แชร์

บทที่ 143

ผู้เขียน: สกุลหยางมีบุตรสาว
“...”

รอยยิ้มของผู้หญิงชุดกระโปรงสีน้ำตาลชะงักบนใบหน้าทันที

“ผู้หญิงนี่นะ ก็เหมือนดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อผ่านฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว เมื่อผ่านช่วงอายุที่ดีที่สุดไปแล้ว ก็จะเหี่ยวเฉา”

ฉู่เชียนหลีหยิบเมล็ดแตงโมขึ้นมาจากบนโต๊ะหนึ่งกำมือ กล่าวอย่างแผ่วเบา

“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ชอบดอกไม้เหี่ยวหรอก เก็บน้ำค้างบำรุงผิวไว้ให้ตัวเองใช้เถิด”

“...”

สีหน้าของผู้หญิงชุดสีน้ำตาลประเดี๋ยวขาว ประเดี๋ยวดำ โมโหจนแทบคลั่ง

ไม่ว่าผู้หญิงจะอายุมากเพียงใด สิ่งต้องห้ามที่สุดคือถูกผู้อื่นหาว่าแก่!

ยุคปัจจุบันยุคโบราณล้วนเหมือนกัน

นางกำผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็เย็นจนถึงขีดสุดเช่นกัน “ถูกต้อง ทุกคนจะแก่ตัวลง สิ่งสำคัญคือระหว่างนั้น”

“สิบกว่าปีนี้ ข้าช่วยนายท่านให้กำเนิดลูกชายอบรมลูกสาว ดูแลกิจการภายในจวน ตอนนี้ลูกๆ โตกันแล้ว กตัญญูรู้ความ อย่างไร้ก็ดีกว่าอยู่อย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ ทั้งชีวิต…”

นางเน้นเสียงคำว่า ‘ไร้ค่า’ อย่างเหน็บแนม ต่อว่าฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความโปรดปราน สิ้นเปลืองความสาวอย่างอ้อมๆ

ฉู่เชียนหลีแทะเมล็ดแตงโมอย่างสบายๆ พลันพยักหน้า

“อืม ไม่ควรมีชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 144

    “ข้า…” ผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันทีคำพูดที่ละเมิดเบื้องสูงเช่นนี้สามารถพูดเหลวไหลได้หรือ?“พระชายาอ๋องเฉิน เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดให้โทษแก่ข้าอย่างไร้เหตุผล ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนี้!”โดยรอบยังมีแขกอยู่ตั้งมากมาย หากเผยแพร่ออกไป ทำให้ฝ่าบาทกริ้วขึ้นมา นางยังจะสามารถรักษาศีรษะไว้ได้หรือ?ฉู่เชียนหลีเหลือบมองนางอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง“ไม่หรือ?”“ท่านบอกว่าท่านเป็นอาวุโสของข้าไม่ใช่หรือ? ฝ่าบาทเป็นเสร็จพ่อของอ๋องเฉิน ก็ย่อมเป็นเสด็จพ่อของข้าเช่นกัน ไม่เท่ากับว่าท่านอยากเทียบเคียงฝ่าบาทหรือ?”“อ๋อ…” นางราวกับตะลึงงันฉับพลัน เสียงสูงขึ้นสองส่วน “ที่แท้ท่านอยากเป็นฮองเฮา!”“ฉู่เชียนหลี!”พลันผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงลุกพรวดขึ้นมาเป็นนางเด็กปากคอเราะรายยิ่งนัก!นี่คือการหมิ่นเบื้องสูง โทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ!“เจ้านี่มันเล่นลิ้นเก่งนัก หากพูดจาไม่เป็น ข้าไม่ถือสาที่จะสอนเจ้า!” นางก้าวมาข้างหน้าอย่างฉุนเฉียว ง้างมือจะตบหน้าฉู่เชียนหลีฉู่เชียนหลีหรี่ตา ปากแขนเสื้อขยับเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่มฝ่ามือกำลังจะตกลงมาทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่ที่เห็นข้อต่อชัดเจน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 145

    แขกโดยรอบมองมาด้วยสายตาแปลกประหลาด ผู้หญิงชนชั้นสูงกลุ่มนั้นก็ดูเหมือนจะตกใจ แต่ละคนก้มหน้าลง พยายามลดการมีตัวตนของตนเองให้น้อยลง ไม่กล้าพูดมากอีกอ๋องเฉินไม่เพียงพาฉู่เชียนหลีมาร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี แต่ยังหนุนหลังนาง ออกหน้าแทนนาง…หรือว่าฉู่เชียนหลีได้รับความโปรดปรานแล้วจริงๆ?แต่มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ อย่างไรก็ตามฉู่เชียนหลีอัปลักษณ์เช่นนั้น อัปลักษณ์จนคนและเทพเคืองโกรธ… ใต้เท้าหลี่ไปอย่างเร่งรีบ ผู้หญิงชนชั้นสูงกลุ่มนั้นกลัวจนทำตัวดี กลิ่นอายอันโหดเหี้ยมรอบตัวอ๋องเฉินยังไม่ถูกเก็บ บรรดาแขกก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ชั่วขณะบรรยากาศแปลกประหลาด…“นี่เกิดอะไรขึ้นหรือ?”นอกฝูงชน มีเสียงหัวเราะที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตาสายหนึ่งดังเข้ามาทุกคนหลบไปด้านข้างเปิดเป็นช่องทางหนึ่ง สามีภรรยาผมหงอกเต็มศีรษะคู่หนึ่งจับมือกันเดินเข้ามาชายชราอายุมากแล้ว เดินด้วยไม้เท้า ใบหน้าเหลี่ยมแลดูสูงศักดิ์ยิ่งนัก ส่วนหญิงชราหวีผมหงอกไว้อย่างพิถีพิถัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา ดวงตาที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม อ่อนโยนน่าเข้าหาอย่างยิ่ง“ใต้เท้าหวัง ฮูหยินผู้เฒ่าหวัง”ทุกคนทัก

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 146

    ครอบครัวของนางอยู่ในโลกศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ตั้งแต่มาถึงสถานที่ที่ไม่รู้จักแห่งนี้ นางไม่เคยมีความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่ง หรือมีความสุข ความพึงพอใจเลยแม้แต่คนที่เข้าใจนางก็ไม่มีฉู่เชียนหลีหลุบตา น้ำเสียงเรียบเฉย “ข้ามีครอบครัว เมื่อก่อนเป็นจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ปัจจุบันเป็นจวนอ๋องเฉิน ข้าพึงพอใจแล้วเจ้าค่ะ”มีหรือที่ฮูหยินผู้เฒ่าหวังจะมองการฝืนว่าเข้มแข็งและเสแสร้งของนางไม่ออก?เฮ้อ…“เด็กน้อย เจ้างามยิ่งนัก” นางลูบใบหน้าฉู่เชียนหลีอย่างแผ่วเบา “เมื่อจิตใจงามก็จะพบเจอแต่เรื่องดีๆ ไม่ต้องไม่สนใจสายตาของคนนอก เจ้าต้องมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเอง”มือของหญิงชราเต็มไปด้วยรอยย่น ฝ่ามืออบอุ่น อุณหภูมิประทับลงบนใบหน้าฉู่เชียนหลีรู้สึกอุ่นๆราวกับแสงแดดสาดส่องลงบนร่างกาย อบอุ่นมาก…“ชีวิตของมนุษย์นั้นยาวนานมาก ต้องมีชีวิตเพื่อตัวเอง และมีชีวิตเพื่อคนที่คู่ควรได้รับ” หญิงชรากล่าวด้วยความเมตตา“ลองไปมองคนรอบข้างให้มากขึ้น คนคนหนึ่งไม่ว่าจะเกิดที่ไหน เติบโตที่ไหน อยู่ตำแหน่งอะไร ทำอะไร ล้วนมีความหมายทั้งสิ้น”เพิ่งสิ้นเสียง สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา“ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านควรดื่มยาแล้วเจ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 147

    แววตาฉู่เชียนหลีขรึมลง เมื่อครู่มีเพียงนางกับฮูหยินผู้เฒ่าหวังอยู่ที่นี่ แล้วฮูหยินผู้เฒ่าหวังก็มาเกิดเรื่องอีก เกรงว่าต่อให้นางกระโดดลงแม่น้ำหวงก็ไม่สามารถล้างมลทินนี้แต่เมื่อครู่นางไม่เห็นบาดแผลภายนอกบนร่างกายของฮูหยินใต้เฒ่าหวังเลย เพียงแค่กรีดร้องแล้วก็ล้มลงหรือว่า…เสียชีวิตเฉียบพลัน?เป็นไปไม่ได้ก่อนหน้านี้นางยังสามารถเดิน สามารถพูด สามารถหัวเราะ สภาพจิตใจดีมาก เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะเสียชีวิตเฉียบพลันภายใต้สถานการณ์สมรรถภาพทางร่างกายที่ดีกะทันหันเฟิงเย่เสวียนรีบมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย เขาก้าวเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่เชียนหลี จับมือของนางไว้“ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่” เขาปลอบใจนางเสียงเบาฉู่เชียนหลีเงยหน้าอย่างตะลึงงัน มองดูความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาสีหมึกของเขา ราวกับเกิดความรู้สึกปลอดภัยและมีคนหนุนหลังในความว่างเปล่าอุ่นใจกะทันหัน“พระชายาอ๋องเฉิน ตกลงเจ้าทำอะไรกับแม่ข้า!” ชายหนุ่มจ้องมองด้วยดวงตาที่แดงก่ำอย่างโกรธเคือง “แม่ข้ากับเจ้าไม่เคยพบกันมาก่อน ดูเหมือนว่านางจะไม่เคยล่วงเกินเจ้ากระมัง!”เด็กหญิงตัวน้อยคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายบนพื้น“ท่านย่า ท่าน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 148

    สาเหตุของอาการมีเยอะมาก“เร็ว ช่วยประคองฮูหยินผู้เฒ่าหวังไปที่เตียง ข้าช่วยนางได้!”จำเป็นต้องช่วยคนกลับมาในช่วงเวลาที่ดีที่สุด โชคดีที่ในกำไลเฉียนคุนมีอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ฮูหยินผู้เฒ่าหวังต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน!ก่อนอื่นต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่านอนราบ หนุนเท้าและศีรษะให้สูง เพื่อกระตุ้นให้การไหลเวียนของโลหิตกลับสู่หัวใจต่อมาต้อง…ฉู่เชียนหลีปลื้มปีติมาก เฟิงเย่เสวียนเข้ามาอุ้มฮูหยินใต้เท้าหวังไปที่ห้องนอนทันที หลังจากนั้นออกมา ปิดประตู ปล่อยให้ฉู่เชียนหลีมีพื้นที่ที่เงียบสงบ หลังจากทุกขั้นตอน บรรดาแขกที่อยู่เต็มลานเรือนยังคงตะลึงงัน ไม่มีใครตอบสนองเหตุการณ์ทันสมองงงงวยฟื้นจากความตาย?นี่พระชายาอ๋องเฉินคิดจะทำอะไร?นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้“เจ้าเชื่อเรื่องคนตายสามารถฟื้นคืนชีพหรือไม่?” ผู้ชายคนหนึ่งสงสัย“เลิกล้อเล่นได้แล้ว ข้าโตจนป่านนี้แล้ว ไม่เคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน หรือเจ้าเชื่อ?” คุณหนูอีกคนที่มุงดูอยู่ด้านข้างส่ายหน้า“ข้าว่านะ ฉู่เชียนหลีกำลังเล่นลูกไม้ เกรงว่ากำลังคิดหาวิธีทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากเรื่องนี้ ไม่รู้ว่านางจะทำอะไรที่เป็นการเสียมารยาทต่อศพของฮูหยิน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 149

    ทุกคน “?”เหมือนถูกฟ้าผ่า ยืนตัวแข็งอยู่ตรงที่เดิมวินาทีต่อมา เห็นเพียงฮูหยินผู้เฒ่าหวังจับขอบประตู ค่อยๆ เดินออกมา ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนตัวเป็นๆทุกคนเบิกตากว้าง สีหน้าราวกับเห็นผีฟื้นแล้ว?!ฟื้นแล้วจริงๆ?เห็นได้ชัดว่าสิ้นใจไปแล้ว…พวกเขาไม่ได้ตาฝาดแน่นะ?“ฮูหยิน…”“ท่านแม่? ท่านแม่ ท่าน…”ใต้เท้าหวังและลูกชายพุ่งพรวดเข้าไปด้วยความตกใจ จับมืออุ่นๆ ของฮูหยินผู้เฒ่าไว้ รู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายจริงๆ น้ำตาแห่งความปลื้มปีติหลั่งไหลออกมา รอยยิ้มของฮูหยินผู้เฒ่าหวังอ่อนโยน น้ำเสียงแหบแห้งแต่เมตตา“ให้พวกเจ้าต้องเป็นห่วงแล้ว โชคดีที่ทักษะการแพทย์ของพระชายาอ๋องเฉินเลิศล้ำ ข้าจึงสามารถรอดมาได้”พระชายาอ๋องเฉินมีความสามารถฟื้นคืนจากความตายได้จริง?นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!นางเป็นแค่คุณหนูจอมปลอมที่ถูกเลี้ยงไว้ในเรือนส่วนหลัง บิดาไม่เอ็นดู มารดาไม่รักใคร่ แม้แต่สถานศึกษาก็ไม่เคยไป ไม่รู้จักตัวอักษรสักคำ จะมีความรู้ทักษะการแพทย์ได้อย่างไร? แล้วจะช่วยคนได้อย่างไร?สวรรค์!ทุกคนรู้สึกเพียงงงงวยไปหมด สายตาที่มองไปทางฉู่เชียนหลีก็กลายเป็นซับซ้อนมีประกายบางอย่างแลบผ่านแววตาผู้หญิ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 150

    มันเป็นหน้ากากน่าเกลียด ปากสีฟ้ามีเขี้ยว ตาสีแดงเขายาว! “สวรรค์!” มีคนมองเห็นแล้ว “นี่…”ฮูหยินอู๋สะดุ้งตกใจ รีบเก็บหน้ากากนั่นยัดเข้าไปในแขนเสื้อโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกายแต่ทุกคนเห็นแล้ว!“ฮูหยินอู๋ ที่แท้เป็นฝีมือของเจ้า!”“หน้ากากปากสีฟ้ามีเขี้ยวนี่…ที่แท้เป็นเจ้า เจ้ายังพูดอย่างมั่นใจว่าเป็นพระชายาอ๋องเฉิน เมื่อครู่ เจ้านี่แหละที่พูดเสียงดังที่สุด! คิดไม่ถึงจริงๆ…”แขกเหรื่อต่างตําหนิด้วยคําพูดที่เฉียบคมหลักฐานมัดตัว ยังคิดจะบ่ายเบี่ยง?ก่อนหน้านี้ฮูหยินอู๋ถูกฉู่เชียนหลีต่อว่า จึงแค้นฝังใจ เดิมทีคิดจะหยอกล้อฮูหยินผู้เฒ่าหวังเล่นๆ เพื่อใส่ร้ายฉู่เชียนหลี ให้นางหลาบจำ แต่ใครจะรู้ว่านางมีความรู้ทักษะการแพทย์ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้นางตื่นตระหนกแล้ว“ไม่ ไม่ใช่ข้า…หน้า หน้า…หน้ากากนี่ข้าเก็บได้…ข้าเก็บได้…”ใต้เท้าหวังโกรธแล้ว “ฮูหยินอู๋ ฮูหยินของข้ามีความแค้นอะไรกับเจ้า!”ลูกชายของใต้เท้าหวังก็ตะคอกด้วยความโกรธเช่นกัน “วันนี้หากเจ้าไม่ให้คำอธิบาย อย่าคิดไปจากที่นี่!”“ฮูหยินอู๋ จิตใจเจ้าอำมหิตมาก!”“ไม่ ไม่ใช่ข้า…” ฮูหยินอู๋กลัวมาก นางวิ่งไปหาชายวัยกลางคนคน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 151

    ที่แท้เขาไม่เสียใจเพราะเรื่องนี้!ฉู่เชียนหลีมึนงง “เพราะอะไร...”ไม่ใช่บอกว่าทันทีที่ก้าวเข้าสู่ประตูวังหลวงที่ลึกราวกับทะเล ก็จะเป็นจักรพรรดิที่ไร้เมตตาที่สุดงั้นเหรอ? ไม่ใช่บอกว่าคนที่เกิดในวังหลวง ก็จะต้องละทิ้งอารมณ์ความรู้สึก เหยียบย่ำศพเพื่อปีนขึ้นไป ถึงจะไม่กลายเป็นเหยื่อสังเวย?“องค์รัชทายาททำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับอดทนยอมให้เสียทุกครั้ง?”หานเฟิงแอบถอนหายใจเป็นเพราะเกิดในราชวงศ์ ยากที่จะได้รับความรัก นายท่านถึงได้ทะนุถนอมมากเช่นนั้น“พระชายาอาจจะยังไม่ทราบ ตอนที่นายท่านยังเด็ก พี่น้องหลายคนออกล่าสัตว์อยู่ที่ชานเมือง เขาไม่ทันระวังจึงถูกหมาป่าตัวหนึ่งกัดเข้าที่ขา อันตรายเกือบถึงชีวิต เป็นองค์รัชทายาทที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ยังแบกเขาจากนอกเมืองกลับวังหลวงด้วย...”ตอนเด็ก พวกพระโอรสเกาะกลุ่มกัน เล่นสนุกโดยไร้ความระแวง มิตรภาพแน่นแฟ้นตามการเติบโตของอายุ เมื่อพวกเขาโตขึ้น รู้ความ ค่อย ๆ เข้าใจถึงความสำคัญของสถานะ ผลประโยชน์ อำนาจ ระหว่างพี่น้องไม่ร่วมมือกัน ห่างกันขึ้นเรื่อย ๆ“หากให้ข้าน้อยพูด หลายปีมานี้ นายท่านไม่มีความทะเยอทะยานใด พระชายาเชื่อหรือไม่?”ฉ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1149

    แสงแห่งรุ่งอรุณยามเช้าริบหรี่เวลาหนึ่งคืนเดียว เร่งเดินทางจากเมืองหลวงไปยังแม่น้ำอูหลาน ในช่วงที่ฟ้าใกล้สว่าง คนทั้งกลุ่มข้ามแม่น้ำเมื่อเดินไปถึงครึ่งทาง จุดที่ไกลออกไป มีขบวนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาอย่างเร่งรีบราวกับกระแสน้ำ สายลมเย็นยามเช้าพัดผ่าน เหมือนกับทัพใหญ่เข้าใกล้ชายแดน บรรยากาศที่กดดันอบอวลกลางอากาศหานเฟิง “นายท่าน อ๋องหลีมาแล้ว…”ขบวนสองกลุ่ม พบกันที่แม่น้ำอูหลานเฟิงเย่เสวียนอยู่บนสะพานเฟิงเจิ้งหลีอยู่บนฝั่งหยาดน้ำฟ้าตก สายน้ำไหลเชี่ยว สาดซัดเข้าฝั่ง หยดน้ำกระเซ็น ในอากาศเต็มไปด้วยความหนาวเย็น สองพี่น้องยืนสบตากันจากระยะที่ห่างกันหลายเมตรอยู่ไกลเกินไป แทบมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็เหมือนกับว่าพวกเขามองเห็นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ใช้สายตาประลองกันเงียบๆ“ฝ่าบาท” รองแม่ทัพเอ่ยปาก “นี่คือโอกาสดีในการกำจัดอ๋องเฉิน ถือโอกาสตอนที่พวกเขายังอยู่บนสะพาน พวกเราระเบิดสะพาน ให้พวกเขาตกลงไปในน้ำที่ไหลเชี่ยว ไม่ตายก็เหลือแค่ครึ่งชีวิตแน่นอน!”เขาคิดว่า นี่เป็นวิธีที่เหมาะสมมากอ๋องเฉินข้ามสะพานไปครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อให้วิ่งไปอีกฝั่งของแม่น้ำ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาครึ่งก้านธูปเวลาครึ่ง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1148

    “เป็นไปได้อย่างไร?”นางกล่าวด้วยความประหลาดใจ “เมื่อห้าวันก่อน ข้าคุยกับเขาแล้ว และจัดการทุกอย่างไว้ให้เขาแล้ว เขาสามารถออกจากวังอย่างราบรื่น นอกเสียจาก…”จู่ๆ นางก็เข้าใจอะไรบางอย่าง เสียงค่อยๆ เบาลงเฟิงเย่เสวียนกล่าวต่อ“เขาไม่อยากไป”ใช่!ไท่ซ่างหวงไม่อยากไปมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ยังอาลัยอาวรณ์ หรือเพราะสาเหตุอื่น เขาจึงเลือกที่จะอยู่เมืองหลวงแต่ถ้าหากเขาอยู่เมืองหลวง เฟิงเจิ้งหลีต้องหาเรื่องเขาแน่นอนฉู่เชียนหลีเป็นห่วง หลังจากครุ่นคิด ก็เดินออกไปข้างนอกแล้ว“ไม่ได้ ข้าต้องกลับวังหลวง ทิ้งเขาไว้ในเมืองหลวงเพียงลำพังไม่ได้”“ไม่ทันแล้ว”เฟิงเย่เสวียนจับข้อมือของนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “การเคลื่อนไหวเมื่อครู่ทำให้ทุกคนรู้ตัวแล้ว เกรงว่าตอนนี้คนสนิทของเฟิงเย่เสวียนกำลังมา เขาก็อยู่ระหว่างทางกลับเช่นกัน เสียเวลาไม่ได้แล้ว”กำลังหลักของเขาอยู่ที่เจียงหนานไม่เหมาะที่จะอยู่เมืองหลวงนาน ครึ่งปีมานี้ วิธีการของเฟิงเจิ้งหลีเหี้ยมโหด กำจัดพวกต่อต้าน รวบอำนาจเข้าด้วยกัน เมืองหลวงเป็นถิ่นของเขา อยู่ในถิ่นของเขา พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status