หนิงหว่านแนะนำตัวเองง่ายๆ และทักทายอย่างสุภาพอีกนิดหน่อย จากนั้นก็ควงแขนจี้ซือหานเดินตามสวีหานเข้าไปในห้องทำงานผู้บริหารโจวโจวยืดคอมองตามทั้งสองคน สีหน้าอิจฉาสุดๆ "รับตำแหน่งวันแรก ประธานจี้ก็ไปรับมาส่งถึงที่ นี่สินะท่านประธานเผด็จการกับภรรยาแสนสวยที่ใครๆเค้าพูดกัน?"จ้าวหยูยกมือขึ้นวางบนไหล่หญิงสาว "ยังไม่รู้อะไรสินะ? ชีเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกมาถึงก็นั่งทำแหน่งท่านประธาน บรรดาผู้ถือหุ้นตัวเอ้ไม่มีทางยอมอยู่แล้ว ที่ประธานจี้มาส่งด้วยตัวเองตั้งแต่รับตำแหน่งวันแรก ก็เพื่อจะแสดงให้พวกผู้ถือหุ้นเห็นว่าชีมีตระกูลจี้เป็นแบ็คอัพให้อยู่น่ะสิ!"โจวโจววางสองมือเท้าไว้ที่คาง อิจฉาสุดอะไรสุด "ไม่ทันไรก็ปูทางให้ภรรยาซะดิบดีเบอร์นี้ ประธานจี้ท่าจะคลั่งรักไม่ไหว"จ้าวหยูก็รู้สึกร้อนผ่าวในดวงตาไม่แพ้กัน "ถ้าไม่ใช่ลูกสาวท่านประธาน ผู้ชายทรงอำนาจแห่งเมืองเอที่ไหนจะมาชอบ"โจวโจวส่ายหน้าไม่เห็นด้วย "เดิมทีประธานหนิงก็โปรไฟล์เลิศอยู่แล้ว เรียนจบสูง เติบโตมาอย่างดี นี่ยังไม่พูดถึงหน้าตา..."โจวโจวหันไปหาซูหว่าน "ฉันเพิ่งสังเกตว่าหว่านหว่านกับซีอีโอคนใหม่หน้าตาคล้ายกันอยู่นะ?"จ้าวหยูเองก็รีบจอยเข้ามา
ซูหว่านกดหัวใจที่เจ็บปวดจนแทบหยุดเต้น พยุงร่างให้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเธอจะลาออก ต้องลาออกให้เร็วที่สุด เวลาของเธอเหลืออีกไม่มาก เธอไม่อยากใช้เวลาในละวันไปกับการเห็นเขาทั้งสองคนพลอดรักกันเธอกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวจะเผลอตัวพุ่งเข้าไปถามจี้ซือหานว่าทำไมต้องใช้เธอเป็นตัวแทน!หลังจากเขียนจดหมายลาออกเสร็จ ก็ไปให้ผู้รับผิดชอบประจำออฟฟิศผู้บริหารอย่างสวีหานอนุมัติสวีหานไม่ได้มีภาพจำดีๆต่อเธอมากนัก เมื่อเห็นเธอจะลาออก ก็แค่พูดรั้งพอเป็นพิธี จากนั้นก็อนุมัติให้ขั้นตอนการลาออกจะมีผลในหนึ่งเดือน ซูหว่านจึงไม่สามารถจากไปได้อย่างทันที ได้แต่ใช้สิทธิ์ลาพักร้อนครึ่งเดือนเธอทำงานที่อิงฮว่ามาห้าปี วันหยุดที่สะสมมาทั้งหมดก็ได้สิบห้าวันพอดี หากจะใช้สิทธิ์ทั้งหมดก่อนลาออกก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสวีหานเห็นเธอดูท่าทางรีบร้อนมาก ก็กรอกตาใส่อย่างทนไม่ไหว "ฉันอนุมัติวันฃาให้เธอก็ได้ แต่หมดพักร้อนแล้วต้องรีบกลับมาส่งต่องาน"ซูหว่านตอบกลับ "ค่ะ" สั้นๆ แล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากอิงฮว่าอินเตอร์เนชั่นแนลทันทีขณะกำลังเดินออกจากบริษัทด้วยท่าทางรีบร้อน ก็บังเอิญเจอกับหลินเจ๋อเฉิน ประธานแห่งหลินกรุ๊ป
กระทั่งจี้ซือหานเดินจากไปไกลแล้ว หลินเจ๋อเฉินถึงได้สังเกตว่านั่นคือคุณชายรองแห่งตระกูลจี้ ก็รีบปล่อยซูหว่านออก แล้ววิ่งตามไปทักทายแต่จี้ซือหานกลับขึ้นรถไปหน้าตาเฉย เสียงปิดประตูดัง "ปึ้ง" รถหรูสิบกว่าคันที่จอดอยู่ด้านนอกก็เคลื่อนตัวออกไปเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า หลินเจ๋อเฉินจึงได้แต่ย้อนกลับไปหาซูหว่าน ก่อนจะพบว่าเธอหายไปจากล็อบบี้แล้วหลินเจ๋อเฉินลูบริมฝีปากที่เพิ่งจูบซูหว่านมาหมาดๆ แววตาก็เผยความสนุกตื่นเต้นราวกับนักล่า"หลินหยาง มาสืบที่อยู่เธอมาที"หลินหยางที่เดินตามหลังก็รีบตอบรับสั้นๆ "ครับ"ซูหว่านกลับมาถึงบ้าน โยนกระเป๋าลง แล้วทิ้งร่างไร้วิญญาณนั่งตรงโซฟากระทั่งเสียงเรียกเข้าดัง เธอถึงดึงสติกลับมาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เมื่อเห็นหมายเลขที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ ซูหว่านก็ขมวดคิ้วทำไมซูชิงถึงโทรมาหาเธอ?ซูหว่านลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็สไลด์หน้าจอปลดล็อครหัส "มีอะไรหรอคะ ผู้ช่วยซู?"เสียงยินดีปรีดาของซูชิงดังมาจากปลายสาย "คุณซู เมื่อกี้ตอนที่ผมทำความสะอาดคอนโด ก็เห็นว่ามีของของคุณตกหล่นอยู่ ไม่ทราบว่าสะดวกเข้ามารับของวันไหนครับ?"ซูหว่านหลงเข้าใจไปว่าจี้ซือหานอยา
หลินเจ๋อเฉินกลับไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง เขากระชากชุดนอนส่วนบนของเธอออกตอนที่มือเย็นๆน่ารังเกียจนั่งสัมผัสที่เอวด้านหลัง ซูหว่านก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง"หลินเจ๋อเฉิน!"เสียงดังสนั่นทำให้หลินเจ๋อเฉินหยุดลูบคลำในทันใดซูหว่านอยากจะฆ่าเขาให้ตาย "หลินเจ๋อเฉิน ถ้าวันนี้คุณกล้าข่มขืนฉัน พรุ่งนี้ฉันจะไปฟ้องศาล!"หลินเจ๋อเฉินหัวเราะเยาะออกมาราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก "ขนาดตำรวจฉันยังไม่กลัว เธอคิดว่าฉันจะกลัวโดนเธอฟ้อง?"ซูหว่านกำหมดแน่น เธอพูดกัดฟัน “ฉันรู้ว่าตระกูลหลินของคุณมีอำนาจ แล้วยังไง นี่มันยุคของโซเชียลมีเดีย ถ้าคุณกล้าใช้อำนาจทำผิดให้เป็นถูก ฉันก็จะแฉคุณกับพวกสื่อ!”หลินเจ๋อเฉินเลิกคิ้วอย่างไม่สะทกสะท้าน "เอาสิ ไปแฉเลย ฉันไม่ได้ขึ้นเทรนด์ทวิตนานแล้วเหมือนกัน"คำพูดของหลินเจ๋อเฉินบ่งบอกชัดว่าเขาไม่กลัว จู่ๆซูหว่านก็รู้สึกหมดแรง คนที่เธอต่อกรอยู่ไม่ใช่ประชาชนตาดำๆทั่วไป แต่เป็นลูกหลานของผู้มีอำนาจ แค่กระดิกขานิดเดียวก็ปิดข่าวได้หมด การที่เธอคิดจะสู้กับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเอาไม่จิ้มฟันไปงัดกับเหล็กซูหว่านค่อยๆดึงสติกลับมา ถ้าคิดจะสู้กับคนอย่างหลินเจ๋อเฉิน เธอจะใช้ไม้แ
เดิมทีซูหว่านคิดเอาไว้ว่า สามเดือนต่อจากนี้เธอก็คงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าหลินเจ๋อเฉินอยากจะนอนกับเธอ คงเหลือไว้แค่ผงกระดูกแต่ตอนนี้เขารวบรัดเวลาเหลือแค่สามวัน เธอรู้สึกว่ามันเกินกว่าจะรับได้เธออยากจะพูดอะไรต่อ แต่จู่ๆหลินเจ๋อเฉินก็ปล่อยเธอเป็นอิสระในที่ซูหว่านก็กลับมาหายใจหายคอได้คล่อง เธอจึงกลืนคำพูดเมื่อกี้ลงไปยังไงก็ตาม เอาคืนนี้ให้รอดก่อนค่อยว่ากัน"ที่รัก"หลินเจ๋อเฉินโน้มตัวลง จุ๊บแก้มของเธอหนักๆ "งั้นคืนนี้ฉันจะกลับไปก่อน อีกสามวันจะมารับ"ซูหว่านกุมแก้มข้างที่โดนเขาจุ๊บ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าหลินเจ๋อเฉิน เธอจึงกล้ำกลืนมันเอาไว้ แล้วผงกหัวอย่างเชื่อฟังเห็นเธอว่าง่ายแบบนี้ หลินเจ๋อเฉินจึงยอมปล่อยเธอ แล้วเดินไปที่ประตูตอนที่เธอมาถึงหน้าประตู จู่ๆเขาก็ชะงักฝีเท้า"จริงสิ"เขาหันกลับมา มองซูหว่านอย่างมีเลศนัย "ที่รัก เพื่อนสนิทเธอชื่อเฉียวซานซานสินะ?"สีหน้าที่เธอฝืนแสดงออกมาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่แท้หลินเจ๋อเฉินก็รู้จักซานซาน ดูท่าทางเขาจะสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียดก่อนแล้วความรู้สึกที่ถูกค้นประวัติแบบหมดจดนี้ ซูหว่
หลังจากเตรียมอุปกรณ์จนพร้อม หลินเจ๋อเฉินก็ส่งผู้ช่วยหลินหยางมารับเธอซูหว่านถือกระเป๋าขึ้นรถไมบัคที่จอดรออยู่เธอนึกว่าหลินหยางจะพาเธอไปที่บ้านหลินเจ๋อเฉิน แต่เขากลับพาเธอมาที่ห้างสไตลิสต์และช่างแต่งหน้าหลายคนล้อมรอบเธอ ทั้งม้วนผมยาวถึงเอวเป็นลอนใหญ่ ไหนจะแต่งหน้าให้อย่างประณีตชุดราตรีราคาแพงที่ราวกับถูกสั่งจัดเพื่อให้เข้ากับสัดส่วนของเธอโดยเฉพาะ ที่ถูกสวมใส่บนเรือนร่าง งดงามไร้ที่ติยิ่งคอระหงส์ของเธอถูกประดับด้วยสร้อยเพชรหรูราคาหลายร้อยล้าน ยิ่งเสริมให้เธอดูสง่างามและสูงส่งเธอมองเงาสะท้อนที่สวยงามเปล่งปลั่งในกระจก ก็รู้สึกไม่ชิน ยิ่งไปกว่านั้นกลับรู้สึกเหมือนหนิงหว่านถ้าจี้ซือหานมาเห็นเธอในสภาพนี้ ดีไม่ดีเขาจะคิดว่าเธอตั้งใจเลียนแบบหนิงหว่านก็เป็นได้เธอหัวเราะเยาะตัวเอง รอยยิ้มที่ออกมานั้นแสนขมขื่นหลังจากแปลงโฉมเรียบร้อย หลินหยางก็ส่งเธอไปที่ไนท์คลับที่นี่เป็นสถานบันเทิงแห่งใหญ่ที่สุดในเมืองเอ คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นเศรษฐีหรือผู้ทรงอำนาจเหตุผลก็เพราะที่นี่มีระบบรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด และแทบไม่มีการตรวจสอบ หรือต่อให้มีก็ไม่มีทางตรวจเจออะไรดังนั้นลูกหลานผ
"ประธานจี้ ขอแนะนำหน่อย นี่ซูหว่านเป็นผู้หญิงของผม"การแนะนำอย่างเปิดเผยของหลินเจ๋อเฉิน ทำให้ซูหว่านอึ้งไปนิดหน่อยไม่คิดว่าการถูกเปิดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่ใฝ่หามาตลอด แต่ไอ้โรคจิตนี่กลับเป็นคนมอบมันให้เธอส่วนผู้ชายคนที่เธออยากให้เขาทำ เอาแต่นั่งมุนแก้วไวน์ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ โดยไม่แลเธอแม่แต่เธอราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นณ ตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ทั้งเฉยเมย ทั้งไร้ความรู้สึกหลินเจ๋อเฉินเห็นจี้ซือหานไม่ได้รู้สึกสนใจแต่อย่างใด ก็รีบจับคางของซูหว่านขึ้น"ประธานจี้ ดูสิ เธอหน้าตาเหมือนหนิงหว่านของคุณมากใช่ไหมล่ะ?"วันนี้เขาไปคุยเรื่องโปรเจคที่หนิงกรุ๊ป แล้วเจอเข้ากับคุณหนูหนิงที่หน้าตาละม้ายคล้ายซูหว่านสุดๆไปสืบมาถึงได้รู้ว่านั่นคือผู้หญิงของจี้ซือหาน คุณหนูหนิงซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเขาเลยรีบถ่อไปที่จี้กรุ๊ป ใช้ประโยชน์จากความหน้าเหมือนระหว่างซูหว่านกับหนิงหว่านเป็นข้ออ้างในการเข้าหาจี้ซือหาน แล้วก็เชิญเขามาที่นี่ได้สำเร็จหลินเจ๋อเฉินคิดว่าจี้ซือหานอุตส่าห์ลดตัวมาที่นี่ อีกเดี๋ยวเขาจะต้องฉวยโอกาสนี้เจรจาเรื่องโปรเจคทางตะวันตกให้สำเร็จจงได้เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของ
ซูหว่านยังนึกว่าหลินเจ๋อเฉินกับจี้ซือหานสนิทกันซะอีก ที่ไหนได้เป็นเพราะจี้เหลียงชวนแนะนำมาดูท่าทางว่าที่หลินเจ๋อเฉินจัดปาร์ตี้ครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่อยากจะพาเธอมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก แต่เขาต้องการโปรเจคที่อยู่ในมือของจี้ซือหานแต่แบบนี้ก็ดี คุยโปรเจคคงต้องใช้เวลานานน่าดู เธอจะได้มีเวลาคิดหาวิธีเอาตัวรอดพอคิดแบบนั้น ซูหว่านที่นั่งตัวเกร็งมาตลอด ก็ค่อยๆผ่อนคลายลงเพิ่งจะโล่งใจได้ไม่นาน หลินเจ๋อเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ จู่ๆก็หันมาเชิดคางใส่เธอ "ดื่มซะ"ตอนนี้ซูหว่านไม่อาจแกล้งโง่ได้อีก เธอจึงต้องยกแก้วขึ้นมาแล้วกระดกรวดเดียวเธอดื่มแอลกอฮอล์น้อยมาก เพราะจี้ซือหานไม่ชอบกลิ่นเหล้า เธอจึงไม่แตะต้องมันเลยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์รุนแรงทำเธอสำลักจนน้ำตาไหลออกมาหลินเจ๋อเฉินเห็นแบบนั้น ก็รีบเข้ามากอดเธอไว้แล้วช่วยลูบหลังให้สายตาเย็นชาของจี้ซือหานจับจ้องไปยังแขนข้างที่กอดซูหว่านอยู่น้ำตาที่บดบังอยู่จนทำให้การมองเห็นพร่ามัวนั้น ซูหว่านราวกับเห็นรังสีสังหารจากในดวงตาของเขาแต่เมื่อดวงตาของเธอกลับมาโฟกัสชัดเจนอีกครั้ง เธอจึงเห็นว่าดวงตาของเขานอกจากความเย็นชาห่างเหินและ ก็ไม่มีอะไรอีกซูหว่านไ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ