Share

บทที่ 51   

Author: เจียงหนานเยียน
เฟิ่งจือเซี่ยหรี่ตา “ก็จริง ทุกคนมีทางเลือกของตัวเอง”

“เพียงแต่ข้ากับเจ้ามีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องนี้ ข้าไม่ได้คิดจะไปจากจวนเยียนอ๋อง”

ลู่จิ่นเหนียงแสดงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับความคิดของเฟิ่งจือเซี่ย “ก่อนหน้านี้ท่านมักจะทะเลาะกับพี่รอง ความสัมพันธ์ของพวกท่านไม่ดี หรือท่านจะเป็นหม้ายเพื่อเขา?”

เฟิ่งจือเซี่ยนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีต หายใจเข้าลึกๆ “ใช่ เจ้ามีปัญหาหรือ?”

เมื่อก่อนนางก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของนางกับเยียนเอ้อร์ไม่ดี จนถึงตอนนี้นางจึงจะรู้ว่านางคิดผิด

หลังจากนางรู้ข่าวการตายของเยียนเอ้อร์ ก็ไม่เคยหลับสนิทสักคืน

นางคิดถึงเยียนเอ้อร์แล้ว คิดถึงมากๆ

ลู่จิ่นเหนียงมองเฟิ่งจือเซี่ยแวบหนึ่ง รู้สึกว่าเฟิ่งจือเซี่ยโง่มาก การเป็นหม้ายมันง่ายเสียที่ไหน?

นางรู้สึกว่าตอนนี้เฟิ่งจือเซี่ยคิดเช่นนี้ วันข้างหน้าต้องเสียใจแน่นอน!

พวกนางยังเดินไม่ถึงหน้าประตูของจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงคนกำลังร้องไห้

ซือเจ๋อเยว่ได้ยินแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างไรก็เพิ่งส่งศพเยียนอ๋องวันนี้ พระชายาเยียนอ๋องกับเหล่าไท่จวินเสียใจหลั่งน้ำตาก็เป็นเรื่องปกติ

เพียงแต่เมื่อพวกนางเดินผ่านตรงหัวมุม จึงจะพบว่ามีบา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 52

    ตอนที่ซือเจ๋อเยว่ตบ ปลายนิ้วก็วาดวิชาสงบจิตไปพลาง พระชายาเยียนอ๋องรู้สึกได้ในทันทีว่า ไม่ได้กระสับกระส่ายมากเช่นนั้นแล้วพระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ท่านอ๋องไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าคำพูดนี้ของพระชายาเยียนอ๋อง เมื่อเทียบกับบอกให้นางฟัง ไม่สู้บอกว่าปลอบใจตัวเองดีกว่านางเข้าใจอารมณ์ของพระชายาเยียนอ๋อง หันไปกล่าวกับผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงนอกบ้านของท่านอ๋อง มีหลักฐานหรือไม่?”ผู้หญิงคนนั้นลวงป้ายหยกชิ้นหนึ่งจากหน้าอกส่งให้ “นี่เป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้ข้า” นางพระชายาเยียนอ๋องรู้จักป้ายหยกชิ้นนั้น เป็นของรักของหวงของท่านอ๋อง ปกติมักจะพกติดตัวตลอดเวลานางกล่าวพึมพำ “เขา…เขามอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้คนอื่น!!”ซือเจ๋อเยว่ถามผู้หญิงคนนั้นอีก “เจ้ารู้จักท่านอ๋องได้อย่างไร?”ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ตอบ ก็มีเสียงดังออกมาจากในกลุ่มคนที่มามุงดู “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงเจ๋อเยว่เป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจ วันนี้ได้เห็น เป็นเรื่องจริงจริงๆ”“ต่อให้นางเป็นองค์หญิง แต่นางเป็นเด็กรุ่นหลัง ถึงกับยุ่งเรื่องครอบครัวของพ่อผัว ไร้สัมมาคารวะจร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 53

    ข้างๆ มีคนกล่าว “ฮูหยินท่านนี้ดูแล้วก็แค่อายุสิบเจ็ดสิบแปด ใกล้เคียงกับคุณหนูของจวนอ๋อง”“เยียนอ๋องเป็นเดรัจฉานจริงๆ ถึงกับไปลักพาตัวเด็กผู้หญิงอายุแค่นี้มาเป็นผู้หญิงนอกบ้าน”“ทุกคนล้วนเป็นผู้ชาย เรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ ข้าก็ชอบเด็กผู้หญิงอายุน้อยเช่นกัน”เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทิศทางของคำพูดก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย คำพูดลามกสาดออกมาจากสารทิศเฉิงเอินโหวฮูหยินก้าวออกมากล่าว “จากที่ข้าดูนะ ฮูหยินท่านนี้ให้ความสำคัญกับความรักและความถูกต้อง”“อย่างไรตอนนี้จวนอ๋องก็เหลือแค่คุณชายสามคนเดียว ให้ฮูหยินท่านนี้คลอดคุณชายให้อีกท่าน ก็สามารถช่วยเพิ่มเกียรติของจวนอ๋อง”“พระชายา ท่านเลิกมาชักช้าอยู่ที่นี่ ให้คนดูเรื่องน่าขำได้แล้ว รีบพาคนเข้าไปในจวนเถอะ!”เมื่อนางกล่าวเช่นนี้ มีหลายคนคล้อยตามทันทีพระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยความโกรธ “ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ท่านอ๋องไม่อยู่แล้ว ข้าจะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เข้าจวนส่งเดชได้อย่างไร?”เฉิงเอินโหวฮูหยินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “จะนับว่านางไม่รู้หัวนอนปลายเท้าได้อย่างไร?”“ในมือนางมีป้ายหยกของเยียนอ๋อง และยังสามารถบอกสถานที่กับเวลาที่พบเยียนอ๋อง”“จากที่ข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 54

    เพียงแต่พวกเขาตะโกนได้สองประโยคก็ตะโกนไม่ออกแล้วเพราะซือเจ๋อเยว่ได้วิ่งเข้าไปฉีกกระชากท้องของผู้หญิงท้องคนนั้นอีกครั้งนางดึงหมอนขนาดใหญ่ใบหนึ่งออกมาจากในท้องของผู้หญิงท้อง ท้องของนางแบนลงทันทีผู้คนโดยรอบที่มามุงดูตะลึงก่อน หลังจากนั้นมีคนตะโกน “ท้องของนางเป็นของปลอม!”ผู้หญิงท้องคนนั้นเห็นท่าไม่ดี หมุนกายก็จะหนีทันทีซือเจ๋อเยว่เตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว พลันคว้าผมของนางไว้ กระชากนางล้มลงพื้นอย่างแรงจากนั้นยกเท้าเหยียบหน้าอกของผู้หญิงท้องแล้วกล่าว “แม่นางคิดว่าคนของจวนเยียนอ๋องหลอกง่ายจริงๆ หรือ? รังแกคนของจวนเยียนอ๋องแล้วยังคิดจะหนีอีกหรือ?”พระชายาเยียนอ๋องตะลึงเมื่อเห็นภาพนี้ นางกล่าวด้วยความโกรธ “เป็นของปลอม! ผู้หญิงคนนี้เป็นคนหลอกลวง!”เยียนเหนียนเหนียนกล่าวเสียงดัง “ข้ารู้อยู่แล้ว เสด็จพ่อของข้าไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้!”เฉิงเอินโหวฮูหยินคิดจะหนี เฟิ่งจือเซี่ยขวางนางไว้ “เฉิงเอินโหวฮูหยิน โปรดอยู่ก่อน”“ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนหลอกลวง รบกวนท่านขอโทษเสด็จแม่และน้องสาวของข้าด้วย”ดวงตาเฉิงเอินโหวฮูหยินมองไปทั่ว เค้นรอยยิ้มแล้วกล่าว “เมื่อครู่ข้าก็ถูกผู้หญิงค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 55 

    เฉิงเอินโหวฮูหยิน “...”เฉิงเอินโหวฮูหยิน “!!!”คำพูดนี้ฟังดูคุ้นๆ!นางมองไปทางซือเจ๋อเยว่ ซือเจ๋อเยว่จ้องกลับไปตรงๆนางแลดูอ้อนแอ้นอ่อนแอ กลิ่นอายรอบตัวกลับแข็งแกร่งถึงขีดสุด จ้องจนเฉิงเอินโหวฮูหยินเริ่มรู้สึกกลัวซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างเชื่องช้า “วันนี้ฮูหยินพูดโดยไม่คิด หมิ่นเสด็จแม่ของข้า รังแกน้องสาวของข้า”“แม้ตอนนี้จวนเยียนอ๋องไม่มีผู้ชาย แต่ในจวนยังมีผู้หญิง ผู้ที่รังแกจวนอ๋องของเรา ผู้ที่ดูหมิ่นจวนอ๋องของเรา จะต้องได้รับผลกรรม!”“ข้ามีเหตุผลอันสมควรที่จะสงสัยว่า ฮูหยินเป็นคนส่งผู้หญิงท้องท่านนี้มาทำให้เสด็จพ่อเสียชื่อ และอาจเกี่ยวข้องกับคดีแพ้สงคราม เรื่องนี้ปล่อยผ่านไม่ได้เด็ดขาด”“ดังนั้นวันนี้ต้องรบกวนฮูหยินไปศาลต้าหลี่กับข้าแล้ว ข้าจะขอให้ศาลต้าหลี่ตรวจสอบคดีนี้อย่างละเอียด!”เฉิงเอินโหวฮูหยินมองตาค้างโดยตรง นางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซือเจ๋อเยว่จะแข็งกร้าวเช่นนี้! และข้อกล่าวหาที่ซือเจ๋อเยว่กล่าวหานาง ยิ่งทำให้นางตกใจปัจจุบันฮ่องเต้เจาหมิงยังไม่ได้ตัดสินเรื่องแพ้สงคราม จวนเยียนอ๋องยังคงเป็นจวนเยียนอ๋อง!นางรีบกล่าว “เรื่องวันนี้เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ผู้หญิงท้องคนนั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 56

    เจ้าหน้าที่ตอบรับพร้อมจะเข้ามาจับกุมคน เฉิงเอินโหวฮูหยินยิ่งวิตกกังวลกว่าเดิม “ข้าก็แค่พูดลอย ๆ ไม่กี่คำ เหตุใดจึงกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเสียได้?” “ใต้เท้าเหวย ท่านจะจับคนตามอำเภอใจไม่ได้!” เหวยอิ้งหวนยกมือคารวะให้เฉิงเอินโหวฮูหยินโดยไม่แสดงสีหน้าใด ๆ “ข้ามิได้จับคนตามอำเภอใจ ทว่าเป็นจวนเยียนอ๋องที่ฟ้องร้องฮูหยิน” “บัดนี้มีทุกคนที่นี่เป็นพยาน แน่นอนว่าข้าจะต้องสอบสวนเพิ่มเติม ฮูหยินโปรดอภัย” คำพูดของเขามีความเกรงใจ ทว่าการกระทำนั้นไม่เกรงใจเลย โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่กุมตัวเฉิงเอินโหวฮูหยินออกไปทันที เวลานี้เฉิงเอินโหวฮูหยินรู้สึกเสียใจมาก หากรู้ว่าเรื่องจะจบลงเช่นนี้นางคงไม่เข้ามายุ่งตั้งแต่แรก! เหวยอิ้งหวนยังเป็นผู้พิพากษาที่เถรตรงแห่งเมืองหลวง เขากระทำการโดยยึดถือเพียงหลักฐานไม่สนฐานะคน ไม่ว่าเจ้าจะมีสถานะใด ตราบใดที่กระทำความผิด เขาก็กล้าที่จะจับกุม เฉิงเอินโหวฮูหยินรู้ว่าคราวนี้ตนจะต้องมีมลทินจากการถูกจับเข้าเรือนจำ เมื่อกลับจวน เกรงว่าเฉิงเอินโหวจะหย่าขาดจากนางแน่นอน มันจะกลายเป็นเรื่องขบขันของเมืองหลวง นางร้องไห้ขอความเมตตา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 57

    “ยามนี้ข้าแค่หวังว่าศาลต้าหลี่จะจัดการกับคดีนี้อย่างจริงจัง ลงโทษเฉิงเอินโหวฮูหยินให้หนัก มิเช่นนั้นเกรงว่าในวันข้างหน้าจะมีใครกล้ามารังแกจวนเยียนอ๋องอีก” ซือเจ๋อเยว่เลิกคิ้วเพียงเบา ๆ “ลงโทษเฉิงเอินโหวฮูหยินนั้นไม่ยาก ทว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการกระทำของนางคือการเชือดไก่ให้ลิงดู” “สำหรับพวกที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเหล่านั้น แม้จะได้รู้แล้วว่าจวนเยียนอ๋องจัดการไม่ง่าย ทว่าจะไม่ยอมแพ้” “และบัดนี้พวกเราอยู่ในที่แจ้ง ศัตรูอยู่ในที่มืด พวกเราเป็นเพียงเป้าที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ปัญหามากมายจะตามมาเคาะประตูไม่หยุดหย่อน” เหล่าไท่จวินผงกศีรษะ “เป็นเช่นนั้นจริง แล้วองค์หญิงมีแผนการดี ๆ บ้างหรือไม่?” ซือเจ๋อเยว่ตอบว่า “ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ หนทางดีที่สุดสำหรับจวนเยียนอ๋องคือการย้ายทั้งครอบครัวไปอยู่ที่บ้านบรรพบุรุษนอกเมือง” “แต่ทว่าตอนนี้คดีของจวนอ๋องยังไม่สิ้นสุด พวกเราจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในการสอบสวน จึงยังย้ายครอบครัวไม่ได้ ทางเลือกดีที่สุดตอนนี้คือปิดจวน” “บังเอิญว่ายังมีเหตุผลของการปิดจวนเยียนอ๋องที่ดีพอ นั่นคือการไว้ทุกข์” “ขอเพียงพวกเราปิดประตูและใช้ชีวิต

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 58

    แม้ว่าสุดท้ายลู่จิ่นเหนียงจะจากไปก็ต้องไปพร้อมกับข้ออ้างว่าทุกคนในจวนอ๋องไม่ต้อนรับนาง มิใช่การจากไปโดยที่ทุกคนไม่เกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อเลย นางมองเหล่าไท่จวินด้วยความตกตะลึงมากแล้วพูดว่า “ท่านย่าเร่งรีบผลักไสข้าไปหรือ?” เหล่าไท่จวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “มิใช่ว่าข้าอยากผลักไสเจ้าไป แต่เป็นเจ้าที่อยากไปเอง” “เจ้ายังสาว เสี่ยวซื่อก็จากไปแล้ว หากข้ายังบังคับให้เจ้าอยู่ในจวนเยียนอ๋องต่อไป เกรงว่าจะทำให้เจ้าคับข้องใจ” “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มิสู้ปล่อยเจ้าไปจะดีกว่า และยุติความสัมพันธ์นี้ลงเสีย” ลู่จิ่นเหนียงน้ำตาร่วงพรูลงมามิขาดสาย “นี่ท่านย่ากำลังขับไล่ข้าออกไป!” เหล่าไท่จวินเพิกเฉยต่อนาง หันไปมองทางเฟิ่งจือเซี่ยและฉินซิ่วเอ๋อร์ “พวกเจ้าทุกคนอายุยังน้อย ชีวิตที่มีสีสันกำลังรออยู่ข้างหน้า” “หากพวกเจ้าก็อยากออกไป ข้าจะแจ้งให้คนในครอบครัวของพวกเจ้ามารับตัวพวกเจ้าด้วย” เฟิ่งจือเซี่ยเอ่ยด้วยดวงตาแดงระเรื่อ “ข้าแต่งงานเข้าจวนอ๋องได้อย่างไร ท่านย่าย่อมรู้ดี” “หากข้ากลับไปตอนนี้ คนในบ้านพ่อแม่เหล่านั้นจะไม่ต้อนรับข้าเด็ดขาด” “และ…และในใจของข้ามีเพียงแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 59

    “หากว่าข้าได้รับโอกาสอีกครั้ง ข้าจะใช้ชีวิตคู่กับพี่เอ้อร์ให้ดี ๆ ตั้งแต่แต่งงานเข้าจวนเลย มีลูกชายและลูกสาวอย่างละคนให้เขา…” น้ำตาของนางร่วงเผาะยามเอ่ยเช่นนั้น สุดท้ายก็พูดต่อไม่ไหวแล้ว สำหรับเรื่องในอดีต ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับนาง ทว่าหลังจากที่นางแต่งเข้าจวนอ๋อง ไม่มีใครเอ่ยถึงเลย แม้แต่นางเองก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถึงด้วยซ้ำ เวลานี้นางได้พูดความในใจทั้งหมดออกมา ทั้งคนจึงแลดูผ่อนคลายมากขึ้น เหล่าไท่จวินยกมือลูบศีรษะของนางอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “ทั้งหมดเป็นเพียงอดีต เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็อย่าพูดถึงอีกเลย” “หากเจ้าตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ เช่นนั้นก็มาเป็นลูกสาวของจวนเยียนอ๋องเถอะ!” เฟิ่งจือเซี่ยพยักหน้าเบา ๆ เหล่าไท่จวินมองไปที่ฉินซิ่วเอ๋อร์อีกรอบ ฉินซิ่วเอ๋อร์ยังไม่ทันได้พูด ลู่จิ่นเหนียงก็ชิงพูดก่อนว่า “น้องสะใภ้ห้า เจ้าอายุน้อยที่สุด และเพิ่งแต่งงานกับน้องอู่ได้เพียงครึ่งปี...” “ข้าอยากอยู่ในจวนอ๋องเจ้าค่ะ” ฉินซิ่วเอ๋อร์พูดแทรกนางและพูดว่า “ข้ากับพี่อู่เป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ” “นับตั้งแต่วันที่ข้าได้แต่งงานกับเขา

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 372

    ไป๋จื้อเซียน “...”ในช่วงเวลาหนึ่งพันปีที่เขาตายไป ไม่มีผู้ใดกล้าสั่งให้เขาทำเรื่องใดก็ตามตอนนี้ซือเจ๋อเยว่กลับให้เขาไปแสร้งทำเป็นผีเพื่อถ่วงเวลาทหารยาม นางเห็นเขาเป็นตัวอะไรกันแน่!เขาหันหน้ามองนาง นางประสานมือคำนับเขาพร้อมกล่าว “คุณชายไป๋ดีที่สุด รบกวนด้วย”ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ในดวงตาแฝงไปด้วยความอ้อนวอนเล็ก ๆคำปฏิเสธของไป๋จื้อเซียนที่กำลังจะพูดออกมา ได้กลืนกลับลงไปอีกครั้งร่างของเขาหายไปจากด้านบนคานห้อง ไปปรากฏตัวอยู่ที่ท้องฟ้าของด่านอวิ๋นหลิ่งทหารยามเมื่อครู่ตะโกนว่ามีผี ไป๋จื้อเซียนก็ปรากฏตัวที่ท้องฟ้าด้วยชุดสีแดงทันที เกือบจะทำให้ทหารยามที่อยู่ประตูด่านตกใจจนขวัญกระเจิงถึงแม้เขาจะหน้าตาดีแค่ไหน แต่การปรากฏตัวขึ้นในยามราตรีเช่นนี้ นั่นก็ทำให้คนตกใจได้เช่นกันอย่างไรเสียก็คนไม่มีคนปกติคนใดสามารถลอยอยู่กลางอากาศได้เช่นนี้ นี่จึงเห็นได้ชัดว่าก็คือผี!ก่อนหน้านี้ไป๋จื้อเซียนฆ่าคนเหมือนผักปลา คิดมาตลอดว่ามีเพียงดวงวิญญาณที่ไร้ความสามารถพวกนั้นเท่านั้นถึงได้แกล้งหลอกผีให้ผู้คนตกใจบัดนี้ไม่คิดเลยว่าเขากลับต้องมาทำเรื่องแบบนี้เช่นกันสายของเขาที่จ้องมองพลท

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 371

    ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานต่างรู้ดี พยานอย่างชื่อปาเลี่ย แม้แต่จะยืนยันว่าเยียนอ๋องพ่ายศึกเพราะถูกคนวางแผนชั่วยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะลากจวนหนิงกั๋วกงลงมาเอี่ยวด้วยหากสามารถตามหาสำเนาของเอกสารฉบับนั้นตามที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าว อย่างน้อยก็สามารถทำให้จวนเยียนอ๋องเป็นอิสระจากคดีนั้นได้ สามารถทำให้เยียนเซียวหรานสืบทอดตำแหน่งได้ดังนั้นพวกเขาจึงปรึกษาหารือกันครู่หนึ่ง ตัดสินใจว่าจะไปที่ด่านอวิ๋นหลิ่งอีกสักรอบครั้งนี้พวกเขาฉลาดแล้ว ได้รู้จักคนของเยียนเซียวหรานที่อยู่ในกองทัพไม่น้อย เพื่อป้องกันถูกคนจำได้ เขาจึงสวมหน้ากากหนังมนุษย์ส่วนซือเจ๋อเยว่ นางแต่งตัวเป็นผู้ชายชื่อปาเลี่ยเองก็กลัวคนจำได้เช่นกัน เขาไม่ได้สวมหน้ากาก แต่ว่าหาอะไรมาครอบลูกตาข้างหนึ่งเอาไว้แสร้งทำเป็นคนตาบอดเสียเลยหลังจากที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นการแต่งกายของพวกเขาก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นในมุมมองของเขา หากเกิดการต่อสู้ขึ้นที่ด่านอวิ๋นหลิ่งจริง ๆ เขาฆ่าล้างบางด่านอวิ๋นหลิ่งไปเลยเสียก็สิ้นเรื่องเพียงแต่เขายังจำคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับซือเจ๋อเยว่ได้ ว่าต่อไปจะสังหารผู้คนตามใจชอบไม่ได้อีกแล้วคำมั่นสัญญ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 370

    เยียนอ๋องซื่อจื่อแย้มยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกเกรงใจข้า” “ข้ากับองค์หญิง ก่อนหน้านี้แม้แต่พบหน้ากันก็ยังไม่เคย จะให้มีความผูกพันใด ๆ ได้อย่างไร""ระหว่างข้ากับนาง แม้แต่สถานะสามีภรรยาก็ถูกท่านย่าทำลายไปตั้งแต่คืนวันแต่งงานแล้ว""หากคำนวณให้ดี ข้ากับนางไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย นางไม่อาจนับว่าเป็นภรรยาของข้า""ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้า หากเจ้าชอบนาง ก็สามารถไล่ตามความรู้สึกของเจ้าได้อย่างเต็มที่"เยียนเซียวหรานได้ยินถ้อยคำนี้แล้วก็ไม่รู้จะตอบกลับเช่นไรเยียนอ๋องซื่อจื่อเอื้อมมือไปตบไหล่เขา แต่มือของเขากลับทะลุผ่านร่างอีกฝ่ายไปเขาชะงักไปชั่วครู่ ซึ่งในเวลานี้เอง ที่เขาได้ตระหนักถึงความจริงว่าตนได้จากโลกนี้ไปอย่างแท้จริงเขาตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "การได้พบกับคนที่ตนชอบไม่ใช่เรื่องง่าย""เมื่อพบเจอแล้ว ก็ควรทะนุถนอมให้ดี""ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า สิ่งที่ข้าปรารถนามากที่สุดก็คือขอให้เจ้ามีชีวิตที่เป็นสุข"เยียนเซียวหรานได้ยินดังนั้นดวงตาก็พลันร้อนผ่าว เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบา "พี่ใหญ่ ข้าจะทำตามที่ท่านบอก"เย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 369

    ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความรู้สึกประทับใจ “เยียนอ๋องกับพระชายาช่างให้กำเนิดบุตรชายได้ดีนัก อีกทั้งยังอบรมสั่งสอนอย่างยอดเยี่ยม” เมื่อไป๋จื้อเซียนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยิน สีหน้าไม่สบอารมณ์ทันที “พวกเขาจะเก่งกว่าข้าหรือ?” ซือเจ๋อเยว่ยังคงไม่ชินกับการที่ไป๋จื้อเซียนอยู่ข้างกายเขาฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือเลิศล้ำอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหูหรือสายตาล้วนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา ที่สำคัญเขาก็มีพฤติกรรมประหลาด ชอบเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเยียนเซียวหรานทุกเรื่อง นางคิดว่าสมองของเขาคงมีปัญหา เพราะยามนี้เขายังไม่ได้เป็นแม้กระทั่งสหายของนางเลยด้วยซ้ำ แต่กลับมาขอให้นางเปรียบเทียบกับคนรักของนาง เช่นนี้แล้วจะเปรียบเทียบได้หรือ?แต่เพราะนิสัยของเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้  ยามนี้นางยังไม่อยากมีปัญหากับเขา นางจึงตอบกลับไป “แต่ละคนก็มีข้อดีของตนเอง แต่หากเอ่ยถึงเรื่องต่อสู้ แม้คุณชายไป๋จะไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า แต่ก็ต้องติดหนึ่งในสามอันดับแน่นอน” “เรียกข้าว่าจื้อเซียน” ไป๋จื้อเซียนเหลือบมองนางตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย “คุณชายไป๋อะไร ฟังดูห่างเหินนัก” ชื่อปาเลี่ยที่ยืนฟังด้วยความสนใจอยู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status