แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: อันชิงซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 11:49:10
“ท่านอ๋อง กลับจวนหรือขอรับ?” ชิงเฟิงที่เป็นทั้งองครักษ์และคนขับรถม้ามองท้องฟ้าที่เริ่มมืดแล้วกล่าวถาม

วันนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ ถ้าหากพาแม่นางคนนี้กลับไปค้างคืนที่จวนอ๋อง เช่นนั้น…

แต่ว่าไม่มีเสียงของเด็กสาวคนนั้นดังออกมาจากในรถม้าแล้ว นางคงจะไม่โดนท่านอ๋องบีบคอตายโดยตรงกระมัง?

อีกเดี๋ยวเขาต้องไปทิ้งศพใช่หรือไม่?

ชิงเฟิงคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย ครู่หนึ่งจึงจะได้ยินเสียงท่านอ๋องของตัวเอง

“ไปจวนสกุลลู่”

“ขอรับ”

ผ่านไปอีกสักพัก เสียงของจิ้นอ๋องดังขึ้นอีกครั้ง

“ให้ท่านหมอฝู่ไปด้วย”

จวนสกุลลู่

สาวใช้ชิวจวี๋ยกชายกระโปรงวิ่งมา คนยังไม่ทันถึง เสียงก็มาถึงก่อนแล้ว

“คุณหนู แย่แล้วๆ!”

ลู่เจาอวิ๋นตกใจจนสะดุ้ง เข็มที่อยู่ในมือแทงโดนนิ้ว เลือดสีแดงสดโผล่ออกมาหนึ่งหยด

เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นในใจนาง

“เอะอะเสียงดังทำไม? ใครแย่?” ลู่เจาอวิ๋นเขม่นใส่ชิวจวี๋ที่วิ่งเข้ามา

“คุณ…คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว!” ชิวจวี๋หอบหายใจ และพูดติดอ่างเล็กน้อย

“เจ้าเรียกใครคุณหนูใหญ่?” ลู่เจาอวิ๋นลุกพรวดขึ้นมา โมโหทันที

ในจวนสกุลลู่ นางต่างหากถึงจะเป็นคุณหนูใหญ่!

ชิวจวี๋ตกใจกับสีหน้าที่ดุร้ายของนาง เปลี่ยนคำเรียกทันที “บ่าวพูดผิดเจ้าค่ะ คุณหนูรอง คุณหนูรองกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ”

“นางจะกลับมาในเวลานี้ได้อย่างไร?” ลู่เจาอวิ๋นเผลออุทานออกมา

“เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ! นายท่านกับฮูหยินกำลังต้อนรับที่ห้องโถงหน้า!”

“ต้องให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าไปต้อนรับด้วย? นางสูงส่งมาจากไหน!” ลู่เจาอวิ๋นเม้มปากครั้งแล้วครั้งเล่า “ข้าจะลองไปดูหน่อย!”

นางรีบวิ่งออกไปทันที

“คุณหนูช้าก่อน คุณหนูรองถูกจิ้นอ๋องส่งกลับมาเจ้าค่ะ!” ชิวจวี๋รีบไล่ตามออกไป

ห้องโถงหน้าจวนสกุลลู่

ลู่หมิงอายุประมาณสี่สิบปี หน้าตายังหนุ่ม รูปลักษณ์หล่อเหลา ดูเป็นคนน่าเชื่อถือ

ลู่ฮูหยินเครื่องประดับเจิดจรัส เสื้อผ้าสวยหรู ดูแล้วอายุก็แค่สามสิบต้นๆ

ทั้งสองกำลังมองชิงเฟิง สับสนเล็กน้อย

“น้องชายท่านนี้ เจ้าบอกว่าจิ้นอ๋องส่งลูกสาวข้ากลับมา? ตอนนี้กำลังรออยู่ที่ประตู?”

สีหน้าชิงเฟิงไร้อารมณ์ “ขอรับ คุณหนูลู่ ลู่เจาหลิง เป็นลูกของใต้เท้ากระมัง?”

พลันหัวใจลู่หมิงสั่นสะท้าน “เป็นลูกสาวที่ไม่เอาไหนของข้าจริงๆ นางอยู่ไหนหรือ?”

“สุขภาพของคุณหนูลู่ไม่ดี เชิญใต้เท้าเรียกคนสองคนออกไปประคองนางขอรับ”

พลันลู่ฮูหยินเหลือกตา คาดคิดไม่ถึง “นางมาถึงหน้าบ้านแล้วกลับไม่ยอมเข้าบ้าน ยังต้องให้คนไปประคองอีก? เหตุใดเด็กที่โตในบ้านนอกจึงอ่อนแอเช่นนี้? เหลวไหลสิ้นดี!”

ชิงเฟิงมองนางแวบหนึ่ง รู้สึกว่าหน้าตาของลู่เจาหลิงกับลู่ฮูหยินไม่เหมือนกันเลยสักนิด

ลู่หมิงตำหนินางเบาๆ “เอะอะอันใด? ไม่ได้ยินหรือว่าจิ้นอ๋องส่งนางกลับมา?” เขารีบเรียกคนรับใช้มาสองคน ตัวเองก็จัดแจงอาภรณ์ครู่หนึ่ง “ไปต้อนรับจิ้นอ๋อง”

ชิงเฟิงขวางเขาไว้ มองไปทางคนรับใช้สองคนนั้น

“ใต้เท้าลู่จะให้พวกเขาไปประคองคุณหนูลู่?”

ให้ผู้ชายสองคนไปประคอง? ใต้เท้าลู่กำลังล้อเล่นหรือ?

“ใช่ๆ ๆ พอข้าได้ยินว่าจิ้นอ๋องกลับเมืองหลวงแล้ว ก็ตื่นเต้นจนเลอะเลือน ฮูหยินยังไม่รีบเรียกสาวใช้อีก?” ลู่หมิงนึกขึ้นได้

“เรื่องมากจริงๆ! ข้าว่านะ นางกำลังหาวิธีจะให้พวกเราไปต้อนรับนางที่หน้าประตูด้วยตัวเองแน่เลย!” ลู่ฮูหยินขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน บ่นพึมพำ

คนทั้งกลุ่มเดินไปทางประตูใหญ่

ลู่เจาอวิ๋นเพิ่งมาถึง รีบตามออกไปทันที นางควงแขนของลู่ฮูหยิน “ท่านแม่ จิ้นอ๋องส่งน้องหญิงรองกลับมาจริงหรือ?”

พวกเขาไม่รู้จักจิ้นอ๋อง แต่ลู่เจาอวิ๋นรู้ว่า บุตรสาวของเสนาบดีเสิ่นปลื้มจิ้นอ๋องตั้งแต่เด็กแล้ว

คุณหนูเสิ่นผู้นำของเหล่าคุณหนูในเมืองหลวง บุรุษที่นางปลื้มย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน!

“ไม่รู้ว่านางไปรู้จักได้อย่างไร! เด็กบ้านนอกก็คือเด็กบ้านนอกจริงๆ ไร้มารยาท ไร้ยางอาย!” ลู่ฮูหยินกัดฟัน

พวกเขาไปถึงหน้าประตูใหญ่ มองเห็นรถม้าที่เรียบง่ายตรงหน้า

ลู่หมิงพอจะมีวิสัยทัศน์อยู่บ้าง แม้รถม้าคันนี้เรียบง่าย แต่ตัวรถดูแล้วก็รู้ว่าแข็งแรงและกว้างขวาง ทำมาจากไม้ชั้นดี ม้าดีที่ลากรถก็เป็นม้าที่หายาก จึงรีบเก็บความละเลยที่เขามี เข้าไปคำนับทันที

“ข้าน้อยลู่หมิงคำนับจิ้นอ๋อง ขอต้อนรับจิ้นอ๋องกลับเมืองหลวงขอรับ”

แม้มีม่านรถคั่น มองไม่เห็นคน แต่ใครจะกล้าล่วงเกินท่านอ๋องส่งเดช?

ภายในรถม้า จิ้นอ๋องมองเด็กสาวที่ยังหมดสติ พลันยื่นนิ้วชี้ออกไป จิ้มหน้าผากที่บวมแดงของนางครั้งแล้วครั้งเล่า

นางไม่ขยับ แต่ศีรษะถูกเขาจิ้มจนส่ายไปมาแล้ว

“ใต้เท้าลู่มีบุตรสาวที่ใจกล้ามาก”

เมื่อเสียงดังออกมา เหมือนกับมีขนนกจั๊กจี้หัวใจของลู่เจาอวิ๋น นางเบิกตามองไปที่รถม้าอย่างอยากรู้อยากเห็น

นี่คือเสียงของจิ้นอ๋องหรือ? ช่างไพเราะเหลือเกิน!

สีหน้าลู่หมิงกลับเปลี่ยนฉับพลัน จิ้นอ๋องพูดเช่นนี้ ความหมายคือถามหาความผิดหรือ? ลู่เจาหลิงทำอะไรลงไป! เขาเริ่มกระวนกระวายแล้ว

อ๋องจิ้นเป็นบุคคลที่ไม่ควรล่วงเกินตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว!

“ท่านอ๋อง บุตรสาวคนนี้ของข้าน้อยถูกเลี้ยงที่บ้านนอกตั้งแต่เด็ก ไม่แปลกที่นิสัยจะหยาบคายคำพูดไร้มารยาท ถ้าหากมีตรงใดที่ล่วงเกินท่านอ๋อง ท่านอ๋องลงโทษได้เลยขอรับ”

จิ้นอ๋องมองเด็กสาวที่หมดสติ ยิ้มฉับพลัน

เห็นได้ชัดว่าพ่อไม่เอ็นดู แม่ไม่รัก ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรก็กล่าวหานางก่อนแล้ว

“หึ” จิ้นอ๋องหัวเราะเบาๆ ผลักนางออกไป “อีกเดี๋ยวท่านหมอฝู่จะมารักษาบาดแผลให้นาง ก่อนที่นางจะฟื้น ดูแลให้ดี”

อย่างไรเสีย นางก็เป็น ‘ว่าที่ภรรยา’ ของเขา รอนางฟื้นแล้วค่อยมาคุยเรื่อง ‘ว่าที่สามีภรรยา’ กับนางดีๆ

ชิงเฟิงส่งสัญญาณ สาวใช้สองคนรีบเข้าไปประคองทันที

ลู่เจาหลิงถูกประคองลงมา ไม่สามารถยืนได้ด้วยซ้ำ สาวใช้ทั้งสองกัดฟันประคองนางไว้

ลู่ฮูหยินกับลู่เจาอวิ๋นมองไปทางนาง

ลู่หมิงก็มองแวบหนึ่ง เฮือก! สภาพอนาถเช่นนี้? คงจะไม่ได้ถูกจิ้นอ๋องกระทืบกระมัง?

กระทืบจนปางตาย แล้วส่งกลับมาช่วยให้ฟื้น ฟื้นแล้วก็กระทืบต่อ?

พริบตานั้น ใต้เท้าลู่รู้สึกว่าตัวเองรู้จักจิ้นอ๋องดีแล้ว ท่านนี้ต้องเป็นคนนิสัยโหดเหี้ยม อำมหิต ไร้ความปราณีแน่นอน!

“ขอรับๆ ข้าน้อยจะให้คนดูแลนางอย่างดีขอรับ” ลู่หมิงรีบกล่าว “ยังไม่รีบประคองคุณหนูรองเข้าไปอีก?”

รถม้าเลี้ยวหัวจากไป

“ให้คนรอท่านหมอฝู่!” ลู่หมิงออกคำสั่งกับพ่อบ้าน

“นายท่าน จิ้นอ๋องทำร้ายนางจนเป็นเช่นนี้ เหตุใดยังต้องให้ท่านหมอฝู่มารักษานางอีก? ท่านหมอฝู่ไม่ใช่ใครก็สามารถเชิญได้เลยนะเจ้าคะ!”

ลู่ฮูหยินริษยาเล็กน้อย

หมอฝู่เป็นหมอที่เกษียณจากหมอหลวง ครั้งหนึ่งเคยมีมิตรภาพวัยหนุ่มกับไท่ซ่างหวง ฮ่องเต้ไว้หน้าสามส่วน ฝีมือการแพทย์ยอดเยี่ยม แต่อายุมากแล้ว ไม่ออกรักษาง่ายๆ

ก่อนหน้านี้ลู่ฮูหยินเตรียมของมีค่าไปเชิญ ไม่ได้เข้าแม้แต่ประตู

ทว่าตอนนี้กลับจะให้หมอฝู่มารักษาบาดแผลให้ลู่เจาอวิ๋นถึงบ้าน? นางหนูนั่นสูงส่งมาจากไหน!

“จิ้นอ๋องต้องรักษาคนให้หายดี แล้วลงโทษอย่างหนักแน่ๆ! ลู่เจาหลิงเดือดร้อนแล้ว!” สีหน้าลู่หมิงเคร่งขรึม

พลันลู่เจาอวิ๋นกรอกตา “ท่านพ่อ ข้าจะลองไปดูน้องรองหน่อย ถามให้ชัดเจนก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น จะปล่อยให้นางพาท่านเดือดร้อนไม่ได้นะเจ้าคะ”

“มีแต่เจาอวิ๋นนี่แหละที่รู้ความและเอาใจใส่ ได้ ข้ามอบนางให้เจ้าจัดการแล้วกัน” ลู่หมิงกล่าวชม

น้ำเย็นหนึ่งถ้วย สาดไปที่ใบหน้าลู่เจาหลิง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 4

    เมื่อลู่เจาหลิงฟื้น เพิ่งลืมตาก็รู้สึกว่าคางของตัวเองถูกบีบอย่างแรงใบหน้าของนางถูกยกขึ้นลู่เจาอวิ๋นมองหน้านาง หน้าผากฟกช้ำ ใบหน้าถูกสาดน้ำ แต่ยังคงงามเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกเจ็บใจนัก“น้องหญิงรองช่างมีความสามารถจริงๆ!”ลู่เจาหลิงปัดมือของนางทิ้ง มองห้องนี้แวบหนึ่งห้องแคบเล็ก เครื่องเรือนชำรุดทรุดโทรม สีเตียงถลอก สีผ้าม่านเริ่มจาง มีโต๊ะกลมเล็กหนึ่งตัว และเก้าอี้กลมเล็กๆ ที่สึกหรอสี่ตัวที่นี่ไม่น่าจะใช่จวนจิ้นอ๋องกระมัง? จวนอ๋องที่ทรุดโทรมเช่นนี้มีที่ไหนกันและเมื่อได้ยินเด็กสาวตรงหน้าคนนี้เรียกนางว่าน้องหญิงรอง ลู่เจาหลิงเข้าใจแล้ว ที่นี่น่าจะเป็นจวนสกุลลู่“จิ้นอ๋องส่งข้ากลับมาหรือ?” นางกล่าวถาม พลางเอื้อมมือเช็ดน้ำบนใบหน้า“เจ้าเป็นคนสาด?”ลู่เจาอวิ๋นคิดไม่ถึงว่าหลังจากลู่เจาหลิงฟื้น จะมีปฏิกิริยาที่สงบเช่นนี้ จึงถามกลับไปโดยไม่รู้ตัว “ข้าสาดแล้วจะทำไม?”“อืม ก็จะเป็นเช่นนี้ไง”พลันลู่เจาหลิงยกมือ ก็ตบไปที่ใบหน้าของนางเพี๊ยะ!ฝ่ามือเหวี่ยงโดนใบหน้าลู่เจาอวิ๋นเต็มๆ เสียงดังฟังชัดลู่เจาอวิ๋นถูกตบจนมึนแล้ว หลังจากหวนคืนสติก็ระเบิดอารมณ์ออกมาทันที นางกรีดร้องอย่างเหลื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 5

    นี่คือจะทำลายชื่อเสียงของนางหรือ?สายตาลู่เจาหลิงเย็นยะเยือก ลู่ฮูหยินได้กระโจนมาถึงตรงหน้านาง และยังบีบน้ำตาออกมาสองหยดจริงๆพลันนางคว้าชามเปล่าที่อยู่บนโต๊ะก็ทุบไปทางลู่ฮูหยิน“โอ๊ย!” ฮูหยินลู่ตกใจจนหน้าถอดสี และเอียงตัวไปด้านข้างเพื่อจะหลบ ได้ยินเพียงเสียง ‘กร๊อบ’ ดังขึ้น“โอ๊ย เอวข้า เอวของข้า!” นางเริ่มร้องอย่างอนาถ รีบเรียกสาวใช้มาประคองลู่หมิงโกรธมาก เขาชี้ลู่เจาหลิง “นางลูกทรพี! ถึงขั้นกล้าลงมือกับแม่เจ้าเลยหรือ!”“แม่ของตายแล้วไม่ใช่หรือ? นางที่เป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินและฉวยโอกาสปีนขึ้นเตียง คู่ควรให้ข้าเรียกแม่ด้วยหรือ?” สีหน้าลู่เจาหลิงไร้อารมณ์สีหน้าลู่หมิงเปลี่ยนฉับพลันฮูหยินลู่ตัวแข็งทื่อ มองลู่เจาหลิงอย่างไม่อยากเชื่อ หลังจากหวนคืนสติก็ปิดหน้าร้องไห้ทันที“นายท่าน ข้าไม่อยากอยู่แล้ว ฮือๆ ๆ! เจาหลิงปรักปรำข้าเช่นนี้ได้อย่างไร!”ลู่หมิงประคองนางไว้ พลางจ้องลู่เจาหลิง “เด็กที่โตในบ้านนอกมันหยาบคายและมุทะลุจริงๆ! สองสามวันนี้เจ้า…”“แค่กๆ” มีเสียงกระแอมดังขึ้นจากข้างๆลู่หมิงหวนขึ้นสติทันที หมอฝู่ยังอยู่ที่นี่ จะให้คนนอกเห็นเรื่องน่าขำของครอบครัวเขาได้อย่างไร? 

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 6

    “ท่านลองดูก็ไม่มีอะไรเสียหาย”พลันลู่เจาหลิงมองไป ก็เห็นป้ายหยกของเขาแล้ว“อันนั้นก็แล้วกัน คุณภาพหยกพอใช้ได้”หมอฝู่หยิบป้ายหยกของตัวเองขึ้นมาอย่างประหลาดใจ หลานชายเป็นคนมอบป้ายหยกชิ้นนี้ให้เขา คุณภาพหยกดีมาก นางถูกเลี้ยงดูที่บ้านนอกจนโต สามารถพูดออกมาอย่างใจเย็นว่าหยกชิ้นนี้แค่พอใช้ได้?“ฝีมือการแพทย์ของท่านไม่เลว ตายไปทั้งเช่นนี้น่าเสียดาย” ลู่เจาหลิงกล่าวอีกครั้งหมอฝู่เผลอหัวเราะโดยไม่มีเสียง จากนั้นก็แกะป้ายหยกส่งให้ลู่เจาหลิง ช่างเถอะ แม่นางคนนี้น่าสนใจ คิดเสียว่าปลอบใจนางหน่อยก็แล้วกัน นางดูเด็กกว่าหลานชายของเขาเสียอีก“เชิญท่านนั่งลง”ลู่เจาหลิงถือป้ายหยกด้วยมือซ้าย มือขวาขีดเขียนกลางอากาศ พลันก็กดนิ้วมือไปที่หน้าผากของเขาในสายตาของนาง ไอสีดำที่หมุนวนอยู่บนหน้าผากของหมอฝู่ราวกับจู่ๆ ก็มีชีวิต มันบิดไปมาดิ้นรนเหมือนกับไส้เดือนที่ได้รับความตกใจแต่มันถูกนิ้วมือของลู่เจาหลิงกดเอาไว้ ผ่านไปเพียงครู่เดียวก็ขยับไม่ได้แล้ว และเริ่มมาพันนิ้วมือของนางแทนหมอฝู่รู้สึกได้ทันทีว่าศีรษะที่วิงเวียน และทั้งปวดทั้งหนักในช่วงที่ผ่านมา ผ่อนคลายลงในพริบตาความแตกต่างนี้ชัดเจนมาก จน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 7

    ชิ่งหมัวมัวงงงวย“ชิงเฟิง ให้คนส่งพวกนางไป บอกว่าเป็นเจตนารมณ์ของข้า”“ขอรับ!”ชิงหลิงกับชิงอินก็ตามเหตุการณ์ไม่ทันเช่นกัน แต่สิบปีมานี้พวกนางถูกปลูกฝังให้จงรักภักดีต่อจิ้นอ๋องมาโดยตลอด ต้องเชื่อฟังคำสั่งของจิ้นอ๋อง แม้งงงวยมาก แต่ก็ยังคำนับแล้วถอยออกไป เตรียมตัวไปจวนสกุลลู่จิ้นอ๋องลงจากรถม้า สองมือไพร่หลัง แหงนมองอักษรจวนจิ้นอ๋องสามตัวบนป้ายประตูด้วยสายตาที่คลุมเครือ พ่อบ้านกับชิ่งหมัวมัวมองขาของเขาอย่างอกสั่นขวัญแขวน“ท่านอ๋อง ขาของท่านเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”“เหมือนเดิม เดินช้าๆ ไม่กี่ก้าวไม่มีปัญหา” จิ้นอ๋องก้าวเข้าประตูใหญ่เช่นนั้นก็แสดงว่าไม่ดีขึ้น?พ่อบ้านกับชิงโมโม่สบตากันแวบหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจเงียบๆ รีบเดินตามเข้าไปชิ่งหมัวมัวอดกลั้นอารมณ์ที่อยากเข้าไปประคองจิ้นอ๋อง และมองเขาอย่างปวดใจ นางเป็นคนเลี้ยงจิ้นอ๋องโตกับมือ นางปวดใจที่สุด“ท่านอ๋อง ชิงหลิงกับชิงอินรู้ความเชื่อฟัง ขยันรู้จักหน้าที่ของตัวเอง บ่าวกำลังคิดท่านยังไม่แต่งงาน อย่างไรก็ต้องมีคนดูแล เหตุใดจึงส่งพวกเขาออกไปแล้ว? คุณหนูรองจวนสกุลลู่มีอะไรไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือ?”ชิ่งหมัวมัวเข้าใจว่าคุณหนู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 8

    จิ้นอ๋องหัวเราะเบาๆ“ดูเหมือนหมอฝู่จะประทับใจในตัวนางมาก ตั้งแต่มาถึงก็ชมนางหลายครั้งแล้ว”“ข้าก็แค่พูดไปตามความจริง” หมอฝู่กล่าวลู่เจาหลิงก็ฉลาดจริงๆ นั้นแหละ“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ข้าได้ส่งเด็กรับใช้ไปให้นางสองคนแล้ว ชิ่งหมัวมัวอบรมด้วยตัวเอง น่าจะละเอียดรอบคอบ”“เช่นนั้นก็ดี เช่นนั้นก็ดี”หมอฝู่โล่งอกอย่างที่คิด แต่แล้วก็นึกถึงอะไรบางอย่าง อดไม่ได้ที่จะมองจิ้นอ๋องอย่างคาดคะเน แววตาสั่นไหว“ท่านอ๋องกับคุณหนูลู่รู้จักกันได้อย่างไร? ท่านดูดีกับนางเป็นพิเศษเลยนะ”“นางบอกว่าสามารถช่วยข้า”คำพูดประโยคเดียวของจิ้นอ๋อง ปัดความคิดที่จะจุ้นเรื่องชาวบ้านของหมอฝู่ทิ้งไปในพริบตาสีหน้าเขาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที“คุณหนูรู้อาการของร่างกายท่านได้อย่างไร?” ขณะกล่าว เขายังได้มองไปที่หน้าอกของจิ้นอ๋องเขาเห็นความแปลกประหลาดที่หน้าอกจิ้นอ๋องตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน แต่เขาก็หมดหนทาง ดังนั้นจิ้นอ๋องจึงตามหาหมอมีชื่อเสียงและผู้วิเศษมาโดยตลอด“นางบอกว่านางมองออก หมอฝู่เชื่อหรือไม่?”หมอฝู่นึกถึงเหตุการณ์ที่ลู่เจาหลิงช่วยเขาเมื่อครู่ สีหน้ายิ่งเคร่งขรึมแล้ว“ข้าไม่เชื่อไม่ได้”แต่ก็ชะงักไปครู่หน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 9

    ฮ่องเต้องค์ใดไม่ถือสาเมื่อมีคนว่าตัวเองแก่?ผู้ครอบครองแผ่นดิน กุมอำนาจสูงสุด สิ่งที่ต้องการมากกว่านั้นคือรักษาความอ่อนเยาว์และแข็งแรง อายุยืนร้อยปีฮ่องเต้เป็นรัชทายาทจนถึงอายุเกือบสี่สิบปี ไท่ซ่างหวงไม่สิ้นพระชนม์เสียที ไม่ง่ายเลยที่กว่าจะทรงประชวรจึงให้เขาขึ้นครองราชย์ จนถึงตอนนี้ก็เพิ่งจะผ่านไปสองปีเพิ่งครองราชย์ปีที่สอง ก็ได้ยินจิ้นอ๋องบอกว่าหน้าเขามีริ้วรอย ช่างเป็นการฆ่าคนด้วยคำพูดจริงๆดังนั้นเขาจึงไม่ชอบหน้าพระอนุชาคนเล็กคนนี้แล้ว ยิ่งโตยิ่งน่ารังเกียจ“ข้าอายุมากกว่าอาเยว่ยี่สิบปี ย่อมเป็นผู้ใหญ่กว่าเจ้าอยู่แล้ว” ฮ่องเต้ปลอบใจตัวเองพระสนมของเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเขายังหนุ่ม ดูแล้วเหมือนอายุสามสิบต้นๆ อีกทั้งเขาอยู่บนพระแท่นบรรทมยังน่าเกรงขามมาก ฮึ่ม หากแต่ไม่คาดคิดว่าเจอกันก็ถูกจิ้นอ๋องทำร้ายจิตใจ เขาต้องอดกลั้นให้ได้“อืม เสด็จพี่ใกล้ห้าสิบแล้ว” จิ้นอ๋องกล่าวต่ออย่างเป็นธรรมชาติฮ่องเต้เกือบจะร้องไห้แล้ว“อาเยว่ รีบเข้ามา ลองเล่าให้ข้าฟังหน่อยว่าหลายปีนี้เจ้าไปไหน เจอเรื่องสนุกอะไรบ้าง ข้ามีงานติดตัวทั้งวัน แทบไม่ได้ออกจากวังหลวงแห่งนี้เลย คิดแล้วก็อิจฉาเจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 10

    ฮ่องเต้หรี่ตามองเสิ่นเซียงจวิ้นแม้หลายปีมานี้ เขาเคยชินกับการขัดเจตนารมณ์ของจิ้นอ๋องทุกเรื่อง ขอแค่เป็นเรื่องที่จิ้นอ๋องไม่อยากทำหรือรู้สึกต่อต้าน เขาก็จะทำสิ่งที่ตรงกันข้าม แต่เห็นคุณหนูของอัครเสนาบดีเสิ่นอยากแต่งงานกับจิ้นอ๋องเช่นนี้ เขาก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อยอัครเสนาบดีเสิ่นจงรักภักดีต่อเขามาโดยตลอดตามหลักแล้ว ควรยกเสิ่นเซียงจวิ้นให้รัชทายาทหรือองค์ชายคนอื่น เช่นนี้ความสัมพันธ์จักรพรรดิกับขุนนางของพวกเขาจึงจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นแต่อัครเสนาบดีเสิ่นกลับไม่ได้ปฏิเสธเรื่องที่ลูกสาวขอแต่งงานกับจิ้นอ๋อง? สิ่งนี้ส่งผลดีต่ออัครเสนาบดีเสิ่นอย่างไร?หรือว่าหลายปีนี้เขาแสร้งเป็นเสด็จพี่ที่แสนดีมาโดยตลอด ทำให้เสนาบดีเสิ่นเข้าใจผิด คิดว่าความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างเขากับจิ้นอ๋องลึกซึ้งเสิ่นเซียงจวิ้นเป็นถึงสตรีผู้มากความสามารถที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง“ไม่มีหน้าออกจากบ้าน เจ้าสามารถปิดประตูไม่ออกมาได้” จิ้นอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ซี๊ดใจดำจริงๆเสิ่นเซียงจวิ้นตกใจจนลืมร้องไห้“ท่านอ๋อง?”ไทเฮาอดไม่ได้ที่จะถาม “จิ้นอ๋องอยากแต่งงานกับแม่นางบ้านใด? หรือว่าหลายปีนี้ได้พบกับหญิงงาม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 11

    สะเดาะเคราะห์?พระทัยของฮ่องเต้เต้นแรง เป็นเช่นนั้นไม่ได้ พระองค์ทรงไม่ต้องการให้ไท่ช่างหวงมีชีวิตอยู่จะเป็นอย่างไรถ้าสะเดาะเคราะห์จนสามารถต่อพระชนมพรรษาได้จริงๆ?ฮ่องเต้ตวาดทันที “ไร้สาระ! เจ้าที่เป็นถึงบุตรธิดาคนโตของอัครเสนาบดี สะเดาะเคราะห์อะไรกัน?”ไท่เฮาอดไม่ได้ที่จะทอดพระเนตรพระองค์ไม่สิ ฮ่องเต้จะทรงคัดค้านอย่างแข็งขันทำไมกัน?“ไสหัวไปให้พ้น!”จิ้นอ๋องระงับความโกรธของเขา ไท่ซ่างหวงประชวรหนักเยี่ยงนี้ คนเหล่านี้ยังกล้ามาพูดพล่อยๆ ที่นี่อีก!“อาเยว่ นาง... นาง...” ไท่ช่างหวงยื่นพระหัตถ์ที่สั่นเทาของพระองค์ออก ชี้ไปที่เสิ่นเซียงจวิ้นด้วยความยากลำบาก “สวรรค์บันดาล...”เพียงครึ่งประโยคดังกล่าว กลับทำให้เสิ่นเซียงจวิ้นเบิกบานใจ ไท่ช่างหวงคือมีพระประสงค์ให้จิ้นอ๋องแต่งงานกับนาง!“ไท่ซ่างหวงจะทรงมีพระชนมายุยืนยาวอย่างแน่นอนเพคะ”เสิ่นเซียงจวิ้นรู้ว่าในเวลานี้ยิ่งตัวนางสงบนิ่งไม่หวั่นไหวมากเพียงใด จิ้นอ๋องมีความกตัญญูต่อไท่ช่างหวง ขอเพียงเป็นพระดำรัสของไท่ซ่างหวง เขาจะต้องเชื่อฟังอย่างแน่นอนนางวางมือบนขอบเตียงด้วยความศรัทธาอย่างยิ่ง ก้มศีรษะลงคำนับบนหลังมือในขณะนี้ นางหว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 100

    ลู่เจาอวิ๋นถูกพวกนางเยาะเย้ยจนหน้าแดง เบ้าตาก็เริ่มแดงแล้วฐานะของคนเหล่านี้ล้วนสูงกว่านาง และดูถูกนางมาโดยตลอด ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางเอาอกเอาใจท่านหญิงฉางหนิงกับเหอเหลียนซิน พวกนางล้วนไม่พอใจนางทั้งๆ ที่นางงดงามกว่าพวกนาง ความสามารถก็เหนือกว่าพวกนาง ชื่อเสียงก็ดีกว่าพวกนาง พวกนางกลับไม่ยอมดีกับนางล้วนเป็นผู้หญิงขึ้ริษยา!แต่ลู่เจาอวิ๋นก็ตีหน้าเศร้าเก่งต่อหน้าคนนอกนางสูดจมูกดังฟืด การแสดงออกบนใบหน้าทั้งน้อยใจและรู้สึกผิด โค้งคำนับพวกนางทีหนึ่ง“เจาอวิ๋นขออภัยทุกท่าน ณ ที่นี้ เพราะน้องหญิงคนนี้ของข้าเพิ่งกลับจากบ้านนอกจริงๆ ท่านพ่อท่านแม่อยากให้นางได้พบกับคุณหนูทุกท่านด้วยความรักและความตั้งใจ เพื่อที่นางจะได้เรียนรู้เรื่องมารยาทและทางโลกบ้าง ข้าจึงพานางมาด้วย”“แต่ข้าก็กลัวดูแลไม่ทั่วถึง จนปล่อยนางไปล่วงเกินทุกท่าน ดังนั้นจึงพาเจาหัวมาด้วยอีกคน ข้าคิดไม่ถึงว่านิสัยของนางจะเถื่อนเช่นนี้ กลับไปข้าจะรายงานท่านพ่อท่านแม่ ให้ท่านพ่อท่านแม่สั่งสอนให้ดีแน่นอน เจาอวิ๋นขอโทษทุกท่านอีกครั้ง”นางลดตัวเช่นนี้ และยังพูดได้ค่อนข้างจริงใจ ประกอบกับไม่ได้ล่วงเกินพวกนาง ต่อไปยังไม่รู้ว่าเหอเหลี

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 99

    เหอเหลียนซินเคยเจอสตรีที่ใจกล้าเช่นนี้และยังอวดดีกว่านางเสียเมื่อไร?ในสมองนางเต็มไปด้วยคำพูดเมื่อครู่ของนางนางถูกฮ่องเต้รับแล้วสกุลเหอสูงส่งกว่าราชวงศ์เหอเหลียนซินรู้แล้ว ถ้าหากคำพูดสองประโยคนี้ถูกเผยแพร่ออกไป นางเสียหน้าไม่ว่า พ่อนางต้องลงโทษนางคุกเข่าในศาลบรรพชนแน่!นางโมโหจนร่างกายสั่น พลันเลือดพลุ่งพล่าน ภาพตรงหน้ามืดดับ เป็นลมไปแล้ว“พี่เหอ!”เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ควงแขนของนางไว้ จึงรีบพยุงนางขึ้นอย่างตื่นตระหนกเด็กรับใช้ทั้งสองของสกุลเหอเพิ่งหายตาลาย ก็มองเห็นคุณหนูของพวกนางเป็นลม จึงรีบเข้าไปพยุงเหอเหลียนซินโดยไม่มีเวลาสนใจลู่เจาหลิงแล้วกู้ฉิงเบิกตากว้าง ฝ่ามือมีเหงื่อเล็กน้อย นางมองไปทางลู่เจาหลิงมีคนตะโกนสิ่งที่นางคิดในใจออกมา…“นางยั่วคุณหนูเหอโมโหจนเป็นลมไปแล้ว!”ลู่เจาหลิงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนางถอนใจเบาๆ กล่าวชัดถ้อยชัดคำ “โทษข้าไม่ได้นะ คุณหนูเหอท่านนี้มีไฟในตับ ความชื้นหนัก มีอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย วู่วามได้ง่าย อีกทั้งวันนี้หน้าผากนางหมองคล้ำ เห็นได้ชัดว่าตอนออกจากบ้านไปติดไออัปมงคลมา เดิมทีวันนี้ก็จะดวงซวยอยู่แล้ว”ปากที่เพิ่งหุบลงของทุกคน อ้ากว้า

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 98

    เดิมทีพ่อก็เป็นรองเสนาบดีกรมกลาโหม ได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้ ประกอบกับมีการแต่งงานนี้ เป็นการรวมกันของผู้มีอิทธิพลชัดๆในมุมมองของเหอเหลียนซิน แม้แต่ท่านหญิงฉางหนิงก็ต้องให้เกียรตินางสามส่วน นับประสาอะไรกับกู้ฉิงที่อยู่ตรงหน้า?“คุณหนูเหอ เกิดอะไรขึ้น?” มีคนก้าวออกมาอยากเป็นคนกลาง “เมื่อครู่ท่านหญิงกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแล้ว ถ้าหากนางออกมาพบว่าวุ่นวายเช่นนี้…”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายยกเอาท่านหญิงฉางหนิงมาพูด ในที่สุดเหอเหลียนซินก็ไม่ได้หาเรื่องกู้ฉิงอีกนางถลึงตาใส่ลู่เจาหัวแวบหนึ่ง ปล่อยนางไปก่อนชั่วคราว อย่างไรเสียคนที่นางรังเกียจที่สุดในตอนนี้คือลู่เจาหลิง!นางเรียกเด็กรับใช้ทั้งสองของตัวเอง “พวกเจ้าไป ให้นางมาคุกเข่าขอโทษข้า!”“เจ้าค่ะ!”เด็กรับใช้ทั้งสองของนางพุ่งพรวดเข้าไปหาลู่เจาหลิงทันทีลู่เจาหัวอุทานอย่างขี้ขลาดทีหนึ่ง และกล่าวเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง “พี่หญิงรอง ท่านรีบหนีไป”ลู่เจาอวิ๋นรีบคว้ามือของเหอเหลียนซิน แสร้งห้ามปราม “พี่เหอ ท่านอย่าไปถือสานางเลย…” แต่ก็ไม่เห็นนางไปห้ามเด็กรับใช้สองคนนั้นแม้คนอื่นก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่อวดดีของเหอเหลียนซิน แต่พวกนางไม่รู้จักลู่

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 97

    พวกลู่เจาหลิงไม่ถือว่ามาเร็วตอนนี้ในสวนมีคนไม่น้อยแล้วช่วงนี้เป็นปลายฤดูใบไม้ผลิ ไม่ร้อน เย็นสบาย สวนของจวนท่านหญิงปลูกดอกไม้มากมาย บานสะพรั่งสีสันงดงามแต่ตอนนี้ บนพุ่มดอกไม้ถูกประดับด้วยดอกผ้าไหมที่ผูกจากผ้าขาว  และต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ มีผ้าโปร่งสีขาวห้อยอยู่ ลอยไปตามสายลมเบาๆสีขาวเหล่านี้ บดบังความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งเหล่านี้ นี่น่าจะเป็นเจตนาของท่านหญิงฉางหนิง อย่างไรเสีย ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ตรงพื้นที่โล่งกลางสวน มีโต๊ะยาวหลายตัวแบ่งตั้งเป็นสองฝั่ง บนโต๊ะมีพู่กัน น้ำหมึก และกระดาษวางอยู่ถัดจากต้นกล้วยหลายพุ่ม มีศาลาหนึ่งหลัง บนโต๊ะในศาลามีน้ำชาและผลไม้วางอยู่พื้นที่นี้มีเงาจากภูเขาจำลองและต้นไม้ที่อยู่ข้างหน้าสะท้อนลงมาพอดี แต่ยังพอมีช่องว่างให้แสงแดดเล็ดลอดเข้ามาอยู่บ้าง แสงสว่างเพียงพอ และไม่เย็นเกินไปข้างภูเขาจำลองมีถนนเล็กๆ หนึ่งเส้น เดินไปมีบ่อน้ำเล็กๆ ตอนนี้บนผิวของบ่อน้ำมีใบบัวที่เพิ่งงอกออกมาอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีกิ่งก้านของดอกยื่นโผล่พ้นผิวน้ำเหล่าคุณหนูที่มาถึงก่อน จับกลุ่มกันตรงนี้สามตรงนั้นสอง มีคนกำลังชมดอกไม้ มีคนกำลังดื่มชา มีคนกำลังอ่านหนังส

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 96

    ลู่เจาหลิงไม่ทน หันไปพูดกับลู่เจาอวิ๋นอย่างเย็นชา “ลู่เจาอวิ๋น ถ้าไม่เข้าไปข้าจะไปแล้วนะ”“มาแล้ว” เดิมทีลู่เจาอวิ๋นก็ค่อยสังเกตการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่แล้ว เมื่อเห็นพวกนางสองคนถูกเด็กรับใช้ขวางไว้ นางยิ้มในใจ แต่เมื่อได้ยินว่าลู่เจาหลิงจะไปนางก็รีบมาทันที จะปล่อยให้ลู่เจาหลิงไปได้อย่างไร?“พี่เหอ นี่คือเจาหลิงน้องรองของข้า”นางควงแขนของเหอเหลียนซินไว้ พลางหันไปกล่าวกับลู่เจาหลิง “น้องรอง รีบเรียกพี่เหอเร็ว”เหอเหลียนซินมองไปทางลู่เจาหลิง สายตาเย็นชาเล็กน้อย“ข้าไม่กล้าให้ว่าที่พระชายาจิ้นอ๋องเรียกพี่หรอก”จิ้นอ๋องกลับเมืองหลวง ได้รับพระราชทานสมรส อีกฝ่ายเป็นเด็กบ้านนอกที่ถูกรับกลับมาจากชนบทข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้วทุกคนต่างตกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อ ขณะเดียวกันก็อยากรู้มาก คุณหนูรองกู้เป็นคนอย่างไร โชคอะไรหล่นทับกันแน่ จึงได้รับความสนใจจากจิ้นอ๋องเหอเหลียนซินก็อยากรู้มากเช่นกันและตอนนี้นางได้เจอลู่เจาหลิงแล้ว หน้าตาเหมือนนางจิ้งจอกอย่างที่คิด เอาเป็นว่านางเห็นแล้วก็รังเกียจเลยลู่เจาเหลียงย่อมมองเจตนาร้ายที่เหอเหลียนซินมีต่อตัวเองออกนางก็ตอบกลับไปอย่างเร

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 95

    ชิวจวี๋ประคองลู่เจาอวิ๋นลงรถม้า ไม่ได้สนใจลู่เจาหัวกับลู่เจาหลิงอีกเลยหลังจากลู่เจาหัวลงรถม้า นางคิดแล้วคิดอีก ยื่นมือไปหาลู่เจาหลิง “พี่หญิงรอง ข้าประคองท่าน”“ไม่ต้อง”ลู่เจาหลิงกลับเลี่ยงผ่านมือของนาง ลงจากรถม้าเองลู่เจาหัวทำท่าเสียใจเล็กน้อย หลุบตาปกปิดสายตา“เจาอวิ๋น”มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากข้างหน้า แค่ฟังจากเสียงก็เต็มไปด้วยความมั่นใจลู่เจาอวิ๋นประหลาดใจมาก รีบเดินเข้าไปหา“พี่เหอ!”ลู่เจาหัวเห็นผู้มา สีหน้ากลับเปลี่ยนไป ร่างกายสั่นเล็กน้อย นางลืมไปได้อย่างไร ในโอกาสเช่นนี้ เหอเหลียนซินก็มาเช่นกันลู่เจาหลิงเหลือบมองนางแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดอะไรนางมองไปทางผู้มาเห็นรถม้าของอีกฝ่ายก่อน รถม้าคันนั้นดูหรูหรากว่าของสกุลลู่มาก สตรีที่กำลังทักทายลู่เจาอวิ๋นอย่างอย่างสนิทสนม อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด ใบหน้าทรงไข่ห่าน คางแหลม หน้าตาค่อนข้างงามเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ การแต่งกายของนางก็เรียบๆ เช่นกัน สีขาวทั้งชุด มีเพียงปิ่นหยกกับดอกไม้ผ้าเล็กๆ ที่ประณีตไม่กี่ชิ้น สง่างามดั่งดอกบัวที่บริสุทธิ์นางพาเด็กรับใช้มาด้วยสองคน เสื้อของเด็กรับใช้เป็นสีขาวมีกิ่งดอกไม้สีน้ำตาลเล

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 94

    นางข่มความโกรธ “น้องหญิงรองหยุดได้แล้ว นี่เป็นถุงหอมที่ผู้อื่นมอบให้ข้า มันมีค่ามาก เครื่องหอมที่อยู่ข้างในก็หาซื้อตามข้างนอกไม่ได้”เครื่องหอมที่อยู่ข้างใน ท่านหญิงฉางหนิงเป็นคนให้นาง เป็นของขวัญที่ทูตต่างแดนนำมาถวายให้ท่านหญิงและองค์หญิงต่างๆ ในวังลู่เจาอวิ๋นได้เครื่องหอมมาแค่นี้ นางก็ภาคภูมิใจมาก ปกติแทบไม่เอาออกมาใช้ ในโอกาสอย่างวันนี้จึงจะยอมนำออกมาใช้ ลู่เจาหลิงกลับให้นางทิ้ง?“กลิ่นเหม็นมาก”ลู่เจาอวิ๋นอดกลั้นความโกรธ และยังคงฝืนยิ้ม คิดใจปลอบนาง “คนทั่วไปอาจจะไม่ชินกับกลิ่นเช่นนี้จริงๆ แต่นี่เป็นเครื่องบรรณาการจากทูตต่างแดน เป็นเครื่องหอมที่มีราคาแพงและหรูหรามาก น้องหญิงรอง ในเมื่อเจ้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว เจ้าต้องพยายามปรับรสนิยมให้สูงขึ้น จะชอบแต่พวกเครื่องหอมคุณภาพต่ำไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะถูกหัวเราะเยาะ”“ไร้สาระ”พลันลู่เจาหลิงยื่นมือออกไป กระชากถุงหอมบนกายนางลงมาฉับพลัน เลิกม่านรถก็โยนมันไปที่ข้างคนขับ“ไว้ตรงนั้นก่อน อีกเดี๋ยวเจ้าจะห้อยค่อยห้อย”นางทนไม่ไหวแน่ ถ้าต้องทนดมอยู่ในรถม้าที่แคบเล็กเช่นนี้ตลอดอีกทั้งเกรงว่าส่วนผสมของเครื่องหอมเหล่านี้ค่อนข้างแปลก มีผงกระดู

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 93

    ชิงเป่าร้อนใจแล้ว“พวกเราต้องตามคุณหนูไป คุณหนูของพวกเรายังบาดเจ็บอยู่!”ก่อนหน้านี้พวกนางเคยได้ยินท่านหมอฝู่กล่าว คุณหนูได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ที่จริงนับว่าอันตรายถึงชีวิต แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางยังสามารถรอดมาได้ชิงเป่าชิงอินก็เป็นคนฝึกยุทธ์เช่นกัน และเคยเห็นบาดแผลของลู่เจาอิง ย่อมรู้ว่าบาดแผลนั่นสาหัสเพียงใด“ข้าอยากพาเจ้าไปด้วยจริงๆ แต่รถม้าไม่พอนั่งแล้ว” ลู่เจาอวิ๋นก็หมดหนทาง นางกล่าวเหมือนเยาะเย้ยตัวเอง “ไม่ใช่ข้าหาเรื่องพวกเจ้า แต่รถม้าจวนเรามันไม่ใหญ่”ชิงเป่ากล่าวทันที “พวกเราเดินไปก็ได้”พวกนางสามารถใช้วิชาตัวเบา“พวกเจ้ามาจากจวนจิ้นอ๋อง น่าจะรู้จักท่านหญิงฉางหนิง ดังนั้นก็น่าจะรู้ว่าจวนท่านหญิงอยู่ที่ไหน ห่างจากที่นี่ไกลมาก ถ้าหากพวกเจ้าเดิน อย่างน้อยก็ต้องเดินครึ่งชั่วยาม”ลู่เจาอวิ๋นกล่าว “ถึงเวลาพวกเจ้ากับน้องหญิงรองไม่ได้เข้าจวนพร้อมกัน ผู้อื่นก็จะหัวเราะเยาะเช่นกัน”เช่นนั้นไม่เท่ากับทำให้ผู้อื่นรู้ว่า รถม้าของสกุลลู่เล็กมาก แม้แต่สาวใช้ก็ไม่พอเบียดหรือ?ชิงอินใจเย็นกว่า คิดวิธีที่เหมาะสมกว่าออก “พวกเราไปเช่ารถม้าไป”“รอพวกเจ้าหารถม้าได้มันก็ไม่ทันแล้ว แต่ว่าถ

  • ท่านอ๋องผู้ทรงบุญญากับพระชายาจอมเวท   บทที่ 92

    เที่ยวนี้เขาได้เห็นความสามารถของลู่เจาหลิงอีกครั้งชิงอินกอดกล่องในอ้อมแขนไว้ ยังรู้สึกเหมือนนี่ไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย ออกจากจวนเที่ยวเดียว คุณหนูก็หาเงินได้อีกห้าพันตำลึงแล้ว ห้าพันตำลึงเลยนะ!สกุลลู่นำเงินออกมาสามร้อยตำลึง ก็ปวดใจเหมือนถูกเฉือนเนื้อ พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไร คุณหนูอาศัยความสามารถของตัวเอง ก็สามารถหาเงินได้ห้าพันตำลึงแล้วนอกจากนี้ยังมีจี้หยกหนึ่งชิ้นกับโสมหนึ่งต้นด้วย แค่ของเหล่านี้ก็มีค่าหลายร้อยตำลึงตกลงสุกุลลู่รู้หรือไม่ว่าคุณหนูเป็นสมบัติลับอย่างไรครั้งนี้ชิงเป่าไม่ได้ตามออกมาด้วย แต่เฝ้าอยู่ที่หอทิงหน่วน นางดูจากเวลา ได้ไปนำอาหารเย็นกลับมาแล้ว ลู่เจาหลิงกลับมาก็ได้กินข้าวเลย“ชิงเป่าคำนวณเวลาได้พอดีเป๊ะ” นางชมไปประโยคหนึ่ง หลังจากนั้นกล่าว “ให้พวกเจ้าคนละห้าตำลึง กลับไปซื้อของที่ตัวเองชอบกิน”ให้เงินพวกนางอีกแล้ว!ชิงเป่าเบิกตากว้าง มองไปทางชิงอินด้วยสายตาตั้งคำถามชิงอินเงียบ แต่เปิดกล่องเหล่านั้นให้นางดู“คุณหนูเก่งจัง…” แม้แต่เสียงตกใจของชิงเป่าก็ลอยเล็กน้อยลู่เจาหลิงยิ้มแล้วยิ้มอีก “พอแล้ว กินข้าวเถอะ”หลังกินข้าว อาบน้ำเสร็จ นางก็กลับมาท

DMCA.com Protection Status