แชร์

บทที่ 137

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
ในเมื่อเรื่องของผู้ชายคนนั้นกับโจรภูเขามีเลศนัย เหตุใดเฟิงเย่เสวียนจึงไม่บอกนาง?

ปล่อยให้นางเข้าใจผิด?

เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนางทั้งหมด เขาก็มีส่วนผิดเช่นกัน ใครใช้ให้เขามีปากแต่ไม่พูด?

“อืม!”

รอหานเฟิงพูดจบ นางตอบรับอย่างเฉยเมย ก็จะไปทันที

หานเฟิง “?”

ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้ว ควรจะดีกันเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ?

“พระชายา…”

“มีอะไรอีก? ขยันเรียกเช่นนี้ จะให้ข้าป้อนข้าวเจ้าหรือ?” ฉู่เชียนหลีตำหนิเขา

“ข้าน้อยไม่กล้าขอรับ!” หานเฟิงตระหนกตกใจ

“ฮึ!”

นายกับบ่าวคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด ทำหน้าเย็นชา ให้ตายก็ไม่ยอมอธิบายแม้แต่ครึ่งคำ เหมือนกับว่าพูดให้ชัดเจน ก็จะเป็นการเอาชีวิตของพวกเขา

ต้องมีสะดุดสักวัน!

ฉู่เชียนหลีสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

หานเฟิงมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของนาง จิกผมอย่างทุกข์ระทมเล็กน้อย

ทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไรแล้ว เหตุใดจึงยังโกรธ?

ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีกันอยู่เลย

หัวใจของผู้หญิง เข็มใต้มหาสมุทร เข้าใจยากยิ่งนัก…

สวรรค์โปรดคุ้มครอง ต่อไปเขาจะไม่ทุกข์เพราะความรักเด็ดขาด

หานเฟิงเก็บตำลึงเงิน เตรียมไปรายงานข่าวที่ห้องหนังสือ เด็กรับใช้ที่เฝ้าประ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 138

    ฉู่เชียนหลีตะลึงงันก่อน จากนั้นรีบลุกขึ้น“เร็ว!”เยว่เอ๋อร์ปลื้มปีติ รีบเปิดประตู ต้อนรับท่านอ๋องเข้ามาฉู่เชียนหลี “รีบไปเอากลอนประตูมา ขัดประตูให้เรียบร้อย!”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลีวิ่งไปปิดประตูด้วยความเร็วราวกับจะไปเกิดใหม่ แต่ช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งได้ยื่นเข้ามาแล้ว และผลักประตูเปิดอย่างแรงสีหน้าของเฟิงเย่เสวียนบูดบึ้งเป็นพิเศษนางไม่อยากเจอเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ…มองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยังหอบกลอนประตูไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง รู้สึกเพียงขมับเต้นตุบๆ “เปลี่ยนเป็นผู้ชายอารมณ์ร้ายคนอื่น ภรรยานิสัยเช่นนี้ ถูกลากไปปรนนิบัติด้วยกระบองนานแล้ว”ฉู่เชียนหลีเชิดคาง“เช่นนั้นเจ้าก็มอบหนังสือหย่าให้ข้าสิ แค่พูดจะมีประโยชน์อะไร”เยว่เอ๋อร์ถลนตา “?!”โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครใจกล้ายั่วยุท่านอ๋องเช่นนี้… เฟิงเย่เสวียนยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าก็อยากหย่าเจ้าเช่นกัน มีพระชายาที่โง่เขลาเช่นนี้ ดึงระดับของข้าให้ต่ำลงจริงๆ”ฉู่เชียนหลีชะงักกะทันหัน “...”นางรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร…เชี่ย!เรื่องของภูเขากว่างหนิง นางไม่รู้เสียหน่อยเรื่องที่ผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นส

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 139

    บ้าจริง!เขาแสดงนิสัย ‘แค่มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคน’ ออกมาหมดเปลือกจริงๆ!ใบหน้าฉู่เชียนหลีดำจนกลายเป็นถ่าน “ข้ารู้แล้ว!”ฉันรู้ว่านี่เป็นแผนของนาย ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเป็นฝีมือของรัชทายาท ฉันรู้ทุกอย่างแล้วดังนั้นเชิญนายหุบปากได้ไหม?เฟิงเย่เสวียนพูดต่อ “แม้ข้าพูดมากไปบ้าง แต่ก็เพราะหวังดีกับเจ้า เจ้ายังเด็ก เส้นทางของอนาคตยังอีกยาวไกล ยิ่งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากเท่าไร ในอนาคตก็จะเป็นทุกข์น้อยลง”“ข้ารู้แล้ว!”นางแทบคลั่งแล้วบ้าจริง!เขาใช่อ๋องเฉินที่เยือกเย็น สุขุม พูดน้อย ฟุ่มเฟือยคนนั้นจริงหรือ? แต่ไม่ใช่จินฉานจื่อที่กลับชาติมาเกิดเป็นพระถังซัมจั๋งแน่นะ?จู้จี้จุกจิกกว่าแม่ของฉันอีก!เฟิงเย่เสวียนยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสง่างาม “เจ้าต้องอดทนฟังคำพูดของข้าและจำให้ขึ้นใจ เกลือที่ข้ากินมากกว่าเจ้าหลายปี ถนนใต้เท้าล้วนใช้เลือดเหยียบย่ำออกมาทีละก้าว”“ข้ารู้แล้ว!”“แล้วก็ยังมีอีกเรื่อง เจ้า…”“!”ไม่จบไม่สิ้นสักที!มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคนใช่ไหม!เชี่ย!ฉันกัดหัวสุนัขของนาย!ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!ในที่สุดฉู่เชียนหลีก็ทนไม่ไหวแล้ว ความโกรธที่อัดอั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 140

    ฉู่เชียนหลียืนมือเท้าเอวข้างหนึ่ง อีกมือชี้เฟิงเย่เสวียน ส่วนเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ ยื่นคอออกมาจูบปลายนิ้วของนางเบาๆภาพหยุดนิ่งแสงแดดส่องเฉียงเข้ามาจากหน้าต่าง แสงสีทองอันอบอุ่นกระทบลงบนร่างกายทั้งสอง เป็นภาพที่อ่อนโยนและกลมกลืนมาก ราวกับเป็นภาพวาดจริงๆเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านข้าง ถูกรัศมีหวานซึ้งทิ่มตาบอดทันที…เฟิงเย่เสวียนเงยหน้าขึ้น มองนางอย่างลึกซึ้ง ปลอบเสียงเบา“เชียนหลี ไม่โกรธ ดีหรือไม่?”“...” เฟิงเย่เสวียนก้มศีรษะ ให้เกียรติฉู่เชียนหลีมากพอแล้ว เดิมทีฉู่เชียนหลีก็เป็นฝ่ายที่ไม่มีเหตุผล ด่าก็ด่าจบแล้ว ไฟโทสะก็ระบายแล้ว ตอนนี้จะอ้างเหตุผลไม่ยอมคนต่อก็ไม่ดีมากนักแค่กๆ!นางดึงมือกลับ ตบไหล่ของเขาอย่างเย่อหยิ่งทะนงตน“ครั้งนี้ถือว่าข้าอารมณ์ดี ไม่ถือสากับเจ้า”“อ่า…แค่ก!”ตบนี้ทำให้สีหน้าเฟิงเย่เสวียนซีดขาวเล็กน้อย ไออยู่ในลำคอ ร่างกายอันสูงใหญ่อ่อนแอราวกับไม่สามารถรับการโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว“เจ้าเป็นอะไร?!”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันครู่หนึ่ง รีบดึงมือขวาของเขามาจับชีพจรเลือดออกในตับ…ยังคงเป็นปัญหาก่อนหน้านี้นึกถึงตอนอยู่ห้องหนังสือกะทันหัน ภายใต้ความตื่นตระหนก นางค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 141

    นางก้าวไปข้างหน้าอย่างเร็วด้วยความดีใจ “ฮว่าเอ๋อร์แค่บาดเจ็บที่มือ ไม่โดนน้ำก็ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”ขอแค่สามารถไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีของใต้เท้าหวังกับเขา ต่อให้กำลังป่วยก็ต้องไปนั่นเป็นถึงงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี!ทั่วหล้า มีผู้ชายกี่คนที่ปฏิบัติต่อภรรยารักเดียวใจเดียว ไม่ทิ้งไม่ห่าง เสมอต้นเสมอปลายเหมือนใต้เท้าหวัง?แล้วจะมีผู้ชายสักกี่ที่ไม่มีวันลืมความตั้งใจเดิม เกื้อหนุนกันและกัน อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับภรรยาจนแก่เฒ่า?งานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีนี้เป็นงานเลี้ยง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นพรสำหรับความรักของคนหนุ่มสาวนางต้องไปเข้าร่วมนางจะไปพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ความสำคัญของนางที่อยู่ในใจท่านอ๋องไม่มีใครสามารถเทียบได้!เฟิงเย่เสวียนกวาดมองมือที่พันด้วยผ้าพันแผลของนางดึกเช่นนี้แล้ว นางยังจะออกไปข้างนอกอีกหรือ?“นี่ก็ดึกแล้ว”เซียวจือฮว่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ ก่อนออกจากจวนแต่งหน้าหวีผมนานไปหน่อยเจ้าค่ะ”นางมองท้องฟ้าแวบหนึ่ง “ ออกจากจวนตอนนี้ น่าจะไปถึงพอดี ไม่เสียงานแน่นอนเจ้าค่ะ”นางยกกระโปรงผ้าแพรเก้าเมฆาที่เรียบเนียนและสวยงามขึ้น ก้าวข้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 142

    เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น บรรดาแขกที่อยู่ในจวนออกมาข้างนอกอย่างพร้อมเพรียงทันทีเด็กรับใช้รีบวิ่งเข้าไป ก้มเอวงอเข่า นำบันไดไม้สามขั้นไปวางไว้ที่ด้านข้างรถม้าอย่างนอบน้อม เพื่อสำหรับรองเท้าร่างเงาสีหมึกอันสูงศักดิ์หมุนตัวลงมา ยืนบนพื้นอย่างมั่นคงจากนั้นก็เป็นรองเท้าปักลายดอกไม้อันประณีตร่างเงาอันเพรียวบางใบหน้าที่มีรอยปาน…ซ่า!ทุกคนเบิกตากว้าง ถึงกับสูดลมเย็นเข้าปอด อ๋องเฉินพาฉู่เชียนหลีมาร่วมงาน หรือว่ายอมรับสถานะพระชายาอ๋องเฉินของฉู่เชียนหลีแล้ว?ฉู่เชียนหลีได้รับความโปรดปรานแล้ว?สวรรค์!ไม่น่าใช่กระมังใบหน้าที่อัปลักษณ์นั่น ไม่มีสิทธิ์กระทั่งถือรองเท้าให้พวกเขา เป็นไปได้อย่างไรที่จะเข้าตาอันสูงศักดิ์ของอ๋องเฉิน?หรือเป็นเพราะจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี อ๋องเฉินจึงพาฉู่เชียนหลีมาเป็นพิธีอืม…ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน!ฉู่เชียนหลีก็แค่มีไว้ประดับ!ในช่วงเวลาสั้นๆ สองวินาที มีการคาดเดาที่เปี่ยมล้น สมบูรณ์ มีสีสันปรากฏขึ้นในสมองของทุกคนมากมายหลังจากนั้นสองวินาที พากันก้าวไปข้างหน้า“ข้าน้อยคำนับท่านอ๋อง”“ท่านอ๋อง…”ในโอกาสของคนชนชั้นสูงเช่นนี้ ดูผ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 143

    “...”รอยยิ้มของผู้หญิงชุดกระโปรงสีน้ำตาลชะงักบนใบหน้าทันที“ผู้หญิงนี่นะ ก็เหมือนดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อผ่านฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว เมื่อผ่านช่วงอายุที่ดีที่สุดไปแล้ว ก็จะเหี่ยวเฉา”ฉู่เชียนหลีหยิบเมล็ดแตงโมขึ้นมาจากบนโต๊ะหนึ่งกำมือ กล่าวอย่างแผ่วเบา“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ชอบดอกไม้เหี่ยวหรอก เก็บน้ำค้างบำรุงผิวไว้ให้ตัวเองใช้เถิด”“...”สีหน้าของผู้หญิงชุดสีน้ำตาลประเดี๋ยวขาว ประเดี๋ยวดำ โมโหจนแทบคลั่งไม่ว่าผู้หญิงจะอายุมากเพียงใด สิ่งต้องห้ามที่สุดคือถูกผู้อื่นหาว่าแก่!ยุคปัจจุบันยุคโบราณล้วนเหมือนกันนางกำผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็เย็นจนถึงขีดสุดเช่นกัน “ถูกต้อง ทุกคนจะแก่ตัวลง สิ่งสำคัญคือระหว่างนั้น”“สิบกว่าปีนี้ ข้าช่วยนายท่านให้กำเนิดลูกชายอบรมลูกสาว ดูแลกิจการภายในจวน ตอนนี้ลูกๆ โตกันแล้ว กตัญญูรู้ความ อย่างไร้ก็ดีกว่าอยู่อย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ ทั้งชีวิต…”นางเน้นเสียงคำว่า ‘ไร้ค่า’ อย่างเหน็บแนม ต่อว่าฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความโปรดปราน สิ้นเปลืองความสาวอย่างอ้อมๆฉู่เชียนหลีแทะเมล็ดแตงโมอย่างสบายๆ พลันพยักหน้า“อืม ไม่ควรมีชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 144

    “ข้า…” ผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันทีคำพูดที่ละเมิดเบื้องสูงเช่นนี้สามารถพูดเหลวไหลได้หรือ?“พระชายาอ๋องเฉิน เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดให้โทษแก่ข้าอย่างไร้เหตุผล ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนี้!”โดยรอบยังมีแขกอยู่ตั้งมากมาย หากเผยแพร่ออกไป ทำให้ฝ่าบาทกริ้วขึ้นมา นางยังจะสามารถรักษาศีรษะไว้ได้หรือ?ฉู่เชียนหลีเหลือบมองนางอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง“ไม่หรือ?”“ท่านบอกว่าท่านเป็นอาวุโสของข้าไม่ใช่หรือ? ฝ่าบาทเป็นเสร็จพ่อของอ๋องเฉิน ก็ย่อมเป็นเสด็จพ่อของข้าเช่นกัน ไม่เท่ากับว่าท่านอยากเทียบเคียงฝ่าบาทหรือ?”“อ๋อ…” นางราวกับตะลึงงันฉับพลัน เสียงสูงขึ้นสองส่วน “ที่แท้ท่านอยากเป็นฮองเฮา!”“ฉู่เชียนหลี!”พลันผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงลุกพรวดขึ้นมาเป็นนางเด็กปากคอเราะรายยิ่งนัก!นี่คือการหมิ่นเบื้องสูง โทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ!“เจ้านี่มันเล่นลิ้นเก่งนัก หากพูดจาไม่เป็น ข้าไม่ถือสาที่จะสอนเจ้า!” นางก้าวมาข้างหน้าอย่างฉุนเฉียว ง้างมือจะตบหน้าฉู่เชียนหลีฉู่เชียนหลีหรี่ตา ปากแขนเสื้อขยับเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่มฝ่ามือกำลังจะตกลงมาทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่ที่เห็นข้อต่อชัดเจน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 145

    แขกโดยรอบมองมาด้วยสายตาแปลกประหลาด ผู้หญิงชนชั้นสูงกลุ่มนั้นก็ดูเหมือนจะตกใจ แต่ละคนก้มหน้าลง พยายามลดการมีตัวตนของตนเองให้น้อยลง ไม่กล้าพูดมากอีกอ๋องเฉินไม่เพียงพาฉู่เชียนหลีมาร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี แต่ยังหนุนหลังนาง ออกหน้าแทนนาง…หรือว่าฉู่เชียนหลีได้รับความโปรดปรานแล้วจริงๆ?แต่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ อย่างไรก็ตามฉู่เชียนหลีอัปลักษณ์เช่นนั้น อัปลักษณ์จนคนและเทพเคืองโกรธ… ใต้เท้าหลี่ไปอย่างเร่งรีบ ผู้หญิงชนชั้นสูงกลุ่มนั้นกลัวจนทำตัวดี กลิ่นอายอันโหดเหี้ยมรอบตัวอ๋องเฉินยังไม่ถูกเก็บ บรรดาแขกก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ชั่วขณะบรรยากาศแปลกประหลาด…“นี่เกิดอะไรขึ้นหรือ?”นอกฝูงชน มีเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาสายหนึ่งดังเข้ามาทุกคนหลบไปด้านข้างเปิดเป็นช่องทางหนึ่ง สามีภรรยาผมหงอกเต็มศีรษะคู่หนึ่งจับมือกันเดินเข้ามาชายชราอายุมากแล้ว เดินด้วยไม้เท้า ใบหน้าเหลี่ยมแลดูสูงศักดิ์ยิ่งนัก ส่วนหญิงชราหวีผมหงอกไว้อย่างพิถีพิถัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา ดวงตาที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อ่อนโยนน่าเข้าหาอย่างยิ่ง“ใต้เท้าหวัง ฮูหยินผู้เฒ่าหวัง”ทุกคนทัก

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1149

    แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าริบหรี่เวลาหนึ่งคืนเดียว เร่งเดินทางจากเมืองหลวงไปยังแม่น้ำอูหลาน ในช่วงที่ฟ้าใกล้สว่าง คนทั้งกลุ่มข้ามแม่น้ำเมื่อเดินไปถึงครึ่งทาง จุดที่ไกลออกไป มีขบวนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาอย่างเร่งรีบราวกับกระแสน้ำ สายลมเย็นยามเช้าพัดผ่าน เหมือนกับทัพใหญ่เข้าใกล้ชายแดน บรรยากาศที่กดดันอบอวลกลางอากาศหานเฟิง “นายท่าน อ๋องหลีมาแล้ว…”ขบวนสองกลุ่ม พบกันที่แม่น้ำอูหลานเฟิงเย่เสวียนอยู่บนสะพานเฟิงเจิ้งหลีอยู่บนฝั่งหยาดน้ำฟ้าตก สายน้ำไหลเชี่ยว สาดซัดเข้าฝั่ง หยดน้ำกระเซ็น ในอากาศเต็มไปด้วยความหนาวเย็น สองพี่น้องยืนสบตากันจากระยะที่ห่างกันหลายเมตรอยู่ไกลเกินไป แทบมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใช้สายตาประลองกันเงียบๆ“ฝ่าบาท” รองแม่ทัพเอ่ยปาก “นี่คือโอกาสดีในการกำจัดอ๋องเฉิน ถือโอกาสตอนที่พวกเขายังอยู่บนสะพาน พวกเราระเบิดสะพาน ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแน่นอน!”เขาคิดว่า นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมมากอ๋องเฉินข้ามสะพานไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อให้วิ่งไปอีกฝั่งของแม่น้ำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูปเวลาครึ่ง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status