ในเมื่อเรื่องของผู้ชายคนนั้นกับโจรภูเขามีเลศนัย เหตุใดเฟิงเย่เสวียนจึงไม่บอกนาง?ปล่อยให้นางเข้าใจผิด?เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของนางทั้งหมด เขาก็มีส่วนผิดเช่นกัน ใครใช้ให้เขามีปากแต่ไม่พูด?“อืม!”รอหานเฟิงพูดจบ นางตอบรับอย่างเฉยเมย ก็จะไปทันทีหานเฟิง “?”ความเข้าใจผิดได้คลี่คลายแล้ว ควรจะดีกันเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ?“พระชายา…”“มีอะไรอีก? ขยันเรียกเช่นนี้ จะให้ข้าป้อนข้าวเจ้าหรือ?” ฉู่เชียนหลีตำหนิเขา“ข้าน้อยไม่กล้าขอรับ!” หานเฟิงตระหนกตกใจ“ฮึ!”นายกับบ่าวคู่นี้เหมือนกันไม่มีผิด ทำหน้าเย็นชา ให้ตายก็ไม่ยอมอธิบายแม้แต่ครึ่งคำ เหมือนกับว่าพูดให้ชัดเจน ก็จะเป็นการเอาชีวิตของพวกเขาต้องมีสะดุดสักวัน!ฉู่เชียนหลีสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปหานเฟิงมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของนาง จิกผมอย่างทุกข์ระทมเล็กน้อยทั้งๆ ที่ไม่เป็นอะไรแล้ว เหตุใดจึงยังโกรธ?ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ภูเขากว่างหนิงยังดีกันอยู่เลยหัวใจของผู้หญิง เข็มใต้มหาสมุทร เข้าใจยากยิ่งนัก…สวรรค์โปรดคุ้มครอง ต่อไปเขาจะไม่ทุกข์เพราะความรักเด็ดขาดหานเฟิงเก็บตำลึงเงิน เตรียมไปรายงานข่าวที่ห้องหนังสือ เด็กรับใช้ที่เฝ้าประ
ฉู่เชียนหลีตะลึงงันก่อน จากนั้นรีบลุกขึ้น“เร็ว!”เยว่เอ๋อร์ปลื้มปีติ รีบเปิดประตู ต้อนรับท่านอ๋องเข้ามาฉู่เชียนหลี “รีบไปเอากลอนประตูมา ขัดประตูให้เรียบร้อย!”เยว่เอ๋อร์ “?”ฉู่เชียนหลีวิ่งไปปิดประตูด้วยความเร็วราวกับจะไปเกิดใหม่ แต่ช้าไปหนึ่งก้าว ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งได้ยื่นเข้ามาแล้ว และผลักประตูเปิดอย่างแรงสีหน้าของเฟิงเย่เสวียนบูดบึ้งเป็นพิเศษนางไม่อยากเจอเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ…มองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยังหอบกลอนประตูไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าบูดบึ้ง รู้สึกเพียงขมับเต้นตุบๆ “เปลี่ยนเป็นผู้ชายอารมณ์ร้ายคนอื่น ภรรยานิสัยเช่นนี้ ถูกลากไปปรนนิบัติด้วยกระบองนานแล้ว”ฉู่เชียนหลีเชิดคาง“เช่นนั้นเจ้าก็มอบหนังสือหย่าให้ข้าสิ แค่พูดจะมีประโยชน์อะไร”เยว่เอ๋อร์ถลนตา “?!”โตจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยเห็นใครใจกล้ายั่วยุท่านอ๋องเช่นนี้… เฟิงเย่เสวียนยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าก็อยากหย่าเจ้าเช่นกัน มีพระชายาที่โง่เขลาเช่นนี้ ดึงระดับของข้าให้ต่ำลงจริงๆ”ฉู่เชียนหลีชะงักกะทันหัน “...”นางรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร…เชี่ย!เรื่องของภูเขากว่างหนิง นางไม่รู้เสียหน่อยเรื่องที่ผู้ชายคนเมื่อคืนเป็นส
บ้าจริง!เขาแสดงนิสัย ‘แค่มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคน’ ออกมาหมดเปลือกจริงๆ!ใบหน้าฉู่เชียนหลีดำจนกลายเป็นถ่าน “ข้ารู้แล้ว!”ฉันรู้ว่านี่เป็นแผนของนาย ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเป็นฝีมือของรัชทายาท ฉันรู้ทุกอย่างแล้วดังนั้นเชิญนายหุบปากได้ไหม?เฟิงเย่เสวียนพูดต่อ “แม้ข้าพูดมากไปบ้าง แต่ก็เพราะหวังดีกับเจ้า เจ้ายังเด็ก เส้นทางของอนาคตยังอีกยาวไกล ยิ่งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากเท่าไร ในอนาคตก็จะเป็นทุกข์น้อยลง”“ข้ารู้แล้ว!”นางแทบคลั่งแล้วบ้าจริง!เขาใช่อ๋องเฉินที่เยือกเย็น สุขุม พูดน้อย ฟุ่มเฟือยคนนั้นจริงหรือ? แต่ไม่ใช่จินฉานจื่อที่กลับชาติมาเกิดเป็นพระถังซัมจั๋งแน่นะ?จู้จี้จุกจิกกว่าแม่ของฉันอีก!เฟิงเย่เสวียนยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสง่างาม “เจ้าต้องอดทนฟังคำพูดของข้าและจำให้ขึ้นใจ เกลือที่ข้ากินมากกว่าเจ้าหลายปี ถนนใต้เท้าล้วนใช้เลือดเหยียบย่ำออกมาทีละก้าว”“ข้ารู้แล้ว!”“แล้วก็ยังมีอีกเรื่อง เจ้า…”“!”ไม่จบไม่สิ้นสักที!มีเหตุผลก็ไม่ละเว้นคนใช่ไหม!เชี่ย!ฉันกัดหัวสุนัขของนาย!ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!ในที่สุดฉู่เชียนหลีก็ทนไม่ไหวแล้ว ความโกรธที่อัดอั้
ฉู่เชียนหลียืนมือเท้าเอวข้างหนึ่ง อีกมือชี้เฟิงเย่เสวียน ส่วนเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ ยื่นคอออกมาจูบปลายนิ้วของนางเบาๆภาพหยุดนิ่งแสงแดดส่องเฉียงเข้ามาจากหน้าต่าง แสงสีทองอันอบอุ่นกระทบลงบนร่างกายทั้งสอง เป็นภาพที่อ่อนโยนและกลมกลืนมาก ราวกับเป็นภาพวาดจริงๆเยว่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านข้าง ถูกรัศมีหวานซึ้งทิ่มตาบอดทันที…เฟิงเย่เสวียนเงยหน้าขึ้น มองนางอย่างลึกซึ้ง ปลอบเสียงเบา“เชียนหลี ไม่โกรธ ดีหรือไม่?”“...” เฟิงเย่เสวียนก้มศีรษะ ให้เกียรติฉู่เชียนหลีมากพอแล้ว เดิมทีฉู่เชียนหลีก็เป็นฝ่ายที่ไม่มีเหตุผล ด่าก็ด่าจบแล้ว ไฟโทสะก็ระบายแล้ว ตอนนี้จะอ้างเหตุผลไม่ยอมคนต่อก็ไม่ดีมากนักแค่กๆ!นางดึงมือกลับ ตบไหล่ของเขาอย่างเย่อหยิ่งทะนงตน“ครั้งนี้ถือว่าข้าอารมณ์ดี ไม่ถือสากับเจ้า”“อ่า…แค่ก!”ตบนี้ทำให้สีหน้าเฟิงเย่เสวียนซีดขาวเล็กน้อย ไออยู่ในลำคอ ร่างกายอันสูงใหญ่อ่อนแอราวกับไม่สามารถรับการโจมตีแม้แต่ครั้งเดียว“เจ้าเป็นอะไร?!”ฉู่เชียนหลีตะลึงงันครู่หนึ่ง รีบดึงมือขวาของเขามาจับชีพจรเลือดออกในตับ…ยังคงเป็นปัญหาก่อนหน้านี้นึกถึงตอนอยู่ห้องหนังสือกะทันหัน ภายใต้ความตื่นตระหนก นางค
นางก้าวไปข้างหน้าอย่างเร็วด้วยความดีใจ “ฮว่าเอ๋อร์แค่บาดเจ็บที่มือ ไม่โดนน้ำก็ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ”ขอแค่สามารถไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีของใต้เท้าหวังกับเขา ต่อให้กำลังป่วยก็ต้องไปนั่นเป็นถึงงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี!ทั่วหล้า มีผู้ชายกี่คนที่ปฏิบัติต่อภรรยารักเดียวใจเดียว ไม่ทิ้งไม่ห่าง เสมอต้นเสมอปลายเหมือนใต้เท้าหวัง?แล้วจะมีผู้ชายสักกี่ที่ไม่มีวันลืมความตั้งใจเดิม เกื้อหนุนกันและกัน อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับภรรยาจนแก่เฒ่า?งานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปีนี้เป็นงานเลี้ยง ยิ่งกว่านั้นยังเป็นพรสำหรับความรักของคนหนุ่มสาวนางต้องไปเข้าร่วมนางจะไปพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ความสำคัญของนางที่อยู่ในใจท่านอ๋องไม่มีใครสามารถเทียบได้!เฟิงเย่เสวียนกวาดมองมือที่พันด้วยผ้าพันแผลของนางดึกเช่นนี้แล้ว นางยังจะออกไปข้างนอกอีกหรือ?“นี่ก็ดึกแล้ว”เซียวจือฮว่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ ก่อนออกจากจวนแต่งหน้าหวีผมนานไปหน่อยเจ้าค่ะ”นางมองท้องฟ้าแวบหนึ่ง “ ออกจากจวนตอนนี้ น่าจะไปถึงพอดี ไม่เสียงานแน่นอนเจ้าค่ะ”นางยกกระโปรงผ้าแพรเก้าเมฆาที่เรียบเนียนและสวยงามขึ้น ก้าวข้า
เมื่อเสียงตะโกนดังขึ้น บรรดาแขกที่อยู่ในจวนออกมาข้างนอกอย่างพร้อมเพรียงทันทีเด็กรับใช้รีบวิ่งเข้าไป ก้มเอวงอเข่า นำบันไดไม้สามขั้นไปวางไว้ที่ด้านข้างรถม้าอย่างนอบน้อม เพื่อสำหรับรองเท้าร่างเงาสีหมึกอันสูงศักดิ์หมุนตัวลงมา ยืนบนพื้นอย่างมั่นคงจากนั้นก็เป็นรองเท้าปักลายดอกไม้อันประณีตร่างเงาอันเพรียวบางใบหน้าที่มีรอยปาน…ซ่า!ทุกคนเบิกตากว้าง ถึงกับสูดลมเย็นเข้าปอด อ๋องเฉินพาฉู่เชียนหลีมาร่วมงาน หรือว่ายอมรับสถานะพระชายาอ๋องเฉินของฉู่เชียนหลีแล้ว?ฉู่เชียนหลีได้รับความโปรดปรานแล้ว?สวรรค์!ไม่น่าใช่กระมังใบหน้าที่อัปลักษณ์นั่น ไม่มีสิทธิ์กระทั่งถือรองเท้าให้พวกเขา เป็นไปได้อย่างไรที่จะเข้าตาอันสูงศักดิ์ของอ๋องเฉิน?หรือเป็นเพราะจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองแต่งงานครบรอบห้าสิบปี อ๋องเฉินจึงพาฉู่เชียนหลีมาเป็นพิธีอืม…ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน!ฉู่เชียนหลีก็แค่มีไว้ประดับ!ในช่วงเวลาสั้นๆ สองวินาที มีการคาดเดาที่เปี่ยมล้น สมบูรณ์ มีสีสันปรากฏขึ้นในสมองของทุกคนมากมายหลังจากนั้นสองวินาที พากันก้าวไปข้างหน้า“ข้าน้อยคำนับท่านอ๋อง”“ท่านอ๋อง…”ในโอกาสของคนชนชั้นสูงเช่นนี้ ดูผ
“...”รอยยิ้มของผู้หญิงชุดกระโปรงสีน้ำตาลชะงักบนใบหน้าทันที“ผู้หญิงนี่นะ ก็เหมือนดอกไม้ที่บานในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อผ่านฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว เมื่อผ่านช่วงอายุที่ดีที่สุดไปแล้ว ก็จะเหี่ยวเฉา”ฉู่เชียนหลีหยิบเมล็ดแตงโมขึ้นมาจากบนโต๊ะหนึ่งกำมือ กล่าวอย่างแผ่วเบา“ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ชอบดอกไม้เหี่ยวหรอก เก็บน้ำค้างบำรุงผิวไว้ให้ตัวเองใช้เถิด”“...”สีหน้าของผู้หญิงชุดสีน้ำตาลประเดี๋ยวขาว ประเดี๋ยวดำ โมโหจนแทบคลั่งไม่ว่าผู้หญิงจะอายุมากเพียงใด สิ่งต้องห้ามที่สุดคือถูกผู้อื่นหาว่าแก่!ยุคปัจจุบันยุคโบราณล้วนเหมือนกันนางกำผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าเย็นชา น้ำเสียงก็เย็นจนถึงขีดสุดเช่นกัน “ถูกต้อง ทุกคนจะแก่ตัวลง สิ่งสำคัญคือระหว่างนั้น”“สิบกว่าปีนี้ ข้าช่วยนายท่านให้กำเนิดลูกชายอบรมลูกสาว ดูแลกิจการภายในจวน ตอนนี้ลูกๆ โตกันแล้ว กตัญญูรู้ความ อย่างไร้ก็ดีกว่าอยู่อย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ ทั้งชีวิต…”นางเน้นเสียงคำว่า ‘ไร้ค่า’ อย่างเหน็บแนม ต่อว่าฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความโปรดปราน สิ้นเปลืองความสาวอย่างอ้อมๆฉู่เชียนหลีแทะเมล็ดแตงโมอย่างสบายๆ พลันพยักหน้า“อืม ไม่ควรมีชีวิตอย่างไร้ประโยชน์ไปวันๆ
“ข้า…” ผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนทันทีคำพูดที่ละเมิดเบื้องสูงเช่นนี้สามารถพูดเหลวไหลได้หรือ?“พระชายาอ๋องเฉิน เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดให้โทษแก่ข้าอย่างไร้เหตุผล ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนี้!”โดยรอบยังมีแขกอยู่ตั้งมากมาย หากเผยแพร่ออกไป ทำให้ฝ่าบาทกริ้วขึ้นมา นางยังจะสามารถรักษาศีรษะไว้ได้หรือ?ฉู่เชียนหลีเหลือบมองนางอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง“ไม่หรือ?”“ท่านบอกว่าท่านเป็นอาวุโสของข้าไม่ใช่หรือ? ฝ่าบาทเป็นเสร็จพ่อของอ๋องเฉิน ก็ย่อมเป็นเสด็จพ่อของข้าเช่นกัน ไม่เท่ากับว่าท่านอยากเทียบเคียงฝ่าบาทหรือ?”“อ๋อ…” นางราวกับตะลึงงันฉับพลัน เสียงสูงขึ้นสองส่วน “ที่แท้ท่านอยากเป็นฮองเฮา!”“ฉู่เชียนหลี!”พลันผู้หญิงชนชั้นสูงชุดสีม่วงลุกพรวดขึ้นมาเป็นนางเด็กปากคอเราะรายยิ่งนัก!นี่คือการหมิ่นเบื้องสูง โทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ!“เจ้านี่มันเล่นลิ้นเก่งนัก หากพูดจาไม่เป็น ข้าไม่ถือสาที่จะสอนเจ้า!” นางก้าวมาข้างหน้าอย่างฉุนเฉียว ง้างมือจะตบหน้าฉู่เชียนหลีฉู่เชียนหลีหรี่ตา ปากแขนเสื้อขยับเล็กน้อย นางหยิบเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่มฝ่ามือกำลังจะตกลงมาทันใดนั้น ฝ่ามือใหญ่ที่เห็นข้อต่อชัดเจน