Home / รักโบราณ / ทัณฑ์อสุรา / ตอนที่ 9. แม่ทัพย่องเข้าห้องเมีย

Share

ตอนที่ 9. แม่ทัพย่องเข้าห้องเมีย

last update Last Updated: 2024-11-04 23:43:11

            นางยังจำความรู้สึกริษยาและน้อยใจที่เห็นพี่สาวน้องสาวต่างมารดาได้แต่กายงดงาม  ได้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน แต่นางกลับได้ใช้ชีวิตไม่ต่างจากสาวใช้   มีเรื่องดีก็เพียงแค่ได้ฝีกเรียนเขียนอ่านกับอาจารย์ที่ฮูหยินใหญ่เชิญมาสอนคุณหนูใหญ่

            หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา เหตุใดช่วงนี้นางรู้สึกอ่อนไหวง่ายเหลือเกิน แต่ก่อนก็ไม่เคยร้องไห้ง่ายนัก เหตุใดยามนี้มีเรื่องกระทบจิตใจเล็กๆน้อยๆ น้ำตาก็พร้อมจะหลั่งริน  นางไม่เข้าใจนัก ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่าคิดมาก จดหมายจากเมืองหลวงต้องใช้เวลา บางทีน้องๆ อาจส่งมาแล้วแต่ยังมาไม่ถึงมือ   คิดได้ดั่งนี้ก็ใจชื้นขึ้นมา

ร่างผอมบางดุจกิ่งหลิวเดินมาที่หน้าต่าง แหงนหน้ามองพระจันทร์กลมโต หากคืนใดน้องเล็กไม่ได้ฟังนางเล่านิทานก็จะนอนไม่หลับ นางจะขยับมือเป็นหุ่นเงารูปสัตว์ต่างๆ หลอกล่อให้น้องเล็กหลับใหล   จ้าวจื่อรั่วยกมือเรียวของตนขึ้นทั้งสองมือ กางมือออกโดยให้นิ้วโป้งทั้งสองมือชิดกัน แล้วค่อยๆ ขยับปลายนิ้วที่เหลือ นางมองเงาที่ทอดยาวไปที่ผนังเกิดเป็นรูปร่างผีเสื้อพลางขยับนิ้ว เงาผีเสื้อก็ขยับปีกราวกับมีชีวิตโบกบินใต้แสงจันทร์  นางขยับตัวหมุนไปมาพร้อมขยับมือเป็นผีเสื้อโบยบิน ดูราวกับกำลังร่ายรำ เสียงหวานหัวเราะเบาๆ  นางนึกขำที่ตนเองทำราวกับเป็นเด็กน้อย โชคดีที่อยู่เพียงลำพัง ไม่เช่นนั้น คงได้ถูกเอาไปนินทาว่า ฮูหยินแม่ทัพใหญ่เสียสติไปแล้ว

            ความหมองเศร้าบรรเทาเบาบางลง นางรู้สึกสบายใจและอยากนอนหลับพักผ่อนแล้ว นางมองตะกร้าที่ใส่ผ้ารอเย็บปักแล้วส่งยิ้มให้ของเหล่านั้น

            “วันนี้ข้าขอเกเรหนึ่งคืนนะ”

นางพูดแล้วดับเทียนในห้อง ปีนขึ้นเตียงแล้วปลดม่านมุ้งลง เหนื่อยล้ามาทั้งวัน เพียงหัวถึงหมอน นางก็หลับลงอย่างง่ายดาย.

            ภาพที่เห็นเบื้องหน้ายังตราตรึงเขาอยู่ แม้ว่าในห้องจะดับเทียนจนมืดมิดไปหมดแล้วก็ตาม

            กู้ตงหยางเพียงแค่อยากมาดูว่าภรรยาของตนเป็นอย่างไร หลังจาก ‘คืนนั้น’  เขาก็ยังไม่ได้เข้าใกล้นางอีก เพราะกลัวตัวเองจะไม่อาจยับยั้งใจไว้ได้ คืนนั้นเขาทำนางบอบช้ำไม่น้อย  ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ เมื่อถึงหน้าประตูเรือน เขายกมือขึ้นส่งสัญญา เพียงครู่เดียว ราวกับสายลมพัดผ่าน กู้ตงหยางก็รับรู้ได้ว่าเหล่าทหารอารักขาที่อยู่บริเวณนี้กระจายตัวหายไปหมดสิ้น  เขาจึงเข้าไปในเรือนของจ้าวจื่อรั่วอย่างเงียบเฉียบ แม้อยู่ในความมืดกลับเดินเข้าไปอย่างง่ายดาย ราวกับว่าที่นี่เป็นเรือนของตนเอง

            มือใหญ่ผลักม่านมุ้งออก คนบนเตียงหลับใหลอย่างเป็นสุข อาจเพราะอากาศร้อนทำให้สวมเสื้อตัวบาง  นางขยับตัวเปลี่ยนท่านอน สาบเสื้อจึงคลายออกเผยให้เห็นเนินอกสร่าง  นิ้วกร้านหยาบกระด้างจากการจับกระบี่มานานค่อยๆ ไล้ผิวกายนุ่มละมุนราวกับแพรไหมเนื้อดี  เขายังคงจดจำสัมผัสที่ได้รับจากเรือนร่างนี้

            จ้าวจื่อรั่วขยับตัวอย่างอึดอัด คล้ายมีแมลงมารบกวนการนอน ทว่าเมื่อรู้สึกถึงแรงขบเม้มที่ริมฝีปากทำให้รู้สึกตัว มือเรียวเล็กผลักไสอย่างร้อนรน ดวงตากลมลืมตาขึ้นทันทีที่รู้ว่าไม่ใช่ความฝัน ภายในห้องมืดสนิท  เห็นเพียงเงาดำกดทับอยู่ ร่างเล็กสั่นระริกด้วยความกลัวและดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นพันธนาการ

            “ข้าเอง”

เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นเมื่อถอนริมฝีปากแล้ว มือใหญ่รวบข้อมือทั้งสองของหญิงสาวแล้วกดไว้เหนือศีรษะ  จ้าวจื่อรั่วปรับสายตาในความมืดจึงรู้ว่าคนที่อยู่เหนือร่าง นางขยับตัวเล็กน้อยพลันรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งที่แข็งขันและร้อนระอุแนบชิดเรือนร่าง  แม้สวมเสื้อผ้าอยู่แต่ไอร้อนจากกายเขาแผ่กระจายไปทั่ว

“ทะ...ท่านแม่ทัพ”   นางอึกอักอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร “ท่าน...ท่านเข้ามาได้อย่างไร”

“ข้าเป็นสามีจะเข้ามาห้องภรรยาไม่ได้รึ” ดวงตาคมดุจเหยี่ยวหรี่ตามองอย่างไม่พอใจนัก “หรือเจ้ารอใครเข้ามา”

นางแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาจะพูดเช่นนี้ออกมา ความน้อยใจทำให้นางพยายามขยับตัวให้หลุดพ้นจากมือใหญ่ แต่ข้อมือแกร่งกลับออกแรงกดไว้แน่นขึ้น  ซ้ำสะโพกสอบยังกดทับท่อนล่างจนนางขยับตัวไม่ได้อีก

“ท่าน!”  นางขึงตาใส่อย่างเคืองโกรธ ถูกรบกวนการนอนแล้วยังถูกกล่าวหาว่าร้ายใส่อีก จะมิให้นางหงุดหงิดได้อย่างไร

 “ท่านแม่ทัพเล่า มิได้เข้าผิดห้องรึ!”

กู้ตงหยางเลิกคิ้วประหลาดใจ มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนโน้มใบหน้าลงใกล้  ลมหายใจผ่าวร้อนเจือกลิ่นสุราจางๆ ทำให้นางเริ่มหยุดดิ้นรน ได้แต่เบือนหน้าไปทางอื่น

“นี่เจ้า...”

เขาตั้งใจหยอกล้อนางด้วยลมหายใจผ่านร้อนของตน ทว่ากลับเป็นเขาเองที่เสียการควบคุมเพราะกลิ่นกายหอมละมุนเย้ายวนจนยากหักห้ามใจ แต่...นางเป็นภรรยาของเขา เหตุใดเขาต้องหักห้ามใจ ในเมื่อเขาเป็นสามีของนาง ย่อมมีสิทธิ์แตะต้องเรือนร่างนี้

น้ำเสียงหยอกล้อทำให้นางหันหน้ากลับมา เขาขบขันอันใดกัน? เพียงนางหันหน้ามาริมฝีปากอุ่นก็ทาบทับลงมา ครั้งนี้เขาขบเม้มริมฝีปากจนนางรู้สึกเจ็บ มือคู่นี้แข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า ยิ่งนางดิ้นรน ร่างยิ่งถูกกอดรัดแน่นขึ้น  กู้ตงหยางเกรงว่านางจะเจ็บจึงดึงมือนางให้คล้องคอเขาไว้  แต่เขากลับใช้มือเพียงข้างเดียวกระตุกสายรัดเอวของนางออกทำให้เสื้อผ้าหลุดรุยออกจากร่าง 

 ฝ่ามือหยาบกระด้างแต่ลูบไล้อย่างอ่อนโยนช่วยผ่อนคลายร่างที่เกร็งด้วยความตื่นตกใจลงได้  ชายหนุ่มใช้ฟันกัดสายเอี๊ยมบังทรง เพียงกระตุกเบาๆ ก็หลุดออกเผยทรวงอกกลมกลึงเย้ายวนเบื้องหน้า เขาอ้าปากครอบครองยอดอกสีหวาน ดูดดึงจนเปียกชุ่ม เสียงหวานครางแผ่วอย่างไม่อาจทนกลั้นได้อีก

“อื้อ”  จ้าวจื่อรั่วพยายามกลั้นเสียงร้องสุดกำลัง แต่เขายิ่งทำร้ายกาจ ตวัดลิ้นที่ยอดอกสลับกับดูดดึงซ้ำยังบีบเคล้นทรวงอกอีก ความเจ็บแปลบระคนเสียวซ่านทำช่องท้องปั่นป่วน ส่วนที่อ่อนไหวเริ่มเปียกชื้น  ริมฝีปากร้อนคลายจากยอดอกแล้วจูบระเรื่อลงไปถึงเบื้องล่าง นางขยับตัวหนีอย่างร้อนรนพลางส่งเสียงห้าม

“ยะ...อย่า...ตรงนั้น...ไม่ได้”

Related chapters

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 10.ทำไมเขาหน้าหนาอย่างนี้นะ!

    ยามนี้ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ำจนแทบคั้นออกมาเป็นหยดเลือด คำร้องห้ามไม่เป็นผล แม้มือเล็กพยายามผลักไสไม่ให้เขาก้มลงไปแต่สุดท้ายแล้ว นางก็ได้แต่อ่อนระทวยเพราะลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในกลีบดอกไม้สาวกลิ่นหอมหวานทำให้ชายหนุ่มแทบคลุ้มคลั่ง ลิ้นร้อนโลมเลียกลีบเนื้อสีหวานจนเรียวขางามสั่นระริก ยิ่งเขาตวัดลิ้นไล้เลียสลับกับใช้ลิ้นรุกรานในร่องรัก หยาดน้ำหวานหลั่งออกมามาก ความร้อนรุ่มแผ่ไปทั่วร่าง ลมหายใจหอบกระชั้นดังอย่างต่อเนื่อง หยาดน้ำตาคลอเบ้าตาของหญิงสาว สะโพกงามงอนส่ายยั่วเย้าอย่างไม่รู้ตัว ความเสียวซ่านทำเอาจ้าวจื่อรั่วได้แต่ครางอย่างสุดทนกลั้น ถูกลิ้นและนิ้วมือเร่งเร้าจนร่างกายเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมากู้ตงหยางเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฉ่ำหยาดน้ำตาของภรรยาตัวน้อย นางได้แต่สะอึกสะอื้นกับสัมผัสที่เขาตระเตรียมให้นางเพื่อรองรับสิ่งที่ใหญ่โตนี้ หากนางไม่ใช่ภรรยาของเขา เขาคงไม่ต้องใส่ใจว่านางจะรับได้ไหวหรือไม่ เขายื่นมือไปเกลี่ยน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ความปรารถนาอันแข็งขันที่ทำให้เขาปวดหนึบอยู่นี้ทำให้เขาเร่งรีบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนจนหมด แล้วจับมือนางมาแตะที่รอยแผลเป็นบนแผ่นอก“กลัวหรือไม่” เขาถามเสียงแหบพร

    Last Updated : 2024-11-04
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 11.แค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง

    เสี่ยวฉู่ร้อนรน แรกทีเดียวพอรู้ว่าท่านแม่ทัพมาค้างเรือนฮูหยิน พวกบ่าวไพร่ต่างตื่นเต้นยินดี ทว่าปกติฮูหยินตื่นเช้า แต่วันนี้สายแล้วก็ยังไม่เห็นฮูหยินปรากฏกาย แม้ท่านแม่ทัพเอ่ยปากสั่งไว้ว่าไม่ต้องปลุกฮูหยิน แต่เสี่ยวฉู่รู้สึกผิดปกติ เมื่อเข้ามาจึงรู้ว่าฮูหยินมีไข้ซ้ำยังอ่อนเพลียมาก นางเป็นหญิงยังไม่ได้ออกเรือนแต่ก็พอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะไม่รู้จักรักหยกถนอมบุปผาทำให้ฮูหยินบอบช้ำถึงเพียงนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” จ้าวจื่อรั่วฝืนยิ้ม “ให้แม่ครัวทำโจ๊กให้ข้าสักถ้วยก็พอ อ้อ! ขอน้ำขิงใส่น้ำตาลทรายแดงให้ข้าด้วย” “แต่ว่า...” “แม้แต่เจ้าก็ยังขัดใจข้ารึ”นางแสร้งทำเสียงดุ เสี่ยวฉู่จึงก้มหน้างุดแล้วเดินออกไป เมื่อในห้องไม่มีผู้ใดแล้วนางก็ถอนหายใจออกมา นิ้วเรียวงามแตะรอยช้ำที่ต้นคอเบาๆ หากเป็นหญิงที่เขารัก เขาคงไม่ทำรุนแรงถึงเพียงนี้สินะ แล้วนางจะทำอย่างไรได้ เป็นแค่สตรีที่ถูกส่งมาแทนเจ้าสาวตัวจริง ซ้ำฐานะที่แท้จริงก็เป็นเพียงลูกอนุในจวนเท่านั้น แค่เขาไม่หักหน้านาง ไม่เอาเรื่องคนในสกุลจ้าว ก็นับว่าดีมากแล้วจ้าวจื่อรั่วหย

    Last Updated : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 12. เรือนท้ายจวน

    “ท่านแม่ทัพมาถึงเรือนท้ายจวน ไม่ทราบว่ามีสิ่งใดให้ข้ารับใช้เจ้าคะ” จ้าวจื่อรั่วยืดแผ่นหลังตั้งตรง แม้อยู่ในจวนสกุลจ้าว นางทำงานไม่ต่างจากสาวใช้ แต่กระนั้นฮูหยินที่เชิญนางข้าหลวงจากในวังมาสอนกิริยามารยาทของบุตรสาว ก็ยังให้นางเรียนรู้อบรมเรียนรู้พร้อมกัน ยามนี้จึงได้งัดวิชายุทธ์ออกมาใช้อย่างไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด“ท่านแม่ทัพเป็นห่วงว่าข้าจะเหงา เลยตั้งใจมาพาข้ามาหาเจ้าอย่างไรเล่า” เฉียวฉู่ฉีกยิ้มอ่อนหวานแล้วเดินไปเกาะแขนอีกฝ่ายด้วยท่าทีสนิทสนม“ท่านแม่ทัพช่างใส่ใจฮูหยินยิ่งนัก”อ้ายเสิ่นมองแม่ทัพใหญ่ด้วยสายตาชื่นชม เขายกย่องบุรุษผู้นี้มาก ในสนามรบวางแผนเฉียบขาดแม้ผู้อื่นร่ำลือว่าโหดเหี้ยม แต่บุรุษผู้นี้ทอดทิ้งผู้อื่นไว้ด้านหลัง เหล่าพี่น้องทหารหาญล้วนเทิดทูนแม่ทัพกู้เหนือสิ่งใด แน่นอนว่า เขาที่ยังไม่มีภรรยา เห็นท่านแม่ทัพใส่ใจฮูหยินย่อมต้องเก็บไว้เผื่อใช้กับภรรยาในอนาคตของตนเอง พอเผลอคิดไปไกลถึงเพียงนี้ อ้ายเสิ่นเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาเจอหญิงงามมาไม่น้อย แต่สตรีนางนี้งดงามและให้ความรู้สึกสงบใจยามอยู่ใกล้ หากมีวาสนาได้หญิงงามเช่นนี้เป็นภรรยา ชีวิตของเขาคงเหมือนอยู่ในส

    Last Updated : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 13. เหตุใดเขาต้องหงุดหงิดเช่นนี้

    “เจ้าปวดท้องก็ไปนอนพัก ประเดี๋ยวข้าจะไปรายงานฮูหยินเอง”“ฝากด้วยนะเจ้าค่ะ ท่านพ่อบ้าน”เพราะท่านพ่อบ้านรับมือได้ทุกสถานการณ์ การส่งพ่อบ้านไปจะไร้พิรุธมากที่สุด บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้นได้แต่ภาวนาขอพรจากสวรรค์ให้ฮูหยินกับท่านแม่ทัพได้ปรับความเข้าใจกันเสียทีจ้าวจื่อรั่วถอนหายใจหนักหน่วงเมื่อรู้ว่าตนต้องนำเสื้อคลุมไปส่งท่านแม่ทัพเอง จู่ๆ เสี่ยวฉู่ก็ปวดท้อง พ่อบ้านก็เจ็บเข่า แน่นอนว่าผู้อื่นไม่มีใครกล้าเข้าใกล้แม่ทัพกู้ นางไม่อยากเห็นเขากับแม่นางเฉียวฉู่ แต่อย่างไรนางจะให้เจ็บกับคนป่วยไปทำแทนก็ไม่ได้ หญิงสาวกัดริมฝีปากครุ่นคิด เวลานี้ท่านแม่ทัพคงยังไม่กลับจากค่ายทหารกระมัง นางรีบนำไปวางไว้ก็พอหญิงสาวหอบเสื้อคลุมที่ตั้งใจทำให้นั้น ร่างแบบบางเดินไปที่เรือนของแม่ทัพกู้ เดิมทีเคยคิดใช้ ‘สิ่งนี้’ สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างสามีภรรยา แต่ดูแล้วไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนไม่เป็นที่ถูกใจบุรุษผู้นั้น อย่างไรนางก็เป็นภรรยา จะละเลยหน้าที่ดูแลเขาก็ไม่ได้ นางคิดว่าเขาไม่อยู่ที่เรือนก็โล่งใจเพราะนอกประตูก็ไม่มีทหารยาวเฝ้า ทว่าเมื่อก้าวเข้าไปกลับพบว่าบุรุษที่ไม่อยากพบหน้ากำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างที่โต๊ะ

    Last Updated : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 14.แม้สงสัยแต่ไม่ได้เอ่ยถาม

    จ้าวจื่อรั่วมีของใช้ส่วนตัวไม่มาก ใครเลยจะรู้ว่าใช้เวลาเพียงชั่วยามเดียวทุกอย่างก็เรียบร้อย รวมทั้งเพิ่มหมอนและเปลี่ยนผ้าห่มบนเตียงนอนของท่านแม่ทัพ นางปรายตามองทางกู้ตงหยางที่ยังนั่งดื่มน้ำชาอ่านรายงานราวกับไม่เห็นว่ามีคนมากมายเครื่องย้ายสิ่งของเข้ามาในห้อง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี พ่อบ้านก็พาบ่าวรับใช้ออกไปหมดสิ้นกู้ตงหยางเห็นไม่มีผู้อื่นแล้วจึงลุกขึ้นยืนแล้วหยิบจดหมายยื่นให้จ้าวจื่อรั่วนางรับจดหมายมาด้วยยิ้มแล้วก้าวเดินออกไปหมายจะไปอ่านจดหมายของน้องชาย แต่กู้ตงหยางคว้าไหล่นางมาไว้ก่อน หญิงสาวหันมามองด้วยความงุนงง เขากดไหล่ให้นางนั่งที่เก้าอี้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบที่ริมหู“เจ้าอ่านจดหมายในห้องนี้” “เหตุใดต้องบังคับกันด้วย” “ข้าไม่ได้บังคับ แต่ข้าสั่ง” เขายิ้มที่มุมปาก “หากอยากเขียนจดหมายตอบคนที่บ้านก็ทำได้ แต่ส่งให้ข้าอ่านก่อน” “ท่านต้องทำถึงเพียงนี้เชียวรึ “ นางไม่อยากเชื่อเลย “หรือเจ้าไม่อยากเขียนจดหมายถึงน้องชายก็ได้” “ข้าทราบแล้ว” นางหงุดหงิดแต่ก็ยอมนั่งอ่านจดหมายในห้องนั้น เพราะสนใจแต่เรื่องราวในหน้ากระ

    Last Updated : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 15.บังเอิญผ่านมา ?

    จ้าวจื่อรั่วอ่อนล้าจนไม่อาจคิดสิ่งใดได้อีก รู้เพียงแค่ว่าเขาจับดึงมือนางให้วางบนแผ่นอกที่มีรอยแผลเป็น นางหลับใหลไปพร้อมกับเสียงหัวใจของเขา เช้านี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา นางรู้สึกตัวตื่นเพราะการเคลื่อนไหวของกู้ตงหยาง แต่เขากลับลูบใบหน้าและบอกให้นางพักผ่อน “ข้ามีงานต้องไปที่ค่ายทหาร เจ้าไม่ต้องรีบลุกขึ้นมาหรอก” “แต่ข้าต้อง...” นางยันกายขึ้นนั่ง ผ้าห่มที่คลุมไว้เลื่อนหล่นเผยให้เห็นดอกบัวตูมคู่งาม นางเห็นดวงตาคู่นั้นจ้องมองจนนางรู้สึกร้อนวูบขึ้นมารีบคว้าผ้าขึ้นปกปิด “พักผ่อนเถิด” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “จวนนี้เป็นของข้า แต่การดูแลจวนนั้น เจ้าเป็นนายหญิงต้องจัดการให้ดี” จ้าวจื่อรั่วนิ่งงันไปชั่วขณะก่อนเอ่ยปากออกไป “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ” “ไม่เข้าใจสิ่งใดให้ถามพ่อบ้าน” เขายกมือขึ้นลูบกลีบปากอ่อนนุ่ม “อย่าปล่อยให้ตนเองต้องเหนื่อย มีเพียงข้าเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำให้เจ้าเหนื่อย” ถ้อยคำของเขาทำให้ใบหน้างามแดงระเรื่อ เขาผละจากไปแล้ว แต่นางยังนิ่งงันอยู่บนเตียงกว้างที่ไม่เย็นเยียบเช่นวันก่อน ‘ทำไมเขาพูดเรื่องน

    Last Updated : 2024-11-05
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 16 ตลาด

    “ฮูหยินเจ้าคะ” “มีอะไรรึเสี่ยวฉู่” นางยิ้มให้สาวใช้พลางปิดสมุดบัญชีและเก็บใส่กล่องไม้ให้เรียบร้อย “ฮูหยินมาอยู่ชายแดนได้หลายเดือนแล้ว แต่ไม่เคยออกไปนอกจวนเลย วันนี้ไปเดินเล่นที่ตลาดไหมเจ้าคะ” “ตลาด?” “แม้จะเป็นชายแดนแต่ตลาดที่นี่คึกคักนะเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่คะยันคะยอแต่แล้วใบหน้าระบายยิ้มก็จางไป “ข้าลืมไป ที่นี่เป็นชายแดนคงไม่เจริญหูเจริญตาเท่าที่เมืองหลวง” จ้าวจื่อรั่วหัวเราะออกมา “ไฉนเจ้ากลายเป็นคนประชดประชัดเก่งเช่นนี้” “ข้าไม่ได้ประชดนะเจ้าค่ะ ข้าแค่เห็นท่านอยูแต่ในจวนไม่ออกไปไหนเลย” “ข้าออกไปข้างนอกได้รึ” นางถามกลับ แม้นางเป็นฮูหยินแม่ทัพ แต่เป็นเจ้าสาวตัวแทนที่ถูกสับเปลี่ยนมา นางจะทำสิ่งใดต้องดูสีหน้ากู้ตงหยางทุกคราวไป “ท่านไม่ได้อยู่ในคุกนะเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่ทำปากยื่น “เป็นฮูหยินแม่ทัพ สามารถไปไหนได้ตามใจอยู่แล้ว” “เป็นเจ้ากระมังที่อยากออกไปเที่ยวเล่น” “ฮูหยิน” เสี่ยวฉู่ทำท่ากระเง้ากระงอด “ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว” “ได้ๆ ข้าควรรับคำชี้แนะจ

    Last Updated : 2024-11-07
  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่ 17. กระดิ่งลม

    “ท่านแม่ทัพ” จ้าวจื่อรั่วเรียกเหมือนไม่เชื่อว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ “อยากได้อะไรเพิ่มหรือไม่?” กู้ตงหยางถาม ปกติเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ไม่รู้สตรีชมชอบเครื่องประดับใดบ้าง“อยากได้สิ่งใดก็เลือกเอา อย่าให้ผู้อื่นดูแคลนฐานะของเจ้า ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าข้าดูแลเจ้าได้ไม่ดีพอ” เพียงได้ยินถ้อยคำของเขา รอยยิ้มที่ประดับอยู่เมื่อครู่พลันจางหายไปทันที แท้จริง...เขาเพียงแค่กังวลว่านางจะทำให้เขาเสียหน้าสินะ หรือว่า...เขาคงรู้ว่าในหีบสินเดิมของนางแทบไม่มีของมีค่าเลย เขาเห็นนางนิ่งเงียบไปจึงย้ายสายตาก้มมองที่ใบหน้านวลเนียนยามนี้ดู...เอ่อ..เขาก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เมื่อครู่ยังเห็นนางยังดูดีอกดีใจมากเลยนี่ สตรีนี่ช่างเข้าใจยากเสียจริง “เช่นนั้น ข้าจะเลือกอีกสองสามชิ้นก็แล้วกัน” นางเอ่ยเสียงเบา คลี่ยิ้มบางๆ แล้วหันไปเลือกกำไลหยกและปิ่นประดับ กู้ตงหยางไม่เข้าใจจิตใจสตรี หรือเขาไม่ควรมาทักนางเช่นนี้ แต่เขาบังเอิญผ่านมาจริงๆ จ้าวจื่อรั่วเลือกเครื่องประดับอย่างใจลอย ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ แต่ท

    Last Updated : 2024-11-07

Latest chapter

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่57. ความลับใหญ่หลวง

    แววตาจริงจังทำให้ซย่าเจียวซิ่งรู้ว่านางไม่ได้พูดเล่น และแน่นอนว่าเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ไม่ควรนำมาพูดเล่น “เจ้าตรวจแน่นอนแล้วหรือ?” เขาถามน้ำเสียงแหบแห้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หญิงสาวพยักหน้ายืนยันคำตอบ “เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร” สีหน้าแทบไร้เลือดนั้นทำให้จ้าวจื่อรั่วสงสารอยู่ไม่น้อย “ข้าตอบในฐานะหมอหญิง นางตั้งครรภ์อ่อนๆ อายุครรภ์ราวสองเดือนซึ่งเป็นเหตุผลที่หมอท่านอื่นอาจตรวจชีพจรมงคลไม่พบ ส่วนเรื่องที่นางหลับใหลนั้น ...ดูจากสภาพร่างกายนาง ข้าคิดว่านางถูกพิษนิทรา” “พิษนิทรา? ข้าไม่เคยได้ยิน” “แม่บุญธรรมของช้าเชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ ข้าจึงพอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง” “รู้อยู่บ้าง? แล้วถอนพิษได้หรือไม่” หญิงสาวพยักหน้ารับ “ตัวยาที่ใช้ถอนพิษมีหลายชนิด ข้าจะเขียนเทียบยาให้ท่านจัดหามาให้ แต่เรื่องที่น่าเป็นกังวลคือเด็กในครรภ์ ...มิรู้ว่าจะแข็งแรงพอจะ...” “รักษานาง ส่วนเด็กนั้น...” “เด็กนั้น? ท่าเรียกได้ไร้ความเมตตาเสียจริง” เขากัดฟันแน่นจนเป็นสันนูน จ้าวจื่อรั่วสัมผัสไ

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่56. เข้าจวน

    หญิงสาวแต่งกายเรียบง่ายด้วยชุดกระโปรงสีเขียวบงกช แต่กระนั้นก็ยังขับเน้นความงามสง่าของผู้สวมใส่ แต่ทำให้ซย่าเจียวซิ่งหรี่ตามองอย่างประเมิน เขาไม่มั่นใจว่าตนเองให้คนเตรียมเสื้อผ้าแบบใดให้หญิงสาวผู้นี้ เขาไม่รู้ว่าเหตุใดรู้สึกว่าหญิงสาวผู้นี้ดูอิ่มเอิบเป็นพิเศษ “ข้าให้ไฉ่หงไปซื้อเสื้อผ้ามาให้ใหม่” จ้าวจื่อรั่วยิ้มมุมปาก “ชุดที่ท่านสรรหามาให้เกรงว่าจะเหมาะกับอนุของท่านมากกว่า” “ข้าไม่มีอนุ” ซย่าเจียวซิ่งตอบเสียงแข็งอย่างรวดเร็ว “นั้นมันเรื่องของท่าน จะทำตาดุใส่ข้าด้วยเหตุใด” หญิงสาวทำหน้างุนงงและนางก็ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเขาจะทำเสียงเช่นนี้กับนางเพื่ออะไรกัน นางไม่ใช่คู่หมั้นของเขาเสียหน่อย ผู้บัญชาการหนุ่มราวกับเพิ่งนึกได้ว่าตนเอง ‘ร้อนตัว’เกินไปจึงกระแอมไอกลบเกลื่อน แล้วประชดหญิงสาวด้วยการเผยมือเชิญให้นางขึ้นรถม้าด้วยตนเอง “ไฉ่หงไม่ต้องไป” เขาสั่งน้ำเสียงเฉียบขาดทำให้สาวใช้สะดุ้งโหยงแล้วก้มหน้าหลบสายตา แต่นึกขึ้นได้ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับยื่นล่วมยาออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ผู้บัญชาการจึงจำเป็นต้องรับมาถือไว้เสียเอง ราวกับ

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่55. ท่านหึงรึ?

    หน้าต่างห้องนอนค่อยๆ ถูกเปิดออกอย่างเบามือก่อนที่ร่างใหญ่จะแทรกกายเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ เขาปลดเสื้อคลุมกันลมออกแล้วถูมือเรียกไออุ่นก่อนก้าวเข้าไปในเลิกม่านมุ้งขึ้นและนั่งลงริมเตียง ใบหน้าหวานยามหลับใหลประดับรอยยิ้มน้อยๆ ทำเอาชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเบาๆ “ท่านมาแล้ว” เสียงหวานพูดขึ้นแผ่วเบาก่อนจะลืมตาขึ้น แม้ในแสงสลัวของราตรีกาลแต่หญิงสาวก็รู้ว่าผู้ใดเข้ามาในยามวิกาลเช่นนี้ “รอข้าหรือรอผู้ใด” กู้ตงหยางถอดรองเท้าแล้วขึ้นเตียงภรรยา นางเปิดผ้าห่มให้เขาแทรกตัวเข้าไปนอนเคียงข้าง “พูดเช่นนี้ ท่านหึงรึ” “ข้ามีสิทธิ์หึงหรือไม่เล่า” แม่ทัพหนุ่มพ่ายแพ้อย่างหมดท่าเพราะภรรยาตัวน้อยออดอ้อนเสียแล้ว เขาวาดวงแขนแล้วรั้งนางเข้ามาในอ้อมกอด นานเหลือเกินที่ไม่ได้กอดเมียรักเช่นนี้ “อากาศที่แคว้นหลี่เย็นนัก เจ้ากับลูกต้องระวังให้มาก” “ข้าเป็นถึงฮูหยินแม่ทัพกู้ ผู้ใดจะปล่อยให้ข้าต้องลำบากกันเล่า” นางพูดแล้วพริมตาหลับลงตามเดิม รู้อยู่เต็มอกว่ากู้ตงหยางต้องหาทางกลับมาหานางอยู่แล้ว จึงมิได้ลงกลอนแน่นหนา แต่แค่กลอนหน้าต่างมีรึแม่ทัพกู้จะหาท

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่54. เงื่อนไข

    ซย่าเจียวซิ่งก้าวเท้าออกมาจากจวนเสนาบดี ใบหน้าที่เรียบนิ่งอยู่เป็นนิจมีความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ‘หมอหลวงมารักษานางแล้วก็ต่างส่ายหน้า เจ้าประกาศหาหมอทั่วแคว้นมารักษานางก็ยังไม่ได้ผล เคยคิดหรือไม่ว่าทำเช่นนี้เป็นการทำลายชื่อเสียงของนาง’ ‘ชีวิตของนางสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด’ ซย่าเจียวซิ่งเอ่ยด้วยใจจริง แม้ไม่ได้รักใคร่นางเช่นหนุ่มสาวแต่เอ็นดูนางเป็นน้องสาวมาตลอด เขาย่อมไม่ต้องการเห็นนางอยู่ในห้วงทุกข์ และเวลานี้ที่นางหลับใหลไม่ตื่นเช่นนี้ เขาย่อมต้องเป็นห่วงนาง ‘หากท่านเกรงว่าหลี่หรูจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ข้ายินดีแต่งนางเป็นภรรยาแม้นางยังไม่ได้สติเช่นนี้’ ‘เป็นเจ้าที่เสนอขึ้นมาเอง ข้ามิใช่คนขู่บังคับเจ้า’ ‘แน่นอน ข้ายินดี แต่ข้าขออนุญาตให้พาหมอมาตรวจอาการของหลี่หรู’ ‘ถ้าเจ้ารับปากเช่นนี้ ก็ทำตามใจเถิด’ หากไม่กล่าวเช่นนั้นออกไปก็เกรงว่าเสนาบดีจะไม่ยอมให้เขาพาหมอเข้าไปตรวจอาการของหลี่หรู ภาพในความทรงจำปรากฏขึ้น หลี่หรูเป็นเด็กขี้อาย ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนักจึงไม่ค่อยได้ออกไปนอกจวน ครอบครัวของทั้

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่53. ได้เจอแล้ว

    จ้าวจื่อรั่วอมยิ้มแล้วเดินเข้าเรือนหลังเล็กที่ถูกตระเตรียมไว้รับรอง มีบ่าวรับใช้สูงวัยอยู่หลายคน ดูๆไปเหมือนเป็นสตรีที่ถูกเลี้ยงดูนอกจวน นี่ผู้บัญชาการซย่าคงไม่ได้คิดจะให้นางเล่นบทเป็นนางบำเรอของเขากระมัง คนผู้นั้นคงมาถึงก่อนแล้วแต่ไม่อยู่รอต้อนรับซึ่งสร้างความสบายใจให้จ้าวจื่อรั่วเป็นอย่างนิ่ง ทุกคนรับรู้การมาของนางและต้อนรับตามมารยาท “ไฉ่หง ข้าหิวแล้ว เจ้าเข้าไปดูในครัวให้เขาทำอะไรร้อนๆ มาให้ข้ากินสักชาม และอย่างลืมที่ข้าสั่งไว้ล่ะ” “เจ้าค่ะ ข้าท่องขึ้นใจแล้ว” มีอาหารแสลงที่ไม่เหมาะกับคนท้อง นางไม่ได้บอกเรื่องนี้กับไฉ่หงแต่ให้สาวใช้ท่องจำและบอกว่านางแพ้อาหารเหล่านั้น ไฉ่หงเป็นเด็กซื่อและเชื่อฟังไม่ซักถามสิ่งใด เมื่อนางสั่งให้ท่องจำก็ทำตามที่สั่งและเมื่อนางสั่งให้ไปในครัว ไฉ่หงก็แทบจะวิ่งถลาไปทันที หญิงสาวยิ้มน้อยๆ เดินตามบ่าวรับใช้มาที่ห้องพักของตน “ท่านผู้บัญชาการได้สั่งให้บ่าวเตรียมของใช้ของฮูหยินแล้ว หากฮูหยินต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมโปรดบอกบ่าวได้ขอรับ” “เรียกข้าฮูหยินกู้” นางส่งยิ้มแต่แววตาจริงจัง “

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่52. เมืองหลวง

    เมืองหลวงคึกคักคือภาพที่เดาได้ไม่ยาก ไฉ่หงตื่นตากับภาพที่เห็นทำให้จ้าวจื่อรั่วอมยิ้มน้อยในความไร้เดียงสา สาวใช้ค้อนเข้าให้แล้วเอ่ยวาจา“พี่สาวอย่าหัวเราะข้าสิ”“ข้าหัวเราะเมื่อใดกัน” นางคลี่ยิ้มและวางมือบนหน้าท้องที่ยังไม่โตนัก “เจ้าอายุแค่สิบห้า ตื่นตากับภาพที่เห็นไม่แปลกอันใด”“พี่สาวเคยอยู่เมืองหลวงหรือ?”“อื้ม แต่ไม่ใช่ที่นี่” นางเคยอยู่เมืองหลวง แต่ที่นั้นไม่นับเป็นบ้านได้เลย หากไม่มีน้องชายทั้งสองนางคงไม่รู้ว่าตัวเองมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใด แต่ตอนนี้นางมีครอบครัว มีบุรุษที่รักและลูกน้อย“ที่แคว้นของพี่สาวคงรื่นรมย์น่าดู ข้าได้ยินว่าการเพาะปลูกดีมีข้าวกินทั้งปีไม่ต้องกลัวอดยาก”“อืม” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปขยับผ้าม่านหน้าต่างรถม้า ลมวูบหนึ่งเข้ามาปะทะใบหน้า แต่อากาศไม่หนาวเย็นเท่าชายแดนแต่กระนั้น นางยังคงสวมเสื้อคลุมหนานุ่มที่ผู้บัญชาการผู้นั้นมอบให้ ตั้งแต่ออกจากโรงเตี้ยม เขาก็ควบม้าแยกไปก่อน ซึ่งก็นับว่าดีกับนางเพราะไม่อยากอยู่กับคนเย็นชาเช่นนั้นไฉ่หงลอบมองจ้าวจื่อรั่วอยู่บ่อยๆ สตรีผู้นี้มีใบหน้าประดับรอยยิ้มอยู่เสมอ ดูสงบเยือกเย็นยามอยู่ต่อหน้าผู้บัญชาการก็ไม่แสดงอาก

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่51.นับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง

    จ้าวจื่อรั่วอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งจับชีพจรตนเอง พลันคิดอย่างโล่งใจว่าครรภ์นี้ช่างแข็งแรงดีเหลือเกิน แทบไม่มีอาการแพ้ท้องอาจเพราะที่ผ่านมาดูแลตัวเองอย่างดีและประสบการณ์เกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อครั้งที่ตั้งครรภ์หลิงหยุนนั้นสุขภาพนางอ่อนแอมากซ้ำยังคลอดก่อนกำหนด โชคดีที่ได้พบพ่อแม่บุญธรรมช่วยเหลือ มิเช่นนั้นทั้งนางและลูกคงไปแดนปรโลกแล้ว“พี่สาวอาบน้ำเสร็จแล้วรึเจ้าคะ” ไฉ่หงส่งเสียงถามและก้าวเข้ามาพร้อมเสื้อคลุมขนดูหนานุ่มและอบอุ่น สาวใช้คลี่ออกแล้วคลุมร่างให้จ้าวจื่อรั่ว “ผู้บัญชาการให้ข้านำมาให้พี่สาวเจ้าค่ะ”“นับว่ามีน้ำใจอยู่บ้าง” นางรู้ว่าเสื้อคลุมนี้ราคาไม่ธรรมดา“เอ่อ...คือท่านผู้บัญชาการให้เชิญพี่สาวไปกินข้าวเย็นด้วยกันเจ้าค่ะ”“อย่างนั้นรึ” เพราะเดินทางอยู่บนรถม้านานจึงอ่อนเพลีย นางไม่อยากกินข้าวเย็นนัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องกินเพื่อบำรุงเด็กในท้องนางจึงพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้น มือเรียวกระชับเสื้อคลุมให้มิดชิดก่อนก้าวเท้าออกจากห้องพักของตนไปตามทางที่โฉ่หงนำทาง ใช้เวลาเดินแค่อึดใจก็มาถึงห้องที่โรงเตี้ยมเตรียมไว้รับรอง ซย่าเจียวซิ่งนั่งดื่มชารออยู่ก่อนแล้ว จ้าวจื่อรั่วกวาดต

  • ทัณฑ์อสุรา    ตอนที่50.   การถูกเอาอกเอาใจมากนั้นไม่ดีเลย

    แม้ชายแดนติดกันแต่สภาพอากาศต่างกันอาจเพราะเมืองเป่าติ้งล้อมรอบด้วยหุบเขาอากาศจึงหนาวเย็นกว่าแคว้นของตน จ้าวจื่อรั่วไม่ชอบอากาศหนาวเย็นแต่ก็ไม่เคยปริปากบ่น อาจเพราะแต่เด็กนางไม่ได้รับการใส่ใจนัก และหลังจากกู้ตงหยางรับนางกลับเข้าจวนพร้อมลูก เมื่ออากาศเย็นลงเขาจะให้คนตั้งกระถางไฟรอบๆ ห้องเพื่อให้นางอบอุ่นโดยไม่ต้องร้องบอก และที่สำคัญ เรือนกายกำยำของเขาหลังผ่านการขับพิษแล้วมักอุ่นร้อนทำให้นางหลับในอ้อมแขนเขาอย่างเป็นสุข การถูกเอาอกเอาใจมากนั้นไม่ดีเลย เพราะยามนี้นางคิดถึงเขาเหลือเกิน ประตูรถม้าถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ลมหนาววูบหนึ่งพัดเข้ามาตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดดำเรียบง่ายแต่ตัดเย็บประณีต ดวงตาคมจ้องมองนางวูบหนึ่งก่อนรีบปิดประตูและนั่งลงตรงนั้นใช้ร่างกายของตนช่วยกันลมให้อีกทาง คนผู้นี้ดูเย็นชาแต่ก็ใส่ใจผู้อื่นอยู่บ้าง จ้าวจื่อรั่วได้แต่ถอนหายใจเบาๆ แล้วซุกมือกับเตาพกเพื่ออุ่นมือ อย่างไรเสียนางก็ไม่ยอมให้ลูกในท้องต้องทรมานเพราะความหนาว “ไม่มีผู้ใดอบรมเรื่องมารยาทของท่านรึ” นางยังคงไม่เข้าใจ ได้ยินว่าเขาเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แต่

  • ทัณฑ์อสุรา     ตอนที่49.  รวบรวมคนของเรา

    เมืองเป่าติ้งอยู่ชายแดนแคว้นหลู่ อากาศเย็นตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาวจะหนาวจัด ผู้คนที่มีฐานะล้วนอพยพเดินทางหนีลมหนาวเข้าไปในเมืองหลวงที่อบอุ่นกว่า แต่กระนั้นก็ยังมีชาวเมืองอาศัยอยู่มากและอยู่ด้วยความเคยชิน รวมถึงเชื่อมั่นใจผู้บัญชาการซย่าเจียวซิ่ง บุรุษรูปร่างสูงใหญ่สองคนเดินปะปนกับชาวเมือง แม้สวมชุดผ้าฝ้ายเนื้อหยาบแบบนายพรานทั่วไป คนผู้หนึ่งสะพายคันธนู ทว่าบุรุษอีกคนนั้นท่าทางองอาจ แววตาวาวโรจน์และมีไอสังหาร ทุกการก้าวเดินมั่นคงย่อมไม่เหมือนนายพรานทั่วไป “พี่ใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงเมีย แต่ช่วยเก็บไอสังหารหน่อยเถอะ” อี้ซวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “เลี้ยวขวาที่ตรอกข้างหน้าก็ถึงแล้ว” กู้ตงหยางเพียงปรายตามอง ‘มือขวา’ ที่ยามนี้ใบหน้าเปื้อนหนวดเครารกรุงรังเหมือนโจรป่ามากกว่าคนเคยเป็นทหารข้างกายเขา เกือบสิบปีก่อนอี้ซวนได้รับบาดเจ็บสาหัสแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่เมื่อพ้นความตายมาได้ ก็ขอลาออกจากกองทัพ ใช้ชีวิตในป่าเขาไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใด แต่กระนั้นกู้ตงหยางก็ยังรับรู้การมีชีวิตของคนผู้นี้จนกระทั่งถูกเรียกตัวอีกครั้ง เขาไม่ใช่คนชอบทวงบุญคุณผู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status