งานเลี้ยงปีใหม่

ตอนเช้าปลายฝันกับต้นข้าวตื่นขึ้นก็ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงและก็พากันนำกับข้าวไปใส่บาตที่วัดใกล้ๆก่อนที่จะไปเที่ยวกันต่อ ทั้งสี่ไปเที่ยววัดกันสักพักก็เตรียมตัวไปที่ผับเพราะการเดินทางจากทางไร่ไปหาตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาพอสมควร พวกเขาพากันแวะนมัสพระที่วัดโมฬีกับวัดป่าดาราภิรมย์เท่านั้น และก็ไปยังตัวเมืองเชียงใหม่เลยแต่ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทีแรกทั้งสี่จะเข้าไปในผับทั้งสี่คนเลย แต่พอจะเข้าผับพี่พลอยก็เห็นรถของพ่อเลี้ยงตะวันจึงขอตัวไปหาโรงแรมพักรอทั้งสองคน พอทั้งสองเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆหลายๆคนอยู่ที่นั้นแล้ว น้ำมนต์มากับพี่กายและเพื่อนพี่กายอีกคน และพี่ท๊อป ส่วนเมษากับนฤมลน่าจะมากับแฟน

"มาเร็วปลายฝัน ต้นข้าว ทางนี้พวกเรารออยู่"

นฤมลเรียกทั้งสอง

"อ้าวปลายฝันเห็นแต่งงานแล้วนิ ไม่พาสามีเธอมาด้วยล่ะ แต่งกับใครนะเราก็จำไม่ได้แต่เห็นจัดงานใหญ่โตเลย แถมไม่ชวนพวกเราด้วยนิ"

น้ำมนต์พูดขึ้น ทำให้คนทั้งสองที่พึ่งเดินเขามาอึดอัด ความจริงทั้งสองไม่คิดว่าทุกคนจะพาแฟนมาด้วย

"ก็แต่งงานแล้วนั่นแหละแต่ไม่คิดว่าทุกคนจะพาคนอื่นมาด้วยนี่นึกว่าจะมาแค่เพื่อนเราเท่านั้น"

ต้นข้าวพูดขึ้น

"ต้นข้าวแกว่าใครคนอื่นนี่ก็แฟนพวกเราและนี่ก็เพื่อนพี่กายจะเป็นคนอื่นได้อย่างไร"

น้ำมนต์พูดขึ้น

"อย่ามาทะเลาะกันดีกว่า มาดื่มกันดีกว่าเราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะปลายฝันงานแต่งแกพวกเราก็ไม่ได้ไปยังดีหน่อยที่แกมาพบกับพวกเราในวันนี้ได้"

เมษาพูดขึ้น

"พอดีว่าเราเห็นว่าพวกเธอเหมือนจะไม่ว่างน่ะ หลังจากเรียนจบก็น่าจะต้องหางานทำก็เลยยังไม่ได้คิดที่จะชวนใครแต่พอดีว่าต้นข้าวก็ว่างอยู่ต้นข้าวก็เลยมาร่วมงานนะ"

ปลายฝันกล่าวขึ้น

"นางเองไม่ได้ชวนเราไปงานแต่งของนางหรอกเราเองนั่นแหละที่ไปเอง รวมกับงานศพของญาติปลายฝันด้วย"

ต้นข้าวพูดขึ้น

"จ้าต้นข้าว ขอบใจแกมากเลย"

ปลายฝันขอบใจต้นข้าวอีกรอบที่ทั้งช่วยงานศพย่าและงานแต่งของเธอ

"ไม่ต้องพูดถึงงานศพงานแต่งอะไรแล้วแหละ มันก็เลยมาแล้วพวกเราก็ขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้ไปช่วยงานศพย่าแกน่ะ พอดีพวกเราก็เพิ่งเรียนจบก็เหมือนที่ปลายฝันบอกนั่นแหละว่าต้องวุ่นกับการหางานทำ ตอนนี้มานั่งดื่มกันดีกว่าแล้วก็มาอัพเดทกันดีกว่าว่าชีวิตเราเป็นยังไงกันบ้าง ต้นข้าวล่ะแกมีแฟนหรือยังแกไม่สนใจคนแถวนี้หรอกหรือ"

เมษากล่าวขึ้นพลางมองไปยังต้นข้าวและพี่ท๊อป

"ต้นข้าวมีแฟนแล้วนี่ ก็คนที่ทำงานด้วยกันนั่นแหละพวกแกนี้ก็สรรหาแฟนให้คนอื่นจังเลยนะที่ต้นข้าวไม่พาแฟนมาก็เพราะว่าเราสองคนคิดว่าพวกเราจะมาเจอกันแค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆเลยไม่ได้ชวนทางบ้านมาด้วย"

ปลายฝันยื่นยันอีกเสียงถึงเหตุผลที่ไม่พาแฟนมา ต้นข้าวเองก็ไม่น่าจะมีแฟนหรอกเพราะว่าถ้ามีอะไรต้นข้าวจะเล่าให้ปลายฝันฟังเสมอ แต่ครั้งนี้ไม่เคยเล่าถึงผู้ชายคนไหนแต่ที่ปลายฝันพูดไปอย่างนั้นเพราะไม่ต้องการให้ทุกคนคิดว่าต้นข้าวไม่มีแฟน แล้วต้องการที่จะจับคู่ให้เพื่อนรักเพราะปลายฝันอยากให้ต้นข้าวเลือกแฟนเองไม่ใช่แบบที่ตัวเองเป็น

"อ้าวมีแฟนแล้วหรือก็ไม่เคยเห็นลงรูปคู่ด้วยกันนะปลายฝันก็เหมือนกันแต่งงานก็ไม่เห็นเธอจะลงเฟส อะไรเลยทำไมหรือมันเป็นความลับอะไรหรอ"

น้ำมนต์พูดขึ้น

"มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรนี่ ถ้าเป็นความลับมันจะมีข่าวออกมาใหญ่โตขนาดนั้นหรือแกนี่ก็"

ต้นข้าวพูดขึ้น

"เราก็ไม่ค่อยชอบอัพเดทชีวิตประจำวันอยู่แล้วนี่เมื่อวานเราก็ไปเที่ยวกับต้นข้าวเราก็ไม่ได้เห็นลงรูปอะไรเลยนี่เพราะเราไม่ต้องทำงานเกี่ยวกับพวกโซเชียลนะ"

ปลายฝันพูดขึ้น

"แล้วพวกแกทำงานอะไรกันบ้างล่ะปลายฝันก็เป็นแม่บ้านอย่างเดียวส่วนเราก็ทำที่บริษัทแถวบ้าน"

ต้นข้าวพูดขึ้น

"แกจบไปแล้วแกก็ทำงานที่บริษัทเดียวเลยหรือตั้งแต่แรกที่จบไปนั้นตั้งหลายเดือนแล้วนะ"

น้ำมนต์พูดขึ้น

"ก็ใช่น่ะสิพอจบแล้วเราก็ไปสมัครงานที่บริษัทแถวบ้านเพราะเขารับเข้าทำงานก็ทำยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้นั่นแหละ แล้วแกล่ะเราเห็นในเฟสแกย้ายมา 3-4 ที่แล้วนี่ทำงานมันไม่โอเคหรือว่าอย่างไรถึงย้ายบ่อยจัง"

ต้นข้าวถามน้ำมนต์ขึ้น แล้วจะให้น้ำมนต์บอกกับเพื่อนๆได้อย่างไรว่าเข้าไปทำงานที่ไหนก็ถูกให้ออกที่นั่น เพราะประสบการณ์ด้านการงานของตนไม่มีเลยด้วยซ้ำ และความรู้ของตนนั้นในคาบเรียนก็ต้องพึ่งต้นข้าวกั บปลายฝัน ทั้งนั้นส่วนการบ้านก็ไม่ค่อยทำอยู่แล้วจึงทำให้เขาได้เจอกับปัญหาแบบนี้แล้วจะบอกใครได้ล่ะ

"พอดีน้ำมนต์ต้องย้ายตามพี่นะครับพี่ทำงานไม่เป็นที่เพราะพี่ย้ายไปอยู่ไหนน้ำมนต์ก็ไปที่นั่น"

กายพูดขึ้นเพื่อปกป้องแฟนสาวแต่ความจริงเขาก็รู้อยู่แล้วว่าน้ำมนต์ย้ายงานเพราะอะไร

"ย้ายตามพี่กายหรือคะ แต่ที่หนูเห็น ก็เห็นว่าน้ำมนต์ก็ทำงานแถวๆเดียวกันนั่นนะคะแต่แค่ย้ายบริษัททำแค่นั้นเอง"

ต้นข้าวพูดต่อพลางจิบไวน์ เล็กน้อย เพราะต้นข้าวรู้อยู่แล้วว่าน้ำมนต์ทำงานไม่ได้จึงต้องเปลี่ยนบริษัทอยู่เรื่อยๆแต่เขายังมีหน้ามาถามต้นข้าวอีกว่าทำงานตั้งหลายเดือนแล้วยังไม่ย้ายไปที่อื่นอีก

"โถ่ต้นข้าวใครจะเหมือนแกกับปลายฝันล่ะทำงานแต่ที่เดียว เขาก็ต้องหาประสบการณ์ทั้งนั้นแหละ แกทำที่เดียวจะมีประสบการณ์อะไรมากล่ะดูอย่างฉันสิตั้งแต่จบไปก็ทำงานแล้วสองที่"

นฤมลพูดอย่างภูมิใจ

"แล้วเมษาล่ะไม่เห็นอัพเดทชีวิตผ่านโลกโซเชียลบ้างเลยเหมือนเรากับต้นข้าวเลยที่ไม่ค่อยชอบอัพเดทชีวิตส่วนตัวสักเท่าไหร่ตอนนี้เธอทำงานอะไรหรือ"

ปลายฝันถามขึ้น เมษาที่วันนี้แต่งชุดเครสสายเดียวสีแดงสด และมีแหวกและเว้าตรงเอวนิดหน่อย

"เราก็ไม่ได้ทำอะไรหรอกตอนนี้เราก็เป็นแม่บ้านเหมือนปลายฝันนั่นแหละ แต่เราก็ยังไม่ได้แต่งงานหรอกเราอยู่กับพี่ป๊อปทำงานช่วยเขาล่ะส่วนมากก็จะหาสาวๆสวยๆมาถ่ายแบบหน่ะ"

เมษาบอกพลางมองไปดูพี่ป๊อปแฟนของตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังมองไปที่ปลายฝันอยู่และยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่พลางจิบไวน์เล็กน้อย เขากับแฟนหนุ่มทำธุกิจสีเทา หาผู้หญิงที่สวยๆให้คนรวยๆบ้าง วันนี้ปลายฝันใส่ชุดสีดำสนิทที่ตัดกับสีผิวขาวของเธอและแต่งหน้าจนมองไม่เห็นเค้าโครงเดิมเลยจนน่ามองยิ่งขึ้น ปลายฝันรู้สึกถึงสายตานั้นอยู่แต่ก็ไม่ยักจะสนใจ เพราะคิดว่าคงไม่มีอะไร เธอดืมเพียงเล็กน้อยก็จะกลับแค่นั้น ด้านบนของผับมีคนสองคนนั่งอยู่โต๊ะริมกำลังมองมายังทั้งสิบคน ชายหนุ่มนั่งดื่มเหล้าพลางมองลงไปปากก็พลามสารพัด

"มึงมองอะไรของมึงว่ะ เด็กนั้นหรือคนที่ใส่ชุดดำนะหรือก็น่ารักดีนะแต่มากับใครนั้นผู้หญิงที่ใส่ชุดสีเทาเข้มนั้น เหมือนพนักงานที่บริษัทเลย ยัยเด็กฝากต้นข้าวนิ มึงอยากเข้าไปทักหรือป่าวว่ะ"

มานพถามขึ้น

"ไม่อ่ะก็แค่ว่าเด็กคนนั้นหน้าตาคุ้นๆเฉยๆไม่ได้อะไรหรอก สนใจได้ที่ไหนล่ะ ไหนจะเมียที่บ้านไหนจะของขวัญอีก"

ตะวันพูดพลางดื่มเหล้าหมดแก้ว

"มากินกันเถอะ เรื่องของกูอีกยาวกูไม่ได้สนใจสิ่งนี้หรอก"

ตะวันพูดขึ้น ถึงแม้ในใจก็สนใจคนชุดดำนั้นไม่น้อย ปลายฝันมองไปยังคนที่อยู่ด้านบนก็ต้องตกใจเพราะเป็นตะวันกำลังมองมาและยกเหล้าดื่มอยู่ปลายฝันยิ้มให้เล็กน้อยตะวันก็หันหน้าหนี หรือว่าพ่อเลี้ยงไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามาจึงหันหน้าหนี ทางด้านพ่อเลี้ยงเมื่อปลายฝันยิ้มให้ก็ใจสั่นและหันกลับมากินเหล้าตัวเองต่อ ไม่ได้มองไปทางนั้นอีก แต่ก็มีเผลอๆมองบ้าง

"กูยังหาทางออกไม่ได้เลยว่ะว่าจะจัดการอย่างไร จะให้ไปขอร้องเมียให้ไปคุยกับแม่นั้นก็ไม่กล้ากูกับเขาไม่ได้คุยกันนานแล้ว"

ตะวันพูดขึ้นอย่างเมามาย วันนี้ตะวันเมาหนักมากจึงต้องเปิดห้องนอนที่นี่ ปลายฝันสะกิดต้นข้าวเพื่อชวนกันไปห้องน้ำ และทั้งสองก็เดินไปกัน เมษาจึงนำสิ่งของบางมาโรยใส่น้ำของทั้งสอง