หน้าหลัก / โรแมนติก / ทัณฑ์อสุรา / ตอนที่ 6.คนทั้งจวนรู้ว่า…

แชร์

ตอนที่ 6.คนทั้งจวนรู้ว่า…

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 09:08:25

จ้าวจื่อรั่วไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนรู้สึกเมื่อครู่นั้นคืออะไร ร่างกายเบาหวิวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาขยับตัวขึ้นแล้วโน้มหน้าลงจูบนางอีกครั้ง แต่คราวนี้มีบางสิ่งที่ใหญ่โตดุนดันเข้ามาในร่างนาง หญิงสาวขยับตัวหนีตามสัญชาตญาณ  ช่องทางอ่อนนุ่มคับแคบบีบรัดลำเอ็นของแม่ทัพหนุ่มจนเขาต้องแหงนหน้าคำรามออกมา

เพราะเส้นทางนี้ไม่เคยถูกใครบุกรุกมาก่อนและลำทวนของเขายาวใหญ่อยู่มาก กู้ตงหยางต้องขยับเอวถอยลำออกแล้วกดซ้ำกลับเข้าไปใหม่ ทำซ้ำๆ ค่อยๆ เพิ่มความลึกเข้าไป

“อึก...จะ...เจ็บ....”  นางร้องอย่างสุดกลั้น ความรู้สึกเจ็บแปลบทำให้ร่างกายเกร็งไปหมด

“อืม ผ่อนคลายหน่อย...”  เขากัดฟันพูด ความรู้สึกที่ถูกดูดกลืนลำเอ็นทำให้เสียวซ่านสุดบรรยาย เขาแยกขานางออกกว้างอีกนิด พร้อมกับนวดคลึงหน้าอกที่ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ส่วนอีกมือสำรวจหาจุดอ่อนไหวจนพบไข่มุกที่ซ่อนอยู่ นิ้วกร้านขยี้เบาๆ ก็ทำให้ช่องทางคับแคบเปียกแฉะมากยิ่งขึ้นทำให้เขากดเอวดันลำเอ็นเข้าไปจนสุด

“อ๊ะ!”  จ้าวจื่อรั่วหวีดร้องออกมา เจ็บและจุกจนน้ำตาเอ่อคลอ

“อา... เข้าไปหมดแล้ว”  

กู้ตงหยางรู้สึกสบายอย่างที่สุด ลำเอ็นถูกผนังอ่อนนุ่มโอบรัดจนเสียวซ่าน เขาเริ่มเดินหน้าขยับเอวสอบ สองมือจับเอวบางไว้มั่นแล้วโยกเอวอย่างลืมตัว

“อึก..อื้อ...”  

หญิงสาวครางกระเส่ารับจังหวะขยับโยกของเขา ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความซ่านเสียวแสนรัญจวน ใบหน้างามสะบัดไปมาจนเส้นผมคลี่สยาย ร่างสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น ความโยกเอวไม่ยั้งไม่เกรงว่ากลีบดอกไม้สาวจะยับเยิน  ระลอกความเสียวซ่านถาโถม จ้าวจื่อรั่วกรีดร้องพร้อมร่างที่เกร็งกระตุกด้วยถูกส่งไปถึงจุดสุขสมซึ่งครั้งนี้มันรุนแรงกว่าที่เขาใช้นิ้วมากนัก

กู้ตงหยางมองหญิงสาวที่อ่อนระทวยใต้ร่าง เขาขยับตัวขึ้นแล้วจับขาเรียวงามข้างหนึ่งขึ้นพาดบ่าจากนั้นขยับเอวโยกตอกลำเอ็นหนักหน่วง พลางก้มมองท่อนเนื้อที่ผลุบเข้าออกจนกลีบเนื้ออวบอูมแทบปลิ้น น้ำคาวสวาทมีสีแดงจางๆ เปื้อนลำเอ็น  ความร้อนของท่อนเนื้อกระแทกกระทั้นทำเอาหญิงสาวครางจนเสียงแหบ นางรู้สึกเหมือนกำลังมอดไหม้เพราะไฟสวาทที่เขาก่อขึ้น แก่นกายเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นมันแน่นเสียจนหญิงสาวบิดเอวเพราะเสียวซ่าน  เขาตอกกระแทกลำอย่างลึกล้ำถี่รัวและบางครั้งก็บดเอวโยกคลึง  นางแทบขาดใจได้แต่ส่งสายตาวิงวอนขอร้อง แต่เขากลับโยกเอวถี่รัวยิ่งขึ้นจนร่างนางสั่นไหวก่อนจะกลายเป็นตอกลำเอ็นหนักๆ เข้าไปจนสุดแล้วกดไว้เช่นนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่จ้าวจื่อรั่วเสร็จสมอีกครั้ง ร่างกำยำเกร็งกระตุกและพ่นน้ำรักอุ่นร้อนใส่ร่องสวาท

“อ๊า!”  จ้าวจื่อรั่วร้องออกมาก่อนจะหอบหายใจถี่รัว

กู้ตงหยางแหงนหน้าคำราม ร่างกายได้รับการปลดปล่อยจนหมดสิ้น เขาค่อยๆ ถอนลำเอ็นออกมา ก้มมองดูแก่นกายที่มีคราบเลือดติดอยู่ แล้วย้ายสายตามองหญิงสาวที่หลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน นางทั้งหวานและเร่าร้อนถึงเพียงนี้

เห็นที่เขาจะต้องหาทางให้นางมาอยู่เรือนเดียวกับเขาให้ได้.

            คนทั้งจวนรู้ว่าฮูหยินค้างคืนที่เรือนท่านแม่ทัพ  ทุกคนหวังว่าจะได้เห็นภาพหวานชื่นของคู่แต่งงานใหม่ แต่กลับพบบรรยากาศอึมครึมราวกับมีเมฆดำก้อนใหญ่ปกคลุมในจวน

            “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้นะ”  เสี่ยวฉู่พึมพำกับพ่อบ้าน “ท่านพ่อบ้านไปแนะนำอย่างไรถึงได้กลายเป็นเช่นนี้”

            “ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” พ่อบ้านโคลงศีรษะไปมา หลังจากผ่านค่ำคืนเร่าร้อนน่าจะเต็มไปด้วยบรรยากาศหอมหวาน เขายังตระเตรียมอาหารสำหรับบำรุงร่างกายให้นายท่านและฮูหยิน แต่ไฉนฮูหยินกับท่านแม่ทัพก็ยังดูเหินห่างเหมือนเดิม  

            หรือจะพูดให้ถูก ดูห่างเหินมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

            คนที่ดูร่าเริงสดใสกว่าน่าจะเป็นสตรีที่ชื่อเฉียวฉู่ ประเดี๋ยวก็อยากกินโน้น ประเดี๋ยวก็อยากกินนี่ ที่นอนแข็งไปบ้าง ในห้องนอนมีกลิ่นอับ เสื้อผ้าสวมใส่ไม่พอดี คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือฮูหยินที่ต้องเข้าไปจัดการให้ถูกใจแม่นางไร้มารยาทผู้นั้น

            “ป่านนี้ยังไม่ส่งคนมารับกลับอีก ไม่ใช่ว่าจะทอดทิ้งแล้วรึ” เสี่ยวฉู่เบ้ปาก “ข้าเห็นใจฮูหยินจริงๆ นะ เหตุใดท่านแม่ทัพถึงทำเช่นนี้ หรือว่า...”

            “จะพูดอะไรก็พูดใจจบสิ เสี่ยวฉู่!” ป้าแม่ครัวหงุดหงิด หยิบหนอไม้ปาใส่เสี่ยวฉู่ ยามนี้ทุกคนในจวนล้วนเป็นห่วงฮูหยินกันทั้งนั้น

            “หรือว่าท่านแม่ทัพจะรับสตรีผู้นั้นมาเป็นภรรยาอีกคนไงเล่า!”  เสี่ยวฉู่ยกมือปัดไปมา แม้จะไม่เลอะเทอะนักแต่เกรงว่าจะมีหน่อไม้ติดตามตัว

            “พูดจาเหลวไหล” ป้าแม่ครัวขึงตาใส่สาวใช้ก่อนกันไปทางพ่อบ้าน “ไม่จริงใช่ไหมเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพแต่งงานยังไม่ถึงสามเดือน จะรับภรรยาใหม่แล้วรึ”

            “ข้าก็ไม่รู้”

พ่อบ้านถอนหายใจเฮือกใหญ่  บุรุษมีสามภรรยาสี่อนุก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่สามีที่ละเลยภรรยาเอก ใส่ใจแต่ภรรยารองก็เกรงว่าจะเป็นที่นินทาไปทั่ว แต่ฮูหยินก็เป็นสตรีที่ฮ่องเต้ประทานมา ท่านแม่ทัพคงไม่ทอดทิ้งเป็นแน่

“เสี่ยวฉู่”

“เจ้าค่ะ”

เสียงจ้าวจื่อรั่วทำเอาผู้อื่นสะดุ้งตกใจกันไปหมด หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ แล้วเดินเข้ามาในครัว

“เปาเป่ายังไม่ได้กินถั่วฝักยาวเลย ข้าว่าจะไปเก็บถั่วเสียหน่อย”

“ประเดี๋ยวข้าไปเก็บให้เปาเป่าเองเจ้าค่ะ”

“ไม่ต้อง เจ้าอยู่ที่นี่เผื่อว่าแม่นางเฉียวฉู่ต้องการเรียกใช้”

“หา...แต่ว่า...”

“นะ ...ถือว่าข้าขอร้องเจ้าก็แล้วกัน”

ได้ยินฮูหยินพูดขนาดนี้ เสี่ยวฉู่ไม่กล้าขัด นางจึงได้แต่พยักหน้ารับ คนอื่นก็เช่นกัน ทุกคนเข้าใจฮูหยินดี จึงปล่อยให้นางเดินไปสวนด้านหลังพร้อมเจ้าแพะน้อยแสนฉลาดที่เดินตามราวกับสุนัขตัวหนึ่ง  พ่อบ้านบ่าวรับใช้คนอื่นได้แต่ถอนหายใจ พวกเขาเป็นคนของท่านแม่ทัพแต่ก็อดเป็นห่วงฮูหยินไม่ได้จริงๆ

จ้าวจื่อรั่วได้ยินทุกถ้อยคำ นางตั้งใจเดินมาขอถั่วฝักยาวให้เจ้าแพะน้อยจริงๆ แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วนางจึงเปลี่ยนใจ แต่ถ้าหายไปเฉยๆ ผู้อื่นอาจลำบากตามหา หรือไม่...อาจไม่มีใครสนใจนาง

ผ่านคืนนั้นแล้วอย่างไร เขาทรมานนางไปถึงเช้า หมดสิ้นเรี่ยวแรงแทบลุกไม่ไหว นางเห็นเพียงแผ่นหลังของเขาที่ผุดลุกขึ้นจากไปไม่เหลียวกลับมามอง นางต้องรวบรวมเรี่ยวแรงลุกขึ้นไปจัดการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เสี่ยวฉู่นำมาส่งแล้วเดินกลับมาเรือนของตน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 7.  ผล็อยหลับไป

    นางผล็อยหลับไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงแม่นางเฉียวฉู่โวยวายเรื่องอาหารไม่ถูกปาก นางจำใจต้องลุกขึ้นมาเข้าครัวด้วยตนเอง หลังจากนั้น แม่นางเฉียวฉู่ก็มีเรื่องมาให้นางต้องยื่นมือเข้าไปจัดการเอง แม่ทัพใหญ่ฝึกซ้อมทหารอย่างสม่ำเสมอ กลับมาก็ไม่ได้เรียกหานาง นางก็ไม่ได้หน้าหนาจะเข้าไปหา เขาเพียงกำชับให้ดูแลแม่นางเฉียวฉู่ให้ดีตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพที่ได้มา ช่างดูว่างเปล่าเสียจริงจ้าวจื่อรั่วเดินมาถึงแปลงผักด้านหลัง เจ้าแพะน้อยร่าเริงที่ได้เห็นผักงามๆ น่ากิน ก็ทำท่าจะกระโจนเข้าใส่ หญิงสาวคว้าสายจูงที่ตนเองใช้เศษผ้าถักเป็นเชือกทำสายจูงให้มันไว้ได้ทัน“ไม่ได้นะ เจ้าจะกินผักทั้งแปลงไม่ได้” จ้าวจื่อรั่วดุแพะน้อย แต่ดวงตากลมใสไร้เดียงสาทำให้นางหัวเราะออกมา แล้วจูงมันไปผูกไว้ที่ต้นไม้ไม่ไกลนัก“รอที่นี่ ข้าจะเก็บถั่วฝักยาวให้” หญิงสาวลูบหูเล็กๆ ที่กระดิกไปมาแล้วเดินไปเด็ดถั่วฝักยาวอวบๆ หลายฝัก ความจริง นางก็แค่อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ หากเป็นตอนที่อยู่จวนสกุลจ้าว นางคงกำลังทำอาหารให้น้องชายทั้งสองและช่วยทบทวนตำราเรียนให้พวกเขา ยังดีที่นางได้เรียนหนังสือฝึกเขียนอักษร เหตุเพราะบิดาเชิญอาจารย์มาสอนบุตรสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 8.ข้าเหมือนสาวใช้รึ?

    “เสี่ยวฉู่...ข้าเหมือนสาวใช้รึ?” “เอ๋?” สาวใช้หันมามองผู้เป็นนายแล้วกวาดตาขึ้นลง “ทำไมฮูหยินถามเช่นนั้นเจ้าคะ” “ช่างเถอะ ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน” “ใครมันตาไร้แววมองฮูหยินเป็นสาวใช้ บอกข้ามาเลยเจ้าค่ะ ข้าเสี่ยวฉู่จะไปจัดการเอง!” จ้าวจื่อรั่วหัวเราะออกมา เจ้าแพะน้อยเงยหน้ามองเจ้าของมือเรียวที่กำลังบิแป้งทอดให้มันกิน หัวทุยๆ ดันมือของนางเบาๆ ราวกับจะร้องขอของกินเพิ่ม “แกจะกินทุกอย่างไม่ได้นะเปาเป่า”เสี่ยวฉู่แยกเขี้ยวใส่แล้วยื่นมือไปคว้าแป้งทอดที่เหลือครึ่งแผ่นยัดใส่ปากตัวเอง เจ้าแพะน้อยไม่พอใจที่ถูกแย่งของกิน พุ่งเข้าใส่ เสี่ยวฉู่ถึงกระโดดหลบไปมา ทำให้จ้าวจื่อรั่วหัวเราะจนน้ำตาคลอเบ้า “แป้งทอดมีตั้งหลายชิ้น เจ้าจะไปแย่งของเปาเป่าทำไมกัน” จ้าวจื่อรั่วส่ายหน้าไปมา นึกถึงเฟยฉีและเฟยหลิง-น้องชายทั้งสองชอบกินขนมที่นางทำมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไร ได้กินอิ่มนอนหลับ กลางคืนมีคนห่มผ้าให้หรือไม่ “ก็ของอร่อยเช่นนี้ ข้าก็หวงเป็นธรรมดา” “แค่แป้งทอดเอง” “ฮูหยินทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-03
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 9. แม่ทัพย่องเข้าห้องเมีย

    นางยังจำความรู้สึกริษยาและน้อยใจที่เห็นพี่สาวน้องสาวต่างมารดาได้แต่กายงดงาม ได้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน แต่นางกลับได้ใช้ชีวิตไม่ต่างจากสาวใช้ มีเรื่องดีก็เพียงแค่ได้ฝีกเรียนเขียนอ่านกับอาจารย์ที่ฮูหยินใหญ่เชิญมาสอนคุณหนูใหญ่ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา เหตุใดช่วงนี้นางรู้สึกอ่อนไหวง่ายเหลือเกิน แต่ก่อนก็ไม่เคยร้องไห้ง่ายนัก เหตุใดยามนี้มีเรื่องกระทบจิตใจเล็กๆน้อยๆ น้ำตาก็พร้อมจะหลั่งริน นางไม่เข้าใจนัก ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่าคิดมาก จดหมายจากเมืองหลวงต้องใช้เวลา บางทีน้องๆ อาจส่งมาแล้วแต่ยังมาไม่ถึงมือ คิดได้ดั่งนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาร่างผอมบางดุจกิ่งหลิวเดินมาที่หน้าต่าง แหงนหน้ามองพระจันทร์กลมโต หากคืนใดน้องเล็กไม่ได้ฟังนางเล่านิทานก็จะนอนไม่หลับ นางจะขยับมือเป็นหุ่นเงารูปสัตว์ต่างๆ หลอกล่อให้น้องเล็กหลับใหล จ้าวจื่อรั่วยกมือเรียวของตนขึ้นทั้งสองมือ กางมือออกโดยให้นิ้วโป้งทั้งสองมือชิดกัน แล้วค่อยๆ ขยับปลายนิ้วที่เหลือ นางมองเงาที่ทอดยาวไปที่ผนังเกิดเป็นรูปร่างผีเสื้อพลางขยับนิ้ว เงาผีเสื้อก็ขยับปีกราวกับมีชีวิตโบกบินใต้แสงจันทร์ นางขยับตัวหมุนไปมาพร้อมขยับมือเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 10.ทำไมเขาหน้าหนาอย่างนี้นะ!

    ยามนี้ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำจนแทบคั้นออกมาเป็นหยดเลือด คำร้องห้ามไม่เป็นผล แม้มือเล็กพยายามผลักไสไม่ให้เขาก้มลงไปแต่สุดท้ายแล้ว นางก็ได้แต่อ่อนระทวยเพราะลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในกลีบดอกไม้สาวกลิ่นหอมหวานทำให้ชายหนุ่มแทบคลุ้มคลั่ง ลิ้นร้อนโลมเลียกลีบเนื้อสีหวานจนเรียวขางามสั่นระริก ยิ่งเขาตวัดลิ้นไล้เลียสลับกับใช้ลิ้นรุกรานในร่องรัก หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ความร้อนรุ่มแผ่ไปทั่วร่าง ลมหายใจหอบกระชั้นดังอย่างต่อเนื่อง หยาดน้ำตาคลอเบ้าตาของหญิงสาว สะโพกงามงอนส่ายยั่วเย้าอย่างไม่รู้ตัว ความเสียวซ่านทำเอาจ้าวจื่อรั่วได้แต่ครางอย่างสุดทนกลั้น ถูกลิ้นและนิ้วมือเร่งเร้าจนร่างกายเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมากู้ตงหยางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฉ่ำหยาดน้ำตาของภรรยาตัวน้อย นางได้แต่สะอึกสะอื้นกับสัมผัสที่เขาตระเตรียมให้นางเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่โตนี้ หากนางไม่ใช่ภรรยาของเขา เขาคงไม่ต้องใส่ใจว่านางจะรับได้ไหวหรือไม่ เขายื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ความปรารถนาอันแข็งขันที่ทำให้เขาปวดหนึบอยู่นี้ทำให้เขาเร่งรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนจนหมด แล้วจับมือนางมาแตะที่รอยแผลเป็นบนแผ่นอก“กลัวหรือไม่” เขาถามเสียงแหบพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 11.แค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง

    เสี่ยวฉู่ร้อนรน แรกทีเดียวพอรู้ว่าท่านแม่ทัพมาค้างเรือนฮูหยิน พวกบ่าวไพร่ต่างตื่นเต้นยินดี ทว่าปกติฮูหยินตื่นเช้า แต่วันนี้สายแล้วก็ยังไม่เห็นฮูหยินปรากฏกาย แม้ท่านแม่ทัพเอ่ยปากสั่งไว้ว่าไม่ต้องปลุกฮูหยิน แต่เสี่ยวฉู่รู้สึกผิดปกติ เมื่อเข้ามาจึงรู้ว่าฮูหยินมีไข้ซ้ำยังอ่อนเพลียมาก นางเป็นหญิงยังไม่ได้ออกเรือนแต่ก็พอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาทำให้ฮูหยินบอบช้ำถึงเพียงนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” จ้าวจื่อรั่วฝืนยิ้ม “ให้แม่ครัวทำโจ๊กให้ข้าสักถ้วยก็พอ อ้อ! ขอน้ำขิงใส่น้ำตาลทรายแดงให้ข้าด้วย” “แต่ว่า...” “แม้แต่เจ้าก็ยังขัดใจข้ารึ”นางแสร้งทำเสียงดุ เสี่ยวฉู่จึงก้มหน้างุดแล้วเดินออกไป เมื่อในห้องไม่มีผู้ใดแล้วนางก็ถอนหายใจออกมา นิ้วเรียวงามแตะรอยช้ำที่ต้นคอเบาๆ หากเป็นหญิงที่เขารัก เขาคงไม่ทำรุนแรงถึงเพียงนี้สินะ แล้วนางจะทำอย่างไรได้ เป็นแค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง ซ้ำฐานะที่แท้จริงก็เป็นเพียงลูกอนุในจวนเท่านั้น แค่เขาไม่หักหน้านาง ไม่เอาเรื่องคนในสกุลจ้าว ก็นับว่าดีมากแล้วจ้าวจื่อรั่วหย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 12. เรือนท้ายจวน

    “ท่านแม่ทัพมาถึงเรือนท้ายจวน ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดให้ข้ารับใช้เจ้าคะ” จ้าวจื่อรั่วยืดแผ่นหลังตั้งตรง แม้อยู่ในจวนสกุลจ้าว นางทำงานไม่ต่างจากสาวใช้ แต่กระนั้นฮูหยินที่เชิญนางข้าหลวงจากในวังมาสอนกิริยามารยาทของบุตรสาว ก็ยังให้นางเรียนรู้อบรมเรียนรู้พร้อมกัน ยามนี้จึงได้งัดวิชายุทธ์ออกมาใช้อย่างไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด“ท่านแม่ทัพเป็นห่วงว่าข้าจะเหงา เลยตั้งใจมาพาข้ามาหาเจ้าอย่างไรเล่า” เฉียวฉู่ฉีกยิ้มอ่อนหวานแล้วเดินไปเกาะแขนอีกฝ่ายด้วยท่าทีสนิทสนม“ท่านแม่ทัพช่างใส่ใจฮูหยินยิ่งนัก”อ้ายเสิ่นมองแม่ทัพใหญ่ด้วยสายตาชื่นชม เขายกย่องบุรุษผู้นี้มาก ในสนามรบวางแผนเฉียบขาดแม้ผู้อื่นร่ำลือว่าโหดเหี้ยม แต่บุรุษผู้นี้ทอดทิ้งผู้อื่นไว้ด้านหลัง เหล่าพี่น้องทหารหาญล้วนเทิดทูนแม่ทัพกู้เหนือสิ่งใด แน่นอนว่า เขาที่ยังไม่มีภรรยา เห็นท่านแม่ทัพใส่ใจฮูหยินย่อมต้องเก็บไว้เผื่อใช้กับภรรยาในอนาคตของตนเอง พอเผลอคิดไปไกลถึงเพียงนี้ อ้ายเสิ่นเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาเจอหญิงงามมาไม่น้อย แต่สตรีนางนี้งดงามและให้ความรู้สึกสงบใจยามอยู่ใกล้ หากมีวาสนาได้หญิงงามเช่นนี้เป็นภรรยา ชีวิตของเขาคงเหมือนอยู่ในส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 13. เหตุใดเขาต้องหงุดหงิดเช่นนี้

    “เจ้าปวดท้องก็ไปนอนพัก ประเดี๋ยวข้าจะไปรายงานฮูหยินเอง”“ฝากด้วยนะเจ้าค่ะ ท่านพ่อบ้าน”เพราะท่านพ่อบ้านรับมือได้ทุกสถานการณ์ การส่งพ่อบ้านไปจะไร้พิรุธมากที่สุด บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ภาวนาขอพรจากสวรรค์ให้ฮูหยินกับท่านแม่ทัพได้ปรับความเข้าใจกันเสียทีจ้าวจื่อรั่วถอนหายใจหนักหน่วงเมื่อรู้ว่าตนต้องนำเสื้อคลุมไปส่งท่านแม่ทัพเอง จู่ๆ เสี่ยวฉู่ก็ปวดท้อง พ่อบ้านก็เจ็บเข่า แน่นอนว่าผู้อื่นไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม่ทัพกู้ นางไม่อยากเห็นเขากับแม่นางเฉียวฉู่ แต่อย่างไรนางจะให้เจ็บกับคนป่วยไปทำแทนก็ไม่ได้ หญิงสาวกัดริมฝีปากครุ่นคิด เวลานี้ท่านแม่ทัพคงยังไม่กลับจากค่ายทหารกระมัง นางรีบนำไปวางไว้ก็พอหญิงสาวหอบเสื้อคลุมที่ตั้งใจทำให้นั้น ร่างแบบบางเดินไปที่เรือนของแม่ทัพกู้ เดิมทีเคยคิดใช้ ‘สิ่งนี้’ สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างสามีภรรยา แต่ดูแล้วไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนไม่เป็นที่ถูกใจบุรุษผู้นั้น อย่างไรนางก็เป็นภรรยา จะละเลยหน้าที่ดูแลเขาก็ไม่ได้ นางคิดว่าเขาไม่อยู่ที่เรือนก็โล่งใจเพราะนอกประตูก็ไม่มีทหารยาวเฝ้า ทว่าเมื่อก้าวเข้าไปกลับพบว่าบุรุษที่ไม่อยากพบหน้ากำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างที่โต๊ะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 14.แม้สงสัยแต่ไม่ได้เอ่ยถาม

    จ้าวจื่อรั่วมีของใช้ส่วนตัวไม่มาก ใครเลยจะรู้ว่าใช้เวลาเพียงชั่วยามเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย รวมทั้งเพิ่มหมอนและเปลี่ยนผ้าห่มบนเตียงนอนของท่านแม่ทัพ นางปรายตามองทางกู้ตงหยางที่ยังนั่งดื่มน้ำชาอ่านรายงานราวกับไม่เห็นว่ามีคนมากมายเครื่องย้ายสิ่งของเข้ามาในห้อง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี พ่อบ้านก็พาบ่าวรับใช้ออกไปหมดสิ้นกู้ตงหยางเห็นไม่มีผู้อื่นแล้วจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบจดหมายยื่นให้จ้าวจื่อรั่วนางรับจดหมายมาด้วยยิ้มแล้วก้าวเดินออกไปหมายจะไปอ่านจดหมายของน้องชาย แต่กู้ตงหยางคว้าไหล่นางมาไว้ก่อน หญิงสาวหันมามองด้วยความงุนงง เขากดไหล่ให้นางนั่งที่เก้าอี้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบที่ริมหู“เจ้าอ่านจดหมายในห้องนี้” “เหตุใดต้องบังคับกันด้วย” “ข้าไม่ได้บังคับ แต่ข้าสั่ง” เขายิ้มที่มุมปาก “หากอยากเขียนจดหมายตอบคนที่บ้านก็ทำได้ แต่ส่งให้ข้าอ่านก่อน” “ท่านต้องทำถึงเพียงนี้เชียวรึ “ นางไม่อยากเชื่อเลย “หรือเจ้าไม่อยากเขียนจดหมายถึงน้องชายก็ได้” “ข้าทราบแล้ว” นางหงุดหงิดแต่ก็ยอมนั่งอ่านจดหมายในห้องนั้น เพราะสนใจแต่เรื่องราวในหน้ากระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05

บทล่าสุด

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่47.  ตื่น

    แสงที่กระทบเปลือกตาทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว ดวงตางดงามค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้วเมื่อตั้งสติตื่นเต็มตาจึงรู้ว่าตัวเองหลับในเรือนหลังหนึ่ง นางยันกายขึ้นนั่งด้วยความอ่อนเพลีย อยู่บนรถม้ามาสองวันสองคืน หยุดพักแค่ให้เธอปลดทุกข์และเปลี่ยนม้า จ้าวจื่อรั่วไม่รู้ว่าตัวเองมาที่ใด แม้จะหลับๆตื่นๆมาตลอดทางจนกระทั่งรถม้าหยุดนิ่งและชายผู้นั้นยื่นหน้าเข้ามาในรถม้า หญิงสาวจำได้ว่าตัวเองกระถดกายถอยหนี ชายผู้นั้นกระชากข้อเท้านางไว้ หญิงสาวกลัวว่าจะกระทบเทือนถึงลูกในท้องจึงไม่กล้าขัดขืน เขาใช้เสื้อคลุมห่อตัวนางก่อนอุ้มลงมาแล้วก้าวเดินอย่างมั่นคงเข้ามาในเรือนหลังนี้ ด้วยความอ่อนเพลีย นางหลับไปบนเตียงอ่อนนุ่มที่ไม่ได้สัมผัสมานาน และความอบอุ่นจากเตาไฟในห้องทำให้หลับสบายจนตื่นสายเช่นนี้ “แม่นาง...ท่านตื่นแล้วรึ” หญิงสาวหันไปตามเสียงที่ได้ยิน ผู้ที่เข้ามาเป็นเด็กสาววัยสิบห้าใบหน้ากลมแลดูน่ารักน่าเอ็นดู เสียดายที่แววตาคู่นั้นดูหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา “อืม” นางตอบรับเบาๆ “นี่คงเที่ยงแล้วกระมัง” เด็กสาวพยักหน้ารับแล้วหมุนตัวเดินออกไป ไม่กี่อึดใจก็

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่46. สัญญา

    กู้ตงหยางยืนตระหง่านท่ามกลางเหล่าทหารและบ่าวไพร่ในจวน ยกเว้นเสี่ยวฉู่ที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ โดยมีอ้ายเสิ่นประคองภรรยาอยู่ไม่ห่าง แม้ทั้งสองอยากคุกเข่าแต่แม่ทัพกู้ยกมือห้ามไว้ก่อนแม่ทัพหนุ่มแหงนหน้ามองฟ้า เหตุใดโชคชะตาเล่นตลกถึงเพียงนี้ เขาทำเมียหายอีกครั้งและนางกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง ทั้งที่เคยสัญญากันไว้แล้ว หากนางตั้งครรภ์อีกครั้ง คราวนี้เขาจะอยู่เคียงข้างนางไม่ปล่อยให้นางตกระกำลำบากอีก แต่...มันก็เกิดขึ้นอีก “ลุกขึ้น” กู้ตงหยางสั่งแต่ยังไม่มีผู้ใดกล้าลุกขึ้นยืน เขาขบฟันจนเป็นสันนูนก่อนตวาดออกมา “พวกเจ้าว่างนักหรือไง ไม่คิดจะตามหาฮูหยินของข้าเรอะ!” ได้ยินดังนั้นทุกขึ้นจึงลุกขึ้นยืนพร้อมเพรียงกัน แววตาทุกคนมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยฮูหยินผู้มีจิตใจประเสริฐกลับมา “พวกเจ้าไปเตรียมตัวไว้ให้พร้อม รอข้าวางแผนแล้วจะเร่งออกเดินทาง” กู้ตงหยางสั่ง “เรื่องนี้ต้องให้เงียบที่สุด รู้เพียงแค่ว่าฮูหยินเก็บตัวอยู่ในจวนไม่พบผู้ใด” “รับทราบ!” แม่ทัพหนุ่มปรายตามองสาวใช้คนสนิทของจ้าวจื่อรั่วแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ “เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด ให้อ้ายเสิ่น

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่45. พายุฝนกระหน่ำลงอย่างหนัก

    ใครจะคาดคิดชีวิตที่สงบสุขมานานผลันเกิดเรื่องพลิกผันพายุฝนกระหน่ำลงอย่างหนัก แสงแปลบปลาบทำให้กลางคืนสว่างวาบขึ้นมาและทำให้ชายหนุ่มมองเห็นใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาเงยหน้าขึ้นมองเขาพอดี ดวงตาเย็นชาจ้องมองอย่างไร้ความรู้สึก ทว่ายังกวาดตามองไปเห็นที่ข้อเท้าของนางถูกบ่วงดักสัตว์ป่ารัดเท้าไว้แน่นหนา แม้ตัวนางจะเปื้อนเปรอะไปด้วยโคลนแต่น้ำฝนที่กระหนำลงมาก็เผยใบหน้าขาวซีดและริมฝีปากที่สั่นระริก “ท่านผู้บัญชาการ” นายทหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแข่งกับเสียงฝนที่ยังกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา “จับผู้หลบหนีได้แล้วขอรับ” ซย่าเจียวซิ่ง เพียงพยักหน้ารับการรายงานแล้วตัดสินใจลงจากหลังม้า เดินตรงไปยังพุ่มไม้ด้านข้างที่มีร่างหญิงสาวคนนั้นซ่อนตัวอยู่ จ้าวจื่อรั่วเห็นชายผู้นั้นชักมีดสั้นออกมาก็ขดตัวห่อไหล่ด้วยความกลัว หรือว่านี่จะเป็นจุดจบชีวิตของนางแล้ว ไม่ได้นางต้องมีชีวิตกลับไปพบหน้าลูกและน้องชายรวมทั้งสามีของนาง นางหาทางหลบหนีพยายามไปให้ถึงค่ายทหาร ไม่น่าเลยนางไม่น่าประมาทถึงเพียงนี้อาจเพราะอยู่อย่างสงบสุขเกินไปทำไม่ระวังภัย ด้วยความต้องการแบ่งเบาภาระกู้ตงหยาง ทางชายแดนมีชาวบ้านอพยพเ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 44. ความสุข

    จ้าวเฟยฉีมองน้องเล็กส่ายหน้าไปมาแล้ว เขาเดินตรงไปหาพี่สาว ถอนหายใจบางเบาคราวหนึ่งก่อนเอ่ยออกมา“ตอนที่ข้ายังเด็กและก่อนที่ท่านแม่จะจากไป ท่านแม่พูดเสมอว่าให้ข้าเข้มแข็งคอยดูแลพี่ใหญ่ให้ดี แม้ในวันหน้าพี่ใหญ่ออกเรือนแล้วหากมีเรื่องใดก็ให้ช่วยเหลือ อย่าให้พี่ใหญ่ต้องโดดเดี่ยว”จ้าวจื่อรั่วนิ่งงันไป นางไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน“ท่านแม่พูดเช่นนั้นรึ”จ้าวเฟยหลิงยันกายขึ้นยืนได้ก็พูดขึ้น“ใช่ขอรับ ถึงตอนนั้นข้าจะยังเด็กมากๆ แต่ก็จำได้ว่าท่านแม่พูดเช่นนั้น ท่านแม่เป็นห่วงพี่ใหญ่ กลัวว่าหลังแต่งงานแล้วเข้าบ้านผู้อื่นจะถูกรังแก แต่เห็นท่านแม่ทัพ เอ๊ย! พี่เขยรักใคร่พี่ใหญ่เช่นนี้ พวกเราก็สบายใจและไม่ผิดต่อคำสั่งเสียของท่านแม่แล้ว”หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ที่ผ่านมานางเพียงจดจำคำสั่งสอนและคำสั่งเสียสุดท้ายให้ดูแลน้องชายทั้งสองให้ดี จ้าวเฟยฉีเก่งบุ๋นนิสัยสงบเยือกเย็นในขณะที่จ้าวเฟยหลิงเก่งบู๊ใจร้อนพร้อมปะทะ แต่นางไม่เคยรู้เลยว่าที่ผ่านมามารดาก็สั่งเสียให้น้องชายทั้งสองดูแลนาง คงเกรงว่านางจะมีชะตากรรมเช่นมารดาที่ถูกข่มเหงในบ้านผู้อื่น“อย่าร้องไห้” กู้ตงหยางเอ่ยเสียงทุ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 43. ทัณฑ์อสุรา ตอนพิเศษ

    หลิงหยุนในวัยสามขวบ แม้สวมเสื้อผ้าฝ้ายแต่การตัดเย็บแสนประณีต ดวงตากลมโตกะพริบตาอย่างงุนงงก่อนยื่นมือไปข้างหน้าแล้วส่งเสียงร้อง “แม่...ท่านแม่” ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าอ่อนหวานกระตุกยิ้มด้วยสีหน้าพิกล ท่ามกลางเสียงกลั้นหัวเราะของคนรอบข้าง “หยุนเอ๋อร์ แม่อยู่ทางนี้” จ้าวจื่อรั่วหัวเราะเบาๆ แล้วตบมือส่งเสียงเรียกลูกชายตัวน้อย เด็กน้อยเอียงคอมองไปทางเสียงที่คุ้นเคยก่อนวิ่งถลาไปทางมารดา ยังไม่ทันที่จะโผเข้ากอด มือใหญ่ก็คว้าคอเสื้อไว้ได้ทันแล้วหิ้วจนหลิงหยุนตัวลอยขึ้นจากพื้น “หยุนเอ๋อร์จะพุ่งใส่ท่านแม่แบบนั้นไม่ได้” กู้ตงหยางดุลูกชายเบาๆ แต่ดูเหมือนเด็กน้อยไม่เข้าใจนัก กลับหัวเราะชอบใจที่ตัวเองถูกหิ้วจนเท้าลอยเหนือพื้นดินเช่นนี้ ช่างเป็นเด็กที่หัวเราะง่ายเสียจริง หากไม่เพราะใบหน้าน้อยๆ นี้มีเค้าโครงละม้ายคล้ายใบหน้าของผู้เป็นพ่อ ผู้อื่นคงไม่เชื่อว่าเด็กน้อยที่แสนร่าเริงเป็นบุตรชายของแม่ทัพปีศาจ ที่ใบหน้ามักเย็นชาอยู่เสมอ“ในท้องของท่านแม่เจ้า มีน้องของเจ้าอยู่นะ ต้องระวังให้มากๆ”“น้อง...” เด็กน้อยพูดเลียนแบบบิดา เด็กในวัยนี้พูดได้เพียงคำ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 42.บทส่งท้าย

    วันเวลาผันผ่าน หลิงหยุนอายุครบหนึ่งขวบปี กู้ตงหยางก็พาลูกชายและจ้าวจื่อรั่วเดินทางเข้าเมืองหลวงตามคำบัญชาของฮ่องเต้ ทั้งสามและผู้ติดตามเดินทางอย่างไม่รีบเร่งคล้ายท่องเที่ยวไปในพร้อมกัน กว่าจะมาถึงเมืองหลวงจึงใช้เวลาหนึ่งเดือน “ท่านพี่มีเรื่องในใจหรือเจ้าคะ” จ้าวจื่อรั่วถามหลังจากลูกชายหลับไปแล้ว “ข้าห่วงเพียงเจ้ากับลูกเท่านั้น” เขายื่นมือไปลูบแก้มนวลของภรรยาสาว “ท่านพี่คิดว่าฮ่องเต้ต้องการสิ่งใด” กู้ตงหยางถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนยิ้มออกมา“อย่างมากก็แค่ขอกำลังทหารคืน ข้าไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่เจ้าเล่าหากข้าไม่ได้เป็นแม่ทัพแล้ว เจ้าจะทำเช่นไร” “ข้าจะทำอะไรได้นอกจากเป็นภรรยาท่าน” นางหัวเราะเสียงใสไม่ได้หวาดกลัวสิ่งที่เขากังวล “ดีเสียอีก ท่านพี่เลี้ยงหลิงหยุนส่วนข้าจะเป็นหมอหญิงหาเงินเลี้ยงครอบครัวเอง” “ได้ เช่นนั้นชีวิตข้าต้องฝากในมือน้องหญิงแล้ว” ทั้งสองหัวเราะให้กัน ไม่หวั่นใจกับสิ่งที่กำลังเผชิญ จ้าวจื่อรั่วคว้าของสามีมาเกาะกุมไว้ ทั้งครอบครัวเดินทางเข้าเมืองหลวงพักที่คฤหาสน์หลังงามที่กู้ตงหยางซื้อไว้

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 41. กลับจวน

    “อะไรกัน เจ้ามั่นใจได้อย่างไรว่าถอนพิษให้ข้าหมดแล้ว”“ท่านมีเรี่ยวแรงขนาดนี้ พิษคงถูกขับออกไปหมดสิ้นแล้ว” นางขึงตาใส่ทั้งที่แก้มเนียนแดงเรื่อ“เรายังมีเวลาถึงเช้า รั่วเอ๋อร์ ขับพิษอีกเถิดนะ” เขาอ้อนวอนแล้วขบเม้มติ่งหูนางเบาๆ“ข้าไม่ทำแล้ว! ท่านไปให้หญิงอื่นขับพิษให้เถอะ!”“ถ้าไม่ใช่เจ้า ข้าก็ไม่ทำเรื่องเช่นนี้กับหญิงใด” เขาเงยหน้าสบตานางพูดด้วยความจริงจัง “ชีวิตข้ากู้ตงหยาง ขอมีเพียงจ้าวจื่อรั่วเป็นภรรยาเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”“ท่าน...”“ข้าสาบาน...”“ไม่ต้องสาบาน” นางรีบห้ามเขาไว้ “ข้าเชื่อใจท่าน”เขายิ้มดีใจแล้วจุมพิตหน้าผากภรรยาสาว “ทำไมเจ้าเชื่อใจข้า”“ซูเม่ยบอกว่า บุรุษไม่ได้ปลดปล่อยมานานครั้งแรกจะเสร็จเร็ว เมื่อครู่...ครั้งแรกของท่านก็เร็วนะ”“หือ? พูดเช่นนี้เห็นทีต้องพิสูจน์อีกรอบ เจ้าจะได้รู้ว่าข้าเสร็จเร็วหรือไม่”“พอแล้ว! ข้าเหนื่อย!”“ไม่เป็นไร ครั้งนี้ข้าจะปรนนิบัติเจ้าเอง”เสียงหวานครางกระเส่าดังขึ้นอีกครั้ง ในห้องที่มีเพียงแสงเทียนสลัวจวบจนเทียนเล่มน้อยหลอมละลายไปพร้อมคนทั้งสอง การเคลื่อนไหวในห้องจึงหยุดลง แต่เส้นทางของหัวใจสองดวงราวกับเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ทว่าครั้งนี้เ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 40 .อีกครั้ง

    อาจเพราะร่างกายที่ผ่านการฝังเข็มมายาวนานหกชั่วยามทำให้ร่างกายยังไร้เรี่ยวแรง กู้ตงหยางได้แต่มองภรรยาสาวบรรจงจุมพิตไปทั่วร่าง ลิ้นเปียกชื้นสัมผัสรอยแผลเป็นอย่างไม่รังเกียจหรือหวาดกลัว ท่อนล่างมีเพียงผ้าผืนยาวคลุมปกปิดไว้ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่นางทำเกี่ยวกับการถอนพิษอย่างไร แต่หวังใจให้นางสัมผัสเขามากกว่านั้นมือเรียวเล็กกอบกุมแก่นกายที่อยู่ใต้ผ้า มันแข็งขันท้าทายแต่ยังไม่พร้อมสู้แม้ขยับรูดไปมาก็ยังไม่ตั้งชัน จ้าวจื่อรั่วเม้มริมฝีปากกลั้นความกระดากอายแล้วเลื่อนผ้าผืนนั้นออก สิ่งนั้นจึงผงาดขึ้น แต่นางจำได้ว่ามันเคยแข็งแกร่งมากกว่านี้ หญิงสาวตัดสินใจโน้มใบหน้าลงแล้วอ้าปากครอบครองแก่นกายของสามี“อา....” กู้ตงหยางครางกระเส่า ไม่คิดว่าภรรยาตัวน้อยจะกล้าทำในสิ่งที่บุรุษปรารถนาเช่นนี้ เขาผงกศีรษะขึ้นมองนางค่อยๆดูดกลืนลำเอ็นไปจนหมดก่อนขยับศีรษะดูดดึงสร้างความเสียวซ่านจนเขาแทบคลั่งเสียงครวญครางที่ไม่อาจกลั้นได้ของเขายิ่งทำให้หญิงสาวลำพองใจ ซูเม่ยให้นางศึกษาตำรากามสูตร ยามเปิดดูก็เขินอายจนหน้าร้อนผ่าว แต่เมื่อลงมือทำจริงกับบุรุษที่เป็นสามีนาง ความเขินอายจึงลดลง มือเรียวลูบไล้ก้อนเนื้อกลมๆ พลา

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 39. ขอบคุณ   

    “ท่านแม่... ข้าขอบคุณท่าน ที่ผ่านมาหากไม่มีท่านพ่อกับท่านแม่ข้ากับลูกคงไม่มีวันนี้” “คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องดูแลลูกอยู่แล้ว” นางพูดด้วยรอยยิ้ม นอกจากมารดาที่ให้กำเนิดแล้ว จ้าวจื่อรั่วไม่เคยได้รับความรักจากใครเช่นนี้มาก่อน ขอบตาจึงร้อนผ่าวขึ้นมา นับว่าสวรรค์ยังเมตตาส่งนางมาพบคนทั้งสองทั้งช่วยชีวิตนางกับลูกและยังรักใคร่เอ็นดูนางอย่างแท้จริง ฉินหวังเหล่ยก้าวเข้ามาในห้อง เขามองจ้าวจื่อรั่วส่งลูกให้ซูเม่ยอุ้มแล้วจึงพูดขึ้น“ท่านอาจารย์ให้เจ้าเข้าไปในห้องได้แล้ว” “ข้าทราบแล้ว” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ “ขอบคุณพี่หวังเหล่ยที่ช่วยเหลือเจ้าค่ะ” “เจ้าคงไม่เปลี่ยนใจแล้วสินะ” ฉินหวังเหล่ยถอนหายใจ “หนึ่งปีผ่านมาในใจเจ้าก็ยังมีเขาอยู่เสมอมา” “ข้า...” “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมาแล้วหัวเราะเสียงปร่า “เจ้าเป็นศิษย์น้องของข้า ชายผู้นั้นก็คงเรียกได้ว่าเป็นน้องเขย ข้านี่ช่างโชคดีเสียจริงที่มีน้องเขยเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แห่งแดนใต้” ได้ยินฉินหวังเหล่ยพูดจาหยอกล้อเช่นนี้ นางก็พลอยสบายใจขึ้นมาบ้าง หญิงสาวยิ้มน้อยๆ แล้วเ

DMCA.com Protection Status