หน้าหลัก / รักโบราณ / ทัณฑ์อสุรา / ตอนที่ 8.ข้าเหมือนสาวใช้รึ?

แชร์

ตอนที่ 8.ข้าเหมือนสาวใช้รึ?

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-03 09:09:05

            “เสี่ยวฉู่...ข้าเหมือนสาวใช้รึ?”

            “เอ๋?”  สาวใช้หันมามองผู้เป็นนายแล้วกวาดตาขึ้นลง “ทำไมฮูหยินถามเช่นนั้นเจ้าคะ”

            “ช่างเถอะ ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”

            “ใครมันตาไร้แววมองฮูหยินเป็นสาวใช้ บอกข้ามาเลยเจ้าค่ะ ข้าเสี่ยวฉู่จะไปจัดการเอง!”

            จ้าวจื่อรั่วหัวเราะออกมา เจ้าแพะน้อยเงยหน้ามองเจ้าของมือเรียวที่กำลังบิแป้งทอดให้มันกิน หัวทุยๆ ดันมือของนางเบาๆ ราวกับจะร้องขอของกินเพิ่ม

            “แกจะกินทุกอย่างไม่ได้นะเปาเป่า”

เสี่ยวฉู่แยกเขี้ยวใส่แล้วยื่นมือไปคว้าแป้งทอดที่เหลือครึ่งแผ่นยัดใส่ปากตัวเอง เจ้าแพะน้อยไม่พอใจที่ถูกแย่งของกิน พุ่งเข้าใส่ เสี่ยวฉู่ถึงกระโดดหลบไปมา ทำให้จ้าวจื่อรั่วหัวเราะจนน้ำตาคลอเบ้า

            “แป้งทอดมีตั้งหลายชิ้น เจ้าจะไปแย่งของเปาเป่าทำไมกัน”  จ้าวจื่อรั่วส่ายหน้าไปมา นึกถึงเฟยฉีและเฟยหลิง-น้องชายทั้งสองชอบกินขนมที่นางทำมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไร ได้กินอิ่มนอนหลับ กลางคืนมีคนห่มผ้าให้หรือไม่

            “ก็ของอร่อยเช่นนี้ ข้าก็หวงเป็นธรรมดา”

            “แค่แป้งทอดเอง”

            “ฮูหยินทำให้ท่านแม่ทัพกินด้วยสิเจ้าคะ”

            จ้าวจื่อรั่วชะงักไป “ท่านแม่ทัพคงไม่กินของเช่นนี้หรอกกระมัง”

            “ฮูหยินไม่รู้อะไร”  เสี่ยวฉู่ทำตาโต “ท่านแม่ทัพของเรากินง่ายอยู่ง่าย ไม่เช่นนั้นคงจ้างพ่อครัวจากโรงเตี้ยมใหญ่ๆมาแล้ว แต่เพราะต้องการจ้างท่านป้าที่สูญเสียลูกชายไปในสนามรบ แม้จะทำอาหารที่ชาวบ้านกินกัน แต่ท่านแม่ทัพก็ไม่เคยบ่นสักคำ ตั้งแต่ฮูหยินเข้าครัวไปทำอาหารเอง ท่านแม่ทัพของเรากินข้าวเยอะขึ้นกว่าเดิมอีกนะเจ้าค่ะ”

            “จริงรึ” 

หญิงสาวหันไปถามสาวใช้ นางแค่อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ และในฐานะที่ตนเป็นฮูหยินก็ต้องดูแลสามีให้ดี ข้าวปลาอาหารและเสื้อผ้า รวมทั้งเรื่องในบ้าน นางควรรับผิดชอบให้ดี จึงทำตามหน้าที่แต่ไม่คิดว่าคนผู้นั้นจะชอบรสอาหารที่นางทำ

            “จริงเจ้าค่ะ  ถ้าฮูหยินไม่เชื่อ เรียกบ่าวคนอื่นมาสอบถามก็ได้”

            “ไม่ต้องหรอก” จ้าวจื่อรั่วก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม “เจ้าอยู่กับท่านแม่ทัพมานาน เขา...เขาชอบกินอะไรบ้างล่ะ”

            เสี่ยวฉู่หยุดคิดเล็กน้อย ปกติท่านแม่ทัพไม่เคยเรื่องมากเรื่องอาหาร อาจเพราะอยู่ในกองทัพจนชินชา เรียกว่ากินให้อิ่มท้องแต่จะอร่อยลิ้นหรือเปล่าก็ไม่อาจรู้

            “ข้าก็เห็นท่านแม่ทัพกินได้ทุกอย่าง”  นางพูดเสียงเบาแล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก็รีบพูดขึ้น “ฮูหยินก็กินอาหารกับท่านแม่ทัพสิเจ้าคะ จะลองสังเกตดูว่าท่านแม่ทัพชอบอะไร”

            คราวนี้จ้าวจื่อรั่วยิ้มไม่ออก เขาไม่เคยเรียกนางไปกินอาหารด้วย มีแต่สั่งให้นางนำอาหารไปส่งให้แม่นางเฉียวฉู่ คิดถึงเรื่องนี้แล้ว นางก็ล้มเลิกความคิดที่จะทำอาหารเอาใจสามีไปทันที

            “เปาเป่ากลับไปนอนที่คอกของตัวเองได้แล้วนะ”

            แพะน้อยได้ยินก็ไม่ค่อยพอใจนัก มันวิ่งมาใช้หัวดันฝ่ามือของจ้าวจื่อรั่ว

            “ไม่ได้ อย่าดื้อ ข้าต้องไปเย็บผ้าอีก”  นางหัวเราะออกมา หากไม่มีแพะน้อยแล้ว นางคงไม่รู้จะพูดคุยกับใครอีก “เสี่ยวฉู่ เจ้าพาเปาเป่าไปเข้าคอกแล้วก็กลับไปพักผ่อนได้”

            “ไม่ให้ข้าดูแลฮูหยินอีกหน่อยหรือเจ้าคะ ยังไม่ค่ำเลย”

            “ไม่มีอะไรแล้ว”  หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ อย่างไรคนผู้นั้นก็ไม่มาหานาง ไม่จำเป็นต้องให้บ่าวไพร่อยู่รอปรนนิบัติ  “ข้าจะไปปักผ้า”

            “เจ้าค่ะ”

เสี่ยวฉู่รู้ว่าฮูหยินต้องการอยู่เพียงลำพัง นางก็ไม่รู้จะช่วยฮูหยินที่แสนดีอย่างไร ท่านแม่ทัพก็เป็นนายที่นางจงรักภักดี หากท่านแม่ทัพจะรับภรรยาเพิ่มจริงๆ แม้นางไม่พอใจ แต่จะทำสิ่งใดได้  นางกับคนอื่นในจวนก็ได้แต่เห็นใจฮูหยินเท่านั้น

            จ้าวจื่อรั่วมองสาวใช้จูงแพะน้อยออกไปแล้วก็เดินกลับเข้ามาในเรือน แต่เดิมนางก็ไม่มีสาวใช้ข้างกาย ออกจากเมืองหลวงก็ไม่มีผู้ใดติดตามมา ใช้ชีวิตทำอะไรด้วยตนเองจนคุ้นชินไปหมดแล้ว นางเข้ามาอาบน้ำอุ่นผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดนอน พลันนึกถึงที่ตนถูกคนทักว่าเป็นสาวใช้ถึงสองครั้ง  หญิงสาวก้มมองเรือนร่างตนเอง พลางคิดถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ เมื่อครั้งที่อยู่ในจวนสกุลจ้าว นางก็ไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งกายงดงามนัก ใส่ได้เพียงแค่เสื้อผ้าสีเรียบๆ

ท่านแม่สอนงานเย็บปักและทำอาหาร นางยังจดจำได้ว่าท่านแม่เพียรพยายามเอาอกเอาใจท่านพ่อมากเพียงใด ต้องคอยดูสีหน้าคนในจวน ปักถุงเงินให้ผู้อื่นเป็นสินน้ำใจ เพียงเพื่อให้ลูกทั้งสามได้กินอิ่ม  การมีบุตรชายถึงสองคนควรจะนำพาให้ชีวิตความเป็นอยู่ของมารดาให้ดีขึ้น ทว่ามารดากลับถูกกลั่นแกล้งสารพัด  ท่านพ่อก็จะพาน้องชายทั้งสองไปให้ฮูหยินใหญ่เลี้ยงดู แต่มารดาของนางขอร้องไว้ จนกระทั่งนางสิ้นใจ แม้ฮูหยินใหญ่รับน้องชายทั้งสองไปเลี้ยง  แต่ความเป็นอยู่ก็ไม่ได้ดีนัก นางต้องดูแลอยู่ห่างๆ ข้าวปลาอาหาร เสื้อผ้าที่สวม รวมทั้งคอยเคี่ยวเข็ญให้ทั้งสองฝึกอ่านตำรและเขียนอักษร

จ้าวจื่อรั่วหัวเราะเบาๆ นึกถึงที่น้องรองเคยโกรธที่นางเคี่ยวเข็ญให้อ่านตำราอย่างหนัก  ยามนี้นางไม่ได้อยู่ใกล้ๆ  พวกเขาไม่ต้องทนฟังนางบ่นอีก คงมีความสุขดีไม่มีใครคิดถึงพี่สาวคนนี้แล้วกระมัง

            ความน้อยใจทำให้หัวใจเจ็บแปลบ นางได้แต่หัวเราะโชคชะตา เป็นถึงฮูหยินแม่ทัพใหญ่ แต่...มีคนทักว่าเป็นสาวใช้...

            นางเปิดกล่องเครื่องประดับแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ มีสร้อยไข่มุกหนึ่งเส้น กำไลหยกหนึ่งวง ต่างหูมุกอีกหนึ่งคู่ ปิ่นหยกสองอัน ช่างดูอัตคัดยิ่งนัก ก็สมควรแล้วที่ถูกผู้อื่นคิดว่าเป็นสาวใช้  มือเรียวปิดกล่องเครื่องประดับแล้วหยิบแปรงมาหวีผมพลางมองตนเองในกระจกเงา เสื้อผ้านางก็มีแค่สีเรียบๆ แม้นางมีฝีมือในการปักผ้าแต่ไม่กล้าปักลวดลายเพิ่มให้อาภรณ์ของตนเอง เกรงว่าผู้อื่นจะคิดว่านางแต่งกายยั่วยวนบุรุษอื่น  ยิ่งอยู่ในจวนแม่ทัพที่มีบุรุษเดินเข้าออกตลอดวัน แม้นางใช้ชีวิตในเรือนแทบไม่เจอผู้ใดก็ตาม   มีสตรีใดบ้างเล่าไม่ชอบแต่งกายสวยงาม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 9. แม่ทัพย่องเข้าห้องเมีย

    นางยังจำความรู้สึกริษยาและน้อยใจที่เห็นพี่สาวน้องสาวต่างมารดาได้แต่กายงดงาม ได้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน แต่นางกลับได้ใช้ชีวิตไม่ต่างจากสาวใช้ มีเรื่องดีก็เพียงแค่ได้ฝีกเรียนเขียนอ่านกับอาจารย์ที่ฮูหยินใหญ่เชิญมาสอนคุณหนูใหญ่ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา เหตุใดช่วงนี้นางรู้สึกอ่อนไหวง่ายเหลือเกิน แต่ก่อนก็ไม่เคยร้องไห้ง่ายนัก เหตุใดยามนี้มีเรื่องกระทบจิตใจเล็กๆน้อยๆ น้ำตาก็พร้อมจะหลั่งริน นางไม่เข้าใจนัก ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่าคิดมาก จดหมายจากเมืองหลวงต้องใช้เวลา บางทีน้องๆ อาจส่งมาแล้วแต่ยังมาไม่ถึงมือ คิดได้ดั่งนี้ก็ใจชื้นขึ้นมาร่างผอมบางดุจกิ่งหลิวเดินมาที่หน้าต่าง แหงนหน้ามองพระจันทร์กลมโต หากคืนใดน้องเล็กไม่ได้ฟังนางเล่านิทานก็จะนอนไม่หลับ นางจะขยับมือเป็นหุ่นเงารูปสัตว์ต่างๆ หลอกล่อให้น้องเล็กหลับใหล จ้าวจื่อรั่วยกมือเรียวของตนขึ้นทั้งสองมือ กางมือออกโดยให้นิ้วโป้งทั้งสองมือชิดกัน แล้วค่อยๆ ขยับปลายนิ้วที่เหลือ นางมองเงาที่ทอดยาวไปที่ผนังเกิดเป็นรูปร่างผีเสื้อพลางขยับนิ้ว เงาผีเสื้อก็ขยับปีกราวกับมีชีวิตโบกบินใต้แสงจันทร์ นางขยับตัวหมุนไปมาพร้อมขยับมือเป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 10.ทำไมเขาหน้าหนาอย่างนี้นะ!

    ยามนี้ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำจนแทบคั้นออกมาเป็นหยดเลือด คำร้องห้ามไม่เป็นผล แม้มือเล็กพยายามผลักไสไม่ให้เขาก้มลงไปแต่สุดท้ายแล้ว นางก็ได้แต่อ่อนระทวยเพราะลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในกลีบดอกไม้สาวกลิ่นหอมหวานทำให้ชายหนุ่มแทบคลุ้มคลั่ง ลิ้นร้อนโลมเลียกลีบเนื้อสีหวานจนเรียวขางามสั่นระริก ยิ่งเขาตวัดลิ้นไล้เลียสลับกับใช้ลิ้นรุกรานในร่องรัก หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ความร้อนรุ่มแผ่ไปทั่วร่าง ลมหายใจหอบกระชั้นดังอย่างต่อเนื่อง หยาดน้ำตาคลอเบ้าตาของหญิงสาว สะโพกงามงอนส่ายยั่วเย้าอย่างไม่รู้ตัว ความเสียวซ่านทำเอาจ้าวจื่อรั่วได้แต่ครางอย่างสุดทนกลั้น ถูกลิ้นและนิ้วมือเร่งเร้าจนร่างกายเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมากู้ตงหยางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฉ่ำหยาดน้ำตาของภรรยาตัวน้อย นางได้แต่สะอึกสะอื้นกับสัมผัสที่เขาตระเตรียมให้นางเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่โตนี้ หากนางไม่ใช่ภรรยาของเขา เขาคงไม่ต้องใส่ใจว่านางจะรับได้ไหวหรือไม่ เขายื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ความปรารถนาอันแข็งขันที่ทำให้เขาปวดหนึบอยู่นี้ทำให้เขาเร่งรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนจนหมด แล้วจับมือนางมาแตะที่รอยแผลเป็นบนแผ่นอก“กลัวหรือไม่” เขาถามเสียงแหบพร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 11.แค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง

    เสี่ยวฉู่ร้อนรน แรกทีเดียวพอรู้ว่าท่านแม่ทัพมาค้างเรือนฮูหยิน พวกบ่าวไพร่ต่างตื่นเต้นยินดี ทว่าปกติฮูหยินตื่นเช้า แต่วันนี้สายแล้วก็ยังไม่เห็นฮูหยินปรากฏกาย แม้ท่านแม่ทัพเอ่ยปากสั่งไว้ว่าไม่ต้องปลุกฮูหยิน แต่เสี่ยวฉู่รู้สึกผิดปกติ เมื่อเข้ามาจึงรู้ว่าฮูหยินมีไข้ซ้ำยังอ่อนเพลียมาก นางเป็นหญิงยังไม่ได้ออกเรือนแต่ก็พอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาทำให้ฮูหยินบอบช้ำถึงเพียงนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” จ้าวจื่อรั่วฝืนยิ้ม “ให้แม่ครัวทำโจ๊กให้ข้าสักถ้วยก็พอ อ้อ! ขอน้ำขิงใส่น้ำตาลทรายแดงให้ข้าด้วย” “แต่ว่า...” “แม้แต่เจ้าก็ยังขัดใจข้ารึ”นางแสร้งทำเสียงดุ เสี่ยวฉู่จึงก้มหน้างุดแล้วเดินออกไป เมื่อในห้องไม่มีผู้ใดแล้วนางก็ถอนหายใจออกมา นิ้วเรียวงามแตะรอยช้ำที่ต้นคอเบาๆ หากเป็นหญิงที่เขารัก เขาคงไม่ทำรุนแรงถึงเพียงนี้สินะ แล้วนางจะทำอย่างไรได้ เป็นแค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง ซ้ำฐานะที่แท้จริงก็เป็นเพียงลูกอนุในจวนเท่านั้น แค่เขาไม่หักหน้านาง ไม่เอาเรื่องคนในสกุลจ้าว ก็นับว่าดีมากแล้วจ้าวจื่อรั่วหย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 12. เรือนท้ายจวน

    “ท่านแม่ทัพมาถึงเรือนท้ายจวน ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดให้ข้ารับใช้เจ้าคะ” จ้าวจื่อรั่วยืดแผ่นหลังตั้งตรง แม้อยู่ในจวนสกุลจ้าว นางทำงานไม่ต่างจากสาวใช้ แต่กระนั้นฮูหยินที่เชิญนางข้าหลวงจากในวังมาสอนกิริยามารยาทของบุตรสาว ก็ยังให้นางเรียนรู้อบรมเรียนรู้พร้อมกัน ยามนี้จึงได้งัดวิชายุทธ์ออกมาใช้อย่างไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด“ท่านแม่ทัพเป็นห่วงว่าข้าจะเหงา เลยตั้งใจมาพาข้ามาหาเจ้าอย่างไรเล่า” เฉียวฉู่ฉีกยิ้มอ่อนหวานแล้วเดินไปเกาะแขนอีกฝ่ายด้วยท่าทีสนิทสนม“ท่านแม่ทัพช่างใส่ใจฮูหยินยิ่งนัก”อ้ายเสิ่นมองแม่ทัพใหญ่ด้วยสายตาชื่นชม เขายกย่องบุรุษผู้นี้มาก ในสนามรบวางแผนเฉียบขาดแม้ผู้อื่นร่ำลือว่าโหดเหี้ยม แต่บุรุษผู้นี้ทอดทิ้งผู้อื่นไว้ด้านหลัง เหล่าพี่น้องทหารหาญล้วนเทิดทูนแม่ทัพกู้เหนือสิ่งใด แน่นอนว่า เขาที่ยังไม่มีภรรยา เห็นท่านแม่ทัพใส่ใจฮูหยินย่อมต้องเก็บไว้เผื่อใช้กับภรรยาในอนาคตของตนเอง พอเผลอคิดไปไกลถึงเพียงนี้ อ้ายเสิ่นเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาเจอหญิงงามมาไม่น้อย แต่สตรีนางนี้งดงามและให้ความรู้สึกสงบใจยามอยู่ใกล้ หากมีวาสนาได้หญิงงามเช่นนี้เป็นภรรยา ชีวิตของเขาคงเหมือนอยู่ในส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 13. เหตุใดเขาต้องหงุดหงิดเช่นนี้

    “เจ้าปวดท้องก็ไปนอนพัก ประเดี๋ยวข้าจะไปรายงานฮูหยินเอง”“ฝากด้วยนะเจ้าค่ะ ท่านพ่อบ้าน”เพราะท่านพ่อบ้านรับมือได้ทุกสถานการณ์ การส่งพ่อบ้านไปจะไร้พิรุธมากที่สุด บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ภาวนาขอพรจากสวรรค์ให้ฮูหยินกับท่านแม่ทัพได้ปรับความเข้าใจกันเสียทีจ้าวจื่อรั่วถอนหายใจหนักหน่วงเมื่อรู้ว่าตนต้องนำเสื้อคลุมไปส่งท่านแม่ทัพเอง จู่ๆ เสี่ยวฉู่ก็ปวดท้อง พ่อบ้านก็เจ็บเข่า แน่นอนว่าผู้อื่นไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม่ทัพกู้ นางไม่อยากเห็นเขากับแม่นางเฉียวฉู่ แต่อย่างไรนางจะให้เจ็บกับคนป่วยไปทำแทนก็ไม่ได้ หญิงสาวกัดริมฝีปากครุ่นคิด เวลานี้ท่านแม่ทัพคงยังไม่กลับจากค่ายทหารกระมัง นางรีบนำไปวางไว้ก็พอหญิงสาวหอบเสื้อคลุมที่ตั้งใจทำให้นั้น ร่างแบบบางเดินไปที่เรือนของแม่ทัพกู้ เดิมทีเคยคิดใช้ ‘สิ่งนี้’ สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างสามีภรรยา แต่ดูแล้วไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนไม่เป็นที่ถูกใจบุรุษผู้นั้น อย่างไรนางก็เป็นภรรยา จะละเลยหน้าที่ดูแลเขาก็ไม่ได้ นางคิดว่าเขาไม่อยู่ที่เรือนก็โล่งใจเพราะนอกประตูก็ไม่มีทหารยาวเฝ้า ทว่าเมื่อก้าวเข้าไปกลับพบว่าบุรุษที่ไม่อยากพบหน้ากำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างที่โต๊ะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 14.แม้สงสัยแต่ไม่ได้เอ่ยถาม

    จ้าวจื่อรั่วมีของใช้ส่วนตัวไม่มาก ใครเลยจะรู้ว่าใช้เวลาเพียงชั่วยามเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย รวมทั้งเพิ่มหมอนและเปลี่ยนผ้าห่มบนเตียงนอนของท่านแม่ทัพ นางปรายตามองทางกู้ตงหยางที่ยังนั่งดื่มน้ำชาอ่านรายงานราวกับไม่เห็นว่ามีคนมากมายเครื่องย้ายสิ่งของเข้ามาในห้อง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี พ่อบ้านก็พาบ่าวรับใช้ออกไปหมดสิ้นกู้ตงหยางเห็นไม่มีผู้อื่นแล้วจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบจดหมายยื่นให้จ้าวจื่อรั่วนางรับจดหมายมาด้วยยิ้มแล้วก้าวเดินออกไปหมายจะไปอ่านจดหมายของน้องชาย แต่กู้ตงหยางคว้าไหล่นางมาไว้ก่อน หญิงสาวหันมามองด้วยความงุนงง เขากดไหล่ให้นางนั่งที่เก้าอี้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบที่ริมหู“เจ้าอ่านจดหมายในห้องนี้” “เหตุใดต้องบังคับกันด้วย” “ข้าไม่ได้บังคับ แต่ข้าสั่ง” เขายิ้มที่มุมปาก “หากอยากเขียนจดหมายตอบคนที่บ้านก็ทำได้ แต่ส่งให้ข้าอ่านก่อน” “ท่านต้องทำถึงเพียงนี้เชียวรึ “ นางไม่อยากเชื่อเลย “หรือเจ้าไม่อยากเขียนจดหมายถึงน้องชายก็ได้” “ข้าทราบแล้ว” นางหงุดหงิดแต่ก็ยอมนั่งอ่านจดหมายในห้องนั้น เพราะสนใจแต่เรื่องราวในหน้ากระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 15.บังเอิญผ่านมา ?

    จ้าวจื่อรั่วอ่อนล้าจนไม่อาจคิดสิ่งใดได้อีก รู้เพียงแค่ว่าเขาจับดึงมือนางให้วางบนแผ่นอกที่มีรอยแผลเป็น นางหลับใหลไปพร้อมกับเสียงหัวใจของเขา เช้านี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา นางรู้สึกตัวตื่นเพราะการเคลื่อนไหวของกู้ตงหยาง แต่เขากลับลูบใบหน้าและบอกให้นางพักผ่อน “ข้ามีงานต้องไปที่ค่ายทหาร เจ้าไม่ต้องรีบลุกขึ้นมาหรอก” “แต่ข้าต้อง...” นางยันกายขึ้นนั่ง ผ้าห่มที่คลุมไว้เลื่อนหล่นเผยให้เห็นดอกบัวตูมคู่งาม นางเห็นดวงตาคู่นั้นจ้องมองจนนางรู้สึกร้อนวูบขึ้นมารีบคว้าผ้าขึ้นปกปิด “พักผ่อนเถิด” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “จวนนี้เป็นของข้า แต่การดูแลจวนนั้น เจ้าเป็นนายหญิงต้องจัดการให้ดี” จ้าวจื่อรั่วนิ่งงันไปชั่วขณะก่อนเอ่ยปากออกไป “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” “ไม่เข้าใจสิ่งใดให้ถามพ่อบ้าน” เขายกมือขึ้นลูบกลีบปากอ่อนนุ่ม “อย่าปล่อยให้ตนเองต้องเหนื่อย มีเพียงข้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำให้เจ้าเหนื่อย” ถ้อยคำของเขาทำให้ใบหน้างามแดงระเรื่อ เขาผละจากไปแล้ว แต่นางยังนิ่งงันอยู่บนเตียงกว้างที่ไม่เย็นเยียบเช่นวันก่อน ‘ทำไมเขาพูดเรื่องน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 16 ตลาด

    “ฮูหยินเจ้าคะ” “มีอะไรรึเสี่ยวฉู่” นางยิ้มให้สาวใช้พลางปิดสมุดบัญชีและเก็บใส่กล่องไม้ให้เรียบร้อย “ฮูหยินมาอยู่ชายแดนได้หลายเดือนแล้ว แต่ไม่เคยออกไปนอกจวนเลย วันนี้ไปเดินเล่นที่ตลาดไหมเจ้าคะ” “ตลาด?” “แม้จะเป็นชายแดนแต่ตลาดที่นี่คึกคักนะเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่คะยันคะยอแต่แล้วใบหน้าระบายยิ้มก็จางไป “ข้าลืมไป ที่นี่เป็นชายแดนคงไม่เจริญหูเจริญตาเท่าที่เมืองหลวง” จ้าวจื่อรั่วหัวเราะออกมา “ไฉนเจ้ากลายเป็นคนประชดประชัดเก่งเช่นนี้” “ข้าไม่ได้ประชดนะเจ้าค่ะ ข้าแค่เห็นท่านอยูแต่ในจวนไม่ออกไปไหนเลย” “ข้าออกไปข้างนอกได้รึ” นางถามกลับ แม้นางเป็นฮูหยินแม่ทัพ แต่เป็นเจ้าสาวตัวแทนที่ถูกสับเปลี่ยนมา นางจะทำสิ่งใดต้องดูสีหน้ากู้ตงหยางทุกคราวไป “ท่านไม่ได้อยู่ในคุกนะเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่ทำปากยื่น “เป็นฮูหยินแม่ทัพ สามารถไปไหนได้ตามใจอยู่แล้ว” “เป็นเจ้ากระมังที่อยากออกไปเที่ยวเล่น” “ฮูหยิน” เสี่ยวฉู่ทำท่ากระเง้ากระงอด “ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว” “ได้ๆ ข้าควรรับคำชี้แนะจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-07

บทล่าสุด

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่57. ความลับใหญ่หลวง

    แววตาจริงจังทำให้ซย่าเจียวซิ่งรู้ว่านางไม่ได้พูดเล่น และแน่นอนว่าเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ไม่ควรนำมาพูดเล่น “เจ้าตรวจแน่นอนแล้วหรือ?” เขาถามน้ำเสียงแหบแห้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวพยักหน้ายืนยันคำตอบ “เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร” สีหน้าแทบไร้เลือดนั้นทำให้จ้าวจื่อรั่วสงสารอยู่ไม่น้อย “ข้าตอบในฐานะหมอหญิง นางตั้งครรภ์อ่อนๆ อายุครรภ์ราวสองเดือนซึ่งเป็นเหตุผลที่หมอท่านอื่นอาจตรวจชีพจรมงคลไม่พบ ส่วนเรื่องที่นางหลับใหลนั้น ...ดูจากสภาพร่างกายนาง ข้าคิดว่านางถูกพิษนิทรา” “พิษนิทรา? ข้าไม่เคยได้ยิน” “แม่บุญธรรมของช้าเชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ ข้าจึงพอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง” “รู้อยู่บ้าง? แล้วถอนพิษได้หรือไม่” หญิงสาวพยักหน้ารับ “ตัวยาที่ใช้ถอนพิษมีหลายชนิด ข้าจะเขียนเทียบยาให้ท่านจัดหามาให้ แต่เรื่องที่น่าเป็นกังวลคือเด็กในครรภ์ ...มิรู้ว่าจะแข็งแรงพอจะ...” “รักษานาง ส่วนเด็กนั้น...” “เด็กนั้น? ท่าเรียกได้ไร้ความเมตตาเสียจริง” เขากัดฟันแน่นจนเป็นสันนูน จ้าวจื่อรั่วสัมผัสไ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่56. เข้าจวน

    หญิงสาวแต่งกายเรียบง่ายด้วยชุดกระโปรงสีเขียวบงกช แต่กระนั้นก็ยังขับเน้นความงามสง่าของผู้สวมใส่ แต่ทำให้ซย่าเจียวซิ่งหรี่ตามองอย่างประเมิน เขาไม่มั่นใจว่าตนเองให้คนเตรียมเสื้อผ้าแบบใดให้หญิงสาวผู้นี้ เขาไม่รู้ว่าเหตุใดรู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้ดูอิ่มเอิบเป็นพิเศษ “ข้าให้ไฉ่หงไปซื้อเสื้อผ้ามาให้ใหม่” จ้าวจื่อรั่วยิ้มมุมปาก “ชุดที่ท่านสรรหามาให้เกรงว่าจะเหมาะกับอนุของท่านมากกว่า” “ข้าไม่มีอนุ” ซย่าเจียวซิ่งตอบเสียงแข็งอย่างรวดเร็ว “นั้นมันเรื่องของท่าน จะทำตาดุใส่ข้าด้วยเหตุใด” หญิงสาวทำหน้างุนงงและนางก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาจะทำเสียงเช่นนี้กับนางเพื่ออะไรกัน นางไม่ใช่คู่หมั้นของเขาเสียหน่อย ผู้บัญชาการหนุ่มราวกับเพิ่งนึกได้ว่าตนเอง ‘ร้อนตัว’เกินไปจึงกระแอมไอกลบเกลื่อน แล้วประชดหญิงสาวด้วยการเผยมือเชิญให้นางขึ้นรถม้าด้วยตนเอง “ไฉ่หงไม่ต้องไป” เขาสั่งน้ำเสียงเฉียบขาดทำให้สาวใช้สะดุ้งโหยงแล้วก้มหน้าหลบสายตา แต่นึกขึ้นได้ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับยื่นล่วมยาออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ผู้บัญชาการจึงจำเป็นต้องรับมาถือไว้เสียเอง ราวกับ

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่55. ท่านหึงรึ?

    หน้าต่างห้องนอนค่อยๆ ถูกเปิดออกอย่างเบามือก่อนที่ร่างใหญ่จะแทรกกายเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ เขาปลดเสื้อคลุมกันลมออกแล้วถูมือเรียกไออุ่นก่อนก้าวเข้าไปในเลิกม่านมุ้งขึ้นและนั่งลงริมเตียง ใบหน้าหวานยามหลับใหลประดับรอยยิ้มน้อยๆ ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเบาๆ “ท่านมาแล้ว” เสียงหวานพูดขึ้นแผ่วเบาก่อนจะลืมตาขึ้น แม้ในแสงสลัวของราตรีกาลแต่หญิงสาวก็รู้ว่าผู้ใดเข้ามาในยามวิกาลเช่นนี้ “รอข้าหรือรอผู้ใด” กู้ตงหยางถอดรองเท้าแล้วขึ้นเตียงภรรยา นางเปิดผ้าห่มให้เขาแทรกตัวเข้าไปนอนเคียงข้าง “พูดเช่นนี้ ท่านหึงรึ” “ข้ามีสิทธิ์หึงหรือไม่เล่า” แม่ทัพหนุ่มพ่ายแพ้อย่างหมดท่าเพราะภรรยาตัวน้อยออดอ้อนเสียแล้ว เขาวาดวงแขนแล้วรั้งนางเข้ามาในอ้อมกอด นานเหลือเกินที่ไม่ได้กอดเมียรักเช่นนี้ “อากาศที่แคว้นหลี่เย็นนัก เจ้ากับลูกต้องระวังให้มาก” “ข้าเป็นถึงฮูหยินแม่ทัพกู้ ผู้ใดจะปล่อยให้ข้าต้องลำบากกันเล่า” นางพูดแล้วพริมตาหลับลงตามเดิม รู้อยู่เต็มอกว่ากู้ตงหยางต้องหาทางกลับมาหานางอยู่แล้ว จึงมิได้ลงกลอนแน่นหนา แต่แค่กลอนหน้าต่างมีรึแม่ทัพกู้จะหาท

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่54. เงื่อนไข

    ซย่าเจียวซิ่งก้าวเท้าออกมาจากจวนเสนาบดี ใบหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เป็นนิจมีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ‘หมอหลวงมารักษานางแล้วก็ต่างส่ายหน้า เจ้าประกาศหาหมอทั่วแคว้นมารักษานางก็ยังไม่ได้ผล เคยคิดหรือไม่ว่าทำเช่นนี้เป็นการทำลายชื่อเสียงของนาง’ ‘ชีวิตของนางสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด’ ซย่าเจียวซิ่งเอ่ยด้วยใจจริง แม้ไม่ได้รักใคร่นางเช่นหนุ่มสาวแต่เอ็นดูนางเป็นน้องสาวมาตลอด เขาย่อมไม่ต้องการเห็นนางอยู่ในห้วงทุกข์ และเวลานี้ที่นางหลับใหลไม่ตื่นเช่นนี้ เขาย่อมต้องเป็นห่วงนาง ‘หากท่านเกรงว่าหลี่หรูจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้ายินดีแต่งนางเป็นภรรยาแม้นางยังไม่ได้สติเช่นนี้’ ‘เป็นเจ้าที่เสนอขึ้นมาเอง ข้ามิใช่คนขู่บังคับเจ้า’ ‘แน่นอน ข้ายินดี แต่ข้าขออนุญาตให้พาหมอมาตรวจอาการของหลี่หรู’ ‘ถ้าเจ้ารับปากเช่นนี้ ก็ทำตามใจเถิด’ หากไม่กล่าวเช่นนั้นออกไปก็เกรงว่าเสนาบดีจะไม่ยอมให้เขาพาหมอเข้าไปตรวจอาการของหลี่หรู ภาพในความทรงจำปรากฏขึ้น หลี่หรูเป็นเด็กขี้อาย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนักจึงไม่ค่อยได้ออกไปนอกจวน ครอบครัวของทั้

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่53. ได้เจอแล้ว

    จ้าวจื่อรั่วอมยิ้มแล้วเดินเข้าเรือนหลังเล็กที่ถูกตระเตรียมไว้รับรอง มีบ่าวรับใช้สูงวัยอยู่หลายคน ดูๆไปเหมือนเป็นสตรีที่ถูกเลี้ยงดูนอกจวน นี่ผู้บัญชาการซย่าคงไม่ได้คิดจะให้นางเล่นบทเป็นนางบำเรอของเขากระมัง คนผู้นั้นคงมาถึงก่อนแล้วแต่ไม่อยู่รอต้อนรับซึ่งสร้างความสบายใจให้จ้าวจื่อรั่วเป็นอย่างนิ่ง ทุกคนรับรู้การมาของนางและต้อนรับตามมารยาท “ไฉ่หง ข้าหิวแล้ว เจ้าเข้าไปดูในครัวให้เขาทำอะไรร้อนๆ มาให้ข้ากินสักชาม และอย่างลืมที่ข้าสั่งไว้ล่ะ” “เจ้าค่ะ ข้าท่องขึ้นใจแล้ว” มีอาหารแสลงที่ไม่เหมาะกับคนท้อง นางไม่ได้บอกเรื่องนี้กับไฉ่หงแต่ให้สาวใช้ท่องจำและบอกว่านางแพ้อาหารเหล่านั้น ไฉ่หงเป็นเด็กซื่อและเชื่อฟังไม่ซักถามสิ่งใด เมื่อนางสั่งให้ท่องจำก็ทำตามที่สั่งและเมื่อนางสั่งให้ไปในครัว ไฉ่หงก็แทบจะวิ่งถลาไปทันที หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เดินตามบ่าวรับใช้มาที่ห้องพักของตน “ท่านผู้บัญชาการได้สั่งให้บ่าวเตรียมของใช้ของฮูหยินแล้ว หากฮูหยินต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมโปรดบอกบ่าวได้ขอรับ” “เรียกข้าฮูหยินกู้” นางส่งยิ้มแต่แววตาจริงจัง “

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่52. เมืองหลวง

    เมืองหลวงคึกคักคือภาพที่เดาได้ไม่ยาก ไฉ่หงตื่นตากับภาพที่เห็นทำให้จ้าวจื่อรั่วอมยิ้มน้อยในความไร้เดียงสา สาวใช้ค้อนเข้าให้แล้วเอ่ยวาจา“พี่สาวอย่าหัวเราะข้าสิ”“ข้าหัวเราะเมื่อใดกัน” นางคลี่ยิ้มและวางมือบนหน้าท้องที่ยังไม่โตนัก “เจ้าอายุแค่สิบห้า ตื่นตากับภาพที่เห็นไม่แปลกอันใด”“พี่สาวเคยอยู่เมืองหลวงหรือ?”“อื้ม แต่ไม่ใช่ที่นี่” นางเคยอยู่เมืองหลวง แต่ที่นั้นไม่นับเป็นบ้านได้เลย หากไม่มีน้องชายทั้งสองนางคงไม่รู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด แต่ตอนนี้นางมีครอบครัว มีบุรุษที่รักและลูกน้อย“ที่แคว้นของพี่สาวคงรื่นรมย์น่าดู ข้าได้ยินว่าการเพาะปลูกดีมีข้าวกินทั้งปีไม่ต้องกลัวอดยาก”“อืม” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปขยับผ้าม่านหน้าต่างรถม้า ลมวูบหนึ่งเข้ามาปะทะใบหน้า แต่อากาศไม่หนาวเย็นเท่าชายแดนแต่กระนั้น นางยังคงสวมเสื้อคลุมหนานุ่มที่ผู้บัญชาการผู้นั้นมอบให้ ตั้งแต่ออกจากโรงเตี้ยม เขาก็ควบม้าแยกไปก่อน ซึ่งก็นับว่าดีกับนางเพราะไม่อยากอยู่กับคนเย็นชาเช่นนั้นไฉ่หงลอบมองจ้าวจื่อรั่วอยู่บ่อยๆ สตรีผู้นี้มีใบหน้าประดับรอยยิ้มอยู่เสมอ ดูสงบเยือกเย็นยามอยู่ต่อหน้าผู้บัญชาการก็ไม่แสดงอาก

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่51.นับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง

    จ้าวจื่อรั่วอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งจับชีพจรตนเอง พลันคิดอย่างโล่งใจว่าครรภ์นี้ช่างแข็งแรงดีเหลือเกิน แทบไม่มีอาการแพ้ท้องอาจเพราะที่ผ่านมาดูแลตัวเองอย่างดีและประสบการณ์เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อครั้งที่ตั้งครรภ์หลิงหยุนนั้นสุขภาพนางอ่อนแอมากซ้ำยังคลอดก่อนกำหนด โชคดีที่ได้พบพ่อแม่บุญธรรมช่วยเหลือ มิเช่นนั้นทั้งนางและลูกคงไปแดนปรโลกแล้ว“พี่สาวอาบน้ำเสร็จแล้วรึเจ้าคะ” ไฉ่หงส่งเสียงถามและก้าวเข้ามาพร้อมเสื้อคลุมขนดูหนานุ่มและอบอุ่น สาวใช้คลี่ออกแล้วคลุมร่างให้จ้าวจื่อรั่ว “ผู้บัญชาการให้ข้านำมาให้พี่สาวเจ้าค่ะ”“นับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง” นางรู้ว่าเสื้อคลุมนี้ราคาไม่ธรรมดา“เอ่อ...คือท่านผู้บัญชาการให้เชิญพี่สาวไปกินข้าวเย็นด้วยกันเจ้าค่ะ”“อย่างนั้นรึ” เพราะเดินทางอยู่บนรถม้านานจึงอ่อนเพลีย นางไม่อยากกินข้าวเย็นนัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องกินเพื่อบำรุงเด็กในท้องนางจึงพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้น มือเรียวกระชับเสื้อคลุมให้มิดชิดก่อนก้าวเท้าออกจากห้องพักของตนไปตามทางที่โฉ่หงนำทาง ใช้เวลาเดินแค่อึดใจก็มาถึงห้องที่โรงเตี้ยมเตรียมไว้รับรอง ซย่าเจียวซิ่งนั่งดื่มชารออยู่ก่อนแล้ว จ้าวจื่อรั่วกวาดต

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่50.   การถูกเอาอกเอาใจมากนั้นไม่ดีเลย

    แม้ชายแดนติดกันแต่สภาพอากาศต่างกันอาจเพราะเมืองเป่าติ้งล้อมรอบด้วยหุบเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าแคว้นของตน จ้าวจื่อรั่วไม่ชอบอากาศหนาวเย็นแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น อาจเพราะแต่เด็กนางไม่ได้รับการใส่ใจนัก และหลังจากกู้ตงหยางรับนางกลับเข้าจวนพร้อมลูก เมื่ออากาศเย็นลงเขาจะให้คนตั้งกระถางไฟรอบๆ ห้องเพื่อให้นางอบอุ่นโดยไม่ต้องร้องบอก และที่สำคัญ เรือนกายกำยำของเขาหลังผ่านการขับพิษแล้วมักอุ่นร้อนทำให้นางหลับในอ้อมแขนเขาอย่างเป็นสุข การถูกเอาอกเอาใจมากนั้นไม่ดีเลย เพราะยามนี้นางคิดถึงเขาเหลือเกิน ประตูรถม้าถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ลมหนาววูบหนึ่งพัดเข้ามาตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดดำเรียบง่ายแต่ตัดเย็บประณีต ดวงตาคมจ้องมองนางวูบหนึ่งก่อนรีบปิดประตูและนั่งลงตรงนั้นใช้ร่างกายของตนช่วยกันลมให้อีกทาง คนผู้นี้ดูเย็นชาแต่ก็ใส่ใจผู้อื่นอยู่บ้าง จ้าวจื่อรั่วได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วซุกมือกับเตาพกเพื่ออุ่นมือ อย่างไรเสียนางก็ไม่ยอมให้ลูกในท้องต้องทรมานเพราะความหนาว “ไม่มีผู้ใดอบรมเรื่องมารยาทของท่านรึ” นางยังคงไม่เข้าใจ ได้ยินว่าเขาเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่49.  รวบรวมคนของเรา

    เมืองเป่าติ้งอยู่ชายแดนแคว้นหลู่ อากาศเย็นตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาวจะหนาวจัด ผู้คนที่มีฐานะล้วนอพยพเดินทางหนีลมหนาวเข้าไปในเมืองหลวงที่อบอุ่นกว่า แต่กระนั้นก็ยังมีชาวเมืองอาศัยอยู่มากและอยู่ด้วยความเคยชิน รวมถึงเชื่อมั่นใจผู้บัญชาการซย่าเจียวซิ่ง บุรุษรูปร่างสูงใหญ่สองคนเดินปะปนกับชาวเมือง แม้สวมชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบแบบนายพรานทั่วไป คนผู้หนึ่งสะพายคันธนู ทว่าบุรุษอีกคนนั้นท่าทางองอาจ แววตาวาวโรจน์และมีไอสังหาร ทุกการก้าวเดินมั่นคงย่อมไม่เหมือนนายพรานทั่วไป “พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงเมีย แต่ช่วยเก็บไอสังหารหน่อยเถอะ” อี้ซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “เลี้ยวขวาที่ตรอกข้างหน้าก็ถึงแล้ว” กู้ตงหยางเพียงปรายตามอง ‘มือขวา’ ที่ยามนี้ใบหน้าเปื้อนหนวดเครารกรุงรังเหมือนโจรป่ามากกว่าคนเคยเป็นทหารข้างกายเขา เกือบสิบปีก่อนอี้ซวนได้รับบาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่เมื่อพ้นความตายมาได้ ก็ขอลาออกจากกองทัพ ใช้ชีวิตในป่าเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด แต่กระนั้นกู้ตงหยางก็ยังรับรู้การมีชีวิตของคนผู้นี้จนกระทั่งถูกเรียกตัวอีกครั้ง เขาไม่ใช่คนชอบทวงบุญคุณผู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status