เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอ
ร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะ ซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทน
เอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม... มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลย เมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่ เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะ ซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน...
"คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นลูกค้าผู้หญิงคงต้องไปสานสัมพันธ์ต่อที่ไหนสักที่หลังจากคุยงานเสร็จ "คุณศรัสสั่งเลยครับ...ผมไม่ค่อยถนัดทานอาหารอิตาเลียน"เขาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ "ค่ะงั้นเดี๋ยวศรัสสั่งเผื่อนะคะ พาสต้าคาโบนาร่า2ค่ะ รีชอตโต1 ของหวานขอเป็นทีรามิสุ เครื่องดื่มขอเป็นเนโกรนีค่ะ"ร่างบางสั่งอาหารกับพนักงาน จากนั้นก็ยื่นเมนูคืนไป สายตาแพรวพราวของหล่อนมองซันด้วยท่าทียั่วยวน "คุณซันจะไปไหนต่อไหมคะ...ไปต่อกันไหม?"กล่าวเอ่ยชวนตรงๆ เผื่อว่าจะฟลุ๊คทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขามีภรรยา แต่คนมีเจ้าของแบบเขามันเกินห้ามใจจริงๆ ใบหน้าเหลาเหลายิ่งมองก็ยิ่งน่าหลงไหล ถ้าได้สักครั้งก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำแน่ๆ "กลับบ้านครับ...ผมต้องการแค่คุยเรื่องงานหวังว่าคุณศรัสจะเข้าใจ...ถ้าคุณยังคุกคามผมทางสายตาแบบนี้ผมคงขอเสียมารยาทและไม่ขอเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทคุณ!!"เขากล่าวเสียงเข้มเด็ดขาด ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก นี่เขากลายเป็นคนไร้ความรู้สึกหื่นกามกับสาวๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? "ศรัสแค่พูดเล่นค่ะ...ดื่มนี่หน่อยสิคะ...ถือว่าเป็นคำขอโทษที่เมื่อกี้ทำท่าทางไม่เหมาะสมกับคุณ"เธอยื่นเครื่องดื่มให้เขาจากนั้นก็ชนเบาๆ แล้วจิบมันก่อนจะวางลงตรงหน้า ร่างบางกระตุกยิ้มร้ายเมื่อเห็นว่าร่างสูงตรงหน้าดื่มมันเข้าไป จากนั้นเธอก็หันหลังไปส่งซิกทางสายตากับใครสักคนที่โต๊ะเยี่ยงๆ กับหล่อนผ่านไปไม่นานอยู่ๆ ร่างสูงก็รู้สึกมึนหัว เหมือนจะหลับให้ได้ เขามองร่างบางที่นั่งยกยิ้มอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
"เธอใส่อะไรลงไปในน้ำ?"ร่างสูงข่มเสียงดุถาม ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวออกนอกร้านไปที่รถของตัวเอง ซันพยายามเดินไปให้ถึงรถของตัวเองด้วยร่างการที่ตอนนี้ใกล้จะหมดสติ สายตาเริ่มที่จะเบลอจนต้องสะบัดศีรษะเพื่อไล่อาการเหล่านี้ออกไป แต่เขากลับฝืนตัวเองเพื่อให้ไปถึงรถเร็วๆ "ซัน!!...ซัน!!...คุณเป็นอะไรคะ?"เสียงหวานแหลมเอ่ยถามขึ้น กลิ่นน้ำหอมฉุนๆ ตีเข้าหน้าเขาอย่างจัง "ฉะ...ฉัตร...ช่วยผมด้วย...ผมโดนวางยา...พาผมไปที่รถที!!"เขาเอ่ยขอร้อง "ใครทำซันคะ...มาค่ะเดี๋ยวฉัตรพาไป..."ร่างบางเอาแขนของเขามาคล้องไว้แล้วพยายามแบกร่างสูงไปที่ลานจอดรถ "รถจอดอยู่ไหนคะ?"เธอเอ่ยถาม "ล็อคB..."จากนั้นสติของเขาก็ดับวูบไป แม้ว่าจะพยายามฝืนตัวเองให้มีสติก็ไม่สามารถห้ามฤทธิ์ของยานั้นได้ "ซัน!! ซันตื่นสิ!! ซัน!"ปาริฉัตรเอ่ยเรียกสติของเขา เมื่อไม่มีเสียงตอบสนอง เธอยกยิ้มแล้วล้วงเอากุญแจรถมากดเปิดจากนั้นก็ยัดร่างของเขาไว้ฝั่งข้างๆ คนขับ โดยมีเธอเป็นคนขับให้เขาแทน "ขอบใจมานังศรัส...รักแกมากเพื่อน!!"ปาริฉัตรเอ่ยบอกเพื่อนที่ช่วยพยุงร่างสูงมาส่งที่รถ "ผัวเก่าแกนี่ท่าทางจะถอดเขี้ยวเล็บแล้วจริงๆ ขนาดฉันอ่อยยังไม่สนใจฉันเลย..."เธอบอกเพื่อนรักอย่างแสนเสียดาย "เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงต้องใช้แผนนี้" "รีบไปก่อนที่นักข่าวจะมาเห็น..." "เห็นก็ดีสิ...จะได้เป็นข่าวจะได้มีหลักฐานจับได้แน่นขึ้น"ใบหน้าสวยยิ้มร้ายให้เพื่อน ก่อนจะแยกกันตรงนี้ด้านเอวา...
@ไอริสตาร์ คลับ"อะไรกัน...มาเที่ยวแต่กลับทำหน้าหงอยเป็นหมาเหงาแบบนี้?"มิเกลเอ่ยถามเธอที่เอาแต่พ่นลมหายใจหนักๆ หลายต่อหลายครั้ง
"เครียดน่ะแก..."เธอตอบเพื่อนพร้อมกับถอนหายใจออกมาอีกครั้ง "อืม...เชื่อ...เครียดอะไรไหนเล่ามาสิ" "พี่ซันอยากมีลูก...แต่ฉันไม่พร้อม...ตอนนี้ก็นอยฉันแถมวันนี้บอกคุยกับลูกค้าโทรหาก็ไม่รับไม่รู้ว่าไปคุยถึงไหนกัน" "พี่ซันเนี้ยนะอยากมีลูก?"มิเกลเอ่ยถามย้ำอย่างไม่ค่อยเชื่อหูตัวเอง "นี่ฉันไม่ได้หูเพี้ยนไปใช่ป้ะ?" "แกได้ยินน่ะถูกแล้ว...พี่ซันอยากมีจริงๆ ..." "พูดเป็นเล่นไป...แล้วแกว่าไงล่ะ...ทำไมไม่ยอมมีไปเลยไหนๆ ก็เรียนจบแล้ว...อีกอย่างบ้านแกกับพี่ซันก็รวยมีเงินเลี้ยงดูลูกสบายทั้งชาติ" "หน้าอย่างฉันเนี้ยนะจะมีลูก แกก็รู้ฉันไม่ชอบเด็ก...อีกอย่างถ้าฉันมีลูกเท่ากับสังคมของฉันเป็นศูนย์...อาจจะเพราะฉันอยากทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วย...แล้วก็อยากเรียนต่อโทอีก...ซึ่งฉันยังไม่ได้ลงมือทำสักอย่าง อยู่ๆ จะให้ไปมีลูกฉันต้องเอาเวลาทั้งหมดมาให้ลูกเลยนะ...ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ แก"เธออธิบายยืดยาว และดูเหมือนเพื่อนเธอก็จะเข้าใจเธอด้วยเช่นกัน "แต่ฉันคิดต่างกับแกนะ...ฉันว่าพี่ซันคงพร้อมที่จะหยุดที่แกจริงๆ ...ถึงได้เอ่ยปากอยากมีลูกกับแกแบบนั้น...แกลองคิดดูสิ...ผู้ชายแบบพี่ซันถ้าเป็นเมื่อก่อนจะยอมมีลูกกับใครไหม?" หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกดีมากจริงๆ ที่คนแบบเขารักเธอและอยากที่จะสร้างครอบครัวกับเธอ แต่เธอเพิ่งจะ23ชีวิตวัย23ยังต้องมีเรื่องที่ให้ทำเยอะแยะ เธอก็แค่อยากเก็บเกี่ยวมัน และไม่ว่าจะคิดอีกกี่ครั้ง ก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี "หรือแกไม่ได้รักพี่ซัน?"มิเกลถามพร้อมกับชี้หน้า ดวงตากลมโตมองมาที่เธอเพื่อจับผิด "รักสิแก...แต่แค่ยังไม่พร้อมแกเข้าใจฉันไหมมิเกล" "เป้าหมายของแกมีอะไรบ้างก่อนที่จะสร้างครอบครัว" "เรียนต่อ...ทำงาน...สัก25ก็พร้อมแล้วแค่ขอเวลามันนานตรงไหน" "ในขณะที่แก25...แต่พี่ซัน30แกคิดว่าผู้ชายวัย30จะใช้ชีวิตรอแกไปถึงเมื่อไหร่...ในระหว่างที่แกใช้ชีวิตตามที่แกบอก...แต่ระหว่างทางพี่เขาดันมีเหตุการณ์ทำให้สร้างครอบครัวกับแกไม่ได้...แกจะเสียใจไหม?" "แกหมายความว่าไง?" "เช่น...เกิดอุบัติเหตุ...หรือถูกใจผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว...แกจะไม่รู้สึกเสียใจใช่ไหมที่ตอนนี้เลือกใช้ชีวิตตามใจตัวเอง...ชีวิตคนเรามันสั้นมากนะแก...ไม่รู้ว่าวันนี้พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...พี่ซันก็น่าจะมีความคิดแบบนั้นถึงได้คิดอยากจะสร้างครอบครัวกับแก...ในขณะที่แกอยากใช้ชีวิตอิสระเพราะยังไม่ได้ลองใช้ชีวิตของตัวเองอย่างที่แกพอใจ...อีกคนเขาก็คงไม่เชื่อมั่นในความรักของแกไปแล้ว"คำพูดของมิเกลมันเตือนสติของเธอได้บ้าง บางทีเธออาจจะเห็นแก่ตัวเกินไป จนลืมนึกถึงใจของอีกคน ทั้งที่อยากทำงานก็ทำได้มันควบคู่กันได้ เธอลืมคิดถึงตรงนี้เลยจริงๆ "ขอบใจแกมากนะมิเกล...ว่าแต่ฉัน...แกเถอะ...เมื่อไหร่จะยอมเปิดใจให้พี่คิม" "ฉันเปิดใจตั้งนานแล้ว...แต่เขาไม่ชัดเจนเอง...จมอยู่แต่กับความกลัว...กลัวมากก็ไม่ต้องมาอยู่กับฉัน...แค่ปากตรงกับใจมันยากตรงไหน?" "คนปากหนักแต่รักจริง...แกก็อย่าดูที่คำพูดสิ...มองที่การกระทำก็พอ" "กระทำแล้วไง ไม่พูดจะรู้หรอ...ฉันไม่อยากหน้าแตกคิดไปเองหรอกนะ"มิเกลเริ่มหัวเสียเมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่3"กลับกัน...จะเที่ยวคืนและเดี๋ยวออกจากร้านช้าคนจะเยอะ"เอวาเอ่ยชวนเพื่อนกลับ
"ดีเหมือนกัน...ไปส่งฉันด้วยนะไม่ได้เอารถมา" "มีรถก็หัดขับบ้าง รถซุปเปอร์คาร์คันนั้นน่ะ"เอวาแซวเพื่อน "คนซื้อให้โง่...ไม่อยากขับ"เธอพูดประชดประชันจากนั้นเอวาก็ขับรถมาส่งเพื่อนที่คอนโด พอมาถึงคอนโดของเธอก็ต้องแปลกใจเพราะซันยังไม่กลับมา มันทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะแปลกๆ
"ทำไมยังไม่กลับมาอีก...งอนขนาดนั้นเลย?"เธอพูดกับตัวเองเบาๆ จากนั้นก็กดส่งข้อความไปหาร่างสูง เอวา : พี่ซันอยู่ไหนคะ? เอวา : กลับคอนโดได้แล้ว เอวารออยู่ เอวา : ขอโทษนะคะที่เอวาคิดถึงแต่ตัวเอง เอวาพร้อมแล้วค่ะ ยกโทษให้เอวาน้าแต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ เธอจึงยกหูขึ้นโทรหาเขา แต่โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับสายอยู่ดี มันทำให้นึกหวั่นและกลัว กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขาล่ะ เธอจะทำยังไง เธออยู่ไม่ได้แน่ๆ ยังไม่ได้สร้างครอบครัวด้วยกันเลยอะไรที่ไม่คาดคิดก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งนั้น
ภายในใจร้อนลุ่ม มันกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เคยหายไปแบบนี้เลย อย่างน้อยถ้างานยุ่ง ก็ควรจะตอบกลับมาสักนิดสิ นี่โทรไปก็โทรติด นั่นก็แปลว่าโทรศัพท์ไม่ได้แบตหมดแต่แค่เขาจงใจไม่รับสายเธอเอง@ บ้านอัครเดชาชัย"พ่อเรียกผมมามีอะไรหรือเปล่าครับ"ซันหรืออัครวินท์ลูกชายคนเดียวของบ้านอัครเดชาชัย เอ่ยถามผู้เป็นบิดาด้วยใบหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร เพราะแต่ละวันใช้ชีวิตชิวๆ สบายๆ ไม่สนใจใคร จนผู้เป็นพ่อเริ่มที่จะหมดความอดทนกับลูกชายที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ อย่างไร้แก่นสารแบบนี้แล้ว"แกควรจะแต่งงานมีครอบครัวได้แล้วนะ แล้วฉันก็หาเจ้าสาวไว้ให้แกแล้วด้วย"เสียงเข้มเอ่ยขึ้นทำเอาลูกชายถึงกับขมวดคิ้ว"นี่มันยุคสมัยไหนแล้วครับพ่อ ผมไม่แต่ง อีกอย่างผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าผมมีแฟนแล้ว""มีแฟนแล้วก็ไปเลิก แกจะเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปรายเท้ามาทำเมียไม่ได้"คำพูดของประมุขของบ้านยื่นเด็ดขาด"ไม่ ผมไม่แต่ง ยังไงก็ไม่แต่ง แล้วพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมด้วย"ร่างสูงยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนที่จะก้าวขาเดินออกไปจากบรรยากาศชวนอึดอันนี่โดยมีผู้เป็นแม่นั่งมองอยู่เงียบๆ ไม่กล้าที่จะเอ่ยคำใดออกมา"หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าแกกล้าก้าวเท้าออกไปจากบ้านฉัน ฉันจะไม่ให้สมบัติแกแม้สักแดงเดียว"คำพูดนั้นทำเอาร่างสูงชะงัก แต่ถึงอย่างงั้น เขาเป็นถึงรองประธานบริษัท ยังไงเงินเดือนของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ ถึงอย่างไร ไม่ได้สมบัติของบ้านนี้ก็ไม่อดตาย
@ภัตราคารสุดหรูบรรยากาศในภัตตาคารสุดหรูชั้นบนสุด เห็นวิวชัดทุกมุมกลางเมือง ได้ถูกจับจองโดยคุณหญิงวินทร์รวี เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย"ซัน! ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมห๊ะ!!"คุณหญิงวินทร์รวีเอ็ดลูกชายที่เอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดผูกเป็นปมแบบนี้ "ทำหน้าอย่างกับถูกบังคับ""ก็แม่บังคับจริงๆ หรือเปล่าล่ะ?"เสียงเรียบนิ่งนั้นเถียงแม่ จนผู้เป็นแม่ตาเขม็งใส่อย่างไม่พอใจที่ลูกชายตัวดีเอาแต่ขัด"ถ้าแกทำตัวไม่ดี ฉันปลดแกแน่ไอ้ซัน!"ผู้เป็นพ่อกล่าวท้วงขึ้นอีกคน จนอัครวินท์เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ต้องทำเป็นระบายยิ้มออกมาเมื่อประตูห้องหรูเปิดออกพร้อมกับแขกผู้มาใหม่อีก3คนอัครวินท์มองหญิงสาวร่างบอบบางที่เดินก้มหน้าก้มตาตามผู้เป็นพ่อและแม่เข้ามา ใบหน้าหวานเฉี่ยวนั้นทำเอาอัครวินท์สะดุดตา ตากลมโตเป็นประกาย ใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่งรั้น ปากบางน่าจุ๊ฟนั้นอีก แถมหุ่นก็ดี ผิวขาวใสออร่าเปล่งปลั่งนั่นอีก สวยไร้ที่ติเลย เขาคิดในใจ"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า"เอวารินทร์เอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะปรายตาไปมองว่าที่เจ้าบ่าวจอมแสบที่พ่อกับแม่เล่าให้ฟัง นี่น่ะหรอคนที่จะให้มาปรา
"ซัน ต่อไปนี้ต้องไปรับไปส่งน้องที่มหาลัยทุกวันที่น้องมีเรียน เข้าใจไหม""เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้...เอ่อคุณแม่"จะไปยอมได้ยังไง วุ่นวายกันพอดี เธอคิด"ได้ครับแม่ ผมจะได้รับไปส่งถึงที่เลย"แต่ยิ่งเธอห้าม เขากลับยิ่งทำตรงกันข้าม นายนี่มันกัดเธอไม่เลิกจริงๆ"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะพี่ซัน รบกวนเปล่าๆ เดี๋ยวเอวาไปกลับเองดีกว่าค่ะ""หึ!"ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้ห้ามเขานัก ชักอยากจะรู้ซะแล้วว่าที่มหาลัยมีอะไรทำไมถึงได้ไม่อยากให้เขาไปรับไปส่งนัก"ไม่ได้หรอกครับ มันเป็นความประสงค์ของคุณแม่ พี่จัดไม่ได้ซะด้วยสิ"เขายกยิ้มให้หนึ่งทีอย่างยั่วอารมณ์คนร่างเล็กตรงหน้า"งั้นแม่ฝากซันหน่อยนะลูก"คุณหญิงพัชรินทร์เอ่ยบอกว่าที่ลูกเคยด้วยใบหน้ายินดี"แม่! ไม่ต้องไปรบกวนพี่เขาหรอกค่ะ แค่ต้องมาแต่งงานกับเอวาพี่เขาก็ลำบากใจจะแย่"เธอแก้ต่าง"ไม่อึดอัดเลยครับ พ่อแม่ว่าดีพี่ก็ว่าดี ใช่ไหมครับคุณพ่อคุณแม่"เขาหันไปหาแนวร่วมเพื่อให้พ่อและแม่ของเขาช่วย เห็นทีงานนี้คงต้องอยู่ข้างเดียวกันกับพ่อแม่เพื่อกำจัดเด็กนี่สินะ คอยดูจะทำให้พ่อแม่ตาสว่างที่เลือกคนผิดให้เขา"ใช่ลูก โอ๊ะวันนี้พูดเข้าหูพ่อแหะ"ท่านประธานอย่างอัครเดชเอ่ยด้วย
"ห๊ะ! แต่งงาน!"เกวรีและจีโน่อุทานพร้อมกันจนลั่นห้อง"อืม..."ใบหน้าผิดหวังของเธอเจื่อนลงก่อนจะกระดกไวน์ชั้นดีลงคอ"สมัยไหนแล้วแกจะมาจับคลุมถุงชนแบบนี้ไม่ได้ป้ะ"จีโน่เดือดพล่าน ก็แหงละหลังเรียนจบเขากะจะขอเธอเป็นแฟน แต่นี่อะไร อยู่ๆก็ถูกใครไม่รู้ตัดหน้าไปเสียก่อน"หึ่ย แกใจเย็น"แต่ก็ถูกเกวรีปรามไว้ก่อนที่นายนี่จะออกอาการจนมากเกินไป"ฉันก็ไม่ได้อยากแต่ง แต่มันเป็นข้อตกลงของพ่อแม่ฉันและครอบครัวเขา คงอยากให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ลูกเขาละมั่งเห็นว่าคบกับดาราคนหนึ่งอยู่ คงมาเกาะลูกเขาอะไรทำนองนั้นมั้ง""แล้วสัญญาจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่"คำถามของจีโน่ถามด้วยเสียงที่จริงจัง"คงตอนที่ฉันจัดการยัยนั่นไปจากชีวิตลูกเขาได้""หวังว่าจะจัดการแต่ยัยนั่นนะ ไม่ใช่ให้เขามาจัดการแก"จีโน่ยังคงกล่าวต่อ"แกไม่ต้องห่วง ฉันเป็นใคร จำคำพูดฉันไว้ว่านายนั่นจะไม่ได้แตะต้องฉันแม้แต่ปลายขน"เธอพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับยกแก้วไวน์กระดกอีกรอบ"งั้นถ้ามั่นใจขนาดนั้น ก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน"ก็รักไปแล้วนี่เนาะ เธอจะทำอะไรก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รังเกียจเธอหากว่าเธอจะต้องเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดให้คนอื
"เอาตารางเรียนมา"ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องของเอวารินทร์ไปอยู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมาแล้วขอตารางเรียนของเธอ"เอาไปทำไม?"เธอถามอย่างไม่เข้าใจ"จะได้รู้ว่าต้องมารับกี่โมง อย่าถามมากได้ไหม คิดว่าฉันอยากทำมากหรอ?"เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์"ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ฉันไปเองได้!"ควับ! หมับ!อัครวินท์เดินไปคว้าโทรศัพท์ของเอวารินทร์มาถือไว้ก่อนที่จะจับมือเธอมาแสกนลายนิ้วมือ"นี่เอามานะ! ของส่วนตัวน่ะเข้าใจไหม?""..."ร่างสูงเอี้ยวตัวหลบก่อนจะปัดๆ เลื่อนๆ จากนั้นก็ยัดมันกลับไปไว้ในมือเล็กของเธอ และเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร"อะไรของเขาเนี้ย!"เอวารินทร์กล่าวอย่างหงุดหงิดอีกด้าน...~เสียงโทรศัพท์ของอัครวินทร์~'ปาริฉัตร'เมื่อเดินออกมาจากห้องของเอวารินทร์ได้ไม่นาน อยู่ๆ เบอร์ของคนรักของเขาก็ปรากฏขึ้น เขาระบายยิ้มออกมา ก่อนที่จะกดรับ"ครับ"[ซัน วันนี้ฉัตรถ่ายละครเสร็จค่ำๆ เจอกันนะคะ]"โอเคครับ"[ไว้เจอกันนะคะ ซัน พอดีว่ารถฉัตรเสียน่ะค่ะเอ่อ...คือ...มันก็เก่ามากแล้วตกรุ่นแล้วด้วย ฉัตรอายเพื่อนๆ ที่กอง...ถ้าซันไม่ว่าอะไร...ฉัตรขอยืม...]"เดี๋ยวผมซื้อคันใหม่ให้"[จริงหรอคะ อุ้ย เกรงใจซันจังเลย จะด
หลังจากที่แฟนสาวสุดเซ็กซี่เดินออกไปจากห้องของอัครวินท์ เขาก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจขึ้นมาปัดๆ เลื่อนๆ ดูตารางเรียนของเอวารินทร์ที่ส่งไว้ในไลน์โดยเขาเป็นคนส่งเองนั้น ก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที"มีเรียน9โมง"เขายกมือขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาแพงตอนนี้ที่บ่งบอกเวลาเกือบจะ8โมงแล้วจึงรีบระเรงนิ้วเรียวนั้นทักหาหญิงสาวที่คอยตามหลอกหลอนและเข้ามาอยู่ในโสตประสาทของเขาจะว่าไปตั้งแต่เจอหน้าใบหน้าสวยหวานปนเฉี่ยวนั้นก็ลอยเข้ามาในหัวเขาตลอด'เดี๋ยวฉันไปส่ง'จากนั้นก็รีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวทันทีอีกด้าน...ตึ้ง!Sun:เดี๋ยวฉันไปส่งข้อความในแอพเขียวเด้งแจ้งเตือนเอวารินทร์ที่กำลังนั่งแต่งหน้าทำผมที่หน้ากระจก เธอเหลือบมองข้อความชั่วครู่ก่อนที่จะเร่งมือทำทุกอย่าง เพื่อชิ่งออกไปก่อนเขา"หึ! ไม่มีทาง อย่าได้หวังจะไปส่งฉันเชียว หนุ่มๆ เห็นฉันก็ดับพอดี"พูดจบก็รีบวางแปรงแต่งหน้าลงและหยิบกระเป๋าผ้าขึ้นมาสะพายก่อนจะหยิบรีโมทรถคันหรูคู่ใจมาควงอย่างอารมณ์ดี ร่างบางสาวเท้าเข้ามาในลิฟท์จากนั้นก็รีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถที่มีความปลอดภัยระดับสูงติ๊ด! ปึ่ง!แต่เมื่อรีโมทกดปลดล็อคยังไม่ทันที่จะเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก็ถูกชายร่างสูงผลักประ
วันนี้เป็นวันที่เอวารินทร์นั่งฟังอาจารย์ผู้สอนแต่กลับไม่เข้าหูสักอย่าง ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าท่าทางของอัครวินท์ที่มันคอยหลอกหลอน แถมในหัวมีแต่ใบหน้าทะเล้นกะล่อนนั่นอีก หึ่ย! เธอสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้หันมาสนใจการเรียนการสอนตรงหน้าแทน แต่ยิ่งทำกลับยิ่งคิด แล้วยังจูบเมื่อเช้านั่นอีก นายนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เลย เธอคิด!"แกเป็นอะไรเอวา ทำไมวันนี้ใจลอยแปลกๆ"เกวรีเอ่ยทักเพื่อนรักขึ้นหลังจากที่เลิกเรียนเป็นที่เรียบร้อย"เปล่า แค่รู้สึกว่าถ้าอยู่ๆ ชีวิตของฉันต้องไม่เป็นสุขอีกต่อไป ฉันจะทำยังไงดี""แล้วทำไมต้องไม่เป็นสุข?""ก็ เอ่อ...ว่าที่สามีในอนาคตของฉันน่ะสิ ฉันว่าเขาต้องแกล้งปั่นหัวฉันแน่ๆ""แกก็ปั่นหัวคืนไง อย่าไปยอม แกมันเลือดนักสู้อยู่แล้ว ปกติก็ไม่ยอมคนอยู่แล้ว เอาให้หนักเลยแก เชื่อฉัน""เล่นมาเล่นกลับไปเลยดีม้ะ""ใช่ จัดหนักๆ ไปเลยเพื่อน"ผ่านไปไม่นานมากนัก เฟอร์รารี่สีแดงก็แล่นตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างหน้าร่างบอบบางอย่างเอวารินทร์และเพื่อนที่กำลังอ้าปากค้างกับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ราคาแพงหูฉีก"ฉันไปนะ"เอวารินทร์หันมาบอกเพื่อนรักที่ยังตะลึงอยู่ไม่หาย"ดะ...เดี๋ยว...เขามารับแกหรอเ
เมื่อขับรถมาจนถึงคอนโดแต่ร่างบางข้างๆก็ยังไม่ตื่น เขาจึงสะกิดเพื่อปลุกเธอ แต่เมื่อหันไปมอง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก สายตาคมๆนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานเฉี่ยว ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูไร้ที่ติไปจนหมด ตาพริ้มที่หลับตาลงนี้มีขนตาแพงอนอย่างเป็นธรรมชาติ คิ้วเรียวเส้นสวย จมูกโด่งเชิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของร่างเป็นคนหัวรั้น ปากบางน่าจูบสีแดงระเรื่อ วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนมากๆ ขัดกับวันที่เธอไปเที่ยวคลับ แต่เขาดูเหมือนจะชอบเวลาเธอไร้เครื่องสำอางค์มากกว่า เพราะมันดูสวยแบบสดใสดี"เวลาสงบปากสงบคำคงจะน่ารักที่สุดแล้วละมั้ง?"เขากล่าวออกมาเบาๆเพราะกลัวว่าร่างบางข้างๆเขานั้นจะตื่น"ถ้าไม่ติดที่มีแฟน วันนั้นฉันคงจัดเธอไปแล้ว"ใครมันจะอดใจไหว การหักห้ามใจตัวเองในวันนั้นมันต้องใช้ความพยายามแค่ไหน ต้องเดินเข้าห้องน้ำกี่ครั้งเพื่อปลดปล่อยความทรมานนั้นโดยที่คนร่างบางนั้นไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆเลย กว่าจะข่มตาให้หลับลงไปได้ในวันนั้นก็เกือบสว่างผ่านไปนานเกือบชม.ร่างบางก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แต่หันมาอีกทีก็เห็นว่าร่างหนาข้างๆนั้นก็หลับเช่นกัน เธอมองออกไปด้านนอกก็พบว่าถึงคอนโดของเธอแล้ว แล้วทำไมเขาไม่ปลุกเธอล่ะเนี่ย บ้าจริง!
เอวา:พี่ซันคะ...วันนี้จะกลับกี่โมงเอวาจะทำอาหารไว้รอร่างบางทักหาซัน แต่ก็ไร้ซึ่งข้อความตอบกลับ นี่เขางอนเธอหนักขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย กะจะทำอาหารง้อซักหน่อย เฮ้อ...ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้างเลยนะซัน: เอวาทานเลยครับ...วันนี้พี่นัดคุยงานกับลูกค้า...อาจจะกลับดึกหรือไม่กลับเลยแล้วถ้าไม่กลับมาเธอจะทำอาหารเพื่ออะไรกันล่ะ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงทักไปหาเพื่อนรักของเธอแทนเอวา : มิเกล...ไปดื่มกันไหม...มิเกล : เอาดิแกกำลังเบื่ออยู่พอดีเลยเมื่อได้คำตอบจากเพื่อนแล้วเธอจึงทักไปบอกซันอีกครั้ง เดี๋ยวจะหาว่าไปไม่บอก เดี๋ยวจะพาลงอนเธอไปกันใหญ่เอวา: งั้นเอวาขอไปดื่มกับเพื่อนนะคะซัน:ตามสบายครับ ชีวิตเป็นของเอวานี่ครับ พี่จะไปห้ามอะไรเอวาได้ยิ่งคุยกลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง นี่เขาอยากมีลูกกับเธอขนาดนั้นเลยหรือเนี้ย ไม่ใช่ว่าไม่อยากมี แต่แค่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะมีจริงๆ อธิบายไปเขาก็ไม่เข้าใจความรู้สึกของเธออีกด้าน..."คุณซัน...สั่งอาหารก่อนไหมคะ...มื้อนี้ศรัสขอเป็นเจ้ามือเอง"หญิงสาวใบหน้าสวยราวนางแบบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าเบื่อโลกอย่างเขาสนใจได้เลย ต่างจากเมื่อก่อนถ้าเป็นล
"ทำไมพี่ซันน่ารักกับเอวาจังคะ"เอวาเอ่ยถามเสียงเจื้อยแจ่ว สองมือเล็กเท้าคางมองร่างสูงจัดเตรียมทำอาหารให้เธออย่างใจจดใจจ่อ"เพราะว่า...พี่อยากได้รางวัลไงครับ..."ซันเดินมาแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหูด้วยน้ำเสียงสุดสยิวจนร่างเล็กถึงกับไรขนอ่อนตั้งชัน"รางวัลอะไรหรอคะ?"เธอถามด้วยแววตาใสซื่อ"รีบกินสิครับ...แล้วเดี๋ยวพี่พาเข้าไปดูว่าอยากได้อะไรเป็นรางวัล"ใบหน้าหล่อมองร่างบางอย่างเจ้าเล่ห์"แต่มันดึกแล้วนะคะ...พรุ่งนี้พี่ซันมีประชุมด้วยนี่...เดี๋ยวก็ตื่นสายกันพอดี""กระเป๋า1ใบ...""งั้นรอบเดียวพอนะคะ"คำตอบร่างบางทำเอาซันยกยิ้มอย่างพอใจ"ถ้า2ใบก็2รอบหรอครับ...งั้นให้10ใบเลยได้ไหม?"เขาเอ่ยถามด้วยท่าทียียวน แต่ก็แอบหวังเล็กๆ เผื่อร่างบางจะคล้อยตาม"ร่างเอวาพังกันพอดีค่ะ รอบเดียวก็พอ ไว้ไปฮันนีมูนกันค่อยว่ากันอีกทีนะคะ...""2รอบ...นะครับ...วันนี้ดื่มมามันเสร็จยาก...ถ้ารอบเดียวมันค้าง""ต่อรองเก่ง..."ร่างบางพูดยังไม่ทันจะจบประโยคก็ถูกร่างสูงช้อนตัวเดินตรงไปยังห้องนอน ทั้งที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใจร้อนขนาดนั้น"อื้อ..."หลังจากวางร่างบอบบางลงบนเตียงนอนกว้างๆ อย่างเบามือ"แม่บอกว่า
ขาเรียวค่อยๆ ก้าวมาบริเวรห้องน้ำในคลับ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พร้อมกับคำถามที่ผุดขึ้นมาในหัวมากมาย ฝ่ามือน้อยทั้งสองข้างกำกันแน่นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ แต่เมื่อตามมากลับไม่เจอพวกเขาแล้ว"หายไปไหนนะ..."เอวารินทร์กล่าว พร้อมกับมองหารอบๆ ด้วยท่าทางที่ร้อนใจและเป็นกังวล ในหัวจินตนาการไปต่างๆ นาๆ หรือเขาทั้งคู่จะแอบออกมาพลอดรักกัน แต่แค่ทำเป็นร้ายใส่กันเพื่อนตบตาเธอ?อีกด้าน..."เรียกออกมามีอะไร?"น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์"แหมซัน...ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นกับฉัตรด้วยคะ..."ร่างบางเดินเข้ามาคล้องคอคนตัวสูง แต่ก็ถูกมือหนาปัดออกอย่างไม่ใยดี"อย่าเอามือของเธอมาแตะตัวฉัน!"เสียงเข้มตวาดลั่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางสะทกสะท้าน แถมยังยกยิ้มและทำทีท่ายั่วยวนเหมือนครั้งที่เคยรักกัน"คิดว่าฉันจะมีอารมณ์กับร่างเน่าๆ ของเธอหรอ?"เขาเลิกคิ้วมองพร้อมสายตาที่รังเกียจคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกขยะแขยงจนไม่คิดว่าเคยรักกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารักผู้หญิงแบบนี้ลงไปได้ยังไงกัน"โถ่...ซัน...แค่จะเอาเงินมาคืนค่ะไม่เห็นต้องพูดจาแรงๆ แบบนั้นเลย...ตามมาสิคะ...เงินอยู่ในรถน่ะ"พูดจบเธอก็เดินนำ
"เอวา...ตื่นได้แล้วครับ...เช้าแล้วน้า..."เสียงนุ่มทุ้มปลุกร่างเล็กที่เอาแต่นอนซุกอกแกร่งของเขาใต้ผ้าห่มผืนหนา"อื้ม...""อย่าครางแบบนี้สิครับ...มันแข็งนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยด้วยเสียงเจ้าเล่ห์"..."ไร้ซึ่งเสียงตอบรับใดๆ จากคนขี้เซา"ตื่นได้แล้วครับ..."จุ๊บ!เมื่อปลุกไม่ตื่นเขาจึงกดจูบหนักๆ บนหน้าผากของเธอ จมูกโด่งก้มลงมาหอมที่แก้มนวลหนักๆ และตามด้วยริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากของเธอ แต่เหมือนฟ้าเป็นใจไม่รู้ว่าเธอละเมอหรือเคลิ้มไปกับเขา ทำให้เธอเผลอเผยอปากรับลิ้นร้อนๆ ของเขาเข้าไปเกี่ยวตวัดหาความหวานในโพรงปากนุ่มๆ นั้น"อื้อ..."เสียงหวานครางเบาๆเขาดูดเม้มริมฝีปากบางหนักขึ้นเรื่อยๆ จจากตอนแรกแค่ต้องการจะปลุก แต่ตอนนี้กลับทำให้ความเป็นชายของเขามันชูชันขึ้นพร้อมสู้ศึกอีกครั้ง แค่ได้สัมผัสแค่นี้ความต้องการมันก็มีมากขึ้นแล้วฝ่ามือใหญ่เคล้นคลึงเต้าอวบ นิ้วหัวแม่มือบี้เม็ดประทุมถันเบาๆ เพื่อเร้าอารมณ์ของร่างบางให้คล้อยตามไปกับเขา ในเวลาต่อมาร่างของเขาก็ขึ้นมาคร่อมบนร่างของเธอแล้ว จากนั้นก็ก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นทั้งซ้ายและขวาอย่างหลงไหล"อื้ม...พี่ซัน...""ตื่นแล้วหรอครับ...หื้ม..."ด
1เดือนผ่านมา...วันแต่งงานงานแต่งของเอวารินทร์และอัครวินท์จัดขึ้นที่โรงแรมหรู6ดาว แขกเรื่อในงานก็ต่างมาร่วมแสดงความยินดีมากมายอย่างล้นหลาม พ่อแม่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ต่างยิ้มแย้มด้วยความปลื้มปิติที่ในที่สุดวันนี้ลูกสาวและลูกชายของสองตระกูลได้ปรองดองกัน"ขอให้มีความสุขมากๆ นะตาซัน หนูเอวา...วันนี้แม่มีความสุขที่สุดที่เห็นลูกชายสุดที่รักของแม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที แม่ดีใจที่หนูเอวากำหราบเจ้าซันของแม่จนอยู่หมัด ขอบใจมากๆ นะลูกที่ยอมเป็นลูกสะใภ้ของแม่ด้วยความเต็มใจ"คุณหญิงวินทร์รวีเอ่ยอวยพรพร้อมกับรดน้ำสังข์ให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนและลูกสะใภ้คนโปรด"ครับแม่/ค่ะคุณแม่"ทั้งคู่เอ่ยขอบคุณพร้อมกัน ก่อนจะหันไปสบตากันและส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข วันนี้เจ้าสาวของเขาในชุดไทยสีเงินดูสวยออร่าเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็สวยสะดุดตาที่สุดจนไม่อาจละสายตาไปมองอย่างอื่นได้เลย"วันนี้เอวาสวยที่สุดเลยนะรู้ไหม"อัครวินท์เอ่ยชมเจ้าสาวพร้อมกับเอียงคอไปหอมแก้มของเธอ ทำเอาผู้เป็นพ่อที่ถึงคิวรดน้ำต้องกระแอมเรียก"อะ...แฮ่ม...ขอให้ลูกทั้งสองรักกันนานๆ มีหลานให้พ่ออุ้มเร็วๆ นะลูก"อัครเดชกล่าวอวยพรบ้าง พร้อมกับส่ง
"คลุมนี่ไว้ก่อน...แล้วห้ามออกจากห้องน้ำเดี๋ยวพี่เอาชุดมาให้เปลี่ยน...ห้ามออกมาในสภาพนี้...พี่หวง"อัครวินท์ดึงผ้าขนหนูที่แขวนไว้มายื่นให้เธอหนึ่งผืน ก่อนจะดึงมาพันรอบเอวสอบเอาไว้บ้าง"เร็วดิวะ!!""เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้คิม...กูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย มึงเป็นบ้าอะไรของมึง...กูจะเปลี่ยนรหัสห้อง...มึงแม่งไร้มารยาทชิบ""เมียมึงพาเมียกูไปไว้ไหน?""กูจะไปรู้ไหมเนี้ย เอวาไม่ได้บอก"พูดจบอัครวินท์ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดเรียบร้อยๆ ไปยื่นให้เอวารินทร์ในห้องน้ำ ส่วนเขาก็นุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วดันร่างเพื่อนออกจากห้องนอนไป"มิเกลไม่ได้อยู่ที่ห้อง มิเกลไปไหนมึงบอกกูมา""กูไม่รู้...""มึงก็ไปถามเอวาดิ...งั้นกูจะไปถามเอง"คิมหันต์เตรียมจะลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องไป แต่กลับถูกอัครวินท์ดันตัวนั่งลงไปที่เดิม"มึงอย่าแม้แต่จะเดินเข้าไปดูเมียกูเลยนะ กูเอามึงตายจริงๆ ด้วย...มึงใจเย็นแล้วนั่งรอ...รอเอวาแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วค่อยคุยได้ไหม..."อัครวินท์ข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ ทั้งหัวเสียที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งกลัวเพื่อนจะบุ่มบ่ามเดินเข้าไปเห็นเรือนร่างของเมีย แล้วยังหงุดหงิดที่ถูกบุกรุกอย่างไร้มารยาทในยามวิกาลอีก"เฮ้
"ฉันอยากกลับแล้วเอวา ฉันไม่อยากอยู่เที่ยวต่อแล้ว ฉันไม่อยากเจอเขา...ฉันไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้"เกวรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำราวกับกำลังจะร้องไห้ แต่ด้วยเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเข้มแข็ง เธอจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา"โอเค...ฉันจะพากลับ...แต่ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อน...โอเคไหม...ฉันอยู่ข้างๆ แกเสมอ"เอวารินทร์กุมมือเพื่อนเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เชิงให้กำลังใจเธอบรรยากาศบนโต๊ะอาหารตอนนี้ช่างหน้าอึดอัด เพราะคิมหันต์เอาแต่จ้องมองร่างบางที่ทำทีท่าไม่สนใจเขา มันน่าหงุดหงิดจริงๆ"แล้วมึงไม่กินล่ะ"อัครวินท์เอ่ยถามเพื่อนที่นั่งกอดอกพิงพนักพิงเก้าอี้ พร้อมกับจ้องมองร่างบางตาแทบไม่กระพริบ"ไม่กินก็ลุกไปที่อื่น รำคาญลูกตา"นี่เป็นคำพูดของเกวรี ซึ่งมันทำให้ร่างสูงรีบจับส้อมมาจิ้มไก่เข้าปากอย่างไม่สบอารมณ์ หงุดหงิดแต่ไม่อยากลุกออกไปไหน เลยจำใจต้องกินทั้งที่ตาก็จ้องกันอย่างกับจะฟาดฟันกันตรงนั้น"เอ่อ...เรารีบกินกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวจะถึงกรุงเทพมืด""ใครจะกลับ?"คิมหันต์ถาม"เอวากับมิเกลค่ะ...""เอวากลับไปกับซันสิครับ..."คิมหันต์กล่าว"ไม่ได้ค่ะ เอวามากับมิเกล...ก็ต้องกลับพร้อมมิ
วันต่อมา...จุฟ จุฟ จุฟ!!"อื้ม..."ร่างสูงส่งเสียงงัวเงียในลำคอเพราะถูกปลุกด้วยการระดมจูบทั่วใบหน้าหล่อให้ตื่นจากห้วงนิทรา"ตื่นได้แล้วค่ะ...เช้าแล้วน้า...ไม่ตื่นเอวาจะไม่ทำแค่จูบแล้วนะคะ..."เมื่อได้ยินแบบนั้นความเจ้าเล่ห์ก็เข้ามาในห้วงความคิดทันทีหมับ!"อื้อ..."มือหนากอดร่างบางเอาไว้แล้วทำทีเป็นงัวเงีย พลิกเธอลงมานอนข้างๆ จากนั้นใช้ท่อนขาพาดร่างเล็กเอาไว้ประหนึ่งว่าเธอเป็นหมอนข้าง"ว๊าย...พี่ซัน...""เมื่อคืนรู้ไหมครับ...ว่าเอวาทำพี่ค้างอีกแล้ว..."เสียงหวานๆ แต่แหบพร่าเอ่ยขึ้น"ไม่รู้ค่ะ..."เธอทำหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว"รู้ไหมครับว่าต้องทบต้นทบดอก...""อื้ม..."ยังไม่ทันที่ร่างบางจะตอบออกไป คำพูดของเธอก็ถูกกลืนลงไปด้วยปากหยักของร่างสูง จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามาเป็นขึ้นคร่อมร่างเธอแทน"พี่หิว...""หิว??""ครับ...อยากจะกลืนกินเอวาทั้งตัวเลย..."อัครวินท์ก้มกระซิบเสียงกระเส่าข้างๆ ใบหูของเธอพร้อมกับขบเม้มเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆ เป่าลดลงมาที่ซอกคอของคนตัวเล็กจนรู้สึกถึงความสยิวที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้"แต่เอวาหิวข้าว...ขอไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ...เอวานัดเพื่อนไว้แล้ว...""ถ้าไปกินข้าวก่อน.
"สบายใจขึ้นยัง...หื้ม!"เสียงอบอุ่นของอัครวินท์ถามขึ้นเมื่อร่างบางหยุดร้องไปพักหนึ่งแล้ว"อื้ม...""รู้ใจตัวเองหรือยัง?""รู้แล้ว!"เธอผละหน้าออกจากไหล่กว้างแล้วเตรียมจะลุกออกจากตักของเขา แต่มือหนาก็รั้งสะโพกเธอเอาไว้ให้นั่งอยู่ก่อน"รู้ว่าอะไร?""..."ร่างบางไม่ตอบแต่ก้มหน้าแล้วหลุบตาต่ำลงเพื่อหลบสายตาคนที่เอาแต่จ้องหน้าเธอ"รู้ว่ารักพี่ซัน..."เธอตัดสินใจเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้ยิน และก็พอใจกับคำตอบเป็นอย่างมากมือหนากำชับกอดเธอเอาไว้แน่น พร้อมกับจูบไปที่หน้าผากของเธอหนักๆ"เมียพี่โหดชะมัด!!""ถ้าคิดจะมีกิ๊ก...เอวาจะรัวกระสุนไม่ยั้ง""เมียมึงโหดจริง!! แบบนี้แหละถึงกำหราบคนอย่างมึงได้"คิมหันต์เอ่ยขึ้น"แฮปปี้เอ็นดิ้งกันเเล้วเนาะ...ชนๆ ฉลองหน่อย">แสงเหนือ"มาค่ะ เดี๋ยวมิเกลชงเหล้าให้"ว่าแล้วเธอก็จัดแจงแก้วมาวางไว้ตรงหน้าเธอแล้วคีบน้ำเเข็งเติมเหล้าเติมโซดาแล้วชงเสริฟทันทีบรรยากาศบนโต๊ะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไม่หน้าอึดอัดเหมือนก่อนหน้า"เดี๋ยวเอวาไปนั่งที่ตัวเองดีกว่าค่ะ"ร่างบางเตรียมลุกออกไปจากตักแต่มือหนาก็ยังคงรั้งเอาไว้อีก"นั่งตรงนี้!!""เอ่อ...""วันนั้นเอวาทำอารมณ์พี่