หน้าหลัก / โรแมนติก / ทัณฑ์อสุรา / ตอนที่3. เจ้าเข้าครัวเอง?”

แชร์

ตอนที่3. เจ้าเข้าครัวเอง?”

“ทางโรงครัวส่งสำรับอาหารมาครบทุกมื้อ แต่ข้าอยู่ว่างๆ จึงทำอะไรเล่น ท่านแม่ทัพลองชิมดูนะเจ้าคะ”

นางเกรงว่าเขาจะตำหนิผู้อื่น ปกตินางอยู่ที่จวนสกุลจ้าวก็เข้าครัวทำอาหาร ทั้งของตัวเองและน้องๆ รวมทั้งของผู้อื่น ยามมารดายังมีชีวิตอยู่ เพราะมีบุตรชายจึงไม่ค่อยมีใครกล้ารังแก แต่เมื่อมารดาตายและน้องยังเล็ก น้องชายคนรองอายุสิบสองขวบ คนเล็กเพียงหกขวบ นางจึงต้องเข้มแข็งดูแลน้องๆ ด้วยตนเอง

กู้ตงหยางชิมน้ำแกงหัวปลา หลังกลืนน้ำแกงลงท้องแล้วรู้สึกสบายตัว นอกจากอาหารอุ่นร้อนพอดีแล้วยังให้รสชาติกลมกล่อมอีกด้วย

จ้าวจื่อรั่วเห็นเขากินไปหลายคำจึงใจชื้น กล้าเอ่ยถามเขา “ท่านแม่ทัพจะรับข้าวไหมเจ้าคะ ยังมีปลาผัดเปรี้ยวหวานกับ ผัดผักเจ้าค่ะ”

เขาพยักหน้าแทนคำตอบรับเพียงแค่นั้นหญิงสาวก็หมุนตัวเดินออกไป เขาแปลกใจที่นางไม่เรียกคนรับใช้ ก็นึกได้ว่า เสี่ยวฉู่อุ้มแพะไปเก็บ แต่นางก็ใช้เวลาไม่นาน อาหารก็วางบนโต๊ะ แม้เป็นอาหารง่ายๆ แต่เลิศรสไม่น้อย  เขาเองยังไม่กินมื้อเย็นจึงเผลอกินเข้าไปจนเกลี้ยงทุกอย่างจึงนึกได้ว่า... อาหารบนโต๊ะเป็นของนาง ครั้นจะถามก็ปากหนักเกินไป จึงได้แต่ทำหน้านิ่งและรับน้ำชาจากนางมาดื่ม

“ไม่รู้ว่าคนสกุลจ้าวกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหนถึงกล้าส่งสาวใช้มาเป็นฮูหยินแม่ทัพใหญ่เช่นข้า”

จ้าวจื่อรั่วได้ยินพลันชะงักมือไปเล็กน้อย แต่ยังส่งผ้าเปียกให้เขาเช็ดมือ

“เป็นเพราะราชโองการของฮ่องเต้ หากไม่แล้ว ข้าเป็นเพียงลูกอนุไม่อาจเอื้อมตำแหน่งสูงส่งนี้” นางกล่าวอย่างเจียมตัว “แต่ท่านวางใจได้ ข้าจะอยู่ในที่ของตนเองอย่างสงบเจ้าค่ะ”

‘อยู่ในที่ของตัวเอง’

เขาแค่นหัวเราะในลำคอแล้วยื่นหน้าไปใกล้หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน อย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย” 

พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดทิ้งให้หญิงสาวนั่งเพียงลำพัง  แม้จเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้

ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.

            “ขนมดอกกุ้ยของฮูหยินนี่อร่อยยิ่งนัก”

            “พวกเจ้านี่ก็อย่างไรกัน ปล่อยให้ฮูหยินเข้าครัวแล้วพวกเจ้านั่งกิน!”

            “ก็ฮูหยินไม่ให้เราช่วยนี่”

            “ยังจะเถียงอีก”

            “เอาเถิด เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง”

จ้าวจื่อรั่วหัวเราะน้อยๆ มองดูบ่าวไพร่ในครัวพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง หลังจากอยู่ที่นี่มาหนึ่งเดือน นางสนิทสนมกับทุกคน จดจำชื่อและตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคนได้  ยิ่งได้รู้  ยิ่งนับถือแม่ทัพกู้ตงหยาง  ภาพนอกดูโหดเหี้ยมแต่แท้ที่จริงห่วงใยผู้อื่น เหล่าบ่าวไพร่ในจวนล้วนเป็นญาติพี่น้องของคนในกองทัพที่ไม่มีที่ไป บางคนบาดเจ็บพิการไม่มีญาติพี่น้อง ท่านแม่ทัพก็ให้อยู่ในจวน ทำงานเล็กๆ น้อยๆ  มีหญิงหม้ายที่สามีตายในสนามรบและไม่มีที่ไปก็มาอยู่ช่วยงานในจวน หากบางคนอยากออกไปตั้งตัว ท่านแม่ทัพก็ให้พ่อบ้านจัดการดูแลต่อไป

            แม้เขาไม่เห็นนางเป็นภรรยา แต่สำหรับนาง เขาคือสามีสุดประเสริฐ นับว่าเป็นวาสนาของนางนัก   หญิงสาวตั้งใจจะทำหน้าภรรยาที่ดีชดเชยที่ตระกูลจ้าวส่งลูกอนุต่ำต้อยเช่นนางมาเป็นภรรยาของท่านแม่ทัพใหญ่  แทนที่จะเป็นบุตรสาวภรรยาเอกผู้เลอโฉมผู้นั้น

            “อาหารที่ฮูหยินทำเลิศรสมาก ข้าแอบเห็นท่านแม่ทัพเติมข้าวตั้งสองถ้วย”  เสี่ยวฉู่พูดด้วยท่าทีตื่นเต้น แต่ถึงกระนั้นคนทั้งจวนก็รู้ว่ามีแต่ท่านแม่ทัพที่หมางเมิน

            “วันๆ ไม่เห็นมาหาฮูหยิน เอาแต่สนใจสตรีชุดแดงผู้นั้น” เสี่ยวฉู่พูดอย่างน้อยใจ ฮูหยินดีถึงเพียงนี้ ทำไมท่านแม่ทัพไม่เหลียวแลภรรยาของตน

            “เสี่ยวฉู่!”  แม่ครัวหันมาตำหนิสาวใช้ แต่คนอื่นก็ลอบมองสีหน้าฮูหยิน แม้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าแต่ท่าทีขมขื่นไม่น้อย 

“ฮูหยิน ท่านอย่าคิดมากนะเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพของเรา ปกติเป็นคนใส่ใจผู้อื่น คงเห็นว่าแม่นางผู้นั้นน่าสงสารจึงดูแลเป็นพิเศษ”

            นางจะไปมีสิทธิ์รู้สึกอะไรได้ แค่เขาไม่เอาเรื่องที่ถูกเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก็นับว่าดีมากแล้ว 

            “ฮูหยินขอรับ บ่าวมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือขอรับ”

            “มีเรื่องใดรึ  ถ้าข้าช่วยได้ย่อมทำสุดกำลัง”

            “เป็นเรื่องของท่านแม่ทัพขอรับ” พ่อบ้านมีสีหน้าหนักใจ แล้วเชิญฮูหยินออกมาสนทนาด้านนอกห้องครัว

            “ที่นี่ไม่มีผู้อื่นแล้ว พ่อบ้านพูดมาเถิด” จ้าวจื่อรั่วร้อนใจ

            “หมอทหารกำชับให้บ่าวดูแลท่านแม่ทัพให้ดี ท่านแม่ทัพกรำศึกมานาน มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แต่เรื่องนี้ย่อมให้ผู้อื่นรู้มิได้”

            “ข้าเข้าใจ ข้าจะเก็บเป็นความลับ”

            ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านก็มีสีหน้าดีขึ้นและรีบพูดต่อ

            “บ่าวอยากรบกวนฮูหยิน ช่วยดูแลท่านแม่ทัพขอรับ”

            “ให้ข้าดูแลท่านแม่ทัพ? ทำอย่างไรเล่า? ปกติเขาไม่เคยเรียกพบข้าด้วยซ้ำ” 

หากนางเสนอหน้าไปโดยที่เขาไม่เรียก จะไม่กลายเป็นว่าไปรบกวนสายตาและยังรบกวนเวลาที่อยู่กับแม่นางเฉียวฉู่หรือ?  

“ข้าน้อยก็จนปัญญาขอรับ” เสียงถอนหายใจดังขึ้นเฮือกหนึ่งก่อนพูดต่อ “เป็นหน้าที่พ่อบ้านอย่างข้าต้องดูแลใส่ยาให้นายท่าน แต่ต้องมารบกวนฮูหยินเช่นนี้ รู้สึกละอายใจยิ่งนัก”

“ใส่ยา?”

“ขอรับ นายท่านมีบาดแผลที่ด้านหลัง ใส่เองไม่สะดวก แต่พอข้าเข้าไปที่ไรก็โดนไล่ออกมาทุกที บรรดาหมอทหารก็ส่ายหน้าในความดื้อรัน แต่ทุกคนล้วนเป็นห่วงท่านแม่ทัพ”

“ก็ได้ ข้าจะลองดู”  นางพยักหน้ารับ  อย่างไรเขาก็เป็นสามี ให้ภรรยาเข้าไปปรนนิบัติก็คงไม่เป็นเรื่องผิดสังเกตใดกระมัง 

“พ่อบ้านอธิบายมาเถิด ข้าต้องทำอย่างไรบ้าง”

พ่อบ้านยิ้มกว้างและเริ่มอธิบาย หลังจากนั้นไม่นาน ฮูหยินก็เดินกลับเรือนไป สาวใช้และคนครัวที่แอบอยู่หลังบานประตูจึงโผล่หน้าออกมา

“ท่านพ่อบ้านพูดอะไรกับฮูหยินรึ” เสี่ยวฉู่เอ่ยถาม “มีอะไรก็ให้ข้าไปทำก็ได้นี่”

“ไม่ได้ เรื่องนี้ต้องให้ฮูหยินเป็นคนลงมือ”

“เรื่องใดกัน”

“พวกเจ้าไม่รู้อะไรนั้นก็ดีแล้ว” พ่อบ้านหัวเราะ “เอาล่ะ เสี่ยวฉู่ เจ้ารีบยกน้ำชาไปให้แม่นางเฉียวฉู่ได้แล้ว”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status