Share

บทที่ 7

Author: ซุนซาง
last update Last Updated: 2024-12-17 15:30:15
เมื่อเจียงเมี่ยวออกจากร้านจินซิ่วเก๋อ นางกำเงินในมือด้วยความรู้สึกพึงพอใจ นี่นี่คือรายได้ก้อนแรกของนางในยุคโบราณเชียวนา!

เมื่อมีเงินแล้ว นางก็อยากจะใช้จับจ่าย โดยเฉพาะการซื้อเนื้อ นางจึงหยิบเงินสิบอีแปะออกมาซื้อเนื้อหมูหนึ่งชั่ง เป็นหมูสามชั้นที่มีมันแทรกพอเหมาะ นางนึกภาพหมูตุ๋นหอมกรุ่นที่ไม่เลี่ยนปากขึ้นมาในใจ

ข้างๆ แผงขายเนื้อ มีเครื่องในหมูวางอยู่สองพวง พ่อค้าเห็นเจียงเมี่ยวมองอยู่ จึงขายหัวใจและตับหมูให้นางในราคาอีแปะเดียว แถมกระดูกหมูให้อีกสองชิ้นใหญ่

เจียงเมี่ยวยิ้มรับมาด้วยรอยยิ้ม พ่อค้าส่ายหน้า คิดในใจว่าสะใภ้คนนี้คงโง่เขลา เครื่องในหมูเหม็นสาบเฉกเช่นนี้ ใครเล่าจะเสียเงินซื้อของพรรค์นี้

ทว่าเจียงเมี่ยวไม่สนใจว่าพ่อค้าจะคิดอย่างไร เครื่องในหมูถ้าทำให้ดีย่อมอร่อยยิ่งกว่าเนื้อเสียอีก

แดดยามเที่ยงร้อนจัดนางรีบเดินกลับบ้าน โดยอาศัยร่มเงาของต้นไม้ ที่บ้านตระกูลเสิ่นกำลังจะกินข้าวเสร็จพอดี

ปลาสองชั่งที่จับได้ ส่วนที่อร่อยที่สุดให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้พวกผู้ชาย ส่วนผู้หญิงและเด็กได้แต่น้ำแกง โชคดีที่เจียงเมี่ยวใส่ผักไว้มาก ผักที่ชุ่มน้ำซุปปลาก็อร่อยจนแทบกลืนลิ้นตามไปด้วย

เสิ่นเอ้อร์หลางเลียชามจนสะอาด พอเห็นว่าไม่มีน้ำแกงเหลือแล้ว จึงวางชามลง

"ซุปปลาที่ท่านป้าเล็กทำอร่อยมาก ถ้าได้กินทุกวันก็ดีสิ!"

ไม่มีใครคัดค้าน เสิ่นเหล่าตี้เคยตามหัวหน้าคนงานไปกินที่โรงเตี๊ยม เขากล้าพูดได้เลยว่า พ่อครัวในเมืองก็สู้ฝีมือสะใภ้สามไม่ได้ เขาทำปากขมุบขมิบ ถ้ามีเหล้าอีกสักจอกก็คงจะดี ชีวิตนี้คงสุขสบายยิ่งกว่าเทพเซียน

"ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ!"

ฮูหยินจางกำลังเก็บชามตะเกียบ เห็นนางเข้ามาก็เอาข้อศอกชี้ไปที่ครัว

"ซุปปลาของเจ้าอยู่ในหม้อ"

ขนมที่เจียงเมี่ยวกินก่อนออกจากบ้านย่อยหมดแล้ว นางวางตะกร้าลง เปิดฝาหม้อ ไอร้อนพวยพุ่งออกมา ฮูหยินจางกลัวว่าซุปปลาจะเย็น จึงก่อไฟอุ่นไว้ให้ ในหม้อมีหัวไชเท้าเยอะ แต่ด้านล่างยังซ่อนเนื้อปลาไว้ชิ้นหนึ่ง

เจียงเมี่ยวรู้สึกซาบซึ้งใจ บ้านตระกูลเสิ่นมีคนมากนางคิดว่าได้กินแค่น้ำแกงก็ดีแล้วซุป แต่ฮูหยินจางไม่เพียงแต่ก่อไฟอุ่นไว้ให้ ยังเก็บเนื้อไว้ให้นางด้วย

"ท่านแม่..."

ฮูหยินจางถือชามเข้ามา เห็นสายตาของเจียงเมี่ยว นางทำหน้าบึ้งด้วยความเขินอาย

"ปลานี้เจ้าจับมา ทั้งเจ้ายังเป็นคนทำ ก็ต้องมีส่วนของเจ้าสิ!"

หวังซื่อกับสวีซื่อทำงานบ้านงานครัว ก็ไม่เห็นจะได้กินมากกว่าคนอื่นเจียงเมี่ยวเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่สะใภ้ทั้งสองถึงอิจฉานาง แม่สามีของนางรักใคร่ลูกชายคนที่สามจนเอนเอียง แม้แต่นางก็ได้รับความเมตตาไปด้วย

"ท่านแม่ ท่านช่างดีเหลือเกิน!" นางกินทั้งเนื้อทั้งน้ำแกงจนหมด ในท้องอิ่มอุ่นและรู้สึกพึงพอใจ

นางช่วยล้างชามและอุปกรณ์ทำครัวจนสะอาด แล้วหยิบตะกร้าขึ้นมา ในใจรู้สึกกังวลเล็กน้อย

"ท่านแม่ ข้าซื้อเนื้อหมูมาหนึ่งชั่งเจ้าค่ะ"

ฮูหยินจางหยุดมือ สีหน้าเคร่งขรึม

"เพิ่งจะได้กินปลา ทำไมซื้อเนื้อมาอีก? เจ้านี่เงินเหลือหรือไร?"

นางรู้ว่าสะใภ้คนนี้ตะกละ แต่ก็ไม่น่าจะกินเนื้อได้ทุกวัน เงินให้ลูกชายคนที่สามเข้าเมืองหลวงไปสอบยังเก็บไม่พอ นางกลัวว่าถ้าสะใภ้คนนี้ถูกตามใจมากไป ตระกูลเสิ่นคงรั้งตัวนางไว้ไม่อยู่

"ท่านแม่ ท่านพี่อ่านตำราเหนื่อย เห็นท่านพี่กินซุปปลาอย่างเอร็ดอร่อย ข้าก็เลยอดใจไม่ไหว..."

ไม่ต้องให้เจียงเมี่ยวพูดต่อ ฮูหยินจางก็เข้าใจ ตระกูลเสิ่นของพวกเขานั้น มีอะไรก็ต้องให้เหล่าซานก่อน แต่ฐานะทางบ้านยากจน ของดีที่สุดก็แค่ซาลาเปาแป้งขาวกับผักดอง เมื่อสะใภ้สามอยากจะดูแลลูกชาย นางผู้เป็นแม่จะขัดใจได้อย่างไร

เจียงเมี่ยวเห็นสีหน้าฮูหยินจางอ่อนลง ก็รู้สึกโล่งใจ

นางไม่ได้กลัวฮูหยินจาง ถ้าคนตระกูลเสิ่นกล้ารังแกนาง นางก็จะหาโอกาสหนีไป ด้วยฝีมือของนาง การใช้ชีวิตในโลกยุคโบราณไม่ใช่เรื่องยาก แต่ตราบใดที่ยังอยู่กับตระกูลเสิ่นก็ต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาไว้

"ท่านแม่ นี่เงินจากการขายผ้าเช็ดหน้าเจ้าค่ะ" เจียงเมี่ยวนับเงินสิบอีแปะแล้วส่งให้ ฮูหยินจางรับมาอย่างลังเล

"ทำไมยังมีเงินเหลือ?" นางรู้ราคาผ้าเช็ดหน้า ปกติเมี่ยวเอ๋อร์จะส่งเงินสิบอีแปะ คราวนี้ซื้อเนื้อแล้ว ทำไมยังมีเงินเหลืออีก

"เถ้าแก่เนี้ยเห็นว่าข้าปักผ้าสวย เลยขึ้นราคาให้เจ้าค่ะ เงินที่ได้เลยจะเอาไปดูแลท่านพี่" เจียงเมี่ยวพูดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าน้อย ๆ เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจของหญิงสาว

"ถ้าอย่างนั้น คราวหน้าเก็บเงินไว้ให้เหล่าซาน อย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายล่ะ"

เป็นไปไม่ได้ที่เจียงเมี่ยวจะเก็บเงิน นางหาเงินก็เพื่อกินเนื้อมิใช่หรือ?

"ท่านแม่ การดูแลท่านพี่ไม่ใช่การใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายนะเจ้าคะ หากท่านพี่ร่างกายแข็งแรงก็จะอ่านตำราได้สบาย อีกอย่างท่านแม่ก็ผอมลงแล้ว ต้องบำรุงร่างกายสักหน่อย"

"ข้าแก่จนจะลงโลงอยู่แล้วจะบำรุงอะไร" ฮูหยินจางยังยังพูดเสียงแข็ง แต่สีหน้านางอ่อนลงแล้ว

"อย่าพูดอัปมงคลอย่างนั้นสิเจ้าคะ ท่านแม่ต้องอายุยืนถึงร้อยปีแน่ ๆ หากท่านแม่บำรุงร่างกายให้แข็งแรง ก็จะได้รอรับความสุขจากลูกชายและลูกสะใภ้นะเจ้าคะ!"

คำพูดของเจียงเมี่ยวทำให้หัวใจของฮูหยินจางอ่อนยวบ สะใภ้สามหน้าตาดี หาเงินเก่ง รักสามี ดูแลนางอย่างดี แม้แต่ลูกสาวแท้ๆ ของนางก็ยังไม่ใส่ใจนางเท่านี้

ตอนนี้ฮูหยินจางมองเจียงเมี่ยวแล้วเห็นดีไปเสียทุกอย่าง

"เจ้าวิ่งไปโรงเรียนตอนกลางวัน บ่ายนี้ก็ไม่ต้องทำงานแล้ว พักเท้าสักหน่อยแล้วปักผ้าเช็ดหน้าในห้องเถอะ"

แม่สามีกำลังให้นางได้พักผ่อนสินะ เจียงเมี่ยวกระพริบตาปริบๆ ต้นขาของพระเอกยังไม่ได้เกาะ ฮูหยินจางก็ยื่นต้นขามาให้เกาะแล้ว

"เจ้าค่ะ ท่านแม่ เดี๋ยวข้าจะไปเดินเล่นที่เขาหลังบ้าน หาสมุนไพรสักหน่อย"

ฮูหยินจางขมวดคิ้ว นางไม่รู้ว่าเมี่ยวเอ๋อร์ไปรู้จักสมุนไพรตอนไหน

"บนเขามีแมลงเยอะ ให้เอ้อร์หลางไปเป็นเพื่อนเจ้าด้วยแล้วกัน"

"เจ้าค่ะ"

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 8

    บัดนี้ อยู่ในช่วงฤดูร้อน พืชพันธุ์ในหุบเขางอกงามเขียวชอุ่ม เจียงเมี่ยวถือไม้มาเพื่อไล่พวกแมลงต่างๆต้ายาเดินตามหลังนางเงียบๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยซักผ้ากับเจียงเมี่ยว อีกทั้งในบ้านตระกูลเสิ่น นางก็ไม่มีเพื่อนเล่น จึงกลายเป็นเงาตามตัวของเจียงเมี่ยวไป "พวกเจ้ารัดแขนเสื้อให้แน่น ระวังอย่าให้โดนหนามทิ่มหรือแมลงกัดล่ะ" เจียงเมี่ยวกำชับ"เจ้าค่ะ ท่านป้าเล็ก"เจียงเมี่ยวสะพายตะกร้าไม้ไผ่ เดินหาสมุนไพรในป่านางตั้งใจจะทำถุงหอม ปกติในร้านมีแต่ถุงผ้าสำหรับใส่เงิน หรือของเล็กๆ น้อยๆ ถ้าใส่สมุนไพรหอมๆ ลงไปในถุง มิใช่แค่สวยงาม แถมยังมีกลิ่นหอมติดมาด้วย ลูกค้าต้องชอบแน่ๆอีกอย่าง หน้าร้อนมียุงชุม สามารถทำถุงยาไล่ยุงและมดได้ น่าจะขายดีทีเดียวนางดอกสายน้ำผึ้ง ใบโหระพา สะระแหน่ โกฐจุฬาลัมพา กานพลู...เจียงเมี่ยวเก็บสมุนไพรที่รู้จักใส่ตะกร้า ต้ายาเดินตามหลัง เห็นนางเก็บสมุนไพรก็เก็บตามบ้าง ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ก็ทำงานอย่างละเอียด เก็บสมุนไพรมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เจียงเมี่ยวรู้สึกประหลาดใจ แต่เดิมนางก็ไม่ได้หวังว่าเด็กๆ จะช่วยทำงาน คิดว่าแค่พาเด็กๆ มาเที่ยว แต่ต้ายาช่างรู้ความเหลือเกิน"ต้ายาเก่งมาก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 9

    ฮูหยินจางเป็นคนรักสะอาด ลานบ้านจึงถูกกวาดเช็ดถูจนเอี่ยมอ่องเจียงเมี่ยวซักผ้าเสร็จในยามสาย ก็เริ่มจัดการทำถุงหอมของนางนางนำสมุนไพรทั้งหมดมาตากให้แห้ง ส่วนพริกก็นำมาร้อยด้วยเชือก แล้วแขวนไว้ที่มุมห้องหากตากพริกไว้จนแห้งจะสามารถเก็บไว้ได้นานเจียงเมี่ยวตัดผ้าเป็นสองผืน ผืนหนึ่งแช่ในน้ำย้อมที่ต้มจากเปลือกองุ่น ผ้าขาวพลันเปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม นางล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง แล้วนำไปตากบนราวผ้าผ้าผืนนี้ไม่ได้ใหญ่นัก จึงไม่เป็นที่สะดุดตาท่ามกลางเสื้อผ้ามากมายสวีซื่อออกมาดูหลายครั้ง แต่ก็มองไม่ออกว่าทำอะไร จึงบ่นพึมพำว่า "วุ่นวายไปเสียเปล่า ๆ" แล้วเดินกลับเข้าเรือนแต่เดิมของสวีซื่อเป็นคนทำอาหารกลางวัน แต่เมื่อวานเจียงเมี่ยวซื้อเนื้อมา ฮูหยินจางจึงถามว่าจะทำอย่างไร ถ้าให้สวีซื่อทำก็คงเอาไปต้มกับผักกาดขาว แบ่งเนื้อให้คนละสองชิ้นเล็กๆ ไม่เพียงกินไม่อิ่มท้อง แถมยังไร้รสชาติ เจียงเมี่ยวไม่อยากให้เนื้อที่ซื้อมาต้องเสียเปล่า"ทำเกี๊ยวซ่าน่าจะดีกว่า ส่วนหัวใจหมูก็เอามาทำยำ กระดูกสองท่อนเก็บไว้ต้มซุปให้ท่านพี่"เจียงเมี่ยวจัดแจงเมนูอาหารเรียบร้อย ฮูหยินจางไม่ขัดข้อง สวีซื่อก็พยักหน้าเห็นด้วย

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 10

    หน้าร้อนมาเยือนแล้ว ดวงอาทิตย์ส่องแสงแผดเผาลงมายังพื้นดิน เสียงจักจั่นร้องระงมไม่หยุดหย่อน อากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดขึ้นไปอีกเหล่าบุรุษตระกูลเสิ่นกลับจากไร่นา พอเข้าประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายกลิ่นหอมนี้บอกไม่ถูก แต่ช่างชวนน้ำลายสอ ทั้งหอมทั้งฉุน ใครได้กลิ่นก็อดใจไว้ไม่อยู่"อืม~ สะใภ้รองทำอะไรอร่อย ๆ กินหรือ?" เสิ่นเหล่าตี้สูดจมูกดม ร่างกายที่เมื่อยล้าจากการทำงานหนักครึ่งวันดูผ่อนคลายลงบ้างคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่เอ่ยถาม แต่ก็รีบเก็บอุปกรณ์ทำไร่นา อย่างรวดเร็ว"หึ! ฝีมือห่วยๆอย่างสวีนั่นน่ะหรือจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ นี่เป็นฝีมือเมี่ยวเอ๋อร์ของเราเป็นคนทำต่างหาก!"ฮูหยินจางถืออาหารออกมา พอได้ยินเสิ่นเหล่าตี้พูดก็เบ้ปาก แล้วตะโกนเสียงดังสวีซื่อชะงัก จ้องเจียงเมี่ยวด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเจียงเมี่ยวคิดในใจ: ฉันไปทำอะไรให้นางกันนะ? เพราะสวีซื่อไม่กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฮูหยินจางก็เลยมารังแกนางที่เป็นสนามอารมณ์แทนเจียงเมี่ยวไม่สนใจ ยกอาหารเข้าไปในห้องโถงสวีซื่อโกรธจนกระทืบเท้า นังตัวดีนั่น! จงใจแกล้งข้างั้นหรือ!"กินข้าวกันได้แล้ว!"คนอื่นๆ ล้างมือ แล้วมา

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 11

    อรุณรุ่งแห่งวันใหม่ เจียงเมี่ยวออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ขณะที่นางกำลังจะก้าวออกประตู สวีซื่อยังจะเปิดปากกระแนะกระแหน แต่เพียงสายตาดุๆ จากคุณนายจางก็ทำให้นางต้องกลืนคำพูดกลับลงคอเมืองฝูหรงเริ่มคึกคัก ร้ทั้งร้านขายอาหารและแผงลอยต่างๆ เริ่มทยอยออกมาตั้งร้าน ผู้คนพลุกพล่านไปมากลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก จนท้องของเจียงเมี่ยวร้องจ๊อกๆ โจ๊กเหลวจืดชืดที่กินตอนเช้าย่อยหมดไปนานแล้วนางพยายามข่มความอยากอาหาร แล้วตรงไปที่ร้านจินซิ่วเก๋อในร้านมีสาวน้อยไม่กี่คนกำลังเดินดูสินค้า หญิงสาวที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มสวมกระโปรงสีเขียวอมฟ้าตัดจากผ้าสไตล์สุ่ยเยียนลั่ว ปิ่นหยกขาวปักผมดำขลับ ดูเรียบง่ายแต่แฝงความงามประณีต รูปโฉมของนางงดงามอ่อนหวาน ผิวขาวผ่องดั่งหยก ริมฝีปากแดงระเรื่อโดยมิต้องแต่งแต้ม ดูจากการแต่งกายคงเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่พวกนางเหลือบมองเจียงเมี่ยวที่เดินเข้ามาแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปสนใจอย่างอื่นเถ้าแก่เนี้ยฉินเดินออกมาจากหลังโต๊ะด้วยรอยยิ้ม"คุณหนูเจียงมาแล้ว"ผ้าเช็ดหน้าที่เจียงเมี่ยวปักครั้งก่อนเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้ามาก ขายหมดในพริบตา เถ้าแก่เนี้ยฉินรอคอยนางมาหลายวันแล้ว"เถ้

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 12

    สตรีผู้นั้นมีรูปโฉมงดงาม สวมชุดกระโปรงที่ยังดูใหม่ ไม่มีรอยปะชุน ในหมู่บ้านชิงเฉวียนแค่นี้ก็นับว่าเป็นคนมีฐานะแล้วเจียงเมี่ยวครุ่นคิดแล้วจำได้ว่า นางคือจ้าวซิ่วซิ่ว บุตรสาวของผู้ใหญ่บ้านใบหน้าจ้าวซิ่วซิ่วแดงระเรื่อ พยายามยัดผลไม้ในมือใส่อ้อมอกเสิ่นเยี่ยนชิง"พี่เยี่ยน นี่เป็นผลไม้ที่พ่อซื้อมาจากอำเภอ หวานมากเลย พี่รีบชิมดูสิจ้าวซิ่วซิ่วชอบเสิ่นเยี่ยนชิงตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเสิ่นเยี่ยนชิงจะมีภรรยาแล้ว ก็ไม่ได้หยุดความคิดที่จะแต่งงานกับเขาเสิ่นเยี่ยนชิงเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาแสดงความรำคาญ เเขาปฏิเสธอีกครั้ง แต่จ้าวซิ่วซิ่วทำเป็นไม่เข้าใจ ยังคงตื๊อไม่เลิกแต่ในสายตาเจียงเมี่ยวกลับเห็นเป็นภาพของบุรุษรูปงามกับสตรีโฉมสะคราญ ช่างเหมาะสมกันดีเจียงเมี่ยวดูอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจเดินอ้อมทางอื่น นางไม่อยากไร้มารยาท ไปขัดจังหวะตอนที่สาวงามกำลังเอาใจชายในดวงใจ"เจียงเมี่ยว!" นางเพิ่งจะหันหลังจะเดินหนี เสียงเยียบเย็นก็ดังมาจากด้านหลัง เสิ่นเยี่ยนชิงกัดฟันพูด ดวงตาฉายแววโกรธจัดเขารู้ว่าเจียงเมี่ยวยังคงรังเกียจเขา พยายามจะผลักไสเขาให้คนอื่นเขาต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้คิดว่าหญิงคนนี้เปลี่ยนนิสัยไป

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 13

    "เมี่ยวเอ๋อร์ พี่สะใภ้มีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้า"หวังซื่อเก็บกวาดห้องเสร็จก็มาดักรอเจียงเมี่ยวที่หน้าครัว"เชิญพี่สะใภ้พูดเลยเจ้าค่ะ"เจียงเมี่ยววางมือจากงานแล้วพูด"เจ้าสอนปักผ้าให้พี่สะใภ้ได้หรือไม่?"พูดจบนางก็หน้าแดงก่ำ ใคร ๆ ก็รู้ว่าวิชาปักผ้าเป็นวิชาที่สืบทอดกันในครอบครัว การที่นางหน้าด้านมาขอให้เจียงเมี่ยวสอน ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปแล้วคนอื่นรู้ ตระกูลเสิ่นคงเสียหน้าหมดแต่นางก็ไม่มีทางเลือก สามีของนางทำงานแบกหามที่ท่าเรือ เงินที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดทั้งปีก็ต้องนำมาใช้จ่ายในบ้าน ต้าหลางใกล้จะสิบสามแล้ว เงินค่าสินสอดแต่งงานก็ยังไม่มี งานในไร่นาก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ยิ่งคิดนางก็ยิ่งร้อนใจหลายวันมานี้สะใภ้สามซื้อเนื้อมาหลายวันหมดเงินไปหลายสิบอีแปะ ต้องมีหนทางหาเงินแน่ ๆ นางเองก็ไม่ได้หวังจะรวยแค่วันละไม่กี่อีแปะ แต่นานวันเข้าจำนวนเงินก็มากโขอยู่เจียงเมี่ยวไม่ได้คิดจะหวงวิชา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเทคนิคต่าง ๆ หาได้ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่...เจียงเมี่ยวมองมือที่หยาบกร้านของหวังซื่อ ดูแล้วคงปักผ้าไม่ได้หวังซื่อคิดว่าเจียงเมี่ยวไม่เต็มใจจึงหน้าเสีย"เจ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 14

    อากาศร้อนยังไม่จางหาย เจียงเมี่ยวทำงานมาทั้งวัน เหงื่อไหลท่วมตัวนางต้มน้ำอาบแล้วเข้าห้องโดยที่ผมยังเปียกอยู่บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันส่องแสงริบหรี่ เงาร่างสง่างามของบุรุษสะท้อนในแสงไฟ เจียงเมี่ยวพลันชะงักนางลืมไปว่าเสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน คืนนี้พวกเขาต้องนอนเตียงเดียวกันในหัวตีกันมึนงง ใบหน้าเหม่อลอย หยดน้ำจากเส้นผมเปียกชื้นหยดลงที่คอเสื้อ ใบหน้างามผุดผ่องและลำคอขาวเนียน ริมฝีปากเล็กดุจผลเชอร์รี่เผยอเล็กน้อย ทั้งงดงามและน่าเอ็นดู"เจ้าทำอะไรอยู่?"เสิ่นเยี่ยนชิงเรียกสองครั้ง นางไม่ตอบ อดใจไม่ไหวจึงบีบแก้มนางเบา ๆ"โอ๊ย! เจ็บ!"เจียงเมี่ยวลูบแก้มหน้ามู่ทู่เสิ่นเยี่ยนชิงหน้าร้อนผ่าว แสร้งทำเป็นไอสองครั้งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย"ท่านแม่เรียกเจ้า"ฮูหยินจางทำอาหารว่างเป็นบะหมี่น้ำซุปกระดูก ใส่เส้นเยอะ ๆ ให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนนางซดน้ำซุป"กินเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนเสียนะ"ฮูหยินจางเก็บกวาดครัว ปิดประตูแล้วกำชับเจียงเมี่ยว"เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านก็เข้านอนเร็ว ๆ นะเจ้าคะ"ปกติตระกูลเสิ่นกินข้าวสองมื้อ มีแค่วันที่เสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน ฮูหยินจางถึงจะทำอาหารว่าง เจียงเมี่ยวจึงได้พลอ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 15

    "เมี่ยวเอ๋อร์ ตื่นได้แล้ว”ฮูหยินจางกำลังให้อาหารไก่ ที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัวได้ ทุกวันได้ไข่สิบกว่าฟอง พวกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของฮูหยินจาง ไม่ว่าใครก็แตะต้องไม่ได้เมื่อเห็นเจียงเมี่ยว นางก็ยืดตัวเดินออกมาจากเล้าไก่"ข้าเก็บข้าวไว้ให้ในหม้อ รีบไปกินเสียสิ""นี่ถุงหอมที่ทำให้ท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านลองใส่ดูสิเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวยื่นถุงหอมสีขาวรูปดอกบัวมีพู่สีเขียวให้ฮูหยินจางฮูหยินจางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน รับถุงหอมอย่างระมัดระวัง"นี่...ให้ข้าหรือ? ข้าแก่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ๆ แบบนี้หรอก เอาไปให้เหล่าซานเถอะ"นางเช็ดมือหลายครั้งกลัวจะทำถุงหอมสกปรก"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทำงานเหนื่อยใส่ถุงหอมไว้จะได้กันยุงนะเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวช่วยผูกถุงหอมให้ ฮูหยินจางมองอย่างชอบใจ ริ้วรอยบนใบหน้ายิ่งลึกขึ้น"ข้ารู้ว่าเจ้ากตัญญู คราวหน้าเอาไปขายที่ตลาดเถอะ คนแก่ ๆ อย่างข้าโดนยุงกัดบ้างไม่เป็นไรหรอก"ฮูหยินจางเป็นคนประหยัด มีของดีก็ไม่กล้าใช้ เจียงเมี่ยวพูดอยู่นาน นางจึงยอมรับ"กตัญญูกับท่านแม่นั้นเป็นเรื่องสมควรแล้วเจ้าค่ะ!"ฮูหยินจางถูกเอาใจจนปลื้ม พอได้ยินว่าเจียงเมี่ยวจะใช้เตาก

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 40

    เจียงเมี่ยวหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกน้ำเพื่อขจัดกลิ่นคาว แล้วนำน้ำตาลกรวดไปผัดในกระทะฮูหยินจางไม่เสียดายน้ำตาลและน้ำมันอีกต่อไป มองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นการทำอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้พอผัดน้ำตาลจนได้ที่ เจียงเมี่ยวก็ใส่เนื้อลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำพะโล้หนึ่งทัพพี กลิ่นหอมก็โชยออกมา"หอมจัง!"สวีซื่อเป็นคนก่อไฟ กลิ่นหอมลอยไปทางนางตลอด ทำให้นางรู้สึกหิวจนท้องก็ร้องจ๊อกๆเที่ยงนี้นางต้องแย่งหมูสามชั้นตุ๋นเพิ่มอีกสองชิ้นระหว่างตุ๋นเนื้อ เจียงเมี่ยวก็ไปเด็ดแตงกวาจากสวนมาสองลูกมาทำยำ หากกินแต่เนื้อก็จะเลี่ยน ซึ่งผักจะช่วยตัดเลื่อนทำให้กินอาหารอร่อยมากขึ้น"ท่านแม่ เที่ยงนี้กินข้าวสวยนะเจ้าคะ"นางมาอยู่ในโลกยุคโบราณนานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวสวยเลย น้ำหมูสามชั้นตุ๋นราดข้าวสวยร้อน ๆ แค่คิดนางก็อยากกินแทบอดใจไม่ไหว"ข้าวที่บ้านยังมีพอหรือ?"ปกติตระกูลเสิ่นกินแค่ข้าวต้มตอนเช้า ข้าวสารจึงมีไม่มาก"เมื่อวานข้าซื้อมาจากเมืองแล้วเจ้าค่ะ""งั้นเจ้าก็ผสมข้าวไม่ขัดสีลงไปด้วย"ข้าวสารในเมืองขายชั่งละสามอีแปะ ข้าวไม่ขัดสีชั่งละอีแปะเดียว ข้าวที่ตระกูลเสิ่นปลูกก็เอ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 39

    เขาแสร้งทำเป็นสงบ เจียงเมี่ยวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจ"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ที่นี่มีควันเยอะ ท่านพี่เข้าไปในห้องเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะสำลัก""ไม่เป็นไร"ข้าแค่อยากอยู่กับเจ้า...เสิ่นเยี่ยนชิงกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ปลายนิ้วยังรู้สึกถึงความนุ่มของแก้มหญิงสาว เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจเขา นางกำลังกลั่นน้ำมันหอมระเหยขั้นตอนสุดท้าย หม้อที่ซื้อมาใหม่นำความร้อนได้ดี น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นออกมาจึงไม่มีสิ่งเจือปน ไม่นานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบก็เสร็จ เจียงเมี่ยวจึงใส่ขี้ผึ้งลงไปผสมให้แข็งตัวเสิ่นเยี่ยนชิงมองลูกหอมกลมใสในมือเจียงเมี่ยว กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยมา ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจเจียงเมี่ยวไม่ได้ปิดบังเรื่องทำลูกหอม ลูกหอมเป็นของที่ผู้หญิงใช้ เสิ่นเยี่ยนชิงอาจจะไม่รู้ว่านางทำอะไรอยู่ อาจจะคิดว่า นางกำลังเล่นอะไรแปลก ๆ ถ้าเขารู้ก็ไม่เป็นไร พอดีเลยจะได้อธิบายเรื่องที่นางหาเงินได้ เพราะช่วงนี้นางใช้เงินเปลืองเสิ่นเยี่ยนชิงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่านางเอาเงินมาจากไหนเสิ่นเยี่ยนชิงเคยสงสัยจริง แต่คิดว่าเจียงเมี่ยวทำแต่ถุงหอม เพราะถุงหอมในมือซูจื่อเหวินมีฝีมือการปักเหมือนที่เจียงเมี่ยวให้เขาไม่มีผิด ตามท

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 38

    "ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะไม่ได้กินข้าวบ้านเจ้าแล้ว"ซูจื่อเหวินยิ้มแหยๆ เขาเป็นคนติดรสชาติอาหาร ตั้งแต่อาหารบ้านตระกูลเสิ่นอร่อยขึ้น เขาก็แอบมากินทุกที ทั้งอาหารหมักดองรสเผ็ดหอม กุยช่ายทอดเหลืองกรอบหอมฟุ้ง อร่อยกว่าอาหารในโรงเตี๊ยมบ้านเขาเสียอีก ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่เคยกินมาไม่มีรสชาติเลย ถ้าได้ไปกินที่บ้านตระกูลเสิ่นให้หนำใจล่ะก็...ซูจื่อเหวินคิดพลางกลืนน้ำลายเสิ่นเยี่ยนชิงมองเขาด้วยความรังเกียจ แค่นี้น่ะหรือ?"ไม่ได้!"เขาไม่ยอมเด็ดขาด วันหยุดมีแค่วันเดียว เขาอยากอยู่กับเมี่ยวเอ๋อร์ตามลำพัง พาเพื่อนกลับบ้านจะดูเป็นอย่างไร "บ้านข้าจน ต้อนรับเจ้าไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซูจื่อเหวินหน้าสลดห่อเหี่ยวสุดๆ"ข้าจะจ่ายเงิน ไม่กินฟรี ๆ หรอก"เขาพยายามอ้อนวอน แต่เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สะทกสะท้าน ซูจื่อเหวินจึงต้องล้มเลิก พูดต่อไปคงน่ารำคาญ ถึงตอนนี้เสิ่นเยี่ยนชิงก็รำคาญเขามากแล้ว "เฮ้อ ไม่มีพะโล้รสจัดจ้านกิน วันนี้ข้าคงอดตายแน่ๆ""หึ!"เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สนว่าซูจื่อเหวินจะอดตายหรือไม่ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับบ้านเร็วๆแต่เมี่ยวเอ๋อร์จะทำอะไรอร่อยๆ ให้เขากินนะ ชายหนุ่มที่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 37

    เจียงเมี่ยวมองดูแม่สามีลูกสะใภ้ทะเลาะกัน อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ"ท่านแม่ ข้ายังซื้อข้าวสาร แป้ง น้ำตาลมาด้วย พรุ่งนี้ท่านพี่หยุดเรียน ข้าจะทำขนมให้ท่านพี่กิน"เสิ่นเยี่ยนชิงอยากกินไหม นางไม่รู้ จริงๆ แล้วนางอยากกินเองต่างหากขนมที่เสิ่นเยี่ยนชิงซื้อมาให้หวานเกินไป นางกินแล้วเลี่ยน แต่เพราะเหตุนั้นนางเลยอยากกินขนมขึ้นมาขนมนุ่ม ๆ หอม ๆ ไม่ได้กินนานแล้วสิฮูหยินจางพูดไม่ออก"ทำก็ทำสิ"นางดูออกว่าเมี่ยวเอ๋อร์อยากกินต่างหากสะใภ้สามถึงจะขยันขึ้น แต่ก็ยังตะกละเหมือนเดิมเจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ ตอนนี้นางกำลังบดแป้งอยู่ต้ายานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ มองเจียงเมี่ยวใส่ข้าวที่แช่น้ำไว้แล้วลงในโม่หิน เมล็ดข้าวขาวใสถูกบดเป็นผง เจียงเมี่ยวเทน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน หมักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำไปนึ่งไอร้อนพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวและน้ำตาลแดง ขนมหอมนุ่มน่ากินสุด ๆเจียงเมี่ยวป้อนขนมให้ต้ายาหนึ่งชิ้น รสชาติหวานละลายในปากทำให้นางยิ้มตาหยี"หวาน""อร่อยไหม?""อร่อยเจ้าค่ะ!อร่อยมาก"เจียงเมี่ยวลองชิมดูเช่นกัน ข้าวสมัยโบราณปลูกแบบปลอดสารพิษ กลิ่นจึงหอมกว่า เนื้อขนมเหนียวนุ่มหนึบอร

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 36

    ซูจื่อหลานไม่ได้คะยั้นคะยอ นางมองเจียงเมี่ยวลงจากรถแล้วจากไป"กลับจวน"...เจียงเมี่ยวถือของกลับบ้าน เดินช้าๆ มาตลอดทาง ใบหน้าของนางยังคงซีดเล็กน้อยนางฮูหยินจางกับสวีซื่อกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เห็นนางดูใจลอยก็เป็นห่วง"เมี่ยวเอ๋อร์เป็นอะไรไป?เจอเรื่องอะไรมาหรือ?"ฮูหยินจางจับมือของนาง มือเย็นเฉียบมีเหงื่อเย็น ๆ เต็มฝ่ามือ"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคงเหนื่อยที่เดินเยอะ พักสักหน่อยก็หายแล้ว"นางรู้สึกอบอุ่นใจ ความกังวลหายไป เจียงเมี่ยวนั่งลงดื่มน้ำแล้วหยิบของในตะกร้าออกมา"ท่านแม่ ข้าซื้อผ้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้วพอดีจะได้ตัดเสื้อใหม่""ซื้อของมาให้ข้าอีกแล้ว!เสื้อผ้าข้ายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องตัดใหม่เลย เก็บไว้ให้เหล่าซานเถอะ"ฮูหยินจางบ่น สะใภ้สามใช้เงินเปลืองจริงๆแต่พอมองผ้าสีครามผืนนั้น นางก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมาหน่อยๆตระกูลเสิ่นไม่ได้ซื้อผ้ามาสองปีแล้ว เสื้อผ้าของทุกคนก็มีแต่รอยปะชุน"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ"าแล้วนางก็หยิบผ้าสีขาวอมฟ้าผืนนั้นออกมา "ข้าคิดว่าจะตัดชุดยาวให้เขาไว้ใส่ตอนสอบในระดับมณฑล จะได้ดูดีมีหน้ามีตา" เดือนหน้าเสิ่นเยี่ยนชิงจะไปสอบในระดับมณฑ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 35

    "หึ! เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้าคิดเกินตัว หมายปองคุณหนูของข้างั้นหรือ!"ไฉ่อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เป็นแค่คางคกริอาจกินเนื้อหงส์ ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลยซูจื่อหลานจิกเล็บจนจมเนื้อ ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในเมื่อไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"ลุงเจิง ซ้อมมันให้หนัก!"คนขับรถระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ไอ้สารเลวนี่กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเขา คงอยากตายแล้วกระมังลุงเจิงเคยเป็นทหาร ถูกบิดาของซูจื่อหลานจ้างมาคุ้มครองนางด้วยเงินจำนวนมาก เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง ลูกน้องทั้งสองของซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหน้าตาบวมปูด ส่วนซุนหยวนเป่าก็โดนเตะล้มลงแล้วต่อยท้องซ้ำซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนปัสสาวะราด ปวดท้องเหมือนไส้จะทะลัก"โอ๊ยๆ หยุดซ้อม หยุดซ้อมได้แล้ว โอ๊ย เจ็บปางตายแล้ว...""ตีให้ตายไปเลย ไอ้สารเลวกล้าล่วงเกินคุณหนูข้า!"ลุงเจิงไม่ปรานี ซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหัวบวม ปากมีเลือดไหล ฟันหลุดออกมาหลายซี่"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว คุณหนูสวีไว้ชีวิตข้าเถอะ"พอได้สติซุนหยวนเป่าก็รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป พี่ชายเขาเจอตระกูลสวียังต้องหลีกทาง เขาทำเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆเขาห

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 34

    บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเตี้ยอ้วน ร่างกายกลมป้อม สวมชุดผ้าไหมชั้นดี ทว่ากลับดูตลกขบขัน ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยไขมัน ตาเล็ก จมูกแดงเบียดกัน เขามองเจียงเมี่ยวอย่างหื่นกระหายยื่นมือจะมาลวนลามนางซุนหยวนเป่าดื่มเหล้ามาจากหอมงคล อยู่ในสภาวะมึนเมาเห็นเจียงเมี่ยวเลยคิดว่าเป็นนางฟ้า"สาวงามให้ข้าจุ๊บหน่อยสิ"เจียงเมี่ยวขยะแขยงจนทนไม่ไหว อาหารที่เพิ่งกินเกือบพุ่งออกมา ไม่คิดว่ากลางวันแสกๆ จะเจออันธพาล นางขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา คว้าม้านั่งจากแผงบะหมี่ฟาดใส่"โอ๊ย! เจ็บ!"ซุนหยวนเป่าโดนตีที่แขน เจ็บปางตาย จึงได้สติ"บัดซบ !นังตัวดี กล้าตีข้างั้นหรือ?จับมันไป!"เขาโบกมือลูกน้องก็เข้ามามาดหมายจับเจียงเมี่ยว ทั้งสองยิ้มอย่างหื่นกระหาย ดูก็รู้ว่าทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง"กลางวันแสก ๆ แบบนี้ไม่มีกฎหมายหรือไง?"เจียงเมี่ยวถือม้านั่งขวางไว้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว"กฎหมาย? ในเมืองฝูหรง ข้าคือกฎหมาย!"ซุนหยวนเป่าพูดอย่างอวดดีปกติเขามักใช้อำนาจของพี่ชายรังแกคนอื่น พอเห็นหญิงสาวคนไหนถูกใจก็ให้ลูกน้องไปลักพาตัวมา โดยไม่มีใครกล้าหืออือพ่อค้าแม่ค้าข้าง ๆ รู้นิสัยเขาดีจึงหลบไปไกล ๆ ไม่กล้าช่วยนางลูกน้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    "มีสิ เมิ่งเอ๋อร์ปีนี้ก็หกขวบแล้ว"พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหล ลูกสองคนอยู่กับบ้านสามี ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบหน้าอีกแล้ว เจียงเมี่ยวเห็นว่าเป็นเรื่องเศร้าของเถ้าแก่เนี้ยฉินจึงไม่ถามต่อ เถ้าแก่เนี้ยฉินเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม "ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"ทั้งสองคุยกันพลางดื่มชาก็มีคนรู้จักเดินเข้ามาในร้าน"มีลูกหอมเหลือไหม?""คุณหนูสวีมาพอดี วันนี้มีลูกหอมมาใหม่เจ้าค่ะ"เถ้าแก่เนี้ยฉินยิ้มเดินเข้ามาวางลูกหอมสามกลิ่นบนโต๊ะ"นี่กลิ่นผลไม้หรือ?"ซูจื่อหลานได้กลิ่นลูกพีช หวานอ่อนๆ ไม่ฉุน "ใช่แล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นสินค้าใหม่ลูกหอมกลิ่นผลไม้""ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"ทั้งสามกลิ่นนางชอบหมด อีกอย่างสิบลูกที่ซื้อครั้งก่อน เมื่อเอาไปให้คนอื่น ทุกคนต่างก็ชมนาง"เอ่อ...คุณหนูคงยังไม่รู้ ตอนนี้ร้านจำกัดจำนวนขายคนละสองลูกเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้ว่าร้านเล็ก ๆ มีลูกหอมแค่นี้ ถ้าคุณหนูซื้อไปหมด พวกเราจะทำการค้าได้อย่างไร?"ซูจื่อหลานไม่ได้มาหลายวันจึงไม่รู้เรื่องนี้ นางขมวดคิ้วเสียดายนางอยากได้ทั้งหมดนี่นาแต่นางก็เข้าใจความลำบากในของเถ้าแก่เนี้ยฉิน สุดท้ายจึงจำใจเลือกมาแค่สองลูก"งั้นข้าเอากลิ่นดอกกล้วยไม้กับกลิ่นผ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    "งั้นเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะอยู่ให้ห่างจากร้านของตระกูลเสิ่น""แน่นอน!"ไข่ที่หวังซื่อเอามาถูกน้องสะใภ้เก็บไว้ พอหวังเอ้อร์จู้ฟังสูตรเสร็จก็อ้างว่าบ้านไม่มีข้าวให้นางรีบกลับ ระหว่างทางหวังซื่อรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถ้าฮูหยินจางรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?...ตอนเจียงเมี่ยวออกจากบ้านเจอหวังซื่อกำลังกลับมาพอดี นางสะพายตะกร้า ท่าทางใจลอย"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านลุงกับท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?""อ๊ะ"หวังซื่อสะดุ้งตกใจ"สบายดี สบายดี"นางตอบตะกุกตะกักรีบเดินเข้าบ้านไปเจียงเมี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ดูมีพิรุธแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหวังซื่อคงเหนื่อยจากการเดินทาง ฤดูร้อนผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือนใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ถนนเพิ่งฝนตกจึงมีดินโคลนเละเทะ เจียงเมี่ยวจับชายกระโปรงเดินเลือกที่แห้งเมืองฝูหรงคึกคักไปด้วยผู้คน พอถึงหน้าประตูเมือง นางเกือบโดนรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชน โชคดีที่หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ดึงนางไว้ไม่งั้นคงบาดเจ็บ"ให้ตายเถอะ! เป็นบ้าหรือไง? ขับรถเร็วบนถนนรีบไปเกิดใหม่งั้นหรือ?"หญิงวัยกลางคนคนนั้นเป็นคนใจร้อน จึง

DMCA.com Protection Status