ซูหว่านถูกขังไว้กับเตียงมาเป็นระยะเวลานาน จึงไม่รู้สถานการณ์ของทั้งสองคน เห็นกั่วกัวรู้เรื่องขนาดนี้ ก็ปวดใจ"กั่วกัว เขา..."ซูหว่านยังพูดไม่ทนัจบ ก็เห็นกั่วกัวขัดขืนลงจากตัวของเธอ แล้วอ้าแขนสองข้างให้จิเหยียนโจวอุ้มนอกจากจิเหยียนโจวจะไม่ปฏิเสธแล้ว ยังอุ้มกั่วกัวขึ้นมาทันทีกั่วกัวซุกตัวเข้าอ้อมกอดของเขาตามแรง ยกมือเล็กป้อมๆขึ้นโบกให้ซูหว่าน"คุณน้า กลับไปอย่างหายห่วงได้เลยค่ะ"ซูหว่านมองจิเหยียนโจวอุ้มกั่วกัวขึ้นด้านบนอย่างตกตะลึงเธอยังอยากจะแย่งสิทธิ์ในการปกป้องดูแลของกั่วกัว แต่ไม่คิดว่ากั่วกัวอยากจะอยู่กับจิเหยียนโจวด้วยใจจริงเธอจ้องแผ่นหลังของเด็กน้อยและผู้ชายคนนั้น ไม่รู้ว่าทำไม แต่ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนกับ...ทันใดนั้นในใจของเธอก็ผุดความคิดนึงออกมา กั่วกัว คงไม่ใช่ลูกของจิเหยียนโจวกับพี่สาวหรอกนะ?ความคิดนี้ทำเอาซูหว่านตกใจใหญ่ รีบสะบัดศีระษะทำลายความคิดในสมองทิ้ง...ครั้งจิเหยียนโจวนับว่ารักษาคำพูด ปล่อยให้ซูหว่านจากไป ทั้งยังเตรียมเครื่องบินส่วนตัวไว้สำหรับเธอโดยเฉพาะหลังจากที่ซูหว่านโบกมือลากั่วกัวอย่างทำใจลำบากเสร็จ ก็หมุนตัวขึ้นไปนั่งในรถ ออกจากวิล
ร่างเล็กบาง ทอดมองเขาท่ามกลางลมและหิมะ ในดวงตาที่แผงไว้ด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น น้ำตาไหลรินดั่งน้ำพุจี้ซือหานยืนนิ่งอยู่กับที่ จ้องเธออยู่ชั่วครู่ ก็ยกเท้า ค่อยๆเดินไปยังทิศทางที่เธออยู่ช้าๆ...ซูหว่านเห็นเขาเดินออกจากบริษัท อีกทั้งยังเดินมายังที่ตัวเองอยู่ ก็รีบเดินขึ้นหน้าไปหาทั้งน้ำตา "ซือหาน ฉัน..."ทันทีที่เธอเรียกชื่อของเขาออกไป ก็เห็นเขาเดินผ่านไหล่ของเธอไปด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำซูหว่านตกตะลึง น้ำตาที่คลอเบ้า ใช้ความอดทนสุดชีวิตกลั้นไม่ให้ไหล แต่เพราะการกระทำนั้นของเขา ทันใดนั้นมันก็ไหลออกมาเธอค่อยๆหันกลับไป มองไปยังชายหนุ่มที่เดินลงบันได โดยที่ไม่หันศีรษะกลับมาไปพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ดอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาแผ่นหลังของเขาที่สูงใหญ่และแข็งแรง ทว่ากลับโดดเดี่ยวและเฉยชา ราวกับอยู่กันคนละโลก ทำให้เธอไม่อาจสัมผัส หรือเข้าใกล้ได้...ซูหว่านจ้องแผ่นหลังนั้น มึนงงจนนึกว่าตัวเองถูกขังอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เป็นฝันร้ายที่เธอเคยฝันถึงมาก่อนจริงๆเธอตายไปตั้งนานแล้วมั้ง เพราะเธอไม่อาจยอมรับได้ว่าจี้ซือหานไม่รักเธอ ดังนั้นแล้วเมื่อไม่สามารถฟื้นกลับมา จึงสา
ซูหว่านรอคำตอบจากจี้ซือหาน รออยู่นานมาก แต่เขาก็ไม่ได้ตอบ สุดท้ายเป็นเธอที่ยกมุมปากขึ้น แล้วยิ้มแข็งทื่อให้เขา..."ฉันเข้าใจแล้ว คุณ...ไม่ต้องการฉันแล้ว..."เธอยกมือขึ้นปัดน้ำตาที่หางตาออก เดินถอยหลังก้าวนึง น้ำตาที่เอ่อล้น เต็มไปด้วยความผิดหวัง...ทว่าเธอไม่ได้เดินจากไป แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเดียวดาย มองชายหนุ่มตรงหน้าที่เงียบไม่พูด แล้วเอ่ยปากเบาๆ"ให้เหตุผลสักข้อกับฉันได้ไหม?"ชายหนุ่มที่คลุมเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ สวมแว่นกรอบสีทอง ราวกับเทพบุตรที่ไกลเกินเอื้อมซูหว่านรู้ระยะห่างของตัวเองกับเขาดี มันเหมือนฟ้ากับผืนดิน ไม่มีวินาทีที่จะได้มาบรรจบกันแต่เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสพื้นดินมาแล้ว เธอก็จะกำความหวังอันเจือจางนี้ไว้ให้แน่น เพื่อเอาคำตอบที่อาจจะพรากชีวิตของเธอไปเลยก็ได้ถึงกระนั้น ชายหนุ่มกลับทำลายความหวังของเธอจนย่อยยับ เขาเอาแต่เงียบ และไม่ได้เงยหน้ามองเธอ ราวกับกำลังใช้ความเย็นยะเยือกบังคับให้เธอจากไปหลังจากที่ซูหว่านสำรวจความคิดของเขาออกแล้ว ก็ยกมือขวาขึ้น ลูบรอยแผลเป็นที่ฆ่าตัวตายเพื่อเขาบนมือซ้าย...จนถึงตอนนี้ เธอถึงได้รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าความเจ็บปวดที่แท้จริงจากกา
ชายหนุ่มบนรถโคนิเซ็กจ้องร่างเล็กนั่งยองๆกับพื้นแล้วค่อยๆหดตัวลง ผ่านกระจกมองหลังหลังนิ่ง...กระทั่งร่างนั้นกลายเป็นแค่จุดสีดำ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็คลายกำปั้นที่มือออก แล้วตะโกนออกมา..."จอดรถ..."คนขับรีบเหยียบเบรกกระทันหัน รถหรูที่ตามหลังมาสิบกว่าคัน ก็รีบจอดลงตามนิ้วมือที่สั่นเทาของจี้ซือหาน หยิบเสื้อโค้ทตัวใหญ่สีดำ ผลักประตูรถออก ก้าวขายาวเดินไปหาซูหว่านเขาเหยียบลงบนกองหิมะนุ่ม เมื่อมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ได้ยินเสียงหัวเราะไม่ค่อยปกติที่เธอเปล่งออกมา จู่ๆหัวใจก็กระตุก"หว่านหว่าน..."เขาเรียกชื่อของเธอ คนบนพื้น สะดุ้งออกมาเบาๆ ทว่าไม่กล้าเงยหน้าขึ้นจี้ซือหานจ้องร่างกายที่บางประหนึ่งกระดาษแผ่นนึง สายตาเรียบเฉย จู่ๆก็แดงระเรื่อขึ้นเขาคุกเข่าข้างนึงลงตรงหน้าเธอ จากนั้นกางเสื้อโค้ทในมือ แล้วคลุมลงบนร่างกายอ่อนแอของเธอ"อากาศหนาวขนาดนี้ ทำไมเธอถึงใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบนี้"เสียงแหบพร่าลอยมาจากเหนือศีรษะ ทำให้ซูหว่านเข้าสู่สภาวะมึนงงอีกครั้งกระทั่งตอนที่เสื้อโค้ทตัวใหญ่คละคลุ้งด้วยกลิ่นซิก้าร์ นำความอบอุ่นมาให้เธอ เธอถึงได้ดึงสติกลับมาเธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น มองไปยังชายหนุ่มที่ค
ขณะที่จี้ซือหานกำลังอยากจะตอบ จู่ๆเธอก็คว้าแขนเสื้อเขามาจับเอาไว้ แล้วอธิบายอย่างร้อนใจ"ฉันเปล่า ฉันไม่ได้คบกับเขา!""เจาป้อนยาสลบฉัน แล้วพาฉันไปอังกฤษ!""เขาหลอกฉัน โกหกว่าคุณตายไปแล้ว ฉันนึกว่าคุณตายไปแล้วจริงๆ ก็เลยอยากกลับมาเจอหน้าคุณอีกครั้ง!""แต่เขากลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ แล้วอยากให้ฉันอยู่เป็นตัวแทนพี่สาว ฉันไม่ยอม อยากจะไปตาย แต่เขาโกหกว่าฉันท้อง!"ซูหว่านพูดมาจนถึงตรงนี้ ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง มองจี้ซือหานกระชากลำคอตะโกนออกมาราวกับใจจะขาด"ฉันนึกว่าฉันมีเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณแล้ว ก็อยากจะคลอดเด็กออกมา เลยรับปากเขาไป!""แต่พอผ่านไปหนึ่งเดือน ฉันก็พบว่าตัวเองไม่ได้ท้อง!""เขาหลอกฉัน! หลอกฉันมาตลอด!!!"หลังจากที่ซูหว่านคำรามเสร็จ ก็ใจเย็นขึ้น จ้องดวงตาของจี้ซือหานที่ตกตะลึง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ "คุณรู้ไหมว่าฉันกลับมาได้ยังไง?"จี้ซือหานมองซูหว่านที่สภาพไม่ค่อยปกติตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "กลับ...กลับมาได้ยังไง?"ร่างกายของเขาสั่นไปหมด แต่ก็กลัวว่าทุกอากัปกิริยาของตัวเองจะไปกระตุ้นเธอเข้า จึงได้แต่กดความหวาดกลัวที่ไร้ขีดจำกัดนั้นไว้ แล้
เธอบอกว่า เธอรักเขา รักมาแปดปีเธอบอกว่า เพื่อได้เจอเขา เธอกรีดข้อมือฆ่าตัวตายเธอบอกว่า ต่อไปนี้อย่าทำแบบนั้นกับเธออีก เพราะเธอจะเป็นบ้าไปจริงๆที่แท้เธอก็รักเขา รักจนเข้ากระดูกดำ...หัวใจของจี้ซือหานที่เจ็บปวดเว้งว้างมาสามเดือน ก็ได้รับการต่อลมหายใจ นับตั้งแต่วินาทีที่เธอเป็นฝ่ายจูบเขาเขายกนิ้วเรียวยาวขึ้น ลูบไล้คิ้วและดวงตาของเธอด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวล และเต็มไปด้วยความรักใคร่"หว่านหว่าน ในที่สุดฉันก็รอจนถึงวันที่เธอพูดว่ารักฉัน..."ความอบอุ่นที่ส่งตรงมาจากปลายนิ้วของเขา เป็นความลึกซึ้งดั่งฝัน เป็นจิตใจเดียวกัน เป็นความอิ่มเอมจากการตอบสนองที่รอมาหลายปีสิบปีของเขา แปดปีของเธอ ทั้งเคยอยู่ด้วยกัน ทั้งเคยพรากจากกัน โชคดีที่พวกเขาต่างก็รักกันมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นก็คงคลาดกันไปนานแล้วเขากุมใบหน้าของซูหว่านอย่างถนุถนอมยิ่งกว่าสิ่งใด จ้องดวงตาคู่นั้นที่นับจากนี้เป็นต้นไปจะสะท้อนแต่ใบหน้าของเขาเท่านั้น แล้วเปิดปากขึ้นช้าๆ"เราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว ตกลงไหม?"ดวงตาของซูหว่านคลอไปด้วยน้ำตา พนักหน้าให้เขานิดหน่อย"ตกลง..."คำตอบของเธอ เ็นเหมือนคำสัญญาต่อเขา จะไม่แยกจากกันอีก และไ
หลังจากเสร็จสิ้น ซูหว่านซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา ยกมือขึ้นลูบใบหน้างดงามไร้ที่ติของเขา"เมื่อกี้ทำไมคุณถึงได้เย็นชากับฉันขนาดนั้น?"เมื่อกี้นี้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วชัดๆ ถึงได้ทิ้งเธอไว้ท่ากลางกองหิมะหลังจากนั้นก็ย้อนกลับมาหาเธอ เกรงว่าก็แค่อยากจะสวมเสื้อโค้ทให้เธอก็เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอไปแต่อย่างใดในใจของซูหว่านรู้ดีว่าการกลับมาพบกันครั้งนี้ จี้ซือหานไม่ได้รุกเร้าเหมือนอย่างเมื่อก่อนเป็นเธอที่กลัวว่าจะเสียเขาไป ถึงได้ทั้งอธิบาย ทั้งสารภาพรัก ทั้งรุกเร้าอย่างกับคนบ้าถ้าไม่ใช่เพราะเธอกระตือรือร้นที่จะจับเขาเอาไว้ จับความหวังเส้นสุดท้ายนั้นไว้ เดาว่าจี้ซือหานก็คงไม่แตะต้องเธอหรอก...จริงๆเธอสัมผัสได้ว่าเขายังรักเธอ แล้วก็ยังเชื่อใจเธอ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้เขาเฉยชากับเธอได้แบบนั้น?เป็นเพราะเขามาหาเธอ เห็นท่าทางของเธอสวมบทเป็นพี่สาวหลังจากที่ตาบอด แล้วกุ๊กกิ๊กกับจิเหยียนโจว ถึงได้เข้าใจผิดว่าเธอไม่ต้องการเขา เพราะงั้นหลังจากเห็นเธอแล้ว เลยเลือกที่จะปฏิบัติอย่างเย็นชางั้นหรอ?เมื่อเห็นความสงสัยในแววตาของซูหว่าน จี้ซือหานก็ทอดสายตาลงต่ำช้าๆ ล
จี้ซือหานก้มหน้าลงจูบริฝีปากแดงของเธอเบาๆ "หว่านหว่าน ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น แค่อยู่ข้างๆฉันก็พอ"ซูหว่านที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา ค้นหาความจริงจากในดวงตาของเขาหลายครั้ง แต่ก็มองเห็นแค่ความรักความห่วงใยเท่านั้น จึงเลือกที่จะเชื่อเขาเธอโอบเอวของเขาไว้ แล้วพูดกับเขาว่า "ต่อไปนี้ตรวจสุขภาพทุกครึ่งปี แล้วก็ต้องให้ฉันตามเข้าไปในห้อง MRI ด้วย"จี้ซือหานได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบางๆก็ผุดขึ้นที่มุมปาก "คุณนายจี้ ยังไม่ทันจะแต่งงาน ก็เริ่มคุมฉันแล้วหรอ?"ซูหว่านยื่นหน้าออกมาอย่างอ่อนโยน แล้วเลิกคิ้วถามเขา "คุณจี้ ให้ฉันคุมคุณไม่ได้หรอ?"เขายกนิ้วมือขึ้นเขี่ยปลายจมูกของเธออย่างเอ็นดู "ได้อยู่แล้ว ยอมให้เธอคุมทั้งชีวิตเลย"ซูหว่านถึงได้สบายใจ แล้วมุดศีรษะเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง...จี้ซือหานยังมีชีวิตอยู่ เนื้องอกก็หายไปแล้ว หลังจากนี้พวกเขาน่าจะมีความสุขกันตลอดไปแล้วล่ะมั้ง?เธอถามจี้ซือหานด้วยเสียงนุ่ม "ฉันนั่งเครื่องบินมานานมาก เหนื่อยสุดๆ ขอนอนกอดคุณสักพักได้ไหม?"ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ปล่อยมือที่โอบเอวของเธอออก หันกลับมาจับปลายคางของเธอเชยขึ้น "ซูหว่าน ฉันเป็นของเธอ เธออยากจ