แชร์

บทที่ 34

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนเซียวหรานเอ่ยเสียงเย็น “ท่านพ่อและท่านพี่เพิ่งเสียได้ไม่นาน ข้าอยากสืบหาความจริงที่พวกท่านเสียชีวิต ไม่มีแก่ใจสนใจเรื่องความรัก”

ซือเจ๋อเยว่รีบสำทับอย่างขึงขัง “เจ้าพูดถูก ต้องสืบหาความจริง พักเรื่องความรักเอาไว้ก่อน!”

เยียนเซียวหราน “...”

ซือเจ๋อเยว่โน้มไปใกล้เขาแล้วเอ่ยขึ้น “แต่ข้าคิดว่าหากเสด็จพ่อยังอยู่ คงหวังให้เจ้าแต่งงานมีครอบครัว ได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข”

เยียนเซียวหรานถลึงตา นางกลับทำตาปริบ ๆ “หากเจ้าไม่เชื่อ ข้าสามารถเรียกเสด็จพ่อขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ท่านบอกเจ้า”

เยียนเซียวหราน “...ไม่ต้องหรอก”

ใช่ว่าเขาไม่อยากพบเยียนอ๋อง แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยถามซือเจ๋อเยว่ การเรียกวิญญาณทำร้ายทั้งร่างกายและดวงวิญญาณ

ครั้งเดียวไม่เป็นไร แต่หลาย ๆ ครั้งเข้า เขากลัวนางจะอยู่ไม่ถึงอายุสิบแปดปี

แต่แผนการไม่เร็วเท่าการเปลี่ยนแปลง เช้าวันรุ่งขึ้น จวนเยียนอ๋องมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยือน

จ้าวอวี่ชุนประมุขตระกูลจ้าวนำบ่าวชายกลุ่มใหญ่ของตระกูล ขวางหน้าโลงศพที่กำลังจะเตรียมเคลื่อนขบวน

เยียนเซียวหรานเดินมาทำความเคารพจ้าวอวี่ชุน “วันนี้ใต้เท้าจ้าวมาส่งท่านพ่อและท่านพี่เป็นครั้งสุดท้าย ข้าซาบซ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 35

    จ้าวอวี่ชุนนึกไม่ถึงว่าจนป่านนี้แล้ว ท่าทีของเยียนเซียวหรานยังแข็งกร้าวเช่นนี้!ขณะนี้เขาเชื่อสนิทใจว่าจวนเยียนอ๋องไม่อยากถอนหมั้นลูกสาวเขาแสนดีขนาดนั้น มีเพียงบุรุษที่สมบูรณ์แบบที่สุดในใต้หล้าถึงจะคู่ควรกับนาง นางจะมาจบอนาคตเพราะจวนอ๋องเยียนที่กำลังจะล่มจมไม่ได้ทันใดนั้นเขาคุกเข่าลงพร้อมทำท่าเสียอกเสียใจและตะโกนเสียงดัง “เยียนอ๋อง ตอนนั้นข้าช่วยชีวิตท่านเอาไว้ ท่านเห็นลูกสาวข้าฉลาดหลักแหลม ยืนกรานจะหมั้นนางให้เยียนเซียวหราน”“ตอนนั้นข้ารู้สึกว่าเยียนเซียวหรานคุณสมบัติไม่ดี ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งกับเขา ข้าคุกเข่าขอให้ท่านอ๋องโปรดเมตตา แต่ท่านกลับไม่ยินยอม”“ตอนนั้นการหมั้นหมายนี้เกิดขึ้นเพราะท่านบีบบังคับ ทว่าสวรรค์มีตา ทำให้ท่านตายไปเสียแต่เนิ่นๆ!”“ขณะนี้ข้าไม่เกรงกลัวอำนาจของจวนอ๋องเยียนอีกแล้ว วันนี้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ข้าก็จะถอนหมั้นให้ได้!”ก่อนหน้านี้เยียนเซียวหรานรู้ว่าจ้าวอวี่ชุนเป็นคนหน้าด้าน แต่เขากลับประเมินความหน้าด้านของอีกฝ่ายต่ำเกินไปการหมั้นหมายระหว่างเขากับจ้าวซือหว่าน เกิดขึ้นเพราะจ้าวอวี่ชุนใฝ่สูงอยากเกี่ยวดองกับจวนอ๋อง จึงข่มขู่ด้วยบุญคุณที่เคยช่วยชีวิต

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 36

    สิ่งที่จ้าวชุนอวี่คิดถูกนางเปิดโปง สีหน้าของเขาจึงดูไม่จืดเขาเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าคือใคร? อย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน!”“ข้าคือผู้ใดหรือ?” แววตาซือเจ๋อเยว่เย็นชา “ข้าคือทายาทเพียงคนเดียวของฮ่องเต้องค์ก่อน นามแต่งตั้งเจ๋อเยว่”“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? เห็นข้าแล้วนอกจากไม่ทำความเคารพ ยังกล้ามาถามข้าหรือ? ใครก็ได้ ตบปากสั่งสอนเดี๋ยวนี้!”ทันใดนั้นมีองครักษ์วิ่งเข้ามา แล้วตบหน้าจ้าวอวี่ชุนไปหลายทีจ้าวอวี่ชุนถูกตบจนมึนงง เขานึกไม่ถึงว่าเมื่อซือเจ๋อเยว่มาถึงก็ลงมือทันทีเขาโกรธเคือง “ต่อให้เจ้าเป็นองค์หญิง ก็ทำร้ายขุนนางในราชสำนักโดยไร้เหตุผลไม่ได้!”“ข้าจะถวายฎีกาต่อฮ่องเต้ ให้ฮ่องเต้ลงโทษเจ้า!”ซือเจ๋อเยว่ไม่สนใจเขา นางหันไปเอ่ยกับเยียนเซียวหราน “การทะเลาะเบาะแว้ง หากเจอคนที่มีเหตุผล ย่อมต้องพูดด้วยเหตุและผล”“หากเจอคนไม่มีเหตุผล ก็ไม่จำเป็นต้องพูดคุยด้วยเหตุผล เจ้าดูไว้ละ ต่อไปจะได้เอาไปใช้”เยียนเซียวหราน “...”หลังจากซือเจ๋อเยว่พูดจบแล้ว จึงหันไปเอ่ยกับจ้าวอวี่ชุน “เจ้ากำเริบเสิบสานเพียงนี้ เพราะเห็นว่าเสด็จพ่อของข้าตายแล้ว จึงคิดรังแกจวนเยียนอ๋องที่มีคนน้อยกว่า”“แต่ดวงวิญญาณท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 37

    “ไม่อย่างนั้นที่เจ้าเหยียดหยามเสด็จพ่อของข้า กลางดึกท่านอาจจะไปหาเจ้า ดีไม่ดีอาจพาเจ้าไปอยู่ด้วยก็ได้นะ”จ้าวอวี่ชุนตกใจจนคุกเข่าคำนับหน้าโลงศพเยียนอ๋องอย่างบ้าคลั่ง “ท่านอ๋อง ข้าผิดไปแล้ว!”“คำพูดเมื่อครู่ข้าพูดเหลวไหล การหมั้นหมายของซือหว่านกับคุณชายสามข้าเป็นคนเรียกร้องเอง!”“หลายปีมานี้ข้าอ้างชื่อของท่านในการหาผลประโยชน์ใส่ตัว!”“ต่อไปข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว ท่านเป็นคนใจกว้างมีเมตตา ปล่อยข้าไปเถอะนะ!”ทว่าเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เยียนอ๋องยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าขาวซีดวังเวงน่ากลัว ดูเหมือนจะน่ากลัวกว่าเมื่อครู่ทำให้จ้าวอวี่ชุนตกใจจนกรีดร้อง และถอยหลังไปอย่างทุลักทุเล เสื้อผ้าบนตัวเปื้อนฝุ่นมอมแมม ไม่เหลือภาพลักษณ์เมื่อครู่แม้แต่น้อยแต่ไม่ว่าเขาจะถอยอย่างไร เยียนอ๋องจะลอยอยู่ข้างกายเขาเสมอเขาใกล้บ้าแล้ว!ซือเจ๋อเยว่ถามเขา “เจ้ายังจะถอนหมั้นอยู่หรือไม่?”จ้าวอวี่ชุนส่ายหน้า “ไม่ถอนแล้ว ไม่ถอนแล้ว!”ซือเจ๋อเยว่มองเขา “ไม่ เจ้าต้องถอนหมั้น ให้ถอนหมั้นตามเงื่อนไขที่ข้าได้กล่าวไปเมื่อครู่”“ขอเพียงเจ้าทำได้ จวนเยียนอ๋องจะคืนเทียบชะตาของจ้าวซือหว่านให้เจ้า เพื่อถอนการหมั้นหมาย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 38

    ซูเซียงเอ่ยเสียงเรียบ “นางเรียกวิญญาณได้หรือไม่ข้าไม่รู้ แต่ได้ยินว่านางดูดวงเก่ง ดูคนหนึ่งตายคนหนึ่ง ถ้าอย่างไรเจ้าลองดูหรือไม่?”ว่านหู้โหว “ไม่ต้อง”หลายวันมานี้จวนเยียนอ๋องกลายเป็นจุดสนใจในเมืองหลวง องค์หญิงแห่งอดีตฮ่องเต้อย่างซือเจ๋อเยว่แต่งเข้าจวนเยียนอ๋อง ยิ่งทำให้กลายเป็นที่สนใจสิ่งสำคัญคือเรื่องที่นางทำในหลายวันนี้ ช่างน่าตะลึงยิ่งนักซูเซียงและว่านหู้โหวจึงสงสัยในตัวนางไม่น้อยหนำซ้ำวันนี้นางไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เวลาที่ควรลงมือ ไม่ใจอ่อนแม้แต่น้อยซูเซียงหันมองซือเจ๋อเยว่ที่รูปร่างบอบบาง ดวงตาล้ำลึกกว่าเดิม จากนั้นถอนหายใจไม่ว่าใครก็ดูออกว่าต่อไปจวนเยียนอ๋องคงจะยากลำบากมากซือเจ๋อเยว่แต่งเข้าจวนก็ต้องเป็นหม้ายทันที หนทางข้างหน้าถูกำหนดไว้แล้วว่าจะยากเย็นมากซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่ามีคนกำลังมองนาง จึงหันมองทางซูเซียง ซูเซียงจึงพยักหน้าให้นางเบา ๆนางเห็นเขาจริงใจเปิดเผย แม้โหงวเฮ้งมองดูเป็นคนมีความคิดลึกซึ้ง แต่กลับไม่ใช่คนนิสัยใจคอโหดเหี้ยมมองปราดเดียวนางก็รู้ว่าซูเซียงไม่ธรรมดานางจึงย่อตัวให้เขา ถือเป็นการทำความเคารพซูเซียงเห็นนางมีสัมมาคารวะ แววตาของเขาจึงมีค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 39

    เมื่อวานตอนคนของตระกูลจ้าวมาถอนหมั้นที่จวน นางรู้สึกโกรธเคืองอยู่บ้างแต่เมื่อมาถึงวันนี้ นางแทบอยากจะถอนหมั้นกับตระกูลจ้าวทันทีว่ากันตามระเบียบ เหล่าไท่จวินกับพระชายาเยียนอ๋องไปส่งศพไม่ได้เหล่าไท่จวินเดินไปตรงหน้าซือเจ๋อเยว่ “วันนี้โชคดีที่มีองค์หญิง”“พวกคนที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังคงไม่เลิกราง่าย ๆ องค์หญิงต้องระวังตัวให้มาก”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ท่านย่าวางใจได้ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร”เมื่อได้ฤกษ์แล้ว แม้เหล่าไท่จวินจะเป็นห่วง แต่ก็ไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้อีกแล้วเยียนเซียวหรานและซือเจ๋อเยว่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี ก็ต้องมารับภาระและแรงกดดันเช่นนี้ ช่างยากเย็นเหลือเกินนางหันมองแผ่นหลังบอบบางของซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิงคือผู้มีพระคุณของจวนเยียนอ๋อง จวนเยียนอ๋องทำให้นางต้องลำบาก”เหล่าไท่จวินรู้สึกสงสารซือเจ๋อเยว่ นางเสียบิดาไปตั้งแต่เด็ก หนำซ้ำมารดายังใจร้ายกับนางมากตอนนี้จวนเยียนอ๋องก็ตกอยู่ในสภาพนี้ สิ่งที่เหล่าไท่จวินทำได้ คือดีกับนางให้มากซูเซียงเดินไปตรงหน้านาง “เหล่าไท่จวินโปรดทำใจ”เหล่าไท่จวินไอสองสามที แล้วเอ่ยเสียงเศร้า “แก่แล้ว ไร้ประโยชน์”เดือนที่แล้วซูเซี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 40

    เรื่องเยียนอ๋องตายในสนามรบ เหล่าขุนนางในราชสำนักพูดกันไปต่าง ๆ นานามีคนฉวยโอกาสปลุกปั่นชาวบ้าน บอกว่าเยียนอ๋องเคยเป็นเทพสงครามของต้าฉู่ เยียนอ๋องที่ตายไปอย่างนี้ ไม่สมควรเป็นเทพสงครามแห่งต้าฉู่เรื่องเช่นนี้ หลายวันมานี้กำลังเป็นเรื่องร้อนแรงของเมืองหลวงพวกคนที่ยืนถือใบผักเน่ากับไข่เน่าอยู่ในตรอก ต้องการทำให้เรื่องนี้ถูกพูดถึงมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อใดที่เรื่องนี้สำเร็จ จะกลายเป็นเจตจำนงของประชาชนผู้เป็นราชาไม่อาจละเลยเจตจำนงของประชาชนหากเจตจำนงเช่นนี้ของประชาชนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คงสร้างความวุ่นวายภายในราชสำนัก ถึงขนาดมีการตั้งคำถามว่าจะมีบทลงโทษต่อเยียนอ๋องหรือไม่ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงไม่ยอมรามือ เบื้องหลังคงมีวิธีที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่านี้วันนี้ขบวนศพของเยียนอ๋องไม่ได้เคลื่อนไปตามถนนชุนอิ๋ง คงทำให้แผนการพวกเขาล้มเหลวทว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้คลี่คลายอย่างสิ้นเชิง คนพวกนี้อาจเปลี่ยนใจไปที่ถนนไฉเสินซูเซียงกำลังชั่งใจว่าจะลงมือช่วยคนของจวนเยียนอ๋องดีหรือไม่ขณะนั้นเอง เขาเห็นกองลาดตระเวนในเมืองหลวงเดินผ่านมากองลาดตระเวนเอ่ยกับผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอก “พวกเจ้าเป็นใคร มา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 41

    เรื่องในครั้งนี้ ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความสามารถในการทำนายชะตาของซือเจ๋อเยว่อย่างชัดเจนเพียงแต่เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่นางจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินอายุสิบแปดปี ก็ขมวดคิ้วอีกครั้งเยียนเซียวหรานเห็นแล้ว ซือเจ๋อเยว่ก็เห็นแล้วเช่นกัน นางมองเห็นนิ้วโป้งที่เขาชูขึ้นมา เลิกคิ้วเบาๆ ทีหนึ่งขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานไปตามเส้นทางที่ซือเจ๋อเยว่วางไว้ สามารถหลีกเลี่ยงกับดักที่วางไว้สำหรับจวนเยียนอ๋องได้อย่างสวยงามครั้งนี้หลังจากซือเจ๋อเยว่บอกเส้นทาง เยียนเซียวหรานได้เตรียมการบางอย่างตามสถานที่ที่หลีกเลี่ยงเหล่านั้นและก่อนหน้านี้เขาจงใจเปิดเผยเส้นทางการเคลื่อนศพไปยังสุสานครั้งนี้ของเยียนอ๋อง ครั้งนี้เขาจะกำจัดหูตาทั้งหมดที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนเยียนอ๋องแม้ก่อนหน้านี้ เยียนเซียวหรานไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสถานที่ที่ซือเจ๋อเยว่หลีกเลี่ยง แต่ที่เขาเตรียมการไว้ ล้วนเป็นไปอย่างเหมาะเจาะพอดีประกอบกับความร่วมมือของซูเซียง พวกคนที่ดักรออยู่ตามเส้นทางที่คิดว่าขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานของจวนเยียนอ๋องต้องผ่านแน่นอน ล้วนถูกคนถ่วงเอาไว้พวกเขาไปไม่ทันขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสาน เพื่อทำตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 42

    ผู้ดูแลก้มหน้ากล่าว “ขอรับ ข้าน้อยไปจัดการเดี๋ยวนี้”หลังจากผู้ดูแลไปแล้ว คนสวมชุดคลุมสีดำยืนข้างหน้าต่าง มองออกไปทางสุสานของจวนเยียนอ๋อง มุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อยเขาไม่เชื่อว่าครั้งนี้จวนเยียนอ๋องยังสามารถหลบพ้น!เวลานี้ ขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานของจวนเยียนอ๋องได้ออกจากเมืองอย่างราบรื่น สุสานของจวนเยียนอ๋องอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งนอกเมือง ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงแล้วในฐานะที่เป็นเซี่ยวจื่อ[1] เยียนเซียวหรานคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลุมศพของเยียนอ๋อง ดวงตาแดงก่ำเรื่องที่เยียนอ๋องตายในสงครามครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้กลอุบายเยียนเซียวหรานสาบานในใจ เขาจะต้องหาความจริงและหลักฐานการตายในสงครามของเยียนอ๋องให้เจอ หลังจากนั้นบอกความจริงให้โลกรู้!เหล่าคุณหนูกับลูกสะใภ้ทั้งหลายของจวนอ๋องยืนข้างหลังเขา คุกเข่าลงต่อหน้าหลุมศพของเยียนอ๋อง และโขกศีรษะคำนับแรงๆ ตามเขา เวลานี้มีมีลมกระโชกพัดเข้ามา ม้วนกระดาษเงินกระดาษทองขึ้นไปบนท้องฟ้าซือเจ๋อเยว่เงยหน้า มองเห็นเงารางๆ หลายสายปรากฏตรงหน้าหลุมศพซือเจ๋อเยว่เคยพบแค่เยียนอ๋องกับซื่อจื่อในบรรดาคนกลุ่มนี้  และเป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับคุณชายอีกสี่ท่านตามกฎแ

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status