เขาออกแรงกอดเธอแน่น อุ้มเธอเข้าห้องนอนตัวเอง จากนั้นค่อยๆโน้มตัวลงจุมพิตหน้าผากของเธอ...ซูหว่านตกใจตื่นเพราะจุมพิตของเขา นึกว่าคนที่แตะต้องตัวเองคือจิเหยียนโจว ก็ตกใจจนลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคนที่สะท้อนในดวงตาไม่ใช่จิเหยียนโจว แต่เป็นจี้ซือหาน หัวใจที่บีบตัวแน่นก็ผ่อนคลายลง"หว่านหว่าน ฉันทำเธอตกใจหรอ?"ซูหว่านส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นตบที่ข้างๆตัวเอง แล้วพูดเสียงงัวเงีย "นอนเป็นเพื่อนฉันสักแป๊บ?"จี้ซือหานอยากจะไปสั่งให้อาเจ๋อเตรียมเคลื่อนไหว แต่เห็นเธออยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อน จึงซ่อนความเดือดดาลนั้นไว้เขายืดตัวขึ้นแล้วนอนลงข้างๆเธอ จากนั้นยื่นแขนยาวออกมากอดซูหว่านไว้ในอ้อมอก ลูบหลังของเธอ กล่อมให้เธอนอนเบาๆซูหว่านเข้าใกล้เขา ดมกลิ่นซิการ์อ่อนๆบนร่างกายของเขา ในใจก็รู้สึกสบายใจ จึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วชายหนุ่มที่นอนไม่ค่อยหลับมาเกือบสามเดือน ก็รู้สึกสบายใจเพราะมีเธออยู่เช่นเดียวกัน แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่กล้าหลับ ได้แต่จ้องมองเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอ นำพาซึ่งความเหน็ดเหนื่อย หรือเพราะอะไรกันแน่หลังจากที่จี้ซือหานฝืนมาสักพัก ก็ค่อยๆผล็อยหลับไปโดยไม่ร
จิเหยียนโจวจะต้องเคยแอบอ้างชื่อของเธอ เพื่อใช้ทำร้ายจี้ซือหานแน่เขาถึงได้เย็นชากับเธอแบบนั้น และเก็บฝังจนจนเอาไปฝันถึงหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ ก็ส่ายแขนของเขาอย่างร้อนใจ "คุณบอกฉันมา เขาทำอะไรกับคุณกันแน่"จี้ซือหานเห็นว่าซูหว่านร้อนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ก็ไม่ได้ตอบ แต่แค่พูดเสียงเบาว่า "หว่านหว่าน เธออยากให้จิเหยียนโจวตายยังไง?"น้ำเสียงแหบพร่าของเขาแฝงไว้ด้วยความเยือกเย็น เต็มไปด้วยความกระหายเลือด ราวกับอยากจะสังหารจิเหยียนโจวในทันทีจิตใจของซูหว่านกระตุกเล็กน้อย ช้อนสายตามองดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกคู่นั้น "คุณบอกฉันมาก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"คิ้วของชายหนุ่มที่ขมวดเข้าหากันแน่ ค่อยๆผ่อนคลายลง ปกปิดความทุกข์ทรมานและความสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งในดวงตาภาพที่บาดใจเหล่านั้น ราวกับเถาวัลย์ที่มีคมหนาม แผ่กระจายออกจากสมอง รัดเขาเอาไว้แน่นจนอยากจะหลุดออกเขานิ่งอยู่ที่เดิม เงียบไปหลายวินาที จากนั้นยกมือขึ้นลูบดวงตาของซูหว่าน แล้วพูดเสียงเบา "หว่านหว่าน สามเดือนก่อน ฉันเคยไปหาเธอ ตอนนั้นเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ทำให้ฉันเข้าใจเธอผิด..."ทั้งภาพจากกล้องวงจนปิด ทั้งเครื่อ
น่าเสียดาย การประนีประนอมของเขา นอกจากจะไม่ทำให้หญิงสาวที่ยืนหันหลังให้เขาหวั่นไหวได้แล้ว ยังถูกเธอหัวเราะเยาะอย่างไร้หัวใจอีกด้วย"คุณนี่มันต่ำตมซะจริง ฉันนอนกับคนอื่นถึงขนาดนั้น คุณยังต้องการฉันอยู่อีก แม้แต่ศักดิ์ศรีคุณก็ไม่เอาแล้วใช่ไหม?!"คำพูดที่โหดร้ายนั่น ทำให้เขาตัวแข็งอยู่กับที่ ร่างกายเหมือนถูกเจาะจนพรุน ใบหน้าซีดจนไม่เห็นสีเลือดเขาจ้องเงานั่น จ้องอยู่สักพัก จู่ๆก็กำหมัดแน่นแล้วคำรามออกมาราวกับคนบ้า"ใช่ ฉันมันต่ำตม ก็เพราะฉันต่ำตม ฉันถึงได้ลืมเธอไม่ลงสักทีไง!"เขาคำรามเสร็จ ก็ช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ แล้วอ้อนวอนเธอด้วยความเนื้อน้อยต่ำใจ"ซูหว่าน เธออย่าทำร้ายฉันแบบนี้ได้ไหม...""ไม่ได้!"เงาที่ไร้ซึ่งความปราณีนั้น ไม่แม้แต่จะหันมา "บอกคุณตามตรงก็แล้วกัน ฉันกลับมาจากอังกฤษ ก็เพื่อแก้แค้นคุณ เป้าหมายของฉันง่ายมาก นั้นก็คือทำให้คุณรักฉันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วค่อยๆใช้เท้าเขี่ยคุณออกไป""วันที่ฉันถูกลักพาตัว เห็นคุณช่วยฉันจนไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของตัวเอง ฉันก็รู้แล้วว่าฉันทำสำเร็จ เพราะงั้นฉันถึงได้กลับอังกฤษพร้อมกับพี่เขย แต่ไม่คิดว่าหลังจากที่
ซูหว่านสบดวงตาที่มีแค่เงาของเธอตลอดไปคู่นั้นด้วยดวงตาแดงก่ำเคล้าไปด้วยน้ำตา "ซือหาน ผู้ชายที่ฉันเคยมีมา ก็มีแค่คุณ คนแรกคือคุณ และหลังจากก็จะมีแค่คุณ..."เธอยกนิ้วขึ้น ลูบคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นของเขาทีละนิดด้วยความรักสุดซึ้ง แล้วพูดเสียงอ่อนโยน "เรื่องพวกนั้นที่คุณพบเจอมา ฉันจะหาวิธีเดินออกมาพร้อมกับคุณเอง..."น้ำเสียงอ่อนโยนของเธอ มีมนต์สะกดที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจคนได้ ทำให้หัวใจที่ว้าวุ่น หวาดกลัว และยากที่จะปล่อยวางของจี้ซือหาน ค่อยๆผ่อนคลายลงเขากอดซูหว่าน ใช้แรงทั้งหมดที่มี โอบร่างเล็กๆของเธอเอามาในอ้อมกอดของตัวเอง "หว่านหว่าน ต่อจากนี้ไปอย่าไปจากฉันอีกนะ"ซูหว่านยื่นมือสองข้างออกมา แล้วกอดเขาแน่นเช่นเดียวกัน "คุณก็เหมือนกัน ห้ามไปจากฉันนะ"พวกเขาสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป งั้นก็ต้องตลอดไป ห้ามจากกันไปไหน นอกจาก...ความตายจะมาพรากไปจากกันหลังจากที่จี้ซือหานปล่อยวางฝันร้ายเหล่านั้น ก็ก้มหน้าถามเธอ "หิวไหม?"ซูหว่านส่ายหน้า เขาก็ถามอีก "ยังง่วงอยู่ไหม?"เธอส่ายหน้าอีกครั้ง มุมปากของชายหนุ่มจึงยกยิ้มขึ้น "งั้นไปอาบน้ำกับฉัน"เขาพูดจบ ก็ช้อนขาทั้งสองข้างของเธอขึ้น ให้เธอ
ซูหว่านที่ถูกชายหนุ่มกดเอาไว้กับกำแพง หน้าแดงฉ่า แง้มริมฝีปากปากออกน้อยๆ จูบริมฝีปากบางที่เม้มเข้าหากันเธอจูบเข้ากับกลีบปากครึ่งบน ไหลไปตามกระแสน้ำ มาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ และสัมผัสนุ่มนวลของเขา...เธอรุกเพียงหนึ่งก้าว เขาก็ไม่อาจหยุดยั้งได้อีกต่อไป ร่างกายสูงส่งนั้น เมื่อเธอสัมผัสถูกเขา เลือดก็พุ่งพล่านขึ้นมาจี้ซือหานจิกเอวของเธออย่างเสียการควบคุม ดึงให้เธอแนบชิดกับร่างกายของตัวเอง จากนั้นเป็นฝ่ายโจมตีใส่เขาเงยหน้าจูบเธอ จูบที่ดูดดื่มเร่าร้อน ไม่ให้โอกาสได้หายใจแม้แต่นิดเดียว หรือก็คือกำลังบังคับชิงเอาลมหายใจของเธอไป...จูบในแต่ละครั้ง แทบอยากจะขยี้เธอจนทนไม่ไหว บังคับกลืนกินเธอเข้าไปในท้อง จนหายใจไม่ออก แต่ก็นำพามาซึ่งความเร้าใจที่แทบจะร้องขอชีวิตซูหว่านกระพริบตาเบาๆ อยากลืมตัวขึ้นมองจี้ซือหานที่กำลังอยู่ในท่วงท่าแห่งความเร่าร้อน ทว่ากลับถูกเขายกมือขึ้นปิดดวงตาเอาไว้ตามมาด้วยลมหายใจอันร้อนแรงที่ลอดผ่านใบหู รวมถึงน้ำเสียงแหบพร่ากระเส่า "หว่านหว่าน เวลาแบบนี้ต้องตั้งใจ"จริงๆแล้วเธอสามารถทนรับกับความบ้าคลั่งไม่อายของจี้ซือหานได้ แต่บางอย่างที่เธอทนไม่ไหวก็คือเวลาที่เขากระซ
วันต่อมาในช่วงบ่าย ซูหว่านตื่นจากความฝัน สิ่งแรกที่เห็นก็คือ ใบหน้าด้านข้างที่งดงามไร้ที่ติของจี้ซือหานซูหว่านชะโงกหน้าขึ้นจากอ้อมกอดของเขา แล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้น เท้าไว้ใต้แก้มของตัวเอง แล้วสำรวจจี้ซือหานจากระยะใกล้...เมื่อก่อนตอนที่เธอทำงานที่กลุ่มบริษัทหนิง พวกเพื่อนร่วมงานโจวโจว เคยจัดอันดับตระกูลไฮโซ แล้วให้จี้ซือหานเป็นอันดับหนึ่งโจวโจวบอกว่าคนที่สามารถเข้ารอบการจัดอันดับนี้ได้ นอกจากจะรวยแล้ว ต้องหน้าตาดีด้วย ถ้ามองจากทั่วประเทศแล้ว อันดับหนึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจี้ซือหานเธอในเวลานั้น ไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้นัก แต่ตอนนี้พอได้สำรวจดูแล้ว คุณจี้ของเธอนับว่าทำถึงจริงๆเธอคิดมาถึงตรงนี้ ก็ยกยิ้มมุมปากน้อยๆ แล้วอยากจะจุ๊บชายหนุ่มที่เป็นอันดับหนึ่งในบุคคลชนชั้นสูงอย่างใจกล้าเธอกำลังเขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม ดวงตาทั้งสองข้างที่หลับสนิทของชายหนุ่ม ก็ค่อยๆเปิดขึ้น "คุณนายจี้ เธอคิดจะทำอะไรกับฉัน?"ดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับนั่น กำลังมองเธอคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ราวกับอ่านความคิดของเธอออกซูหว่านที่คิดจะลักหลับ ถูกจับได้คาหนังคาเขาก็อึกอักเล็กน้อย แต่ยังแสร้งทำเหมือนกับไม
จี้ซือหานอุ้มซูหว่าน ลงนั่งที่โต๊ะอาหารได้ไม่ทันไร ด้านนอกคฤหาสน์ก็มีโรลลอยส์คันนึงขับเข้ามา...จี้เหลียงชวนลงมาจากบนรถ คลุมเสื้อโค้ทสีกรมท่า สาวขายาวๆเดินเข้าวิลล่ามาอย่างรวดเร็วเขาถอดเสื้อโค้ทตัวใหญ่ส่งให้คนรับใช้ แล้วจึงยกมือขึ้นสางเกล็ดหิมะบนเส้นผม จากนั้นถามคนรับใช้ "พี่รองของฉันล่ะ?"คนรับใช้ชี้ไปยังทิศทางห้องอาหารอย่างระมัดระวัง "คุณหนูสองกำลังรับประทานอาหารอยู่ค่ะ"จี้เหลียงชวนมองตามสายตาของคนรับใช้ไปยังห้องอาหาร เมื่อเห็นหญิงสาวที่ถูกพี่รองกอดอยู่ในอ้อมกอด สีหน้าก็ตึงขึ้นทันทีเขารวบรัดฝีเท้า ก้าวฉับๆมาตรงหน้าทั้งสองคน ชี้หน้าซูหว่านแล้วพูดอย่างเดือดดาล "ทำไมเธอยังมีหน้ามาหาพี่รองยู่อีก?"ไม่รอให้ซูหว่านเอ่ยปาก ชายหนุ่มที่กอดเธออยู่นั้น จู่ๆก็ช้อนสายตาเย็นยะเยือกกวาดมองจี้เหลียงชวนอย่างเย็นชา "แกอยากโดนตัดนิ้วทิ้งไหม?"จี้เหลียงชวนถึงได้สำรวจว่าตัวเองทำเกินกว่าเหตุ รีบดึงนิ้วเก็บ ปะทะกับสายตาเย็นชาของพี่รอง แล้วถามอย่างไม่เข้าใจ "พี่รอง ก่อนหน้านี้เธอเคยทำร้ายพี่ ทำไมยังอยู่กับเธออีก?"สามเดือนก่อน พี่รองถูกหามกลับมา สลบไปหลายวัน หลังจากฟื้นขึ้นมาก็เสียใจจนกระอักเลือด
จี้เหลียงชวนเก็บความบึ้งตึงไว้ในใจ อึดอัดร้อนรุ่มจนพูดอะไรไม่ออกจี้ซือหานช้อนดวงตาที่เย็นสะท้านราวหิมะ กวาดมองเขาอีกรอบนึง "ยังไม่ไป?"จี้เหลียงชวนโมโหจนแย่งเสื้อโค้ทมาจากมือคนรับใช้ สะบัดลงบนบ่า หมุนตัวเดินจากไปซูหว่านรีบลงมาจากบนตัวของจี้ซือหาน เอ่ยเรียกจี้เหลียงชวนเอาไว้ "รอเดี๋ยวก่อน นายน้อยที่เจ็ดจี้"จี้เหลียงชวนที่กำลังหัวร้อน จะสนใจซูหว่านซะที่ไหน ทว่าเมื่อนึกถึงคำเตือนของพี่รองขึ้นมาได้ สุดท้ายจึงหยุดฝีเท้าลงอย่างว่าง่ายไม่มีทางเลือก เลือดมันข้นกว่าน้ำ ตั้งแต่เด็กจนโตมันติดมาจนเป็นนิสัย คำพูดของพี่รอง ใครจะกล้าขัด?ซูหว่านเดินไปตรงหน้าจี้เหลียงชวน มองเขา แล้วอธิบายอย่างจริงจัง "นายน้อยที่เจ็ดจี้ คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้หักหลังพี่รองของคุณ แต่มีคนตั้งใจส่งคนไปปลอมตัวเป็นฉัน เพื่อไม่ให้พี่รองของคุณหาฉันเจอ ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหก..."จี้เหลียงชวนได้ยินดังนั้น ก็มองซูหว่านที่ร่างกายซูบผอมนิดหน่อย "งั้นครึ่งปีมานี้เธอไปอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาหาพี่รอง?"ซูหว่านทอดสายตาลงต่ำ มองไปยังข้อมือซ้ายของตัวเอง แล้วตอบตามจริง "ฉันถูกจิเหยียนโจวกักขังเอาไว้ หนีออกมาไม่ได้"จี้เหล