Share

บทที่ 14

Author: ซุนซาง
last update Last Updated: 2024-12-17 15:30:15
อากาศร้อนยังไม่จางหาย เจียงเมี่ยวทำงานมาทั้งวัน เหงื่อไหลท่วมตัว

นางต้มน้ำอาบแล้วเข้าห้องโดยที่ผมยังเปียกอยู่

บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันส่องแสงริบหรี่ เงาร่างสง่างามของบุรุษสะท้อนในแสงไฟ เจียงเมี่ยวพลันชะงัก

นางลืมไปว่าเสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน คืนนี้พวกเขาต้องนอนเตียงเดียวกัน

ในหัวตีกันมึนงง ใบหน้าเหม่อลอย หยดน้ำจากเส้นผมเปียกชื้นหยดลงที่คอเสื้อ ใบหน้างามผุดผ่องและลำคอขาวเนียน ริมฝีปากเล็กดุจผลเชอร์รี่เผยอเล็กน้อย ทั้งงดงามและน่าเอ็นดู

"เจ้าทำอะไรอยู่?"

เสิ่นเยี่ยนชิงเรียกสองครั้ง นางไม่ตอบ อดใจไม่ไหวจึงบีบแก้มนางเบา ๆ

"โอ๊ย! เจ็บ!"เจียงเมี่ยวลูบแก้มหน้ามู่ทู่

เสิ่นเยี่ยนชิงหน้าร้อนผ่าว แสร้งทำเป็นไอสองครั้งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย

"ท่านแม่เรียกเจ้า"

ฮูหยินจางทำอาหารว่างเป็นบะหมี่น้ำซุปกระดูก ใส่เส้นเยอะ ๆ ให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนนางซดน้ำซุป

"กินเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนเสียนะ"ฮูหยินจางเก็บกวาดครัว ปิดประตูแล้วกำชับเจียงเมี่ยว

"เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านก็เข้านอนเร็ว ๆ นะเจ้าคะ"

ปกติตระกูลเสิ่นกินข้าวสองมื้อ มีแค่วันที่เสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน ฮูหยินจางถึงจะทำอาหารว่าง เจียงเมี่ยวจึงได้พลอยอาศัยผลบุญกับเขาด้วย

เสิ่นเยี่ยนชิงกินอย่างสุภาพเรียบร้อย ถึงจะเป็นคนบ้านนอก แต่กลับมีท่วงท่าสง่างามดุจคุณชายนางมองเขาจนเพลินตา

เสิ่นเยี่ยนชิงรู้ตัวว่าถูกจ้องจึงรู้สึกเขิน ใบหูร้อนผ่าว ในใจรู้สึกรำคาญ จึงรีบกินบะหมี่ที่เหลือหมด แล้ววางชามลง

เจียงเมี่ยวสะดุ้งเพราะเสียงชามตะเกียบ พอสบตาเสิ่นเยี่ยนชิงนางรู้สึกประหม่า

นางเผลอมองเสิ่นเยี่ยนชิงจนใจลอยถึงสองครั้ง

เขาคงด่านางในใจว่าบ้าผู้ชายแน่!

"ข้าไปล้างชามนะ!"

เจียงเมี่ยวรีบซดน้ำซุปจนหมดแล้วถือชามออกไป

นางวิ่งออกจากห้อง ดูราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังหนีเอาตัวรอด ชวนให้คนอยากจะดึงหางเล่น

เสิ่นเยี่ยนชิงรู้สึกคันไม้คันมือ สัมผัสที่จับแก้มของนางยังหลงเหลืออยู่ที่ปลายนิ้ว เขาเผลอลูบนิ้วตัวเองแล้วชะงัก ดวงตาฉายแววรังเกียจ

ช่วงนี้เขามักจะหวั่นไหวเพราะเจียงเมี่ยว

เจียงเมี่ยวล้างชามเสร็จก็ออกไปยืนรับลมที่ลานบ้าน แสงเทียนหน้าต่างส่องเห็นเงาของบุรุษเลือนราง

ที่จริงเสิ่นเยี่ยนชิงก็ดีมาก เป็นบัณฑิตที่ซื่อตรง ขยันหมั่นเพียร ครอบครัวก็เข้ากันได้ดี ตรงกับมาตรฐานการเลือกคู่ของนาง หากเขาไม่ใช่พระเอก และนางไม่ใช่ตัวร้าย นางคงกล้าที่จะพยายามคว้าโอกาสสักตั้ง

น่าเสียดาย เสิ่นเยี่ยนชิงต้องเป็นสามีของคนอื่นในที่สุด

นางอิดออดอยู่นาน ยังไม่เห็นท่าทีว่าเสิ่นเยี่ยนชิงจะนอน หัวใจที่เกร็งมาตลอดจึงผ่อนคลายลงบ้าง

การให้นางนอนร่วมเตียงกับชายแปลกหน้า ช่างเป็นความทรมาน ถ้านางหลับไปก็คงไม่เป็นไรกระมัง

"ข้านอนแล้วนะ"

นางกอดผ้าห่มหดตัวอยู่มุมกำแพง เสียงพึมพำอู้อี้ ราวกับกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัว

เสิ่นเยี่ยนชิงเงยหน้ามองทีหนึ่ง เห็นที่นอนว่างเกือบครึ่ง มือที่ถือหนังสืออยู่ก็กำแน่นโดยไม่รู้ตัว

หญิงคนนี้ ปกตินอนชอบยึดเตียงทั้งหลัง แต่ตอนนี้กลับทำท่าเหมือนภรรยาน้อยที่ถูกรังแก มันเรื่องอะไรกัน

พอเขาตื่นขึ้นมากลางดึก เห็นเจียงเมี่ยวนอนทับเขาอยู่ เสิ่นเยี่ยนชิงมองนางด้วยแววตาลึกลับ กลิ่นกายหอม ๆ ของนางลอยมาเตะจมูก เขาตัวแข็งทื่อ พอจะผลักนางออกก็ถูกนางกอดแน่น

เสิ่นเยี่ยนชิงปล่อยให้นางกอด หัวใจร้อนรุ่มเหมือนมีไฟสุมอยู่ ทั้งอึดอัดทั้งกระสับกระส่าย ข่มตานอนอย่างไรก็นอนไม่หลับ

รุ่งเช้าวันต่อมา เสิ่นเยี่ยนชิงตื่นแต่เช้า ข้างกายไม่มีไออุ่นแล้ว เจียงเมี่ยวนอนหลับสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางยืดตัวบิดขี้เกียจ เมื่อคืนนางฝันว่าได้กอดตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ของนาง รู้สึกสบายเหลือเกิน

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 15

    "เมี่ยวเอ๋อร์ ตื่นได้แล้ว”ฮูหยินจางกำลังให้อาหารไก่ ที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัวได้ ทุกวันได้ไข่สิบกว่าฟอง พวกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของฮูหยินจาง ไม่ว่าใครก็แตะต้องไม่ได้เมื่อเห็นเจียงเมี่ยว นางก็ยืดตัวเดินออกมาจากเล้าไก่"ข้าเก็บข้าวไว้ให้ในหม้อ รีบไปกินเสียสิ""นี่ถุงหอมที่ทำให้ท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านลองใส่ดูสิเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวยื่นถุงหอมสีขาวรูปดอกบัวมีพู่สีเขียวให้ฮูหยินจางฮูหยินจางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน รับถุงหอมอย่างระมัดระวัง"นี่...ให้ข้าหรือ? ข้าแก่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ๆ แบบนี้หรอก เอาไปให้เหล่าซานเถอะ"นางเช็ดมือหลายครั้งกลัวจะทำถุงหอมสกปรก"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทำงานเหนื่อยใส่ถุงหอมไว้จะได้กันยุงนะเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวช่วยผูกถุงหอมให้ ฮูหยินจางมองอย่างชอบใจ ริ้วรอยบนใบหน้ายิ่งลึกขึ้น"ข้ารู้ว่าเจ้ากตัญญู คราวหน้าเอาไปขายที่ตลาดเถอะ คนแก่ ๆ อย่างข้าโดนยุงกัดบ้างไม่เป็นไรหรอก"ฮูหยินจางเป็นคนประหยัด มีของดีก็ไม่กล้าใช้ เจียงเมี่ยวพูดอยู่นาน นางจึงยอมรับ"กตัญญูกับท่านแม่นั้นเป็นเรื่องสมควรแล้วเจ้าค่ะ!"ฮูหยินจางถูกเอาใจจนปลื้ม พอได้ยินว่าเจียงเมี่ยวจะใช้เตาก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 16

    เจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่า นางได้กวนใจพระเอกโดยไม่ตั้งใจ บัดนี้นางมาถึงร้านจินซิ่วเก๋อแล้ว"คุณหนูเจียง วันนี้มาได้อย่างไร? ทำถุงหอมเสร็จแล้วหรือ?"เถ้าแก่เนี้ยฉินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพลางต้อนรับเจียงเมี่ยวเข้าร้าน ปกติเจียงเมี่ยวจะมาส่งของสามวันครั้ง แต่วันนี้เพิ่งผ่านไปวันเดียวก็มาแล้ว"ถุงหอมยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ อีกสองวัน"เจียงเมี่ยวตอบพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ"วันนี้ข้าทำลูกหอมมา"นางกล่าวพลางหยิบลูกหอมสองลูกออกมา ลูกหนึ่งสีชมพูกลมใสส่งกลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น อีกลูกสีขาวเหลืองเป็นประกายส่งกลิ่นดอกกล้วยไม้อ่อนหวาน ลูกหอมทั้งสองไร้ตำหนิติติง ทั้งกลิ่นกำลังดีหอมน่าดม"ลูกหอม...เป็นลุกหอมจริง ๆ ด้วย!"นางเคยเห็นเครื่องหอมอยู่บ้างตอนอยู่บ้านสามี เป็นของที่คนอื่นให้ท่านย่า หากทว่ามีตำหนิเต็มไปหมดสู้ของเจียงเมี่ยวไม่ได้ นางรู้ว่าเจียงเมี่ยวเก่ง กระนั้นก็ไม่คิดว่าจะทำเครื่องหอมได้ คุณหนูเจียงนี่เป็นใครกันแน่? หรือจะเป็นคุณหนูตกยาก? ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจ ความคิดมากมายแวบผ่าน แต่สุดท้ายก็เก็บงำไว้"ลูกหอมราคาแพงเมืองเล็ก ๆ แบบนี้อาจจะขายไม่ออก ถ้าส่งไปเมืองหลวงได้ก็ดีสิ"เถ้าแก่เนี้ยฉินกล่าวด้วย

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 17

    เจียงเมี่ยวถือเนื้อหมูสามชั้นสองชั่งกลับบ้าน เถ้าแก่คุ้นเคยกับนางดี จึงแถมกระดูกใหญ่ให้อีกสองท่อนหมั่นโถวที่กินตอนเที่ยงยังติดคออยู่ นางคุ้นกับอาหารดี ๆ พอมากินหมั่นโถวแป้งหยาบ ๆ นี้ก็กลืนไม่ค่อยลงลูกหอมจะขายดีหรือไม่ยังไม่รู้ ถึงเจียงเมี่ยวจะมั่นใจว่าขายได้ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะขายหมดเมื่อไหร่ เถ้าแก่เนี้ยฉินจะให้เงินมัดจำ ทว่านางปฏิเสธเงินที่ได้จากการขายผ้าเช็ดหน้าและถุงหอม หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ1,500 อีแปะ แลกเป็นเงินก็ได้หนึ่งตำลึงครึ่ง สำหรับชาวชนบทถือเป็นเงินก้อนใหญ่ค่าเล่าเรียนของเสิ่นเยี่ยนชิง ครึ่งปีก็สองตำลึงแล้ว คนในตระกูลเสิ่นทำงานทั้งปี นอกจากผลผลิตในไร่นา ผู้ชายก็ต้องออกไปทำงานหาเงินไม่มีวันหยุด ทั้งปีได้แค่ห้าตำลึง หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังแทบไม่เหลือ ทั้งที่ฮูหยินจางเป็นคนประหยัดดังนั้น คนสมัยก่อนจะเรียนหนังสือได้ต้องรวยหรือไม่ก็คนในบ้านช่วยกันส่งเสียเสิ่นเยี่ยนชิงฉลาดเรียนเก่ง คนในครอบครัวจึงยอมลงทุน ถึงจะมีบ่นบ้าง แต่ก็ไม่มีใครโวยวายจริง ๆ จัง ๆไม่เหมือนบัณฑิตจ้าวในหมู่บ้าน เรียนไม่เก่ง สอบมาสิบกว่าปีก็ยังไม่ผ่าน เป็นภาระให้ครอบครัว หลานชายอายุยี่สิบกว่

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 18

    "ฤดูเก็บเกี่ยวเพิ่งผ่านพ้นไป ท่าเรือเต็มไปด้วยคนแบกหาม พวกเราขายอาหารว่างที่อิ่มท้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีลูกค้า"ความมั่นใจในน้ำเสียงของเจียงเมี่ยวทำให้ฮูหยินจางรู้สึกสบายใจขึ้น"จะดีหรือ? พวกเราไม่เคยค้าขาย..."การค้าขายไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าขายไม่ออกก็ขาดทุน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเจียงเมี่ยวรู้ว่านางกังวลจึงยิ้มปลอบ"ท่านแม่ ฝีมือทำอาหารของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?""อร่อยสิ คนแก่ ๆ อย่างข้า ไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน""แล้วถ้าเอาไปขายล่ะ?""เอ่อ..."ฮูหยินจางลังเล เจียงเมี่ยวทำอาหารอร่อยก็จริง แต่ใช้วัตถุดิบเป็นเนื้อสัตว์ แรงงานที่ท่าเรือได้เงินวันละไม่กี่อีแปะ ใครจะยอมซื้อเนื้อกิน?"ทำอาหารที่ใส่เนื้อต้องใช้เงินเท่าไหร่ จะมีคนซื้อหรือ?"คำพูดของฮูหยินจางทำให้คนอื่น ๆ ได้สติใช่แล้ว ถ้าเป็นพวกเขาตอนกลางวันคงกินซาลาเปาแป้งหยาบ ๆ ก็พอแล้ว ใครจะยอมกินเนื้อ?"ท่านแม่ พวกเราขายพะโล้ หนึ่งชามสองอีแปะก็ได้ กับข้าวมีทั้งเนื้อทั้งผัก ทั้งถูกทั้งอร่อย"เจียงเมี่ยวรู้ราคาสินค้าเป็นอย่างดี กับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ราคาแพง แรงงานที่ท่าเรือจึงนิยมกินซาลาเปาและขนมปังที่อิ่มท้องเนื้อหมูแพง

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 19

    "ระวังไอน้ำร้อน อย่าให้ลวกนะ""หอมจังเลย! พะโล้หอมกว่าเนื้อตุ๋นที่ท่านป้าเล็กเคยทำอีก ต้องมีคนซื้อเยอะแน่ ๆ"คำพูดของเสิ่นเอ้อร์หลางถูกใจฮูหยินจางยิ่งนัก ความกังวลที่เหลืออยู่หายไปจนหมด ของหอม ๆ แบบนี้แค่ได้กลิ่นก็อดใจไม่ไหว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนซื้อเครื่องในตุ๋นทั้งเผ็ดทั้งเหนียวนุ่ม เจียงเมี่ยวชอบไส้ใหญ่ที่สุด ดูเหมือนจะแรงไป แต่กินแล้วหอมกว่าอะไรทั้งหมด มันฝรั่งหัวไชเท้านุ่มละลายในปาก เสิ่นเหล่าตี้บาดเจ็บอยู่ เจียงเมี่ยวไม่กล้าให้กินเนื้อ จึงให้ฮูหยินจางคีบผักกับไข่ให้ชิม แค่นี้ก็ทำให้เขาชมไม่หยุด"อร่อย!"เสิ่นเหล่าตี้เอ่ยชม ตอนแรกเขาคิดว่าขาหักทำงานไม่ได้ ทุกคนคงกังวลใจ แต่สะใภ้สามมีความคิด ทั้งมีฝีมือ แบกรับทั้งครอบครัวไว้ได้เมนูพะโล้ได้รับคำชมจากทุกคนในครอบครัว พวกเขาต่างก็เห็นด้วยว่าน่าจะขายได้ แต่ปัญหาคือใครจะเป็นคนทำ"เหล่าต้ากับหวังซื่อทำ"ฮูหยินจางตัดสินใจฉับพลัน สวีซื่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่พอใจ"ท่านแม่แล้วครอบครัวข้าล่ะ?"สามีนางก็ถูกไล่ออกจะอยู่เฉย ๆ ให้ครอบครัวพี่ชายหาเงินได้อย่างไร?"พูดมากเสียจริง ข้ายังพูดไม่จบ!"ฮูหยินจางปราม สวีซื่อตัวหดไม่กล้าพูดต่อเสิ่น

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 20

    เมื่อเสิ่นเอ้อร์หลางมาถึงโรงเรียน เสิ่นเยี่ยนชิงก็ยืนรออยู่ก่อนแล้ว แดดยามเที่ยงร้อนแรง กระนั้นเขายังยืนสงบนิ่งดั่งต้นไผ่"ท่านลุง ข้าอยู่นี่"วันนี้มาส่งข้าวช้ากว่าปกติหนึ่งถ้วยชา พอเห็นคราบเลือดแห้งที่ชายเสื้อของเอ้อร์หลาง เสิ่นเยี่ยนชิงก็ขมวดคิ้ว"เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่บ้าน?"เสิ่นเอ้อร์หลางเงยหน้าขึ้นมอง หลบตาอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าสบตาพึมพำเสียงเบา"ไม่มีอะไร แค่ท่านย่าพูดคุยกับท่านป้าเล็กจะทำการค้า"เสิ่นเยี่ยนชิงขมวดคิ้วแน่นอยู่ดี ๆ จะทำการค้าทำไม? ถึงแม้ท่านแม่จะเป็นคนใจร้อน แต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นางรอบคอบมาก ปกติทำเงินหายแค่อีแปะเดียวยังเสียดายตั้งหลายวัน ไม่ต้องพูดถึงทำการค้าที่ไม่มีประสบการณ์ ขาดทุนอาจมากกว่ากำไร"ถ้าเจ้าไม่ยอมบอก ข้าจะไปขออาจารย์ลากลับบ้านไปดูเอง"เสิ่นเยี่ยนชิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเด็ดขาดเสิ่นเอ้อร์หลางรู้สึกกลัดกลุ้ม ท่านย่ากำชับนักหนาว่าห้ามบอกเรื่องที่บ้านกับท่านลุง เพราะกลัวจะรบกวนการเรียนเขาแอบเงยหน้ามอง เห็นท่านลุงจ้องเขาตาเขม็ง ริมฝีปากเม้มแน่นสายตาราวกับมองทะลุทุกอย่างเสิ่นเอ้อร์หลางกลัวท่านลุงจะลากลับบ้านจริง ๆ ถ้าทำเช่นนั้นจะทำให้เสียกา

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 21

    ขณะที่ฟ้ายังไม่สาง เสิ่นเหล่าต้าก็รีบไปที่ตัวเมืองเพื่อซื้อเครื่องในหมูสองชุด ราคารวมสองอีแปะ เขาและหวังซื่อช่วยกันล้างทำความสะอาดแล้วนำไปต้มในหม้อเนื่องจากเป็นการค้าขายครั้งแรก หวังซื่อจึงไม่ตระหนี่วัตถุดิบ นางคิดว่าหากอาหารอร่อย ย่อมดึงดูดลูกค้าได้ตลอดทั้งบ่ายบ้านตระกูลเสิ่นก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอม ผู้คนที่เดินผ่านต่างชะเง้อมองอยากเข้ามาดูว่ากำลังตุ๋นอะไรกัน ช่างหอมยั่วน้ำลายเหลือเกินเครื่องในหมูที่ตุ๋นจนเต็มสองกะละมัง เจียงเมี่ยวให้หวังซื่อนึ่งซาลาเปาแป้งข้าวสาลีผสมข้าวฟ่างอีกหนึ่งหม้อใหญ่ ซาลาเปาทำขนาดพิเศษ ราคาสองลูกหนึ่งอีแปะ แม้แต่กรรมกรที่กินจุก็อิ่มได้ด้วยซาลาเปาสองลูกทุกคนทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง เสิ่นเหล่าต้ากับหวังซื่อไม่มีเวลาพักเลย ที่บ้านมีรถเข็น เขาจึงนำเตาที่ใช้ก่อไฟในฤดูหนาวออกมา พรุ่งนี้จะได้อุ่นกับข้าวได้ตกกลางคืน เสิ่นเหล่าต้ากับหวังซื่อนอนอยู่บนเตียง ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ"ท่านพี่ พรุ่งนี้จะขายดีไหมนะ? เราใช้น้ำมันและเครื่องปรุงดี ๆ ไปตั้งเยอะ ถ้าขายไม่ออก..."หวังซื่อยังคงกังวล แต่เสิ่นเหล่าต้ากลับใจกล้า"ถ้าขายไม่ออกก็เลิกขาย ข้าจะพาต้าหลางไปหางานทำที่เมือ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 22

    เมื่อเจียงเมี่ยวมาถึง โรงเรียนเพิ่งเลิกเรียนพอดี เสิ่นเยี่ยนชิงเดินออกมาพร้อมผู้คน เขาสวมเสื้อคลุมสีเขียวมรกต รูปร่างสูงโปร่งสง่างาม กิริยาท่าทางสูงศักดิ์ผ่าเผยโดยธรรมชาติ“สมแล้วที่เป็นพระเอก” เจียงเมี่ยวคิดในใจ"ท่านพี่ ทางนี้!" เจียงเมี่ยวเขย่งปลายเท้า ใบหน้างามเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม โบกมือท่ามกลางผู้คนมากมายหัวใจของเสิ่นเยี่ยนชิงกระตุกวูบ ลำคอตีบตัน ถ้อยคำหลุดจากริมฝีปากโดยมิทันยั้งคิด "เจ้ามาทำไม?"เจียงเมี่ยวรู้สึกราวกับมีเลือดจุกอยู่ในอก นางรู้แก่ใจดีว่าชายหนุ่มยังคงมีอคติต่อนางอยู่มิวาย"เอ้อร์หลางไปขายของกับพี่ใหญ่ ข้ากลัวท่านพี่จะหิวก็เลยมาส่งข้าวให้เจ้าค่ะ"น้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำ ก้มหน้างุดประหนึ่งดอกบัวตูมที่โรยรา ทำเอาดวงใจของเสิ่นเยี่ยนชิงอ่อนยวบ"ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..."คำว่า 'ดีที่เจ้ามา' ถูกกลืนหายไปในลำคอ เจียงเมี่ยวช่วยตระกูลเสิ่นวุ่นวายไปหมด เขาไม่มีเหตุผลที่จะตำหนินาง"หืม?" เจียงเมี่ยวไม่เข้าใจความหมาย ดวงตากลมโตจ้องมองเขาอย่างงุนงง ทั้งเซ่อและน่าเอ็นดู ดูเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาเสิ่นเยี่ยนชิงอดไม่ได้ที่จะลูบศีรษะนาง เส้นผมนุ่มนิ่มดุจแ

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 40

    เจียงเมี่ยวหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกน้ำเพื่อขจัดกลิ่นคาว แล้วนำน้ำตาลกรวดไปผัดในกระทะฮูหยินจางไม่เสียดายน้ำตาลและน้ำมันอีกต่อไป มองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นการทำอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้พอผัดน้ำตาลจนได้ที่ เจียงเมี่ยวก็ใส่เนื้อลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำพะโล้หนึ่งทัพพี กลิ่นหอมก็โชยออกมา"หอมจัง!"สวีซื่อเป็นคนก่อไฟ กลิ่นหอมลอยไปทางนางตลอด ทำให้นางรู้สึกหิวจนท้องก็ร้องจ๊อกๆเที่ยงนี้นางต้องแย่งหมูสามชั้นตุ๋นเพิ่มอีกสองชิ้นระหว่างตุ๋นเนื้อ เจียงเมี่ยวก็ไปเด็ดแตงกวาจากสวนมาสองลูกมาทำยำ หากกินแต่เนื้อก็จะเลี่ยน ซึ่งผักจะช่วยตัดเลื่อนทำให้กินอาหารอร่อยมากขึ้น"ท่านแม่ เที่ยงนี้กินข้าวสวยนะเจ้าคะ"นางมาอยู่ในโลกยุคโบราณนานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวสวยเลย น้ำหมูสามชั้นตุ๋นราดข้าวสวยร้อน ๆ แค่คิดนางก็อยากกินแทบอดใจไม่ไหว"ข้าวที่บ้านยังมีพอหรือ?"ปกติตระกูลเสิ่นกินแค่ข้าวต้มตอนเช้า ข้าวสารจึงมีไม่มาก"เมื่อวานข้าซื้อมาจากเมืองแล้วเจ้าค่ะ""งั้นเจ้าก็ผสมข้าวไม่ขัดสีลงไปด้วย"ข้าวสารในเมืองขายชั่งละสามอีแปะ ข้าวไม่ขัดสีชั่งละอีแปะเดียว ข้าวที่ตระกูลเสิ่นปลูกก็เอ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 39

    เขาแสร้งทำเป็นสงบ เจียงเมี่ยวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจ"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ที่นี่มีควันเยอะ ท่านพี่เข้าไปในห้องเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะสำลัก""ไม่เป็นไร"ข้าแค่อยากอยู่กับเจ้า...เสิ่นเยี่ยนชิงกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ปลายนิ้วยังรู้สึกถึงความนุ่มของแก้มหญิงสาว เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจเขา นางกำลังกลั่นน้ำมันหอมระเหยขั้นตอนสุดท้าย หม้อที่ซื้อมาใหม่นำความร้อนได้ดี น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นออกมาจึงไม่มีสิ่งเจือปน ไม่นานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบก็เสร็จ เจียงเมี่ยวจึงใส่ขี้ผึ้งลงไปผสมให้แข็งตัวเสิ่นเยี่ยนชิงมองลูกหอมกลมใสในมือเจียงเมี่ยว กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยมา ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจเจียงเมี่ยวไม่ได้ปิดบังเรื่องทำลูกหอม ลูกหอมเป็นของที่ผู้หญิงใช้ เสิ่นเยี่ยนชิงอาจจะไม่รู้ว่านางทำอะไรอยู่ อาจจะคิดว่า นางกำลังเล่นอะไรแปลก ๆ ถ้าเขารู้ก็ไม่เป็นไร พอดีเลยจะได้อธิบายเรื่องที่นางหาเงินได้ เพราะช่วงนี้นางใช้เงินเปลืองเสิ่นเยี่ยนชิงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่านางเอาเงินมาจากไหนเสิ่นเยี่ยนชิงเคยสงสัยจริง แต่คิดว่าเจียงเมี่ยวทำแต่ถุงหอม เพราะถุงหอมในมือซูจื่อเหวินมีฝีมือการปักเหมือนที่เจียงเมี่ยวให้เขาไม่มีผิด ตามท

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 38

    "ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะไม่ได้กินข้าวบ้านเจ้าแล้ว"ซูจื่อเหวินยิ้มแหยๆ เขาเป็นคนติดรสชาติอาหาร ตั้งแต่อาหารบ้านตระกูลเสิ่นอร่อยขึ้น เขาก็แอบมากินทุกที ทั้งอาหารหมักดองรสเผ็ดหอม กุยช่ายทอดเหลืองกรอบหอมฟุ้ง อร่อยกว่าอาหารในโรงเตี๊ยมบ้านเขาเสียอีก ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่เคยกินมาไม่มีรสชาติเลย ถ้าได้ไปกินที่บ้านตระกูลเสิ่นให้หนำใจล่ะก็...ซูจื่อเหวินคิดพลางกลืนน้ำลายเสิ่นเยี่ยนชิงมองเขาด้วยความรังเกียจ แค่นี้น่ะหรือ?"ไม่ได้!"เขาไม่ยอมเด็ดขาด วันหยุดมีแค่วันเดียว เขาอยากอยู่กับเมี่ยวเอ๋อร์ตามลำพัง พาเพื่อนกลับบ้านจะดูเป็นอย่างไร "บ้านข้าจน ต้อนรับเจ้าไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซูจื่อเหวินหน้าสลดห่อเหี่ยวสุดๆ"ข้าจะจ่ายเงิน ไม่กินฟรี ๆ หรอก"เขาพยายามอ้อนวอน แต่เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สะทกสะท้าน ซูจื่อเหวินจึงต้องล้มเลิก พูดต่อไปคงน่ารำคาญ ถึงตอนนี้เสิ่นเยี่ยนชิงก็รำคาญเขามากแล้ว "เฮ้อ ไม่มีพะโล้รสจัดจ้านกิน วันนี้ข้าคงอดตายแน่ๆ""หึ!"เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สนว่าซูจื่อเหวินจะอดตายหรือไม่ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับบ้านเร็วๆแต่เมี่ยวเอ๋อร์จะทำอะไรอร่อยๆ ให้เขากินนะ ชายหนุ่มที่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 37

    เจียงเมี่ยวมองดูแม่สามีลูกสะใภ้ทะเลาะกัน อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ"ท่านแม่ ข้ายังซื้อข้าวสาร แป้ง น้ำตาลมาด้วย พรุ่งนี้ท่านพี่หยุดเรียน ข้าจะทำขนมให้ท่านพี่กิน"เสิ่นเยี่ยนชิงอยากกินไหม นางไม่รู้ จริงๆ แล้วนางอยากกินเองต่างหากขนมที่เสิ่นเยี่ยนชิงซื้อมาให้หวานเกินไป นางกินแล้วเลี่ยน แต่เพราะเหตุนั้นนางเลยอยากกินขนมขึ้นมาขนมนุ่ม ๆ หอม ๆ ไม่ได้กินนานแล้วสิฮูหยินจางพูดไม่ออก"ทำก็ทำสิ"นางดูออกว่าเมี่ยวเอ๋อร์อยากกินต่างหากสะใภ้สามถึงจะขยันขึ้น แต่ก็ยังตะกละเหมือนเดิมเจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ ตอนนี้นางกำลังบดแป้งอยู่ต้ายานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ มองเจียงเมี่ยวใส่ข้าวที่แช่น้ำไว้แล้วลงในโม่หิน เมล็ดข้าวขาวใสถูกบดเป็นผง เจียงเมี่ยวเทน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน หมักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำไปนึ่งไอร้อนพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวและน้ำตาลแดง ขนมหอมนุ่มน่ากินสุด ๆเจียงเมี่ยวป้อนขนมให้ต้ายาหนึ่งชิ้น รสชาติหวานละลายในปากทำให้นางยิ้มตาหยี"หวาน""อร่อยไหม?""อร่อยเจ้าค่ะ!อร่อยมาก"เจียงเมี่ยวลองชิมดูเช่นกัน ข้าวสมัยโบราณปลูกแบบปลอดสารพิษ กลิ่นจึงหอมกว่า เนื้อขนมเหนียวนุ่มหนึบอร

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 36

    ซูจื่อหลานไม่ได้คะยั้นคะยอ นางมองเจียงเมี่ยวลงจากรถแล้วจากไป"กลับจวน"...เจียงเมี่ยวถือของกลับบ้าน เดินช้าๆ มาตลอดทาง ใบหน้าของนางยังคงซีดเล็กน้อยนางฮูหยินจางกับสวีซื่อกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เห็นนางดูใจลอยก็เป็นห่วง"เมี่ยวเอ๋อร์เป็นอะไรไป?เจอเรื่องอะไรมาหรือ?"ฮูหยินจางจับมือของนาง มือเย็นเฉียบมีเหงื่อเย็น ๆ เต็มฝ่ามือ"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคงเหนื่อยที่เดินเยอะ พักสักหน่อยก็หายแล้ว"นางรู้สึกอบอุ่นใจ ความกังวลหายไป เจียงเมี่ยวนั่งลงดื่มน้ำแล้วหยิบของในตะกร้าออกมา"ท่านแม่ ข้าซื้อผ้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้วพอดีจะได้ตัดเสื้อใหม่""ซื้อของมาให้ข้าอีกแล้ว!เสื้อผ้าข้ายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องตัดใหม่เลย เก็บไว้ให้เหล่าซานเถอะ"ฮูหยินจางบ่น สะใภ้สามใช้เงินเปลืองจริงๆแต่พอมองผ้าสีครามผืนนั้น นางก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมาหน่อยๆตระกูลเสิ่นไม่ได้ซื้อผ้ามาสองปีแล้ว เสื้อผ้าของทุกคนก็มีแต่รอยปะชุน"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ"าแล้วนางก็หยิบผ้าสีขาวอมฟ้าผืนนั้นออกมา "ข้าคิดว่าจะตัดชุดยาวให้เขาไว้ใส่ตอนสอบในระดับมณฑล จะได้ดูดีมีหน้ามีตา" เดือนหน้าเสิ่นเยี่ยนชิงจะไปสอบในระดับมณฑ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 35

    "หึ! เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้าคิดเกินตัว หมายปองคุณหนูของข้างั้นหรือ!"ไฉ่อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เป็นแค่คางคกริอาจกินเนื้อหงส์ ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลยซูจื่อหลานจิกเล็บจนจมเนื้อ ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในเมื่อไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"ลุงเจิง ซ้อมมันให้หนัก!"คนขับรถระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ไอ้สารเลวนี่กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเขา คงอยากตายแล้วกระมังลุงเจิงเคยเป็นทหาร ถูกบิดาของซูจื่อหลานจ้างมาคุ้มครองนางด้วยเงินจำนวนมาก เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง ลูกน้องทั้งสองของซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหน้าตาบวมปูด ส่วนซุนหยวนเป่าก็โดนเตะล้มลงแล้วต่อยท้องซ้ำซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนปัสสาวะราด ปวดท้องเหมือนไส้จะทะลัก"โอ๊ยๆ หยุดซ้อม หยุดซ้อมได้แล้ว โอ๊ย เจ็บปางตายแล้ว...""ตีให้ตายไปเลย ไอ้สารเลวกล้าล่วงเกินคุณหนูข้า!"ลุงเจิงไม่ปรานี ซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหัวบวม ปากมีเลือดไหล ฟันหลุดออกมาหลายซี่"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว คุณหนูสวีไว้ชีวิตข้าเถอะ"พอได้สติซุนหยวนเป่าก็รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป พี่ชายเขาเจอตระกูลสวียังต้องหลีกทาง เขาทำเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆเขาห

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 34

    บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเตี้ยอ้วน ร่างกายกลมป้อม สวมชุดผ้าไหมชั้นดี ทว่ากลับดูตลกขบขัน ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยไขมัน ตาเล็ก จมูกแดงเบียดกัน เขามองเจียงเมี่ยวอย่างหื่นกระหายยื่นมือจะมาลวนลามนางซุนหยวนเป่าดื่มเหล้ามาจากหอมงคล อยู่ในสภาวะมึนเมาเห็นเจียงเมี่ยวเลยคิดว่าเป็นนางฟ้า"สาวงามให้ข้าจุ๊บหน่อยสิ"เจียงเมี่ยวขยะแขยงจนทนไม่ไหว อาหารที่เพิ่งกินเกือบพุ่งออกมา ไม่คิดว่ากลางวันแสกๆ จะเจออันธพาล นางขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา คว้าม้านั่งจากแผงบะหมี่ฟาดใส่"โอ๊ย! เจ็บ!"ซุนหยวนเป่าโดนตีที่แขน เจ็บปางตาย จึงได้สติ"บัดซบ !นังตัวดี กล้าตีข้างั้นหรือ?จับมันไป!"เขาโบกมือลูกน้องก็เข้ามามาดหมายจับเจียงเมี่ยว ทั้งสองยิ้มอย่างหื่นกระหาย ดูก็รู้ว่าทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง"กลางวันแสก ๆ แบบนี้ไม่มีกฎหมายหรือไง?"เจียงเมี่ยวถือม้านั่งขวางไว้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว"กฎหมาย? ในเมืองฝูหรง ข้าคือกฎหมาย!"ซุนหยวนเป่าพูดอย่างอวดดีปกติเขามักใช้อำนาจของพี่ชายรังแกคนอื่น พอเห็นหญิงสาวคนไหนถูกใจก็ให้ลูกน้องไปลักพาตัวมา โดยไม่มีใครกล้าหืออือพ่อค้าแม่ค้าข้าง ๆ รู้นิสัยเขาดีจึงหลบไปไกล ๆ ไม่กล้าช่วยนางลูกน้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    "มีสิ เมิ่งเอ๋อร์ปีนี้ก็หกขวบแล้ว"พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหล ลูกสองคนอยู่กับบ้านสามี ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบหน้าอีกแล้ว เจียงเมี่ยวเห็นว่าเป็นเรื่องเศร้าของเถ้าแก่เนี้ยฉินจึงไม่ถามต่อ เถ้าแก่เนี้ยฉินเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม "ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"ทั้งสองคุยกันพลางดื่มชาก็มีคนรู้จักเดินเข้ามาในร้าน"มีลูกหอมเหลือไหม?""คุณหนูสวีมาพอดี วันนี้มีลูกหอมมาใหม่เจ้าค่ะ"เถ้าแก่เนี้ยฉินยิ้มเดินเข้ามาวางลูกหอมสามกลิ่นบนโต๊ะ"นี่กลิ่นผลไม้หรือ?"ซูจื่อหลานได้กลิ่นลูกพีช หวานอ่อนๆ ไม่ฉุน "ใช่แล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นสินค้าใหม่ลูกหอมกลิ่นผลไม้""ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"ทั้งสามกลิ่นนางชอบหมด อีกอย่างสิบลูกที่ซื้อครั้งก่อน เมื่อเอาไปให้คนอื่น ทุกคนต่างก็ชมนาง"เอ่อ...คุณหนูคงยังไม่รู้ ตอนนี้ร้านจำกัดจำนวนขายคนละสองลูกเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้ว่าร้านเล็ก ๆ มีลูกหอมแค่นี้ ถ้าคุณหนูซื้อไปหมด พวกเราจะทำการค้าได้อย่างไร?"ซูจื่อหลานไม่ได้มาหลายวันจึงไม่รู้เรื่องนี้ นางขมวดคิ้วเสียดายนางอยากได้ทั้งหมดนี่นาแต่นางก็เข้าใจความลำบากในของเถ้าแก่เนี้ยฉิน สุดท้ายจึงจำใจเลือกมาแค่สองลูก"งั้นข้าเอากลิ่นดอกกล้วยไม้กับกลิ่นผ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    "งั้นเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะอยู่ให้ห่างจากร้านของตระกูลเสิ่น""แน่นอน!"ไข่ที่หวังซื่อเอามาถูกน้องสะใภ้เก็บไว้ พอหวังเอ้อร์จู้ฟังสูตรเสร็จก็อ้างว่าบ้านไม่มีข้าวให้นางรีบกลับ ระหว่างทางหวังซื่อรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถ้าฮูหยินจางรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?...ตอนเจียงเมี่ยวออกจากบ้านเจอหวังซื่อกำลังกลับมาพอดี นางสะพายตะกร้า ท่าทางใจลอย"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านลุงกับท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?""อ๊ะ"หวังซื่อสะดุ้งตกใจ"สบายดี สบายดี"นางตอบตะกุกตะกักรีบเดินเข้าบ้านไปเจียงเมี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ดูมีพิรุธแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหวังซื่อคงเหนื่อยจากการเดินทาง ฤดูร้อนผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือนใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ถนนเพิ่งฝนตกจึงมีดินโคลนเละเทะ เจียงเมี่ยวจับชายกระโปรงเดินเลือกที่แห้งเมืองฝูหรงคึกคักไปด้วยผู้คน พอถึงหน้าประตูเมือง นางเกือบโดนรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชน โชคดีที่หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ดึงนางไว้ไม่งั้นคงบาดเจ็บ"ให้ตายเถอะ! เป็นบ้าหรือไง? ขับรถเร็วบนถนนรีบไปเกิดใหม่งั้นหรือ?"หญิงวัยกลางคนคนนั้นเป็นคนใจร้อน จึง

DMCA.com Protection Status