กู้อวิ๋นซีคาดไม่ถึงเลยเธอคิดว่าระบบรักษาความปลอดภัยของจวนเสวียนอ๋องแน่นหนาแล้วระบบรักษาความปลอดภัยของหออวิ๋นหลีแห่งนี้ยังแน่นหนากว่าจวนอ๋องอีกหลายเท่าตัว!ไม่เพียงมีทหารเดินลาดตระเวนทั้งในและนอกตำหนัก รอบๆ ยังมียอดฝีมือหลายคนซ่อนตัวอยู่อีกวิชาตัวเบาของกู้อวิ๋นซีจวินฉู่หลีเป็นคนสอน ก็ถือว่าเก่งกาจพอตัวแต่พอต้องมาเดินบนหออวิ๋นหลี เธอก็ยังต้องระมัดระวังมากๆ อยู่ดีในที่สุดเธอก็เจอห้องที่มีแสงสว่างเปิดอยู่และดูเหมือนว่าข้างในจะมีคนกำลังพูดคุยกันอยู่ด้วย"เจ้าก็รู้อยู่แล้วว่ามันเสี่ยง ทำไมยังจะแต่งนางเข้ามาอีก ถ้าเกิดนางรู้ความลับของที่นี่ขึ้นมา พวกเรา..."จู่ๆ เสียงพูดคุยก็หยุดไปดื้อๆ!กู้อวิ๋นซีรู้สึกถึงกลิ่นอายของความอันตรายที่คละคลุ้งอยู่ในบรรยากาศรอบๆ ทันทีเธอถูกพบแล้ว!กู้อวิ๋นซีรีบม้วนตัวลงจากหลังคาอย่างรวดเร็วเธอได้ยินเสียงดัง ปุกๆๆ สามที ในตำแหน่งที่เธออยู่เมื่อกี้ถูกตะปูตอกกระดูกสามเล่มปักเข้าอย่างจัง!ทั้งความเร็วและความแรงนี้!หากว่าเมื่อครู่เธอถอนตัวออกมาไม่ทัน ป่านนี้ ถ้าไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โตแล้วกู้อวิ๋นซีกระโดดกลับขึ้นไปบนกำแพงอีกครั้งแต่คิดไม่ถึงว่า
"จวินเย่เสวียน ปล่อยข้านะ!" เสียงแหบพร่าของกู้อวิ๋นซีเอ่ยขึ้นเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกทำให้อับอายได้ถึงเพียงนี้ส่วนล่างของเธอไม่เหลืออะไรเลยแถมตอนนี้ยังอยู่ในท่าที่น่าอายเป็นที่สุด!เธอพยายามที่จะลุกขึ้นอย่างเต็มที่ แต่ฝ่ามือของจวินเย่เสวียนกดอยู่ที่เอวด้านหลังของเธอ ทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้"ออกไป! ออกไปซะ! เธอกัดริมฝีปาก พยายามจะหลบซ่อนตัวเองจากสายตาของเขา"แต่ว่าก็ไม่สามารถหลบได้!ร่างกายนุ่มนิ่ม ปรากฏสู่สายตาของเขาอย่างเปิดเผยด้วยท่าทางที่น่าอับอายเป็นที่สุด!เธอรู้สึกเจ็บปวดในใจ จนน้ำตาเกือบจะไหลออกมาจวินเย่เสวียนเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าการที่เขาดึงทีเดียวจะทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ยังคิดว่า อย่างน้อยก็ยังเหลือผ้าปกปิดอยู่อีกชิ้น...เขาคิดไม่ถึงว่า ข้างในมีอีกชิ้นก็จริง แต่ทั้งสองชิ้นก็ถูกเขาดึงขาดหมดเลยตอนนี้ ภาพร่างกายนุ่มนิ่มสีชมพูระเรื่อของหญิงสาว ปรากฏสู่สายตาของเขาอย่างโจ่งแจ้งลมหายใจของเขาติดขัด เมื่อเห็นสภาพเธอ ร่างกายเขาก็เกร็งเครียดขึ้นในทันทีสายตาอย่างกับถูกเวทมนต์สะกด มันคอยเอาแต่จับจ้องอยู่ที่จุดซ่อนเร้นของหญิงสาวไม่ไปไหนเขาเหมือนคน
กู้อวิ๋นซีที่อยู่ใต้ผ้าห่ม สวมใส่เสื้อผ้าค่อนข้างบางเบาแต่ว่ามันก็เป็นเพียงชุดนอนธรรมดา ไม่ได้มีอะไรผิดปกติองค์รักษ์ทั้งหลายรีบเบือนหน้าหนีอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้ามองพวกเขามานี่ก็เพื่อจะตามจับคนร้าย ไม่ได้มาเพื่อทำให้ใครต้องลำบากใจแม่เฒ่าชิงวางผ้าห่มลง แต่เมื่อคิดดูอีกที ใบหน้าก็เคร่งเครียดอีกครั้ง ก่อนจะพูดว่า "ค้นให้ทั่ว!"พวกทหารองค์รักษ์รีบทำการค้นหาในทันทีทุกมุมห้อง ทุกกล่อง ทุกตู้ ถูกค้นหาอย่างละเอียด ไม่เว้นแม้แต่แมลงวันสักตัวเดียวอันเซี่ยตกใจจนได้แต่ยืนแอบอยู่ข้างๆ เตียง เพื่อที่จะคอยปกป้องคุณหนูของเธอของอย่างอื่น...ช่างเถอะ จะแตกก็แตกไปเธอมองออกว่า สถานการณ์มันเลวร้ายเพียงไร ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตามแม่เฒ่าชิงเองก็ค้นหาตามเตียงนอนของกู้อวิ๋นซีเช่นกันกู้อวิ๋นซีจึงต้องจำใจลงจากเตียงก่อนจะรับเสื้อคลุมจากอันเซี่ยมาคลุมแล้วยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรไม่มีอะไรเลยสุดท้าย สายตาของแม่เฒ่าชิงก็มองมายังกู้อวิ๋นซี"พระชายา บ่าวขออนุญาตค้นเสื้อผ้าของพระองค์ได้หรือไม่""เพราะอะไร" กู้อวิ๋นซีไม่พอใจแม่เฒ่าชิงสีหน้าเคร่งขรึม "บ่าวเพียงทำตามคำสั่งเท่
จวินเย่เสวียนไม่ได้อยู่ในห้อง"พระชายา นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านมาหาท่านอ๋องในเวลาแบบนี้ไม่เหมาะเลยนะพ่ะย่ะค่ะ" เยียนเป่ยเตือนขึ้นด้วยเสียงเบาแต่กู้อวิ๋นซีไม่สนใจ เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย "ข้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกับองค์ชายสี่""แต่ว่าตอนนี้ท่านอ๋องไม่อยู่...""เช่นนั้นข้าก็จะรอเขาอยู่ที่นี่ รอจนกว่าเขาจะกลับมา"เมื่อเยียนเป่ยเห็นว่านางดื้อรั้นเช่นนี้ ก็ได้แต่ทำใจ แล้วก็ปล่อยนางไปการรอของกู้อวิ๋นซีในครั้งนี้ ยาวนานเป็นครึ่งค่อนคืนเมื่อถึงเวลาประมาณตีหนึ่ง จวินเย่เสวียนก็กลับมาท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิดเมื่อได้ยินว่ากู้อวิ๋นซีรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขก เขาก็ชะงักฝีเท้าเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเดินกลับเข้าหอนอนของตัวเองไปไม่ได้สนใจนางแต่ไม่รู้ทำไมกู้อวิ๋นซีเหมือนจะรู้สึกได้ว่าเขากลับมาแล้ว จึงได้บุกเข้าไปหาเขาเองถึงหอนอน"พระชายา ตอนนี้ท่านอ๋องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ยังไง..."เยียนเป่ยไม่สามารถขวางนางเอาไว้ได้ นางยังคงเดินดุ่มๆ เข้าไปข้างใน เยียนเป่ยไม่กล้าแตะต้องตัวของนางด้วยประตูห้องถูกกู้อวิ๋นซีผลักให้เปิดออก จวินเย่เสวียนอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังจะสวมเสื้อผ้าเขาที่ตอนนี้แต
"ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ต้อง!" จวินเย่เสวียนแสดงสีหน้าเย็นชากู้อวิ๋นซีมองไปที่เขา ก่อนจะเบ้ปากเล็กๆ ของนางออกหน่อยๆ ขอบตาร้อนผ่าว รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ "องค์ชายสี่ ขอร้องล่ะ""ห้ามมาขอร้องข้า!" ยัยผู้หญิงน่าโมโห!เหมือนว่านาง จะค้นพบความลับอะไรบางอย่างแล้ว!แค่เพียงนางตาแดงๆ เบ้ปากหน่อยๆ และแสร้งทำสีหน้าน่าสงสารอีกนิด จวินเย่เสวียนก็จะใจอ่อนยวบลงได้อย่างง่ายดายราวกับต้องมนต์!เขาตีหน้าบึ้งตึง "ถ้ายังไม่รีบไสหัวออกไปอีก ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ""ข้าคือภรรยาของฉู่หลี องค์ชายสี่คงไม่เกรงใจข้าไม่ได้หรอก" กู้อวิ๋นซีพึมพำเสียงเบาจวินเย่เสวียนสะบัดเสียงใส่อย่างเย็นชา "เจ้ายังจำได้อีกหรือว่าสามีของตัวเองชื่อว่าอะไร""องค์ชายสี่..." นางเงยหน้าขึ้นมามองเขา กระพริบตาปริบๆดวงตากลมโตคู่นั้น ถูกปกคลุมด้วยหยาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว ดูแล้วช่างน่าสงสารเหลือเกินจวินเย่เสวียนอยากจะด่าออกไปจริงๆ!แต่นิ้วมือทั้งห้าของเขาที่จับข้อมือของนางเอาไว้กลับค่อยๆ คลายออก"อย่ามาทำแบบนี้ต่อหน้าข้า...""องค์ชายสี่ ข้าก็แค่อยากดูนิดเดียวเท่านั้น" กู้อวิ๋นซีเปิดเสื้อของเขาออกทันทีแน่นอนว่าไม่กล้ามองหน้าอกข
วิธีการทำแผลของกู้อวิ๋นซีพิเศษมากถึงแม้จะรู้สึกเจ็บเหมือนกัน แต่ความรู้สึกเจ็บดูจะเบากว่าหมอคนอื่นๆ อยู่มากหรือบางทีอาจเป็นเพราะว่า นิ้วเรียวยาวของนางคล่องแคล่วว่องไวมากก็เป็นได้ทุกบาดแผลหลังจากที่ทายาแล้ว นางก็จะกดนวดไปบนจุดบริเวณรอบๆ บาดแผลอย่างเบามืออีกด้วยจวินเย่เสวียนไม่รู้ว่าการที่นางกดนวดเช่นนี้เป็นผลดีกับบาดแผลของเขาอย่างไรแต่มันก็ช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นจริงๆดวงตาดำขลับดุจดั่งท้องฟ้ายามราตรีของเขาเริ่มจะเคลิ้มลงน้อยๆไม่ใช่ว่าไม่เจ็บนะ เนื้อหนังแตกขนาดนี้ เป็นใคร ใครก็เจ็บก็เพียงแค่อดทนเอาไว้เท่านั้นอดทนมาครึ่งค่อนคืน ตอนนี้มีนางอยู่ข้างกาย ประสาทสัมผัสบนแผ่นหลัง ยังรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของนิ้วเรียวยาวของนางจากนั้นความเหนื่อยล้าก็ค่อยๆ เริ่มทำให้เขารู้สึกง่วงงุน"องค์ชายสี่" กู้อวิ๋นซีเรียกเสียงเบา"หืม?" ชายหนุ่มปิดตาลงสนิทแล้ว เขาตอบรับกลับมาอย่างงุนงง"ใครกัน...""ไม่อยากตายก็อย่าถาม" น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งกู้อวิ๋นซีถลึงตาใส่เขาไปหนึ่งทีไม่ถามก็ไม่ถาม อะไรนิดหน่อยก็เอาแต่ขู่นาง เพื่อ?แต่ว่า ต่อให้ไม่ถาม ก็พอจะเดาได้คร่าวๆ แล้วทั
ในใจของกู้อวิ๋นซี รู้สึกสับสนมากจริงๆนางถูกถามจนเริ่มจะสงสัยในตัวเอง สงสัยในชีวิตแล้วแต่ว่า ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้!คนที่เข้าหอกับนางในคืนนั้น จะไม่ใช่ฉู่หลีได้ยังไง?เขาเป็นพี่ชายของฉู่หลีนะ! หรือว่า เขาจะปลอมตัวเป็นฉู่หลี แล้วทำเรื่องที่ต่ำทรามยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานเช่นนั้น?อย่ามาทำให้นางกลัวจะได้ไหม?ในใจของนาง สับสนมากจริงๆตั้งแต่ได้พบกับจวินเย่เสวียน ชีวิตนางก็ต้องอยู่กับความรู้สึกหวาดกลัวไม่ปลอดภัยมาตลอดเขากับฉู่หลี เหมือนกันมากเกินไป!ถึงแม้คนหนึ่งจะเย็นชาไร้ความรู้สึก ส่วนอีกคนจะอบอุ่นอ่อนโยนก็ตามแต่ตอนที่เขายิ้มออกมาในบางครั้ง มันเหมือนกับฉู่หลีไม่มีผิด"องค์ชายสี่ ฉู่หลีก็อยู่ในจวนนี้ ขอให้ข้าได้พบกับเขาเถอะเพคะ!"กู้อวิ๋นซีเชื่อว่า ขอเพียงได้พบกับฉู่หลี ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง"เจ้าอยากพบเขา ก็ไปหาเอาเองสิ เหตุใดต้องมาขอร้องข้า" จวินเย่เสวียนเหน็บแนม "ข้าไม่ใช่สามีของเจ้าสักหน่อย เหตุใดจะต้องช่วยเจ้าด้วย!""องค์ชายสี่...""ดึกดื่นค่อนคืน ชายหญิงอยู่กันตามลำพัง ถึงเจ้าจะไม่อาย แต่ข้าก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องซุบซิบนินทา!"จวินเย่เสวียนสะบัดมือหนึ่งที ปัง เสียงประ
ที่กู้อวิ๋นซีพูดว่าให้ฉู่หลีปลดนางความจริงแล้วก็ออกจะดูวู่วามไปหน่อยตอนนั้นที่เผชิญหน้ากับจวินเย่เสวียน นางสิ้นหวังมากจริงๆคำพูดของเขา ทำให้นางกลัวมากๆคนในคืนเข้าหอคือใคร หรือว่า...ไม่ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดพวกเขาก็เพียงแค่เหมือนกันมาก นางถึงได้จำพวกเขาผิดเป็นบางครั้งรู้จักกับฉู่หลีมาหนึ่งปี ตอนนั้นเขาบุกเดี่ยวเข้าค่ายศัตรู อาบเลือดสู้ศึกช่วยนางกลับมาได้ความรู้สึกนั้น ไม่ใช่ว่าจะสามารถลืมกันได้ง่ายๆเขามีความจำเป็นอะไรหรือเปล่า?หรือว่าพระสนมหรงไม่อนุญาตให้เขามาพบนาง?ตอนที่กลับไป เซี่ยอันกับพวกคนใช้ก็เก็บกวาดห้องเรียบร้อยแล้วคืนนั้นกู้อวิ๋นซีขังตัวเองไว้ในห้องคนเดียว ไม่รู้ว่าเศร้าเสียใจอยู่นานแค่ไหน ถึงค่อยผลอยหลับลงไปได้ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ด้านนอกก็ยังคงอึมครึมเช่นเดิมไม่รู้เมื่อไรที่ในห้องนอนของกู้อวิ๋นซี ปรากฎเป็นเงาร่างสีขาวร่างหนึ่งเขาเข้ามาพร้อมกับท้องฟ้ายามราตรี ที่เข้ามาพร้อมกันยังมีกลิ่นไม้จันทน์เข้มๆ อีกด้วยกู้อวิ๋นซีสะดุ้งตื่น ขยี้ดวงตาที่ง่วงงุนก่อนจะถูกเงาร่างนี้ทำให้ตกใจจนต้องสะดุ้งลุกขึ้นนั่งบนเตียง"องค์ชายสี่ ข้าคิดว่าข้าคุยกับท่านไปชัดเจนแล้