จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
จี้ซือหานกลับมาจากต่างประเทศ ในฐานะที่เป็นคนรักลับๆของเขา ซูหว่านจึงถูกรับตัวไปยังคฤหาสน์หมายเลข8ในทันทีตามข้อตกลงแล้ว ก่อนที่จะพบเขา เธอต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาด ห้ามมีกลิ่นน้ำหอมหรือกลิ่นผงหอมหลงเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียวเธอปฏิบัติตามรสนิยมของเขาอย่างเคร่งครัด หลังจากอาบน้ำจนสะอาด เปลี่ยนไปใส่ชุดนอนผ้าซาติน และมายังห้องนอนชั้นสองชายหนุ่มกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา เขาก็กวาดตามองเธอด้วยสายตาเรียบเฉย"มานี่สิ"เสียงที่แสนเย็นชา ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆของเขา ทำให้ซูหว่านรู้สึกกดดันและหนักหน่วงภายในใจเขาเป็นคนอารมณ์แปรปรวนและอ่อนไหวง่าย ซูหว่านกลัวทำเขาโกรธ จึงเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่รอช้ายังไม่ทันจะยืนให้มั่น จี้ซือหานก็ดึงเธอเข้าไปในอ้อมกอด นิ้วเรียวยาวจับคางของเธอไว้เขาก้มหน้าลงประทับจูบบนริมฝีปากสีแดงเธอตลอดเวลาที่ผ่านมาจี้ซือหานไม่พูดคุยกับเธอ เขาไม่เคยอ่อนโยนอบอุ่น เมื่อเห็นหน้าเธอ เขาก็จะทำแต่เรื่องบนเตียงเท่านั้นครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เขาไปดูงานต่างประเทศสามเดือน เขาไม่ได้แตะต้องผู้หญิงมานานขนาดนี้ คิดว่าคืนนี้ชายหนุ่มคงไม่ยอมปล่อยเธอง่าย
หลังจากจี้ซือหานออกไปแล้ว ซูชิงผู้ช่วยส่วนตัวของเขาก็เดินถือยาเข้ามาเขาส่งยาให้กับซูหว่าน แล้วพูดด้วยความเคารพ "คุณซู รบกวนด้วยนะครับ"มันคือยาคุม เพราะจี้ซือหานไม่ได้รักเธอ เขาจึงไม่ต้องการให้เธอท้องทุกครั้งหลังจากเสร็จกิจ เขามักจะให้ซูชิงเอายามาให้ แถมกำชับให้ซูชิงดูให้เห็นกับตาว่าเธอกินไปแล้วจริงๆซูหว่านมองดูยาเม็ดสีขาว ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้งไม่รู้ว่าเป็นเพราะหัวใจล้มเหลว หรือเพราะถูกจี้ซือหานทิ่มแทงอย่างไรความปราณี เอาเป็นว่าเธอเจ็บปวดจนรู้สึกหายใจลำบาก"คุณซู..."ซูชิงเห็นเธอเงียบไป ก็รีบเรียกสติ กลัวว่าเธอจะไม่ยอมกินซูหว่านมองเขานิดนึง ก่อนจะรับยามาโดยไม่พูดอะไร เธอใส่มันเข้าปากล้วกลืนลงไปโดยไม่แม้แต่จะดื่มน้ำสีหน้าเป็นกังวลของซูชิงหายเป็นปลิดทิ้ง เขาหยิบเช็คกับโฉนดบ้านออกมาจากแฟ้มเอกสาร แล้ววางไว้ตรงหน้าซูหว่าน"คุณซู นี่เป็นค่าตอบแทนที่ประธานจี้มอบให้คุณ นอกจากบ้าน และรถหรูแล้ว ยังมีเงินอีกจำนวนสองร้อยห้าสิบล้านบาท กรุณารับไว้ด้วยครับ"ก็นับว่าใจป๋าอยู่หรอกแต่น่าเสียดายตรงที่ สิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอด ไม่ใช่เงินซูหว่านเงยหน้ามองซูชิงแล้วยิ้มบางๆ
ซูหว่านลากกระเป๋ามาถึงบ้านเฉียวซานซานเพื่อนสนิทของเธอเธอยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ จากนั้นก็ยืนรออยู่ด้านข้างเฉียวซานซานกับเธอต่างก็เป็นเด็กกำพร้า ทั้งสองคนเติบโตขึ้นในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่รู้ใจกันเป็นอย่างดีจำได้ว่าตอนที่เธอถูกจี้ซือหานรับตัวไป เฉียวซานซานบอกกับเธอว่า "หว่านหว่าน ในอนาคตถ้าเขาไม่ต้องการเธอแล้ว ให้กลับบ้านนะ"แล้วก็เป็นเพราะคำพูดนั้น ซูหว่านถึงกล้าปฏิเสธบ้านที่จี้ซือหานมอบให้ไม่นาน เฉียวซานซานก็เปิดประตู พอเห็นเธอ มุมปากก็ยกขึ้นทันที ดวงตาทั้งสองข้างก็ยิ้มจนหยีไปหมด"หว่านหว่าน มาได้ไงเนี่ย?"มือของซูหว่านที่จับกระเป๋าเดินทางอยู่ก็กำแน่น เธอพูดอย่างเขินอายนิดๆ "ซานซาน ฉันมาเกาะเธอกินแล้ว"ตอนนี้เองเฉียวซานซานถึงสังเกตเห็นกระเป๋าเดินทางในมือเธอ รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อทันที "เกิดอะไรขึ้น?"ซูหว่านแสร้งยิ้มราวกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร "ฉันเลิกกับเขาแล้ว"เฉียวซานซานอึ้งไป แล้วมองรอยยิ้มฝืนๆของซูหว่านใบหน้าเล็กเท่ากำปั้นนั้น ทั้งซูบผอม ทั้งซีดเซียวร่างที่ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว ยิ่งไม่ต่างอะไรกับกระดาษบางๆแผ่นนึงเมื่อเห็นซูห
"อะไร? อะไรนะ?"โจวโจวราวกับได้ยินความลับระดับชาติ แล้วเขย่าจ้าวหยูด้วยความตื่นเต้น "ไหนบอกว่าคนแซ่จี้อะไรนั่นไม่สนใจผู้หญิงไม่ใช่หรอ? ฮีมีนางในดวงใจได้ไงอะ? หรือบริษัทเรากำลังจะมีท่านประธานเป็นผู้หญิง?"จ้าวหยูตีมือโจวโจวเบาๆแล้วหัวเราะ "ดูยัยคนนี้ นี่มันท็อปซีเคร็ทระดับสิบเลยนะ ขนาดในแวดวงไฮโซเค้ายังไม่รู้กันเลย แถมยังพูดในออฟฟิศท่านประธานอีก!"โจวโจวดึงแขนเสื้อจ้าวหยูแล้วอ้อน "คุณพี่หยูโปรดกรุณาเฉลยให้น้องทีค่ะ!"ตอนนี้เองจ้าวหยูจึงกดเสียงต่ำ "ประธานจี้กับลูกสาวท่านประธานของเราโดนจับคู่ให้กันตั้งแต่เด็กๆ เค้าว่ากันว่า ประธานจี้เคยขอคุณหนูหนิงแต่งงานเมื่อห้าปีก่อน""แต่คุณหนูหนิงน่ะสิ ชีปฏิเสธประธานจี้เพราะเรื่องเรียน สองคนนั้นก็เลยทะเลาะกันใหญ่โต แล้วขาดการติดต่อกันไปตั้งห้าปี แต่คุณหนูหนิงเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก ประธานจี้ก็ไปรับที่สนามบินด้วยตัวเอง นี่ก็บอกได้แล้วว่าประธานจี้รักจริงหวังแต่งซีอีโอหญิงคนนี้แน่แท้"โจวโจวยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาทั้งสองข้างเบิกโพล่ง สีหน้าเต็มไปด้วยควมตื่นเต้น "แม่เจ้า! นี่มันพล็อตเรื่องในซีรีส์เกาหลีชัดๆ!"ซูหว่านรู้สึกหายใจไม่ออก ใบหน้าของเธอซีดมา
หนิงหว่านแนะนำตัวเองง่ายๆ และทักทายอย่างสุภาพอีกนิดหน่อย จากนั้นก็ควงแขนจี้ซือหานเดินตามสวีหานเข้าไปในห้องทำงานผู้บริหารโจวโจวยืดคอมองตามทั้งสองคน สีหน้าอิจฉาสุดๆ "รับตำแหน่งวันแรก ประธานจี้ก็ไปรับมาส่งถึงที่ นี่สินะท่านประธานเผด็จการกับภรรยาแสนสวยที่ใครๆเค้าพูดกัน?"จ้าวหยูยกมือขึ้นวางบนไหล่หญิงสาว "ยังไม่รู้อะไรสินะ? ชีเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกมาถึงก็นั่งทำแหน่งท่านประธาน บรรดาผู้ถือหุ้นตัวเอ้ไม่มีทางยอมอยู่แล้ว ที่ประธานจี้มาส่งด้วยตัวเองตั้งแต่รับตำแหน่งวันแรก ก็เพื่อจะแสดงให้พวกผู้ถือหุ้นเห็นว่าชีมีตระกูลจี้เป็นแบ็คอัพให้อยู่น่ะสิ!"โจวโจววางสองมือเท้าไว้ที่คาง อิจฉาสุดอะไรสุด "ไม่ทันไรก็ปูทางให้ภรรยาซะดิบดีเบอร์นี้ ประธานจี้ท่าจะคลั่งรักไม่ไหว"จ้าวหยูก็รู้สึกร้อนผ่าวในดวงตาไม่แพ้กัน "ถ้าไม่ใช่ลูกสาวท่านประธาน ผู้ชายทรงอำนาจแห่งเมืองเอที่ไหนจะมาชอบ"โจวโจวส่ายหน้าไม่เห็นด้วย "เดิมทีประธานหนิงก็โปรไฟล์เลิศอยู่แล้ว เรียนจบสูง เติบโตมาอย่างดี นี่ยังไม่พูดถึงหน้าตา..."โจวโจวหันไปหาซูหว่าน "ฉันเพิ่งสังเกตว่าหว่านหว่านกับซีอีโอคนใหม่หน้าตาคล้ายกันอยู่นะ?"จ้าวหยูเองก็รีบจอยเข้ามา