"ปราณถาม "เลิกแล้ว" "ห๊ะ!!/ห๊ะ!!"เพื่อนประสานเสียงตอบกลับมาอย่างไม่เชื่อหู นี่มันเรื่องอะไรกัน ทั้งแม่ทั้งพ่อกรอกหูแทบตายไม่เลิก พอผู้หญิงคนนั้นเข้ามานี่เลิกกันเลยหรอ แหมแบบนี้ต้องไม่ธรรมดาเสียแล้ว "อื้ม...เอวาจัดการหมดเลย แถมตอนนี้ต้องไปอยู่คอนโดกับเอวาอีก"ร่างสูงระบายสิ่งที่คับค้องใจทั้งหมด "ก็ดีดิวะ เป็นกูจะปลุกปล้ำทุกวันไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย"คิมหันต์กล่าวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เมื่อนึกถึงว่าที่เจ้าสาวแสนสวยของเพื่อน อีกด้าน... "เอวา...ไปเที่ยวคลับกันไหม?"เกวรีชวนเพื่อนสาวทันทีที่รับประทานอาหารค่ำกันเสร็จ "อืม...เอาดิ...แต่ขอไปแต่งตัวใหม่ก่อนนะ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นแบบนี้คงไม่เริ่ดเท่าไหร่" "ได้ดิ งั้นฉันยืมชุดแกนะเดี๋ยวขับรถตามไปคอนโดแก แล้วค่อยไปรับไอ้จีโน่ด้วย" "อืม...มิเกลงั้นคิดตังเลยเนาะ"ว่าแล้วสาวสวยร่างบางก็ควานหาแบงค์ในกระเป๋าเพื่อจ่ายค่าอาหาร แต่แล้วกลับพบแบงค์พันแค่ใบเดียว "เห้ย! ตังฉันหายไปไหนอ่า...ถ้าจำไม่ผิดฉันเอาไว้ในนี้นะ...ตายแล้ว..."แต่ถึงอย่างงั้นเธอก็ยื่นแบงค์พันให้พนักงานแล้วเดินออกจากร้านไป และวิ่งตรงไปที่รถยนต์คันใหม่ของเธอเพื่อค้นหาเงินปึ่กใหญ่ที่เพิ่งถอนออกมาสดๆ ร้อนๆ เพื่อเอาไว้จ่ายสดในแต่ละวันให้อัครวินทร์ เผื่อว่าจะจำผิดใส่ไว้ในอีกใบหนึ่ง "เอวา...แกโอเคเปล่า แล้วมันหายไปเท่าไหร่?" "5หมื่น!" "แกลืมที่ไว้หรือเปล่า?" "ไม่ลืมนะแก เมื่อเช้าตอนฉันจะทำโปรเจคฉันจำได้ว่าฉันเอาใส่ไว้ในนี้" "จะหายได้ไงแกก็อยู่คนเดียวนี่ ฉันว่าแกลืมที่ไว้" "อยู่คนเดียว...หึ่ย!!! ฉันรู้แล้วว่ามันหายไปได้ยังไง ป้ะ...รีบแต่งตัว!"เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่กี่ชม.อัครวินทร์ขอตัวออกไปเที่ยวคลับ แต่เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรจึงปล่อยให้เขาไป แต่ใครจะไปนึกล่ะ ว่านายนี่มันโจร! ได้!! เล่นแบบนี้ใช่ไหม เดี๋ยวแม่จะจัดชุดใหญ่พร้อมไฟกระพริบเลยคอยดูเถอะ เตรียมพร้อมรับมือกับศึกหนักได้เลยนายซัน!!เอวารินทร์ย่างกายเข้ามาในคลับหลังจากที่การ์ดด้านนอกตรวจบัตรเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบเดินเข้าไปยังที่ประจำที่เคยจองไว้ตามเคย ครั้งนี้เธอเข้ามากับเกวรี ส่วนจีโน่จะตามมาสมทบทีหลัง วันนี้เธอมาในชุดเดรสเกาะอกสีดำสั้นจู๋ พร้อมกับโซ่สีทองคล้องแขนทั้งสองข้าง ชายกระโปรงแต่งด้วยขนฟุ้งฟิ้งสีเดียวกับชุด และส้นสูงสีดำ4นิ้วเพื่อเพิ่มความสง่างามยิ่งขึ้น ผมมวยต่ำปล่อยปอยผมเล็กๆ พอให้ดูหวานขึ้นตึก ตึก ตึก!เสียงส้นสูงกระทบกับพื้น ดึงดูดสายตายสุดหื่นกระหายหลายคู่ให้มองมาที่เธอ เอวบาง หุ่นสุดเซ็กซี่ยั่วยวนสะกดทุกสายตา"มิเกล เข้าไปรอในห้องก่อนเลยนะเดี๋ยวฉันตามไป ขอไปจัดการหัวขโมยก่อน"เอวารินทร์เอ่ยบอกเพื่อนรักอย่างเกวรีให้เข้าไปรอที่ห้องที่ได้จองกันเอาไว้ ก่อนที่จะปรายตาไปมองห้องซุปเปอร์วีไอพีอีกห้องที่มีสามหนุ่มกำลังนั่งคลอเคลียกับสาวๆ อยู่อย่างเพลินใจทันทีที่เปิดประตูเข้าไป สายตาก็มองไปยังหญิงสาวสุดเซ็กซี่ตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ ที่กำลังออดอ้อนออเซาะอัครวินท์ประหนึ่งว่าจะกินกันตรงนั้นอยู่ลอมล่อพลั่ก!"เห้ย!/เห้ย/เชี้ย!!"ทั้งสามหนุ่มเอ่ยอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตื่นตกใจที่อยู่ๆ เอวารินทร์ก็เขวี้ยงกระเป๋าถือราคาแ
"มิเกล แกว่าฉันควรสารภาพรักกับเอวาดีไหม"จีโน่กระซิบถามเกวรี"อย่าเพิ่งเลย แกก็รู้ว่ามันต้องแต่งงาน แค่นั้นมันก็เครียดพอแล้ว"เกวรีเสนอ"พวกแกนินทาฉันอยู่หรอ?"เอวารินทร์หันมาถามเพื่อนระหว่างที่กำลังยกแอลกอฮอล์ในมือกระดกรอดเดียว"เปล่า! เอ้อ...เดี๋ยวฉันเทเหล้าให้แกดีกว่า"ว่าแล้วจีโน่ก็เติมเหล้าให้เธอ"ส่วนฉัน...ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ อย่าเพิ่งกินจนเมาล่ะเอวา""อืม...ไม่เมาหรอก"ผ่านไป20นาที"พอได้แล้วเอวา ไหนว่าอีกแก้วเดียวไง"จีโน่ยื่นมือไปแย่งแก้วเหล้าของเอวารินทร์มาถือไว้"จีโน่...เอามาน้าาาา""เสียงยานขนาดนี้...แก้วนี้ฉันกินแทนเอง...เช็คบิลด้วยครับ"จากนั้นจีโน่ก็เรียกเก็บตังค์ทันที"ยังไม่อยากกลับเลย""โอ๋ๆ ...ไว้วันหลังค่อยมากันใหม่นะ"จีโน่เอื้อมมือไปโยกศีรษะเพื่อนรักที่แอบรักเบาๆ อย่างเอ็นดู แววตาของเขาจ้องมองดวงหน้าสวยหวานซ่อนเปรี้ยวอย่างหลงไหล เมื่อไหร่กันนะ ถึงจะใจกล้าบอกรักสักที กลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะเผลอไปหลงรักผู้ชายที่ต้องแต่งงานด้วย"ทำไมนายน่ารักกับฉันแบบนี้นะจีโน่"มือน้อยๆ เอื้อมมาจับแก้มของเพื่อนรักตรงหน้า ตอนนี้ใบหน้าหวานของเธออยู่ใกล้กับเขาแค่นิดเดียว หัวใจของชายหนุ่
อัครวินท์ขับรถเข้ามารอเอวารินทร์อยู่หน้าตึกคณะบริหารที่เธอเรียน เพียงไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับผู้ชายคนเมื่อคืนที่ไปคลับกับเธอ ใบหน้าหล่อนั้นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจกับท่าทีที่ดูเหมือนจะพออกพอใจยิ้มหวาน หัวเราะร่าของเธอ เป็นรอยยิ้มที่เขาแทบจะไม่ค่อยเห็นมันเลยด้วยซ้ำ"ทำไมมาช้าจัง แล้วไอ้นั่นเป็นใคร ทำไมถึงได้ออกมากับมัน"เมื่อร่างบางเปิดประตูรถเข้ามานั่งประจำที่ข้างกายเขา เขาก็ถามขึ้นด้วยเสียงไม่พอใจทันที"แฟน...""ไปเลิกกับมัน!!""ไม่! แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องเลิก"เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยใส่ใจนัก จากนั้นก็กอดอกแล้วหลับตาลงทันทีเพื่อตัดปัญหาการมีปากเสียงกับเขา"จิ๊!"เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดกับท่าทีที่ไม่เอ็นจอย "ทำไมต้องทำท่าทางแบบนั้นด้วย อยู่กับฉันมันอึดอัดขนาดนั้น ทีกับผู้ชายคนอื่นล่ะยิ้มหน้าระรื่นเชียว"เขากล่าวประชดประชัน พูดมาแล้วก็หงุดหงิดเสียนี่"ฉันไม่ชอบที่สุดคือผู้ชายพูดมาก"เธอกล่าวทั้งที่ตายังหลับอยู่ เธอเหนื่อยที่จะต้องทะเราะ แล้ววันนี้ทั้งวันเธอทำงานจนหัวปั่น คงไม่มีอารมณ์มาสู้รบปรบมือกับเขานักหรอก "ฉันเหนื่อย ถ้าจะชวนทะเราะฉันจะกลับเอง""เหนื่อย? ไปทำอะไรกัน
"ฮึก..."หลังจากที่ร่างบางจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยแววตาเศร้าๆ ทำเอาเขาที่กำลังตรวจเช็คเอกสารละสายตามามองเธอแทน"เธอเป็นอะไร?""อึก...ฉัน...ฉันปวดท้อง""มีถุงน้ำร้อนไหม"จากนั้นเขาก็วางเอกสารลงและเดินไปประคองเธอให้มานั่งที่โซฟา จากนั้นก็เดินหายไป และออกมาพร้อมถุงน้ำร้อน "เอาแนบไว้มันช่วยได้ แล้วนี่โกโก้ร้อน...ดื่มสิจะได้ไม่เครียด"เขาก็ยื่นแก้วให้เธอแล้วก็เดินมานั่งเซ็นต์เอกสารต่อเอวารินทร์มองการกระทำของร่างสูงตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไหววูบ ไม่รู้ทำไมแต่เขาทำให้มันรู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันรู้สึกดีมากจริงๆ กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำให้เธอนั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่บนโซฟา และมองเขานั่งเซ็นต์เอกสารอยู่บนโซฟาตรงกันข้าม จากนั้นไม่นานเธอก็เผลอหลับไปใบหน้าสวยหวานปนเซ็กซี่นั้นทำให้เขาต้องเผลอแอบมองอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้เธอหลับไปแล้ว เวลาเธอหลับก็อย่างที่บอกมันน่ารักจนละสายตาไปมองอย่างอื่นไม่ได้เลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาจ้องมองเนิ่นนาน นานจนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถึงเรียกสติของเขาให้หลุดออกจากห้วงภวังค์~เสียงโทรศัพท์~"ครับแม่"[ตาซัน...ทำอะไรอยู่]"นั่งเซ็นต์เอกสารอนุ
“พร้อมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็บอกนะ เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องมาช่วยย้าย” อัครวินทร์กล่าวด้วยท่าทีสบายๆ“ไว้ทำโปรเจคเสร็จก่อนค่อยว่ากันอีกทีนะคะ”“จริงๆ พี่สั่งให้คนย้ายให้เลยก็ได้นะ เอวาก็รอมาอยู่อย่างเดียวก็ได้”“แต่เอวาก็ต้องเก็บของเองอยู่ดี อีกอย่างก็ไม่ได้จะเอาของมาหมดสักหน่อย เผื่อวันนึงเราแต่งงานกันแล้วไปกันไม่รอด ก็ต้องย้ายไปย้ายมาอีกน่ะสิเหนื่อยตายเลย”“เหอะใครมันจะไปยอมหย่า อยากหย่าก็หย่าไปคนเดียวสิ” ร่างสูงกล่าวนอยๆ“...”“นี่ยังไม่แต่งกันเลย ก็คิดจะหย่ากันแล้ว เธอรังเกียจพี่มากขนาดนั้นเลยหรือไง”“เดี๋ยวนะ นายเองไม่ใช่หรือไงที่ไม่อยากแต่งงานกับฉัน อีกอย่างเราไม่ได้รักกันสุดท้ายก็ต้องเลิกกันอยู่ดี แล้วตั้งแต่แรกนายเองไม่ใช่หรอที่ปั่นหัวฉันไม่อยากแต่งกับฉันน่ะ” เธอกล่าว แล้วนี่เป็นบ้าอะไรของเขาอยู่ๆ ก็มาดึงดราม่าใส่เธอเฉยเลย เธอก็แค่เซฟตัวเองมันผิดตรงไหนกัน“เธอไม่รักฉันบ้างเลยหรอ ที่ผ่านมาที่ฉันทำดีกับเธอก็ไม่รู้สึกดีเลยหรอ”“อ่ะดึงดราม่าอีก ประสาทกลับหรอ เมื่อก่อนนายแกล้งป่วนฉัน เพิ่งจะมาทำดีกับฉันเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ทำอย่างกับทำดีด้วยเป็นปี” เธอตอบกลับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะคิดว
รถเฟอร์รารี่คันหรูราคาแพงหูฉีกของอัครวินท์แล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถบ้านหลังใหญ่โตของเอวารินทร์"เอวา...ไปไงมาไงจ๊ะเนี้ย"พัชรินทร์กล่าวทักทายลูกพร้อมกับอ้าแขนกอดลูกสาวสุดที่รักจากนั้นก็หันไประบายยิ้มให้ร่างสูงข้างกายลูกสาว"พอดีไปถ่ายพรีเวดดิ้งมาค่ะอยู่ใกล้บ้านพอดีเลยแวะมาหาแม่กับพ่อ แล้วก็พี่"สวัสดีครับแม่""สวัสดีลูก...เข้าบ้านกันก่อนจ่ะ มาๆ ตาซัน เข้าบ้านก่อนลูก"แขนเรียวโอบเอวลูกสาว อีกฝั่งโอบไหล่ว่าที่ลูกเขยด้วยใบหน้าอิ่มเอิบกว่าใคร นี่ความหวังของเธอกำลังจะเป็นจริงแล้ว แถมดูท่าทางลูกสาวของเธอและว่าที่ลูกเขยจะไปได้ดีกว่าที่คิด เห็นทีหลังจากทานมื้อค่ำเสร็จคงได้โทรไปเม้าส์กับเพื่อนรักเสียแล้ว"พ่อกับพี่เอพริลล่ะคะแม่?""เอพริลเคลียร์งานที่บริษัท ยังไม่กลับเลย ส่วนพ่อเราไปประชุมผู้บริหารน่ะ อีกสักหน่อยก็คงกลับแล้วล่ะ""ว้า...นึกว่าจะเจอทุกคนซะอีก...เอวาว่าจะมาทานมื้อค่ำกับแม่กับพ่อแล้วก็พี่เลยนะคะ...เสียเที่ยวซะงั้น"เธอตอบอย่างแสนเสียดาย"ไว้วันหลังเดี๋ยวพี่พามาใหม่นะ วันนี้เราไม่ได้นัดท่านไว้"คุณหญิงพัชรินทร์นั่งมองลูกสาวและว่าที่ลูกเขยด้วยรอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้า"ใช่ วันหน้าก็ได้ลูก.
หลังจากกลับมาจากมหาวิทยาลัยของเอวารินทร์ ร่างสูงก็แทบนั่งไม่ติดเลย รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ที่เห็นไอ้หน้าจืดนั่น แล้วดูมันทำหน้ากวนบาทาขนาดนั้น อยากจะพุ่งเข้าไปตืบมันซะเดี๋ยวนั้นเลย แต่เพราะอยู่ต่อหน้าเอวารินทร์เลยทำอะไรไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลโกรธเขาอีก อารมณ์ยิ่งขึ้นๆ ลงๆ อย่างกับผู้สูงอายุอยู่ด้วย"พี่ซันเป็นอะไรคะ? เดินไปเดินมาไม่เวียนหัวหรือไง"เอวารินทร์เห็นว่าร่างสูงเดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก็ถามขึ้น เพราะมันเวียนหัวนี่แหละ ไม่พูดเดี๋ยวก็จะเดินวนอยู่อย่างนั้น เลยตัดสินใจถามเขาหน่อย เผื่อเขาเหงา"เอ่อ...เอวา...ไอ้จืดนั่นเป็นแฟนเอวาจริงๆ หรอ?""เปล่าค่ะ เอวาหลอกพี่ซันน่ะ จริงๆ จีโน่เป็นเพื่อนสนิทเอวาตั้งแต่ปี1แล้ว""ค่อยโล่งหน่อย แล้วมาทำมั่นหน้าใส่กู เดี๋ยวมึงเจอ"เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง"พี่ซันพูดว่าไงนะคะ?""เปล่า พี่จะบอกว่าคืนนี้ไปด้วยกันเลยเดี๋ยวพี่ต้องไปเจอเพื่อนอยู่แล้ว จริงๆ นั่งด้วยกันก็ได้นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง ถือซะว่าฉลองโปรเจคเสร็จ""ป๋าหรอเราอ่า"เอวารินทร์แซว"ป๋าสิ ว่าแต่อีหนูของป๋าจะไปด้วยไหมล่ะ"เขาสวนกลับ ทำเอาร่างบางระเบิดหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดคำจาที่เดี๋ยว
และแล้วสุดท้ายทั้ง6ชีวิตก็มานั่งอยู่ที่ร้านข้าวต้มข้างทาง ร้านโปรดร้านประจำของเอวารินทร์และเพื่อน บรรยากาศที่ร้านตอนนี้มีแค่โต๊ะเขาและโต๊ะของวัยรุ่นข้างๆ แค่นั้น อาจจะเพราะว่าตอนนี้เป็นเวลากว่าตี2แล้ว คนเลยไม่ค่อยมี"สั่งเลยนะเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาก็มองไปรอบอย่างระแวง เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบกินอะไรข้างทางแบบนี้ ไม่ใช่แค่อัครวินท์เท่านั้น แต่ปราณและคิมหันต์ก็ด้วยเช่นกันตื้อดึ่ง!!คิมหันต์:เชี้ย พวกมึงพากันมากินอะไรวะเนี้ย ยุงเยอะฉิบหายคิมหันต์เริ่มเปิดบทสนทนาในกลุ่มซัน:ไอ้เชี้ยจีโน่เลยตัวชวน กูล่ะอยากซัดหน้าแม่ง หมั่นไส้มันปราณ: เอาหน่าเอาใจสาวๆ ก่อนคิมหันต์:กูก็ไม่ชอบหน้าแม่ง มั่นหน้า หน้าแม่งกวนส้นตีนฉิบหาย ลอยหน้าลอยตาซัน:ถ้าไม่ติดที่เมียกูอยู่ด้วยกูใส่มันแล้วปราณ:พวกมึงเป็นอะไรกันวะ จะรังแกเด็ก?คิมหันต์:ก็เด็กมันกวนตีน"พี่ซันคะ""ครับ?"อัครวินท์ตอบเอวารินทร์เสียงหวาน"พี่ซันจะกินอะไรคะ"เสียงใสถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานๆ ทำเอาผู้ชายบนโต๊ะทั้งหลายถึงกับหลงไหลกับรอยยิ้มของเธอ ไม่เว้นแม้แต่โต๊ะข้างๆซัน:เอาแล้วไงพวกมึง กูไม่รู้ต้องตอบอะไรเลยกูไม่เคยกิ
"เอวา..."เกวรีเอ่ยเรียกเพื่อนที่เดินเล่นอยู่ขายหาด จากนั้นไม่นานร่างบางก็หันมาหาเธอ"มิเกล...แกหายไปไหนมา...แล้วนี่แกเป็นอะไรไหม?"เอวารินทร์เอ่ยถามด้วยท่าทีตกใจพร้อมกับจับเพื่อนหมุนไปมา เพื่อตรวจดูรอยต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นตามตัว"ไม่หรอก...แค่โดนบังคับเรื่องเดียวนั่นแหละ...แกทะเราะกับพี่ซันหนักเลยหรอ?"เธอถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง"ไม่เชิง...""แล้ว...รู้ใจตัวเองบ้างหรือยัง?""ไม่แน่ใจ...""เฮ้อ...แล้วอยากกลับไหม?""ไม่ได้อยากกลับ...แต่อยากเปลี่ยนที่เที่ยว""แกอยากเปลี่ยนที่เที่ยว หรือแกแค่อยากหนีใคร...เอวา...ปกติแกเป็นคนตรงไปตรงมาไม่ว่ากับเรื่องไหนก็ตาม...แต่ฉันไม่เข้าใจ...ทำไมเรื่องนี้แกถึงได้เป็นแบบนี้?""มิเกล...แกอย่าว่าฉัน...ฉันกำลังหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร?""หรือจริงๆ แล้วแกรักพี่ซัน...แต่แค่แกไม่รู้ตัว""รักมันเกิดขึ้นง่ายขนาดนั้นเลย?""มันแล้วแต่กรณี...บางคนก็เกิดขึ้นตั้งแต่แรกสบตากันก็รู้เลยว่าใช่...แต่บางคนก็เกิดขึ้นไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหน""เพราะแบบนี้ไงฉันถึงหาคำตอบให้ตัวเองอยู่...ฉันเองก็อยากชัดเจนกับความรู้สึกบ้าๆ นี่เหมือน
หลังจากที่ร่างบางเดินกระแทกกระเท้าออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดังปึ้ง เธอก็ลุกออกจากเตียงแล้วกลับไปที่ห้องพักของเธอแทน รู้สึกหวิวๆ เหมือนอีกไม่นานจะต้องเจออะไรที่วุ่นวายตามมาแน่ๆ"โกรธอะไรขนาดนั้น?"เอวารินทร์กลับเข้ามาให้ห้อง แต่ภายในห้องของเธอนั้นไม่มีแม้แต่เงาของเกวรีเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เธออาจจะต้องนอนคนเดียว คงไม่ต้องเดาต่อ ดูท่าแล้วคิมหันต์คงไม่ยอมปล่อยเธอแน่ๆร่างบางนั่งมองโทรศัพท์ที่ไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ หวังเล็กๆ ว่าจะมีใครบางคนส่งข้อความมาหา แต่กลับไร้วี่แววข้อความนั้น"หรือฉันควรไปง้อ?"แค่คิดว่าเขาโกรธแล้วเงียบหายไปแบบนี้ มันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ปกติจะมีเขาคอยป่วน คอยวุ่นวาย คอยบังคับเธอ แต่พอเขาเลือกที่จะหยุด มันทำให้เธอรู้สึกเคว้งอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ"เอ่อ...มะ...มิเกล..."[อ๊ะ...อื้อ...] หลังจากที่เธอตัดสินใจยกหูโทรศัพท์โทรหาเพื่อน แต่พอปรายสายรับกลับมีเสียงครางที่พยายามกลั้นเสียงเอาไว้ อื้ม...เธอเข้าใจแล้วคงไม่ต้องถามอะไร เพราะคำตอบของคืนนี้ก็คงรู้อยู่แล้วว่าต้องนอนคนเดียวจริงๆ"เขาจะทำอะไรอยู่นะ?""เฮ้อ...พยายามหนีเขาแท้ๆ ...พอเขาเงี
"หูหนวกหรือไงพี่ซัน!!"เอวารินทร์ท้วง แต่ยิ่งเธอดิ้น เขากลับยิ่งกระชากแรงขึ้น แถมขายาวๆ ของเขาก็ทำให้เธอแทบจะวิ่งตาม"...""พี่ซันเอวาเจ็บ...ปล่อยเอวาเดี๋ยวนี้!!"ติ้ง!!เสียงลิฟต์เปิดออก อัครวินท์ลากร่างบางเข้าไปด้านใน เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง เขาก็ดันร่างบางเข้าไปชิดผนักแล้วใช้แขนแกร่งค้ำยันเอาไว้โดยมีร่างบางอยู่ตรงกลาง"โสด!! หึ!...""เอวาไม่ได้ไปบอกใครว่าโสดนะ...อย่าเพิ่งเข้าใจผิดสิ"เธอพยายามหว่านล้อม"ไม่บอกแล้วไอ้เหนือมันพูดแบบนั้นออกมาได้ไง?"เสียงเข้มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ "รู้ใช่ไหมว่าต้องเจอกับอะไร?""รู้ค่ะ..."เองารินทร์หลุบตาลงต่ำเล็กน้อยด้วยความรู้สึกผิดมือหนาเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากลงไปบดขยี้อย่างแรงอยู่หลายนาที มือหนาอีกข้างซุกซนลูบไล้บั้นท้ายงามงอนของร่างบาง"อื้อ~"เสียงครางของร่างบางเผลอครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำเอาคนที่กำลังโกรธจัดถึงกับยกยิ้มร้ายอย่างพอใจมือหนาล้วงมือเข้าไปใต้กระโปรงสั้นตัวจิ๋วของเธอแล้วขย้ำบั้นท้ายของเธออย่างหมั่นเขี้ยว ปากก็บดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงจนร่างบางต้องทุบอกแกร่งเพื่อเป็นสัญญาณให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจติ้ง!!เมื่อถึ
หลังจากเลือกซื้อของใช้ส่วนตัวและของจิปาถะต่างๆ เพื่อที่จะได้เพียงพอต่อ1อาทิตย์ ทั้งสองสาวก็กลับมายังห้องพัก แต่พอมาถึงก็เกือบจะเย็นแล้ว จึงอาบน้ำแต่งตัวเตรียมออกไปดินเนอร์กับแสงเหนือตามที่ได้นัดกันเอาไว้"พี่เหนือนี่เขาน่ารักเนาะ ตรงๆ ดีอ่า"เอวารินทร์เอ่ยขึ้น พร้อมกับแต่งหน้าอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง"ก็น่ารักดี แต่ต้องรอดูไปเรื่อยๆ""ถ้าพี่เขาดีเสมอต้นเสมอปลาย...แกจะคบกับเขาป้ะ?""ก็คงคบ แกก็รู้ฉันแพ้คนเอาใจใส่""แล้ว...พี่คิมล่ะ?""ก็...ไม่รู้สิ...พูดยากว่ะแก...เขาเป็นคนแรกของฉัน...แต่ก็นั่นแหละต่างคนต่างเมา...อีกอย่างเรื่องแบบนี้ก็ปกติป้ะ?""อืม...จะว่าไปฉันก็...คิดถึงพี่ซันอยู่นะ...พอห่างกันออกมาแบบนี้แล้ว""คิดถึงก็โทรหา...อย่าทำอะไรให้มันซับซ้อน..."เกวรีกล่าว พร้อมกับตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ"ขออยู่แบบนี้อีกนิด จะได้แน่ใจว่าจริงๆ แล้วฉันก็ต้องการเขา"~เสียงโทรศัพท์ของมิเกล~'พี่แสงเหนือ'"เอวาเสร็จหรือยังพี่เหนือโทรตามแล้ว""เสร็จแล้วๆ"เอวารินทร์วางแปรงปัดแก้มลงแล้วลุกไปสะพายกระเป๋าทันที"ค่ะพี่เหนือ..."[น้องมิเกลครับ...พี่ถึงแล้วนะครับ...จองห้องไว้แล้ว...ชั้นบนสุดห้องกระจก1008นะครับ]
"มาพักผ่อนกันหรอครับสาวๆ"แสงเหนือเอ่ยถามระหว่างที่ส่งเมนูอาหารคืนพนักงานหลังจากที่สั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"มาพักผ่อนค่ะสักอาทิตย์"เอวารินทร์ตอบ เพราะแผนมาพักสมองของเธอ อยากอยู่คนเดียวนานหน่อย แต่ในเมื่อเอาเพื่อนมาด้วยเลยลากมาอยู่ด้วยกันเลย"แล้วพี่เหนือละคะมาทำอะไร...มาพักผ่อนเหมือนกันหรอคะ"เกวรีถาม"เปล่าครับ...พี่มาทำงาน...มาดูทำเลทำรีสอร์ทน่ะ...แต่เหมือนเจ้าของที่ดินที่พี่สนใจเขาจะยังไม่อยากขาย""อ้อ...อยากได้มากเลยหรอคะ...ทำไมถึงไม่ไปหาที่อื่น">เกวรี"ถูกใจครับ...ทั้งทำเล...และปัจจัยอื่นๆ หลายอย่าง...พี่เสนอราคาสูงด้วยแต่ก็ไม่ยอมขาย..."ใบหน้าแสงเหนือดูเป็นกังวลเล็กๆ"งั้นก็แปลว่าจะอยู่นี่นานเลยหรอคะ? ...">เกวรี"ครับ...จนกล่าวเขาจะใจอ่อน""เอาใจช่วยนะคะ...ขอให้เขาใจอ่อนเร็วๆ""อื้ม...เมื่อกี้เพื่อนพี่ที่เป็นหุ้นส่วนรีสอร์ทบอกจะมาที่นี่กับเพื่อนอีกคน...เผื่อน้องเอวาสนใจเพื่อนพี่...พี่จะแนะนำให้รู้จัก"แสงเหนือกล่าวบอกเอวารินทร์ที่เอาแต่จ้องโทรไม่วางตา พร้อมขมวดคิ้วจนเป็นปม"น้องเอวา...น้องเอวาครับ!!""คะ...เมื่อกี้พี่เหนือว่าไงนะคะ?""พี่เหนือบอกว่าเพื่อนเขาจะมาอีก2คน...เขาจะแ
ผ่านไปไม่นานมากนักคิมหันต์ก็เข้ามาในคอนโดของอัครวินท์เป็นที่เรียบร้อย แต่สภาพเพื่อนค่อนข้างที่จะอนาจารเป็นอย่างมาก สภาพเปลือยไม่พอแถมยังโดนล็อกข้อมือติดกับเตียงอีกต่างหาก"เชี้ยซัน!! มึงไปทำอีท่าไหนวะถึงได้มีสภาพทุเรศแบบนี้...""มึงเลิกพูดมากแล้วมาไขกุญแจกูสักทีเถอะ อย่าให้มึงเจอแบบกูก็แล้วกัน!!""ไอ้จิม...หน้าที่มึงแล้ว"คิมหันต์หันไปสั่งลูกน้องให้ไปปลดกุญแจ พร้อมกับมองเพื่อนด้วยแววตาที่สมเพช"สาบานได้เลยว่าคาสิโนว่าแบบมึงโดนผู้หญิงหลอกแบบนี้ กูล่ะเชื่อมึงเลยไอ้ซัน"เขากล่าวออกมาเมื่อเพื่อนเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง"ทีมึงล่ะ หลับจนไม่รู้ว่าเมียหาย!!"อัครวินท์สวน"ไม่ใช่เมีย!!""ไม่ใช่เมียแต่เอาเขา มึงจะทำอะไรกูไม่เคยว่านะ...แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงหน่อย กูเตือนด้วยความหวังดี""มึงก็รู้กูมีคู่หมั้นแล้ว"แววตาคมหลบต่ำลงเล็กน้อย"แล้วมึงไปดึงเขาเข้ามาทำไม!!""ทีแรกก็กะจะเล่นๆ ก็มิเกลน่าสนใจดี""เล่นหลายรอบเชียวนะมึงอ่า ไม่เรียกว่าเล่นแล้วมั้ง""พูดมากชิบ...กูให้ไอ้จิมล็อคมึงไว้แบบเดิมดีไหมเนี้ย??"อัครวินทน์เดินไปหยิบเสื้อผ้าอีกห้องหนึ่งมาสวมใส่ จนเรียบร้อยจากนั้นก็มาเช็คระบบติดตามในโทรศัพท์ที
เอวารินทร์ขับรถมาจนถึงคฤหาสน์หลังงามภายนอกดูเหมือนจะเป็นแค่บ้านคนรวยแต่พอมองเข้าไปมีบอร์ดี้การ์ดเต็มไปหมดทั่วทุกมุมคฤหาสน์"เชี้ย!! บ้านมาเฟียป้ะเนี่ย"เอวารินทร์อุทานกับตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าคิมหันต์นั้นเป็นใคร"มาหาใครครับคุณ"ชายชุดดำหน้าตาน่าเกรงขามเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอจอดรถแล้วด่อมๆ มองๆ อยู่หน้าทางเข้าคฤหาสน์"เอ่อ...มาหาพี่คิมหันต์กับมิเกลค่ะ เพื่อนฉัน""อ้อ...คุณมิเกล...เชิญด้านในก่อนครับ"จากนั้นประตูก็เลื่อนออกอัตโนมัติ แล้วร่างบางก็ขับไปจอดเทียบตรงทางเข้าประตูบ้านของคิมหันต์ทันทีไม่นาน เกวรีก็วิ่งออกมา ด้วยใบหน้ารุกรี้รุกรนแปลกๆ"พี่คิมล่ะ?""นอนอยู่ยังไม่ตื่น แกพาฉันออกไปทีฉันไม่อยากอยู่บ้านกับอีตาบ้านี่ หื่นกาม!!""สงสัยจะหื่นกามยกแก๊งค์..."เอวารินทร์กล่าวก่อนจะจูงมือเกวรีไปที่รถของตัวเอง"แล้วออกมาแบบนี้พี่คิมเขาไม่ว่าหรอ??""ก็เขาไม่รู้ไง รีบไปกันเถอะค่อยคุยกัน"ทั้งคู่ขับออกมาจากหน้าคฤหาสน์ แต่ระหว่างที่กำลังจะออกไปที่ประตูสุดท้าย ก็ถูกการ์ดกันเอาไว้ก่อน"ขอโทษครับ...นายสั่งไม่ให้คุณออกไปจากที่นี่ครับ...""พี่คิมบอกให้ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนได้ เมื่อกี้นี้เลย หรือจะขัดค
ริมฝีปากหยักกัดขบเม้มตามซอกคอ ตามเนินอกจนเป็นรอยฟัน ไม่ว่าเธอจะร้องห้ามเท่าไหร่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดความป่าเถื่อนลงได้"พี่ซัน...เอวาไม่หนีแล้ว...อึก...ขอร้องปล่อยเอวาก่อนได้ไหม"เสียงขอร้องสั่นเครือ ทำเอาร่างสูงชะงักไปชั่วครู่"ไม่ทันแล้ว...""ไม่ทำได้ไหม...""แต่พี่มีอารมณ์...มันลงไม่ได้""อ่อนโยนกว่านี้ได้ไหม??""..."ร่างสูงเงียบไป"นะคะ...เอวาไม่ชอบให้พี่ซันรุนแรงแบบนั้นเลย"เสียงหวานออดอ้อนด้วยแววตาน่าสงสาร เรียกความเห็นใจจากร่างสูง"ถ้าอยากให้อ่อนโยน...ก็ทำให้พี่พอใจ""ค่ะ...ปล่อยมือเอวาก่อนสิคะ"มือหนาค่อยๆ คลายออกเมื่อเสียงหวานเอ่ยขอ เอาอีกแล้ว สุดท้ายก็กลายเป็นเขาเองที่ใจอ่อน ขนาดจะดุเธอ ยังใจอ่อนกับอีแค่คำอ้อนหวานหู เขานี่มันกระจอกชะมัด"...""นอนลงมาสิคะเอวาจะทำให้"ร่างสูงนอนราบลงบนที่นอนอย่างว่าง่าย กลับกลายเป็นเกมส์พลิกซะงั้นมือเล็กเอื้อมไปถอดกางเกงชั้นในราคาแพงที่มันบดบังความใหญ่โตเกินขนาดของเขาออก จากนั้นก็คว้าหมับเข้าไปรูดท่อนลำที่มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าสองสามครั้งปากเล็กครอบครองท่อนเอ็น เรียวลิ้นเล็กๆ ละเบียดละไมตวัดไปมาที่ปลายหัวหยักนั่นเบาๆ"อ๊าส์~"เสียงครางกดต
"ลองทานนี่ดูสิเอวา"อัครวินท์ตักปลาหมึกผัดไข่เค็มของโปรดเธอให้ร่างบางพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้"นี่กำลังทำคะแนนอยู่ใช่ไหมคะ?"ร่างบางจ้องเขม็งอย่างรู้ทัน"อืม...จะว่างั้นก็ได้""วันนี้ไม่เข้าประชุมหรอคะ??""ไม่ครับ วันนี้พี่จะอยู่กับเอวา...พ่อบอกให้อยู่ง้อเอวาให้สำเร็จ...วันนี้พ่อเลยจะประชุมแทน""นี่บอกพ่อเลยหรอคะ?"เธอทำเสียงไม่พอใจกับความขี้ฟ้องของเขา ไม่คิดเลยว่าจะทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ หาตัวช่วยซะได้"ก็ใครบอกให้เอวาตีตัวออกห่างจากพี่ล่ะ""แต่นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนะคะ พี่ซันก็รู้ว่าครอบครัวเราอยากให้แต่งงานกัน สุดท้ายถ้าไม่ยอมอยู่ด้วยกันเขาก็หาทางมาบีบบังคับเราอยู่ดี แล้วแบบนี้เอวาก็ไม่รู้น่ะสิว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ด้วยกันเนี้ยเพราะความเคยชิน ไม่ใช่เพราะรัก"ร่างบางพยายามอธิบายให้เขาได้เข้าใจ"อยู่ด้วยกันทุกวันก็รักได้นิ ขนาดพี่ยังรักเอวาเลย""นั่นมันพี่ซันไม่ใช่เอวา เอวาอยากรักพี่ซันเพราะใจเอวาเอง ไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องรัก...เอวาอิ่มแล้วค่ะ"เมื่อถูกขัดใจจากนั้นเธอก็รวบช้อนส้อมแล้วเดินเข้าห้องไปทันที"เฮ้อ...เอาไงดีล่ะไอ้ซัน...งานหยาบไหมล่ะมึง"คนตัวสูงเอามือมาลูบหน้าเพื