ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว
"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ? อีกด้าน... "เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ "แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี "อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน "คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน "โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำไปที่โรงจอดรถสำหรับลูกค้าวีไอพี โดยมีร่างสูงเดินตามไปห่างๆ "..." "นี่ค่ะ...ขอโทษนะคะ...กับทุกอย่างที่ผ่านมา...ขอให้ซันมีความสุขกับเด็กคนนั้นนะคะ"น้ำเสียงของเธอต่างจากเมื่อกี้ ทั้งแววตา และน้ำเสียงตอนนี้มันบ่งบอกว่าเธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ร่างสูงรับเช็คมาถือเอาไว้ จำนวนเงินในเช็คเขียนไว้ว่าหนึ่งร้อยล้านบาท เธอไม่ได้โกหก และเธอคิดที่จะคืนมันจริงๆ "ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัว..."พูดจบร่างสูงก็หันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่แล้วร่างบางก็วิ่งมาสวมกอดเขาจากทางด้านหลังเอาไว้ หมับ!!! "อยู่แบบนี้ก่อนได้ไหม? ...ขอให้ฉัตรได้กอดซันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะนะคะ"ร่างสูงชะงักแน่นิ่งไป ปล่อยให้เธอกอดอยู่แบบนั้น นานหลายนาที ถ้ามันทำให้เธอเลิกยุ่งกับเขา แค่กอดก็คงไม่เป็นอะไร "..." "ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ ...ฉัตรโง่เองที่ตอนนั้นเห็นแก่เงินจนไม่สนใจความรักของซัน...แต่ถึงตอนนี้...มันก็สายไปแล้ว...ฉัตรคิดถึงซันมากนะคะ"เธอเอ่ยเสียงเบา ใบหน้าสวยเชิดเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่ได้กอดตอบเธออยู่ดี เพราะความรู้สึกของเขาตอนนี้...มันได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ "ฉันต้องไปแล้ว...เดี๋ยวเอวาจะเข้าใจผิด..."พูดจบเขาก็แกะมือของเธอออกจากเอวของเขาแล้วเดินออกไปไม่หันกลับมามองร่างเล็กที่นั่งร้องไห้ตัวโยน มันสายเกินไปแล้วสำหรับทุกอย่าง และเขาไม่มีวันที่จะกลับมารักเธอได้อีกแล้วด้านเอวารินทร์...
"เอ้าชนๆ ...ดื่มไม่อั้นวันนี้เลี้ยงยกโต๊ะ!!"เอวารินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียที่เมาเต็มที่แล้ว มือไม้เริ่มไม่อยู่กับที่ โอบรอบคอรุ่นน้องสายรหัสของมิเกล เต้นอย่างเมามันส์ "เอวา...แกเป็นอะไรของแก...เมามากแล้วนะ"มิเกลเอ่ยบอกเพื่อน ตั้งแต่กลับมาก็กระดกเอากระดก อย่างกับมันเป็นน้ำเปล่า จนสภาพตอนนี้นึกว่าลำยอง "เพื่อนพี่เกลน่ารักจังเลยนะครับ"รุ่นน้องที่ถูกเอวารินทร์โอบรอบคอกล่าวขึ้นพร้อมกับใช้มือกอดที่เอวบางหลวมๆ แล้วเต้นตามจังหวะเพลง "ปีเตอร์...ส่งเอวามาให้พี่"มิเกลกล่าวพร้อมกับจะดึงตัวเพื่อนให้มานั่งข้างกาย แต่กลับถูกเอวาดันมือของเพื่อนออก แถมยังเอาหน้าซุกไปที่อกกว้างของปีเตอร์อีก "ชิบหายแล้ว...พี่ซันมา!"มิเกลมองไปทางประตูก็เห็นว่าอัครวินทร์พุ่งตรงเข้ามาเตรียมจะกระชากรุ่นน้องคนนั้นออกจากตัวของร่างเล็ก หมับ!! ผลั๊วะ!! "โอ้ย เชี้ยใครวะแม่ง!!"หมัดหนักๆ ของอัครวินทร์ปะทะเข้าไปที่ใบหน้าของปีเตอร์อย่างจัง ร่างสูงดึงเอวารินทร์ออกมาจากอกของปีเตอร์แล้วกอดเอาไว้แทน "มึงกล้ามากนะที่กอดเมียกู!!" "เมีย??"ปีเตอร์เอ่ยถามพร้อมกับหันหน้าไปทางมิเกลพี่รหัสของตัวเอง และเธอก็พยักหน้าให้เป็นคำตอบ ก่อนหน้านี้เธอพยายามบอกแล้วแต่ปีเตอร์ก็ไม่ยอมปล่อย แถมเพื่อนของเธอก็เมาแล้วเลื้อยอีกไม่รู้จะห้ามยังไง "เอวากลับบ้าน!!" "ปล่อย...อย่ามาจับตัวฉัน...ไปกอดกับแม่ดารานุ้น!!..."เธอกล่าวพร้อมกับชี้หน้าอัครวินทร์ ด้วยร่างที่เซไปเซมา แต่โชคดีที่มีมิเกลคอยพยุงเอาไว้ด้านหลัง "มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย...ฟังพี่หน่อย..." "ไม่ใช่อะไร ก็เห็นอยู่ว่าแอบไปกอดกันอยู่ในโรงจอดรถ...อึก...ยัง...จา...แก้ตัวอีก..."เสียงโวยวายยานๆ กล่าวด้วยความโมโห แถมเซไปด้านหลังจนมิเกลต้องพยุงร่างของเธอเอาไว้ เพราะร่างบางไม่ยอมให้เขาจับตัวเลยแม่แต่นิดเดียว "ไปกลับ!!...หายเมาค่อยคุยกัน!....ไอ้คิมฝากเช็คบิลด้วย"อัครวินทร์หันไปบอกคิมหันต์ที่กำลังเดินเข้ามา ก่อนจะอุ้มร่างเล็กพาดบ่าแล้วเดินออกจากร้านไปยังรถ ระหว่างทางเธอก็เอาแต่พยศ ทั้งดิ้น ทั้งทุบเขาไปตลอดทางเดิน "ปล่อยนะ...บอกให้ปล่อยไง!!"มือหนาทุบแผ่นหลังของร่างสูงอย่างแรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขายอมปล่อยเธอลงเลย "ฮือ...อึก...ฮือๆๆๆ ...อยากกลับไปหากันก็ไปเลย...ฉันจะกลับเอง" เมื่อเข้ามานั่งในรถเธอก็ฟุบหน้าลงกับคอนโซลรถแล้วร้องไห้ออกมาเสียงดัง "เอวา...ฟังพี่นะครับ...ฟังพี่หน่อย..."ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แล้วกอดร่างบางเอาไว้ ปล่อยให้เธอร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา มือหนาลูบผมนุ่มๆ ของเธออย่างแผ่วเบา "พี่ไม่ได้มีอะไรกับฉัตรเลย...ฉัตรแค่เอาเงินมาคืน...แล้วตอนนี้เธอก็รู้สึกผิดจริงๆ ...เธอแค่มาขอโทษกับทุกเรื่องราวที่ผ่านมา...มันแค่นั้นจริงๆ ครับ..."เขาอธิบายด้วยความใจเย็น "จริงหรอคะ? ...มันแค่นั้นจริงๆ ใช่ไหม? ...เอวาเชื่อพี่ซันได้จริงๆ ใช่ไหม"เธอกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือก่อนจะผละออกจากอ้อมกอดของเขา "นี่ไง...เช็คเงินสด...ตอนนี้..."มือหนาเอื้อมไปจับมือของเธอมาวางทาบไว้บนอกข้างซ้ายแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "...ในหัวใจพี่...มีแค่เอวาคนเดียวครับ" พูดจบร่างบางก็โผเข้าไปกอดอัครวินท์ทันทีพร้อมกับซุกใบหน้าลงไปที่อกแกร่ง "...ขอบคุณนะคะ...ขอโทษที่เอวางี่เง่าอีกแล้ว"เธอกล่าวด้วยความรู้สึกผิดที่ตีโพยตีพายไปเอง "ทีหลัง...สงสัยอะไรให้รอถามพี่...อย่าคิดไปเองแบบนี้เข้าใจไหม?" "ค่ะ" "กลับบ้านไปต้องโดนทำโทษนะรู้หรือเปล่า โทษฐานที่ไปกอดคอผู้ชาย!!"แต่อยู่ๆ เขาก็ทำเสียงดุดันขึ้นมา เมื่อนึกถึงภาพที่เธอไปกอดรุ่นน้อง แค่คิดก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ทำไมเวลาประชดต้องเปลืองตัวทุกที!! "อย่าดุสิคะ...เอวาขอโทษ...จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว..." "เมาๆ แบบนี้...อยากซดอะไรร้อนๆ ไหม"ร่างสูงถามด้วยเสียงอ่อนโยน นี่น่าจะเป็นอีกเหตุผลที่เธอหลงรักผู้ชายคนนี้ เขาใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดของเธอ จนเธอใจอ่อนไปกับเขาทุกครั้งอย่างหักห้ามใจไม่ได้เลย ถ้าจะพูดก็คือเธอหลงรักเขาเข้าแล้วจริงๆ"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่