แชร์

บทที่ 44

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เยียนลิ่วมองซือเจ๋อเยว่แล้วกล่าว “องค์หญิงพี่สะใภ้ พวกเรารู้ทุกอย่างที่ท่านทำเพื่อจวนเยียนอ๋อง พวกเราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งมาก”

ดวงตาซือเจ๋อเยว่โก่งทันที “เจ้าเรียกข้าพี่สะใภ้ พวกเราก็คือคนครอบครัวเดียวกัน คนครอบครัวเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกัน”

เยียนลิ่วเห็นท่าทางที่นางยิ้ม เหม่อไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เวลาท่านยิ้มสวยจัง”

คราวนี้ซือเจ๋อเยว่ยิ้มจนคิ้วโก่งแล้ว

เยียนลิ่วหันไปมองซื่อจื่อที่เอาแต่ยืนพึมพำอยู่ข้างๆ กล่าวเสียงเบา “ตอนพี่ใหญ่ข้ายังมีชีวิต เขาเป็นคนที่ดีมากๆ”

“แม้เขาดีมาก แต่ตอนที่องค์หญิงพี่สะใภ้แต่งเข้าจวนอ๋อง เขาก็ได้ตายแล้ว”

“เรื่องนี้น่าเสียดายจริงๆ หากพี่ใหญ่ยังมีชีวิต พวกท่านต้องเข้ากันได้ดีแน่นอน”

ซือเจ๋อเยว่หัวเราะ มองซื่อจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆ แวบหนึ่ง แล้วหันไปมองเยียนเซียวหรานแวบหนึ่ง นางรู้สึกว่าเรื่องนี้มันก็พูดยากจริงนั่นล่ะ

ร่างของพวกเขาในเวลานี้ค่อยๆ จางลง ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าถึงเวลาของพวกเขาแล้ว

เยียนลิ่วรีบกล่าวกับเยียนเซียวหราน “พี่สาม จ้าวซือหว่านไม่คู่ควรกับท่าน”

“ท่านรีบถอนหมั้นกับนางเสีย หาคนดีๆ สักคนที่เหมือน… เอ่อ…เหมือนองค์หญิงพี่สะใภ้”

เยียนอ๋องเขม่นใส่เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 45

    เมื่อซือเจ๋อเยว่เห็นสีหน้าเช่นนี้ของเขา แน่นหน้าอกฉับพลัน บนใบหน้ากลับกล่าวอย่างสงบ “ของข้าเอง”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่ง แล้วมองดอกกล้วยไม้ที่อยู่ข้างบนอย่างละเอียดเหมือนดอกกล้วยไม้บนผ้าเช็ดหน้าที่ผู้หญิงคนนั้นลืมไว้เมื่อสองปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยนลายปักดอกกล้วยไม้บนผ้าเช็ดหน้าผืนนี้แตกต่างไปจากที่นิยมในปัจจุบัน และมีความประณีตสูงมากถุงเงินหนึ่งใบคือเรื่องบังเอิญ แต่ผ้าเช็ดหน้าก็เหมือนกันอีก ก็ไม่มีทางเป็นเรื่องบังเอิญแล้ว เขาถามซือเจ๋อเยว่ “ท่านเป็นคนปักเองหรือ?”ซือเจ๋อเยว่ส่ายศีรษะ “ข้าทำงานเย็บปักถักร้อยไม่เป็น ข้าซื้อผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มาจากตำบลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อยู่นอกสำนัก”“ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ”เยียนเซียวหรานไม่ได้ตอบ เอาแต่ใช้ดวงตาสีเข้มคู่นั่นจ้องนางซือเจ๋อเยว่ถูกเขามองจนรู้สึกกลัว “เจ้ามองข้าเช่นนี้ทำไม?”“เป็นเพราะผ้าเช็ดหน้ามีปัญหา? เช่นนั้นเจ้าก็สืบยากแล้ว เพราะผ้าเช็ดหน้าเช่นนี้ ที่ร้านเย็บปักนั่นไม่มีหมื่นผืนก็มีหลายพันผืน”คำพูดนี้ของนางเป็นความจริง นางเป็นคนวาดลายดอกกล้วยไม้นี้ให้ร้านเย็บปักดูเถ้าแก่ร้านเย็บปักเห็นว่าลายดอกไม้เช่นนี้พ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 46

    ซือเจ๋อเยว่รู้สึกว่า ต่อไปเวลาอยู่ต่อหน้าเยียนเซียวหราน นางต้องระวังให้มากๆเพียงแต่คืนนั้นมันบ้ามาก หลังเกิดเรื่องนางแทบวิ่งหนีกระเจิงตอนนี้นางจำไม่ได้ว่า ลืมของอะไรไว้ที่เขา และเขาเห็นอะไรนางรู้สึกว่า ต้องทิ้งของทุกอย่างที่เคยใช้ ไม่เช่นนั้นหากเขาพบอะไรอีก นางไม่รู้จะอธิบายอย่างไรแล้วเยียนซุ่ยซุ่ยเห็นพวกเขาเดินมา รู้สึกว่าบรรยากาศระหว่างพวกเขาค่อนข้างผิดปกติแต่ชั่วขณะนางก็บอกไม่ถูกว่ามีอะไรผิดปกติหลังจากฝังเยียนอ๋อง ช่างฝีมือทุกคนมารวมตัวกันตามกฎแล้ว ช่วงนี้เยียนเซียวหรานต้องเฝ้าอยู่ที่สุสาน หลังจากเฝ้าครบสี่สิบเก้าวันจึงจะกลับบ้านได้เวลานี้เขาเดินไปกล่าวกับเยียนซุ่ยซุ่ยและคนอื่น “ช่วงนี้พวกเจ้าดูแลท่านย่ากับท่านแม่ให้ดี”เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าว “พี่สามวางใจเถอะ ข้าจะดูแลท่านย่ากับท่านแม่อย่างดี”ซือเจ๋อเยว่ล้วงของห่อหนึ่งจากหน้าอกส่งให้เขา “เจ้าอยู่ข้างนอกคนเดียว ต้องระวังตัวด้วย”“นี่คือผงยาที่อาจารย์สามมอบให้ข้า เขาบอกว่าใช้ดีมาก แต่ข้าไม่เคยลองใช้ ไม่รู้ว่ามีผลอย่างไร”เยียนเซียวหราน “...”นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่ามีคนกล้ามอบยาผงให้ผู้อื่นใช้ โดยที่ไม่รู้สรรพคุณ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 47

    เยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวอย่างเป็นห่วง “หากท่านไม่สบายตรงไหน บอกข้านะ”นางกล่าวถึงตรงนี้ก็เขินอายเล็กน้อย “แม้ฝีมือการแพทย์ของข้าไม่ดีนัก แต่โรคเล็กๆ น้อยๆ ข้ายังพอรักษาได้”ซือเจ๋อเยว่ยิ้มเล็กน้อย “เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”นางพักอยู่ที่จวนเยียนอ๋องมาหลายวันแล้ว รู้จักคนเหล่านี้ของจวนเยียนอ๋องเป็นอย่างดีเยียนซุ่ยซุ่ยเป็นคนพูดน้อย ปกติมักจะหมกตัวอ่านตำราแพทย์และศึกษายาในห้อง ตอนที่นางเจอซือเจ๋อเยว่ครั้งแรก ก็คำนับอย่างสุภาพ เวลายิ้มมีลักยิ้มสองข้าง น่านักมากส่วนเยียนเหนียนเหนียนที่อยู่ข้างๆ กล่าว “ตอนออกจากบ้าน ท่านย่าเคยกำชับข้า ให้ข้าดูแลองค์หญิงให้ดี”“หากองค์ไม่สบาย ข้าแบกองค์หญิงกลับบ้านได้”เยียนเหนียนเหนียนเป็นบุตรสาวภรรยาอีก อายุมากกว่าเยียนซุ่ยซุ่ยเล็กน้อย เมื่อเทียบกับความเงียบของเยียนซุ่ยซุ่ย นิสัยของนางก็ค่อนข้างฉุนเฉียวแล้วหลายวันนี้ นางใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับการฝึกยุทธ์ในสนามแสดงยุทธ์ของจวนเยียนอ๋อง วรยุทธ์ของนางค่อนข้างดี ก่อนหน้านี้ตอนเยียนเซียวหรานจับคนชุดดำ นางก็เคยออกแรง และยังเคยตีศีรษะของคนที่คิดจะลอบเข้าจวนเยียนอ๋องแตก ซือเจ๋อเยว่รีบโบกมือแล้วก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 48

    เวลานี้ลู่จิ่นเหนียงถึงกับไม่รู้ว่า ควรถามซือเจ๋อเยว่ว่าทำนายเห็นอะไรดีหรือไม่ นางกลัวได้ยินสิ่งที่ไม่ดีแต่ถ้าหากไม่รู้ ก็รู้สึกจั๊กจี้ในใจซือเจ๋อเยว่รู้ความคิดของนาง ยิ้มแล้วยิ้มอีก กลับไม่พูดสักคำเยียนซุ่ยซุ่ยถามซือเจ๋อเยว่ “องค์หญิงดูดวงชะตาเป็นจริงๆ หรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ข้าเติบโตในสำนักเต๋า อาจารย์ทั้งเก้าท่านของข้า มีหลายท่านที่เก่งทางด้านนี้มาก ข้าได้เรียนรู้กับพวกเขาไม่น้อย”นางเห็นเยียนซุ่ยซุ่ยอยากรู้อยากเห็น จึงกล่าว “แม้ทั้งชีวิตของเจ้ามีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ขอแค่เจ้ายืนหยัดเป็นตัวของตัวเอง ต้องประสบความสำเร็จแน่นอน”เยียนซุ่ยซุ่ยถามนาง “จริงหรือ? ข้าสามารถเป็นหมอที่เก่งมากๆ ได้จริงหรือ?”ซือเจ๋อเยว่มอบคำตอบที่แน่ชัดให้นาง “จริงสิ เจ้ามีพรสวรรค์ด้านฝีมือการแพทย์มาก”“เพียงแต่ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยได้ไหว้อาจารย์ เรียนฝีมือการแพทย์ดีๆ ประกอบกับผู้คนไม่เชื่อถือหมอหญิง ก็เลยบั่นทอนความมั่นใจของเจ้า”“ดังนั้นเวลาที่เรียนแพทย์ เจ้ามักจะสงสัยในตัวเอง ที่จริงวันที่ตรวจโรคให้ข้า ก็ตรวจได้แม่นมาก เจ้าต้องเชื่อมั่นในตัวเอง”เยียนซุ่ยซุ่ยพยักหน้าแรงๆ “ได้ ต่อไปข้าจะพยายา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 49

    “ท่านเป็นองค์หญิงแล้วเก่งมากหรือ นอกจากรังแกข้า ท่านยังทำอะไรเป็นอีก?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นองค์หญิงก็ต้องเก่งอยู่แล้ว นี่แสดงให้เห็นว่าข้าเลือดเกิดเป็น เจ้ามีปัญญาก็เลือกเกิดให้ได้อย่างข้าสิ!”ลู่จิ่นเหนียง “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวต่อ “นอกจากนี้ เจ้าบอกว่าข้ารังแกเจ้า หมายถึงเรื่องนี้หรือ เจ้าเป็นคนพูดไม่ดีใส่ข้าก่อน”“ข้าอุตส่าห์เตือนเจ้าด้วยความหวังดี เจ้ากลับไม่ฟัง หลังจากนั้นก็ได้รับบาดเจ็บ”“อีกอย่างนะ ข้าทำอะไรเป็นเยอะแยะ และส่วนใหญ่ก็เป็นของที่เจ้าทำไม่ได้ทั้งนั้น”คำพูดนี้ทำเอาลู่จิ่นเหนียงอัดอั้นมาก ไม่ว่าจะด้วยฐานะหรือฝีปาก นางก็สู้ไม่ได้สักอย่างลู่จิ่นเหนียงโมโหจนชี้หน้านาง “เจ้า” อยู่ครึ่งค่อนวันแล้ว ก็พูดอะไรไม่ออกสักคำซือเจ๋อเยว่กล่าวกับเหนียนเหนียนและซุ่ยซุ่ย “ไปกันเถอะ กลับบ้าน!”นางกล่าวจบก็ไพร่มือไว้ข้างหลัง เดินไปข้างหน้าอย่างสบายใจแล้วลู่จิ่นเหนียงอ้าปากก็ด่าคน ซือเจ๋อเยว่ย่อมไม่ปล่อยให้นางทำตามใจเยียนซุ่ยซุ่ยกล่าวกับเยียนเหนียนเหนียน “ก่อนหน้านี้ตอนอยู่จวนอ๋อง เห็นองค์หญิงนิสัยอ่อนโยนมาก เวลานางดุก็ดุเช่นนี้เลยหรือ?”เยียนเหนียนเหนียนม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 50

    เดิมทีฉินซิ่วเอ้อร์ห้ามปรามนางด้วยความหวังดี คิดไม่ถึงว่านางจะพูดได้ไม่น่าฟังเช่นนี้ ขมวดคิ้วไม่สนใจนางอีกทันทีลู่จิ่นเหนียงเห็นฉินซิ่วเอ้อร์ก็ไม่สนใจนางแล้ว ก็ยิ่งมั่นใจว่าตนคิดถูก ฉินซิ่วเอ้อร์ก็อยากเอาใจซือเจ๋อเยว่เช่นกันในใจนางก็ยิ่งน้อยใจแล้ว รู้สึกว่าคนของจวนเยียนอ๋องล้วนเป็นคนประเภทเอาใจคนฐานะสูง เหยียบย่ำคนต่ำต้อย มีเพียงนางที่บริสุทธิ์สูงส่งและยังรู้สึกว่าหลังจากเยียนซื่อตาย คนเหล่านี้ก็ดูถูกนาง เพราะนางเป็นแค่ลูกสาวของขุนนางขั้นหกตอนนี้คนเหล่านี้ไปยกยอซือเจ๋อเยว่กันหมดแล้ว ชีวิตในวันข้างหน้าของนางต้องลำบากมากแน่นอน เมื่อนางนึกถึงความเป็นไปได้นี้ น้ำตาก็ทะลักออกมาอีกครั้งนางหันไป เห็นเฟิ่งจือเซี่ยยังยืนอยู่ข้างนาง จึงกล่าว “ทั้งจวนอ๋องมีเพียงพี่สะใภ้รองที่จิตใจบริสุทธิ์สูงส่ง เป็นคนเช่นเดียวกับข้า”เฟิ่งจือเซี่ยเป็นภรรยาของเยียนเอ้อร์ นางแต่งเข้าจวนออกเกือบสามปีแล้ว เมื่อเทียบกับซือเจ๋อเยว่พี่สะใภ้ใหญ่คนนี้ นางเหมือนพี่สะใภ้ใหญ่มากกว่าหลังจากได้ยินคำพูดของลู่จิ่นเหนียง นางกล่าวอย่างเรียบเฉย “เลิกร้องไห้ได้แล้ว ไปเถอะ!”ในใจนางรู้สึกรำคาญลู่จิ่นเหนียงมาก เพียงแต

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 51   

    เฟิ่งจือเซี่ยหรี่ตา “ก็จริง ทุกคนมีทางเลือกของตัวเอง”“เพียงแต่ข้ากับเจ้ามีมุมมองที่ต่างกันในเรื่องนี้ ข้าไม่ได้คิดจะไปจากจวนเยียนอ๋อง”ลู่จิ่นเหนียงแสดงความไม่เข้าใจเกี่ยวกับความคิดของเฟิ่งจือเซี่ย “ก่อนหน้านี้ท่านมักจะทะเลาะกับพี่รอง ความสัมพันธ์ของพวกท่านไม่ดี หรือท่านจะเป็นหม้ายเพื่อเขา?”เฟิ่งจือเซี่ยนึกย้อนถึงเรื่องราวในอดีต หายใจเข้าลึกๆ “ใช่ เจ้ามีปัญหาหรือ?”เมื่อก่อนนางก็รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของนางกับเยียนเอ้อร์ไม่ดี จนถึงตอนนี้นางจึงจะรู้ว่านางคิดผิดหลังจากนางรู้ข่าวการตายของเยียนเอ้อร์ ก็ไม่เคยหลับสนิทสักคืนนางคิดถึงเยียนเอ้อร์แล้ว คิดถึงมากๆลู่จิ่นเหนียงมองเฟิ่งจือเซี่ยแวบหนึ่ง รู้สึกว่าเฟิ่งจือเซี่ยโง่มาก การเป็นหม้ายมันง่ายเสียที่ไหน?นางรู้สึกว่าตอนนี้เฟิ่งจือเซี่ยคิดเช่นนี้ วันข้างหน้าต้องเสียใจแน่นอน!พวกนางยังเดินไม่ถึงหน้าประตูของจวนอ๋อง ก็ได้ยินเสียงคนกำลังร้องไห้ซือเจ๋อเยว่ได้ยินแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อย่างไรก็เพิ่งส่งศพเยียนอ๋องวันนี้ พระชายาเยียนอ๋องกับเหล่าไท่จวินเสียใจหลั่งน้ำตาก็เป็นเรื่องปกติเพียงแต่เมื่อพวกนางเดินผ่านตรงหัวมุม จึงจะพบว่ามีบา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 52

    ตอนที่ซือเจ๋อเยว่ตบ ปลายนิ้วก็วาดวิชาสงบจิตไปพลาง พระชายาเยียนอ๋องรู้สึกได้ในทันทีว่า ไม่ได้กระสับกระส่ายมากเช่นนั้นแล้วพระชายาเยียนอ๋องกล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ท่านอ๋องไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าคำพูดนี้ของพระชายาเยียนอ๋อง เมื่อเทียบกับบอกให้นางฟัง ไม่สู้บอกว่าปลอบใจตัวเองดีกว่านางเข้าใจอารมณ์ของพระชายาเยียนอ๋อง หันไปกล่าวกับผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้น “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นผู้หญิงนอกบ้านของท่านอ๋อง มีหลักฐานหรือไม่?”ผู้หญิงคนนั้นลวงป้ายหยกชิ้นหนึ่งจากหน้าอกส่งให้ “นี่เป็นของที่ท่านอ๋องมอบให้ข้า” นางพระชายาเยียนอ๋องรู้จักป้ายหยกชิ้นนั้น เป็นของรักของหวงของท่านอ๋อง ปกติมักจะพกติดตัวตลอดเวลานางกล่าวพึมพำ “เขา…เขามอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้คนอื่น!!”ซือเจ๋อเยว่ถามผู้หญิงคนนั้นอีก “เจ้ารู้จักท่านอ๋องได้อย่างไร?”ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ตอบ ก็มีเสียงดังออกมาจากในกลุ่มคนที่มามุงดู “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงเจ๋อเยว่เป็นคนก้าวร้าวเอาแต่ใจ วันนี้ได้เห็น เป็นเรื่องจริงจริงๆ”“ต่อให้นางเป็นองค์หญิง แต่นางเป็นเด็กรุ่นหลัง ถึงกับยุ่งเรื่องครอบครัวของพ่อผัว ไร้สัมมาคารวะจร

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 294

    "ไม่มีคำว่าแต่อันใดทั้งนั้น" นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน "หากท่านไม่รีบออกไป อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!" ซือเจ๋อเยว่ "…" เมื่อคืนที่ผ่านมานางได้ยินเยียนเซียวหรานบอกว่าราชครูไม่ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น และไม่ชอบพบเจอคนแปลกหน้า นางคิดว่าเขาไม่น่าจะเป็นคนเช่นนั้น อย่างน้อยก็การที่เขาเร่งเดินทางไกลกลับมาเพื่อใช้กระบี่ฟันไป๋จื้อเซียนครั้งนั้น ก็หมายความว่าเขาหาใช่คนที่เพิกเฉยต่อปัญหาของผู้คนโดยสิ้นเชิง นางยังคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเสียด้วยซ้ำ แต่วันนี้ เมื่อเขาเดาเจตนาของนางได้ เขากลับส่งนักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวที่ดุดันมาไล่นางออกไป หากเรื่องนี้เกิดขึ้นที่อื่น นางคงจะบุกขึ้นเขาไปถามเขาให้รู้เรื่อง แต่ที่นี่คือเมืองหลวง อีกทั้งกระบี่ของเขาคราวก่อนทรงพลังจนเกินคาด ราชครูผู้นี้คงเป็นยอดฝีมือที่นางไม่อยากขัดแย้งด้วย ดังนั้น นางจึงทำได้แค่พาเยียนเซียวหรานเดินออกจากค่ายกลไปอย่างเงียบ ๆ ทันทีที่พวกเขาก้าวออกจากค่ายกล นักพรตเต๋าน้อยชุดสีเขียวก็รีบปิดซุ้มประตูที่เชิงเขาทันที ซึ่งปกติแทบไม่เคยปิด เขาปิดประตูอย่างรุนแรงจนซือเจ๋อเยว่ที่เดินช้ากว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 293

    ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจึงไม่มีความจำเป็นต้องถามอีกต่อไป นางลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่ว่าจะอย่างไร ข้าก็ต้องขอบคุณเจ้า” ครั้งนี้เยียนเซียวหรานไม่ได้หันกลับมามองนางอีก และนางก็ไม่ได้รั้งเขาไว้ นางหมุนตัวแล้วเดินจากไป เยียนเซียวหรานมองเปลวเทียนที่ลุกไหวอยู่ในศาลบรรพชน ก่อนจะถอนหายใจเสียงยาว เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมาที่ห้อง นางครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเยียนเซียวหรานในปีนี้ นางคิดหลายตลบก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ในสถานการณ์เช่นนี้ คำอธิบายเดียวที่ดูคล้ายจะสมเหตุสมผล คืออาจเป็นเพราะลุงเขยของเยียนเซียวหรานมาเยือน จึงทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้ นางยักไหล่เล็กน้อย ไม่ใส่ใจจะคิดต่อ และหันไปวางแผนว่าหากได้พบกับราชครูในวันรุ่งขึ้น นางจะเกลี้ยกล่อมให้เขาช่วยจัดการไป๋จื้อเซียนได้อย่างไร เช้าวันรุ่งขึ้น เยียนเซียวหรานมาตามที่นัดไว้ เขาพานางไปยังหอพยากรณ์ดวงดาวเพื่อพบกับราชครู แม้จะเรียกว่าหอ แต่ที่แท้แล้วคือกลุ่มอาคารขนาดใหญ่ เป็นสถานที่ที่อดีตฮ่องเต้สร้างขึ้นเพื่อราชครู ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในเมืองหลวง ซึ่งที่แห่งนั้น ก็สามารถเฝ้าดูดวงดาวและทำนา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 292

    แท้จริงแล้วราชครูมีการไปมาหาสู่กับเยียนอ๋อง ในเมืองหลวงเขาแทบไม่มีสหายที่ใด เยียนอ๋องกลับเป็นข้อยกเว้นเพียงหนึ่งเดียว ครั้งล่าสุดก่อนที่เยียนอ๋องจะออกศึก ราชครูเคยมาพบเยียนอ๋องครั้งหนึ่ง ส่วนพวกเขาหารือเรื่องใดกันนั้น เยียนเซียวหรานไม่อาจรู้ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียงทั้งสองทะเลาะกันในห้องหนังสือ หลังจากจวนเยียนอ๋องเกิดเรื่อง ราชครูก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย ในค่ำคืนนั้นเมื่อเยียนเซียวหรานพบราชครูที่เรือนพักในจวนหนิงกั๋วกง เขารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเยียนเซียวหราน ที่ราชครูยอมเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ ปกติเมื่อเขาอยู่ในเมืองหลวง ก็มักจะพำนักอยู่ในหอพยากรณ์ดวงดาว ไม่ว่าจะมีเรื่องใดที่ไม่สำคัญจริง เขาจะไม่มีทางออกมา ซือเจ๋อเยว่เอ่ยด้วยความกังวล “แต่ไป๋จื้อเซียนนั้นเป็นภัยใหญ่ ทั้งยังเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” “เกรงว่าไม่นานเกินรอเขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็จะยิ่งจัดการยากขึ้น” “ไม่ว่าราชครูจะยินยอมพบข้าหรือไม่ ข้าคงต้องหาวิธีพบเขาให้ได้” เยียนเซียวหรานพยักหน้า “ก็ได้ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่าน” ซือเจ๋อเยว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 291

    เขานึกถึงภาพในช่วงหลายวันที่ผ่านมายามนางนอนอยู่บนเตียงโดยไม่มีวี่แววของลมหายใจใด ๆ หัวใจเขาเจ็บปวดราวกับถูกบีบคั้นจนแทบทนไม่ได้ ถึงแม้เขาจะรู้อยู่เสมอว่าสภาพร่างกายของนางไม่แข็งแรง แต่ทุกครั้งที่เขาได้พบนาง นางกลับมีรอยยิ้มเปี่ยมล้นบนใบหน้า ร่างกายของนางดูเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เขาไม่เคยคิดว่านางเป็นคนที่กำลังจะสิ้นลม และไม่เคยคิดว่าสภาพร่างกายของนางจะแย่ถึงเพียงนี้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลับเตือนเขา ว่านางบอบบางยิ่งกว่าที่เขาเคยคาดคิดไว้มากนัก เขาเอ่ยเสียงเบา “เรื่องนี้ข้าจัดการเองได้ องค์หญิงพักรักษาตัวอยู่ที่เรือนให้ดีเถอะ”ซือเจ๋อเยว่หัวเราะเสียงเบา “สภาพร่างกายของข้า ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?” “เมื่อมีเจ้าอยู่ข้างกาย ข้าอาจอยู่ได้นานขึ้นอีกสักหน่อย แต่หากเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะตายเร็วขึ้นกว่าเดิม” เยียนเซียวหรานขมวดคิ้วแน่น บัดนี้เขาไม่อยากได้ยินคำว่า ‘ตาย’ อีกแล้ว ซือเจ๋อเยว่นั่งลงข้างเขา ใช้มือทั้งสองประคองคางของตนเองไว้พลางเอ่ยขึ้น “อีกอย่าง ไป๋จื้อเซียนนั่นเป็นข้าที่ปล่อยออกมาเอง” “เรื่องครั้งนี้จะไปโทษเจ้าไม่ได้หรอก หากจะโทษก็ต้องโทษข้า” “

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 290

    เยียนเซียวหรานหลุบตาลง “ท่านย่าสั่งสอนได้ถูกต้อง ครั้งนี้เป็นข้าที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตอนนี้องค์หญิงฟื้นแล้ว ท่านย่าลงโทษข้าเถิดขอรับ”เหล่าไท่จวินพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ท่านย่า เรื่องนี้โทษน้องสามไม่ได้จริง ๆ หากจะโทษก็ต้องโทษที่ตอนนั้นสถานการณ์พิเศษ”“ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอเข้ากับไป๋จื้อเซียนที่นั่น หากไม่ใช่เพราะน้องสามปกป้องข้าจนสุดชีวิตละก็ ข้าก็คงตายไปแล้ว”“ดังนั้นท่านย่าอย่าได้ลงโทษน้องสามเลย เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นกัน”เหล่าไท่จวินถอนหายใจ “องค์หญิงไม่ต้องร้องขอความเมตตาแทนเขา เขาเป็นบุรุษ เดิมทีก็ควรปกป้องญาติผู้หญิงในครอบครัวอยู่แล้ว”ซือเจ๋อเยว่หันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขายืนหน้านิ่งยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นนางมองมา ก็สบตากับนางแวบหนึ่ง แล้วก็เก็บสายตาคืนกลับมาซือเจ๋อเยว่รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “วันนั้นข้าเห็นเหนียนเหนียนหมดสติไปเช่นกัน เหนียนเหนียนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เยียนเหนียนเหนียนโผล่หน้าออกมาจากทางด้านหลังของเหล่าไท่จวิน “ข้าไม่เป็นไร แค่หมดสติเป็นครู่เดียวเท่านั้น ในไม่ช้าก็หายดีแล้ว”“ร่างกายของข้าแข็งแรง องค์หญิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 289

    ตอนที่ไป๋จื้อเซียนมองเห็นยันต์พวกนั้นก็หรี่ตาลงทันที เมื่อตระหนักได้ว่าทรงพลัง ก็โยกหลบอย่างรวดเร็วซือเจ๋อเยว่ฉวยโอกาสยื่นนิ้วออกไป ยันต์พวกนั้นก็ไล่ตามไป๋จื้อเซียนไป ร่างกายของเขามียันต์ห้าอัสนีบาตแผ่นหนึ่งแปะอยู่เขาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มองไปทางด้านนอกห้องแวบหนึ่ง รู้ว่าหากวันนี้ไม่หนีไป เกรงว่าจะต้องตายอยู่ที่นี่จริง ๆ จึงวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็วตอนที่เขาวิ่งหนี เมฆฝนก่อตัวขึ้น ไล่ตามเขาภายในชั่วพริบตา ทั่วทั้งเรือนเต็มไปด้วยเสียงฟ้าร้อง ผู้ดูแลพาท่านหมอเดินเข้ามาพอดี ทันทีที่เห็นฉากนี้ ก็ตกใจจนลูกตาเกือบถลนออกมาถึงแม้เขาจะมองไม่เห็นไป๋จื้อเซียน แต่เขามองเห็นสายฟ้าบนท้องฟ้า เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสายฟ้าหน้าตาแบบนี้ทันทีที่ไป๋จื้อเซียนวิ่งหนี ห้องก็กลับคืนสู่สภาพปกติ ตะเกียงน้ำมันที่มุมห้องยังคงสว่างอยู่ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้น ทันทีที่หันหน้าไปมอง ก็เห็นว่าคนที่ฟันกระบี่ใส่ไป๋จื้อเซียนก็คือเยียนเหนียนเหนียนนางรู้สึกผิดปกติ ต่อให้นางแปะยันต์แผ่นหนึ่งบนกระบี่ของเยียนเหนียนเหนียน กระบี่เล่มนั้นของนางร้ายกาจกว่ากระบี่ทั่วไปเล็กน้อย ก็ไม่มีทางทำลายอาณาเขตที่ไป๋จื้อเซียนวางเอาเม

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 288

    ครู่ต่อมา ซือเจ๋อเยว่หยิบอาวุธเวทย์อีกชิ้นหนึ่งออกมา เพียงแต่นางยังไม่ทันเข้าไปหา ก็ถูกเส้นผมสีดำของเขากวาดลอยกระเด็นออกไปเยียนเซียวหรานอยากจะเข้ามาช่วย แต่กลับถูกผ้าต่วนสีแดงรัดลำคอเอาไว้เขากล่าวอย่างยากลำบาก “องค์หญิง!”ซือเจ๋อเยว่ล้มลงบนพื้นกระอักเลือดออกมา ไป๋จื้อเซียนไม่ได้เขยิบเข้าไปใกล้ตรงหน้าของนางพอดีเลือดพ่นใส่มือของไป๋จื้อเซียน มือของเขาเป็นรูทันทีเขาค่อนข้างประหลาดใจ “นักพรตหญิงน้อย ร่างกายของเจ้ามีความพิเศษนี่นา!”ปากเขาพูดไป มือกลับบีบลำคอของนางเอาไว้ “กินตบะของเจ้า จะต้องบำรุงมากแน่!”ร่างกายของซือเจ๋อเยว่ เป็นวิญญาณมาหนึ่งพันปี เป็นครั้งแรกที่ได้เจอร่างกายอย่างนางเขาเคยเห็นในหนังสือเล่มหนึ่ง หากได้กินวิญญาณของนาง เท่ากับเป็นการบำเพ็ญตบะห้าร้อยปีถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยประมือกับนางมาก่อน แต่ครั้งก่อนนางไม่ถึงขั้นเลือดตกยางออก เขาไม่รู้ว่านางจะมีร่างกายที่พิเศษเช่นนี้บัดนี้ค้นพบแล้ว ดวงตาของเขาเปล่งประกายทันทีเพียงแต่คนที่มีร่างกายเช่นนาง เนื่องจากร่างกายพิเศษมากเกินไป ดังนั้นอยากจะกลืนกินนางก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซือเจ๋อเยว่ใช้มือปาดเลือดที่มุมปาก ยื่นมื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 287

    พวกเขาร่วมมือกันอยากจะจับตัวไป๋จื้อเซียนเอาไว้เป็นเรื่องที่ยากเย็นยิ่งเรื่องหนึ่งเขารู้ว่าในเวลานี้ไม่มีเวลาห่วงหน้าพะวงหลังอีกแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนาง นางก็ต้องเป็นคนจบเรื่องนางพูดกับเยียนเซียวหรานเบา ๆ “เจ้าถ่วงเวลาเขาไว้สักสิบวินาที”เยียนเซียวหรานพยักหน้า มือของซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาอย่างรวดเร็วไป๋จื้อเซียนเห็นสัญลักษณ์มือของนาง ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะจับตัวข้าเอาไว้อีกอย่างนั้นหรือ?”เขาพูดจบก็พุ่งตัวเข้ามาหานาง พุ่งตรงเข้ามาควักหัวใจของนางกระบี่ไม้ท้อในมือของเยียนเซียวหรานพันเข้าใส่ไป๋จื้อเซียนทันทีทั้งสองอย่างปะทะกัน ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไป๋จื้อเซียนหัวเราะเบา ๆ “ฮ่า น่าสนุก! แต่วันนี้ ที่ตรงนี้เป็นถิ่นของข้า ข้าเป็นใหญ่!”เส้นผมสีดำของเขาแผ่สยาย ผ้าต่วนสีแดงบนร่างกายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว พุ่งเข้าใส่เยียนเซียวหรานที่แฝงไปด้วยเจตนาสังหารต่อให้วิชากระบี่ของเยียนเซียวหรานจะดีแค่ไหน กระบี่ไม้ท้อไม่ใช่อาวุธแหลมที่สามารถตัดโลหะหรือหยกได้ จึงถูกพันธนาการเอาไว้ทันทีเขารีบชักกระบี่ติดตัวของตนเองที่อยู่บริเวณเอวของตนเองออกมา ฟันเข้าใส่เส้นผมสี

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 286

    ค่ำคืนนี้ ซือเจ๋อเยว่มาตามที่คาดไว้!เขามองเยียนเซียวหรานด้วยสายตาเย็นยะเยือก หันหน้ากลับไปมองค่ายกลที่ได้กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วแวบหนึ่ง ยิ้มอย่างชั่วร้ายเขาเฝ้าอยู่ที่ เป็นเพราะกลิ่นอายจากตัวของซือเจ๋อเยว่กับค่ายกลนั่นค่อนข้างคล้ายคลึงกับกลิ่นอายที่เคลื่อนตัวอยู่บนร่างกายหของอวิ๋นเยว่หยางครั้งก่อนที่เขาเจอกับเยียนเซียวหรานแบบรีบร้อนเกินไปหน่อย ประกอบกับซือเจ๋อเยว่ก็อยู่ตรงนั้นด้วย ดังนั้นเขาจำไม่ได้ในทันทีว่ากลิ่นอายบนตัวของอวิ๋นเยว่หยางคือกลิ่นอายของเยียนเซียวหรานในเวลานี้ทันทีที่ค่ายกลถูกทำลาย กลิ่นอายพวกนั้นก็ไหลย้อนกลับ เขาจึงสัมผัสได้อย่างชัดเจนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนค่อนข้างเกิดความสนใจเป็นเพราะเขารู้ว่า เป็นการยากที่คนคนหนึ่งจะมีกลิ่นอายของคนอื่นติดอยู่อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันก็เป็นไปไม่ได้หากติดแล้ว นั่นก็แสดงว่าโชคชะตาของทั้งสองคนรวมเข้าด้วยกันแล้วไป๋จื้อเซียนมองเยียนเซียวหราน กล่าว “น่าสนุก”เขาหันหน้าไปมองซือเจ๋อเยว่อีกครั้ง “นักพรตหญิงน้อย เจ้าหมอนี่ดีกับเจ้าเหลือเกินนี่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีชะตาชีวิตร่วมกันกับเจ้า”เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status