มันเป็นหน้ากากน่าเกลียด ปากสีฟ้ามีเขี้ยว ตาสีแดงเขายาว! “สวรรค์!” มีคนมองเห็นแล้ว “นี่…”ฮูหยินอู๋สะดุ้งตกใจ รีบเก็บหน้ากากนั่นยัดเข้าไปในแขนเสื้อโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกายแต่ทุกคนเห็นแล้ว!“ฮูหยินอู๋ ที่แท้เป็นฝีมือของเจ้า!”“หน้ากากปากสีฟ้ามีเขี้ยวนี่…ที่แท้เป็นเจ้า เจ้ายังพูดอย่างมั่นใจว่าเป็นพระชายาอ๋องเฉิน เมื่อครู่ เจ้านี่แหละที่พูดเสียงดังที่สุด! คิดไม่ถึงจริงๆ…”แขกเหรื่อต่างตําหนิด้วยคําพูดที่เฉียบคมหลักฐานมัดตัว ยังคิดจะบ่ายเบี่ยง?ก่อนหน้านี้ฮูหยินอู๋ถูกฉู่เชียนหลีต่อว่า จึงแค้นฝังใจ เดิมทีคิดจะหยอกล้อฮูหยินผู้เฒ่าหวังเล่นๆ เพื่อใส่ร้ายฉู่เชียนหลี ให้นางหลาบจำ แต่ใครจะรู้ว่านางมีความรู้ทักษะการแพทย์ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าจะถูกจับได้นางตื่นตระหนกแล้ว“ไม่ ไม่ใช่ข้า…หน้า หน้า…หน้ากากนี่ข้าเก็บได้…ข้าเก็บได้…”ใต้เท้าหวังโกรธแล้ว “ฮูหยินอู๋ ฮูหยินของข้ามีความแค้นอะไรกับเจ้า!”ลูกชายของใต้เท้าหวังก็ตะคอกด้วยความโกรธเช่นกัน “วันนี้หากเจ้าไม่ให้คำอธิบาย อย่าคิดไปจากที่นี่!”“ฮูหยินอู๋ จิตใจเจ้าอำมหิตมาก!”“ไม่ ไม่ใช่ข้า…” ฮูหยินอู๋กลัวมาก นางวิ่งไปหาชายวัยกลางคนคน
ที่แท้เขาไม่เสียใจเพราะเรื่องนี้!ฉู่เชียนหลีมึนงง “เพราะอะไร...”ไม่ใช่บอกว่าทันทีที่ก้าวเข้าสู่ประตูวังหลวงที่ลึกราวกับทะเล ก็จะเป็นจักรพรรดิที่ไร้เมตตาที่สุดงั้นเหรอ? ไม่ใช่บอกว่าคนที่เกิดในวังหลวง ก็จะต้องละทิ้งอารมณ์ความรู้สึก เหยียบย่ำศพเพื่อปีนขึ้นไป ถึงจะไม่กลายเป็นเหยื่อสังเวย?“องค์รัชทายาททำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับอดทนยอมให้เสียทุกครั้ง?”หานเฟิงแอบถอนหายใจเป็นเพราะเกิดในราชวงศ์ ยากที่จะได้รับความรัก นายท่านถึงได้ทะนุถนอมมากเช่นนั้น“พระชายาอาจจะยังไม่ทราบ ตอนที่นายท่านยังเด็ก พี่น้องหลายคนออกล่าสัตว์อยู่ที่ชานเมือง เขาไม่ทันระวังจึงถูกหมาป่าตัวหนึ่งกัดเข้าที่ขา อันตรายเกือบถึงชีวิต เป็นองค์รัชทายาทที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ยังแบกเขาจากนอกเมืองกลับวังหลวงด้วย...”ตอนเด็ก พวกพระโอรสเกาะกลุ่มกัน เล่นสนุกโดยไร้ความระแวง มิตรภาพแน่นแฟ้นตามการเติบโตของอายุ เมื่อพวกเขาโตขึ้น รู้ความ ค่อย ๆ เข้าใจถึงความสำคัญของสถานะ ผลประโยชน์ อำนาจ ระหว่างพี่น้องไม่ร่วมมือกัน ห่างกันขึ้นเรื่อย ๆ“หากให้ข้าน้อยพูด หลายปีมานี้ นายท่านไม่มีความทะเยอทะยานใด พระชายาเชื่อหรือไม่?”ฉ
แอ๊ด...ประตูห้องค่อย ๆ ปิดลง แสงของด้านในห้องมืดลงไม่น้อย หมาป่าค่อย ๆ เผยให้เห็นปลายเคี้ยวแหลมคม และกรงเล็บที่แหลมคม จับตัวลูกแกะ เลี้ยวไปทางตั่งนอนเกลี้ยกล่อมเบา ๆ ราวกับการลักพาตัว...ช้าก่อน!เมื่อมองเห็นเตียงนอน ฉู่เชียนหลีราวกับถูกตีแสกหน้า ได้ปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมาทันควัน ถอยออกมาจากอ้อมกอดของชายหนุ่มฉับพลัน“ดึกมากแล้วจริง ๆ น้อมส่งท่านอ๋อง!”ถอยออกไปสามก้าว โค้งตัวคำนับ เว้นระยะห่างเฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อครู่นี้ยังดี ๆ อยู่ เกือบจะอยู่บนเตียงแล้ว ผู้หญิงคนนี้...ฉลาดปราดเปรื่องมาก ปฏิกิริยาตอบโต้เร็วมาก ความรู้สึกไวมากเช่นกันอยู่ในจวนยังระแวงเขาขนาดนี้ จุดนี้ไม่ดีไม่ดี ๆ ต้องแก้ไข“เชียนหลี หานเฟิงบอกว่า...”“ข้าจะนอนกับเยว่เอ๋อร์”“?”ยอมนอนกับสาวใช้ แต่ไม่ต้องการเขา หรือว่าเขาเทียบไม่ได้แม้กระทั่งสาวใช้!เห็นชัด ๆ ว่ากำลังงอนเขาอยู่“เชียนหลีเจ้ายังโกรธอยู่?”ฉู่เชียนหลีชะงักเล็กน้อยเขาไม่เอ่ยยังดีก ทันทีที่เขาเอ่ยขึ้น นางก็นึกถึงตอนก่อนหน้านี้ที่เขาดุร้ายขนาดนั้น บีบบังคับนาง ตะคอกนาง ดุนาง...สีหน้าค่อย ๆ ห่อเหี่ยวลง“ท่านอ๋องหรือว่าไม่คว
ฉู่เชียนหลีมีชีวิตมาถึงสองชาติแล้ว ขนาดความตายก็ยังผ่านมาแล้ว ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก?เธอไม่คิดว่าตัวเองจะแพ้เหลือบตามองชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มล้ำลึก ความล้ำลึกในดวงตาราวกับหลุมดำ มองไม่เห็นก้นบึ้ง ทันทีที่มองแวบหนึ่ง ก็ราวกับถูกดูดเข้าไป ทำให้คนอยากจะเข้าใกล้เขาอย่างอดใจไม่ได้เธอยกริมฝีปากขึ้น “ได้”ในเมื่อเขาจงใจหลอกล่อให้เธอติดกับ ถ้าอย่างนั้นเธอก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า ‘อะไรถึงเรียกว่าความอันตรายและน่ากลัวของโลกนี้!’“เชียนหลีเชิญ” ชายหนุ่มยกมือขึ้น รัศมีความโค้งของริมฝีปากลึกขึ้นพวกผู้หญิง คำถามที่จะถามก็คงไม่พ้นพวกสีชาดแป้งน้ำ พิณ หมากรุก วาดภาพ พู่กันดนตรีจารีตเป็นต้น ถ้าลึกลงไปอีกสักหน่อย ก็เป็นผู้ชาย ความรัก เขาล้วนตอบได้หมดนอกจากนี้ เขาได้ยินเสียงหัวใจของนางด้วยคืนนี้ ตั่งนอนของเชียนหลี เขาจองเอาไว้แล้ว!มือทั้งสองข้างของฉู่เชียนหลีไพล่หลัง ก้าวเดินสองก้าว คิดอยู่สิบกว่าวินาที ถึงได้เอ่ยปากกล่าว“เมื่อหลายวันก่อน ข้าซื้อไข่ไก่บ้านจำนวนสิบฟองจากยายแก่คนหนึ่ง เอาไปเรียงไว้ในตู้” นางยื่นนิ้วมือออกมาชี้ไปยังตู้ไม้ที่อยู่ด้านข้างใบหนึ่ง“เมื่อวันก่อน หยิบไปสิบฟอง เยว่เ
คืนนี้ฉู่เชียนหลีหลับสบายเป็นพิเศษบางทีอาจจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการปราบโจรภูเขากว่างหนิงได้คลี่คลายแล้ว บางทีอาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนนี้ใครบางคนอยากจะคิดร้ายกับนาง แต่กลับถูกตลบหลังจนน่าอับอาย นางมีความสุขยิ่งนัก แม้กระทั่งแสงแดดในวันถัดมายังงดงามขึ้นไม่น้อยวันรุ่งขึ้นฤดูใบไม้ร่วงอากาศเย็นสบายฉู่เชียนหลีตื่นแต่เช้าตรู่ แต่กลับถูกพ่อบ้านแจ้งว่าให้ไปกินอาหารที่โถงด้านหน้านี่เป็นครั้งแรกของนางที่ได้ไปโถงด้านหน้าเดิมทีคิดว่าเป็นเพราะมีแขกมาเยือนจวน จำต้องเข้าร่วม เมื่อตอนที่ไปถึง กลับพอว่าภายในห้องโถงอันใหญ่โตโอ่อ่า มีเพียงเฟิงเย่เสวียนคนเดียวเท่านั้นที่แท้...เป็นอาหารเช้าของนางกับเขา เป็นครั้งแรกที่พวกเขากินอาหารเช้าด้วยกันอาหารบนโต๊ะมากมายหลากหลาย มีอาหารสิบสองอย่าง การตกแต่งจานงดงาม ทั้งผักและเนื้อปริมาณเหมาะสม กลิ่นหอมคละคลุ้ง ยังมีของหวาน น้ำผลไม้ ชาหอมที่ตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน มาตรฐานสูงยิ่งฉู่เชียนหลีเลือกที่นั่งว่าง แล้วนั่งลงอย่างสง่างาม ทักทายพร้อมรอยยิ้ม“ท่านอ๋องเมื่อคืนหลับสบายดีหรือไม่?”“...”ทันทีที่หญิงสายเอ่ยปาก เฟิงเย่เสวียนก็รู้สึกอัดอั้
วิ่งเร็วมากพ่อบ้านเฒ่ายิ้มจนตาหยีเป็นเส้นตรง จนจะมองไม่เห็นแล้ว “ท่านอ๋อง นี่พระชายากำลังอาย”เฟิงเย่เสวียนเลิกคิ้วนางเขินอายเป็น?น่าประหลาดไม่แน่ว่าตอนนี้นางอาจจะกำลังคิดว่าเหตุใดเขาจึงดีต่อนางเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเขาคิดจะทำร้ายนาง เขาต้องมีแผนการร้ายอะไรอย่างแน่นอน...พ่อบ้านเฒ่ากล่าวทันที “เมื่อครู่นี้ตอนที่พระชายาทานอาหาร บ่าวจ้องเจาะจงมองอยู่หลายครั้ง พบว่าพระชายาค่อนข้างชอบทานหมูเส้นผัดเปรี้ยวหวาน ปลาน้ำแดง หัวปลานึ่งราดพริก ยังค่อนข้างชอบทานเผ็ดอีกด้วย พวกน้ำแกงและอาหารพวกผักที่มีรสจืดพวกนั้น นางไม่แตะต้องเลยสักนิด”เฟิงเย่เสวียนกวาดสายตามองพ่อบ้านเฒ่าอย่างค่อนข้างพึงพอใจแวบหนึ่ง พ่อบ้านเฒ่าทำงานจริงจัง ประสิทธิภาพการทำงานสูง ความคิดรอบคอบ ทำงานละเอียดผิดพลาดน้อย จุดนี้ทำให้พอใจมาก“นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อาหารในเรือของพระชายาจะต้องมีเจ็ดอย่างเป็นอย่างน้อย ทั้งหมดทำตามรสชาติที่นางชอบ”ชายหนุ่มลุกขึ้น เตรียมที่จะออกไป ทันใดนั้น ก็หันหน้ากลับไป“ยังมีอีกเรื่อง กำชับห้องครัว อย่าใส่ต้นหอม นางไม่ชอบ”พ่อบ้านเฒ่าอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มอย่างล้ำลึกพระชายาไม่ชอบกิ
จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ภายในเรือนที่งดงามหลังหนึ่ง แสงแดดในฤดูใบไม้ร่วงไม่ได้ร้อนแผดเผา แต่กลับมีความอบอุ่น เมื่อสาดส่องลงมาที่ตัวก็กำลังพอดี สบายอย่างยิ่งภายในศาลา สองคนแม่ลูกกำลังปอกเปลือกองุ่นด้วยท่าทางสง่างาม โบกพัด เสพสุขกับชีวิตอันสุขสบาย“ท่านแม่ ฉู่เชียนหลีได้รับความโปรดปรานจากอ๋องเฉินแล้ว จะกลับมาหรือ?”ฉู่เจียวเจียวเอ่ยปากถามนางอันกรีดกรายเล็บมือที่เรียวยาวอย่างเกียจคร้าน นิ้วดอกกล้วยไม้[footnoteRef:1]เด็ดองุ่น ค่อย ๆ ปอกเปลือกทีละนิด กล่าวด้วยเสียงไม่พอใจ [1: กระบวนท่าวาดมือไม้ กรีดกรายนิ้วที่อ่อนช้อย] “นางเป็นลูกสาวของข้า ข้าเป็นแม่ของนาง นางไม่เชื่อฟังข้า ทั่วทั้งเมืองหลวงจะได้รู้ว่าพระชายาอ๋องเฉินแต่งงานไปแล้ว ก็ลืมมารดา เป็นลูกอกตัญญู”นางกล้าไม่กลับมา?หึ~“ถ้าไม่ใช่เพื่อเจ้า” นางอันกินองุ่นลงไป เช็ดปลายนิ้วจนสะอาด แล้วใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หน้าผากของฉู่เจียวเจียวแรง ๆ“ถ้าหากเจ้าเชื่อฟังคำของแม่ อยู่ให้ห่างจากอ๋องหลีคนนั้น แม่จะต้องทุกข์ใจเพราะเจ้าขนาดนี้หรือ?”“ชอบใครไม่ชอบ ดันจะไปชอบขยะอย่างอ๋องหลีผู้ไร้อำนาจไร้อิทธิพลคนนั้น ทั้งยังไม่ได้รับความโปรดปรานนั่
ฉู่เชียนหลีเงยหน้าทันที “?”ตรวจตราทางใต้?ให้อ๋องเฉินพาอ๋องหลีไปด้วยนางอันค่อย ๆ เอ่ย “ท่านพ่อของเจ้าเห็นด้วยเรื่องการแต่งงานของเจียวเจียวกับอ๋องหลีแล้ว อีกไม่กี่วันในวังหลวงก็จะมีราชโองการลงมา แต่ว่ามารดาผู้ให้กำเนิดของอ๋องหลีจากไปไว ฝ่าบาทก็ไม่ได้โปรดปรานเขาสักเท่าใด เจ้าให้อ๋องเฉินพาเขาไปด้วยบ่อย ๆ”ฉู่เชียนหลีเข้าใจจุดประสงค์ของนางอันทันทีอ๋องหลีไม่ได้รับความโปรดปราน อ๋องเฉินได้รับความโปรดปรานที่สุด นางต้องการให้อ๋องเฉินสนับสนุนอ๋องหลีนี่จะเป็นไปได้อย่างไร!องค์ชายมากมายขนาดนั้น แต่ราชบัลลังก์มีเพียงแค่หนึ่งเดียว คนที่มีโอกาสเป็นจักรพรรดิที่สุด จะสนับสนุนผู้ที่อ่อนแอที่สุดได้อย่างไร?ทันทีที่อ๋องเฉินทำแบบนี้ ฝ่าบาทก็จะระแวงยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้เกี่ยวพันกับสมาชิกของราชวงศ์ การแก่งแย่งชิงดีระหว่างองค์ชาย ไม่ได้ง่ายเหมือนการแก่งแย่งชิงดีกันในครอบครัวความคิดของนางอันจะใหญ่โตเกินไปหน่อยแล้ว!ฉู่เชียนหลีปฏิเสธทันที “ท่านแม่ ท่านมองอ๋องเฉินง่ายเกินไปแล้ว เขาเป็นถึงองค์ชาย เป็นไปได้อย่างไรที่จะสนับสนุนองค์ชายองค์อื่น? เรื่องนี้หากจัดการไม่ดี จะพลอยเดือดร้อนข้า เดือดร้อน