Home / โรแมนติก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 33

Share

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 33

Author: Dogsmilea
last update Last Updated: 2025-01-08 03:14:20

ภายในห้องทำงานสีขาวสว่างเจิดจ้าทั่วห้องแตกต่างจากภายนอกที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็วถึงแม้เพิ่งจะเป็นเวลา 17 นาฬิกาก็ตาม เสียงลมของเครื่องปรับอากาศดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอท่ามกลางความเงียบ ถึงแม้บรรยากาศภายนอกจะเริ่มเย็นแล้วก็ตามแต่ภายในห้องยงคงเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เจษฎายังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องเงียบสงบ คล้อยหลังจากคิณณ์และลัลน์เดินจูงมือกันออกไปทุกคนต่างเลิกงานกลับบ้านกันไปด้วย เหลือเพียงแต่เขาที่ยังคงนั่งจัดการเอกสารคนเดียว

 ชายหนุ่มคนเดียวในห้องถอดถอนหายใจเบา ๆก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าคมคายทว่าหล่อเหลาอย่างสุภาพคนละสไตล์กับคิณณ์ละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วจะเงยหน้ามองเพดานพลางปล่อยความคิดล่องลอยออกไป มือซ้ายเอื้อมหยิบแก้วกาแฟที่บัดนี้เหลือเพียงก้นแก้วขึ้นมาแต่ต้องพบว่ากาแฟนั้นเย็นชืดเสียสนิทจนเขาไม่อาจดื่มได้เสียแล้ว

ดวงตาคมเหลือบมองโทรศัพท์บนโต๊ะที่ไม่มีแม้แต่ข้อความหรือสายเรียกเข้าจากใคร ริมฝีปากหยักหนาคลี่ยิ้มจาง ๆ ด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยเป็นพิเศษความเหนื่อยล้าที่สะสมมาดูเหมือนจะรุมเร้าแสดงอาการในวันนี้แต่ไม่เท่ากับความเจ็บปวดในใจที่แล่นเข้ามายามจิตใจอ่อนล้า ทว่าเสียงเคาะประตูเบา ๆดังขึ้นขัดจังหวะความคิดเขาที่ตอนนี้เตลิดไปไกล สายตาจับจ้องไปยังประตูหัวคิ้วขมวดเป็นปมอย่างอย่างแปลกใจว่าเวลานี้ใครจะมาหาเขาได้

"เชิญครับ" เสียงทุ้มเพิ่มเสียงเชื้อเชิญให้บุคคลภายนอกเข้ามา เมื่อประตูค่อย ๆ เปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าหวานที่ถึงแม้จะซีดเซียวก็ยังคงเห็นความงดงามบนใบหน้าอ่อนเยาว์ที่มิได้แต่งแต้มเครื่องสำอางหรือจะแต่งแต่ลบเลือนไปกับหยาดน้ำตาหรือเปล่านั้นเขาเองก็ไม่แน่ใจ ขอบตาแดงก่ำของเธอทำให้รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ก่อนหน้าจะมาพบเขาเธอคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก

“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับ?” เขาถามพลางมองไปยังเธอที่ดูเหมือนกำลังลังเลใจอะไรบางอย่าง 

เจษฎาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวในชุดนักศึกษาใส่กระโปรงพลีทยาวกอมเท้าเดินตรงเข้ามาหาเขา ร่างบางที่ผอมเพียวสูงกว่ามาตรฐานหญิงไทยเล็กน้อยแต่ก็ยังคงเตี้ยกว่าเขามากอยู่ดี ผิวขาวเนียนละเอียดเปล่งประกายล้อแสงไฟราวกับมีแสงสว่างในตัวเอง พวงแก้มใสถึงแม้จะดูซีดเซียวก็ยังคงเจือระเรื่อสีชมพูทำให้เจษฎาจดจ้องหญิงสาวแปลกหน้าตรงหน้าคนนี้มันเสป็คเขาเลยนี่หน่า!

“ขอโทษนะคะ ลัลน์กลับหอไปรึยังคะ?” เสียงหวานนุ่มของเธอดังขึ้นเอ่ยถามอย่างมีมารยาท

“กลับไปแล้วครับ หนูมีธุระอะไรกับลัลน์หรือเปล่าครับ?” เจษฎาลุกจากเก้าอี้ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ทว่าภายในใจกลับเต้นรัวราวกับหนุ่มน้อยพบเจอรักครั้งแรก

 “ไม่มีอะไรค่ะ แค่หนูเป็นเพื่อนกับลัลน์ แล้วเห็นลัลน์ไม่ตอบข้อความในกลุ่มเลยคิดว่ายังทำงานอยู่ค่ะ” เธอเอ่ยตอบหัวหน้าสำนักงานของลัลน์แต่เธอก็รู้สึกแปลกที่เขาจดจ้องเธอราวกับจับผิดเธออย่างไรอย่างนั้น

“อืม กลับไปกับท่านคิณณ์แล้ว พี่ก็ไม่รู้ว่ากลับหอพักใครกันแน่” ชายหนุ่มถือวิสาสะแทนตัวเองว่าพี่ไปในตัวเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนตาโตตรงหน้าเขานี้เป็นเพื่อนของลัลน์

“ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อยอย่างมีมารยาท เธอไม่อยากสาวความให้มากนักเพราะในตอนนี้เธอเองก็กำลังหมดแรงที่จะต้องปั้นหน้ายิ้มเช่นเดียวกัน

เจษฎายืนมองร่างบางหันหลังเดินจากไปอย่างเหม่อลอยใจเขาอยากเอ่ยปากถามเธอเป็นอย่างมากว่าเป็นอะไรไหม แต่เขากับเธอพึ่งจะรู้จักกันเขาจึงไม่อาจถามเธอได้ ท่าทีน่าสงสารของเธอนั้นพาให้ใจเขาสงสารเธอเป็นยิ่งนัก สุดท้ายแล้วหญิงสาวได้เดินจากไปโดยที่คำพูดของเขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยอย่างใจหวังสักคำ แม้แต่ชื่อของเธอเขาไม่อาจรู้ได้ ทิ้งไว้แต่กลิ่นน้ำหอมอ่อนจางๆในอากาศทำให้เขาตระหนักได้ว่าเรื่องราวเมื่อสักครู่ไม่ใช่ความฝัน  เจษฎาเผลอยิ้มกับตัวเองเขาถูกใจเธอก็จริงแต่ในเมื่อเธออายุห่างกับเขาเกือบรอบเขาก็ทำใจกินเด็กน้อยไม่ลงคงได้แต่ตัดใจจากหญิงสาวเพราะเขาไม่อยากกลืนน้ำลายตัวเองเหมือนไอ้คิณณ์!

 

“ฟังจากอาการของคนไข้แล้วหมอคาดว่าน่าจะเป็นข้อต่อกรามอักเสบนะคะ ยังไงคนไข้ทานยาตามที่หมอจัดไว้ให้ ส่วนเรื่องการกินช่วงนี้ขอให้หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องใช้แรงในการขบเคี้ยวหรือหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ชิ้นใหญ่เกินไปนะคะ” หมอศัลยกรรมวัยใกล้เกษียณเอ่ยอธิบายอาการและข้อควรระวังสำหรับคนไข้สาว

“ครับ ขอบคุณมากครับคุณหมอ” ทว่าเสียงที่ตอบรับบกลับเป็นชายหนุ่มที่มาด้วยกันกับหญิงสาวที่ในตอนนี้ไม่พูดจาอะไรนอกเสียจากก้มหน้างุด ถ้าหากสังเกตดีๆแล้วจะพบว่าแก้มของเธอแดงระเรื่อจากความเขินไปอายไปทั่วทั้งใบหน้านวล

“ผู้ชายน่ารักดีนะคะ ประคองแฟนไม่ห่างเลย” พยาบาลสาวเอ่ยกับหมอศัลยกรรมอย่างกระดี๊กระด๊าเมื่อคิณณ์ประคองลัลน์ออกจากห้องตรวจไปเพื่อรับยา

“อืมจะน่ารักกว่านี้ถ้าอาการป่วยไม่ได้เกิดจากผู้ชาย” หญิงสูงวัยถึงกับบ่นพึมพึมพำเมื่อรู้ถึงสาเหตุของการเป็นข้อต่อกรามอักเสบของคนไข้สาวราวเมื่อสักครู่ได้

“ยังไงคะคุณหมอ น้องคนนี้มีอาการอะไรคะ” ถึงแม้คุณหมอจะพูดเสียงเบาพึมพำกับตัวเองก็ตามแต่พยาบาลสาวหน้าห้องก็ยังคงได้ยินชัดเจนจึงสอดปากถามถึงอาการของหญิงสาว

“ไปทำงานได้แล้วค่ะคุณนพลักษ์ เรื่องของคนไข้เราไม่อาจเผยแพร่ได้ค่ะ” คุณหมอผู้มากประสบการณ์ต้องเอ่ยปรามพยาบาลสาวไม่ให้ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของไข้เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถพูดคุยกันเป็นการภายนอกได้

 

รถสีดำคันงามกำลังเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนอย่างเงียบเชียบ แสงไฟสีเหลืองส่องแสงตลอดทาง ไฟเบรกรถสีแดงที่กำลังจอดเรียงรายไม่อาจขับเคลื่อนได้เพราะเป็นเวลาเลิกงาน บรรยากาศภายในเงียบกริบความรู้สึกระหว่างคนสองคนแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ลัลน์นั่งหน้าบึ้งกอดอก หันหน้ามองออกไปนอกกระจกอย่างไม่คิดจะปริปากพูดอะไรกับคนขับรถที่นั่งอยู่ข้าง ๆ แต่อีกคนนั้นกำลังยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดีกับท่าทางของเธอ

“หนูเงียบทำไมคะคนดีหรือเจ็บกรามจนอ้าปากพูดไม่ไหว” สารถีกิตติมศักดิ์ถามอย่างเป็นห่วงคนตัวเล็กข้างกาย ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเธอก็ไม่พูดไม่จาทำหน้าบึ้งใส่เขาตลอดทางถึงแม้ว่าเขาจะรู้เถอะว่าหญิงสาวงอนเขาเรื่องใด

ลัลน์ตวัดสายตามองคนตัวโตที่ยังไม่สำนึกในการกระทำ ที่เธอต้องมาเจ็บกรามอยู่ก็เพราะใครล่ะนอกเสียจากพ่อตัวดีที่ทำหน้าที่ขับรถอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว คาดว่าคุณหมอน่าจะสามารถคาดการณ์ถึงสาเหตุของเธอได้คุณหมอจึงไม่คาดคั้นคำตอบจากเธอ ก่อนจะกอดอกพ่นลมหายใจไม่ตอบรับคำถามใดๆของเขา เห็นใบหน้าหล่อที่ยังคงยิ้มระรื่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างช่วยไม่ได้จนต้องหันหน้าหนีมองข้างทางไป

“หนูคุยกับพี่หน่อยสิคะ ถ้าไม่ตอบพี่จับกินบนรถนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังสายตามั่นคงยืนยันว่าหากหญิงสาวไม่ตอบเขาจะทำดังเช่นที่เขาพูดแน่ แต่ก็คงต้องให้ถึงห้องเสียก่อนเขาถึงจะจัดการได้

“นี่พี่ยังจะหื่นได้ลงอีกหรือคะ พี่ทำให้หนูขายหน้านี้แล้วยังมาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนใส่หนูอีก” เสียงประชดประชันดังขึ้นตอบคนหื่นข้างกาย แต่ไม่ยอมหันหน้ากลับไปมองชายหนุ่มแม้แต่นิดเดียว ใบหน้างดงามซึ่งปกติเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าแต่ทว่าตอนนี้กลับหงิกงอจนน่าหยิกแก้มนวล

“ค่าบบ ขอโทษครับคนดีพี่มันผิดเองให้อภัยให้พี่นะคะ” เสียงทุ้มเอ่ยเหมือนสำนึกผิด แต่เมื่อหางเสียงสั่นเครือราวกับกลั้นขำซึ่งสวนทางกับรูปประโยคของตนเองโดยสิ้นเชิง แววตากลับเต็มไปด้วยความขบขันอย่างเห็นได้ชัด มือหนาโยกศีรษะคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู

“ไม่ต้องมาแตะเนื้อต้องตัวหนูเลยนะคะ อ๊ะ” ลัลน์หันขวับกลับมามองชายหนุ่ม ดวงตากลมโตลุกวาว มือบางอกแรงขืนคนตัวโตไม่ให้แตะเนื้อร่างกายของตนอย่างแง่งอน ก่อนจะอุทานอย่างตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมอะไรบางอย่าง

“หืม มีอะไรหรือเปล่าคะ” เมื่อได้ยินคนข้างกายร้องอย่างตกใจจนเขานึกว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรไป

“หนูลืมตอบข้อความหนูนาไปเลยเวลาผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วด้วย” กล่าวจบรีบควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากดเบอร์โทรหาเพื่อนสาวในทันที

“ว่ายังไงจ๊ะลัลน์ พอมีผัวนี่ลืมเพื่อนลืมฝูงไปตอบข้อความกันแล้วนะ” ปลายสายเอ่ยอย่างกระแนะกระแหนเพื่อนสาวที่ตอนนี้กลายเป็นคนติดผู้ชายเสียแล้ว

“ใครผัวไม่มีนะ หนูนาก็พูดไปเรื่อย” ใบหน้าหวานที่ในตอนนี้แก้มบวมตุ่ยไปข้างปรากฏรอยแดงระเรื่อสองข้างแก้ม สายตาเหลือบมองบุคคลต้นเรื่องของการสนทนานี้ขับรถพลางส่งสายตาเขียวปั๊ดเมื่อเธอบอกว่าไม่มีผัว

“แหมๆ แล้วแม่คุณกลับกับใครล่ะคะ ลุงข้างบ้านอย่างงั้นเหรอ” เสียงหนูนาดังขึ้นมาจนคิณณ์ได้ยินเสียงของเธอแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก

“พี่เขาก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย” ลัลน์อดแก้ต่างให้ผู้ชายของเธอไม่ได้ ถึงแม้เธอและเขาจะห่างกันเกือบรอบก็ตาม แต่ทว่าเขาก็พึ่งจะอายุ 31 ปีด้วยซ้ำหน้าตาก็หล่อเหลาคมคายดูเหมือนยี่สิบปลายๆด้วยซ้ำ ไม่เหมือนกับเธอที่อายุ 21 ย่าง 22 ที่หน้าดูเหมือนเป็นเพื่อนเขาไปเสียแล้ว

“แตะไม่ได้เลยเชียวผู้ชายคนนี้อ่ะ” เสียงค่อนขอดปลายสายดังไม่หยุดราวกับหมั่นไส้เหม็นกลิ่นความรักที่อบอวลลอยตามสายมาถึงเธอ

“มัวแต่แซวคนอื่นว่าแต่หนูนาเถอะเป็นอะไรหรือเปล่าถึงส่งข้อความมาแปลกๆ” ลัลน์เอ่ยถาม ขณะวางศอกบนที่พักแขนรถ ดวงตากลมโตยังจ้องหน้าจอโทรศัพท์น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย

“เปล่าไม่มีอะไรหรอกจะชวนลัลน์ไปกินปิ้งย่างเกาหลีสักหน่อย แต่ได้ข่าวว่าท่านคิณณ์มารับไปแล้ว” น้ำเสียงร่าเริงตามไสตล์หนูนาแทบจะเหมือนเดิม ถ้าหากไม่ตั้งใจฟังดีๆแล้วคงไม่อาจจับผิดสังเกตได้

“งั้นเหรอ ลัลน์ขอโทษหนูนาด้วยนะพอดีแวะไปโรงพยาบาลมา” ลัลน์พึมพำเบา ๆ ก่อนจะรีบเสริมด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด

“อ้าวเป็นไรลัลน์”

“ข้อต่อกรามอักเสบน่ะ แต่ไม่เป็นไรมาก”

“ทีหลังก็เพลาๆบ้าง อย่ารุนแรงให้มากนะ” หนูนาหยุดนิ่งไปชั่วครู่ หรี่ตาเล็กน้อยราวกับประมวลผลคำพูดเพื่อนสาวในหัว ก่อนจะเอ่ยเตือนลัลน์ด้วยคำพูดกำกวมอย่างสื่อความหมาย

“บ้าพูดอะไรน่ะหนูนา!” หญิงสาวรู้สึกหน้าเห่อร้อนเมื่อเพื่อนพูดเหมือนรู้ทัน

“หมายถึงว่าเคี้ยวข้าวให้เบาๆ อย่าไปกินของแข็งของร้อนให้มาก” หนูนาเอ่ยเสริมด้วยน้ำเสียงทะเล้นหัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจ

“เราไม่พูดกับหนูนาแล้ว เชอะ!” ลัลน์ทำหน้ามุ่ยทันที ย่นจมูกเล็กน้อยพลางสะบัดเสียงใส่

“งั้นแค่นี้แหละไม่รบกวนเวลาสวีทล่ะ” หนูนายังไม่แคล้วแซวเพื่อนจนนาทีสุดท้าย

“หนูนา” ลัลน์เงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยเสียงจริงจังออกมา

“หือ?”

“มีอะไรโทรมาหาลัลน์ได้เสมอนะ อย่าเก็บไว้คนเดียวลัลน์อยู่เคียงข้างหนูนาเสมอนะ” น้ำเสียงอ่อนโยนความจริงใจในคำพูดนั้นส่งผ่านมาถึงปลายสายอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“อื้อ พูดอะไรแปลกๆ แค่นี้แหละไปแล้วนะบาย อย่าไปกินของใหญ่ให้มากนะ” เธอหัวเราะแห้ง ๆ คลายบรรยากาศที่เริ่มหนักอึ้ง ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องหยอกเพื่อนสาวทิ้งท้ายแล้วรีบตัดสายไปก่อนทีเธอจะหูชา

ลัลน์วางโทรศัพท์ลงบนตัก ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ แต่ทว่าในใจกลับว้าวุ่นกับน้ำเสียงของหนูนาก่อนวางสายแฝงบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

‘หนูนาคงไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมหรือเราคิดมากไปเอง?’ เธอถอนหายใจเบา ๆ แต่ความกังวลยังคงติดอยู่ในใจ แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่คำพูดที่เพื่อนสนิททิ้งท้ายยังคงดังก้องอยู่ในหัวหวังว่าหนูนาคงไม่เป็นอะไร ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นเธอก็พร้อมอยู่เคียงข้างเพื่อนคนนี้เสมอดังเช่นที่หนูนาอยู่เป็นเพื่อนเธอ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 34

    ชายหนุ่มเหลือบมองเห็นปลายสายวางโทรศัพท์คนตัวเล็กของเขากลับนิ่งเงียบทำสีหน้าไม่สู้ดีนัก ยิ่งสายตากลมโตของเธอเหม่อลอยไปตามท้องถนนฉายชัดถึงความกังวลใจจนเขาอดเป็นห่วงไม่ได้“มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือรู้สึกไม่ดีที่ผิดนัดกับเพื่อน” คิณณ์เอ่ยปากถามไถ่หญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“เสียงของหนูนาดูไม่ค่อยดีเลยค่ะ ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร” น้ำเสียงของเธอแฝงความกังวลอย่างปิดไม่มิด ถึงแม้หนูนาจะพยายามปกปิดอย่างไรคนเป็นเพื่อนแบบเธอก็อดกังวลไม่ได้จริงๆ“หนูโทรหาเพื่อนไปคุยให้เคลียร์ดีไหมคะ” ตาคมเหลือบมองหญิงสาวข้างกายพร้อมเอ่ยให้คำแนะนำ ก่อนละสายตากลับมาที่ถนน“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ให้หนูนาอยู่กับตัวเองไปก่อนถ้ายังไม่ดีขึ้นไว้หนูจะไปนอนกับหนูนา” “หนูถามพี่รึยังคะ ว่าพี่จะให้ไปไหม” คนแก่กว่ายกยิ้มมุมปาก ประคองพวงมาลัยขับรถอย่างใจเย็น ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งหยอกล้อ“เราเป็นอะไรกันคะถึงต้องขออนุญาตพี่” คนตัวเล็กเอียงคอมองคนตัวโต ตาเปล่งประกายอย่างหยอกเย้าคนข้างกายถึงแม้ในใจจะรู้คำตอบของคำถามแล้วก็ตาม“เป็นเมียพี่ไงคะ” ไม่ว่าเปล่าดึงมือเรียวมากุมไว้ก่อนจะจุมพิตหลังมือขาวนวลเนียน แววตาคมส่งสายตาหาเด็กน้อย

    Last Updated : 2025-01-12
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 35

    ภายใต้แสงไฟสีวอร์มโทนที่ช่วยเติมเต็มความอบอุ่นให้ห้องอาหารที่ยังคงตกแต่งด้วยโทนสีดำซึ่งยังคงเอกลักษณ์ความเย็นชาของคิณณ์ ห้องที่ควรให้บรรยากาศอึมครึมแต่กลับสัมผัสไม่ได้ถึงถึงมืดมนเลยสักนิด กลับกันแล้วอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและกลิ่นอายแห่งความรักที่แผ่ซ่านจากคนทั้งสองบนโต๊ะอาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างเรียบร้อย มีต้มยำทะเลร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ผัดสายบัวที่ดูสดใหม่ ปลาทอดกรอบสีเหลืองทอง แต่อาหารแทบทั้งหมดบนโต๊ะนั้นยังคงวางอยู่อย่างไม่พร่องไปสักนิด เหตุเพราะหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าเขานี้ตักเพียงข้าวต้มถ้วยเล็กที่เขาสั่งเพิ่มมาใหม่เข้าปากเท่านั้น“สั่งมาเยอะแบบนี้พี่จะกินหมดเองหรือเปล่าคะ” หญิงสาวอดจะเย้าแหย่คนตรงหน้ามิได้ เมื่อเห็นอาหารที่ชายหนุ่มตั้งใจสั่งมให้เธอแต่กลับลืมไปเสียว่าเธอนั้นเจ็บกรามจนไม่สามารถทานของต้องใช้กำลังในการขบเคี้ยวได้“พี่ขอโทษค่ะ ตัวเล็กจะอิ่มไหมกินแต่ข้าวต้ม” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างรู้สึกผิดเมื่อคนรักไม่อาจทานของชอบได้“อิ่มสิคะข้าวต้มเยอะขนาดนี้ หนูทายไม่หมดหรอกค่ะ” ถึงแม้ว่าในใจลึกๆ จะอยากลองชิมอาหารอย่างอื่นบ้าง เพราะอาหารที่เรียงรายตรงหน้าล้วนเป็นของโปรดของเธอทั้งสิ้

    Last Updated : 2025-01-17
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำอบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 36 Nc25+

    คิณณ์เลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอโดยยืดตัวเอนพิงขอบอ่างในท่าทางสบายๆ แต่ทว่าการมาของเขาทำให้อ่างน้ำที่เคยกว้างพอสำหรับเธอเพียงคนเดียวกลับเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดถนัดตา น้ำในอ่างพลันเอ่อล้นออกมาทันทีที่ร่างกายสูงใหญ่ของชายหนุ่มแทรกตัวลงไป หญิงสาวนิ่งงันไปชั่วครู่ทำตัวไม่ถูกในสถานการณ์ล่อแหลมนี้ ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยอย่างลังเล แล้วค่อยๆ หดขาเรียวของตัวเองเข้าหากันพร้อมกับกอดเข่าไว้แน่น ราวกับจะสร้างพื้นที่เล็กๆของตัวเองในอ่างน้ำที่ตอนนี้ดูเล็กลงกว่าเดิม เพื่อเปิดทางให้ชายหนุ่มได้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับร่างกายใหญ่โตของเขามากขึ้น แม้ว่าในความเป็นจริง เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้ต้องการพื้นที่สักเท่าไรก็ตามชายหนุ่มเอนตัวอย่างสบายๆ พิงขอบอ่างน้ำ สองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามวางแขนทอดบนขอบอ่างราวกับสัตว์กางอาณาเขตดึงดูดให้ลัลน์เผลอจ้องมองตาไม่กระพริบ แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจกลับไม่ใช่ท่วงท่าเหล่านั้น หากแต่เป็นสายตาคมดุที่จับจ้องมายังร่างเล็กตรงหน้าสายตาที่หนักแน่นและเร่าร้อน ราวกับนักล่าที่กำลังจดจ้องเหยื่ออันล้ำค่า ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหิวกระหายที่ไม่คิดจะปิดบัง ราวกับเธอเป็นสิ่งเดียวที่เขาต้องก

    Last Updated : 2025-01-19
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำอบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 37 Nc25+

    “ถ้าหนูอยาก หนูควบมันเลยค่ะ”สิ้นเสียงทุ้มต่ำที่กระซิบข้างหู ความนุ่มนวลของคำพูดเขาเหมือนสายลมที่พัดผ่าน แต่กลับทิ้งร่องรอยไว้ให้หัวใจเต้นระรัว คำพูดของเขายังคงดังกึกก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวลัลน์ไม่หยุดราวกับต้องการย้ำเตือนถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ดวงหน้าหวานขมวดคิ้วเป็นปมอย่างฉงนใจว่าคนรักต้องการจะสื่ออะไร ก่อนที่ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อสมองเริ่มประมวลผลช้าๆ จนเข้าใจความหมายของคำพูดเขาได้ในที่สุด ใบหน้าสวยหวานที่ปกติขาวใสเริ่มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อร้อนผ่าว แผ่ซ่านไปจนถึงใบหู“หืมม ว่าไงคะไม่อยากลองหรือคะ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดใบหู พร้อมกับลมหายใจร้อนที่ปัดผ่านแก้มเธอเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลายังคงคลอเคลีย สูดดมกลิ่นหอมกรุ่นจากกายสาวที่ทำให้เขาเหมือนถูกมนตร์สะกดทุกครั้งที่ได้กลิ่น“หนูทำไม่เป็น” ลัลน์ตัวแข็งทื่อ สติที่พยายามรวบรวมเหมือนกำลังละลายหายไปกับความใกล้ชิด เสียงของเธอสั่นไหวและแผ่วเบาจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์“แค่หนูโยกเอวเหมือนหนูเต้นเอง” ใบหน้าคมคายผละออกมาเล็กน้อยเพียงเพื่อจับจ้องใบหน้าหญิงสาวที่บิดเบี้ยวเพราะแรงเสียวซ่าน เมื่อเขาแกล้งขยับสะโพกกระตุ้นความรู้สึกของเธอ“อ๊ะ

    Last Updated : 2025-01-23
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 38

    การอยู่ที่คอนโดของคิณณ์กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลัลน์ไปโดยไม่รู้ตัว ห้องที่เคยดูเรียบง่ายและเป็นระเบียบตามสไตล์ชายหนุ่ม กลับมีสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ของหญิงสาวแทรกซึมอยู่ทุกมุมอย่างมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอใช้ประจำเติมเต็มบรรยากาศในห้องให้ดูอบอุ่นและสดใส ตุ๊กตาสุนัขตัวใหญ่ที่เธอนำมาตั้งไว้บนเตียงนอน กลายเป็นความคุ้นเคยที่เจ้าของไม่อาจปฏิเสธได้ในห้องน้ำที่เคยมีแค่ของใช้พื้นฐาน กลับมีชุดขวดแชมพูและครีมนวดกลิ่นหวานวางเรียงอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้แต่ผ้าเช็ดตัวที่เธอเลือกใช้ยังเป็นสีพาสเทลที่แตกต่างจากโทนสีเข้มเรียบง่ายของเขาลัลน์ยืนอยู่หน้ากระจกในห้องนอน แสงแดดยามเช้าสาดส่องกระทบเส้นผมสีดำดัดลอนคลาย ๆ ที่จัดทรงอย่างมีวอลลุ่ม ผมของเธอถูกรวบครึ่งหัวอย่างเรียบร้อย ติดโบน่ารักสีขาวที่เพิ่มความสดใสให้ใบหน้าหวานซึ้งที่ดูเปล่งประกาย ใบหน้าหวานซึ้งที่เคยดูซูบซีดจากความทุกข์ใจในอดีต บัดนี้กลับเปล่งปลั่งสดใส พวงแก้มใสที่เคยตอบแห้งกลับอิ่มเอิบจนดูน่าหยิก ร่างกายมีน้ำมีนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ชุดนักศึกษาที่กระชับพอดีตัว จนเผยให้เห็นความอวบอิ่มเกินตัว กระโปรงทรงเอ

    Last Updated : 2025-01-27
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 39

    ปัง!เมื่อหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาเสียงประทัดดังลั่นไปทั่วสำนักงาน ทำให้ลัลน์ที่กำลังจะก้าวเข้ามาในห้องหยุดชะงัก หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เศษพลาสติกหลากสีปลิวว่อนเต็มอากาศราวกับฝนทำให้ทั้งสำนักงานเลอะเทอะอย่างช่วยไม่ได้“เฮ้! สุขสันต์วันคล้ายวันเกิดนะลัลน์!” เสียงทักดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มกว้างจากพี่ๆทั้งสาม ตรงกลางห้องมีเนตรนภาเดินถือเค้กวันเกิดเดินตรงเข้ามาหาเธอ น้ำตาคลอเบ้าในดวงตาของลัลน์อย่างห้ามไม่อยู่ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจกับความตั้งใจของพี่ๆ หญิงสาวยืนนิ่งมองเค้กวันเกิดตรงหน้า เค้กช็อกโกแลตบัตเตอร์ครีมขนาด 2 ปอนด์ ประดับด้วยเฟอร์เรโร รอชเชอร์เรียงรายอย่างสวยงาม และบนยอดเค้กยังมีสตรอว์เบอร์รีสดสีแดงเพิ่มความหรูหรายืนมองเค้กช็อกโกแลตบัตเตอร์ครีม “เป่าสิลัลน์ ก็อย่าลืมอธิษฐานด้วยล่ะ” กุลธิดาเมื่อเห็นน้องเล็กยืนนิ่ง เพลงจบแล้วก็ยังไม่เป่าเค้กเสียที เนตรนภาส่งเค้กให้นานแล้วจนกล้ามจะขึ้นจึงเอ่ยเตือนให้หญิงสาวเป่าเค้ก“ขอบพระคุณพี่ๆมากเลยนะคะ ไม่เห็นต้องลำบากกันเลย” ลัลน์หลุดจากภวังค์ ยิ้มบางๆ ก้มหน้าเป่าเทียนบนเค้กที่พี่ๆเตรียมมาให้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกาย รอยยิ้ม

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 40

    ชายสูงวัยเดินออกมาจากคอกพยาน ใบหน้าของเขาแสดงความอ่อนล้าและเศร้าหมอง สายตาของเขากวาดมองไปที่ลูกชายจะปรี่ไปหาลูกชาย ภาพนั้นสะท้อนสู่สายตาของทุกคนในห้องพิจารณาคดี เสียงสะอื้นของชายสูงวัยดังขึ้นทันทีเมื่อเขาถึงตัวลูกชาย แขนทั้งสองข้างของเขาสวมกอดลูกชายแน่นราวกับกลัวว่าจะเสียไปอีกครั้ง น้ำตาไหลรินไม่ขาดสาย ขณะที่จำเลยยืนนิ่งเฉยราวกับไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว“แล้วเขาจะฟ้องลูกชายเขาทำไมกัน” ลัลน์ขมวดคิ้วสีหน้าฉายความสับสนและไม่เข้าใจ บ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นคนพ่อร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดลูกชาย“อารมณ์ชั่ววูบนั่นแหละ ตอนนั้นคงโมโห ตอนนี้ก็ไม่อยากให้ลูกติดคุกหรอก แต่ทำไงได้ตอนนั้นแจ้งความไปแล้ว เป็นคดีอาญาแผ่นดินอีกเลยต้องปล่อยเลยตามเลย” หนูนากระซิบบอกเพื่อนสาวเมื่อเธอเริ่มงงดังเช่นที่เธอเคยสงสัย“แล้วแค่เงิน 30 บาทนี่นะ ถึงขั้นต้องตีพ่อตัวเองเลยเหรอ” หญิงสาวยังคงจ้องมองภาพชายสูงวัยที่กอดลูกชายทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกหนักใจ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ พร้อมพึมพำถามด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ“คาดเดากันว่าน่าจะเมายาแหละ ไม่งั้นคงไม่มีคนปกติที่ไหนตีพ่อแม่จนบาดเจ็บหนักขนาดนี้” หนูนาหันไปมองเพื่อนสาว ก่อนจะกระซ

    Last Updated : 2025-02-05
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 41

    “อ้าว พี่คิณณ์มาได้ไงคะ” ลัลน์ยิ้มกว้าง รีบลุกขึ้นไปหาคนรัก ความน้อยใจที่สะสมมาตลอดวันมลายหายไปในพริบตาเมื่อเห็นหน้าเขา“ทำไมถึงมานั่งกินกับมัน” คิณณ์เอ่ยเสียงต่ำขณะขมวดคิ้วมองหญิงสาว น้ำเสียงที่ลอดไรฟันเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ใครคะ พี่เจษงั้นเหรอ” ลัลน์เอ่ยอย่างงุนงง ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม เธอไม่เข้าใจว่าเขาโกรธอะไร จะว่าหึงที่เธอมานั่งกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่น่าใช่ เพราะคนที่นั่งด้วยคือเพื่อนสนิทของเขาเองมิใช่หรือ“มึงใจเย็น เรื่องก็ผ่านมานานแล้ว วันนี้วันเกิดเมียมึงอย่าทำให้เป็นเรื่องเลย” เจษฎากระซิบเสียงเบา พลางดึงแขนคิณณ์ที่ดูเหมือนจะระเบิดอารมณ์อยู่รอมร่อคิณณ์ยังคงขบฟันแน่น กรามขึ้นเป็นสันชัดเจน แววตาเย็นชาจ้องตรงไปยังคณาภัทรที่นั่งอยู่ตรงข้าม สายตานั้นราวกับจะส่งคำเตือนไปในตัว ลัลน์ที่อยู่ในเหตุการณ์รับรู้ถึงความตึงเครียดในทันที เห็นดังนั้นจึงคาดเดาได้ว่าคนรักเธอกับอัยการหนุ่มคนนี้คงไม่ถูกกันเสียแล้ว เธอพยายามฝืนยิ้มและขยับตัวเล็กน้อย แต่ก่อนที่จะพูดอะไรออกมา มือหนาของคิณณ์ก็กอบกุมมือเธอไว้แน่นก่อนจะจูงไปนั่งบนโต๊ะทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ไหนว่าเข้าเวรไงคะ” ลัลน์เอ่ยถามด้วยน

    Last Updated : 2025-02-16

Latest chapter

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 53

    ภายใต้แสงแดดยามเช้าอ่อน ๆ กลิ่นหอมละมุนของดอกพุดซ้อนลอยล่องไปตามสายลม อากาศแจ่มใสเป็นใจให้กับฤกษ์งามยามดี คิณณ์ในชุดสูทสีครีมเข้าชุดกับกางเกงขายาว ผมถูกเซตขึ้นอย่างประณีต ยิ่งขับให้บุคลิกดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มแห่งความสุข มือหนากอบกุมพานธูปเทียนแพไว้แน่นขณะก้าวเดินนำขบวนขันหมากไปยังบ้านเรือนไทยของเจ้าสาวเสียงดนตรีบรรเลงแห่ขันหมากดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและรอยยิ้มแห่งความยินดี ไอย์ลดาและวินตรัยก้าวตามลูกชายมาอย่างสง่างามเตรียมพร้อมสำหรับค่าผ่านทางของประตูเงินประตูทอง ซึ่งมีหนูนาและรินทร์ในชุดไทยห่มสไบสีชมพูกลีบบัว ยืนรอเป็นด่านแรก“จะผ่านด่านนี้ได้เจ้าบ่าวต้องตะโกนบอกรักเจ้าสาวนะคะ ยิ่งดังมากแสดงว่ารักมาก” รินทร์เอ่ยเสียงทะเล้น ดวงตาพราวระยับ ในเมื่อนี่คือโอกาสเธอจึงต้องรีบฉวยโอกาสแกล้งพี่ชายในวันสำคัญของเขาอย่างเต็มที่!“ยัยรินทร์ให้มันน้อยๆหน่อย” เสียงลอดไรฟันเอ่ยกระซิบน้องสาวที่แกล้งเขาไม่เข้าเรื่อง“ทำสิคะเจ้าบ่าวหรือไม่รักเจ้าสาว” รินทร์หาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จงใจยั่วโมโห“แกรับเงินไปแล้วปล่อยพี่เข้าไปเดี๋ยวนี้!”“ไม

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 52

    “หนูคะเดี๋ยววันนี้ไปบ้านพี่กันนะ” คิณณ์ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่กำลังสาละวนกับการเก็บเสื้อผ้าอยู่ “ตอนไหนหรือคะ” ร่างบางถึงชะงักมือ หันไปถามอย่างแปลกใจ“เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเลยค่ะ เดี๋ยวไปค้างที่บ้านพี่เลย”“มัดมือชกเหลือเกินนะคะ”“ฮึๆ ไม่ทำแบบนี้หนูก็บ่ายเบี่ยงอีก”“พี่ไปแต่งตัวเลยค่ะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะรอนาน” หญิงสาวรีบไล่คนพี่ที่ยังคงเปลือยอก สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว อวดมัดกล้ามแน่นที่เจ้าตัวตั้งใจฟิตมาเป็นอย่างดี ลัลน์เผลอมองเพียงครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี ภาพล่อตาล่อใจแบบนี้ไม่ดีต่อหัวใจเธอเลย“หนูเก็บของไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่รีบอาบแล้วเราไปบ้านกัน” คำว่าบ้านทำให้คนน้องหัวใจพองโต ทั้งหวั่นเกรงเมื่อต้องไปบ้านคนรักพบเจอพ่อแม่ของเขา ถึงแม้เธอจะเจอพ่อแม่ของเขาแล้วก็ตามแต่นั่นก็เพียงชั่วครู่ไม่ถึงวัน อีกทั้งวันนี้เธอต้องไปบ้านของเขาอีกต่างหากหญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความฟุ้งซ่านที่พักนี้มักจะก่อตัวขึ้นได้ง่ายเหลือเกิน ก่อนจะรีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นด้วยใจสั่นไหว พลางเงยหน้ามองนาฬิการอคอยเวลาที่จะได้พบพ่อแม่ของคิณณ์อีกครั้งเมื่อรถหรูเคลื่อ

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 51

    1 ปีผ่านไปลัลน์เรียนจบเนติบัณฑิตและได้ใบอนุญาตว่าความมาภายในหนึ่งปีสร้างความภาคภูมิใจให้ทั้งครอบครัวของหญิงสาว และแน่นอนว่าคนคอยติวคอยดูแลตลอดมาภาคภูมิใจในเมียเด็กของเขาเป็นอย่างยิ่ง ทุกความสำเร็จของตัวเล็กมีเขาอยู่เคียงข้างเธอเสมอแต่ความสงบไม่อาจคงอยู่ได้นานปัญหาเข้ามาแทรกแซง คิณณ์นั้นถึงเวลาย้ายเวียนศาลไปจังหวัดอื่นซึ่งความกังวลของเขานั้น คือเขาคงไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดได้ยากเป็นเหตุให้เขาต้องห่างจากคนรัก ความกังวลที่ก่อตัวทำให้เขาเริ่มคิดถึงอนาคตของเธอมากขึ้น และสุดท้ายจึงตัดสินใจถามออกไป“หนูว่าหนูจะไปทำอะไรต่อหลังเรียนจบนะคะ”“หนูจะไปเก็บคดี แล้วเตรียมสอบผู้ช่วยต่อค่ะ”“อ้องั้นเหรอ” คิณณ์ตอบรับเสียงเรียบ แต่แววตากลับดูเคร่งเครียดจนลัลน์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ต้องย้ายศาลน่ะ คราวนี้พี่ต้องไปประจำที่ศาลพิจิตร”“ย้ายศาลงั้นหรือคะ” เสียงหวานแผ่วลงจนแทบกลืนหายไปในลำคอ“อืม พี่คงต้องไปอยู่ที่นั่นสักระยะอาจมาหาเราได้น้อยลง”ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศทันที ลัลน์เม้มริมฝีปากแน่น เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นหน้าที่ของเขา หน้าที่ที่เขาต้องทำตลอดและสิ่งนี้คือความฝันของเข

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 50

    คืนวันผันผ่าน ลัลน์เริ่มต้นเข้าเรียนที่เน พร้อมเตรียมสอบตั๋วทนายควบคู่ไปด้วย แต่กระนั้น เธอก็ยังคงพักอยู่กับคิณณ์เช่นเดิม กิจวัตรประจำวันของทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง ในยามเช้า ชายหนุ่มจะเป็นผู้ไปส่งเธอ ส่วนยามเย็น เขาก็ไปรับเธอกลับ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาราวกับเป็นความเคยชินที่อบอุ่นเช้าวันนี้ก็ไม่ต่างจากวันก่อน ๆ คิณณ์ขับรถมาส่งลัลน์ที่เนตามปกติ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงจากรถ เธอหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มซุกซน ก่อนยกนิ้วเรียวยาวแตะที่แก้มสากของเขาเป็นเชิงบอกใบ้“ที่รัก ลืมอะไรไปหรือเปล่าคะ?”ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มบางจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่ลัลน์โน้มตัวเข้าไปใกล้ จรดริมฝีปากลงบนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย“ขับรถดี ๆ ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอกระซิบเบา ๆ ราวกับจะส่งมอบพลังใจให้เขาตลอดทั้งวัน“ตั้งใจเรียนนะคะ เรียนไม่ไหวก็นอนเลย” คิณณ์หัวเราะในลำคอ ก่อนเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบา ๆ“นี่คือคำแนะนำของผู้พิพากษางั้นหรือคะ” หญิงสาวเบ้ปาก ขยับถอยเล็กน้อยก่อนเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ“ถ้าไม่มีสมาธิจะเรียนสู้ไปหลับให้สมองปลอดโปร่งไม่ดีกว่าเหรอ”“จะเก็บคำแนะนำนี

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+

    เมื่อมาถึงคอนโดของชายหนุ่ม เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสามทุ่ม การจราจรที่ติดขัดทำให้ทั้งสองทำได้เพียงสั่งอาหารมากินแทนการออกไปทานข้างนอก หญิงสาวใช้ปลายนิ้วบรรจงแกะเนื้อปลานิลทอดออกจากก้างอย่างประณีต ก่อนวางลงบนจานของชายหนุ่มพลางเอ่ยเสียงใส“ปลานิลทอดอร่อยดีนะคะพี่คิณณ์” “หนูชอบก็กินเยอะๆสิคะ” คิณณ์ละสายตาจากจานอาหาร มองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ของดีต้องแบ่งกันชิมสิคะ” รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้างามเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าอย่างนั้นเราต้องผลัดกันชิมแล้วล่ะ” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมพราวระยับอย่างสื่อความหมาย“เหนื่อยขนาดนี้ยังมีแรงหื่นอีกหรือคะ”“พี่อดมาสามเดือนแล้วนะคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน พลางส่งสายตาเว้าวอน คนน้องหน้าแดงซ่าน รีบตักข้าวใส่ปากเหมือนตั้งใจจะกลบเกลื่อนความรู้สึก แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้เขายิ่งจ้องเธอไม่วางตา“ทานข้าวค่ะ พูดเรื่องนั้นเวลาทานข้าวได้ยังไงคะ”“พี่พูดได้ทุกตอนเลยนะ ไม่กินข้าวแล้วทำตอนนี้ยังได้เลย” เขากระซิบหยอกเสียงพร่า แต่ยังไม่ทันจะขยับเข้าใกล้ คนตัวเล็กก็ส่งสายตาดุมาให้ราวกับเตือนว่าอย่าคิดลองดี ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 48

    เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่คิณณ์เทียวไปมาระหว่างที่ทำงานกับบ้านของลัลน์จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทุกวันศุกร์เขาจะขับรถมาบ้านลัลน์และกลับไปในเช้าวันจันทร์ เขายังคงรับหน้าที่ช่วยงานในสวนตามปกติ เพราะครอบครัวของลัลน์ทำสวนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก หรือพืชไร่ ทำให้เขาได้เรียนรู้งานใหม่ๆ พลอยสนุกไปด้วย สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลานี้คือ คิณณ์ไม่ได้พักที่กระท่อมท้ายสวนอีกต่อไป เขาได้ย้ายขึ้นมานอนในบ้านของครอบครัวลัลน์แล้ว วันนี้เขาเข้าสวนมะพร้าวเพื่อทำการเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอม คิณณ์ทำการใช้ตะขอสอยทะลายมะพร้าวให้ลงกับร่องคูน้ำที่ขุดไว้เพื่อลดความเสียหายจากการกระแทกอีกทั้งยังทุ่นแรงในการขนย้ายด้วย “เดี๋ยวนี้ทำคล่องเชียวนะครับ” ลุงสมชัยซึ่งคอยสอนงานเขาเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยนายของตนขยันขันแข็งหัวไวเช่นนี้ “คนเราต้องมีพัฒนาบ้างครับ” คิณณ์ยกยิ้มรับคำชมของลุงสมชัย ขณะวางตะขอลงแล้วใช้ผ้าขนหนูที่พาดไหล่เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า "ดีครับดี อย่างนี้สิถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งลูกเขยนายหัว" ลุงสมชัยหัวเราะเสียงดัง พลางตบไหล่คิณณ์เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “น้ำเย็นๆมาแล้วค่า” เสียง

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 47

    กว่าคิณณ์จะเลื่อยไผ่เสร็จและช่วยคนงานขนขึ้นรถก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดี แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันสาดส่องลอดผ่านกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ ที่ใต้ร่มเงานั้นมีหญิงสาวคนรักของเขายืนส่งยิ้มหวานให้กำลังใจไม่ห่าง ชายหนุ่มที่เปื้อนไปด้วยเหงื่อและฝุ่นไม้รีบปรี่ตรงไปหาคนน้องทันทีเมื่อเสร็จงาน “ทานน้ำหวานสักหน่อยนะคะ” ลัลน์ส่งแก้วน้ำแดงเย็นชื่นใจให้เขาทันที แต่คิณณ์กลับยกมือหนากุมมือนุ่มนิ่มของเธอไว้ พร้อมป้อนเข้าปากตัวเองอย่างอารมณ์ดี “น้ำหวานเหมือนเมียพี่เลย” เขายิ้มกริ่มหยอกล้อ ทำให้คนตรงหน้าเขินจนต้องหลบสายตา ใบหน้าเนียนขึ้นสีระเรื่อก่อนจะก้มหน้างุดไปกับคำหวานของคนรัก “เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ พี่คงเหนียวตัวแย่” ลัลน์พูดรัวเร็วราวกับจะหาทางเปลี่ยนเรื่อง ก่อนรีบชวนเขากลับบ้านโดยไม่รอฟังคำตอบ คิณณ์ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่เดินหนีเขาไปยืนรออยู่ที่รถ ดวงตาคมทอดมองด้วยสายตาเอ็นดูและอบอุ่น ก่อนจะก้าวขาตามเธอไปเงียบๆ วันนี้ทั้งเหนื่อยล้าและร่างกายเมื่อยล้ามาทั้งวัน เขาก็หวังเพียงให้มีเรื่องดีๆ ที่ช่วยเติมเต็มหัวใจเขาสักหน่อย เมื่อถึงบ้านหนุ่มสาวสองคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา เสียงหมาในบ้านเห่าเตือนใน

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 46

    “แค่นี้ก็ลุกมากินเองไม่เป็นรึไง” พงษ์ทวีอดกระแนะกระแหนชายหนุ่มกำยำตรงหน้าไม่ได้ “ขอโทษด้วยครับ” ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไรไปนอกเสียจากขอโทษผู้ใหญ่ที่ทำให้ต้องรอเสียมากกว่า คำขอโทษของเขามีความจริงใจ ไม่ใช่เพียงเพราะมารยาท แต่เพราะเขารู้สึกผิดจริงที่ทำให้พ่อของลัลน์ต้องรอ ตามปกติทุกวันเขาเป็นคนตื่นเช้าเสมอ ทว่าค่ำคืนที่ผ่านมากว่าที่เขาจะข่มตาหลับลงได้ก็เกือบย่ำรุ่ง จึงไม่แปลกที่วันนี้เขาจะตื่นสายจนผิดวิสัย “ไม่เป็นไรหรอก แม่ก็พึ่งทำกับข้าวเสร็จเองไม่ช้าไปหรอก” มุกลดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเอ็นดูช่วยปลอบใจว่าที่ลูกเขยคนนี้ “มาค่ะพี่คิณณ์ ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยไม่แพ้เมื่อวานเลยนะคะ” หญิงสาวอวดสรรพคุณโชว์ฝีมือแม่เสร็จสรรพพร้อมฉีกยิ้มอย่างน่ารักให้คนข้างกาย “อวดเหมือนตัวเองทำเลยนะ” “พี่คิณณ์อ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว” คนน้องสะบัดหน้าหนีอย่างน่าเอ็นดู ตักข้าวต้มปลาร้อนๆ เข้าปากอย่างแง่งอน พลางทำเป็นไม่สนใจคนตัวโตข้างกาย คิณณ์มองหญิงสาวตักข้าวเข้าปากด้วยสายตาเอ็นดู อดยิ้มบางๆ กับท่าทางน่ารักของเธอไม่ได้ ก่อนจะจับช้อนคนข้าวในชามของตัวเองให้เย็นลง แล้

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 45

    “ไม่ต้องพิสูจน์ ฉันไม่อนุญาต!” พงษ์ทวีเอ่ยปฏิเสธเสียงเข้ม น้ำเสียงแข็งกร้าวของเขาทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันทันที ไม่มีช่องว่างให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้เอ่ยคำใดโต้กลับ “คุณน้าครับ ผมจริงจังกับลัลน์นะครับ ผมไม่ได้อยากทิ้งขว้างอะไรลูกคุณน้าเลย ผมแค่อยากดูแลเธอตลอดไปเท่านั้น” คิณณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและแฝงความอ่อนน้อม ทำให้พงษ์ทวีเงียบไปดวงตาคมจ้องมองชายหนุ่มนิ่งงัน ราวกับพยายามอ่านความนัยในคำพูดเหล่านั้น แต่ท่าทีของเขายังคงตึงเครียด “พ่อคะ หนูรักพี่คิณณ์จริงๆนะคะพ่อ” ลัลน์เอ่ยขึ้นน้ำเสียงสั่นเครือปนความเว้าวอน จ้องมองพ่อด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ทั้งหวังให้เขาเข้าใจและยอมเปิดใจสักครั้ง “ลูกน่ะรักเขาพ่อรู้ แต่เขาน่ะรักลูกเหมือนที่ลูกรักเขาไหม” “รักสิคะ ที่ผ่านมาพี่เขาดูแลหนูมาตลอด ทั้งเรื่องฝึกงานและการสอบ พี่เขาช่วยเหลือหนูทุกอย่างเลยนะคะ” “แกจะบอกสิ่งที่เขาทำแค่นั้นคือเขารักแกแล้วงั้นเหรอ” พงษ์ทวีขมวดคิ้วเข้ม จ้องมองลูกสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “ยามเจ็บป่วยพี่เขาก็ดูแลหนูนะคะพ่อ” หญิงสาวเขยิบตัวไปนั่งใกล้ๆพ่อของตน พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนมาให้ “งั้นเขาเคยพาล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status