ขณะที่จี้ซือหานกำลังอยากจะตอบ จู่ๆเธอก็คว้าแขนเสื้อเขามาจับเอาไว้ แล้วอธิบายอย่างร้อนใจ"ฉันเปล่า ฉันไม่ได้คบกับเขา!""เจาป้อนยาสลบฉัน แล้วพาฉันไปอังกฤษ!""เขาหลอกฉัน โกหกว่าคุณตายไปแล้ว ฉันนึกว่าคุณตายไปแล้วจริงๆ ก็เลยอยากกลับมาเจอหน้าคุณอีกครั้ง!""แต่เขากลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ แล้วอยากให้ฉันอยู่เป็นตัวแทนพี่สาว ฉันไม่ยอม อยากจะไปตาย แต่เขาโกหกว่าฉันท้อง!"ซูหว่านพูดมาจนถึงตรงนี้ ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเอง มองจี้ซือหานกระชากลำคอตะโกนออกมาราวกับใจจะขาด"ฉันนึกว่าฉันมีเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณแล้ว ก็อยากจะคลอดเด็กออกมา เลยรับปากเขาไป!""แต่พอผ่านไปหนึ่งเดือน ฉันก็พบว่าตัวเองไม่ได้ท้อง!""เขาหลอกฉัน! หลอกฉันมาตลอด!!!"หลังจากที่ซูหว่านคำรามเสร็จ ก็ใจเย็นขึ้น จ้องดวงตาของจี้ซือหานที่ตกตะลึง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ "คุณรู้ไหมว่าฉันกลับมาได้ยังไง?"จี้ซือหานมองซูหว่านที่สภาพไม่ค่อยปกติตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "กลับ...กลับมาได้ยังไง?"ร่างกายของเขาสั่นไปหมด แต่ก็กลัวว่าทุกอากัปกิริยาของตัวเองจะไปกระตุ้นเธอเข้า จึงได้แต่กดความหวาดกลัวที่ไร้ขีดจำกัดนั้นไว้ แล้
เธอบอกว่า เธอรักเขา รักมาแปดปีเธอบอกว่า เพื่อได้เจอเขา เธอกรีดข้อมือฆ่าตัวตายเธอบอกว่า ต่อไปนี้อย่าทำแบบนั้นกับเธออีก เพราะเธอจะเป็นบ้าไปจริงๆที่แท้เธอก็รักเขา รักจนเข้ากระดูกดำ...หัวใจของจี้ซือหานที่เจ็บปวดเว้งว้างมาสามเดือน ก็ได้รับการต่อลมหายใจ นับตั้งแต่วินาทีที่เธอเป็นฝ่ายจูบเขาเขายกนิ้วเรียวยาวขึ้น ลูบไล้คิ้วและดวงตาของเธอด้วยความอ่อนโยนนุ่มนวล และเต็มไปด้วยความรักใคร่"หว่านหว่าน ในที่สุดฉันก็รอจนถึงวันที่เธอพูดว่ารักฉัน..."ความอบอุ่นที่ส่งตรงมาจากปลายนิ้วของเขา เป็นความลึกซึ้งดั่งฝัน เป็นจิตใจเดียวกัน เป็นความอิ่มเอมจากการตอบสนองที่รอมาหลายปีสิบปีของเขา แปดปีของเธอ ทั้งเคยอยู่ด้วยกัน ทั้งเคยพรากจากกัน โชคดีที่พวกเขาต่างก็รักกันมาโดยตลอด ไม่อย่างนั้นก็คงคลาดกันไปนานแล้วเขากุมใบหน้าของซูหว่านอย่างถนุถนอมยิ่งกว่าสิ่งใด จ้องดวงตาคู่นั้นที่นับจากนี้เป็นต้นไปจะสะท้อนแต่ใบหน้าของเขาเท่านั้น แล้วเปิดปากขึ้นช้าๆ"เราจะไม่แยกจากกันอีกแล้ว ตกลงไหม?"ดวงตาของซูหว่านคลอไปด้วยน้ำตา พนักหน้าให้เขานิดหน่อย"ตกลง..."คำตอบของเธอ เ็นเหมือนคำสัญญาต่อเขา จะไม่แยกจากกันอีก และไ
หลังจากเสร็จสิ้น ซูหว่านซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา ยกมือขึ้นลูบใบหน้างดงามไร้ที่ติของเขา"เมื่อกี้ทำไมคุณถึงได้เย็นชากับฉันขนาดนั้น?"เมื่อกี้นี้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเธอแล้วชัดๆ ถึงได้ทิ้งเธอไว้ท่ากลางกองหิมะหลังจากนั้นก็ย้อนกลับมาหาเธอ เกรงว่าก็แค่อยากจะสวมเสื้อโค้ทให้เธอก็เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอไปแต่อย่างใดในใจของซูหว่านรู้ดีว่าการกลับมาพบกันครั้งนี้ จี้ซือหานไม่ได้รุกเร้าเหมือนอย่างเมื่อก่อนเป็นเธอที่กลัวว่าจะเสียเขาไป ถึงได้ทั้งอธิบาย ทั้งสารภาพรัก ทั้งรุกเร้าอย่างกับคนบ้าถ้าไม่ใช่เพราะเธอกระตือรือร้นที่จะจับเขาเอาไว้ จับความหวังเส้นสุดท้ายนั้นไว้ เดาว่าจี้ซือหานก็คงไม่แตะต้องเธอหรอก...จริงๆเธอสัมผัสได้ว่าเขายังรักเธอ แล้วก็ยังเชื่อใจเธอ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้เขาเฉยชากับเธอได้แบบนั้น?เป็นเพราะเขามาหาเธอ เห็นท่าทางของเธอสวมบทเป็นพี่สาวหลังจากที่ตาบอด แล้วกุ๊กกิ๊กกับจิเหยียนโจว ถึงได้เข้าใจผิดว่าเธอไม่ต้องการเขา เพราะงั้นหลังจากเห็นเธอแล้ว เลยเลือกที่จะปฏิบัติอย่างเย็นชางั้นหรอ?เมื่อเห็นความสงสัยในแววตาของซูหว่าน จี้ซือหานก็ทอดสายตาลงต่ำช้าๆ ล
จี้ซือหานก้มหน้าลงจูบริฝีปากแดงของเธอเบาๆ "หว่านหว่าน ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น แค่อยู่ข้างๆฉันก็พอ"ซูหว่านที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา ค้นหาความจริงจากในดวงตาของเขาหลายครั้ง แต่ก็มองเห็นแค่ความรักความห่วงใยเท่านั้น จึงเลือกที่จะเชื่อเขาเธอโอบเอวของเขาไว้ แล้วพูดกับเขาว่า "ต่อไปนี้ตรวจสุขภาพทุกครึ่งปี แล้วก็ต้องให้ฉันตามเข้าไปในห้อง MRI ด้วย"จี้ซือหานได้ยินดังนั้น รอยยิ้มบางๆก็ผุดขึ้นที่มุมปาก "คุณนายจี้ ยังไม่ทันจะแต่งงาน ก็เริ่มคุมฉันแล้วหรอ?"ซูหว่านยื่นหน้าออกมาอย่างอ่อนโยน แล้วเลิกคิ้วถามเขา "คุณจี้ ให้ฉันคุมคุณไม่ได้หรอ?"เขายกนิ้วมือขึ้นเขี่ยปลายจมูกของเธออย่างเอ็นดู "ได้อยู่แล้ว ยอมให้เธอคุมทั้งชีวิตเลย"ซูหว่านถึงได้สบายใจ แล้วมุดศีรษะเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง...จี้ซือหานยังมีชีวิตอยู่ เนื้องอกก็หายไปแล้ว หลังจากนี้พวกเขาน่าจะมีความสุขกันตลอดไปแล้วล่ะมั้ง?เธอถามจี้ซือหานด้วยเสียงนุ่ม "ฉันนั่งเครื่องบินมานานมาก เหนื่อยสุดๆ ขอนอนกอดคุณสักพักได้ไหม?"ชายหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ปล่อยมือที่โอบเอวของเธอออก หันกลับมาจับปลายคางของเธอเชยขึ้น "ซูหว่าน ฉันเป็นของเธอ เธออยากจ
เขาออกแรงกอดเธอแน่น อุ้มเธอเข้าห้องนอนตัวเอง จากนั้นค่อยๆโน้มตัวลงจุมพิตหน้าผากของเธอ...ซูหว่านตกใจตื่นเพราะจุมพิตของเขา นึกว่าคนที่แตะต้องตัวเองคือจิเหยียนโจว ก็ตกใจจนลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นว่าคนที่สะท้อนในดวงตาไม่ใช่จิเหยียนโจว แต่เป็นจี้ซือหาน หัวใจที่บีบตัวแน่นก็ผ่อนคลายลง"หว่านหว่าน ฉันทำเธอตกใจหรอ?"ซูหว่านส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นตบที่ข้างๆตัวเอง แล้วพูดเสียงงัวเงีย "นอนเป็นเพื่อนฉันสักแป๊บ?"จี้ซือหานอยากจะไปสั่งให้อาเจ๋อเตรียมเคลื่อนไหว แต่เห็นเธออยากให้เขาอยู่เป็นเพื่อน จึงซ่อนความเดือดดาลนั้นไว้เขายืดตัวขึ้นแล้วนอนลงข้างๆเธอ จากนั้นยื่นแขนยาวออกมากอดซูหว่านไว้ในอ้อมอก ลูบหลังของเธอ กล่อมให้เธอนอนเบาๆซูหว่านเข้าใกล้เขา ดมกลิ่นซิการ์อ่อนๆบนร่างกายของเขา ในใจก็รู้สึกสบายใจ จึงผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วชายหนุ่มที่นอนไม่ค่อยหลับมาเกือบสามเดือน ก็รู้สึกสบายใจเพราะมีเธออยู่เช่นเดียวกัน แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่กล้าหลับ ได้แต่จ้องมองเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอ นำพาซึ่งความเหน็ดเหนื่อย หรือเพราะอะไรกันแน่หลังจากที่จี้ซือหานฝืนมาสักพัก ก็ค่อยๆผล็อยหลับไปโดยไม่ร
จิเหยียนโจวจะต้องเคยแอบอ้างชื่อของเธอ เพื่อใช้ทำร้ายจี้ซือหานแน่เขาถึงได้เย็นชากับเธอแบบนั้น และเก็บฝังจนจนเอาไปฝันถึงหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ ก็ส่ายแขนของเขาอย่างร้อนใจ "คุณบอกฉันมา เขาทำอะไรกับคุณกันแน่"จี้ซือหานเห็นว่าซูหว่านร้อนใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ก็ไม่ได้ตอบ แต่แค่พูดเสียงเบาว่า "หว่านหว่าน เธออยากให้จิเหยียนโจวตายยังไง?"น้ำเสียงแหบพร่าของเขาแฝงไว้ด้วยความเยือกเย็น เต็มไปด้วยความกระหายเลือด ราวกับอยากจะสังหารจิเหยียนโจวในทันทีจิตใจของซูหว่านกระตุกเล็กน้อย ช้อนสายตามองดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกคู่นั้น "คุณบอกฉันมาก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"คิ้วของชายหนุ่มที่ขมวดเข้าหากันแน่ ค่อยๆผ่อนคลายลง ปกปิดความทุกข์ทรมานและความสิ้นหวังอย่างลึกซึ้งในดวงตาภาพที่บาดใจเหล่านั้น ราวกับเถาวัลย์ที่มีคมหนาม แผ่กระจายออกจากสมอง รัดเขาเอาไว้แน่นจนอยากจะหลุดออกเขานิ่งอยู่ที่เดิม เงียบไปหลายวินาที จากนั้นยกมือขึ้นลูบดวงตาของซูหว่าน แล้วพูดเสียงเบา "หว่านหว่าน สามเดือนก่อน ฉันเคยไปหาเธอ ตอนนั้นเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น ทำให้ฉันเข้าใจเธอผิด..."ทั้งภาพจากกล้องวงจนปิด ทั้งเครื่อ
น่าเสียดาย การประนีประนอมของเขา นอกจากจะไม่ทำให้หญิงสาวที่ยืนหันหลังให้เขาหวั่นไหวได้แล้ว ยังถูกเธอหัวเราะเยาะอย่างไร้หัวใจอีกด้วย"คุณนี่มันต่ำตมซะจริง ฉันนอนกับคนอื่นถึงขนาดนั้น คุณยังต้องการฉันอยู่อีก แม้แต่ศักดิ์ศรีคุณก็ไม่เอาแล้วใช่ไหม?!"คำพูดที่โหดร้ายนั่น ทำให้เขาตัวแข็งอยู่กับที่ ร่างกายเหมือนถูกเจาะจนพรุน ใบหน้าซีดจนไม่เห็นสีเลือดเขาจ้องเงานั่น จ้องอยู่สักพัก จู่ๆก็กำหมัดแน่นแล้วคำรามออกมาราวกับคนบ้า"ใช่ ฉันมันต่ำตม ก็เพราะฉันต่ำตม ฉันถึงได้ลืมเธอไม่ลงสักทีไง!"เขาคำรามเสร็จ ก็ช้อนดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ แล้วอ้อนวอนเธอด้วยความเนื้อน้อยต่ำใจ"ซูหว่าน เธออย่าทำร้ายฉันแบบนี้ได้ไหม...""ไม่ได้!"เงาที่ไร้ซึ่งความปราณีนั้น ไม่แม้แต่จะหันมา "บอกคุณตามตรงก็แล้วกัน ฉันกลับมาจากอังกฤษ ก็เพื่อแก้แค้นคุณ เป้าหมายของฉันง่ายมาก นั้นก็คือทำให้คุณรักฉันรักจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วค่อยๆใช้เท้าเขี่ยคุณออกไป""วันที่ฉันถูกลักพาตัว เห็นคุณช่วยฉันจนไม่สนใจแม้แต่ชีวิตของตัวเอง ฉันก็รู้แล้วว่าฉันทำสำเร็จ เพราะงั้นฉันถึงได้กลับอังกฤษพร้อมกับพี่เขย แต่ไม่คิดว่าหลังจากที่
ซูหว่านสบดวงตาที่มีแค่เงาของเธอตลอดไปคู่นั้นด้วยดวงตาแดงก่ำเคล้าไปด้วยน้ำตา "ซือหาน ผู้ชายที่ฉันเคยมีมา ก็มีแค่คุณ คนแรกคือคุณ และหลังจากก็จะมีแค่คุณ..."เธอยกนิ้วขึ้น ลูบคิ้วที่ขมวดเข้าหากันแน่นของเขาทีละนิดด้วยความรักสุดซึ้ง แล้วพูดเสียงอ่อนโยน "เรื่องพวกนั้นที่คุณพบเจอมา ฉันจะหาวิธีเดินออกมาพร้อมกับคุณเอง..."น้ำเสียงอ่อนโยนของเธอ มีมนต์สะกดที่ช่วยปลอบประโลมจิตใจคนได้ ทำให้หัวใจที่ว้าวุ่น หวาดกลัว และยากที่จะปล่อยวางของจี้ซือหาน ค่อยๆผ่อนคลายลงเขากอดซูหว่าน ใช้แรงทั้งหมดที่มี โอบร่างเล็กๆของเธอเอามาในอ้อมกอดของตัวเอง "หว่านหว่าน ต่อจากนี้ไปอย่าไปจากฉันอีกนะ"ซูหว่านยื่นมือสองข้างออกมา แล้วกอดเขาแน่นเช่นเดียวกัน "คุณก็เหมือนกัน ห้ามไปจากฉันนะ"พวกเขาสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป งั้นก็ต้องตลอดไป ห้ามจากกันไปไหน นอกจาก...ความตายจะมาพรากไปจากกันหลังจากที่จี้ซือหานปล่อยวางฝันร้ายเหล่านั้น ก็ก้มหน้าถามเธอ "หิวไหม?"ซูหว่านส่ายหน้า เขาก็ถามอีก "ยังง่วงอยู่ไหม?"เธอส่ายหน้าอีกครั้ง มุมปากของชายหนุ่มจึงยกยิ้มขึ้น "งั้นไปอาบน้ำกับฉัน"เขาพูดจบ ก็ช้อนขาทั้งสองข้างของเธอขึ้น ให้เธอ
ช่างเสื้อหยิบชุดเจ้าสาวชุดนั้นลงมา เมื่อสัมผัสโดนเนื้อผ้าและเพชรที่ประดับอยู่ด้านบน ก็อึ้งไปชุดแต่งงานชุดนี้เต็มไปด้วยผ้ากอซสีอ่อนหลายชั้น ประดับด้วยดอกกุหลาบและเพชรที่ทอจากผ้าซาตินเนื้อนุ่ม ตัวชุดเป็นสีขาวคริสตัลเรียบง่ายและวิจิตรงดงามด้วยเพชรที่ถูกเย็บเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ส่องประกายด้วยเสน่ห์อันงดงามและสง่างามจนน่าทึ่งถ้าดูไม่ผิด หากอ่านไม่ผิด นี่คือชุดแต่งงานเพียงชุดเดียวในโลกที่ถูกออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชุดแต่งงานชื่อดังระดับโลกหลายปีก่อน ชุดเจ้าสาวชุดนี้ถูกเก็บเอาไว้ในห้องนิทรรศการที่ต่างประเทศ แต่ต่อมาได้ยินว่าถูกคนซื้อไปในราคาสูงลิ่วคิดไม่ถึงว่าคนที่ซื้อชุดเจ้าสาวไป จะเป็นท่านประธานของกลุ่มบริษัทจี้ ถ้าไม่ได้รักอีกฝ่ายจริง จะยอมจ่ายหนักขนาดนี้ได้ยังไง?ที่สำคัญอีกชุดนึงที่อยู่ในตู้ ราคาก็ไม่ธรรมดา ดูก็รู้ว่าเป็นรุ่นลิมิเต็ด เดาว่าก็น่าจะมีแค่ชุดเดียว ไม่ซ้ำใคร"คุณนายจี้ ท่าทางคุณผู้ชายจะรักคุณมากเลยนะคะ..."ซูหว่านได้ยินคำพูดของช่างเสื้อ ก็พยักหน้าอย่างไม่ปิดบังผู้ชายคนนั้นรักเธอมาก รักจนยอมมอบทุกอย่างให้กับเธอ รักจนยอมตายไปพร้อมกับเธอเธอคิดว่าชีวิตที่เหลืออยู่หล
ซูหว่านพยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ก็ได้ค่ะ ฉันเอาตามที่คุณพูด ตอนนี้ถ้าคุณไม่ขึ้นเครื่องบิน ก็ต้องขึ้นรถพยาบาลก่อน..."ถ้ายังไม่ห้ามเลือดอีก เขาจะทนไม่ไหวเอา จี้ซือหานเห็นว่าเธอเป็นห่วงเขา ถึงได้จับมือเธอขึ้นเครื่องบินอย่างว่าง่ายคืนนี้ ซูหว่านเฝ้าอยู่ข้างกายจี้ซือหาน รอหมอห้ามเลือด เย็บแผล เปลี่ยนยาให้เขาเสร็จ เธอถึงได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มสาง ซูหว่านก็รู้สึกว่าไม่น่าจะจัดงานแต่งได้ จึงเอ่ยข้อเสนอกับเขา "หรือเลื่อนออกไปวันนึงไหม"ชายหนุ่มที่ถือผ้าขนหนูช่วยเช็ดผมให้เธอ พูดด้วยความแน่วแน่ "ไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องจัดงานแต่ง!"ซูหว่านที่เพิ่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ อุงไอน้ำร้อนๆในมือ หันกลับไปมองเขา "แต่แผลของคุณ..."จี้ซือหานพูดอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น "ต่อให้แผลจะใหญ่กว่านี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการจัดงานแต่ง"ซูหว่านยังอยากพูดอะไรอีก แต่จี้ซือหานหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมให้เธอจากนั้น ขับรถไปส่งเธอที่วิลล่าของซานซานด้วยตัวเอง โดยไม่สนคำทัดท้านของเธอ"สิบเอ็ดโมง ฉันจะพาคนของตระกูลจี้ มารับเธอ"กำหนดการณ์เดิมคือสิบโมง แต่กลัวว่าเธอจะเหนื่อยเกินไป อยากให้เธอพักผ่อนกว่านี้อีกหน่อย ชาย
จี้ซือหานกอดเธอ สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ หัวใจที่เจ็บปวดจนชา ก็ค่อยๆสงบลงเขาคลายซูหว่านออก เห็นร่างกายของเธอเปียกปอนไปทั้งตัว ทั้งยังสั่นระริกด้วยความหนาวเหน็บ หัวใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาอีก"คนที่ควรพูดขอโทษคือฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เธอก็ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้""คุณพูดอะไรโง่ๆ เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันสิ"ซูหว่านพูดจบ ก้มหน้าลงมองมือตัวเองแวบนึง เมื่อเห็นเลือดที่เลอะเต็มมือ ใบหน้าก็ซีดไปทันที"แผลที่หลังของคุณฉีกแล้ว รีบขึ้นรถพยาบาลเถอะ..."เมื่อกี้เธอนึกว่าเป็นน้ำทะเล ไม่คิดว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นเลือด แผลที่หลังจะต้องฉีกออกแล้วแน่ๆ!ซูหว่านควงแขนของเขาได้ ก็เตรียมจะเดินไปยังทิศทางของรถพยาบาล ทว่าจี้ซือหานกลับดึงเธอกลับมา"หว่านหว่าน แผลแค่นี้ไม่เท่าไหร่หรอก"เขาพูดจบ ก็มองเจียงโม่ที่ยืนห่างออกไปไม่ไกลแวบนึง"จับตัวเธอ แล้วค่อยแจ้งคุณเจียง ให้เขามาไถ่ตัวด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็ปลดชีวิตเธอซะ!"คำพูดนั้นเขาพูดกับซูชิง ซูชิงรีบรับคำสั่งทันที "ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!"เจียงโม่ที่คาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าคุณเย่ไม่มีทางปล่อยเธอ เห็นซ
ซูหว่านครุ่นคิด ก่อนจะถามเขา "คุณแซ่ชู งั้นคุณรู้จัก..."ชูยีไหม?ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำนี้ออกไป ก็ถูกชูจิ่นเหยียนตัดบท "ผมจะส่งคุณกลับไป"ซูหว่านได้ยินดังนั้น ก็กลืนคำพูดลงไป ขมวดคิ้วมองเขา "ลำบากแทบตายกว่าฉันจะหนีออกมาได้ จะส่งกลับไปทำไม?"ชูจิ่นเหยียนกรอกตาใส่เธออย่างหมดคำพูด "ผมหมายความว่า จะส่งคุณกลับบ้าน..."ซูหว่านจึงได้พยักหน้า ลุกขึ้นจากหาดทราย เธอต้องรีบกลับไปบอกจี้ซือหาน...ว่าเธอหนีออกมาแล้ว เธอปลอดภัย เธอไม่ได้กลายเป็นภาระของเขา และเขาก็ไม่ต้องถูกแบล็กเมล์อีกหลังจากที่เธอขึ้นฝั่งมากับชูจิ่นเหยียน ก็เห็นรถพยาบาลคันแล้วคันเล่าขับตรงไปยังบีชคลับอย่างรวดเร็วฝีเท้าของเธอชะงัก ช้อนสายตามองไปยังชายหาดที่อยู่ห่างไกล มองเห็นร่างมนุษย์ไม่ชัด เห็นแต่เรือลำเล็กลำใหญ่แล่นลงทะเลทีละลำซูหว่านทอดสายตาลงต่ำครุ่นคิดอยู่สักครู่ เอาแต่รู้สึกว่าเจียงโม่ไม่น่าจะส่งคนจำนวนมากขนาดนั้นมาตามหาและช่วยชีวิตเธอ หรือว่าจี้ซือหานมาแล้ว?ถ้าจี้ซือหานมาถึงแล้ว รู้ว่าเธอกระโดดลงทะเล เกรงว่าจะทำให้เขาตกใจมาก เพราะคิดมาถึงตรงนี้ซูหว่านก็เปลี่ยนความคิด"เราไปดูตรงนู้นหน่อยเถอะ?"ไปดูแปบนึง ถ้าจี้
ซูหว่านที่พยายามหนีถึงสามครั้งแต่ก็ถูกจับกลับมาได้ทุกครั้ง หันกลับมามองเจียงโม่ที่เดินตามหลังเป็นระยะๆเธอเห็นเอาแต่รับโทรศัพท์ตลอดเวลา ราวกับกำลังปรึกษาเรื่องอะไรอยู่ เพราะระยะค่อนข้างห่าง จึงได้ยินไม่ชัด แต่บางครั้งก็จะได้ยินแค่ชื่อของจี้ซือหานเธอไม่รู้ว่าจี้ซือหานรับปากหรือไม่ แล้วก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง รู้แค่ว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระของจี้ซือหานไม่ได้เธอมองไปยังผืนน้ำทะเลที่สาดเป็นคลื่นดุเดือด หลังจากมองอยู่หลายอึดใจ ก็กระโดดเข้าไปในทะเลโดยไม่ลังเล...เธอเคยพูดว่าถ้าหากมีใครเอาตัวเธอเพื่อไปข่มขู่จี้ซือหาน ถ้างั้นเธอก็จะไม่ยอมกลายเป็นตัวถ่วงของเขาเด็ดขาดเจียงโม่ที่กำลังเกลี้ยกล่อมพ่อบุญธรรมว่าอย่าแบล็กเมลล์จี้ซือหานอีก ได้เห็นภาพช็อตนั้น ก็ตกใจจนหน้าซีดในทันที"ซูหว่าน!"เธอกรีดร้องออกมาทีนึง โยนโทรศัพท์แล้วพุ่งลงไปในทะเลเพื่อช่วยชีวิต ทว่าถูกร่างใครบางคนพุ่งตัดหน้าเข้ามาก่อน...เสียงกระโดดลงทะเลดัง "ตู้ม" ของชูจิ่นเหยียน ว่ายเข้าไปหาร่างเล็กบางที่พุ่งเข้าไปในคลื่นทะเลด้วยความแข็งขันเจียงโม่ที่อยู่บนชายหาด ตอนแรกยังพอจะเห็นร่างของทั้งสองคนลอยอยู่เหนือผิวน
ฝีเท้าของซูหว่านชะงักไปทันทีเธออยากจะหันกลับไปโต้ตอบเขาสักสองสามประโยค แต่ก็กลัวจะเสียเวลา จึงไม่ได้สนใจอีกฝ่าย แต่ผลักประตูห้องน้ำหญิงด้วยความรวดเร็วหลังจากที่เธอเข้าไปแล้ว ก็เดินสำรวจห้องน้ำรอบนึง เมื่อเห็นว่าด้านข้างมีหน้าต่างบานเล็ก ก็รีบเดินเข้าไปแล้วเปิดออกข้างนอกเป็นถนนหลวง แค่ปีนออกจากตรงนี้ไป ก็จะสามารถเดินไปถึงถนนหลวงได้ และโอกาสที่จะหนีรอดก็สูงมากทีเดียวเธอเองก็ขี้เกียจมานั่งคิดว่าหลังจากเดินไปถนนหลวงแล้วจะกลับไปยังไง จึงพับแขนเสื้อขึ้น แล้วปีนไปยังขอบหน้าต่างสูงชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนถนนหลวง เขางอขาข้างหนึ่งขึ้น มือข้างหนึ่งทาบบนเข่า กำลังสูบบุหรี่ไปพร้อมกับที่มองดูเธอปีนออกไปนอกหน้าต่างพิลึกคน!ถ้าอยากจะออก ก็เดินผ่านคลับ ออกจากมาประตูหลัก หรือไม่ก็ข้ามชายหาดมาก็ได้แล้ว ทำไมต้องปีนหน้าต่าง?"นี่!"เขาแหกปากคำนึง ทำเอาซูหว่านตกใจจนตกลงมาจากบนขอบหน้าต่าง...ซูหว่านล้มลงอย่างแรง เธอหน้าบูดบึ้งเนื่องจากความเจ็บปวด โชคดีที่ด้านล่างเต็มไปด้วยทราย ไม่อย่างนั้นคงได้กระดูกหักเธอตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้น จ้องผู้ชายที่นั่งสูบบุหรี่อยู่บนถนนหลวงตาเขม็ง "นายเป็นโรคหรือไง
เจียงโม่ไม่หลงกล ซูหว่านจึงใช้เล่นแง่ในทางความรู้สึกแทน"คุณหนูเจียง คุณก็รู้ว่าคนที่จี้ซือหานแคร์ มีแต่ฉันมาโดยตลอด""คุณกักตัวเพื่อนของฉันไม่ยอมปล่อย ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่ ทำไมต้องให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มารับเคราะห์ด้วยล่ะ?"เจียงโม่จ้องดวงตาใสบริสุทธิ์ของซูหว่านนานอยู่สักพัก จากนั้นก็โบกมือ "ช่างเถอะ แค่คุณอยู่ก็พอแล้วล่ะ"เธอส่งคนไปโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายวางสาย ก็หันมาพยักหน้าให้เธอ แล้วจึงอธิบายให้ซูหว่านฟัง"เพื่อนของคุณไม่รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัว ฉันก็แค่ส่งคนไปก่อกวนพวกเขานิดหน่อย หลังจากที่คุณกลับไป อย่าพูดถึงเรื่องนี้ก็แล้วกัน"สรุปว่าที่ซานซานออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า ที่อลันกับซีอี้ไม่ได้มาที่วิลล่า ไม่ใช่เพราะถูกลักพาตัว แต่ถูกคนของเจียงโม่สร้างสถานการณ์แต่ว่า ฟังจากความหมายของเจียงโม่ ถ้าเธอไม่มาล่ะก็ คตที่สร้างสถานการณ์กลุ่มนั้น จะต้องลงมือกับพวกซานซานเป็นแน่...เพียงแต่เพราะเจียงโม่คำนึงถึงจี้ซือหานหรือเธอ ถึงได้เลือกใช้วิธีนุ่มนวล ไม่งั้นลักพาตัวไปเลยก็จะง่ายกว่า...แต่ไม่ว่าคนที่เจียงโม่คำนึงเป็นใคร หรือไม่ว่าจะคิดยังไง มันก็ไม่สำคัญทั้งนั้น
ซูหว่านฟังเข้าใจความหมายที่แฝงในคำพูดของเจียงโม่ ก็ถามเธอว่า "ฉันขอกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม?"เจียงโม่อ่านความคิดของเธอออกทันที "คุณซู คิดถึงสถานการณ์ของเพื่อนคุณให้มากหน่อยก็ดีค่ะ"ความหมายอีกอย่างก็คือ มีชีวิตของเพื่อนเธออยู่ในกำมือ ถึงเธอจะใช้ข้ออ้างไปบอกบอดี้การ์ด หรือแหกปากร้องตะโกนก็ไม่มีประโยชน์ซูหว่านครุ่นคิด ปล่อยมือที่ประคองประตูรถมาตลอดลง ไพล่ไว้ด้านหลัง ทำสัญลักษณ์ให้กับบอดี้การ์ดหลังจากที่เธอส่งสัญญาณมือโดยเงียบเชียบเสร็จ ก็เปิดประตูรถ แล้วเข้าไปนั่งข้างในเห็นเธอขึ้นรถมาแต่โดยดี เจียงโม่ก็เขี่ยซิก้าร์ในมือจนมอด จากนั้นสตาร์ทรถ...ตอนที่เธอเหยียบคันเร่ง มองกระจกมองหลังแวบนึง บอดี้การ์ดกลุ่มนั้นตามมาดังคาดเจียงโม่ดึงสายตากลับ เหยียบคันเร่งจนมิด เลี้ยวผ่านไปไม่กี่โค้งก็สลัดบอดี้การ์ดสำเร็จถึงยังไงก็เป็นถึงระดับหัวหน้าของทีมย่อยในS การที่เจียงโม่สลัดบอดี้การ์ดทิ้งได้ ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมากซูหว่านกำเข็มขัดนิรภัยแน่นถึงไม่โดนสะบัดออกจากรถไป ทว่าความรู้สึกพะอืดพะอมในท้องกลับทำให้เธออยากอ้วกเธอกุมหน้าอกที่เต้นระรัว อดกลั้นความรู้สึกสะอิดสะเอียนไว้ มองไปย
นิ้วของเจียงโม่ที่คีบซิการ์ เคาะขี้เถ้าเบาๆ"คุณซู มีใครเค้าพาสามีไปร่วมปาร์ตี้คนโสดกันบ้าง?"การที่เจียงโม่จะปฏิเสธ เป็นสิ่งที่คาดเดาไว้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ทำไมล่ะ?ที่เจียงโม่เชิญเธอไปร่วมงานปาร์ตี้คนโสด ก็เพราะอยากให้เธอสอนว่าจะจีบเจียงเจ๋อยังไงไม่ใช่หรอ?งั้นถ้าเธอจะพาจี้ซือหานไปด้วย ก็ไม่ได้หน่วงต่อการสอนเจียงโม่จีบเจียงเจ๋อไม่ใช่หรอ?เธอคิดว่าบางทีเจียงโม่อาจจะอยากอาศัยปาร์ตี้นี้เพื่อพาตัวเธอไป ส่วนเป้าหมายคืออะไร เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เจียงเจ๋อคุยกับจี้ซือหานหลังจากที่ซูหว่านคิดได้ดังนั้น ก็มองเจียงโม่ด้วยสายตาที่จริงใจ"คุณหนูเจียง ฉันกับจี้ซือหานถูๆไถๆกันมาเกือบสิบปี กว่าจะได้แต่งงานกันไม่ง่ายเลย ฉันไม่อยากให้เกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก่อนวันแต่งงาน""พรุ่งนี้เช้า ฉันแค่อยอยากสวมชุดแต่งงานที่เขาส่งมาให้ แต่งให้เขาด้วยสภาพร่างกายจิตใจที่สมบูรณ์แบบที่สุด หวังว่าพวกคุณจะช่วยให้เราสมหวังด้วย"ตอนที่พูดสิ่งเหล่านี้ เธอเห็นสีหน้าของเจียงโม่ เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็รู้ได้ทันทีว่าเจียงโม่มีจุดประสงค์อย่างแท้จริง จึงยกริมฝีปากยิ้ม"คุณหนูเจียง ถ้าคุณอยากให้ฉันสอนคุณจีบ