แชร์

บทที่ 40

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เรื่องเยียนอ๋องตายในสนามรบ เหล่าขุนนางในราชสำนักพูดกันไปต่าง ๆ นานา

มีคนฉวยโอกาสปลุกปั่นชาวบ้าน บอกว่าเยียนอ๋องเคยเป็นเทพสงครามของต้าฉู่ เยียนอ๋องที่ตายไปอย่างนี้ ไม่สมควรเป็นเทพสงครามแห่งต้าฉู่

เรื่องเช่นนี้ หลายวันมานี้กำลังเป็นเรื่องร้อนแรงของเมืองหลวง

พวกคนที่ยืนถือใบผักเน่ากับไข่เน่าอยู่ในตรอก ต้องการทำให้เรื่องนี้ถูกพูดถึงมากขึ้นกว่าเดิม

เมื่อใดที่เรื่องนี้สำเร็จ จะกลายเป็นเจตจำนงของประชาชน

ผู้เป็นราชาไม่อาจละเลยเจตจำนงของประชาชน

หากเจตจำนงเช่นนี้ของประชาชนกลายเป็นเรื่องใหญ่ คงสร้างความวุ่นวายภายในราชสำนัก ถึงขนาดมีการตั้งคำถามว่าจะมีบทลงโทษต่อเยียนอ๋องหรือไม่

ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงไม่ยอมรามือ เบื้องหลังคงมีวิธีที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่านี้

วันนี้ขบวนศพของเยียนอ๋องไม่ได้เคลื่อนไปตามถนนชุนอิ๋ง คงทำให้แผนการพวกเขาล้มเหลว

ทว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้คลี่คลายอย่างสิ้นเชิง คนพวกนี้อาจเปลี่ยนใจไปที่ถนนไฉเสิน

ซูเซียงกำลังชั่งใจว่าจะลงมือช่วยคนของจวนเยียนอ๋องดีหรือไม่

ขณะนั้นเอง เขาเห็นกองลาดตระเวนในเมืองหลวงเดินผ่านมา

กองลาดตระเวนเอ่ยกับผู้คนที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอก “พวกเจ้าเป็นใคร มา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 41

    เรื่องในครั้งนี้ ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงความสามารถในการทำนายชะตาของซือเจ๋อเยว่อย่างชัดเจนเพียงแต่เมื่อเขานึกถึงเรื่องที่นางจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินอายุสิบแปดปี ก็ขมวดคิ้วอีกครั้งเยียนเซียวหรานเห็นแล้ว ซือเจ๋อเยว่ก็เห็นแล้วเช่นกัน นางมองเห็นนิ้วโป้งที่เขาชูขึ้นมา เลิกคิ้วเบาๆ ทีหนึ่งขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานไปตามเส้นทางที่ซือเจ๋อเยว่วางไว้ สามารถหลีกเลี่ยงกับดักที่วางไว้สำหรับจวนเยียนอ๋องได้อย่างสวยงามครั้งนี้หลังจากซือเจ๋อเยว่บอกเส้นทาง เยียนเซียวหรานได้เตรียมการบางอย่างตามสถานที่ที่หลีกเลี่ยงเหล่านั้นและก่อนหน้านี้เขาจงใจเปิดเผยเส้นทางการเคลื่อนศพไปยังสุสานครั้งนี้ของเยียนอ๋อง ครั้งนี้เขาจะกำจัดหูตาทั้งหมดที่ซ่อนตัวอยู่ในจวนเยียนอ๋องแม้ก่อนหน้านี้ เยียนเซียวหรานไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสถานที่ที่ซือเจ๋อเยว่หลีกเลี่ยง แต่ที่เขาเตรียมการไว้ ล้วนเป็นไปอย่างเหมาะเจาะพอดีประกอบกับความร่วมมือของซูเซียง พวกคนที่ดักรออยู่ตามเส้นทางที่คิดว่าขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานของจวนเยียนอ๋องต้องผ่านแน่นอน ล้วนถูกคนถ่วงเอาไว้พวกเขาไปไม่ทันขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสาน เพื่อทำตามแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 42

    ผู้ดูแลก้มหน้ากล่าว “ขอรับ ข้าน้อยไปจัดการเดี๋ยวนี้”หลังจากผู้ดูแลไปแล้ว คนสวมชุดคลุมสีดำยืนข้างหน้าต่าง มองออกไปทางสุสานของจวนเยียนอ๋อง มุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อยเขาไม่เชื่อว่าครั้งนี้จวนเยียนอ๋องยังสามารถหลบพ้น!เวลานี้ ขบวนเคลื่อนศพไปยังสุสานของจวนเยียนอ๋องได้ออกจากเมืองอย่างราบรื่น สุสานของจวนเยียนอ๋องอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งนอกเมือง ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงแล้วในฐานะที่เป็นเซี่ยวจื่อ[1] เยียนเซียวหรานคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลุมศพของเยียนอ๋อง ดวงตาแดงก่ำเรื่องที่เยียนอ๋องตายในสงครามครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่ามีคนใช้กลอุบายเยียนเซียวหรานสาบานในใจ เขาจะต้องหาความจริงและหลักฐานการตายในสงครามของเยียนอ๋องให้เจอ หลังจากนั้นบอกความจริงให้โลกรู้!เหล่าคุณหนูกับลูกสะใภ้ทั้งหลายของจวนอ๋องยืนข้างหลังเขา คุกเข่าลงต่อหน้าหลุมศพของเยียนอ๋อง และโขกศีรษะคำนับแรงๆ ตามเขา เวลานี้มีมีลมกระโชกพัดเข้ามา ม้วนกระดาษเงินกระดาษทองขึ้นไปบนท้องฟ้าซือเจ๋อเยว่เงยหน้า มองเห็นเงารางๆ หลายสายปรากฏตรงหน้าหลุมศพซือเจ๋อเยว่เคยพบแค่เยียนอ๋องกับซื่อจื่อในบรรดาคนกลุ่มนี้  และเป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับคุณชายอีกสี่ท่านตามกฎแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 43

    เวลานี้ทั้งสองพลางสูดจมูกพลางกล่าว “พี่สาม เจ้าก็ช่วยดูแลอี๋เหนียง[1]แทนพวกเราด้วย”เยียนเซียวหรานพลางสะอื้นพลางกล่าว “ได้”เยียนซื่อลังเลครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ข้ากับจิ่นเหนียงเพิ่งแต่งงานกันหนึ่งปี หาก…”“หากนางอยากแต่งงานใหม่ เจ้าช่วยข้าเกลี้ยกล่อมท่านแม่กับท่านย่าด้วย ไม่ต้องไปขวาง”เยียนอู่ก็กล่าวเช่นกัน “ข้ากับซิ่วเอ๋อร์เพิ่งแต่งงานกันครึ่งปี ยิ่งไม่สามารถให้นางเป็นหม้ายเพราะข้า”“วัยสาวของเด็กผู้หญิงนั้นแสนสั้น หลังจากนางไปจากจวนเยียนอ๋อง หากได้พบกับคนที่เหมาะสม เจ้าช่วยข้าเตรียมของขวัญแสดงความยินดีให้นางด้วย”เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ได้”เยียนอู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สาม ที่จริงเมื่อก่อนข้าไม่ได้อยากเป็นคู่แข่งกับเจ้าเลย แต่เพราะเจ้าอวดเก่งเกินไป ไม่เหลือทางรอดให้คนอื่นเลย”เยียนซื่อก็กล่าวเช่นกัน “ใช่! เจ้าฉลาดจนน่ากลัวตั้งแต่เด็ก แค่อ่านบทความก็ท่องจำได้แล้ว กระบวนท่าวรยุทธ์แค่ชี้แนะก็เข้าใจ”“เจ้าเป็นแล้วก็ช่างเถอะ ยังมากพวกเราก็แค่อิจฉาเจ้า”เยียนอู่กล่าวต่อ “แต่หลังจากที่เจ้าเรียนรู้แล้ว ก็มักจะมาโอ้อวดต่อหน้าพวกเรา อันนี้ยากมากเลย เจ้าต้องอ่านถึงหนึ่งเค่อจึงจะอ่านจบ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 44

    เยียนลิ่วมองซือเจ๋อเยว่แล้วกล่าว “องค์หญิงพี่สะใภ้ พวกเรารู้ทุกอย่างที่ท่านทำเพื่อจวนเยียนอ๋อง พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งมาก”ดวงตาซือเจ๋อเยว่โก่งทันที “เจ้าเรียกข้าพี่สะใภ้ พวกเราก็คือคนครอบครัวเดียวกัน คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกัน”เยียนลิ่วเห็นท่าทางที่นางยิ้ม เหม่อไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เวลาท่านยิ้มสวยจัง”คราวนี้ซือเจ๋อเยว่ยิ้มจนคิ้วโก่งแล้วเยียนลิ่วหันไปมองซื่อจื่อที่เอาแต่ยืนพึมพำอยู่ข้างๆ กล่าวเสียงเบา “ตอนพี่ใหญ่ข้ายังมีชีวิต เขาเป็นคนที่ดีมากๆ”“แม้เขาดีมาก แต่ตอนที่องค์หญิงพี่สะใภ้แต่งเข้าจวนอ๋อง เขาก็ได้ตายแล้ว”“เรื่องนี้น่าเสียดายจริงๆ หากพี่ใหญ่ยังมีชีวิต พวกท่านต้องเข้ากันได้ดีแน่นอน”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะ มองซื่อจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง แล้วหันไปมองเยียนเซียวหรานแวบหนึ่ง นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มันก็พูดยากจริงนั่นล่ะร่างของพวกเขาในเวลานี้ค่อยๆ จางลง ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าถึงเวลาของพวกเขาแล้วเยียนลิ่วรีบกล่าวกับเยียนเซียวหราน “พี่สาม จ้าวซือหว่านไม่คู่ควรกับท่าน”“ท่านรีบถอนหมั้นกับนางเสีย หาคนดีๆ สักคนที่เหมือน… เอ่อ…เหมือนองค์หญิงพี่สะใภ้”เยียนอ๋องเขม่นใส่เ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 45

    เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นสีหน้าเช่นนี้ของเขา แน่นหน้าอกฉับพลัน บนใบหน้ากลับกล่าวอย่างสงบ “ของข้าเอง”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง แล้วมองดอกกล้วยไม้ที่อยู่ข้างบนอย่างละเอียดเหมือนดอกกล้วยไม้บนผ้าเช็ดหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นลืมไว้เมื่อสองปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยนลายปักดอกกล้วยไม้บนผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แตกต่างไปจากที่นิยมในปัจจุบัน และมีความประณีตสูงมากถุงเงินหนึ่งใบคือเรื่องบังเอิญ แต่ผ้าเช็ดหน้าก็เหมือนกันอีก ก็ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแล้ว เขาถามซือเจ๋อเยว่ “ท่านเป็นคนปักเองหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายศีรษะ “ข้าทำงานเย็บปักถักร้อยไม่เป็น ข้าซื้อผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มาจากตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่นอกสำนัก”“ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ”เยียนเซียวหรานไม่ได้ตอบ เอาแต่ใช้ดวงตาสีเข้มคู่นั่นจ้องนางซือเจ๋อเยว่ถูกเขามองจนรู้สึกกลัว “เจ้ามองข้าเช่นนี้ทำไม?”“เป็นเพราะผ้าเช็ดหน้ามีปัญหา? เช่นนั้นเจ้าก็สืบยากแล้ว เพราะผ้าเช็ดหน้าเช่นนี้ ที่ร้านเย็บปักนั่นไม่มีหมื่นผืนก็มีหลายพันผืน”คำพูดนี้ของนางเป็นความจริง นางเป็นคนวาดลายดอกกล้วยไม้นี้ให้ร้านเย็บปักดูเถ้าแก่ร้านเย็บปักเห็นว่าลายดอกไม้เช่นนี้พ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 46

    ซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่า ต่อไปเวลาอยู่ต่อหน้าเยียนเซียวหราน นางต้องระวังให้มากๆเพียงแต่คืนนั้นมันบ้ามาก หลังเกิดเรื่องนางแทบวิ่งหนีกระเจิงตอนนี้นางจำไม่ได้ว่า ลืมของอะไรไว้ที่เขา และเขาเห็นอะไรนางรู้สึกว่า ต้องทิ้งของทุกอย่างที่เคยใช้ ไม่เช่นนั้นหากเขาพบอะไรอีก นางไม่รู้จะอธิบายอย่างไรแล้วเยียนซุ่ยซุ่ยเห็นพวกเขาเดินมา รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาค่อนข้างผิดปกติแต่ชั่วขณะนางก็บอกไม่ถูกว่ามีอะไรผิดปกติหลังจากฝังเยียนอ๋อง ช่างฝีมือทุกคนมารวมตัวกันตามกฎแล้ว ช่วงนี้เยียนเซียวหรานต้องเฝ้าอยู่ที่สุสาน หลังจากเฝ้าครบสี่สิบเก้าวันจึงจะกลับบ้านได้เวลานี้เขาเดินไปกล่าวกับเยียนซุ่ยซุ่ยและคนอื่น “ช่วงนี้พวกเจ้าดูแลท่านย่ากับท่านแม่ให้ดี”เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าว “พี่สามวางใจเถอะ ข้าจะดูแลท่านย่ากับท่านแม่อย่างดี”ซือเจ๋อเยว่ล้วงของห่อหนึ่งจากหน้าอกส่งให้เขา “เจ้าอยู่ข้างนอกคนเดียว ต้องระวังตัวด้วย”“นี่คือผงยาที่อาจารย์สามมอบให้ข้า เขาบอกว่าใช้ดีมาก แต่ข้าไม่เคยลองใช้ ไม่รู้ว่ามีผลอย่างไร”เยียนเซียวหราน “...”นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามีคนกล้ามอบยาผงให้ผู้อื่นใช้ โดยที่ไม่รู้สรรพคุณ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 47

    เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวอย่างเป็นห่วง “หากท่านไม่สบายตรงไหน บอกข้านะ”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็เขินอายเล็กน้อย “แม้ฝีมือการแพทย์ของข้าไม่ดีนัก แต่โรคเล็กๆ น้อยๆ ข้ายังพอรักษาได้”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มเล็กน้อย “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”นางพักอยู่ที่จวนเยียนอ๋องมาหลายวันแล้ว รู้จักคนเหล่านี้ของจวนเยียนอ๋องเป็นอย่างดีเยียนซุ่ยซุ่ยเป็นคนพูดน้อย ปกติมักจะหมกตัวอ่านตำราแพทย์และศึกษายาในห้อง ตอนที่นางเจอซือเจ๋อเยว่ครั้งแรก ก็คำนับอย่างสุภาพ เวลายิ้มมีลักยิ้มสองข้าง น่านักมากส่วนเยียนเหนียนเหนียนที่อยู่ข้างๆ กล่าว “ตอนออกจากบ้าน ท่านย่าเคยกำชับข้า ให้ข้าดูแลองค์หญิงให้ดี”“หากองค์ไม่สบาย ข้าแบกองค์หญิงกลับบ้านได้”เยียนเหนียนเหนียนเป็นบุตรสาวภรรยาอีก อายุมากกว่าเยียนซุ่ยซุ่ยเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความเงียบของเยียนซุ่ยซุ่ย นิสัยของนางก็ค่อนข้างฉุนเฉียวแล้วหลายวันนี้ นางใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการฝึกยุทธ์ในสนามแสดงยุทธ์ของจวนเยียนอ๋อง วรยุทธ์ของนางค่อนข้างดี ก่อนหน้านี้ตอนเยียนเซียวหรานจับคนชุดดำ นางก็เคยออกแรง และยังเคยตีศีรษะของคนที่คิดจะลอบเข้าจวนเยียนอ๋องแตก ซือเจ๋อเยว่รีบโบกมือแล้วก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 48

    เวลานี้ลู่จิ่นเหนียงถึงกับไม่รู้ว่า ควรถามซือเจ๋อเยว่ว่าทำนายเห็นอะไรดีหรือไม่ นางกลัวได้ยินสิ่งที่ไม่ดีแต่ถ้าหากไม่รู้ ก็รู้สึกจั๊กจี้ในใจซือเจ๋อเยว่รู้ความคิดของนาง ยิ้มแล้วยิ้มอีก กลับไม่พูดสักคำเยียนซุ่ยซุ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิงดูดวงชะตาเป็นจริงๆ หรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ข้าเติบโตในสำนักเต๋า อาจารย์ทั้งเก้าท่านของข้า มีหลายท่านที่เก่งทางด้านนี้มาก ข้าได้เรียนรู้กับพวกเขาไม่น้อย”นางเห็นเยียนซุ่ยซุ่ยอยากรู้อยากเห็น จึงกล่าว “แม้ทั้งชีวิตของเจ้ามีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ขอแค่เจ้ายืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง ต้องประสบความสำเร็จแน่นอน”เยียนซุ่ยซุ่ยถามนาง “จริงหรือ? ข้าสามารถเป็นหมอที่เก่งมากๆ ได้จริงหรือ?”ซือเจ๋อเยว่มอบคำตอบที่แน่ชัดให้นาง “จริงสิ เจ้ามีพรสวรรค์ด้านฝีมือการแพทย์มาก”“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ไหว้อาจารย์ เรียนฝีมือการแพทย์ดีๆ ประกอบกับผู้คนไม่เชื่อถือหมอหญิง ก็เลยบั่นทอนความมั่นใจของเจ้า”“ดังนั้นเวลาที่เรียนแพทย์ เจ้ามักจะสงสัยในตัวเอง ที่จริงวันที่ตรวจโรคให้ข้า ก็ตรวจได้แม่นมาก เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวเอง”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าแรงๆ “ได้ ต่อไปข้าจะพยายา

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 372

    ไป๋จื้อเซียน “...”ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีที่เขาตายไป ไม่มีผู้ใดกล้าสั่งให้เขาทำเรื่องใดก็ตามตอนนี้ซือเจ๋อเยว่กลับให้เขาไปแสร้งทำเป็นผีเพื่อถ่วงเวลาทหารยาม นางเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน่!เขาหันหน้ามองนาง นางประสานมือคำนับเขาพร้อมกล่าว “คุณชายไป๋ดีที่สุด รบกวนด้วย”ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ในดวงตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอนเล็ก ๆคำปฏิเสธของไป๋จื้อเซียนที่กำลังจะพูดออกมา ได้กลืนกลับลงไปอีกครั้งร่างของเขาหายไปจากด้านบนคานห้อง ไปปรากฏตัวอยู่ที่ท้องฟ้าของด่านอวิ๋นหลิ่งทหารยามเมื่อครู่ตะโกนว่ามีผี ไป๋จื้อเซียนก็ปรากฏตัวที่ท้องฟ้าด้วยชุดสีแดงทันที เกือบจะทำให้ทหารยามที่อยู่ประตูด่านตกใจจนขวัญกระเจิงถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่การปรากฏตัวขึ้นในยามราตรีเช่นนี้ นั่นก็ทำให้คนตกใจได้เช่นกันอย่างไรเสียก็คนไม่มีคนปกติคนใดสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้เช่นนี้ นี่จึงเห็นได้ชัดว่าก็คือผี!ก่อนหน้านี้ไป๋จื้อเซียนฆ่าคนเหมือนผักปลา คิดมาตลอดว่ามีเพียงดวงวิญญาณที่ไร้ความสามารถพวกนั้นเท่านั้นถึงได้แกล้งหลอกผีให้ผู้คนตกใจบัดนี้ไม่คิดเลยว่าเขากลับต้องมาทำเรื่องแบบนี้เช่นกันสายของเขาที่จ้องมองพลท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 371

    ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานต่างรู้ดี พยานอย่างชื่อปาเลี่ย แม้แต่จะยืนยันว่าเยียนอ๋องพ่ายศึกเพราะถูกคนวางแผนชั่วยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะลากจวนหนิงกั๋วกงลงมาเอี่ยวด้วยหากสามารถตามหาสำเนาของเอกสารฉบับนั้นตามที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้จวนเยียนอ๋องเป็นอิสระจากคดีนั้นได้ สามารถทำให้เยียนเซียวหรานสืบทอดตำแหน่งได้ดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ตัดสินใจว่าจะไปที่ด่านอวิ๋นหลิ่งอีกสักรอบครั้งนี้พวกเขาฉลาดแล้ว ได้รู้จักคนของเยียนเซียวหรานที่อยู่ในกองทัพไม่น้อย เพื่อป้องกันถูกคนจำได้ เขาจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ส่วนซือเจ๋อเยว่ นางแต่งตัวเป็นผู้ชายชื่อปาเลี่ยเองก็กลัวคนจำได้เช่นกัน เขาไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ว่าหาอะไรมาครอบลูกตาข้างหนึ่งเอาไว้แสร้งทำเป็นคนตาบอดเสียเลยหลังจากที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นการแต่งกายของพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นในมุมมองของเขา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่ด่านอวิ๋นหลิ่งจริง ๆ เขาฆ่าล้างบางด่านอวิ๋นหลิ่งไปเลยเสียก็สิ้นเรื่องเพียงแต่เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซือเจ๋อเยว่ได้ ว่าต่อไปจะสังหารผู้คนตามใจชอบไม่ได้อีกแล้วคำมั่นสัญญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 370

    เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 369

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 368

    ซือเจ๋อเยว่จ้องมองชื่อปาเลี่ยด้วยแววตาที่จริงจัง “เสี่ยวเลี่ย เจ้าไม่เพียงแต่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ทั้งยังกล้าหาญอย่างแท้จริง" "เจ้าจะทนเห็นทหารกล้าพวกนั้นถูกสังหาร และยังต้องถูกกล่าวหาด้วยความอัปยศได้หรือ?” ชื่อปาเลี่ยอ้าปากกำลังจะตอบ แต่ซือเจ๋อเยว่รีบชิงเอ่ยก่อน “แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่เต็มใจ!” “ก่อนหน้านี้เจ้าเคยบอกข้า ว่าทหารเหล่านั้นคือวีรบุรุษ ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกฝังในดินแดนต่างถิ่นก็ถือว่าน่าเวทนาเพียงพอแล้ว พวกเขาไม่ควรต้องถูกกล่าวร้ายซ้ำอีก!” ชื่อปาเลี่ยพยายามย้อนคิดอย่างจริงจัง “ข้าเคยเอ่ยเช่นนั้นหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ตอบกลับ “แน่นอนว่าเคย!” "ข้าคิดว่าในเมื่อพวกเราล้วนเป็นสหาย ก็ควรร่วมแรงร่วมใจกัน"“สำคัญที่สุดคือหากเจ้าไม่ร่วมมือกับพวกข้า พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับแน่” "ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่า หากเจ้าสามารถล้างมลทินให้ดวงวิญญาณทั้งห้าหมื่นดวงได้ ก็จะสั่งสมบุญกุศลอันยิ่งใหญ่"ชื่อปาเลี่ยฟังคำกล่าวของนางหัวใจพลันสั่นสะเทือน เขาหันไปมอง ก็เห็นว่าเยียนอ๋องซื่อจื่อและดวงวิญญาณของเหล่าทหารจ้องมองเขาอยู่ เขานึกถึงบรรดาซากศพใต้ภูเขาเชียนจั้งที่สลายกลายเป็นธุลีดินแม้ว่าเข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 367

    “ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจคงไปกระตุ้นค่ายกลมายาเข้า ภาพที่ท่านเห็นทั้งหมดล้วนเป็นความเท็จ” เยียนอ๋องซื่อจื่อชะงักไปชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้น “ความเท็จ?” ซือเจ๋อเยว่ที่อยู่ข้างกายเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ว ท่านลองคิดดูให้ดี หากสิ่งที่ท่านเห็นเป็นเรื่องจริง ท่านซึ่งถูกพันธนาการอยู่ที่นี่จะสามารถมองเห็นราชโองการไว้อาลัยของฮ่องเต้ได้อย่างไร?” “ซึ่งข้าก็อยู่ในเมืองหลวงมาโดยตลอด เป็นเพราะตั้งแต่จวนเยียนอ๋องพ่ายศึกก็มีข้อถกเถียงมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฮ่องเต้เจาหมิงจึงไม่เคยออกโองการไว้อาลัยให้” เมื่อเยียนอ๋องซื่อจื่อพยายามระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ก็ขมวดคิ้วเข้มเป็นความจริง เมื่อไตร่ตรองให้ดี ก็จะพบว่ามันมีจุดบกพร่องทางตรรกะอยู่มากมาย เป็นเพราะกว่าครึ่งของดวงวิญญาณของเขาถูกพันธนาการไว้ที่นี่ เขาเอ่ยถาม “หากเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของฮ่องเต้สุ…ฮ่องเต้ แล้วเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่?” เยียนเซียวหรานตอบไป “ข้ากับองค์หญิงได้สืบสวนเรื่องนี้มาตลอด และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่จวนหนิงกั๋วกง” “พวกเขาร่วมมือกับพวกเต๋าสายดำใช้วิชาอาถรรพ์สร้างค่ายกลอันชั่วร้าย พวกเขาใช้ดวงวิญญาณของกองทัพหย่งอันนับหมื่นเป็นเครื่องบูช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status