Share

บทที่ 26

Author: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหรานกอดนางไว้ตามสัญชาตญาณ

ยามนี้นัยน์ตาดอกท้อเย้ายวนของนางลืมไม่ค่อยขึ้น จึงได้แต่พึมพำ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องสนใจข้า”

เมื่อพูดจบนางหลับตา แล้วหมดสติไปทันที

เยียนเซียวหราน “...”

หญิงสาวในอ้อมกอดอรชรบอบบาง เมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดเขา ราวกับไม่ค่อยมีน้ำหนัก

ตอนนางมีสติ ฉลาดมีไหวพริบ เมื่อยามหมดสติ กลับน่ารักน่าเอ็นดู

น้อยมากที่เยียนเซียวหรานจะใกล้ชิดหญิงสาวเช่นนี้ ความใกล้ชิดเดียวที่มีคือเมื่อสองปีก่อน

ยามนี้เมื่อนางตกอยู่ในอ้อมกอด นางได้กลิ่นหอมจางๆ ของกล้วยไม้จากตัวนาง

ขณะเดียวกัน ยังรู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของร่างนาง นั่นเป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากร่างของบุรุษอย่างสิ้นเชิง

เขารีบผละออกจากนางราวถูกไฟดูด ทว่าวินาทีที่ผละออกก็รีบดึงตัวนางกลับมาอีกครั้ง

องครักษ์หลายคนที่อยู่ข้างกันเบิกตาโต แต่ไม่มีใครกล้าพูดสิ่งใด

เยียนเซียวหรานหันมององครักษ์เหล่านั้น พวกเขารีบพากันถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นโบกมือพัลวัน “พวกเรายิ่งไม่ได้ขอรับ!”

“คุณชายสามรีบอุ้มองค์หญิงกลับไปที่ห้องเถอะขอรับ ดูเหมือนนางอาการไม่ค่อยดี”

เยียนเซียวหรานรู้ว่าตอนนี้ควรพานางกลับไปที่ห้อง แต่ว่า...

พวกองครักษ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 27

    แต่ซือเจ๋อเยว่ยังมีลมหายใจอยู่ ซ้ำยังพูดได้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์สายตาที่นางมองซือเจ๋อเยว่เต็มไปด้วยความสงสัย แล้วเอ่ยเสียงค่อย “ท่านย่า ข้าจะอยู่ดูแลองค์หญิง”เหล่าไท่จวินรู้ว่านางเป็นคนละเอียดอ่อน แม้จะไม่ช่ำชองในวิชาแพทย์แต่อย่างไรก็พอรู้ ให้นางดูแลซือเจ๋อเยว่จึงเหมาะสมที่สุดทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น เหล่าไท่จวินก็ยังกำชับนาง “เจ้าต้องตื่นตัวเสียบ้าง อย่านอนหลับลึก หากองค์หญิงไม่สบายตรงไหน เจ้าต้องรีบมาแจ้งข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าเหล่าไท่จวินไม่ค่อยวางใจจึงหันมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง ต่อมาจึงพาทุกคนออกจากห้องนางซือเจ๋อเยว่ไม่ได้ทรมานอย่างนี้นานแล้ว แขนขาล่องลอยไร้เรี่ยงแรง ร่างกายอ่อนปวกเปียก เหมือนแช่อยู่ในน้ำทั้งตัว กระทั่งหายใจติดขัดนางรู้สึกราวกับตัวเองกำลังตกลงไปในเหวลึก หินพิทักษ์ใจตรงหน้าอกร้อนวูบวาบ ร้อนจนนางรู้สึกทรมาน ทว่ากลับทำให้นางหายใจได้อีกครั้งมือเท้าของนางเย็นเฉียบ หนาวจนปวดร้าวไปถึงกระดูกร่างกายของนางกลายเป็นวงจรประหลาด แขนขาหนาวเย็น หน้าอกร้อนวูบวาบ ทั้งสองสิ่งปะทะกัน บางครั้งนางรู้สึกร้อนจนใกล้ตาย แต่บางครั้งก็รู้สึกว่าใกล้จะหนาวตายเช่นกันใน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 28

    เยียนเซียวหรานคำนึงถึงสถานะของทั้งสอง จึงดันซือเจ๋อเยว่ออก แต่นางกลับกอดเขาไม่ยอมปล่อยเขากลัวนางบาดเจ็บ จึงไม่กล้าออกแรงดึงนาง ดังนั้นนางจึงได้คืบเอาศอกนอนอยู่บนตักเขาเสียเลยเรื่องเช่นนี้เขากระดากปากที่จะพูดซือเจ๋อเยว่จับใจความสำคัญในคำพูดของเขา “เมื่อคืนข้าไข้ขึ้นสูงหรือ?”เยียนเซียวหรานหันมองนาง “องค์หญิงอาจจะไม่รู้ แต่ท่านนอนไปสองวันสองคืนแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”ไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้มาก่อน!เยียนเซียวหรานถามนาง “องค์หญิงมีอาจารย์ทั้งหมดกี่คน?”ซือเจ๋อเยว่ตอบทันควัน “เก้าคน”เยียนเซียวหรานตอบเสียงเรียบ “ยังดีที่มีแค่เก้าคน”ซือเจ๋อเยว่ไม่เข้าใจ “อะไรคือยังดีที่มีแค่เก้าคน?”เยียนเซียวหรานมองนางแล้วอมยิ้ม “ตอนองค์หญิงฝัน อาจารย์คนหนึ่งด่าไปสองชั่วยาม อาจารย์เก้าคนก็คือสิบแปดชั่วยาม”“หากมากกว่านี้อีกหน่อย แล้วด่ากันต่อไปเช่นนี้ ตอนตื่นมาลำคอขององค์หญิงอาจจะเสียหายไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ “...”ซือเจ๋อเยว่ “!!!”จู่ๆ นางพบว่าผิวเผินเยียนเซียวหรานดูเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ภายในกลับร้ายไม่เบาตอนนี้ลำคอของนางแห้งผาก นางอยากดื่มน้ำเยียนเซียวหรานยกน้ำมาหนึ่งถ้วย นางหันมองเข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 29

    ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่มีชีพจร นางหันมองอีกฝ่ายอย่างตะลึง “ทำไมองค์หญิงถึงไม่มีชีพจร?”ซือเจ๋อเยว่ดึงแขนเสื้อลง “ตำแหน่งชีพจรของข้าไม่เหมือนกับคนทั่วไป หากตรวจอย่างคนทั่วไป ไม่เจอชีพจรหรอก”ก่อนหน้านี้ตอนเยียนซุ่ยซุ่ยอ่านตำราแพทย์เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอของจริงนางถามซือเจ๋อเยว่ “แล้วชีพจรขององค์หญิงอยู่ที่ใด?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “ข้าเองก็ไม่รู้ ทว่าดูเหมือนอาจารย์ใหญ่ของข้าจะรู้ แต่เขาไม่บอกข้า”เยียนซุ่ยซุ่ยทำหน้าสงสัย ยังคิดจะช่วยนางหาตำแหน่งของชีพจร แต่กลับถูกปฏิเสธซือเจ๋อเยว่ถามเยียนเซียวหราน “ช่วงที่ข้านอนหลับ มีข่าวคราวจากศาลต้าหลี่บ้างหรือไม่?”เยียนเซียวหรานตอบ “มี เหวยอิ้งหวนเคยมาที่จวนอ๋องหนึ่งครั้ง คนชุดดำที่พวกเราจับได้ ถูกคนฆ่าตายระหว่างถูกส่งกลับไปที่ศาลต้าหลี่”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินเรื่องนี้ ไม่แปลกใจสักนิด “ฆ่าได้ดี หากเขาถูกฆ่า จะยิ่งยืนยันได้ว่ามีคนต้องการใส่ร้ายจวนเยียนอ๋อง”“เดิมทีเสด็จอายังสงสัยจวนเยียนอ๋อง ยามนี้เมื่อมีคนลงมือเล่นงานจวนอ๋อง ยิ่งเห็นได้ชัดว่าจวนเยียนอ๋องคือผู้บริสุทธิ์”ความจริง ตั้งแต่ตอนที่นางกับเยียนเซี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 30

    เยียนเซียวหรานรู้ว่าอาการป่วยของนางเมื่อวานประหลาดไม่น้อย ร่างกายนางดูอ่อนแออยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะแย่ถึงเพียงนี้เขาหันมองซือเจ๋อเยว่อย่างอดไม่ได้ หญิงสาวสีหน้าขาวซีด ร่างกายบอบบาง คล้ายเพียงลมพัดนางก็ปลิวไปตามลมซือเจ๋อเยว่ยิ้มแล้วพูดต่อไป “เดิมทีข้ารู้สึกว่าชีวิตไม่มีสิ่งใดน่าสนุก แต่อาจารย์ใหญ่บอกว่าคนเราเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ควรเห็นคุณค่าของเวลาในทุกวัน”“เดิมทีครั้งนี้ข้าไม่อยากกลับเมืองหลวง แต่อาจารย์ใหญ่บอกว่าครอบครัวของข้าอยู่เมืองหลวง อย่างไรก่อนตายข้าก็ควรพบพวกเขาสักครั้ง ดังนั้นข้าจึงกลับมา”จางย่วนเจิ้งรู้ว่าคำพูดเหล่านี้นางฝากไปถึงฮ่องเต้เจาหมิง ทันใดนั้นจึงลุกขึ้นโค้งคำนับ “ข้าไร้ความสามารถ องค์หญิงโปรดรักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”สถานการณ์อย่างนาง ตรวจไม่พบชีพจร แม้แต่เทียบยาก็ไม่ต้องเขียนซือเจ๋อเยว่คำนับตอบ เหล่าไท่จวินให้เยียนเซียวหรานไปส่งจางย่วนเจิ้งหลังจากพวกเขาออกไป เหล่าไท่จวินถามซือเจ๋อเยว่ “คำพูดเมื่อครู่ขององค์หญิงเป็นความจริงหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะ “ข้าหลอกเขานะ ร่างกายของข้าอ่อนแอ เสด็จอาถึงจะยิ่งวางใจ”“เขาตรวจไม่พบชีพจรข้า ความจริงเป็นเพราะตำแหน่งชีพ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 31

    ช่วงเวลานี้จวนเยียนอ๋องถูกเขาดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันความปลอดภัยของทุกคนในใจเขายังเป็นห่วงอีกหนึ่งเรื่อง “ร่างกายขององค์หญิง...”ซือเจ๋อเยว่พูดทวนสิ่งที่นางพูดกับเหล่าไท่จวินให้เขาฟังซ้ำอีกรอบเยียนเซียวหรานเงียบไปสักครู่ แล้วเอ่ยขึ้น “ข้าได้ยินมาว่าอัจฉริยะแห่งลัทธิเต๋า ส่วนมากมักมีห้าโทษสามวิบัติ”“วิชาดูโหงวเฮ้งขององค์หญิงน่าอัศจรรย์มากนัก อีกทั้งยังเรียกวิญญาณได้ ต่อให้ข้าไม่มีความรู้เรื่องมาตรฐานในการวัดระดับของลัทธิเต๋า แต่อย่างองค์หญิงน่าจะเรียกว่าอัจฉริยะ”“ข้าอยากถามองค์หญิงว่าห้าโทษสามวิบัติ องค์หญิงติดข้อใดหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางพบว่าเขาคือคนที่หลอกยากมากที่สุดเยียนเซียวหรานมองนาง “ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นให้ข้าลองเดาดู”“ห้าโทษสามวิบัติขององค์หญิงน่าจะเป็นอายุสั้นสินะ?”ซือเจ๋อเยว่ “...”เขาเดาเก่งมาก!เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเรียบ “ดูเหมือนข้าจะเดาถูก”“ดังนั้นที่องค์หญิงบอกว่าไม่เป็นไรคงโกหกพวกข้า แต่ที่พูดกับจางย่วนเจิ้งคงเป็นความจริง ใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่เอียงคอมองเขา “เจ้าเดาเก่งขนาดนี้ ลองเดาต่อไปสิ!”แววตาเยียนเซียวหรานชะงักไปเล็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 32

    ด้วยเหตุผลนานัปประการ ทำให้ผู้ที่มาไว้อาลัยที่จวนเยียนอ๋องมีเพียงน้อยนิดผู้ที่มาร่วมงาน ล้วนเป็นสหายรักตอนเยียนอ๋องยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งยังเป็นคนดีมีคุณธรรมทั้งสิ้นเยียนเซียวหรานจดจำชื่อของพวกเขาแต่ละคนเอาไว้ทั้งหมดซือเจ๋อเยว่รู้ว่าฮ่องเต้เจาหมิงยกเลิกคำสั่งกักบริเวณจวนเยียนอ๋อง เป็นความสำเร็จก้าวแรกของพวกนางเท่านั้นจากนี้หากเพลี้ยงพล้ำแม้แต่ก้าวเดียว จวนเยียนอ๋องยังคงต้องเผชิญกับอันตรายนางเงยหน้ามองท้องฟ้า หมอกแดงที่ก่อนหน้านี้ปกคลุมจวนเยียนอ๋องสลายไปแล้ว แต่กลับมีหมอกสีเทาเพิ่มขึ้น พลังอาฆาตยังคงรุนแรงหายนะของจวนเยียนอ๋องยังไม่คลี่คลายอย่างสิ้นเชิงซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย คิดจะเข้าไปหาเยียนเซียวหรานที่ห้องจัดพิธีเดินไปถึงครึ่งทางกลับได้ยินเสียงโกรธเคืองของพระชายาเยียนอ๋องดังขึ้น “จวนตระกูลจ้าวรังแกกันมากเกินไปแล้ว!”“หากพวกเขาอยากถอนหมั้นรอให้พิธีของท่านอ๋องเสร็จสิ้นแล้วค่อยมาจัดการ ข้าจะไม่ว่าแม้แต่คำเดียว”“แต่ตอนนี้พวกเขากลับให้บ่าวคนหนึ่งมาดำเนินการแทน คิดจะถอนหมั้นทันที ทำเช่นนี้มันเกินไป!”เหล่าไท่จวินเอ่ยเสียงเรียบ “จะถอนหมั้นเร็วหรือถอนหมั้นช้า ก็ต้องถอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 33

    “ดังนั้นข้าอยากมาถามเจ้า พรุ่งนี้เจ้าวางแผนไว้อย่างไร มีแผนการอย่างไรบ้าง”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้นางยิ้ม “ข้าสามารถทำนายได้ว่าแผนการไหนยอดเยี่ยมที่สุด”เยียนเซียวหราน “...”เขารู้ว่านางทำนายแม่น แต่การทำนายเช่นนี้เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเขาถามนาง “เรื่องพวกนี้ก็ทำนายได้หรือ?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “ทำนายได้แค่ผลร้ายหรือดี”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง แล้วบอกแผนการทั้งสามให้ฟังซือเจ๋อเยว่นับข้อนิ้วแล้วทำนาย จากนั้นบอกเขา “แผนการทั้งสามของเจ้าล้วนเป็นผลร้ายมหันต์ พรุ่งนี้ต้องเกิดเรื่องแน่นอน”เยียนเซียวหรานขมวดคิ้ว “ล้วนเป็นผลร้ายมหันต์หรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ถูกต้อง แผนการพวกนี้ใช้ไม่ได้”พูดจบนางเดินออกไปเด็ดใบไม้มาหนึ่งกำมือ โยนใบไม้ไปด้วย พลางนับข้อนิ้วทำนายไปด้วยนางมีนิสัยอย่างหนึ่ง เมื่อใดที่ตรึกตรองเรื่องใดอย่างตั้งใจ มักจะงอนิ้วชี้ซ้าย แล้วขบกัดเบา ๆเยียนเซียวหรานเห็นท่าทางเช่นนี้ของนางพลันตาลุกวาว รู้สึกคุ้ยเคยอย่างบอกไม่ถูกหลังจากซือเจ๋อเยว่ทำนายอีกครั้ง “โมงยามที่ดีที่สุดในการเคลื่อนศพคือยามอู่[1] หลังออกจากจวนให้มุ่งหน้าไปทางใต้ ค่อยย้อนกลับมาทางตะวันตก ใช้ประ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 34

    เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเย็น “ท่านพ่อและท่านพี่เพิ่งเสียได้ไม่นาน ข้าอยากสืบหาความจริงที่พวกท่านเสียชีวิต ไม่มีแก่ใจสนใจเรื่องความรัก”ซือเจ๋อเยว่รีบสำทับอย่างขึงขัง “เจ้าพูดถูก ต้องสืบหาความจริง พักเรื่องความรักเอาไว้ก่อน!”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่โน้มไปใกล้เขาแล้วเอ่ยขึ้น “แต่ข้าคิดว่าหากเสด็จพ่อยังอยู่ คงหวังให้เจ้าแต่งงานมีครอบครัว ได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข”เยียนเซียวหรานถลึงตา นางกลับทำตาปริบ ๆ “หากเจ้าไม่เชื่อ ข้าสามารถเรียกเสด็จพ่อขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ท่านบอกเจ้า”เยียนเซียวหราน “...ไม่ต้องหรอก”ใช่ว่าเขาไม่อยากพบเยียนอ๋อง แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยถามซือเจ๋อเยว่ การเรียกวิญญาณทำร้ายทั้งร่างกายและดวงวิญญาณครั้งเดียวไม่เป็นไร แต่หลาย ๆ ครั้งเข้า เขากลัวนางจะอยู่ไม่ถึงอายุสิบแปดปีแต่แผนการไม่เร็วเท่าการเปลี่ยนแปลง เช้าวันรุ่งขึ้น จวนเยียนอ๋องมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือนจ้าวอวี่ชุนประมุขตระกูลจ้าวนำบ่าวชายกลุ่มใหญ่ของตระกูล ขวางหน้าโลงศพที่กำลังจะเตรียมเคลื่อนขบวนเยียนเซียวหรานเดินมาทำความเคารพจ้าวอวี่ชุน “วันนี้ใต้เท้าจ้าวมาส่งท่านพ่อและท่านพี่เป็นครั้งสุดท้าย ข้าซาบซ

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status