ฉู่เชียนหลีเดินสองมือไพล่หลังพักหนึ่ง รู้สึกเหมือนมีใครบางคนไม่ได้ตามมา จึงหันกลับไปมองไปไหนแล้ว?มองซ้ายมองขวา หายไปในอากาศ?เกาศีรษะอย่างสงสัย ไม่นานก็ล้มเลิกการตามหา เฟิงเย่เสวียนที่ตัวใหญ่ขนาดนี้แล้ว จะเดินหลงทางได้หรือ?ไม่สนใจเขาแล้ว ไปเดินเล่นเองดีกว่าบนถนน คึกคักจนแออัด ชาวบ้านยุ่งอยู่กับการทำมาหากิน เสียงสนทนาดังขึ้นเป็นระลอก“วันนี้รัชทายาทเลือกพระชายารอง ไม่รู้ว่าลูกสาวบ้านไหนที่โชคดีเช่นนี้…”“เฮ้อ นี่จะพูดว่าโชคดีก็คงไม่ได้ จวนรัชทายาทมีผู้หญิงเยอะมาก เจอหนึ่งคนชอบหนึ่งคน แต่งเข้าไปไม่ได้รับความโปรดปราน ก็เปล่าประโยชน์ ต้องเป็นม่ายทั้งที่ไม่ได้เป็นทรมานจะตาย”“เป็นม่ายแล้วอย่างไร อย่างน้อยทั้งชีวิตก็ไม่ต้องห่วงเรื่องกินเรื่องอยู่ อยู่อย่างเจริญมั่งคั่ง…”“ไปขายซาลาเปาของเจ้าไป”“...”ฉู่เชียนหลีเดินผ่านตรงนั้น วนอยู่สองรอบ ยกเท้าเดินเข้าร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปเมื่อวานหลังโต๊ะคิดเงิน เถ้าแก่วางสมุดบัญชีในมือลง เดินเข้าไปต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม “ไม่ทราบว่าท่านจะซื้อ…พระ…พระชายาอ๋องเฉิน?”สายตาของเขามองดูใบหน้านางด้วยความตกใจมีความเป็นเอกลักษณ์มากแต่ว่าเขาไม่ได
“จิ่งอี้…”ฉู่เชียนหลีเพิ่งอ้าปาก ร่างกายของเขาพุ่งผ่านไปยังด้านหลังราวกับสายลม จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงที่ดุดันดาบกระบี่กระทบกัน อากาศเย็นยะเยือก เสียงดังกังวาน กระพือกลิ่นอายอันเฉียบคมที่เหมือนความตายปัง!เอื้อ!เคล้ง!นางยืนอยู่ตรงที่เดิม ฟังเสียงดาบกระบี่ที่ยุ่งเหยิงราวกับสายฝน หัวใจเริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆใครอยากฆ่านาง?นางเพิ่งออกจากวัง ยิ่งกว่านั้นยังออกมาพร้อมกับอ๋องเฉิน ใครกันที่รู้ร่องรอยของนางเร็วเช่นนี้ และส่งมือสังหารออกมา?“อ๊า!”เสียงร้องในลำคอของผู้ชายดังขึ้นพลันลูกกระเดือกฉู่เชียนหลีแน่น ตอนที่กำลังจะหันกลับไป ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งจับไหล่นาง ฝ่ามือกดลงไป เสียง ‘ซ่า’ ดังขึ้น กระบี่ยาวสอดเข้าฝักอย่างมั่นคงจิ่งอี้หยิบกระบี่ “ไปแล้ว”จบแล้ว?นางหันกลับไปโดยไม่รู้ตัว เขากดนางไว้ กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม“อย่าดู คุณหนูของข้า”เขาพานางจากไป สายลมพัดเบาๆ จุกผมตรงข้างหูลอยขึ้น กลิ่นคาวเลือดที่เหมือนมีแต่ก็ไม่มีสายหนึ่งลอยเตะจมูก ทั้งคาวทั้งหวานนางไม่เห็นแม้แต่ชายเสื้อที่ฉีกขาด“เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?” ฉู่เชียนหลีจับแขนของเขา ตรวจดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เขาสวมช
เกิดเรื่องมือสังหารขึ้น จิ่งอี้คุ้มครองฉู่เชียนหลีกลับจวนด้วยตนเอง จนกระทั่งส่งถึงตรงหัวมุมของประตูใหญ่จวนอ๋อง จึงจะหยุดลงทว่าทั้งสองกลับไม่ได้สังเกต…ทางฝั่งถนนสายยาว“นายหญิง ท่านดู นั่นไม่ใช่พระชายาหรือ?” เป่าอวี้ประคองเซียวจือฮว่า สังเกตเห็นฉู่เชียนหลีอย่างตาดี และยังมีชายแปลกหน้าอีกคน!ครั้งนี้ดูไม่ผิดแน่เป็นผู้ชายจริงๆ!ไม่ใช่ท่านอ๋อง!เซียวจือฮว่ามองเห็นอย่างชัดเจนจริงๆ นางอดไม่ได้ที่จะจับมือเป่าอวี้แน่นขึ้นด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย ดีใจจนร่างกายสั่นเทาเบาๆ“ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้ดูผิด ครั้งก่อนฉู่เชียนหลีแอบนัดพบผู้ชายที่โรงน้ำชาก็เป็นเรื่องจริง แต่ท่านอ๋องกลับไม่ยอมเชื่อข้า และยังคิดว่าข้าใจแคบ จงใจให้ร้ายนาง”เป่าอวี้ก็ตื่นเต้นมากเช่นกันยังคิดว่าผู้ชายที่พระชายาแอบคบหาคือคุณชายตระกูลหานเสียอีก คาดคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะเป็นคนอื่นพระชายาช่างไร้ยางอายนัก!ขอแค่เปิดเผยเรื่องนี้ ชื่อเสียงที่ฉาวโฉ่ของพระชายาก็จะเป็นที่รู้กันทั่ว ถึงตอนนั้นชื่อเสียงป่นปี้ อับอายขายหน้า หนังสือหย่าหนึ่งแผ่น นายหญิงก็จะเป็นคนรักเพียงหนึ่งเดียวของท่านอ๋องเป่าอวี้จะวิ่งเข้าไปด้วยความตื่นเ
ฉู่เชียนหลีหันกลับไปโดยไม่รู้ตัว ยังไม่ทันมองชัดก็เห็นเงาสีขาวสั่นไหว วินาทีต่อมาเกิดเสียงดัง ‘ปัง’ กระแทกเข้าไปในอ้อมกอดร่างหนึ่งอย่างแรง“เดินเร็วขนาดนี้ ไม่รอข้าเลย”เฟิงเย่เสวียนหยิกเอวเล็กของนางทีหนึ่ง แสดงความไม่พอใจ เขาไม่พอใจ?ฉู่เชียนหลีต่างหากที่ไม่พอใจเงยหน้ากล่าว “ข้าเดินช้าขนาดนั้น ใครจะรู้ว่าเจ้าเดินไปเดิน เดินหลงเสียอย่างนั้น ข้าไม่ไปหาเจ้า เจ้าก็มาหาข้าไม่เป็นหรือ?”“ท่านจะผูกข้าไว้กับสายรัดเอวของท่านหรืออย่างไร? ท่านสูงตั้งเมตรเก้าสิบ ไล่ตามข้าที่เป็นขาหัวไชเท้าส่วนสูงเมตรหกสิบห้าไม่ทัน?”คำพูดที่ถามกลับสองสามประโยค ทำเอาเขาพูดไม่ออกเฟิงเย่เสวียนชะงักเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งจึงจะกล่าว“เป็นข้าที่ไม่ดีเอง”ตอนอยู่นอกวัง มัวแต่ส่องกระจกถอนผมหงอก จนไม่รู้ตัวว่าเมียของตัวเองเดินหลง“เดิมทีข้าอยากไล่ตามเจ้า แต่รองแม่ทัพเจียงมากะทันหัน ข้าก็เลยต้องไปที่ค่ายทหาร มีธุระเร่งด่วนนิดหน่อย”“จัดการเรียบร้อยแล้ว?”“อืม” เขาโอบเอวเล็กของนาง ดึงคนเข้ามาในอ้อมกอด “ทำงานเสร็จก็รีบกลับมาทันทีเลย ไม่อยากให้เชียนหลีคิดถึงข้า คิดถึงนานเกินไป”“?”คำพูดที่หลงตัวเองเช่นนี้
“ตอนนี้น่าจะไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมแล้วกระมัง? พระชายาของข้า”เฟิงเย่เสวียนวางโต๊ะเครื่องแป้งลงครั้งที่สิบห้า เชิดหน้าขึ้น สายตาที่ลึกซึ้งราวกับหมาป่ามองไปทางฉู่เชียนหลี เลียริมฝีปากบางเบาๆ อย่างชั่วร้ายเสียงที่เปล่งออกมาเบามากซ่า…หนังศีรษะฉู่เชียนหลีชาอย่างน่าประหลาด ร่างกายหดเกร็ง เมื่อเห็นเฟิงเย่เสวียนยกเท้า นางเดินถอยหลังครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว“รอก่อน”สายตาของนางขยับซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว “ข้า…”“ยังมี…”มองดูเฟิงเย่เสวียนเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ส้นเท้าของนางชนโดนมุมเตียง พลันยืนไม่มั่นคง นั่งลงบนขอบเตียง“อ๊า”เพิ่งนั่งลง กลิ่นปอเหอบนตัวเฟิงเย่เสวียนก็ลอยมาเตะจมูก พลันร่างกายหนัก ถูกกดทับลงบนเตียงอย่างไม่สามารถขยับตัว มีเพียงเท้าคู่นั้นที่ขยับกระดึ๊บๆ อยู่ตรงนั้นเมื่อเงยหน้าก็ประสานดวงตาสีหมึกที่มีรอยยิ้มลึกของเขา ด้ายเส้นที่อยู่ในใจตึงตรงฉับพลัน สองมือยันหน้าอกของเขาไว้ถูกเขาจ้องจนเริ่มตื่นตระหนกเสียงก็เริ่มติดอ่างอย่างไม่เป็นธรรมชาติ“ข้า ข้า…เฟิงเย่เสวียน ข้าหิวแล้ว…”เฟิงเย่เสวียนเผยอริมฝีบาง จับคางของนางอย่างเบามือ “ไม่ต้องรีบ จะป้อนเดี๋ยวนี้”“ความหมายของข้าคือ
“เจ้า!” เขามองนางอย่างตะลึงงัน“ดูเหมือนความจำของท่านอ๋องจะดีจริงๆ เช่นนั้นข้าก็ไม่เล่นเป็นเพื่อนแล้ว บ๊ายบาย!”ฉู่เชียนหลีเผยอริมฝีปากยิ้ม กระโดดเด้งลงจากเตียง ตบก้น เชิดหน้ายืดอกก็ไปเลย“ฉู่เชียนหลี!”ทั้งๆ ที่นางรู้อยู่แล้วว่ารอบเดือนของตนเองมา แต่ก็ยังยั่วยวนเขา ผลักร่างกายครึ่งท่อนของเขาไปอยู่บนใบมีด แต่จู่ๆ สะบัดก้นก็ไปเลยนางจงใจ!ตอนนี้นางสะบัดแขนเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี เขากลับถูกมัดไว้บนเตียงอย่างแน่นหนา ขยับตัวไม่ได้ ได้แต่เบิกตากว้างมองดูต่อหน้าต่อตาสายตาที่มืดครึ้มจนถึงขีดสุดจ้องมองแผ่นหลังที่จากไปของนาง กัดฟันตะคอกเสียงเบา“ฉู่เชียนหลี ข้าเป็นคนมีความแค้นต้องชำระ หากแสดงความเป็นมิตรตอนนี้ ข้าสามารถอภัยให้เจ้า หากยังคงดื้อดึงหลงผิด หลังจากนี้เจ็ดวัน ก็คือวันตายของเจ้า!”ฉู่เชียนหลีที่เดินออกไปแล้ว : ไม่ฟังไอ้คนสารเลวพล่ามหรอกถือโอกาสปิดประตูด้วยนางสั่งเยว่เอ๋อร์ “เยว่เอ๋อร์ ท่านอ๋องยุ่งมาทั้งวัน ตอนนี้เหนื่อยมากแล้ว เขากำลังพักผ่อน จะนอนถึงพรุ่งนี้ ห้ามเข้าไปรบกวนเขา หากเขาพูดอะไร เจ้าไม่ต้องฟัง เขากำลังพูดละเมอ”เฟิงเย่เสวียน “…”เสียงฝีเท้าของสองนายบ่าวค่อย
วันรุ่งขึ้นเช้าตรู่ ในวังหลวงมีราชโองการ แต่งตั้งคุณหนูตระกูลเว่ยเว่ยซืออี๋ และคุณหนูใหญ่ตระกูลฉู่ฉู่หงหลวนเป็นพระชายารองรัชทายาท แล้วก็ยังประทานให้ท่านอ๋องคนอื่นหลายคนจวนอ๋องห้องโถงหลัก บนโต๊ะอาหารฉู่เชียนหลีถือชาม จับช้อน กินหมูสับผัดพริกคลุกข้าวคำโตอย่างเอร็ดอร่อยเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ข้างๆ กวาดมองนางที่กินอย่างเอร็ดอร่อยแวบหนึ่ง ข้าวนั่นถูกพริกคลุกจนเป็นสีแดง เขาขมวดคิ้ว“ตอนเช้าต้องกินอาหารเบาๆ”“คนเซียงหนานอย่างพวกเราไม่เผ็ดไม่ชอบ” หากไม่มีพริก ต่อให้มีอาหารชั้นเลิศวางอยู่ตรงหน้า ก็ไร้รสชาติ“เซียงหนาน?”——ก็ที่ที่ฉันอยู่เมื่อชาติที่แล้วไง บ้านนอก“เซียงหนานอะไร? ข้ากำลังพูดถึงตะวันออกเฉียงใต้ ตระกูลฉู่ก็อยู่ตะวันออกเฉียงใต้ไม่ใช่หรือ ท่านพูดมากจัง”“...”เมื่อไรถึงจะรู้จักเกรงใจเขาบ้าง?กวาดมองปานขนาดใหญ่ของนางแวบหนึ่ง ใบหน้ายังคงอัปลักษณ์เหมือนเดิม แววตาลึกซึ้งอย่างคลุมเครือหลายส่วน ริมฝีปากบางเผยอขึ้นเล็กน้อยทันใดนั้นก็ยกแขนยาวขึ้น จับคางฉู่เชียนหลีไว้อย่างแม่นยำ ดึงเข้ามาจูบหนึ่งที ตอนที่พ่อบ้านเข้ามาก็เห็นภาพนี้พอดี เขาปิดปากโดยไม่รู้ตัว ไม่กล้าดูเยอะแ
แม้แต่คนเดียวก็อย่าคิด ยังจะเอาสิบคน? น้องหมูทีมผลิตยังไม่มากขนาดนี้เลย!พลันฉู่เชียนหลีโยนสมุดพับทิ้ง “เจ้าจนขนาดนี้แล้ว มันช่างข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงจริงๆ ไปซื้อของตามตลาดมอบให้รัชทายาทพอแล้ว”พ่อบ้าน : พระชายา สำนวนข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงไม่ได้ใช้เช่นนี้นะ“พระชายา สถานะท่านอ๋องสูงศักดิ์ หากมอบพวกของราคาถูก เกรงว่าไม่สอดคล้องสถานะ ผู้อื่นจะหัวเราะเยาะเอา…”“หัวเราะ? ใครหัวเราะ?”เวลามอบของขวัญแสดงความยินดี ห่อไว้ในกล่อง มีเพียงคนของจวนรัชทายาทเท่านั้นที่รู้อีกอย่าง รัชทายาทชั่วเช่นนั้น ใช้กลอุบายกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า“จะเอาของดีอะไร? รัชทายาทไม่คู่ควร!”“!”โอ๊ย พระชายาของข้า เสียงเบาหน่อย! คำพูดเช่นนี้ก็กล้าพูด เขายังอยากมีชีวิตนานขึ้นอีกปีสองปีหลังจากกินข้าวเสร็จ ฉู่เชียนหลีก็ลากเฟิงเย่เสวียนออกไปซื้อของแสงแดดดีมาก ไม่จำเป็นต้องใช้รถม้า ทั้งสองพลางเดินย่อยอาหาร พลางเถียงกัน“ซื้อกระโถนกลางคืน[footnoteRef:1]ให้เขา” [1: กระโถนที่ใช้ถ่ายหนักเบาเวลากลางคืน] “เชียนหลีเลิกเล่นได้แล้ว”“จวนเขามีผู้หญิงเยอะขนาดนั้น ทำการบ้านทันหรือ? หรือไม่ซื้อเหว่ยเกอ[foo