"เมื่อกี่เห็นพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ข้างบนนั้นมองมาที่พวกเราด้วย พอเขาเห็นเราเขาก็หันหน้าหนีไป เขาไม่ต้องการให้เราเห็นหรือว่าอะไรอะต้นข้าว"
ปลายฝันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ "คนข้างบนคือพ่อเลี้ยงตะวันหรือที่นั่งกับบอสมานพอะนะ เข้ารู้จักกันหรือ" ต้นข้าวถามขึ้นอย่างอยากรู้ แต่คนที่นั่งกับบอสนั้นก็มองปลายฝันเหมือนสนใจอยู่นะ ใช่พ่อเลี้ยงของปลายฝันจริงๆหรือ "แกรู้จักคนนั้นด้วยหรือ สงสัยจะมาปรึกษากันเรื่องไร่แน่เพราะว่าเดือนหน้าพ่อเลี้ยงก็ต้องจ่ายเงินคนงานที่ไร่เองแล้วเขามีที่ปรึกษาดีก็ดีแล้วแหละ" ปลายฝันพูดขึ้น "ทั้งสองจะมีเรื่องปรึกษาอะไรกันล่ะในเมื่อบอสมานพก็ทำงานอยู่ที่นครพนมส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานอยู่เชียงใหม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันหรือ" ต้นข้าวถามขึ้น "เราว่าเหมือนท่าทางเขาจะเป็นเพื่อนกันนะ เหมือนจะสนิทสนมกันยังไงก็ไม่รู้ที่เราแอบมองอะนะ แต่ช่างเถอะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอกเนาะ" ปลายฝันพูดขึ้น "ออกไปจากนี้แล้วก็กลับกันเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแหละเกือบจะตีสองแล้วผับปิดกี่โมงนะ ไม่รู้ว่าพี่ชาติจะขับรถเข้าไร่ได้หรือเปล่าเดี๋ยวพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาจะกลับไร่พร้อมแกไหม" ต้นข้าวพูดขึ้น "ไม่หรอกพ่อเลี้ยงก็จะมีคนของพ่อเลี้ยงคอยขับรถให้อยู่แล้วแหละ และเผลอๆอาจจะขับรถออกมาเองด้วยซ้ำ ผับนี้น่าจะปิดตีสามนะ ถ้าเราออกไปแล้วถ้าพี่ชาติขับรถไม่ไหวก็พักที่โรงแรมที่พี่ชาติกับพี่พลอยก่อนก็ได้นิ เช้าค่อยกลับไป" ปลายฝันพูดขึ้น "แล้วแกจะไม่มีปัญหากับพ่อเลี้ยงหรือถ้าแกไม่กลับบ้านเขาจะไม่ว่าอะไรหรือ" ต้นข้าวถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพื่อน "จะว่าอะไรได้เล่าตอนนี้ไม่รู้ว่าพ่อเลี้ยงกับแล้วหรือยังอาจจะเมานอนอยู่ข้างบนนู้นก็ได้ อีกอย่างเขาไม่รู้หรอกว่าเราจะอยู่ไร่หรืออยู่ข้างนอกเขาอาจจะไม่สนใจก็ได้" ปลายฝันพูดขึ้น "ก็แกบอกอยู่นี่ว่าพ่อเลี้ยงหันมามองอยู่เขาก็รู้แล้วนี่ว่าแกอยู่ข้างนอก" ต้นข้าวพูดขึ้น "เขารู้ว่าอยู่ข้างนอกก็จริงแต่เขาไม่สนใจหรอกว่าเราจะอยู่ในไร่หรือเปล่านะ เขาไม่ได้เป็นห่วงเราขนาดนั้นหรอกต้นข้าว" ปลายฝันพูดอย่างน้อยใจ อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์จึงทำให้ปลายฝันเองก็น้อยใจขึ้นมา หลังจากมองพ่อเลี้ยงที่ทำตัวเหมือนไม่รู้จักเขาเลยก็คิดน้อยใจ และทั้งสองก็เดินออกไปตอนนี้เพื่อนของพวกเขาก็เมามายกัน พอมองไปด้านบนก็ไม่พบพ่อเลี้ยงแล้ว "นี่มันก็ดึกมากแล้วเดี๋ยวเราสองคนกลับก่อนแล้วกันนะไหนพวกเราจะต้องเข้าไร่อีกมันไกล" ปลายฝันพูดกับเพื่อนๆ "ได้สิได้ งั้นมาชนกันแก้วกัน แก้วสุดท้ายนะพวกเราก็จะกลับแล้วเหมือนกัน" เมษาพูดขึ้นและยื่นแก้วไวน์ให้ทั้งสอง พอทั้งสองดื่มแล้วก็กะว่าจะกลับแต่เมษาก็ชวนคุยสักพักนึง ปลายฝันรู้สึกแปลกๆร้อนๆวูบๆจึงรู้แล้วว่าเธอต้องถูกยาอะไรแน่ๆ เธอเองจึงลากมือของต้นข้าวกะว่าจะออกไปจากผับนี้ แต่พี่ท๊อปก็มาขวางต้นข้าวไว้ และแฟนของเมษาก็มาขวางปลายฝันไว้กะจะพยุงออกไป ปลายฝันกับต้นข้าวสบัดมือหนีเต็มทีการกระทำพวกนี้ตะวันไม่ได้รับรู้อะไรเลย เพราะเขาเมาจนลูกน้องพาไปพักในห้องนานแล้ว เพราะหลังที่ปลายฝันกับต้นข้าวกลับออกมาจากห้องน้ำ ก็ไม่พบพวกเขาแล้ว มีผู้ชายกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาหาปลายฝัน "ผมคนของแม่เลี้ยงนวลจันทร์ครับหลีกทางให้ผมด้วยแม่เลี้ยงนวลจันทร์ก็คือแม่สามีของคุณปลายฝัน ท่าทางลูกสะใภ้ของแม่เลี้ยงจะเมาแล้วพวกผมจะพาไร่กลับเอง" เสียงคนที่ปลายฝันไม่เคยได้ยินมาก่อนดังขึ้น แค่เอ่ยชื่อว่าแม่เลี้ยงนวลจันทร์ก็ทำให้ปลายฝันรู้สึกโล่งใจมากแล้วและปลายฝันกับต้นข้าวก็สลบและถูกหามออกไป คนอื่นๆไม่กล้าทำอะไรด้วยซ้ำ เพราะกลุ่มผู้ชายแปลกหน้านั้นมากันหลายคนและผู้ชายสองคนก็พยุงต้นข้าวกับปลายฝันไปส่วนผู้ชายอีก 4-5 คนก็ยืนคุมเชิงพวกเขาอยู่ "เราไม่รู้ว่ามันแต่งงานกับใคร แต่เห็นข่าวใหญ่โตขนาดนั้นก็คงจะเป็นคนที่มีอิทธิพลในเชียงใหม่แนะเลยแหละเผลอๆผัวมันอาจจะเป็นเจ้าของผับนี้ก็ได้ ถึงมีคนของมันอยู่มากมายขนาดนี้ ดีนะเรายังไม่ได้ทำอะไรมากมายเราลงมือแค่นี้แต่ทางที่ดีเรารีบกลับเถอะถ้าพวกมันเช็คว่าเราใส่ยาอะไรปลายฝันกับต้นข้าวเราอาจจะซวยก็ได้" นฤมลพูดขึ้นและเช็คบิลออกจากผับ ป๊อปทำสีหน้าเซ็งๆ อะไรก็ไม่ได้สักอย่าง แต่ดันต้องเสียเงินค่าเปิดโต๊ะ ค่าเปิดโต๊ะของที่นี้ไม่ใช่จะถูกๆและยังไวน์อีกหลายๆตัวที่เปิดแทนที่จะได้ผู้หญิงอีก 2 คนไปหาเงินก็ไม่ได้ เหตุการณ์ที่อยู่โต๊ะของปลายฝันนั้นอยู่ในสายตาของชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นตลอดเวลาและพวกเขาก็รู้ด้วยว่าหนึ่งคนในนั้นได้วางยาลงในแก้วไวน์ของผู้หญิงสองคน เราโทรไปถามแม่เลี้ยงว่าให้จัดการอย่างไรแม่เลี้ยงบอกว่าปล่อยให้เป็นไปตามสถานการณ์ก่อน ถ้าหากว่าพวกนั้นจะลงมือแล้วค่อยไปแสดงตัวว่าเป็นคนของแม่เลี้ยงแล้วพาทั้งสองกลับบ้าน "แม่เลี้ยงครับคุณปลายฝันหลับไปแล้วให้พวกผมพากลับบ้านเลยใช่ไหมครับ ตอนนี้เหมือนว่าคุณปลายฝันจะถูกวางยาจึงทำให้เนื้อตัวแดง และท่าทางเหมือนจะดึงเสื้อผ้าออกแบบนี้น่าจะเป็นยาปลุกเซ็กส์ครับ" มีคนโทรไปรายงานกับแม่เลี้ยงตอนนี้ก็ตีสองกว่าแล้ว แต่คนทางนั้นก็ไม่หลับไปนอน เพราะเป็นห่วงลูกสะใภ้ค่อยฟังข่าวตลอด ตั้งแต่ที่ปลายฝันออกจากไร่ทั้งสองวันแม่เลี้ยงเองก็ให้คนติดตามไปตลอด ก็เห็นว่าไปเที่ยวกันแค่วัด แต่ก็ยังดีหน่อยที่มีคนของตะวันไปด้วยสองคน "แล้วตะวันอยู่ไหนล่ะกลับบ้านแล้วหรือ อยู่ที่ผับตะวันมีห้องพักอยู่สองห้องนิพาพวกเขาทั้งสองขึ้นไปพักบนห้องพักก่อน ให้เขาอยู่กันคนล่ะห้องแล้วล็อคประตูไว้เขาคงจะมีวิธีการจัดการของเขาเองนั่นแหละ" แม่เลี้ยงพูดขึ้นเพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไร ให้คนของตัวเองที่เป็นผู้ชายเข้าไปจัดการก็ไม่ดีแน่ๆ ขังไว้ในห้องตอนเช้าค่อยเปิดจะดีกว่า ลูกน้องทุกคนจึงทำตามแม่เลี้ยง หลังจากที่ขังทั้งสองสาวไว้ในห้องคนล่ะห้องแล้วออกมานั่งกินเหล้าเพราะผับจะปิดตีสาม และแม่เลี้ยงจะส่งคนมาเปลี่ยนกับพวกเขาให้พวกเขาไปพักผ่อนตอนตีสาม "พวกเราได้เวรตอนนี้สบายเราเลยนะ ได้นั่งกินเหล้า ได้เงินจ้างด้วยคุ้มสุดๆ" ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น "ก็ใช่สิวะสำหรับพวกเราแค่นี้ก็คุ้มแล้วแหละแต่บางคนที่มันมีเมียมันก็ว่าไม่ได้นอนไม่ได้พาเมียไปเที่ยวตอนวันหยุดสำหรับกูนะกูว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้วแหละเพราะว่ายังได้เงินพิเศษอีกต่างหากไม่ใช่จะน้อยๆด้วย" อีกคนกล่าวเสริม แค่ตามผู้หญิงสองคนมีอะไรผิดปกติโทรรายงานแค่นี้เองเมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น
1ความเสียใจัปลายฝันหญิงสาวที่หน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้มคนหนึ่งณวันนี้เธอได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในเมืองหลวงแล้ว หลังจากที่พวกเธอเรียนจบเพื่อนๆจึงนัดกันไปเลี้ยงฉลองกัน ในคืนนี้อาจจะได้เจอกับเพื่อนเป็นคืนสุดท้ายเพราะว่าเธอต้องกลับบ้านนอกของเธอ "น้ำมนต์เธออย่าลืมชวนรุ่นพี่ที่ชื่อว่ากายที่เคยชอบปลายฝันมาด้วยนะ คืนนี้พวกเราเลี้ยงฉลองกันน่าจะเมาน่าดูยายปลายฝันไม่อยากจะมีแฟนนักพวกเราจับคู่ให้เขาเลยว่ายังไง"มลฤดีโทรศัพท์คุยกับน้ำมนต์ด้วยความเฮฮา และบอกให้เพื่อนชวนรุ่นพี่ที่เคยชอบเพื่อนสาวมางานปาร์ตี้เลี้ยงจบมหาวิทยาลัยกัน น้ำมนต์มองหน้าคนข้างๆ"เดี๋ยวจะลองชวนดูแล้วกันไม่รู้ว่าพี่เขาว่างหรือเปล่านะมีพวกเราทั้งหมด 6 คนใช่ไหมแล้วมีใครพาแฟนมาหรือเปล่าล่ะ"เสียงน้ำมนต์ที่อยู่ปลายสายตอบพลางมองคนที่อยู่ข้าง น้ำมนต์เองตั้งใจจะพาพี่กายไปอยู่แล้วเพราะว่าน้ำมนต์กับพี่กายได้คบกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว "แล้วแกอ่ะจะชวนแฟนแกมาหรือเปล่า แฟนแกคบกันมาสักพักแล้วไม่ใช่หรือยังไม่มาเปิดตัวให้เพื่อนๆดูเลยส่วนเราก็ว่าจะพาแฟนมาด้วย"มนฤดีกล่าวขึ้น"พาไปอยู่แล้วล่ะ แล้วพวกแกจะตกใจ"น้ำมนต์กล่าวขึ้นยิ้มๆแล้ววางโทรศัพท์ไป"แ
2แผน"ห๊ะ อะไรนะปลายฝันไม่ได้มาด้วยหรอกหรือ หมดสนุกเลยที่นี้อุตส่าห์ชวนเพื่อนพี่กายมาให้ด้วยแล้วนะ นี้พี่กายแฟนเราเอง"น้ำมนต์กล่าวขึ้น"ว้าวๆ ไปคบกันตอนไหนเนี้ย เห็นพี่กายจีบปลายฝันตั้งนานสองนานเสร็จยัยน้ำมนต์เสียแล้ว"มลฤดีกล่าวขึ้น"ปลายฝันแชทมาบอกเรานะว่ากำลังจะกลับนครพนมเลย บอกว่าย่าเสียเราในฐานะเพื่อนต้องไปงานศพย่าของปลายฝันหรือป่าว"ต้นข้าวเอ๋ยขึ้น"ก็มันไม่ได้บอกพวกเรามันบอกแกคนเดียวไม่ใช่หรือก็แสดงว่ามันไม่ต้องการให้พวกเราไปหรอกถ้ามันอยากให้พวกเราไปมันต้องบอกแล้วแหละ"น้ำมนต์กล่าวขึ้น ต้นข้าวไม่คิดว่าเพื่อคนที่อยู่แก็งเดียวกันจะเป็นอย่างนี้ ต่อหน้าปลายฝันทุกคนดีกับปลายฝันกันทุกคน"งั้นเดียวเราไปคนเดียวก็ได้"ต้นข้าวกล่าวขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจสักเท่าไหร่ ต่างคนต่างสนุกกับปาร์ตี้กัน สักพักก็เมามาย ต้นข้าวได้สติอยู่คนเดียวเพราะเขาไม่ดื่มมากเพราะตอนเช้าเขาต้องรีบออกเดินทาง นั่งไปในใจก็คิดมาเพื่อนในกลุ่มตอนเรียนก็เหมือนรักกันดี แต่พอถึงวันจบทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ งานศพย่าเพื่อนก็ไมไปแถมยังไม่มีน้ำใจจะใส่ซองหรือคำปลอบใจอีก"เราเสียใจด้วยนะปลายฝัน พรุ่งนี้เราก็จะกลับบ้านแล้ว เดียวรืนนี
3สอดรู้สอดเห็น"ยัยต้นข้าวนี้มันเล่นตัวนักนะ อุตส่าห์หาผู้ชายให้ทั้งคน ใครนะที่พี่ท๊อปบอกนั่น ชื่ออะไรนะ"น้ำมนต์กล่าวขึ้นหลังได้ฟังพี่กายเล่าให้ฟังว่าเพื่อนสาวทำแสบมาก"บิัวตี้เป็นกระเทยที่อยู่ใกล้ๆกับผับที่เราเข้านั้นแหละ หลอกให้ไปส่งยัยต้นข้าว และขับอ้อมเมืองเพื่อมาส่งนางที่หอข้างผับ ตลกไหมล่ะเพื่อนเธอ"กายพูดขึ้น"บิ้วตี้นี้มันเพื่อนปลายฝันนิไปรู้จักกับต้นข้าวได้อย่างไรกัน หรือยัยปลายฝันมันไม่ได้กลับบ้านมันจริงๆแต่ไม่อยากไปกินเลี้ยงกับเราเลยไปอยู่กับบิ้วตี้แล้วให้บิ้วตี้มาป่วนพี่ท๊อปเพราะมันรู้เรื่องของเราจากต้นข้าว แล้วไม่พอใจ แน่ทำไมสองคนนี้ร้ายจัง"น้ำมนต์กล่าวออกไปเพราะตัวเองคิดแบบนั้น"ปลายฝันเราขอบคุณแกเรื่องเมื่อคืนด้วยนะที่บอกให้บิวตี้มาส่งเรานั่นนะ แล้วเรามีอะไรจะเล่าให้เธอฟัง"ต้นข้าวพูดคุยกับปลายฝันทางโทรศัพท์"จร้ามีอะไรหรือป่าว บิ้วตี้เองก็บอกว่าไม่ได้อะไรมากหรอกได้นั่งรถชมเมืองอีกด้วย"ปลายฝันถามขึ้น"เรื่องของเพื่อนๆเรานั้นแหละเราว่า เขาไม่ได้โอเครกับเราตั้งแต่แรกแล้วป่ะ อันนี้เราไม่ได้จะปั่นอะไรนะ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนพาแฟนมาหมดและมีผู้ชายเพื่อนพี่กายอีกสองคน ซึ่งมอ
4แม่เลี้ยงนวลจันทร์เช้าวันถัดมาต้นข้าวก็มาถึงและขอพักที่บ้านปลายฝันเพราะทางมาจากบ้านตัวเองก็ไกลอยู่พอสมควร และเธอเองกะจะอยู่จนงานจบแล้วค่อยกลับ "ปลายฝันขอแสดงความเสียด้วยอีกรอบนะแก "ต้นข้าวกล่าวขึ้นอีกรอบเมื่อเจอหน้ากันเพื่อน"จร้ารู้แล้วล่ะ แค่แกมาก็ขอบคุณมากแล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น"เราได้งานที่ตัวอำเภอพอดีพ่อหาไว้ให้นะ แกเสร็จจากงานย่าแก่แล้วก็ลองหาแถวๆนี้ดูนะถ้าไปได้เดียวให้พ่อหาให้ เราว่าอยู่ใกล้บ้านจะได้ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางด้วย ตอนไปเรียนก็ไปอยู่กรุงเทพใช้เงินเป็นว่าเล่นเลย ต่อไปนี้ก็ต้องหาเงินแล้วล่ะ"ต้นข้าวพูด เรื่องของคนบ้านนอกก็แบบนี้ ไม่ค่อยมีทรัพย์มากมาย ลงทุนกับการเรียนจบแล้วก็ต้องรีบทำงาน"เราก็กะว่าจะหาแถวนี้หล่ะจะได้ดูแลพ่อกับแม่ด้วย ทีแรกรู้ว่าเราเรียนจบแล้วเราจะมาดูแลย่าที่โรงพยาบาลเพราะย่าก็นอนโรงพยาบาลมาได้สักปีแล้วล่ะ ก่อนที่ท่านจะเสียนะแต่ตอนนี้ก็เหลือแต่พ่อกับแม่แล้ว"ปลายฝันกล่าวขึ้น ทั้งสองช่วยกันจัดโน้นจัดนี่บ้าง บางครั้งก็เข้าครัวเพื่อจะทำอาหารบ้าง ช่วยหั่นผักล้างจานที่แขกมาช่วยงานกินเสร็จ จึงทำให้ไม่มีเวลาที่จะให้พวกญาติๆสอบถามเรื่องส่วนตัวของปลา
สงสัย"พ่อแม่เลี้ยงคนนั้นเขาเป็นใครหรือ ทำไมเขาสนใจในตัวหนูจังแล้วก็มาพูดกับหนูแปลกๆว่าเขารู้จักกับย่าและเขาก็สนิทกับย่าด้วย แล้วเขาก็พูดว่าเดี๋ยวเสร็จงานส่งย่าแล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน หนูก็ไม่ได้สอบถามเขาหรอกว่าคุยเรื่องอะไร"ปลายฝันเดินมาถามพ่อ"แม่เลี้ยงคนนั้นก็ชื่อนวลจันทร์ไง เขาเป็นผู้ที่ออกค่ารักษาให้ย่าแกจนถึงวินาทีสุดท้าย พ่อก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่วันนี้เองตอนพ่อได้เก็บจดหมายของย่าแกเมื่อครั้งที่มาจัดงานศพแล้ว ก็มีผู้คนช่วยเก็บของและจดหมายถึงเอามาให้พ่อเพราะข้างในมันเกี่ยวกับแม่เลี้ยงนวนจันทร์แล้วก็ย่าแก พ่อจึงโทรบอกเขาเพื่อมาล่ำลาย่าแกเป็นครั้งสุดท้าย เอาเป็นว่าเสร็จสิ้นงานแล้วเดี๋ยวเราก็มาเปิดจดหมายอ่านกันตอนนี้ไปช่วยทางโน้นเขาจัดการในครัวก่อนเถอะ อีกไม่เท่าไรพระสวดก็จะสวดแล้ว แล้วเรื่องซองพระสวดนะไปดูแม่ด้วยว่าจัดการแล้วหรือยัง เดี๋ยวพ่อจะไปดูที่จอดรถเห็นว่าเมื่อคืนมีที่จอดรถไม่พอ"พ่อรีบกล่าวขึ้นแล้วจากไป ปลายฝันก็เร่งรีบที่จะไปทำงานของตนเหมือนกันจึงไม่ได้สนใจอะไร คนที่พ่อเรียกว่าแม่เลี้ยงกับพ่อเลี้ยงนั้นกลับได้ตอนที่พระสวดเสร็จแล้ว และวันต่อมาก็มานั่งฟังพระสวดอีกแต่วั
"สวัสดีค่ะ"ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง"สวัสดีจร้า"เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"ปลายฝันปฏิเสธออกไป "ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ"เรื่องอะไรหรือพ่อ"ปลายฝันถามขึ้น"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย"อะไรนะค่ะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชา
เมื่อกลับไปถึงโรงแรมที่พักผู้เป็นลูกก็เรียกแม่เพื่อที่จะคุยเรื่องแต่งงานนี้"แม่ก็ดูท่าทีเด็กนั้นก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับผมเสียหน่อยแม่ลองเอาแบบนี้ดีไหมล่ะ ให้เขาติดหนี้เราไปก่อนถ้าเขายังไม่มีเงินจ่ายแล้วค่อยทยอยจ่ายภายหลังไม่ใช่ไปบังคับให้เขาแต่งงานแบบนั้นผมรู้สึกสงสารเขานะแม่"ตะวันพูดขึ้นเพราะตัวเองก็ไม่ต้องการที่จะถูกบังคับแต่งงานแต่อย่างใด แต่เรื่องเงินนั้นสำคัญเพราะว่าแม่บอกว่าถ้าเขาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่ก็จะไม่ให้เงินเขาใช้ ส่วนไร่ที่ตนเป็นคนทำนั้นเขาเองก็ไม่ได้รับเงินอยู่แล้ว แม่คอยจ่ายค่าคนงานในไร่ให้และจัดแจงค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมไปถึงรายเดือนที่ตะวันเองใช้จ่ายด้วย ซึ่งถ้าตนไม่มีเงินส่วนที่แม่ก็จะไม่มีเงินลงทุนผับที่ตัวเองแอบเปิด แต่ถ้าได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้แม่บอกว่าจะยอมให้เขาลองบริหารเงินของตัวเอง ตนจึงต้องตอบตกลงและตามแม่มาที่นี่"แกสงสารเขาหรือ ยิ่งแก่สงสารเขาแกก็ต้องรีบแต่งงานกับเขาเพื่อที่จะได้ยกฐานะของครอบครัวเขาให้สูงขึ้น เพราะถ้าเขาแต่งงานกับแกแล้วแม่ก็มีเงินให้กับครอบครัวเขาโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าให้ไปฟรีๆเขาก็จะคิดมาก ครอบครัวเราก็มีพร้อมแล้วแกเองก็จะ
เมื่อคนของแม่เลี้ยงลากปลายฝันเข้าห้อง ก็ทิ้งปลายฝันไว้ตรงประตูห้องโดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าห้องเลยแม้แต่นิดเดียวเขาทิ้งปลายฝันไว้อย่างนั้น โดยที่ไม่ได้ลากปลายฝันขึ้นเตียงพวกเขาจึงไม่รู้ว่าในห้องนั้นมีคนอยู่แล้ว พวกเขาก็ล็อคห้องไป หลังจากที่ปลายฝันรู้สึกตัวก็รู้สึกร้อนๆเขาจึงพยายามดึงเสื้อของตัวเองออกแล้วก็แนบกับพื้นห้องที่เย็นๆรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ปลายฝันต้องการน้ำเขาต้องการเข้าไปในห้องน้ำเพื่อแช่น้ำให้ตัวเย็นขึ้นปลายฝันถึงเดินสะเปะสะปะแต่ก็ไปสะดุดอยู่ที่เตียงจึงลมลงและก็ทับไปบนตัวของตะวันที่ตัวเย็นจากการตากแอร์อยู่ ตะวันเองไม่ชอบใส่เสื้อนอนอยู่แล้วพอร่างที่ร้อนของปลายฝันถูกกับความเย็นของตะวันเธอก็ได้ใจ ความแนบชิดของทั้งสองที่ไม่รู้ตัว ฤทธิ์ยาในตัวของปลายฝันก็รุนแรงมากขึ้นทำให้เธอร้อนรนไปหมด ประจวบด้วยที่เธอต้องการความเย็นในตัวตะวัน ทางด้านตะวันก็สลึมสลือด้วยความเมาเมื่อร่างอุ่นๆเข้ามาปะทะก็เกิดความรู้สึกดี หญิงสาวที่อยู่ไม่สุขถูไถไปบนร่างชายหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่หลับอยู่ดีๆก็ฟุ้มซานขึ้น ขนาดนอนอยู่ยังฝันดีขนาดนี้ ปากของทั้งคู่ประกบกันทำให้ตะวันตื่นเต็มตาพร้อมด้วยแรงปรารถนาในกายก็ตื่นขึ้น
"เมื่อกี่เห็นพ่อเลี้ยงนั่งอยู่ข้างบนนั้นมองมาที่พวกเราด้วย พอเขาเห็นเราเขาก็หันหน้าหนีไป เขาไม่ต้องการให้เราเห็นหรือว่าอะไรอะต้นข้าว"ปลายฝันถามเพื่อนอย่างไม่ค่อยเข้าใจ"คนข้างบนคือพ่อเลี้ยงตะวันหรือที่นั่งกับบอสมานพอะนะ เข้ารู้จักกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้นอย่างอยากรู้ แต่คนที่นั่งกับบอสนั้นก็มองปลายฝันเหมือนสนใจอยู่นะ ใช่พ่อเลี้ยงของปลายฝันจริงๆหรือ"แกรู้จักคนนั้นด้วยหรือ สงสัยจะมาปรึกษากันเรื่องไร่แน่เพราะว่าเดือนหน้าพ่อเลี้ยงก็ต้องจ่ายเงินคนงานที่ไร่เองแล้วเขามีที่ปรึกษาดีก็ดีแล้วแหละ"ปลายฝันพูดขึ้น"ทั้งสองจะมีเรื่องปรึกษาอะไรกันล่ะในเมื่อบอสมานพก็ทำงานอยู่ที่นครพนมส่วนพ่อเลี้ยงก็ทำงานอยู่เชียงใหม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันหรือ"ต้นข้าวถามขึ้น"เราว่าเหมือนท่าทางเขาจะเป็นเพื่อนกันนะ เหมือนจะสนิทสนมกันยังไงก็ไม่รู้ที่เราแอบมองอะนะ แต่ช่างเถอะยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเราหรอกเนาะ"ปลายฝันพูดขึ้น"ออกไปจากนี้แล้วก็กลับกันเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วแหละเกือบจะตีสองแล้วผับปิดกี่โมงนะ ไม่รู้ว่าพี่ชาติจะขับรถเข้าไร่ได้หรือเปล่าเดี๋ยวพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาจะกลับไร่พร้อมแกไหม"ต้นข้าวพูดขึ้น"ไม่หรอกพ่อเ
ตอนเช้าปลายฝันกับต้นข้าวตื่นขึ้นก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงและก็พากันนำกับข้าวไปใส่บาตที่วัดใกล้ๆก่อนที่จะไปเที่ยวกันต่อ ทั้งสี่ไปเที่ยววัดกันสักพักก็เตรียมตัวไปที่ผับเพราะการเดินทางจากทางไร่ไปหาตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาพอสมควร พวกเขาพากันแวะนมัสพระที่วัดโมฬีกับวัดป่าดาราภิรมย์เท่านั้น และก็ไปยังตัวเมืองเชียงใหม่เลยแต่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทีแรกทั้งสี่จะเข้าไปในผับทั้งสี่คนเลย แต่พอจะเข้าผับพี่พลอยก็เห็นรถของพ่อเลี้ยงตะวันจึงขอตัวไปหาโรงแรมพักรอทั้งสองคน พอทั้งสองเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆหลายๆคนอยู่ที่นั้นแล้ว น้ำมนต์มากับพี่กายและเพื่อนพี่กายอีกคน และพี่ท๊อป ส่วนเมษากับนฤมลน่าจะมากับแฟน"มาเร็วปลายฝัน ต้นข้าว ทางนี้พวกเรารออยู่"นฤมลเรียกทั้งสอง"อ้าวปลายฝันเห็นแต่งงานแล้วนิ ไม่พาสามีเธอมาด้วยล่ะ แต่งกับใครนะเราก็จำไม่ได้แต่เห็นจัดงานใหญ่โตเลย แถมไม่ชวนพวกเราด้วยนิ"น้ำมนต์พูดขึ้น ทำให้คนทั้งสองที่พึ่งเดินเขามาอึดอัด ความจริงทั้งสองไม่คิดว่าทุกคนจะพาแฟนมาด้วย"ก็แต่งงานแล้วนั่นแหละแต่ไม่คิดว่าทุกคนจะพาคนอื่นมาด้วยนี่นึกว่าจะมาแค่เพื่อนเราเท่านั้น"ต้นข้าวพูดขึ้น"ต้นข้าวแกว่าใครคนอื่นนี่ก
พอถึงวันหยุดยาวของปีใหม่จริงๆตะวันก็เกิดความเครียดด้วยเรื่องของเงินที่ไม่มีจ่ายให้คนงานในเดือนหน้า ดีหน่อยที่ปลายปีนี้แม่ของเขาได้จ่ายเงินเดือนพร้อมกับโบนัสให้คนงาน ทุกคนรวมกับเขาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้ผับกำลังจะไปได้สวยแต่การลงทุนมันยังต้องการเพิ่มอยู่มาก เขาไม่สามารถเอาเงินส่วนนี้ออกไปจ่ายค่าคนงานในไรได้เลย เขาต้องการปรึกษาสักคนที่ไว้ใจได้ เขามีเพื่อนแค่คนเดียวคือมานพซึ่งมานพนั้นก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรต่างกันตรงที่มานพเคยบริหารตัวเองแล้วล้มเหลวจนต้องให้ผู้เป็นแม่คอยชักจูงตลอดซึ่งตอนนี้มานพมีบริษัทเป็นของตัวเองซึ่งอยู่ที่นครพนมถึงแม้จะเป็นเจ้าของบริษัทแต่เขาก็ทำงานไม่ต่างจากตนเลยสักนิด เขาจึงนัดมานพมาคุยกับเขาในผับตอนสิ้นปี"ว่ายังไงร้อยวันพันปีไม่เคยจะคิดโทรมาหากูวันนี้มีเรื่องอะไรหรือ"มานพถามเพื่อนรักขึ้น"กูมีปัญหานิดหน่อยว่ะตอนนี้กูกำลังทำผับเองที่เมืองเชียงใหม่ แต่กูมีปัญหาเรื่องการเงินซึ่งกูไม่ใช่ว่าจะทำผับอย่างเดียว ต้องทำไร่ส้มด้วยและแม่เลี้ยงก็ให้เงินมาก้อนหนึ่งแล้วกูก็ไปลงผับหมดเลย แล้วซึ่งกูคิดว่ามันจะได้กำไรมาจ่ายค่าแรงของคนงานในไร่ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วกูได้แค่ทำงานในผับวนอย
เมื่อของขวัญรับรู้เรื่องสิตาทำงานพลาดก็โกรธ สิตาไม่ได้ทำงานพลาดธรรมดา แต่เขาโง่เองที่ไม่รู้ว่าปลายฝันไม่เคยไปยุ่มย่ามในห้องของตะวันเลย ส่วนสิตาน่าจะคิดไม่ทันเพราะเขาสั่งไปแบบนั้น แต่ยังไงก็โทษสิตานั้นแหละที่โง่"ตะวันค่ะสิ้นปีนี้ขวัญจะกลับไปอยู่ที่ไทยแล้วนะค่ะ แล้วคุณกับเด็กนั้นจะหย่ากันตอนไหนห รือค่ะ ถ้าขวัญกลับไปจะได้อยู่กับคุณหรือป่าวค่ะ"ของขวัญกล่าวขึ้นเมื่อโทรหาตะวัน"คุณจะกลับมาทั้งครอบครัวเลยหรือป่าวครับ"ตะวันถามขึ้น"ค่ะ ขวัญจะกลับไปทั้งครอบครัวเลย"ของขวัญตอบ เขาเองก็ไม่อยากจะหลอกตะวันแล้วว่าเขาไปอยู่ต่างประเทศกับพ่อแม่ ทั้งที่พ่อแม่เขาอยู่ที่ไทย"ครับงั้นคุณกลับมาก็อยู่กับพ่อกับแม่คุณสิครับ คุณก็รู้นิเรื่องแม่เลี้ยงไม่ให้คุณเข้าไร่"ตะวันพูดขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ เพราะตัวเขาเองรู้ดีว่าเรื่องที่สิตาทำนั้น เป็นสิ่งที่ของขวัญเองให้สิตาทำเอาจริง ๆ สิตาไม่ได้มีปัญหาอะไรกับปลายฝันเลยแม้แต่น้อย และถ้าให้สิตาทำเอง สิตาคงจะคิดให้ดีกว่านี้เพราะเขาเองก็รู้ว่าปลายฝันไม่เคยเข้าห้องตะวันเลย ทำแบบนี้มันก็จะจับได้อยู่ดี"ตะวันค่ะ เหมือนคุณจะไม่รักขวัญแล้วนะคะ ไหนคุณว่าจะทำอะไรเพื
ตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นปลายฝันก็ไม่ได้เข้าออฟฟิตอีกเลย เหมือนเขาจะพยามยามหลบหน้าพ่อเลี้ยงอีกด้วย กิจวัตประจำวันของเขาคือทำกับข้าวเช้าเย็น และตอนกลางวันทำงานในไร่ ปลายฝันไม่เคยกินข้าวเที่ยงที่ทางไร่ทำขึ้นให้เลย เธอจะห่อข้าวไปกินใต้ต้นส้มคนเดียวทุกวัน คนงานทุกคนในไร่ปฎิบัติกับเขาดีขึ้นทุกคน ปลายฝันตั้งใจทำงานของตัวเองจึงทำให้ทุกคนใจไร่เห็นใจกว่าเดิมอีก พ่อเลี้ยงตะวันพยายามที่จะขอโทษปลายฝันอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล อาจเป็นเพราะพ่อเลี้ยงไม่เข้าหาปลายฝันเองด้วย และปลายฝันก็หลบหน้าพ่อเลี้ยง เมื่อตำแหน่งบัญชีของไร่ว่างและรอปลายฝันเข้ามาทำ แต่ปลายฝันก็ปฏิเสธที่จะทำเพราะเมื่อเดือนที่แล้วมีปัญญากับพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจึงสั่งให้พนักงานบัญชีจากไร่ใหญ่เข้ามาทำให้ โดยไม่ให้คนงานต้องรอเงินเดือนเพียงเพราะเจ้าของไร่ทั้งสองทะเลาะกัน ทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจอย่างมากแทนที่แม่เลี้ยงจะสั่งให้ปลายฝันเข้ามาทำบัญชีแต่กลับให้คนของตัวเองมาทำ เหมือนแม่เลี้ยงไม่ปล่อยโอกาสให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเลย ปลายฝันก็พลอยหลบหน้าพ่อเลี้ยงตะวันตลอด ถึงงานจะทำได้ดีแต่ไม่ปล่อยโอกาสให้พ่อเลี้ยงเข้าใกล้เพื่อขอโทษจนหนึ่ง
"แม่จะพูดอะไรของแม่ครับ แม่รับไม่ได้หรือที่ลูกสะใภ้สุดที่รักของแม่คิดจะโกงไร่ ซึ่งเป็นเงินของแม่เลี้ยงเองด้วย"ตะวันพูดด้วยความโมโห ตอนนี้มินร้องไห้หนักมาก"วันก่อนตอนกลางคืนปลายฝันได้โทรมาคุยกับแม่เลี้ยงเพื่อที่จะขอร้องให้แม่เลี้ยงจ่ายเงินคนงานทั้งไร่ เพราะแม่ได้โอนให้พ่อเลี้ยงตะวันมาบริหารไร่เองแล้ว แต่พ่อเลี้ยงกลับใช้จ่ายเงินหมด ปลายฝันเองจึงให้แม่เลี้ยงช่วยจ่ายให้ไร่ก่อน และได้ส่งข้อมูลการใช้จ่ายเงินเดือนให้แม่เลี้ยงตอนสองทุ่มครึ่ง แม่เลียงเลยส่งให้ฝ่ายบัญชีไร่ใหญ่เลยตอนสองทุ่มสามสิบห้า แม่เลี้ยงและฝ่ายบัญชีของไร่ใหญ่เช็คตอนแปดโมงจนจะอนุมัติเงินอยู่แล้ว ก็มีอีเมลของไร่ตะวันรายงานรายจ่ายเข้าไปอีกตอนแปดโมงครึ่งทำให้ฝ่ายบัญชีเกิดกการสับสน แม่เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงได้โทรมาถามพ่อเลี้ยงตะวัน เพราะแม่เลี้ยงคิดว่า พ่อเลี้ยงตะวันต้องใช้เงินส่วนนี้ทำอะไรโดยที่ปลายฝันไม่รู้หรือป่าว เพราะปลายฝันรายงานจำนวนเงินก่อนหน้านี้แล้ว และอีกห้าหมื่นนั่นต้องอนุมัติภายหลังแม่เลี้ยงแค่โทรมาถาม แม่เลี้ยงไม่คิดเลยว่าเหตุการจะเลยเถิดขนาดนี้ ถ้าแม่เลี้ยงไม่จัดการอะไรเลยทุกคนก็จะคิดว่าเป็นความผิดของปลาย
แม่เลี้ยงแค่ตรวจสอบก็พบว่าเมล์ที่ส่งมาตอนแปดโมงครึ่งนั้นถูกทำใหม่และส่งมาที่ไร่ใหญ่ และปลายฝันเองไม่มีเมล์ของไร่ซึ่งอันนี้ต้องเป็นพนักงานบัญชีของไร่ตะวันที่ทำมาส่ง แต่ที่ปลายฝันส่งให้ตอนกลางคืนที่คุยกันเสร็จมันอันที่ไร่ตะวันส่งมาให้ไร่ใหญ่ตอนบ่ายๆ และวันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่เพราะตะวันให้พักผ่อนอยู่ที่บ้าน ต้องเป็นคนที่อยู่ในออฟฟิตที่ส่งมาให้ไร่ใหญ่เป็นแน่ เรื่องนี้ต้องมีอะไรสักอย่างเป็นแน่ แม่เลี้ยงเลยตรวจดูบัญชีเก่าๆก็ไม่พบสิ่งที่ผิดพลาดใดๆ ไม่มีการรายงานเงินเกิน จึงคิดที่จะสืบดูข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่ทำบัญชีของไร่ตะวัน คนนี้ก็เคยทำงานมาสักพักใหญ่แล้วนิ แม่เลี้ยงจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและพิมข้อความอะไรสักอย่าง และวางโทรศัพท์ลง"ครับแม่เลี้ยง"เสียงตนสายเอ่ยขึ้น"ใครทำบัญชีให้ไร่ตะวัน ทำไม่เดือนนี้เกิดผิดพลาดขึ้นได้"แม่เลี้ยงถามขึ้น"ทุกที่จะเป็นคุณมินครับแต่เห็นเมื่อวานคุณปลายฝันมาทำให้ และคุณมินก็หยุดงานไปครับ ผมก็รู้แค่นี้ครับ"เสียงคนรายงานให้แม่เลี้ยงรู้"วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอ"เสียงแม่เลี้ยงถามขึ้น"ไม่เห็นคุณปลายฝันเข้ามานะครับ และช่วงเกือบเที่ยงเห็นพ่อเลี้ยงรีบๆขับร
เช้าวันต่อมาปลายฝันก็ทำอาหารแต่เช้าพอเสร็จสิ้นก็ตั้งใจจะออกไปไร่เลย วันนี้เธอรู้สึกแปลกๆ ตาขวากระตุกแปลกๆ พอเธอจะอาศัยรถกระบะคนงานรอบเช้าไปด้วย คนงานก็บอกว่าให้ปลายฝันรอพ่อเลี้ยง เพราะพ่อเลี้ยงต้องการคุยด้วย พอปลายฝันพบกับพ่อเลี้ยงแล้วพ่อเลี้ยงก็บอกข่าวดี เรื่องที่แม่เลี้ยงจะจัดการเรื่องการเงินให้และวันนี้ให้ปลายฝันหยุดพักผ่อน พรุ่งนี้ค่อยไปทำงาน พอพ่อเลี้ยงออกไปไร่ก็พบว่าวันนี้มินกลับมาทำงานแล้ว มินมองซ้ายมองขวาไม่เห็นปลายฝันก็อดเสียใจเล็กน้อย เขาต้องการเห็นปลายฝันที่เมื่อวานทำบัญชีไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เขาไม่ได้ให้อีเมลไร่ใหญ่ไปปลายฝันไม่น่าจะส่งข้อมูลให้แม่เลี้ยงได้ เขาเลยแปลงข้อมูลนิดหน่อยและส่งให้แทน ปกติต้องส่งรายจ่ายตั้งแต่เมื่อวานเพราะว่าวันนี้แม่เลี้ยงต้องจัดการ และวันสิ้นเดือนเงินก็เข้าบัญชีพนักงานทุกคน"วันนี้พนักงานบัญชีคนใหม่ไม่มากหรือค่ะพอดีว่ามินไม่ได้สอนงานน้อง น้องน่าจะยังไม่ได้ส่งเมลให้แม่เลี้ยงตั้งแต่เมื่อวานแน่เลยคะ ครั้งนี้เงินอาจจะออกล่าช้า พ่อเลี้ยงต้องแจ้งพนักงานล่วงหน้าหรือป่าวคะ"มินพนักงานบัญชีภายในไร่ถามขึ้น"คงส่งไปแล้วล่ะ วันนี้ปลายฝันไม่ได้เข้าไร่หรอก เด