ซูหว่านกดหัวใจที่เจ็บปวดจนแทบหยุดเต้น พยุงร่างให้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเธอจะลาออก ต้องลาออกให้เร็วที่สุด เวลาของเธอเหลืออีกไม่มาก เธอไม่อยากใช้เวลาในละวันไปกับการเห็นเขาทั้งสองคนพลอดรักกันเธอกลัวจะควบคุมตัวเองไม่ได้ กลัวจะเผลอตัวพุ่งเข้าไปถามจี้ซือหานว่าทำไมต้องใช้เธอเป็นตัวแทน!หลังจากเขียนจดหมายลาออกเสร็จ ก็ไปให้ผู้รับผิดชอบประจำออฟฟิศผู้บริหารอย่างสวีหานอนุมัติสวีหานไม่ได้มีภาพจำดีๆต่อเธอมากนัก เมื่อเห็นเธอจะลาออก ก็แค่พูดรั้งพอเป็นพิธี จากนั้นก็อนุมัติให้ขั้นตอนการลาออกจะมีผลในหนึ่งเดือน ซูหว่านจึงไม่สามารถจากไปได้อย่างทันที ได้แต่ใช้สิทธิ์ลาพักร้อนครึ่งเดือนเธอทำงานที่อิงฮว่ามาห้าปี วันหยุดที่สะสมมาทั้งหมดก็ได้สิบห้าวันพอดี หากจะใช้สิทธิ์ทั้งหมดก่อนลาออกก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติสวีหานเห็นเธอดูท่าทางรีบร้อนมาก ก็กรอกตาใส่อย่างทนไม่ไหว "ฉันอนุมัติวันฃาให้เธอก็ได้ แต่หมดพักร้อนแล้วต้องรีบกลับมาส่งต่องาน"ซูหว่านตอบกลับ "ค่ะ" สั้นๆ แล้วหยิบกระเป๋าเดินออกจากอิงฮว่าอินเตอร์เนชั่นแนลทันทีขณะกำลังเดินออกจากบริษัทด้วยท่าทางรีบร้อน ก็บังเอิญเจอกับหลินเจ๋อเฉิน ประธานแห่งหลินกรุ๊ป
กระทั่งจี้ซือหานเดินจากไปไกลแล้ว หลินเจ๋อเฉินถึงได้สังเกตว่านั่นคือคุณชายรองแห่งตระกูลจี้ ก็รีบปล่อยซูหว่านออก แล้ววิ่งตามไปทักทายแต่จี้ซือหานกลับขึ้นรถไปหน้าตาเฉย เสียงปิดประตูดัง "ปึ้ง" รถหรูสิบกว่าคันที่จอดอยู่ด้านนอกก็เคลื่อนตัวออกไปเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า หลินเจ๋อเฉินจึงได้แต่ย้อนกลับไปหาซูหว่าน ก่อนจะพบว่าเธอหายไปจากล็อบบี้แล้วหลินเจ๋อเฉินลูบริมฝีปากที่เพิ่งจูบซูหว่านมาหมาดๆ แววตาก็เผยความสนุกตื่นเต้นราวกับนักล่า"หลินหยาง มาสืบที่อยู่เธอมาที"หลินหยางที่เดินตามหลังก็รีบตอบรับสั้นๆ "ครับ"ซูหว่านกลับมาถึงบ้าน โยนกระเป๋าลง แล้วทิ้งร่างไร้วิญญาณนั่งตรงโซฟากระทั่งเสียงเรียกเข้าดัง เธอถึงดึงสติกลับมาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เมื่อเห็นหมายเลขที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ ซูหว่านก็ขมวดคิ้วทำไมซูชิงถึงโทรมาหาเธอ?ซูหว่านลังเลนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็สไลด์หน้าจอปลดล็อครหัส "มีอะไรหรอคะ ผู้ช่วยซู?"เสียงยินดีปรีดาของซูชิงดังมาจากปลายสาย "คุณซู เมื่อกี้ตอนที่ผมทำความสะอาดคอนโด ก็เห็นว่ามีของของคุณตกหล่นอยู่ ไม่ทราบว่าสะดวกเข้ามารับของวันไหนครับ?"ซูหว่านหลงเข้าใจไปว่าจี้ซือหานอยา
หลินเจ๋อเฉินกลับไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง เขากระชากชุดนอนส่วนบนของเธอออกตอนที่มือเย็นๆน่ารังเกียจนั่งสัมผัสที่เอวด้านหลัง ซูหว่านก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง"หลินเจ๋อเฉิน!"เสียงดังสนั่นทำให้หลินเจ๋อเฉินหยุดลูบคลำในทันใดซูหว่านอยากจะฆ่าเขาให้ตาย "หลินเจ๋อเฉิน ถ้าวันนี้คุณกล้าข่มขืนฉัน พรุ่งนี้ฉันจะไปฟ้องศาล!"หลินเจ๋อเฉินหัวเราะเยาะออกมาราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก "ขนาดตำรวจฉันยังไม่กลัว เธอคิดว่าฉันจะกลัวโดนเธอฟ้อง?"ซูหว่านกำหมดแน่น เธอพูดกัดฟัน “ฉันรู้ว่าตระกูลหลินของคุณมีอำนาจ แล้วยังไง นี่มันยุคของโซเชียลมีเดีย ถ้าคุณกล้าใช้อำนาจทำผิดให้เป็นถูก ฉันก็จะแฉคุณกับพวกสื่อ!”หลินเจ๋อเฉินเลิกคิ้วอย่างไม่สะทกสะท้าน "เอาสิ ไปแฉเลย ฉันไม่ได้ขึ้นเทรนด์ทวิตนานแล้วเหมือนกัน"คำพูดของหลินเจ๋อเฉินบ่งบอกชัดว่าเขาไม่กลัว จู่ๆซูหว่านก็รู้สึกหมดแรง คนที่เธอต่อกรอยู่ไม่ใช่ประชาชนตาดำๆทั่วไป แต่เป็นลูกหลานของผู้มีอำนาจ แค่กระดิกขานิดเดียวก็ปิดข่าวได้หมด การที่เธอคิดจะสู้กับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับเอาไม่จิ้มฟันไปงัดกับเหล็กซูหว่านค่อยๆดึงสติกลับมา ถ้าคิดจะสู้กับคนอย่างหลินเจ๋อเฉิน เธอจะใช้ไม้แ
เดิมทีซูหว่านคิดเอาไว้ว่า สามเดือนต่อจากนี้เธอก็คงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าหลินเจ๋อเฉินอยากจะนอนกับเธอ คงเหลือไว้แค่ผงกระดูกแต่ตอนนี้เขารวบรัดเวลาเหลือแค่สามวัน เธอรู้สึกว่ามันเกินกว่าจะรับได้เธออยากจะพูดอะไรต่อ แต่จู่ๆหลินเจ๋อเฉินก็ปล่อยเธอเป็นอิสระในที่ซูหว่านก็กลับมาหายใจหายคอได้คล่อง เธอจึงกลืนคำพูดเมื่อกี้ลงไปยังไงก็ตาม เอาคืนนี้ให้รอดก่อนค่อยว่ากัน"ที่รัก"หลินเจ๋อเฉินโน้มตัวลง จุ๊บแก้มของเธอหนักๆ "งั้นคืนนี้ฉันจะกลับไปก่อน อีกสามวันจะมารับ"ซูหว่านกุมแก้มข้างที่โดนเขาจุ๊บ เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุดแต่เพราะอยู่ต่อหน้าหลินเจ๋อเฉิน เธอจึงกล้ำกลืนมันเอาไว้ แล้วผงกหัวอย่างเชื่อฟังเห็นเธอว่าง่ายแบบนี้ หลินเจ๋อเฉินจึงยอมปล่อยเธอ แล้วเดินไปที่ประตูตอนที่เธอมาถึงหน้าประตู จู่ๆเขาก็ชะงักฝีเท้า"จริงสิ"เขาหันกลับมา มองซูหว่านอย่างมีเลศนัย "ที่รัก เพื่อนสนิทเธอชื่อเฉียวซานซานสินะ?"สีหน้าที่เธอฝืนแสดงออกมาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่แท้หลินเจ๋อเฉินก็รู้จักซานซาน ดูท่าทางเขาจะสืบข้อมูลของเธอมาอย่างละเอียดก่อนแล้วความรู้สึกที่ถูกค้นประวัติแบบหมดจดนี้ ซูหว่
หลังจากเตรียมอุปกรณ์จนพร้อม หลินเจ๋อเฉินก็ส่งผู้ช่วยหลินหยางมารับเธอซูหว่านถือกระเป๋าขึ้นรถไมบัคที่จอดรออยู่เธอนึกว่าหลินหยางจะพาเธอไปที่บ้านหลินเจ๋อเฉิน แต่เขากลับพาเธอมาที่ห้างสไตลิสต์และช่างแต่งหน้าหลายคนล้อมรอบเธอ ทั้งม้วนผมยาวถึงเอวเป็นลอนใหญ่ ไหนจะแต่งหน้าให้อย่างประณีตชุดราตรีราคาแพงที่ราวกับถูกสั่งจัดเพื่อให้เข้ากับสัดส่วนของเธอโดยเฉพาะ ที่ถูกสวมใส่บนเรือนร่าง งดงามไร้ที่ติยิ่งคอระหงส์ของเธอถูกประดับด้วยสร้อยเพชรหรูราคาหลายร้อยล้าน ยิ่งเสริมให้เธอดูสง่างามและสูงส่งเธอมองเงาสะท้อนที่สวยงามเปล่งปลั่งในกระจก ก็รู้สึกไม่ชิน ยิ่งไปกว่านั้นกลับรู้สึกเหมือนหนิงหว่านถ้าจี้ซือหานมาเห็นเธอในสภาพนี้ ดีไม่ดีเขาจะคิดว่าเธอตั้งใจเลียนแบบหนิงหว่านก็เป็นได้เธอหัวเราะเยาะตัวเอง รอยยิ้มที่ออกมานั้นแสนขมขื่นหลังจากแปลงโฉมเรียบร้อย หลินหยางก็ส่งเธอไปที่ไนท์คลับที่นี่เป็นสถานบันเทิงแห่งใหญ่ที่สุดในเมืองเอ คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นเศรษฐีหรือผู้ทรงอำนาจเหตุผลก็เพราะที่นี่มีระบบรักษาความเป็นส่วนตัวอย่างเคร่งครัด และแทบไม่มีการตรวจสอบ หรือต่อให้มีก็ไม่มีทางตรวจเจออะไรดังนั้นลูกหลานผ
"ประธานจี้ ขอแนะนำหน่อย นี่ซูหว่านเป็นผู้หญิงของผม"การแนะนำอย่างเปิดเผยของหลินเจ๋อเฉิน ทำให้ซูหว่านอึ้งไปนิดหน่อยไม่คิดว่าการถูกเปิดตัวซึ่งเป็นสิ่งที่ใฝ่หามาตลอด แต่ไอ้โรคจิตนี่กลับเป็นคนมอบมันให้เธอส่วนผู้ชายคนที่เธออยากให้เขาทำ เอาแต่นั่งมุนแก้วไวน์ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ โดยไม่แลเธอแม่แต่เธอราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นณ ตรงนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ทั้งเฉยเมย ทั้งไร้ความรู้สึกหลินเจ๋อเฉินเห็นจี้ซือหานไม่ได้รู้สึกสนใจแต่อย่างใด ก็รีบจับคางของซูหว่านขึ้น"ประธานจี้ ดูสิ เธอหน้าตาเหมือนหนิงหว่านของคุณมากใช่ไหมล่ะ?"วันนี้เขาไปคุยเรื่องโปรเจคที่หนิงกรุ๊ป แล้วเจอเข้ากับคุณหนูหนิงที่หน้าตาละม้ายคล้ายซูหว่านสุดๆไปสืบมาถึงได้รู้ว่านั่นคือผู้หญิงของจี้ซือหาน คุณหนูหนิงซึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเขาเลยรีบถ่อไปที่จี้กรุ๊ป ใช้ประโยชน์จากความหน้าเหมือนระหว่างซูหว่านกับหนิงหว่านเป็นข้ออ้างในการเข้าหาจี้ซือหาน แล้วก็เชิญเขามาที่นี่ได้สำเร็จหลินเจ๋อเฉินคิดว่าจี้ซือหานอุตส่าห์ลดตัวมาที่นี่ อีกเดี๋ยวเขาจะต้องฉวยโอกาสนี้เจรจาเรื่องโปรเจคทางตะวันตกให้สำเร็จจงได้เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของ
ซูหว่านยังนึกว่าหลินเจ๋อเฉินกับจี้ซือหานสนิทกันซะอีก ที่ไหนได้เป็นเพราะจี้เหลียงชวนแนะนำมาดูท่าทางว่าที่หลินเจ๋อเฉินจัดปาร์ตี้ครั้งนี้ คงไม่ใช่แค่อยากจะพาเธอมาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก แต่เขาต้องการโปรเจคที่อยู่ในมือของจี้ซือหานแต่แบบนี้ก็ดี คุยโปรเจคคงต้องใช้เวลานานน่าดู เธอจะได้มีเวลาคิดหาวิธีเอาตัวรอดพอคิดแบบนั้น ซูหว่านที่นั่งตัวเกร็งมาตลอด ก็ค่อยๆผ่อนคลายลงเพิ่งจะโล่งใจได้ไม่นาน หลินเจ๋อเฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ จู่ๆก็หันมาเชิดคางใส่เธอ "ดื่มซะ"ตอนนี้ซูหว่านไม่อาจแกล้งโง่ได้อีก เธอจึงต้องยกแก้วขึ้นมาแล้วกระดกรวดเดียวเธอดื่มแอลกอฮอล์น้อยมาก เพราะจี้ซือหานไม่ชอบกลิ่นเหล้า เธอจึงไม่แตะต้องมันเลยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์รุนแรงทำเธอสำลักจนน้ำตาไหลออกมาหลินเจ๋อเฉินเห็นแบบนั้น ก็รีบเข้ามากอดเธอไว้แล้วช่วยลูบหลังให้สายตาเย็นชาของจี้ซือหานจับจ้องไปยังแขนข้างที่กอดซูหว่านอยู่น้ำตาที่บดบังอยู่จนทำให้การมองเห็นพร่ามัวนั้น ซูหว่านราวกับเห็นรังสีสังหารจากในดวงตาของเขาแต่เมื่อดวงตาของเธอกลับมาโฟกัสชัดเจนอีกครั้ง เธอจึงเห็นว่าดวงตาของเขานอกจากความเย็นชาห่างเหินและ ก็ไม่มีอะไรอีกซูหว่านไ
"เริ่มจับสลากได้ ใครที่ได้อยู่ทีมเดียวกันต้องสลับที่นั่ง ห้ามนั่งติดกันนะ~"อันเหยียนวางเศษกระดาษลงบนโต๊ะ ใครที่จับได้ตัวเลขเหมือนกัน จะต้องอยู่ทีมเดียวกันจำนวนผู้เข้าร่วมครั้งนี้มีสี่คน คนที่จับได้เลข1-2ต้องเล่นก่อน คนที่เหลือต่อแถวรอซูหว่านดวงไม่ดีหนักมาก เธอจับได้เลข2เธอช้อนเงยหน้ามองอีกฝ่าย จี้ซือหานจับได้หมายเลข1 ซึ่งเป็นคู่แข่งของเธอพอดีส่วนอันเหยียนที่จับได้เลข1เหมือนกัน ก็เลิกคิ้วใส่ซูหว่าน ดูซิว่าอีกเดี๋ยวฉันจะเล่นงานเธอยังไง"ยังมีเลข2อีกใบนึง ใครจับได้?"จี้เหลียงชวนลังเลไปนิดหน่อย สุดท้ายก็คลี่กระดาษที่อยู่ในมือออกเขาส่งยิ้มให้ซูหว่าน "ฉันเล่นไพ่ไม่ค่อยเก่ง เธอต้องแบกแล้วล่ะ"ซูหว่านฉีกยิ้มแห้งๆ หน้าตาเหยเกราวกับจะร้องไห้ใส่เขาจริงๆแล้วเธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยมาก ในชีวิตนี้แทบจะไม่เคยแตะเกมไพ่อะไรแบบนี้เลยเมื่อกี้อันเหยียนอธิบายกติกาเร็วอย่างกับแร็พขนาดนั้น ยังไม่ทันจะได้จำวิธีเล่นด้วยซ้ำ ที่ไหนได้ขนาดสายปาร์ตี้อย่างจี้เหลียงชวนยังเล่นไม่เป็น นี่มันตั้งใจแกล้งเธอชัดๆเลยหนิ สงสัยจริงๆว่าเมื่อกี้ตอนที่จับสลาก อันเหยียนเล่นตุกติกอะไรแหงๆซูหว่านรับไพ่ที่อันเห