ตอนที่10
ความจริงทั้งหมด
“ลีคุณไม่คิดจะหาเงินมาช่วยผมเลยใช่ไหม”
ชูชาติหงุดหงิดใส่วราลีที่ไปเยี่ยมเขาที่โรงพัก เพราะเขาต้องทนอยู่ในห้องขังมาหลายคืนแล้ว
“คุณคิดว่าฉันอยู่เฉยๆเหรอ หัวหมุนไปหมดแล้ว เงินไม่ใช่น้อยๆ หยิบยืมใครก็ไม่มีใครเขาให้”
หญิงสาวนั่งลงข้างๆสามี ที่มีกรงเหล็กกั้นระหว่างเขากับเธออยู่ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย
“ไอ้ศรุตล่ะ มันหลงคุณจะตายทำไมไม่ไปขอมันมาให้ได้”
“คุณคิดว่าฉันไม่ทำเหรอ คุณรู้ไหมมันรู้เรื่องของเราหมดแล้ว และมันก็ทิ้งฉันไว้ที่บ้านของมัน แต่ตัวมันขึ้นดอยไปกับเมียมันนู่น”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ วราลียิ่งรู้สึกแค้น เธอกับศรุตรักกันอยู่ดี ๆเพราะข้อเสนอของทรงวุฒิที่มันมาล่อตาล่อใจทำให้เธอยอมให้ศรุตไปแต่งงานเพื่อหวังจะได้สมบัติกองโต แต่กลายเป็นเธอต้องเสียเขาไป
“แล้วโง่ไปทำยังไงให้มันจับได้ล่ะ” ชูชาติตะคอกใส่หน้าหญิงสาวที่อยู่นอกห้องขัง
“ใช่ฉันมันโง่ ถ้าคุณคิดว่าคุณฉลาดก็หาทางออกจากที่นี่เอาเองแล้วกัน”
เมื่อความอดทนมันหมด หญิงสาวก็ไม่อยากอยู่ฟังคำด่าทอจากชูชาติอีก ตอนนี้เธอทั้งเครียด เสียใจ และเหนื่อยไปกับทุกอย่างที่กำลังเจอ
“เพราะแกคนเดียวอีน้ำผึ้ง”
วราลีกำมือแน่นด้วยความแค้น เธอโยนความผิดทั้งหมดให้กับน้ำผึ้ง ที่มาแย่งทุกอย่างไปจากเธอ
“แม่จ๊ะ เดี๋ยววันนี้น้ำผึ้งจะพาคุณศรุตไปพักผ่อนที่น้ำตกนะ แม่ช่วยเตรียมอาหารให้หน่อยนะจ๊ะ ”
“ไปพักผ่อนกันบ้าง แม่เห็นเราทั้งคู่สีหน้าดูไม่มีความสุขเลย เหนื่อยงานที่โรงแรมของคุณปู่กันใช่ไหม” คนเป็นแม่สังเกตด้วยความเป็นห่วง
“อ๋อ...ใช่จ้าแม่ เดี๋ยวน้ำผึ้งไปเตรียมของก่อนนะ”
การโกหกแม่เป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด น้ำผึ้งจึงต้องรีบเดินออกจากตรงนั้นเพราะกลัวถ้ามารดาของเธอถามอะไรมากกว่านี้ น้ำตาของเธอมันคงไหลออกมาแทนคำตอบ
“นานแล้วที่น้ำผึ้งไม่ได้มาที่นี่ แต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม”
หญิงสาวนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ที่เลื่อนกระจกลงเพื่อรับอากาศที่แสนจะสดชื่นจากภายนอก
“อากาศข้างนอกหนาว ผมว่าคุณใส่เสื้อกันหนาวหน่อยไหม เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
ศรุตหยุดรถและหันหลังเอื้อมไปหยิบเสื้อกันหนาวแขนยาวตัวโปรดของเขาให้ภรรยา
“ขอบคุณนะคะ”
น้ำผึ้งรับเสื้อไปใส่ ถึงเธอจะไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่ เพราะเคยชินกับอากาศที่นี่ตั้งแต่เกิด แต่ก็อดเป็นห่วงอีกชีวิตไม่ได้ถ้าเธอเกิดไม่สบายขึ้นมา
เสื่อถูกปูพร้อมกับเบาะนิ่มๆ ที่ศรุตหยิบติดมือมา เพราะกลัวภรรยาจะนั่งไม่สบาย ข้างๆน้ำตก ตรงจุดเดิมที่ทั้งคู่เคยมาเมื่อครั้งแรกที่เจอกัน
“กินกล้วยตากฝีมือแม่ก่อนนะคะ น้ำผึ้งยังไม่อยากฟังทุกอย่างตอนนี้”
หญิงสาวยังอยากมีความสุขกับการได้อยู่กับคนที่เธอรักก่อน เพราะถ้าเธอรู้ความจริงทั้งหมดเธอยังไม่รู้ว่าตัวเธอจะยังให้อภัย ชายหนุ่มตรงหน้าได้อยู่ไหม
“อร่อยมากเลยครับ คุณแม่คุณฝีมือดีทำกับข้าวก็อร่อย” ศรุตชมจากใจจริง
“ไว้คุณกลับเข้าในเมือง น้ำผึ้งจะให้แม่ทำใส่กล่องไปให้นะคะ”
“ทำไมคุณพูดเหมือนคุณจะไม่กลับไปอยู่กับผมอีกแล้ว ”
ศรุตคว้ามือภรรยามากอดแนบอก เหมือนกลัวว่าเขากับเธอจะไม่ได้เจอกันอีก
“ในชีวิตเราไม่มีอะไรแน่นอน น้ำผึ้งพร้อมที่จะฟังความจริงจากปากของคุณแล้ว หวังว่าคุณจะพูดแต่ความจริงและไม่มีอะไรที่น้ำผึ้งจะต้องมารู้ทีหลังอีกนะคะ”
หญิงสาวชักมือกลับมาวางที่ตักของเธอ ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆเพื่อเตรียมรับกับสิ่งที่จะได้ฟัง
“ตอนแรกที่คุณทรงวุฒิขอให้ผมแต่งงานกับคุณ ผมไม่เต็มใจเพราะตอนนั้นผมมีคนรักอยู่แล้วคือวราลี ผมจึงเอาเรื่องที่ท่านพูดกับผมทั้งหมดไปบอกเธอ”
พูดถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็เว้นวรรค เพื่อสังเกตสีหน้าของคนที่เขากำลังเล่าให้ฟัง
“เธอบอกให้ผมแต่ง เพราะจะทำให้เราได้ทรัพย์สมบัติจำนวนมาก”
“แล้วคุณก็ยอมเพราะเชื่อในคำสั่งของแฟนคุณ” น้ำผึ้งอดพูดไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจว่าจะฟังเพียงอย่างเดียว
“แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้ผมยอม คุณปู่ของคุณท่านเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อกับแม่ของผมแยกทางกันและสุดท้ายผมก็กลายเป็นเด็กำพร้า”
“คุณทำเพราะต้องการตอบแทนคุณปู่อย่างนั้นเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ท่านบอกกับผมว่า ท่านทำผิดไว้กับพ่อของคุณและแม่ของคุณไว้มาก ท่านคงนอนตายตาไม่หลับถ้าไม่ได้ชดเชยทุกอย่างให้กับคุณ ซึ่งเป็นทายาทเพียงคนเดียวของท่าน”
ศรุตหยุดเล่าต่อและถอนหายใจ ก้มหน้าเพราะไม่อยากให้หญิงสาวตรงหน้าเห็นน้ำตาของเขา ก่อนจะเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ผมตั้งใจว่าจะแต่งงานกับคุณแค่เพียงในนามเพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณที่สุดในชีวิตของผม แต่ความคิดทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพียงแค่ผมได้เจอหน้าคุณครั้งแรก”
“เปลี่ยนไปอย่างไรคะ” หญิงสาวรีบถามแซงด้วยความยากรู้
“ผมชอบคุณตั้งแต่แรกเห็น และก็หลงรักคุณทันทีที่เรามีความสัมพันธ์กัน ผมก็ได้แต่ถามตัวเองว่าเพราะอะไรผมถึงได้รักคุณแบบนั้น ทั้งที่ผมมีคนรักอยู่แล้ว ”
“เพราะคุณมันมักมากเห็นแก่ตัว” น้ำผึ้งด่าแทรกออกมา
“ใช่ผมเห็นแก่ตัว แต่ผมไม่ได้มักมาก เพราะผมไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นตลอดเวลาที่ผมคบกับวราลี จนผมได้มาเจอกับคุณ ผมถึงได้รู้ใจตัวเองว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยรักลีเลย”
“และสิ่งที่คุณพูดกับแฟนของคุณที่บ้านของคุณปู่ล่ะ ” น้ำผึ้งถามถึงในสิ่งที่เธอได้ยิน
“วันนั้นเป็นวันที่ลีเขามาขอเงินผมเพื่อเอาไปช่วยปิดคดีของสามีของเธอ โดยที่ลีไม่รู้ว่าผมรู้ความจริงแล้ว ว่าผู้ชายที่เธอบอกกับผมมาตลอดว่าเป็นอา แท้ที่จริงเขาคือสามีของเธอ เมื่อผมไม่ให้เธอก็ขู่จะทำทุกอย่างให้ผมเลิกกับคุณ ผมกลัวว่าเขาจะทำจริงๆและผมก็เชื่อว่าถ้าคุณรู้เรื่องทั้งหมดจากปากของคนอื่นที่ไม่ใช่ผม คุณคงไม่มีทางให้อภัย”
“น้ำผึ้งเชื่อคุณได้ใช่ไหม” หญิงสาวมองสามีที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่สับสนไปหมด
“คุณยังไม่ต้องเชื่อสิ่งที่ผมเล่า แต่ผมขอให้คุณเชื่อว่าตอนนี้ผมรักคุณกับลูกมากที่สุด และจะไม่มีทางรักใครได้อีกแล้ว”
สายตาที่ดูจริงใจของชายหนุ่ม ทำให้น้ำผึ้งเชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด แต่เธอก็เผื่อใจไว้ ถ้าทุกอย่างมันไม่ใช่ความจริง เธอจะได้ไม่เสียใจ
“น้ำผึ้งให้โอกาสคุณ แต่มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เวลาเท่านั้นที่จะทำให้แผลในหัวใจมันค่อยๆหาย คุณรอได้ใช่ไหม”
ชายหนุ่มโผกอดภรรยาด้วยความดีใจ ที่เขาจะไม่ต้องสูญเสียเธอกับลูกไป ถึงแม้หญิงสาวอาจจะไม่ได้กลับมารักเขาเหมือนเดิมก็ตาม
ตอนที่11นาทีชีวิต “เป็นไงบ้างลูก อากาศหนาวไหมที่น้ำตก” มะเดื่อรีบเดินลงจากบ้านมาช่วยลูกสาวถือของเพราะกลัวคนท้องจะถือไม่ไหว“หนาวมากเลยครับ ดีนะเอาเสื้อกันหนาวกับผ้าห่มติดไปด้วย ผมเลยเผลอหลับไปหลายตื่น” ลูกเขยเล่าให้แม่ยายฟัง“มีความสุขกันมากใช่ไหม”เสียงตะโกนมาจากด้านหลัง เป็นเสียงที่ศรุตได้ยินก็รู้ทันทีว่าใคร“ลีคุณมาที่นี่ทำไม” ศรุตหันหน้าไปถามแขกที่ไม่ได้รับเชิญ“ก็มาดูหน้าอีผู้หญิงที่มันแย่งผัวฉันไง”ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงสาวที่มาที่นี่ด้วยความแค้นแดงกร่ำเหมือนดวงตาของปีศาจร้ายที่กำลังมองเหยื่อ“ผัวคุณอยู่ในคุกตอนนี้ คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า” ศรุตย้อน“คุณรักมันมากใช่ไหม อีนี่มันรวยคุณถึงรักมัน ฉันรู้ว่าจริงๆคุณยังรักฉันอยู่แต่แค่กลัวจะไม่ได้สมบัติใช่ไหม”วราลีพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนคนกำลังเสียสติ ที่เดี๋ยวก็โมโห เดี๋ยวก็ยิ้มอย่างมีความสุข“ผมรักน้ำผึ้งเพราะตัวเธอ อย่าคิดว่าคนอื่นจะหิวเงินแบบคุณเลยลี คุณกลับไปหาผัวที่แสนจะใจกว้างของคุณเถอะ เขาให้คุณมานอนกับผมเพียงแค่เห็นคุณเป็นตัวหาเงิน คุณทั้งคู่เหมาะกันแล้ว”กรี๊ดดดดดดดวราลีกรี๊ดสุดเสียง ก่อนจะหยิบปืนจากกระเป๋าขึ้น
ตอนที่12ข่าวดีที่สุดในชีวิต ศรุตใช้เวลารักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักถึงสามวันสามคืน มะเดื่อเดินทางมาจากดอยเพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวและแจ้งข่าวเรื่องของการจับกุมตัววราลีที่เป็นคนยิงศรุตได้แล้ว “เย็นนี้คุณหมอจะมาดูอาการของคุณศรุตจ๊ะแม่ ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงจะได้ขึ้นมาอยู่ที่ห้องนี้เย็นนี้เลยค่ะ” น้ำผึ้งเล่าให้มารดาฟังด้วยความดีใจ ที่สามีของเธอจะได้มาอยู่ใกล้กับเธอแล้ว “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้แม่จะได้กลับบ้าน แล้วอีกสองสามวันแม่จะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนใหม่” มะเดื่อไม่ค่อยเคยชินกับการอยู่ในเมืองและเธอก็เป็นห่วงบ้านและไร่นาที่ทิ้งมา คุณหมอมาตรวจดูอาการและยอมให้ศรุตขึ้นมาอยู่ที่ห้องพิเศษได้ เป็นข่าวดี ที่น้ำผึ้งรอคอยมาตลอดหลายวัน“ตอนนี้คนไข้หลับไปเพราะฤทธิ์ยา น่าจะอีกเกือบชั่วโมงถึงจะตื่น รบกวนถ้าคนไข้ตื่นแล้วช่วยเรียกพยาบาลด้วยนะคะ”พยาบาลสาวชี้แจงรายละเอียดในการดูแลคนไข้ให้กับน้ำผึ้ง และบอกให้หญิงสาวเรียกเธอทันทีที่ศรุตตื่นหญิงสาวนั่งเฝ้าชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนเตียง โดยไม่ยอมลุกไปไหน เพราะกลัว ว่าถ้าสามีของเธอตื่นขึ้นมาเมื่อไหร
8หลบหน้า เหลืออีกไม่กี่เดือน ยิหวาก็จะเรียนจบ เธอต้องกลับจากมหาวิทยาลัยดึกเกือบทุกวัน เพราะต้องเร่งทำวิจัยให้เสร็จ ส่วนภาคินเอง เมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ก็เข้าช่วยพ่อดูแลธุรกิจอย่างเต็มตัว กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกดื่นทุกคืน ข้อที่ชายหนุ่มพยายามส่งหาหญิงสาวไม่เคยได้รับการตอบรับ ภาคินทนไม่ไหวตัดสินใจโทรหาเธอ ถึงได้รู้ว่ายิหวาไม่ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์เดิมอีกแล้ว “น้าดาริน ทำไมเดี๋ยวนี้ผมไม่เห็นยิหวาเลย” ชายหนุ่มอดใจไว้ไม่ไหว เขาอยากรู้ว่าหญิงสาวที่เป็นของเขาแล้ว ทำไมถึงได้หายหน้าไป “ช่วงนี้เห็นบอกว่า ต้องเร่งทำงานวิจัยส่ง เลยต้องอยุ่ทำงานกับเพื่อนๆจนดึกทุกวัน” ดารินอธิบายตามที่ลูกสาวบอกไว้ “กลับดึกแบบนี้ ขึ้นรถเมย์อันตรายแย่ ไหนจะตอนเดินเข้าซอยบ้านมาอีก” ภาคินทำท่าหงุดหงิด “ไม่อันตรายหรอกค่ะ เพื่อนเขามาส่งทุกวัน เห็นว่าเพื่อนผู้ชาย บ้านเขาอยู่ใกล้ๆ เลยแวะมาส่งให้” หญิงสาวให้ตุลย์เพื่อนที่อยู่กลุ่มวิจัยเดียวกัน ส่งแค่เพียงหน้าประตูด้านนอก จึงไม่มีใครเห็น “เพื่อนผู้ชายที่ไหนกัน ผมทำไมไม่เคยรู้ว่
9รักนี้ใต้แสงเทียน “ไปอาบน้ำให้สบายตัว ใส่เสื้อผ้าฉันไปก่อน เสื้อชุดนักศึกษาก็เอาลงมาปั่นแห้ง พรุ่งนี้ก็คงแห้งแน่นอน” เมื่อยิหวาก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน ภาคินก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่จริงๆแล้ว เขากำลังบังคับให้เธอต้องมานอนกับเขา “กินข้าวเย็นมาหรือยัง” ชายหนุ่มหันมาถาม เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายิหวาเพิ่งกลับมาถึง ไม่แน่ใจว่าเธอจะกินอะไรมาหรือยัง “ยังค่ะ” ใจอยากจะบอกว่ากินแล้ว แต่ท้องมันร้อง กลัวถ้าต้องอดข้าว มีหวังปวดท้องแน่ๆ หญิงสาวจึงต้องบอกตามความเป็นจริง “อาบน้ำแล้วรีบลงมาแล้วกัน” ภาคินพอมีของติดครัวไว้บ้าง แต่ก็เป็นพวกอาหารแบบที่พร้อมสำหรับการอุ่นทันที นานาแล้วที่หญิงสาวไม่ได้มานอนที่ห้องนี้ นับตั้งแต่ภาคินไปเรียนเมืองนอก นานๆครั้งเธอถึงจะได้มาช่วยแม่ทำความสะอาด เสื้อผ้าที่ชายหนุ่มเตรียมไว้ให้เธอ ตัวใหญ่จนหญิงสาวอดขำตัวเองในกระจกไม่ได้ “ลงมาได้แล้ว” เมื่ออาหารถูกจัดวางไว้บนโต๊ะเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ตะโกนเรียก เพราะกลัวอาหารจะเย็นหมด “นั่งกินซะ เดี๋ยวฉันเอ
10ปล่อยมือหรือเดินต่อ เมื่อไฟถูกปิดลง ความคิดถึงที่ทั้งคู่ต่างถวิลหากันมาเกือบสามปี ก็เหมือนพายุ ที่ถูกปลดปล่อยมาในทันที เสื้อผ้าถูกถอดออกจากเรือนร่างบางเล็กของยิหวา อย่างรวดเร็ว จนเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปากหนาทั้งหอมทั้งจูบไปทุกส่วนของร่าง เหมือนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว “คุณภาคินคะ ยิหวาเจ็บนะ” หญิงสาวร้องบอกเขา เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังช้ำไปทั้งตัว ไม่มีเสียงตอบจากคนที่กำลังรุกราน แต่เขากลับใช้ทั้งสองมือบีบเคล้นอกอวบขึ้นมาก่อนจะใช้ปากหนาทั้งเลียและดูด อย่างกระหาย จนเจ้าของอกกลมต้องบิดไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ที่เธอไม่ได้สัมผัสมันมานานแสนนาน “อ่า...อื้อ......” หญิงสาวกลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหวอีกต่อไป โคมไฟหัวเตียงถูกดับลง พร้อมกับความเป็นชายของเขา ที่เข้ามาอยู่ในกลีบชมพูอวบของหญิงสาว สะโพกกลมขยับตามจังหวะที่ชายหนุ่มคอยควบคลุม ให้เธอเคลื่อนไหวตามจังหวะ จากสายน้ำที่ไหลอย่างเชื่องช้า ก็เปลี่ยนเป็นทะเล ที่ถูกเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำจน คนตัวเล็กต้องจิกเล็บสวยลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่
11ลาก่อน “เป็นอะไรไป หน้าซีดเชียว” ดารินเดินเข้ามาจับตัวลูกสาว เมื่อเห็ใบหน้าที่ซีดเซียว “แม่คะ ถ้าหนูหางานทำได้ เราไปอยู่ที่อื่นกันนะคะ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่ทันระวัง ว่ามารดาจะสงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะให้แม่ทิ้งคุณท่าน ทิ้งป้าช้อยไปได้ยังไงกัน” ดารินหันไปทไหน้าดุใส่ลูกสาว “เดี๋ยวไม่มีเรา คุณท่านก็หาแม่บ้านใหม่มาทำงาน แม่จะอยู่เป็นคนใช้เขาไปตลอดชีวิตเหรอ” ยิหวาไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนี้ ทั้งที่ดารินก็สอนเธอตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้รู้จักและสำนึกในบุญคุณของครอบครัวอรรถจิรานนท์ ที่ทำให้เธอกับแม่ มีที่ซุกหัวนอนอย่างเช่นทุกวันนี้ “ยิหวา มันเกิดอะไรขึ้นกันลูก คุณท่านเรียกลูกไปพูดเรื่องอะไร ทำไมถึงออกมาแล้วพูดจาแบบนี้” ดารินเลี้ยงลูกมา เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอ ไม่เคยคิดจะไปจากที่นี่ และอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มาพูดจาเอาจริงเอาจังแบบนี้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ หนูไปรีดผ้าต่อนะคะ” นับตั้งแต่วันนั้นยิหวาก็พยายามหางานทำ เอาที่อยู่ไกลจากบ้านของภาคินให้มากที่สุด
12เริ่มต้นชีวิตใหม่ หญิงสาวออกไปอยู่ข้างนอก โดยที่เธอบอกทุกคนยกเว้นภาคิน ฐานิตาเห็นด้วย เพราะเธอคิดว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ที่อื่น ลุกชายของเธอ น่าจะลืมเธอได้อีกไม่นาน และคงยอมที่จะแต่งงานกับลลิตา “ดาริน ถ้าเธอจะออกไปอยู่กับลูกสาวก็ได้นะ แต่ฉันขอเวลาหาคนใหม่มาแทนก่อน ส่วนป้าช้อยก็ให้แกอยู่ที่นี่ต่อเถอะ อย่าเอาแกไปลำบากด้วยเลย” ฐานิตาถึงจะรู้สึกเสียดายดาริน เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ใจ แต่ก็ต้องยอมแลกกับการที่ลุกชายของเธอจะได้ห่างจากยิหวา “ค่ะคุณท่าน คงอีกสักพัก ถึงจะย้ายตามลูกไป” ดารินเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ดี ว่าฐานิตาก็ต้องอยากให้ลูกชายของเขาได้ผู้หญิงที่ดีที่สุด “น้าดารินครับ ผมไม่เห็นยิหวาหลายวันแล้ว เธอไปไหน” ภาคินเก็บความอยากรู้และไม่สบายใจไว้ไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจเข้ามาถามดารินตรงๆ “ยิหวาเขาออกไปอยู่ข้างนอกแล้วค่ะ แต่น้าก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาไม่ได้บอกไว้” ดารินไม่ได้โกหก เพราะลูกสาวของเธอไม่ได้บอกอะไร มากไปกว่า ว่าที่พักอยู่ใกล้กับที่ทำงาน “ทำไมต้องออกไปอยู่ข้างนอก
13ตามหา หนึ่งเดือนแล้ว ที่ภาคินไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้ข่าวอะไรของหญิงสาวที่เขาสุดแสนจะคิดถึง ชายหนุ่มคิดถึงครั้งที่เขาไปเรียนอยู่อเมริกา เขาก็เคยทำกับเธอแบบนี้ เธอคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ไม่ต่างกับเขา “คุณรู้ไหม ภาคินไม่ไปทำงานหลายวันแล้ว ผมถามหนูลิตา เธอก็บอกว่า ภาคินดื่มหนักเกือบทุกคืน” คณินทำงานที่เดียวกับลุกชายและลลิตา เขาถึงมีโอกาสได้สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย “คุณคิดว่ายังไงคะ” ฐานิตาไม่เข้าใจ ว่าสามีต้องการจะบอกอะไร “ผมว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ข้างนอกแบบนี้ มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ ลูกชายเราเป็นแบบนี้ คุณคิดว่า คนอย่างหนูลิตาเขาจะอยากฝากชีวิตไว้ด้วยเหรอ” ฐานิตาเห็นด้วยกับคำพูดของสามี แต่เธอก็ไม่สามารถจะยอมรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกชายเธอกับคนงานในบ้านได้ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สงสารลูกนะ แต่คุณจะให้ฉันยอมรับลูกคนรับใช้มาเป็นสะใภ้ ฉันทำใจไม่ได้หรอก” “คุณรังเกียจยิหวา เพียงเพราะมันเป็นลูกสาวคนใช้ใช่ไหม และถ้าสมมุติว่าวันนึง ลูกสาวคนใช้กลายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของข้าราชการระดับสูงในบ้านเมืองเร
18อบอุ่นพร้อมหน้า “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปฝากท้องนะ” ภาคินเดินประคองพาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เข้าไปในบ้านที่เข้าตั้งใจไว้เพื่อเป็นบ้านของครอบครัวที่น่ารักของเขา “วันนี้ยิหวาไม่ต้องแอบเหมือนทุกๆครั้งที่มาที่นี่” คำพูดของหญิงสาว ทำให้ภาคิน สำนึกได้ว่าที่ผ่านมา เขาไม่เป็นลูกผู้ชาย เขาไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่เขารัก ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่า พอถึงเวลาที่เสียไป เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเธอมีค่าแค่ไหน “ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่มีค่า เรามาเริ่มต้นจุดเทียนกันใหม่ แต่เทียนเล่มนี้ จะมีทั้งความรักและความอบอุ่น เป็นกำบังคอยป้องกันทุกอย่าง ที่จะมาทำให้เทียนแห่งรักนี้ดับลง ฉันสัญญาจะรักและดูแลเธอกับลูกไปตลอดชีวิต” หญิงสาวเชื่อทุกคำที่ภาคินพูด เพราะทุกอย่างที่เขาทำในเวลานี้ มันเป็นบทพิสูจน์แล้ว “ขอบคุณนะคะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อยิหวากับลูก” บ้านหลังนี้ ที่ภาคินเคยคิดว่ามันใหญ่เกินไป เพราะมีถึงสี่ห้องนอน แต่ตอนนี้ มันจะเหลือว่างแค่เพียงสองห้อง เพราะอีกห้องต้องเตรียมไว้ สำหรับลูกของเขาที่กำลังจะเกิดมา ศศิวัฒน์กลับไป
17เผชิญหน้ากับทุกปัญหา “ภาคินลูกไปไหนมาทั้งวัน คุณพ่อก็อีกคนยังไม่กลับมาเลย” ฐานิตาลุกออกจาโซฟา เดินมาหาลูกชายที่หน้าประตูบ้าน “ผมไปรับภรรยาผมกลับบ้านครับ” ภาคินยิ้มมุมปาก “ภรรยา ลูกหมายความว่าอะไร” ฐานิตายืนมองหน้าลูกชาย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาคินพูด แต่มันต้องเป็นเรื่องที่เธอจะต้องไม่ชอบใจแน่ๆ “สวัสดีค่ะคุณท่าน” ยิหวาเดินตามหลังภาคินเข้ามา “หมายความว่ายังไง ที่ภาคินบอกว่าพาภรรยามา” ฐานิตายืนถลึงตาด้วยความไม่พอใจ“นี่ค่ะ ทะเบียนสมรสเราเพิ่งไปจดกันมา เมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”ยิหวายื่นกระดาษในมือของเธอ ให้มารดาของภาคินดู เพื่อให้เธอได้เห็นชื่อชัดๆว่าใครสมรสกับใคร“ไม่จริ๊ง ไม่จริง ภาคินลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม”ฐานิตาเดินตามทั้งคู่เข้ามาในบ้าน โดยครั้งนี้ยิหวา ไม่ได้นั่งข้างล่างเหมือนแต่ก่อน เธอนั่งบนโซฟาข้างๆสามีของเธอ“ลูกจะต้องแต่งงานกับหนูลิตาเท่านั้น ” ฐานิตากระแทกเสียง“ก็ได้นะคะ ถ้าคุณลิตาจะยอมเป็นเมียน้อย” ยิหวาต่อปากต่อคำ“ยิหวา ฉันหลงคิดว่าเธอมันเป็นเด็กดี ที่แท้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอ”ฐานิตาลืมตัว
16ตามหัวใจคืน “ยิหวา เธอหลบหน้าฉันทำไม” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อจำได้ว่าเสียงที่กำลังเรียกชื้อเธอนั้นคือใคร “คุณภาคิน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”หญิงสาวพยายามดึงมือที่จับแขนเธอไว้แน่น แต่มันไม่ขยับเลย“เปิดประตูแล้วเข้าไปคุยกันในห้อง อยากมายืนเถียงกันให้อายคนอื่นเหรอ”ภาคินเคล้นเสียงหนักแน่น แต่เบาเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน“คุณจะตามฉันมาทำไม”ยิหวาตวาดเสียงแหลมใส่หน้าชายหนุ่มทันที เมื่อประตูถูกปิดลง“ก็เพราะเธอหนีออกมาแบบนี้ไง”ภาคินคว้าแขนเล็กไว้และดึงร่างบางอย่างแรง จนหญิงสาวแทบจะเซล้ม“ฉันไม่ได้หนีคุณ แล้วทำไมต้องหนี การที่ฉันจะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย เราก็เป็นแค่อดีตเจ้านายกับลูกสาวคนรับใช้แค่นั้น”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็ปิดปากของเธอด้วยปากของเขา สองมือหนาประคองใบหน้ารูปไข่ไว้ในมืออย่างทะนุถนอม“พอ หยุดเถอะ ฉันรักเธอ ยิหวา ได้ยินไหมฉันรักเธอ” ชายหนุ่มดึงหญิงสาวมากอดไว้ แล้วพูดอยู่ซ้ำๆแบบนั้น“คุณรักฉันไม่ได้ค่ะ คนที่คุณควรรักคือคุณลิตา เขาคือคนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วย”หญิงสาวกัดฟันพูดด้วยความแค้น เธอพูดทุกถ้อยคำช้าๆแ
15พบกันครั้งแรก “เราว่าแกไม่ต้องตามหาลูกสาวแล้วแหละ” คณินพูดเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นผู้หยิงสองคนที่เขาคุ้นเคยในร้านอาหารข้างๆ“ดาริน”ศศิวัฒน์มองตามสายตาของเพื่อนที่มองไปยัง ร้านอาหารอีกร้านที่อยู่ข้างกัน มีเพียงแค่ทางเดินเล็กๆในห้างกั้นอยู่“นานแล้ว แกยังจำได้อยู่อีกเหรอ” คณินแปลกใจที่เพื่อนของเขายังจำคนรักเก่าได้อยู่ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันยี่สิบกว่าปี“ฉันไม่ได้ยังจำได้ แต่ฉันไม่เคยลืมต่างหาก” ศศิวัฒน์พูดจากหัวใจเราเข้าไปคุยกับทั้งคู่ตอนนี้คงไม่ดี เดี๋ยวเราว่ารอให้ ดารินกับยิหวาต้องแยกกันกลับบ้าน เรารอคุยกับยิหวาคนเดียวจะดีกว่าคณินเสนอความคิดเห็น และศศิวัฒน์ก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่แน่ใจว่าดารินจะยังอยากเจอหน้าเขาอยู่ไหมในที่สุดสองคนแม่ลูกก็แยกกัน ดารินลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถกลับ ส่วนยิหวาเดินแยกไปทางร้านขายเครื่องเขียน“ยิหวา” คณินเรียกหลังจากเดินตามหญิงสาวไป“ยิหวา นี่ศศิวัฒน์เพื่อนของฉัน” คณินแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน“สวัสดีค่ะคุณศศิวัฒน์” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมนี่เป็นครั้งแรก ที่ศศิวัฒน์ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกสาวของเขา แบบตัวเป็นๆ และเธอก็มีหน้าตาที่เหมือน
14ความลับ “แกยังจำดารินได้ไหม” คณินเริ่มเข้าเรื่อง “จำได้สิ ผู้หญิงที่ฉันรักทั้งคนนะ แล้วแกถามถึงทำไม แกเจอดารินเหรอ” ศศิวัฒน์ทำท่ากระตือรือร้นอยากรู้ “อืม...เจอทุกวันเลย เจอมาหลายปีแล้วด้วย” คนตอบไม่พูดตรงๆ “หมายความว่าอะไรวะ คณินแกจะมายียวนเพื่ออะไร มีอะไรเกี่ยวกับดาริน แกพูดมาให้หมดเลย” ศศิวัฒน์รักและจริงใจกับดาริน เขาต้องการจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องกับเขา แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อมารดาของเขาประกาศผ่านสื่อ ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวชั้นสูง ตั้งแต่นั้นมาศศิวัฒน์ก็ไม่เจอดารินอีกเลย “ดารินเขาอยู่ที่บ้านฉัน ตั้งแต่ที่แม่แกประกาศว่าแกจะแต่งงานนั่นแหละ” คณินเริ่มเล่า “เฮ้ย! แล้วทำไมแกไม่บอกฉัน แกรู้ไหมคณินว่าฉันตามหาดารินจนแทบบ้า” ศศิวัฒน์ขึ้นเสียง “ดารินเขาขอฉันไว้ เขาบอกถ้าฉันบอกแก เขาก็จะพาลูกในท้องหนีไปที่อื่น ฉันสงสารเด็ก” “ลูกในท้อง” ศศิวัฒน์พูดทวนคำพูดของเพื่อน เพราะเขาไม่เคยรู้เลย ว่าดารินท้อง “ใช่ ดารินเขาท้อง” คณินเน้นย้ำ เพราะหวังว่าเพื่อนจะพอเข้าใจ ว่าเรื่องราว
13ตามหา หนึ่งเดือนแล้ว ที่ภาคินไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้ข่าวอะไรของหญิงสาวที่เขาสุดแสนจะคิดถึง ชายหนุ่มคิดถึงครั้งที่เขาไปเรียนอยู่อเมริกา เขาก็เคยทำกับเธอแบบนี้ เธอคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ไม่ต่างกับเขา “คุณรู้ไหม ภาคินไม่ไปทำงานหลายวันแล้ว ผมถามหนูลิตา เธอก็บอกว่า ภาคินดื่มหนักเกือบทุกคืน” คณินทำงานที่เดียวกับลุกชายและลลิตา เขาถึงมีโอกาสได้สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย “คุณคิดว่ายังไงคะ” ฐานิตาไม่เข้าใจ ว่าสามีต้องการจะบอกอะไร “ผมว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ข้างนอกแบบนี้ มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ ลูกชายเราเป็นแบบนี้ คุณคิดว่า คนอย่างหนูลิตาเขาจะอยากฝากชีวิตไว้ด้วยเหรอ” ฐานิตาเห็นด้วยกับคำพูดของสามี แต่เธอก็ไม่สามารถจะยอมรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกชายเธอกับคนงานในบ้านได้ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สงสารลูกนะ แต่คุณจะให้ฉันยอมรับลูกคนรับใช้มาเป็นสะใภ้ ฉันทำใจไม่ได้หรอก” “คุณรังเกียจยิหวา เพียงเพราะมันเป็นลูกสาวคนใช้ใช่ไหม และถ้าสมมุติว่าวันนึง ลูกสาวคนใช้กลายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของข้าราชการระดับสูงในบ้านเมืองเร
12เริ่มต้นชีวิตใหม่ หญิงสาวออกไปอยู่ข้างนอก โดยที่เธอบอกทุกคนยกเว้นภาคิน ฐานิตาเห็นด้วย เพราะเธอคิดว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ที่อื่น ลุกชายของเธอ น่าจะลืมเธอได้อีกไม่นาน และคงยอมที่จะแต่งงานกับลลิตา “ดาริน ถ้าเธอจะออกไปอยู่กับลูกสาวก็ได้นะ แต่ฉันขอเวลาหาคนใหม่มาแทนก่อน ส่วนป้าช้อยก็ให้แกอยู่ที่นี่ต่อเถอะ อย่าเอาแกไปลำบากด้วยเลย” ฐานิตาถึงจะรู้สึกเสียดายดาริน เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ใจ แต่ก็ต้องยอมแลกกับการที่ลุกชายของเธอจะได้ห่างจากยิหวา “ค่ะคุณท่าน คงอีกสักพัก ถึงจะย้ายตามลูกไป” ดารินเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ดี ว่าฐานิตาก็ต้องอยากให้ลูกชายของเขาได้ผู้หญิงที่ดีที่สุด “น้าดารินครับ ผมไม่เห็นยิหวาหลายวันแล้ว เธอไปไหน” ภาคินเก็บความอยากรู้และไม่สบายใจไว้ไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจเข้ามาถามดารินตรงๆ “ยิหวาเขาออกไปอยู่ข้างนอกแล้วค่ะ แต่น้าก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาไม่ได้บอกไว้” ดารินไม่ได้โกหก เพราะลูกสาวของเธอไม่ได้บอกอะไร มากไปกว่า ว่าที่พักอยู่ใกล้กับที่ทำงาน “ทำไมต้องออกไปอยู่ข้างนอก
11ลาก่อน “เป็นอะไรไป หน้าซีดเชียว” ดารินเดินเข้ามาจับตัวลูกสาว เมื่อเห็ใบหน้าที่ซีดเซียว “แม่คะ ถ้าหนูหางานทำได้ เราไปอยู่ที่อื่นกันนะคะ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่ทันระวัง ว่ามารดาจะสงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะให้แม่ทิ้งคุณท่าน ทิ้งป้าช้อยไปได้ยังไงกัน” ดารินหันไปทไหน้าดุใส่ลูกสาว “เดี๋ยวไม่มีเรา คุณท่านก็หาแม่บ้านใหม่มาทำงาน แม่จะอยู่เป็นคนใช้เขาไปตลอดชีวิตเหรอ” ยิหวาไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนี้ ทั้งที่ดารินก็สอนเธอตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้รู้จักและสำนึกในบุญคุณของครอบครัวอรรถจิรานนท์ ที่ทำให้เธอกับแม่ มีที่ซุกหัวนอนอย่างเช่นทุกวันนี้ “ยิหวา มันเกิดอะไรขึ้นกันลูก คุณท่านเรียกลูกไปพูดเรื่องอะไร ทำไมถึงออกมาแล้วพูดจาแบบนี้” ดารินเลี้ยงลูกมา เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอ ไม่เคยคิดจะไปจากที่นี่ และอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มาพูดจาเอาจริงเอาจังแบบนี้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ หนูไปรีดผ้าต่อนะคะ” นับตั้งแต่วันนั้นยิหวาก็พยายามหางานทำ เอาที่อยู่ไกลจากบ้านของภาคินให้มากที่สุด
10ปล่อยมือหรือเดินต่อ เมื่อไฟถูกปิดลง ความคิดถึงที่ทั้งคู่ต่างถวิลหากันมาเกือบสามปี ก็เหมือนพายุ ที่ถูกปลดปล่อยมาในทันที เสื้อผ้าถูกถอดออกจากเรือนร่างบางเล็กของยิหวา อย่างรวดเร็ว จนเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปากหนาทั้งหอมทั้งจูบไปทุกส่วนของร่าง เหมือนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว “คุณภาคินคะ ยิหวาเจ็บนะ” หญิงสาวร้องบอกเขา เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังช้ำไปทั้งตัว ไม่มีเสียงตอบจากคนที่กำลังรุกราน แต่เขากลับใช้ทั้งสองมือบีบเคล้นอกอวบขึ้นมาก่อนจะใช้ปากหนาทั้งเลียและดูด อย่างกระหาย จนเจ้าของอกกลมต้องบิดไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ที่เธอไม่ได้สัมผัสมันมานานแสนนาน “อ่า...อื้อ......” หญิงสาวกลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหวอีกต่อไป โคมไฟหัวเตียงถูกดับลง พร้อมกับความเป็นชายของเขา ที่เข้ามาอยู่ในกลีบชมพูอวบของหญิงสาว สะโพกกลมขยับตามจังหวะที่ชายหนุ่มคอยควบคลุม ให้เธอเคลื่อนไหวตามจังหวะ จากสายน้ำที่ไหลอย่างเชื่องช้า ก็เปลี่ยนเป็นทะเล ที่ถูกเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำจน คนตัวเล็กต้องจิกเล็บสวยลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่