แชร์

บทที่ 47

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวอย่างเป็นห่วง “หากท่านไม่สบายตรงไหน บอกข้านะ”

นางกล่าวถึงตรงนี้ก็เขินอายเล็กน้อย “แม้ฝีมือการแพทย์ของข้าไม่ดีนัก แต่โรคเล็กๆ น้อยๆ ข้ายังพอรักษาได้”

ซือเจ๋อเยว่ยิ้มเล็กน้อย “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”

นางพักอยู่ที่จวนเยียนอ๋องมาหลายวันแล้ว รู้จักคนเหล่านี้ของจวนเยียนอ๋องเป็นอย่างดี

เยียนซุ่ยซุ่ยเป็นคนพูดน้อย ปกติมักจะหมกตัวอ่านตำราแพทย์และศึกษายาในห้อง

ตอนที่นางเจอซือเจ๋อเยว่ครั้งแรก ก็คำนับอย่างสุภาพ เวลายิ้มมีลักยิ้มสองข้าง น่านักมาก

ส่วนเยียนเหนียนเหนียนที่อยู่ข้างๆ กล่าว “ตอนออกจากบ้าน ท่านย่าเคยกำชับข้า ให้ข้าดูแลองค์หญิงให้ดี”

“หากองค์ไม่สบาย ข้าแบกองค์หญิงกลับบ้านได้”

เยียนเหนียนเหนียนเป็นบุตรสาวภรรยาอีก อายุมากกว่าเยียนซุ่ยซุ่ยเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความเงียบของเยียนซุ่ยซุ่ย นิสัยของนางก็ค่อนข้างฉุนเฉียวแล้ว

หลายวันนี้ นางใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการฝึกยุทธ์ในสนามแสดงยุทธ์ของจวนเยียนอ๋อง

วรยุทธ์ของนางค่อนข้างดี ก่อนหน้านี้ตอนเยียนเซียวหรานจับคนชุดดำ นางก็เคยออกแรง และยังเคยตีศีรษะของคนที่คิดจะลอบเข้าจวนเยียนอ๋องแตก

ซือเจ๋อเยว่รีบโบกมือแล้วก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 48

    เวลานี้ลู่จิ่นเหนียงถึงกับไม่รู้ว่า ควรถามซือเจ๋อเยว่ว่าทำนายเห็นอะไรดีหรือไม่ นางกลัวได้ยินสิ่งที่ไม่ดีแต่ถ้าหากไม่รู้ ก็รู้สึกจั๊กจี้ในใจซือเจ๋อเยว่รู้ความคิดของนาง ยิ้มแล้วยิ้มอีก กลับไม่พูดสักคำเยียนซุ่ยซุ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิงดูดวงชะตาเป็นจริงๆ หรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ข้าเติบโตในสำนักเต๋า อาจารย์ทั้งเก้าท่านของข้า มีหลายท่านที่เก่งทางด้านนี้มาก ข้าได้เรียนรู้กับพวกเขาไม่น้อย”นางเห็นเยียนซุ่ยซุ่ยอยากรู้อยากเห็น จึงกล่าว “แม้ทั้งชีวิตของเจ้ามีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ขอแค่เจ้ายืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง ต้องประสบความสำเร็จแน่นอน”เยียนซุ่ยซุ่ยถามนาง “จริงหรือ? ข้าสามารถเป็นหมอที่เก่งมากๆ ได้จริงหรือ?”ซือเจ๋อเยว่มอบคำตอบที่แน่ชัดให้นาง “จริงสิ เจ้ามีพรสวรรค์ด้านฝีมือการแพทย์มาก”“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ไหว้อาจารย์ เรียนฝีมือการแพทย์ดีๆ ประกอบกับผู้คนไม่เชื่อถือหมอหญิง ก็เลยบั่นทอนความมั่นใจของเจ้า”“ดังนั้นเวลาที่เรียนแพทย์ เจ้ามักจะสงสัยในตัวเอง ที่จริงวันที่ตรวจโรคให้ข้า ก็ตรวจได้แม่นมาก เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวเอง”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าแรงๆ “ได้ ต่อไปข้าจะพยายา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 49

    “ท่านเป็นองค์หญิงแล้วเก่งมากหรือ นอกจากรังแกข้า ท่านยังทำอะไรเป็นอีก?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นองค์หญิงก็ต้องเก่งอยู่แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าข้าเลือดเกิดเป็น เจ้ามีปัญญาก็เลือกเกิดให้ได้อย่างข้าสิ!”ลู่จิ่นเหนียง “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวต่อ “นอกจากนี้ เจ้าบอกว่าข้ารังแกเจ้า หมายถึงเรื่องนี้หรือ เจ้าเป็นคนพูดไม่ดีใส่ข้าก่อน”“ข้าอุตส่าห์เตือนเจ้าด้วยความหวังดี เจ้ากลับไม่ฟัง หลังจากนั้นก็ได้รับบาดเจ็บ”“อีกอย่างนะ ข้าทำอะไรเป็นเยอะแยะ และส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เจ้าทำไม่ได้ทั้งนั้น”คำพูดนี้ทำเอาลู่จิ่นเหนียงอัดอั้นมาก ไม่ว่าจะด้วยฐานะหรือฝีปาก นางก็สู้ไม่ได้สักอย่างลู่จิ่นเหนียงโมโหจนชี้หน้านาง “เจ้า” อยู่ครึ่งค่อนวันแล้ว ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำซือเจ๋อเยว่กล่าวกับเหนียนเหนียนและซุ่ยซุ่ย “ไปกันเถอะ กลับบ้าน!”นางกล่าวจบก็ไพร่มือไว้ข้างหลัง เดินไปข้างหน้าอย่างสบายใจแล้วลู่จิ่นเหนียงอ้าปากก็ด่าคน ซือเจ๋อเยว่ย่อมไม่ปล่อยให้นางทำตามใจเยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวกับเยียนเหนียนเหนียน “ก่อนหน้านี้ตอนอยู่จวนอ๋อง เห็นองค์หญิงนิสัยอ่อนโยนมาก เวลานางดุก็ดุเช่นนี้เลยหรือ?”เยียนเหนียนเหนียนม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 50

    เดิมทีฉินซิ่วเอ้อร์ห้ามปรามนางด้วยความหวังดี คิดไม่ถึงว่านางจะพูดได้ไม่น่าฟังเช่นนี้ ขมวดคิ้วไม่สนใจนางอีกทันทีลู่จิ่นเหนียงเห็นฉินซิ่วเอ้อร์ก็ไม่สนใจนางแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจว่าตนคิดถูก ฉินซิ่วเอ้อร์ก็อยากเอาใจซือเจ๋อเยว่เช่นกันในใจนางก็ยิ่งน้อยใจแล้ว รู้สึกว่าคนของจวนเยียนอ๋องล้วนเป็นคนประเภทเอาใจคนฐานะสูง เหยียบย่ำคนต่ำต้อย มีเพียงนางที่บริสุทธิ์สูงส่งและยังรู้สึกว่าหลังจากเยียนซื่อตาย คนเหล่านี้ก็ดูถูกนาง เพราะนางเป็นแค่ลูกสาวของขุนนางขั้นหกตอนนี้คนเหล่านี้ไปยกยอซือเจ๋อเยว่กันหมดแล้ว ชีวิตในวันข้างหน้าของนางต้องลำบากมากแน่นอน เมื่อนางนึกถึงความเป็นไปได้นี้ น้ำตาก็ทะลักออกมาอีกครั้งนางหันไป เห็นเฟิ่งจือเซี่ยยังยืนอยู่ข้างนาง จึงกล่าว “ทั้งจวนอ๋องมีเพียงพี่สะใภ้รองที่จิตใจบริสุทธิ์สูงส่ง เป็นคนเช่นเดียวกับข้า”เฟิ่งจือเซี่ยเป็นภรรยาของเยียนเอ้อร์ นางแต่งเข้าจวนออกเกือบสามปีแล้ว เมื่อเทียบกับซือเจ๋อเยว่พี่สะใภ้ใหญ่คนนี้ นางเหมือนพี่สะใภ้ใหญ่มากกว่าหลังจากได้ยินคำพูดของลู่จิ่นเหนียง นางกล่าวอย่างเรียบเฉย “เลิกร้องไห้ได้แล้ว ไปเถอะ!”ในใจนางรู้สึกรำคาญลู่จิ่นเหนียงมาก เพียงแต

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 51   

    เฟิ่งจือเซี่ยหรี่ตา “ก็จริง ทุกคนมีทางเลือกของตัวเอง”“เพียงแต่ข้ากับเจ้ามีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องนี้ ข้าไม่ได้คิดจะไปจากจวนเยียนอ๋อง”ลู่จิ่นเหนียงแสดงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับความคิดของเฟิ่งจือเซี่ย “ก่อนหน้านี้ท่านมักจะทะเลาะกับพี่รอง ความสัมพันธ์ของพวกท่านไม่ดี หรือท่านจะเป็นหม้ายเพื่อเขา?”เฟิ่งจือเซี่ยนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีต หายใจเข้าลึกๆ “ใช่ เจ้ามีปัญหาหรือ?”เมื่อก่อนนางก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของนางกับเยียนเอ้อร์ไม่ดี จนถึงตอนนี้นางจึงจะรู้ว่านางคิดผิดหลังจากนางรู้ข่าวการตายของเยียนเอ้อร์ ก็ไม่เคยหลับสนิทสักคืนนางคิดถึงเยียนเอ้อร์แล้ว คิดถึงมากๆลู่จิ่นเหนียงมองเฟิ่งจือเซี่ยแวบหนึ่ง รู้สึกว่าเฟิ่งจือเซี่ยโง่มาก การเป็นหม้ายมันง่ายเสียที่ไหน?นางรู้สึกว่าตอนนี้เฟิ่งจือเซี่ยคิดเช่นนี้ วันข้างหน้าต้องเสียใจแน่นอน!พวกนางยังเดินไม่ถึงหน้าประตูของจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงคนกำลังร้องไห้ซือเจ๋อเยว่ได้ยินแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างไรก็เพิ่งส่งศพเยียนอ๋องวันนี้ พระชายาเยียนอ๋องกับเหล่าไท่จวินเสียใจหลั่งน้ำตาก็เป็นเรื่องปกติเพียงแต่เมื่อพวกนางเดินผ่านตรงหัวมุม จึงจะพบว่ามีบา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 52

    ตอนที่ซือเจ๋อเยว่ตบ ปลายนิ้วก็วาดวิชาสงบจิตไปพลาง พระชายาเยียนอ๋องรู้สึกได้ในทันทีว่า ไม่ได้กระสับกระส่ายมากเช่นนั้นแล้วพระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ท่านอ๋องไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าคำพูดนี้ของพระชายาเยียนอ๋อง เมื่อเทียบกับบอกให้นางฟัง ไม่สู้บอกว่าปลอบใจตัวเองดีกว่านางเข้าใจอารมณ์ของพระชายาเยียนอ๋อง หันไปกล่าวกับผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงนอกบ้านของท่านอ๋อง มีหลักฐานหรือไม่?”ผู้หญิงคนนั้นลวงป้ายหยกชิ้นหนึ่งจากหน้าอกส่งให้ “นี่เป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้ข้า” นางพระชายาเยียนอ๋องรู้จักป้ายหยกชิ้นนั้น เป็นของรักของหวงของท่านอ๋อง ปกติมักจะพกติดตัวตลอดเวลานางกล่าวพึมพำ “เขา…เขามอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้คนอื่น!!”ซือเจ๋อเยว่ถามผู้หญิงคนนั้นอีก “เจ้ารู้จักท่านอ๋องได้อย่างไร?”ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ตอบ ก็มีเสียงดังออกมาจากในกลุ่มคนที่มามุงดู “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงเจ๋อเยว่เป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจ วันนี้ได้เห็น เป็นเรื่องจริงจริงๆ”“ต่อให้นางเป็นองค์หญิง แต่นางเป็นเด็กรุ่นหลัง ถึงกับยุ่งเรื่องครอบครัวของพ่อผัว ไร้สัมมาคารวะจร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 53

    ข้างๆ มีคนกล่าว “ฮูหยินท่านนี้ดูแล้วก็แค่อายุสิบเจ็ดสิบแปด ใกล้เคียงกับคุณหนูของจวนอ๋อง”“เยียนอ๋องเป็นเดรัจฉานจริงๆ ถึงกับไปลักพาตัวเด็กผู้หญิงอายุแค่นี้มาเป็นผู้หญิงนอกบ้าน”“ทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย เรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ ข้าก็ชอบเด็กผู้หญิงอายุน้อยเช่นกัน”เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทิศทางของคำพูดก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย คำพูดลามกสาดออกมาจากสารทิศเฉิงเอินโหวฮูหยินก้าวออกมากล่าว “จากที่ข้าดูนะ ฮูหยินท่านนี้ให้ความสำคัญกับความรักและความถูกต้อง”“อย่างไรตอนนี้จวนอ๋องก็เหลือแค่คุณชายสามคนเดียว ให้ฮูหยินท่านนี้คลอดคุณชายให้อีกท่าน ก็สามารถช่วยเพิ่มเกียรติของจวนอ๋อง”“พระชายา ท่านเลิกมาชักช้าอยู่ที่นี่ ให้คนดูเรื่องน่าขำได้แล้ว รีบพาคนเข้าไปในจวนเถอะ!”เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ มีหลายคนคล้อยตามทันทีพระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยความโกรธ “ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ท่านอ๋องไม่อยู่แล้ว ข้าจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เข้าจวนส่งเดชได้อย่างไร?”เฉิงเอินโหวฮูหยินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จะนับว่านางไม่รู้หัวนอนปลายเท้าได้อย่างไร?”“ในมือนางมีป้ายหยกของเยียนอ๋อง และยังสามารถบอกสถานที่กับเวลาที่พบเยียนอ๋อง”“จากที่ข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 54

    เพียงแต่พวกเขาตะโกนได้สองประโยคก็ตะโกนไม่ออกแล้วเพราะซือเจ๋อเยว่ได้วิ่งเข้าไปฉีกกระชากท้องของผู้หญิงท้องคนนั้นอีกครั้งนางดึงหมอนขนาดใหญ่ใบหนึ่งออกมาจากในท้องของผู้หญิงท้อง ท้องของนางแบนลงทันทีผู้คนโดยรอบที่มามุงดูตะลึงก่อน หลังจากนั้นมีคนตะโกน “ท้องของนางเป็นของปลอม!”ผู้หญิงท้องคนนั้นเห็นท่าไม่ดี หมุนกายก็จะหนีทันทีซือเจ๋อเยว่เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว พลันคว้าผมของนางไว้ กระชากนางล้มลงพื้นอย่างแรงจากนั้นยกเท้าเหยียบหน้าอกของผู้หญิงท้องแล้วกล่าว “แม่นางคิดว่าคนของจวนเยียนอ๋องหลอกง่ายจริงๆ หรือ? รังแกคนของจวนเยียนอ๋องแล้วยังคิดจะหนีอีกหรือ?”พระชายาเยียนอ๋องตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ นางกล่าวด้วยความโกรธ “เป็นของปลอม! ผู้หญิงคนนี้เป็นคนหลอกลวง!”เยียนเหนียนเหนียนกล่าวเสียงดัง “ข้ารู้อยู่แล้ว เสด็จพ่อของข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้!”เฉิงเอินโหวฮูหยินคิดจะหนี เฟิ่งจือเซี่ยขวางนางไว้ “เฉิงเอินโหวฮูหยิน โปรดอยู่ก่อน”“ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนหลอกลวง รบกวนท่านขอโทษเสด็จแม่และน้องสาวของข้าด้วย”ดวงตาเฉิงเอินโหวฮูหยินมองไปทั่ว เค้นรอยยิ้มแล้วกล่าว “เมื่อครู่ข้าก็ถูกผู้หญิงค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 55 

    เฉิงเอินโหวฮูหยิน “...”เฉิงเอินโหวฮูหยิน “!!!”คำพูดนี้ฟังดูคุ้นๆ!นางมองไปทางซือเจ๋อเยว่ ซือเจ๋อเยว่จ้องกลับไปตรงๆนางแลดูอ้อนแอ้นอ่อนแอ กลิ่นอายรอบตัวกลับแข็งแกร่งถึงขีดสุด จ้องจนเฉิงเอินโหวฮูหยินเริ่มรู้สึกกลัวซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างเชื่องช้า “วันนี้ฮูหยินพูดโดยไม่คิด หมิ่นเสด็จแม่ของข้า รังแกน้องสาวของข้า”“แม้ตอนนี้จวนเยียนอ๋องไม่มีผู้ชาย แต่ในจวนยังมีผู้หญิง ผู้ที่รังแกจวนอ๋องของเรา ผู้ที่ดูหมิ่นจวนอ๋องของเรา จะต้องได้รับผลกรรม!”“ข้ามีเหตุผลอันสมควรที่จะสงสัยว่า ฮูหยินเป็นคนส่งผู้หญิงท้องท่านนี้มาทำให้เสด็จพ่อเสียชื่อ และอาจเกี่ยวข้องกับคดีแพ้สงคราม เรื่องนี้ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด”“ดังนั้นวันนี้ต้องรบกวนฮูหยินไปศาลต้าหลี่กับข้าแล้ว ข้าจะขอให้ศาลต้าหลี่ตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียด!”เฉิงเอินโหวฮูหยินมองตาค้างโดยตรง นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซือเจ๋อเยว่จะแข็งกร้าวเช่นนี้! และข้อกล่าวหาที่ซือเจ๋อเยว่กล่าวหานาง ยิ่งทำให้นางตกใจปัจจุบันฮ่องเต้เจาหมิงยังไม่ได้ตัดสินเรื่องแพ้สงคราม จวนเยียนอ๋องยังคงเป็นจวนเยียนอ๋อง!นางรีบกล่าว “เรื่องวันนี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ผู้หญิงท้องคนนั

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status