เดิมทีซูหว่านคิดเอาไว้ว่า สามเดือนต่อจากนี้เธอก็คงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าหลินเจ๋อเฉินอยากจะนอนกับเธอ คงเหลือไว้แค่ผงกระดูกแต่ตอนนี้เขารวบรัดเวลาเหลือแค่สามวัน เธอรู้สึกว่ามันเกินกว่าจะรับได้เธออยากจะพูดอะไรต่อ แต่จู่ๆหลินเจ๋อเฉินก็ปล่อยเธอเป็นอิสระในที่ซูหว่านก็กลับมาหายใจหายคอได้คล่อง เธอจึงกลืนคำพูดเมื่อกี้ลงไปยังไงก็ตาม เอาคืนนี้ให้รอดก่อนค่อยว่ากัน"ที่รัก"หลินเจ๋อเฉินโน้มตัวลง จุ๊บแก้มของเธอหนักๆ "งั้นคืนนี้ฉันจะกลับไปก่อน อีกสามวันจะมารับ"ซูหว่านกุมแก้มข้างที่โดนเขาจุ๊บ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าหลินเจ๋อเฉิน เธอจึงกล้ำกลืนมันเอาไว้ แล้วผงกหัวอย่างเชื่อฟังเห็นเธอว่าง่ายแบบนี้ หลินเจ๋อเฉินจึงยอมปล่อยเธอ แล้วเดินไปที่ประตูตอนที่เธอมาถึงหน้าประตู จู่ๆเขาก็ชะงักฝีเท้า"จริงสิ"เขาหันกลับมา มองซูหว่านอย่างมีเลศนัย "ที่รัก เพื่อนสนิทเธอชื่อเฉียวซานซานสินะ?"สีหน้าที่เธอฝืนแสดงออกมาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่แท้หลินเจ๋อเฉินก็รู้จักซานซาน ดูท่าทางเขาจะสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียดก่อนแล้วความรู้สึกที่ถูกค้นประวัติแบบหมดจดนี้ ซูหว่
หลังจากเตรียมอุปกรณ์จนพร้อม หลินเจ๋อเฉินก็ส่งผู้ช่วยหลินหยางมารับเธอซูหว่านถือกระเป๋าขึ้นรถไมบัคที่จอดรออยู่เธอนึกว่าหลินหยางจะพาเธอไปที่บ้านหลินเจ๋อเฉิน แต่เขากลับพาเธอมาที่ห้างสไตลิสต์และช่างแต่งหน้าหลายคนล้อมรอบเธอ ทั้งม้วนผมยาวถึงเอวเป็นลอนใหญ่ ไหนจะแต่งหน้าให้อย่างประณีตชุดราตรีราคาแพงที่ราวกับถูกสั่งจัดเพื่อให้เข้ากับสัดส่วนของเธอโดยเฉพาะ ที่ถูกสวมใส่บนเรือนร่าง งดงามไร้ที่ติยิ่งคอระหงส์ของเธอถูกประดับด้วยสร้อยเพชรหรูราคาหลายร้อยล้าน ยิ่งเสริมให้เธอดูสง่างามและสูงส่งเธอมองเงาสะท้อนที่สวยงามเปล่งปลั่งในกระจก ก็รู้สึกไม่ชิน ยิ่งไปกว่านั้นกลับรู้สึกเหมือนหนิงหว่านถ้าจี้ซือหานมาเห็นเธอในสภาพนี้ ดีไม่ดีเขาจะคิดว่าเธอตั้งใจเลียนแบบหนิงหว่านก็เป็นได้เธอหัวเราะเยาะตัวเอง รอยยิ้มที่ออกมานั้นแสนขมขื่นหลังจากแปลงโฉมเรียบร้อย หลินหยางก็ส่งเธอไปที่ไนท์คลับที่นี่เป็นสถานบันเทิงแห่งใหญ่ที่สุดในเมืองเอ คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นเศรษฐีหรือผู้ทรงอำนาจเหตุผลก็เพราะที่นี่มีระบบรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด และแทบไม่มีการตรวจสอบ หรือต่อให้มีก็ไม่มีทางตรวจเจออะไรดังนั้นลูกหลานผ
"ประธานจี้ ขอแนะนำหน่อย นี่ซูหว่านเป็นผู้หญิงของผม"การแนะนำอย่างเปิดเผยของหลินเจ๋อเฉิน ทำให้ซูหว่านอึ้งไปนิดหน่อยไม่คิดว่าการถูกเปิดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่ใฝ่หามาตลอด แต่ไอ้โรคจิตนี่กลับเป็นคนมอบมันให้เธอส่วนผู้ชายคนที่เธออยากให้เขาทำ เอาแต่นั่งมุนแก้วไวน์ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ โดยไม่แลเธอแม่แต่เธอราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นณ ตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ทั้งเฉยเมย ทั้งไร้ความรู้สึกหลินเจ๋อเฉินเห็นจี้ซือหานไม่ได้รู้สึกสนใจแต่อย่างใด ก็รีบจับคางของซูหว่านขึ้น"ประธานจี้ ดูสิ เธอหน้าตาเหมือนหนิงหว่านของคุณมากใช่ไหมล่ะ?"วันนี้เขาไปคุยเรื่องโปรเจคที่หนิงกรุ๊ป แล้วเจอเข้ากับคุณหนูหนิงที่หน้าตาละม้ายคล้ายซูหว่านสุดๆไปสืบมาถึงได้รู้ว่านั่นคือผู้หญิงของจี้ซือหาน คุณหนูหนิงซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเขาเลยรีบถ่อไปที่จี้กรุ๊ป ใช้ประโยชน์จากความหน้าเหมือนระหว่างซูหว่านกับหนิงหว่านเป็นข้ออ้างในการเข้าหาจี้ซือหาน แล้วก็เชิญเขามาที่นี่ได้สำเร็จหลินเจ๋อเฉินคิดว่าจี้ซือหานอุตส่าห์ลดตัวมาที่นี่ อีกเดี๋ยวเขาจะต้องฉวยโอกาสนี้เจรจาเรื่องโปรเจคทางตะวันตกให้สำเร็จจงได้เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของ
ซูหว่านยังนึกว่าหลินเจ๋อเฉินกับจี้ซือหานสนิทกันซะอีก ที่ไหนได้เป็นเพราะจี้เหลียงชวนแนะนำมาดูท่าทางว่าที่หลินเจ๋อเฉินจัดปาร์ตี้ครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่อยากจะพาเธอมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก แต่เขาต้องการโปรเจคที่อยู่ในมือของจี้ซือหานแต่แบบนี้ก็ดี คุยโปรเจคคงต้องใช้เวลานานน่าดู เธอจะได้มีเวลาคิดหาวิธีเอาตัวรอดพอคิดแบบนั้น ซูหว่านที่นั่งตัวเกร็งมาตลอด ก็ค่อยๆผ่อนคลายลงเพิ่งจะโล่งใจได้ไม่นาน หลินเจ๋อเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ จู่ๆก็หันมาเชิดคางใส่เธอ "ดื่มซะ"ตอนนี้ซูหว่านไม่อาจแกล้งโง่ได้อีก เธอจึงต้องยกแก้วขึ้นมาแล้วกระดกรวดเดียวเธอดื่มแอลกอฮอล์น้อยมาก เพราะจี้ซือหานไม่ชอบกลิ่นเหล้า เธอจึงไม่แตะต้องมันเลยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์รุนแรงทำเธอสำลักจนน้ำตาไหลออกมาหลินเจ๋อเฉินเห็นแบบนั้น ก็รีบเข้ามากอดเธอไว้แล้วช่วยลูบหลังให้สายตาเย็นชาของจี้ซือหานจับจ้องไปยังแขนข้างที่กอดซูหว่านอยู่น้ำตาที่บดบังอยู่จนทำให้การมองเห็นพร่ามัวนั้น ซูหว่านราวกับเห็นรังสีสังหารจากในดวงตาของเขาแต่เมื่อดวงตาของเธอกลับมาโฟกัสชัดเจนอีกครั้ง เธอจึงเห็นว่าดวงตาของเขานอกจากความเย็นชาห่างเหินและ ก็ไม่มีอะไรอีกซูหว่านไ
"เริ่มจับสลากได้ ใครที่ได้อยู่ทีมเดียวกันต้องสลับที่นั่ง ห้ามนั่งติดกันนะ~"อันเหยียนวางเศษกระดาษลงบนโต๊ะ ใครที่จับได้ตัวเลขเหมือนกัน จะต้องอยู่ทีมเดียวกันจำนวนผู้เข้าร่วมครั้งนี้มีสี่คน คนที่จับได้เลข1-2ต้องเล่นก่อน คนที่เหลือต่อแถวรอซูหว่านดวงไม่ดีหนักมาก เธอจับได้เลข2เธอช้อนเงยหน้ามองอีกฝ่าย จี้ซือหานจับได้หมายเลข1 ซึ่งเป็นคู่แข่งของเธอพอดีส่วนอันเหยียนที่จับได้เลข1เหมือนกัน ก็เลิกคิ้วใส่ซูหว่าน ดูซิว่าอีกเดี๋ยวฉันจะเล่นงานเธอยังไง"ยังมีเลข2อีกใบนึง ใครจับได้?"จี้เหลียงชวนลังเลไปนิดหน่อย สุดท้ายก็คลี่กระดาษที่อยู่ในมือออกเขาส่งยิ้มให้ซูหว่าน "ฉันเล่นไพ่ไม่ค่อยเก่ง เธอต้องแบกแล้วล่ะ"ซูหว่านฉีกยิ้มแห้งๆ หน้าตาเหยเกราวกับจะร้องไห้ใส่เขาจริงๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยมาก ในชีวิตนี้แทบจะไม่เคยแตะเกมไพ่อะไรแบบนี้เลยเมื่อกี้อันเหยียนอธิบายกติกาเร็วอย่างกับแร็พขนาดนั้น ยังไม่ทันจะได้จำวิธีเล่นด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ขนาดสายปาร์ตี้อย่างจี้เหลียงชวนยังเล่นไม่เป็น นี่มันตั้งใจแกล้งเธอชัดๆเลยหนิ สงสัยจริงๆว่าเมื่อกี้ตอนที่จับสลาก อันเหยียนเล่นตุกติกอะไรแหงๆซูหว่านรับไพ่ที่อันเห
สีหน้าของซูหว่านตึงขึ้นมาสูทที่จี้เหลียงชวนใส่ แค่ถอดตัวนอกออก เขายังเหลือเสื้อเชิ้ตตัวในอีก แต่ถ้าเธอถอด ก็ไม่เหลืออะไรเลยเธอเงยหน้ามองทุกคน ทุกสายตาราวกับกำลังรอเธอถอดอยู่ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดจะช่วยแก้สถานการณ์ให้เธอแม้แต่หลินเจ๋อเฉินก็ตั้งหน้าตั้งตารอ สายตาจับจ้องมาที่รูปร่างของเธอตอนนี้เธอไม่ต่างอะไรกับสัตว์แปลกๆตัวนึง ที่กำลังถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งหลายจ้องมองเชยชมถ้าเธอยอมทำตามแต่โดยดี พวกเขาก็คงยอมปล่อยเธอไป แต่ถ้าไม่ คิดว่าคงไม่ปล่อยให้เธอได้ออกจากห้องนี้ไปง่ายๆเมื่อซูหว่านคิดได้ เธอก็คลายมือที่กำแน่นออกถึงยังไงเธอก็จะตายในอีกไม่ช้า จะยังสนใจเรื่องศักดิ์ศรีไปทำไมขณะที่เธอเอื้อมไปด้านหลัง แล้วรูปซิปชุดกระโปรงลง จู่ๆจี้เหลียงชวนก็พูดขึ้น"ฉันเล่นไม่เป็นเอง ก็เลยทำให้คุณซูต้องเดือดร้อนไปด้วย รอบนี้ฉันจะถอดแทนเธอเอง"จี้เหลียงชวนพูดจบ เขาก็ถอดเสื้อเชิ้ตออกทันที เผยให้เห็นซิกแพ็กแข็งแรงเป็นรูปสวยอันเหยียนเห็นจี้เหลียงชวนถึงขั้นยอมลดศักดิ์ศรีเพื่อปกป้องซูหว่าน หล่อนก็ยิ่งไม่พอใจซูหว่านมากขึ้นหล่อนกัดฟันจ้องหน้าซูหว่าน แต่ซูหว่านกลับไม่สนใจสายตาของหล่อน และห
ซูหว่านไม่คิดว่าหลินเจ๋อเฉินจะโกหกไปแบบนั้น เธอจึงทำหน้าไม่ถูกทันทีจี้ซือหานเป็นโรคอนามัยจัด เขาเคยบอกว่าไม่อนุญาตให้เธอไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นเธออยากจะอธิบายอะไรสักอย่างกับจี้ซือหาน แต่ตอนนี้ระหว่างเขาสองคนมันจบลงแล้ว ก็คิดว่าคงไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีกขณะกำลังลังเลอยู่นั้น จู่ๆจี้ซือหานก็พยักหน้ามาทางเธอ "ในเมื่อบริสุทธิ์ขนาดนั้น ก็ให้เธอมาริน"หลินเจ๋อเฉินเห็นว่าจี้ซือหานให้โอกาสซูหว่าน ก็รีบส่งขวดไวน์คืนให้ซูหว่าน "รีบไป"ซูหว่านนึกว่าจี้ซือหานจะโกรธ แต่ที่ไหนได้นอกจากจะไม่ได้อารมณ์แปรปรวนเลยสักนิด แถมยังเปลี่ยนใจให้เธอเป็นคนรินนั่นทำให้ซูหว่านไม่เข้าใจอย่างมาก แต่เพราะหลินเจ๋อเฉินกำลังเร่งเธออยู่ ก็เลยต้องรับขวดไวน์มาใหม่ แล้วโน้มตัวรินให้เขายังไม่ทันจะได้รินของเหลว มือที่เห็นเส้นเลือดของเขาก็ปิดปากแก้วอีกรอบเขาช้อนสายตาเย็นชานั้นจ้องหน้าเธอ "คุกเข่าริน"คราวนี้หลินเจ๋อเฉินแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นแล้วว่าจี้ซือหานมีอะไรในใจกับซูหว่านแน่นอนเพียงแต่เขาคิดยังไงก็คิดไม่ออก ทำไมจี้ซือหานต้องรังแกซูหว่านแบบนี้? หรือทั้งสองคนรู้จักกัน?ซูหว่านได้ยินคำนั้น ก็ไม่อยากจะเชื่อหูต
"พี่สอง"จี้เหลียงชวนทีฟื้นจากความตกใจรีบเรียกเขา แต่เขาไม่หันหน้ากลับเลยหลินเจ๋อเฉินมองไปเงาด้านหลังของจี้ซืหาน และถามอย่างมีความหมายมากว่า "พี่สองของคุณเกิดอะไรขึ้น"จี้เหลียงชวนยิ้มและพูด "เขาเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลจี้ มีความกดดันสูงมาก บางทีก็อารมณ์แปลกๆบ้าง ขอให้คุณกับคุณหนูซูอย่าถือสา"หลังจากอธิบายแบบประโยคหนึ่งง่ายๆแล้ว จี้เหลียงชวนยกแก้วไวน์ขึ้นขอโทษกับหลินเจ๋อเฉินและซูหว่าน "ผมลงโทษตัวเองหนึ่งแก้วแทนเขา"ดื่มหมดคําเดียว จี้เหลียงชวนวางแก้วลง พูดอย่างอ่อนโยนว่า "พวกคุณเล่นก่อนเถอะ ผมจะกลับไปดูเขาหน่อย"พฤติกรรมของเขามีมารยาทมาก คำพูดก็เกรงใจมาก หลินเจ๋อเฉินไม่มีเหตุผลที่ไม่ปล่อยเขาไป "งั้นไว้คราวหน้าเราค่อยนัดก็แล้วกัน"จี้เหลียงชวนพยักหน้า สวมเสื้อเชิ้ต หยิบเสื้อสูทขึ้นมา แล้วก็รีบจากไปอันเหยียนยังอยากเล่นต่ออีก แต่เห็นจี้เหลียงชวนจากไปแล้ว มีแต่ทิ้งไพ่ในมือและตามไปอย่างรวดเร็วพอกี่คนนี้จากไปแล้ว ในห้องส่วนตัวก็ว่างเปล่าไปไม่น้อย หลินเจ๋อเฉินนวดคิ้วอย่างหดหู่เล็กน้อยที่เดิมยังอยากรอให้จี้ซืหานเล่นจนดีใจแล้วค่อยคุยเรื่องโครงการ แต่นี่ยังไม่ถึงเอ่ยปากเลย คนก็จาก