แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: ซุนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 15:30:15
อรุณรุ่งแห่งวันใหม่ เจียงเมี่ยวออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ขณะที่นางกำลังจะก้าวออกประตู สวีซื่อยังจะเปิดปากกระแนะกระแหน แต่เพียงสายตาดุๆ จากคุณนายจางก็ทำให้นางต้องกลืนคำพูดกลับลงคอ

เมืองฝูหรงเริ่มคึกคัก ร้ทั้งร้านขายอาหารและแผงลอยต่างๆ เริ่มทยอยออกมาตั้งร้าน ผู้คนพลุกพล่านไปมา

กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก จนท้องของเจียงเมี่ยวร้องจ๊อกๆ โจ๊กเหลวจืดชืดที่กินตอนเช้าย่อยหมดไปนานแล้ว

นางพยายามข่มความอยากอาหาร แล้วตรงไปที่ร้านจินซิ่วเก๋อ

ในร้านมีสาวน้อยไม่กี่คนกำลังเดินดูสินค้า หญิงสาวที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มสวมกระโปรงสีเขียวอมฟ้าตัดจากผ้าสไตล์สุ่ยเยียนลั่ว ปิ่นหยกขาวปักผมดำขลับ ดูเรียบง่ายแต่แฝงความงามประณีต รูปโฉมของนางงดงามอ่อนหวาน ผิวขาวผ่องดั่งหยก ริมฝีปากแดงระเรื่อโดยมิต้องแต่งแต้ม ดูจากการแต่งกายคงเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่

พวกนางเหลือบมองเจียงเมี่ยวที่เดินเข้ามาแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปสนใจอย่างอื่น

เถ้าแก่เนี้ยฉินเดินออกมาจากหลังโต๊ะด้วยรอยยิ้ม

"คุณหนูเจียงมาแล้ว"

ผ้าเช็ดหน้าที่เจียงเมี่ยวปักครั้งก่อนเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้ามาก ขายหมดในพริบตา เถ้าแก่เนี้ยฉินรอคอยนางมาหลายวันแล้ว

"เถ้าแก่เนี้ย" เจียงเมี่ยวค้อมศีรษะคำนับเบาๆ พลางส่งผ้าเช็ดหน้าและถุงหอมให้

"ครั้งนี้ข้าทำผ้าเช็ดหน้ามาสิบผืน ถุงหอมแปดใบ เชิญท่านดูเถิด"

เถ้าแก่เนี้ยฉินสะดุดตากับสีของผ้าทันที จำได้ว่าครั้งก่อนเจียงเมี่ยวซื้อแต่ผ้าขาว

"นี่... คุณหนูย้อมผ้าเองหรือ?"

เจียงเมี่ยวเลิกคิ้ว "ใช่แล้วเจ้าค่ะ"

"สีนี้งามนัก" เถ้าแก่เนี้ยฉินลูบผ้าในมือ นางเคยเห็นสีม่วงเข้ม ม่วงแดง แต่ไม่เคยเห็นสีม่วงอ่อนอมควันเช่นนี้มาก่อน

เมื่อดูสีจนพอใจแล้ว เถ้าแก่เนี้ยฉินจึงสังเกตลวดลายและรูปแบบของถุงหอม ลายสี่สหาย - เหมย หลาน จู้ และจวี๋ ช่างงามสง่า ผ้าเช็ดหน้าและถุงหอมเข้าคู่กันพอดี ยิ่งเมื่อยกขึ้นดม กลิ่นหอมก็พอเหมาะพอดี ชวนให้สดชื่น

ส่วนผ้าสีขาว ยังคงปักลายดอกไม้และผีเสื้อ ถุงหอมทำเป็นรูปดอกบัว ประดับพู่สีต่างๆ ดูน่ารักกะทัดรัด

แต่ที่ทำให้เถ้าแก่เนี้ยฉินชอบใจที่สุดคือผ้าเช็ดหน้าสองผืนที่ปักลายแมวน้อยแม้แต่ขนก็ยังดูเหมือนจริง

"วิเศษ! วิเศษมาก!" นางแทบไม่อยากขาย อยากเก็บไว้เองเสียมากกว่า

เสียงชื่นชมดึงดูดความสนใจของสาวน้อยกลุ่มนั้น ซูจื่อหลานหลงรักผ้าเช็ดหน้าลายแมวน้อยตั้งแต่แรกเห็น

"เถ้าแก่เนี้ย ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ ขายเท่าไหร่หรือ?"

เจียงเมี่ยวจำได้ว่านี่คือคุณหนูที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม นางไม่พูดอะไร รอฟังเถ้าแก่เนี้ยฉินตอบ

เถ้าแก่เนี้ยฉินไม่เสียชื่อที่มาจากเมืองหลวง ความคิดแปรเปลี่ยน รอยยิ้มก็กว้างขึ้น

"คุณหนูช่างตาถึงยิ่งนัก ผ้าเช็ดหน้าแบบนี้ร้านเรามีแค่สองผืนเท่านั้น หากคุณหนูชอบ ขอยี่สิบอีแปะเถิดเจ้าค่ะ"

ผ้าเช็ดหน้าธรรมดาขายแค่ห้าถึงสิบอีแปะ แต่ผ้าลายแมวนี้ราคาเพิ่มเป็นสองเท่า

ซูจื่อหลานไม่สนใจเรื่องเงินไม่กี่อีแปะ ซื้อไปทั้งสองผืน เจียงเมี่ยวจัดวางผ้าเช็ดหน้าและถุงหอมเป็นคู่ๆ พอซูจื่อหลานเห็นลายสี่สหายก็ถอนสายตาไม่ขึ้น

ชื่อของนาง มีคำว่า 'หลาน' นางชอบสะสมของที่เกี่ยวกับดอกกล้วยไม้อยู่แล้ว และถุงหอมนี้ก็มีกลิ่นกล้วยไม้หอมอ่อนๆ

"ถุงหอมนี้ อบด้วยเครื่องหอมหรือ?" การอบกลิ่นหอมเป็นของดี มีขายแต่ในร้านในเมืองหลวงเท่านั้น และต้องมีเส้นสายถึงจะซื้อได้ แม้แต่นางเองก็มีแค่เล็กน้อย ไม่กล้าใช้บ่อย

"ข้างในใส่ดอกไม้แห้งเจ้าค่ะ ดังนั้นจึงมีกลิ่นหอม" เจียงเมี่ยวตอบ

"เป็นความคิดที่ดีไม่เลว"

ซูจื่อหลานผิดหวังเล็กน้อย สมกับที่คิดว่าของหอมอบกลิ่นไม่ใช่ของที่จะได้มาง่ายๆ แต่นางก็ได้กลิ่นว่าถุงหอมแต่ละใบมีกลิ่นต่างกัน แต่ละกลิ่นล้วนหอมละมุนไม่เหมือนกัน

"นี่คือกลิ่นอะไรหรือ?" ซูจื่อหลานหยิบถุงหอมสีขาวที่ปักลายตารางขึ้นมาสองใบ กลิ่นออกขมนิดๆ แต่ดมนานๆ แล้วรู้สึกสดชื่น

"ข้างในใส่ยาสมุนไพร ช่วยไล่ยุงและแมลงได้เจ้าค่ะ"

"คุณหนู อันนี้ดีนะเจ้าคะ เอาไว้ให้คุณชายใส่ที่โรงเรียนได้"

สาวใช้กระซิบข้างๆ แม้แต่นางเองก็สนใจ ในจวนมีดอกไม้มาก ยุงก็เยอะ เดินไปมาถูกกัดหลายแผล ถ้ามีถุงหอมไล่ยุง การรับใช้คงสบายขึ้น

"อืม ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"

"ได้เลยเจ้าค่ะ!" เถ้าแก่เนี้ยฉินตื่นเต้นจนพูดไม่ออก แต่ราคาถุงหอมนางไม่แน่ใจ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากเจียงเมี่ยวเอ๋อร์

เจียงเมี่ยวพยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยต่อ

"ถุงหอมและผ้าเช็ดหน้าขายเป็นคู่ คู่ละสองร้อยอีแปะ สวมติดตัวหรือเก็บในตู้เสื้อผ้าก็ได้ แม้จะไม่หอมนานเท่าเครื่องหอม แต่กลิ่นดอกไม้ก็อยู่ได้สองเดือน"

เจียงเมี่ยวเห็นว่าคุณหนูผู้นี้ไม่ขัดสน ถุงหอมธรรมดาขายแค่ห้าสิบอีแปะ นางขึ้นราคาสี่เท่า แต่ซูจื่อหลานกลับไม่กะพริบตา

เถ้าแก่เนี้ยฉินได้ลูกค้ารายใหญ่ก็ดีใจ ยิ่งรู้สึกว่าเจียงเมี่ยวฉลาดเฉลียว

"เงินค่าผ้าเช็ดหน้าและถุงหอม ทั้งหมด 1,640 อีแปะ ลองดูสิว่าครบหรือไม่"

"เยอะขนาดนี้เลยหรือเจ้าคะ!" เจียงเมี่ยวรู้ว่าขายได้เท่าไหร่ แต่นางไม่คิดว่า เถ้าแก่เนี้ยฉินจะให้เงินนางทั้งหมด

"นี่เป็นเงินที่คุณหนู ขายของได้เอง ก็ควรให้คุณหนูทั้งหมดสิ" เถ้าแก่เนี้ยฉินพูดพร้อมกับยิ้ม

"คุณหนูเจียง สนใจร่วมหุ้นหรือไม่? ต่อไป ของที่ขายได้ คุณหนูได้เจ็ดส่วน ร้านจินซิ่วเก๋อได้สามส่วน"

เถ้าแก่เนี้ยฉินยอมเสียเงินก้อนนี้ ก็หวังดึงคนเก่งเข้าร่วม ร้านของนางเล็ก ธุรกิจก็ธรรมดา ช่างปักในเมืองก็ล้วนคล้ายๆ กัน ไม่มีอะไรแปลกใหม่

ของที่เจียงเมี่ยวนำมาส่งสองครั้งล้วนทำให้นางประทับใจ เถ้าแก่เนี้ยฉินเชื่อว่า เจียงเมี่ยวต้องมีความสามารถมากกว่านี้ นางเลยกลัวว่าเจียงเมี่ยวจะไปขายร้านอื่น จึงชิงสร้างไมตรี ชวนมาร่วมหุ้น

เจียงเมี่ยวเลิกคิ้วสวย นางสนใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่ต้องดูแลร้าน เพียงส่งงานปักทุกเดือน แล้วรอรับเงินเท่านั้น

ทั้งสองเซ็นสัญญา เถ้าแก่เนี้ยฉินวางใจไปครึ่งหนึ่ง

"ขอให้ร่วมงานกันอย่างราบรื่น!"

พอออกจากร้านจินซิ่วเก๋อ เจียงเมี่ยวก็ไปซื้อขี้ผึ้งและเครื่องหอมอื่นๆ ที่ร้านขายยา เดินผ่านแผงขายเนื้อ นางก็ซื้อซี่โครงหมูสองชั่งและเครื่องในหมูหนึ่งพวง ในราคาสิบห้าอีแปะ แล้วเดินกลับบ้านพร้อมของมากมาย

เพิ่งจะถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน เจียงเมี่ยวก็เห็นเสิ่นเยี่ยนชิงถูกสตรีผู้หนึ่งดักรออยู่กลางทาง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 12

    สตรีผู้นั้นมีรูปโฉมงดงาม สวมชุดกระโปรงที่ยังดูใหม่ ไม่มีรอยปะชุน ในหมู่บ้านชิงเฉวียนแค่นี้ก็นับว่าเป็นคนมีฐานะแล้วเจียงเมี่ยวครุ่นคิดแล้วจำได้ว่า นางคือจ้าวซิ่วซิ่ว บุตรสาวของผู้ใหญ่บ้านใบหน้าจ้าวซิ่วซิ่วแดงระเรื่อ พยายามยัดผลไม้ในมือใส่อ้อมอกเสิ่นเยี่ยนชิง"พี่เยี่ยน นี่เป็นผลไม้ที่พ่อซื้อมาจากอำเภอ หวานมากเลย พี่รีบชิมดูสิจ้าวซิ่วซิ่วชอบเสิ่นเยี่ยนชิงตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเสิ่นเยี่ยนชิงจะมีภรรยาแล้ว ก็ไม่ได้หยุดความคิดที่จะแต่งงานกับเขาเสิ่นเยี่ยนชิงเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาแสดงความรำคาญ เเขาปฏิเสธอีกครั้ง แต่จ้าวซิ่วซิ่วทำเป็นไม่เข้าใจ ยังคงตื๊อไม่เลิกแต่ในสายตาเจียงเมี่ยวกลับเห็นเป็นภาพของบุรุษรูปงามกับสตรีโฉมสะคราญ ช่างเหมาะสมกันดีเจียงเมี่ยวดูอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจเดินอ้อมทางอื่น นางไม่อยากไร้มารยาท ไปขัดจังหวะตอนที่สาวงามกำลังเอาใจชายในดวงใจ"เจียงเมี่ยว!" นางเพิ่งจะหันหลังจะเดินหนี เสียงเยียบเย็นก็ดังมาจากด้านหลัง เสิ่นเยี่ยนชิงกัดฟันพูด ดวงตาฉายแววโกรธจัดเขารู้ว่าเจียงเมี่ยวยังคงรังเกียจเขา พยายามจะผลักไสเขาให้คนอื่นเขาต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้คิดว่าหญิงคนนี้เปลี่ยนนิสัยไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 13

    "เมี่ยวเอ๋อร์ พี่สะใภ้มีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้า"หวังซื่อเก็บกวาดห้องเสร็จก็มาดักรอเจียงเมี่ยวที่หน้าครัว"เชิญพี่สะใภ้พูดเลยเจ้าค่ะ"เจียงเมี่ยววางมือจากงานแล้วพูด"เจ้าสอนปักผ้าให้พี่สะใภ้ได้หรือไม่?"พูดจบนางก็หน้าแดงก่ำ ใคร ๆ ก็รู้ว่าวิชาปักผ้าเป็นวิชาที่สืบทอดกันในครอบครัว การที่นางหน้าด้านมาขอให้เจียงเมี่ยวสอน ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปแล้วคนอื่นรู้ ตระกูลเสิ่นคงเสียหน้าหมดแต่นางก็ไม่มีทางเลือก สามีของนางทำงานแบกหามที่ท่าเรือ เงินที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดทั้งปีก็ต้องนำมาใช้จ่ายในบ้าน ต้าหลางใกล้จะสิบสามแล้ว เงินค่าสินสอดแต่งงานก็ยังไม่มี งานในไร่นาก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ยิ่งคิดนางก็ยิ่งร้อนใจหลายวันมานี้สะใภ้สามซื้อเนื้อมาหลายวันหมดเงินไปหลายสิบอีแปะ ต้องมีหนทางหาเงินแน่ ๆ นางเองก็ไม่ได้หวังจะรวยแค่วันละไม่กี่อีแปะ แต่นานวันเข้าจำนวนเงินก็มากโขอยู่เจียงเมี่ยวไม่ได้คิดจะหวงวิชา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเทคนิคต่าง ๆ หาได้ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่...เจียงเมี่ยวมองมือที่หยาบกร้านของหวังซื่อ ดูแล้วคงปักผ้าไม่ได้หวังซื่อคิดว่าเจียงเมี่ยวไม่เต็มใจจึงหน้าเสีย"เจ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 14

    อากาศร้อนยังไม่จางหาย เจียงเมี่ยวทำงานมาทั้งวัน เหงื่อไหลท่วมตัวนางต้มน้ำอาบแล้วเข้าห้องโดยที่ผมยังเปียกอยู่บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันส่องแสงริบหรี่ เงาร่างสง่างามของบุรุษสะท้อนในแสงไฟ เจียงเมี่ยวพลันชะงักนางลืมไปว่าเสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน คืนนี้พวกเขาต้องนอนเตียงเดียวกันในหัวตีกันมึนงง ใบหน้าเหม่อลอย หยดน้ำจากเส้นผมเปียกชื้นหยดลงที่คอเสื้อ ใบหน้างามผุดผ่องและลำคอขาวเนียน ริมฝีปากเล็กดุจผลเชอร์รี่เผยอเล็กน้อย ทั้งงดงามและน่าเอ็นดู"เจ้าทำอะไรอยู่?"เสิ่นเยี่ยนชิงเรียกสองครั้ง นางไม่ตอบ อดใจไม่ไหวจึงบีบแก้มนางเบา ๆ"โอ๊ย! เจ็บ!"เจียงเมี่ยวลูบแก้มหน้ามู่ทู่เสิ่นเยี่ยนชิงหน้าร้อนผ่าว แสร้งทำเป็นไอสองครั้งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย"ท่านแม่เรียกเจ้า"ฮูหยินจางทำอาหารว่างเป็นบะหมี่น้ำซุปกระดูก ใส่เส้นเยอะ ๆ ให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนนางซดน้ำซุป"กินเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนเสียนะ"ฮูหยินจางเก็บกวาดครัว ปิดประตูแล้วกำชับเจียงเมี่ยว"เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านก็เข้านอนเร็ว ๆ นะเจ้าคะ"ปกติตระกูลเสิ่นกินข้าวสองมื้อ มีแค่วันที่เสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน ฮูหยินจางถึงจะทำอาหารว่าง เจียงเมี่ยวจึงได้พลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 15

    "เมี่ยวเอ๋อร์ ตื่นได้แล้ว”ฮูหยินจางกำลังให้อาหารไก่ ที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัวได้ ทุกวันได้ไข่สิบกว่าฟอง พวกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของฮูหยินจาง ไม่ว่าใครก็แตะต้องไม่ได้เมื่อเห็นเจียงเมี่ยว นางก็ยืดตัวเดินออกมาจากเล้าไก่"ข้าเก็บข้าวไว้ให้ในหม้อ รีบไปกินเสียสิ""นี่ถุงหอมที่ทำให้ท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านลองใส่ดูสิเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวยื่นถุงหอมสีขาวรูปดอกบัวมีพู่สีเขียวให้ฮูหยินจางฮูหยินจางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน รับถุงหอมอย่างระมัดระวัง"นี่...ให้ข้าหรือ? ข้าแก่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ๆ แบบนี้หรอก เอาไปให้เหล่าซานเถอะ"นางเช็ดมือหลายครั้งกลัวจะทำถุงหอมสกปรก"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทำงานเหนื่อยใส่ถุงหอมไว้จะได้กันยุงนะเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวช่วยผูกถุงหอมให้ ฮูหยินจางมองอย่างชอบใจ ริ้วรอยบนใบหน้ายิ่งลึกขึ้น"ข้ารู้ว่าเจ้ากตัญญู คราวหน้าเอาไปขายที่ตลาดเถอะ คนแก่ ๆ อย่างข้าโดนยุงกัดบ้างไม่เป็นไรหรอก"ฮูหยินจางเป็นคนประหยัด มีของดีก็ไม่กล้าใช้ เจียงเมี่ยวพูดอยู่นาน นางจึงยอมรับ"กตัญญูกับท่านแม่นั้นเป็นเรื่องสมควรแล้วเจ้าค่ะ!"ฮูหยินจางถูกเอาใจจนปลื้ม พอได้ยินว่าเจียงเมี่ยวจะใช้เตาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 16

    เจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่า นางได้กวนใจพระเอกโดยไม่ตั้งใจ บัดนี้นางมาถึงร้านจินซิ่วเก๋อแล้ว"คุณหนูเจียง วันนี้มาได้อย่างไร? ทำถุงหอมเสร็จแล้วหรือ?"เถ้าแก่เนี้ยฉินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพลางต้อนรับเจียงเมี่ยวเข้าร้าน ปกติเจียงเมี่ยวจะมาส่งของสามวันครั้ง แต่วันนี้เพิ่งผ่านไปวันเดียวก็มาแล้ว"ถุงหอมยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ อีกสองวัน"เจียงเมี่ยวตอบพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ"วันนี้ข้าทำลูกหอมมา"นางกล่าวพลางหยิบลูกหอมสองลูกออกมา ลูกหนึ่งสีชมพูกลมใสส่งกลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น อีกลูกสีขาวเหลืองเป็นประกายส่งกลิ่นดอกกล้วยไม้อ่อนหวาน ลูกหอมทั้งสองไร้ตำหนิติติง ทั้งกลิ่นกำลังดีหอมน่าดม"ลูกหอม...เป็นลุกหอมจริง ๆ ด้วย!"นางเคยเห็นเครื่องหอมอยู่บ้างตอนอยู่บ้านสามี เป็นของที่คนอื่นให้ท่านย่า หากทว่ามีตำหนิเต็มไปหมดสู้ของเจียงเมี่ยวไม่ได้ นางรู้ว่าเจียงเมี่ยวเก่ง กระนั้นก็ไม่คิดว่าจะทำเครื่องหอมได้ คุณหนูเจียงนี่เป็นใครกันแน่? หรือจะเป็นคุณหนูตกยาก? ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจ ความคิดมากมายแวบผ่าน แต่สุดท้ายก็เก็บงำไว้"ลูกหอมราคาแพงเมืองเล็ก ๆ แบบนี้อาจจะขายไม่ออก ถ้าส่งไปเมืองหลวงได้ก็ดีสิ"เถ้าแก่เนี้ยฉินกล่าวด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 17

    เจียงเมี่ยวถือเนื้อหมูสามชั้นสองชั่งกลับบ้าน เถ้าแก่คุ้นเคยกับนางดี จึงแถมกระดูกใหญ่ให้อีกสองท่อนหมั่นโถวที่กินตอนเที่ยงยังติดคออยู่ นางคุ้นกับอาหารดี ๆ พอมากินหมั่นโถวแป้งหยาบ ๆ นี้ก็กลืนไม่ค่อยลงลูกหอมจะขายดีหรือไม่ยังไม่รู้ ถึงเจียงเมี่ยวจะมั่นใจว่าขายได้ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะขายหมดเมื่อไหร่ เถ้าแก่เนี้ยฉินจะให้เงินมัดจำ ทว่านางปฏิเสธเงินที่ได้จากการขายผ้าเช็ดหน้าและถุงหอม หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ1,500 อีแปะ แลกเป็นเงินก็ได้หนึ่งตำลึงครึ่ง สำหรับชาวชนบทถือเป็นเงินก้อนใหญ่ค่าเล่าเรียนของเสิ่นเยี่ยนชิง ครึ่งปีก็สองตำลึงแล้ว คนในตระกูลเสิ่นทำงานทั้งปี นอกจากผลผลิตในไร่นา ผู้ชายก็ต้องออกไปทำงานหาเงินไม่มีวันหยุด ทั้งปีได้แค่ห้าตำลึง หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังแทบไม่เหลือ ทั้งที่ฮูหยินจางเป็นคนประหยัดดังนั้น คนสมัยก่อนจะเรียนหนังสือได้ต้องรวยหรือไม่ก็คนในบ้านช่วยกันส่งเสียเสิ่นเยี่ยนชิงฉลาดเรียนเก่ง คนในครอบครัวจึงยอมลงทุน ถึงจะมีบ่นบ้าง แต่ก็ไม่มีใครโวยวายจริง ๆ จัง ๆไม่เหมือนบัณฑิตจ้าวในหมู่บ้าน เรียนไม่เก่ง สอบมาสิบกว่าปีก็ยังไม่ผ่าน เป็นภาระให้ครอบครัว หลานชายอายุยี่สิบกว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 18

    "ฤดูเก็บเกี่ยวเพิ่งผ่านพ้นไป ท่าเรือเต็มไปด้วยคนแบกหาม พวกเราขายอาหารว่างที่อิ่มท้อง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีลูกค้า"ความมั่นใจในน้ำเสียงของเจียงเมี่ยวทำให้ฮูหยินจางรู้สึกสบายใจขึ้น"จะดีหรือ? พวกเราไม่เคยค้าขาย..."การค้าขายไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าขายไม่ออกก็ขาดทุน เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลาเจียงเมี่ยวรู้ว่านางกังวลจึงยิ้มปลอบ"ท่านแม่ ฝีมือทำอาหารของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?""อร่อยสิ คนแก่ ๆ อย่างข้า ไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน""แล้วถ้าเอาไปขายล่ะ?""เอ่อ..."ฮูหยินจางลังเล เจียงเมี่ยวทำอาหารอร่อยก็จริง แต่ใช้วัตถุดิบเป็นเนื้อสัตว์ แรงงานที่ท่าเรือได้เงินวันละไม่กี่อีแปะ ใครจะยอมซื้อเนื้อกิน?"ทำอาหารที่ใส่เนื้อต้องใช้เงินเท่าไหร่ จะมีคนซื้อหรือ?"คำพูดของฮูหยินจางทำให้คนอื่น ๆ ได้สติใช่แล้ว ถ้าเป็นพวกเขาตอนกลางวันคงกินซาลาเปาแป้งหยาบ ๆ ก็พอแล้ว ใครจะยอมกินเนื้อ?"ท่านแม่ พวกเราขายพะโล้ หนึ่งชามสองอีแปะก็ได้ กับข้าวมีทั้งเนื้อทั้งผัก ทั้งถูกทั้งอร่อย"เจียงเมี่ยวรู้ราคาสินค้าเป็นอย่างดี กับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ราคาแพง แรงงานที่ท่าเรือจึงนิยมกินซาลาเปาและขนมปังที่อิ่มท้องเนื้อหมูแพง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 19

    "ระวังไอน้ำร้อน อย่าให้ลวกนะ""หอมจังเลย! พะโล้หอมกว่าเนื้อตุ๋นที่ท่านป้าเล็กเคยทำอีก ต้องมีคนซื้อเยอะแน่ ๆ"คำพูดของเสิ่นเอ้อร์หลางถูกใจฮูหยินจางยิ่งนัก ความกังวลที่เหลืออยู่หายไปจนหมด ของหอม ๆ แบบนี้แค่ได้กลิ่นก็อดใจไม่ไหว ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนซื้อเครื่องในตุ๋นทั้งเผ็ดทั้งเหนียวนุ่ม เจียงเมี่ยวชอบไส้ใหญ่ที่สุด ดูเหมือนจะแรงไป แต่กินแล้วหอมกว่าอะไรทั้งหมด มันฝรั่งหัวไชเท้านุ่มละลายในปาก เสิ่นเหล่าตี้บาดเจ็บอยู่ เจียงเมี่ยวไม่กล้าให้กินเนื้อ จึงให้ฮูหยินจางคีบผักกับไข่ให้ชิม แค่นี้ก็ทำให้เขาชมไม่หยุด"อร่อย!"เสิ่นเหล่าตี้เอ่ยชม ตอนแรกเขาคิดว่าขาหักทำงานไม่ได้ ทุกคนคงกังวลใจ แต่สะใภ้สามมีความคิด ทั้งมีฝีมือ แบกรับทั้งครอบครัวไว้ได้เมนูพะโล้ได้รับคำชมจากทุกคนในครอบครัว พวกเขาต่างก็เห็นด้วยว่าน่าจะขายได้ แต่ปัญหาคือใครจะเป็นคนทำ"เหล่าต้ากับหวังซื่อทำ"ฮูหยินจางตัดสินใจฉับพลัน สวีซื่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ไม่พอใจ"ท่านแม่แล้วครอบครัวข้าล่ะ?"สามีนางก็ถูกไล่ออกจะอยู่เฉย ๆ ให้ครอบครัวพี่ชายหาเงินได้อย่างไร?"พูดมากเสียจริง ข้ายังพูดไม่จบ!"ฮูหยินจางปราม สวีซื่อตัวหดไม่กล้าพูดต่อเสิ่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 40

    เจียงเมี่ยวหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกน้ำเพื่อขจัดกลิ่นคาว แล้วนำน้ำตาลกรวดไปผัดในกระทะฮูหยินจางไม่เสียดายน้ำตาลและน้ำมันอีกต่อไป มองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นการทำอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้พอผัดน้ำตาลจนได้ที่ เจียงเมี่ยวก็ใส่เนื้อลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำพะโล้หนึ่งทัพพี กลิ่นหอมก็โชยออกมา"หอมจัง!"สวีซื่อเป็นคนก่อไฟ กลิ่นหอมลอยไปทางนางตลอด ทำให้นางรู้สึกหิวจนท้องก็ร้องจ๊อกๆเที่ยงนี้นางต้องแย่งหมูสามชั้นตุ๋นเพิ่มอีกสองชิ้นระหว่างตุ๋นเนื้อ เจียงเมี่ยวก็ไปเด็ดแตงกวาจากสวนมาสองลูกมาทำยำ หากกินแต่เนื้อก็จะเลี่ยน ซึ่งผักจะช่วยตัดเลื่อนทำให้กินอาหารอร่อยมากขึ้น"ท่านแม่ เที่ยงนี้กินข้าวสวยนะเจ้าคะ"นางมาอยู่ในโลกยุคโบราณนานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวสวยเลย น้ำหมูสามชั้นตุ๋นราดข้าวสวยร้อน ๆ แค่คิดนางก็อยากกินแทบอดใจไม่ไหว"ข้าวที่บ้านยังมีพอหรือ?"ปกติตระกูลเสิ่นกินแค่ข้าวต้มตอนเช้า ข้าวสารจึงมีไม่มาก"เมื่อวานข้าซื้อมาจากเมืองแล้วเจ้าค่ะ""งั้นเจ้าก็ผสมข้าวไม่ขัดสีลงไปด้วย"ข้าวสารในเมืองขายชั่งละสามอีแปะ ข้าวไม่ขัดสีชั่งละอีแปะเดียว ข้าวที่ตระกูลเสิ่นปลูกก็เอ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 39

    เขาแสร้งทำเป็นสงบ เจียงเมี่ยวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจ"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ที่นี่มีควันเยอะ ท่านพี่เข้าไปในห้องเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะสำลัก""ไม่เป็นไร"ข้าแค่อยากอยู่กับเจ้า...เสิ่นเยี่ยนชิงกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ปลายนิ้วยังรู้สึกถึงความนุ่มของแก้มหญิงสาว เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจเขา นางกำลังกลั่นน้ำมันหอมระเหยขั้นตอนสุดท้าย หม้อที่ซื้อมาใหม่นำความร้อนได้ดี น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นออกมาจึงไม่มีสิ่งเจือปน ไม่นานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบก็เสร็จ เจียงเมี่ยวจึงใส่ขี้ผึ้งลงไปผสมให้แข็งตัวเสิ่นเยี่ยนชิงมองลูกหอมกลมใสในมือเจียงเมี่ยว กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยมา ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจเจียงเมี่ยวไม่ได้ปิดบังเรื่องทำลูกหอม ลูกหอมเป็นของที่ผู้หญิงใช้ เสิ่นเยี่ยนชิงอาจจะไม่รู้ว่านางทำอะไรอยู่ อาจจะคิดว่า นางกำลังเล่นอะไรแปลก ๆ ถ้าเขารู้ก็ไม่เป็นไร พอดีเลยจะได้อธิบายเรื่องที่นางหาเงินได้ เพราะช่วงนี้นางใช้เงินเปลืองเสิ่นเยี่ยนชิงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่านางเอาเงินมาจากไหนเสิ่นเยี่ยนชิงเคยสงสัยจริง แต่คิดว่าเจียงเมี่ยวทำแต่ถุงหอม เพราะถุงหอมในมือซูจื่อเหวินมีฝีมือการปักเหมือนที่เจียงเมี่ยวให้เขาไม่มีผิด ตามท

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 38

    "ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะไม่ได้กินข้าวบ้านเจ้าแล้ว"ซูจื่อเหวินยิ้มแหยๆ เขาเป็นคนติดรสชาติอาหาร ตั้งแต่อาหารบ้านตระกูลเสิ่นอร่อยขึ้น เขาก็แอบมากินทุกที ทั้งอาหารหมักดองรสเผ็ดหอม กุยช่ายทอดเหลืองกรอบหอมฟุ้ง อร่อยกว่าอาหารในโรงเตี๊ยมบ้านเขาเสียอีก ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่เคยกินมาไม่มีรสชาติเลย ถ้าได้ไปกินที่บ้านตระกูลเสิ่นให้หนำใจล่ะก็...ซูจื่อเหวินคิดพลางกลืนน้ำลายเสิ่นเยี่ยนชิงมองเขาด้วยความรังเกียจ แค่นี้น่ะหรือ?"ไม่ได้!"เขาไม่ยอมเด็ดขาด วันหยุดมีแค่วันเดียว เขาอยากอยู่กับเมี่ยวเอ๋อร์ตามลำพัง พาเพื่อนกลับบ้านจะดูเป็นอย่างไร "บ้านข้าจน ต้อนรับเจ้าไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซูจื่อเหวินหน้าสลดห่อเหี่ยวสุดๆ"ข้าจะจ่ายเงิน ไม่กินฟรี ๆ หรอก"เขาพยายามอ้อนวอน แต่เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สะทกสะท้าน ซูจื่อเหวินจึงต้องล้มเลิก พูดต่อไปคงน่ารำคาญ ถึงตอนนี้เสิ่นเยี่ยนชิงก็รำคาญเขามากแล้ว "เฮ้อ ไม่มีพะโล้รสจัดจ้านกิน วันนี้ข้าคงอดตายแน่ๆ""หึ!"เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สนว่าซูจื่อเหวินจะอดตายหรือไม่ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับบ้านเร็วๆแต่เมี่ยวเอ๋อร์จะทำอะไรอร่อยๆ ให้เขากินนะ ชายหนุ่มที่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 37

    เจียงเมี่ยวมองดูแม่สามีลูกสะใภ้ทะเลาะกัน อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ"ท่านแม่ ข้ายังซื้อข้าวสาร แป้ง น้ำตาลมาด้วย พรุ่งนี้ท่านพี่หยุดเรียน ข้าจะทำขนมให้ท่านพี่กิน"เสิ่นเยี่ยนชิงอยากกินไหม นางไม่รู้ จริงๆ แล้วนางอยากกินเองต่างหากขนมที่เสิ่นเยี่ยนชิงซื้อมาให้หวานเกินไป นางกินแล้วเลี่ยน แต่เพราะเหตุนั้นนางเลยอยากกินขนมขึ้นมาขนมนุ่ม ๆ หอม ๆ ไม่ได้กินนานแล้วสิฮูหยินจางพูดไม่ออก"ทำก็ทำสิ"นางดูออกว่าเมี่ยวเอ๋อร์อยากกินต่างหากสะใภ้สามถึงจะขยันขึ้น แต่ก็ยังตะกละเหมือนเดิมเจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ ตอนนี้นางกำลังบดแป้งอยู่ต้ายานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ มองเจียงเมี่ยวใส่ข้าวที่แช่น้ำไว้แล้วลงในโม่หิน เมล็ดข้าวขาวใสถูกบดเป็นผง เจียงเมี่ยวเทน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน หมักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำไปนึ่งไอร้อนพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวและน้ำตาลแดง ขนมหอมนุ่มน่ากินสุด ๆเจียงเมี่ยวป้อนขนมให้ต้ายาหนึ่งชิ้น รสชาติหวานละลายในปากทำให้นางยิ้มตาหยี"หวาน""อร่อยไหม?""อร่อยเจ้าค่ะ!อร่อยมาก"เจียงเมี่ยวลองชิมดูเช่นกัน ข้าวสมัยโบราณปลูกแบบปลอดสารพิษ กลิ่นจึงหอมกว่า เนื้อขนมเหนียวนุ่มหนึบอร

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 36

    ซูจื่อหลานไม่ได้คะยั้นคะยอ นางมองเจียงเมี่ยวลงจากรถแล้วจากไป"กลับจวน"...เจียงเมี่ยวถือของกลับบ้าน เดินช้าๆ มาตลอดทาง ใบหน้าของนางยังคงซีดเล็กน้อยนางฮูหยินจางกับสวีซื่อกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เห็นนางดูใจลอยก็เป็นห่วง"เมี่ยวเอ๋อร์เป็นอะไรไป?เจอเรื่องอะไรมาหรือ?"ฮูหยินจางจับมือของนาง มือเย็นเฉียบมีเหงื่อเย็น ๆ เต็มฝ่ามือ"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคงเหนื่อยที่เดินเยอะ พักสักหน่อยก็หายแล้ว"นางรู้สึกอบอุ่นใจ ความกังวลหายไป เจียงเมี่ยวนั่งลงดื่มน้ำแล้วหยิบของในตะกร้าออกมา"ท่านแม่ ข้าซื้อผ้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้วพอดีจะได้ตัดเสื้อใหม่""ซื้อของมาให้ข้าอีกแล้ว!เสื้อผ้าข้ายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องตัดใหม่เลย เก็บไว้ให้เหล่าซานเถอะ"ฮูหยินจางบ่น สะใภ้สามใช้เงินเปลืองจริงๆแต่พอมองผ้าสีครามผืนนั้น นางก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมาหน่อยๆตระกูลเสิ่นไม่ได้ซื้อผ้ามาสองปีแล้ว เสื้อผ้าของทุกคนก็มีแต่รอยปะชุน"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ"าแล้วนางก็หยิบผ้าสีขาวอมฟ้าผืนนั้นออกมา "ข้าคิดว่าจะตัดชุดยาวให้เขาไว้ใส่ตอนสอบในระดับมณฑล จะได้ดูดีมีหน้ามีตา" เดือนหน้าเสิ่นเยี่ยนชิงจะไปสอบในระดับมณฑ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 35

    "หึ! เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้าคิดเกินตัว หมายปองคุณหนูของข้างั้นหรือ!"ไฉ่อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เป็นแค่คางคกริอาจกินเนื้อหงส์ ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลยซูจื่อหลานจิกเล็บจนจมเนื้อ ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในเมื่อไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"ลุงเจิง ซ้อมมันให้หนัก!"คนขับรถระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ไอ้สารเลวนี่กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเขา คงอยากตายแล้วกระมังลุงเจิงเคยเป็นทหาร ถูกบิดาของซูจื่อหลานจ้างมาคุ้มครองนางด้วยเงินจำนวนมาก เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง ลูกน้องทั้งสองของซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหน้าตาบวมปูด ส่วนซุนหยวนเป่าก็โดนเตะล้มลงแล้วต่อยท้องซ้ำซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนปัสสาวะราด ปวดท้องเหมือนไส้จะทะลัก"โอ๊ยๆ หยุดซ้อม หยุดซ้อมได้แล้ว โอ๊ย เจ็บปางตายแล้ว...""ตีให้ตายไปเลย ไอ้สารเลวกล้าล่วงเกินคุณหนูข้า!"ลุงเจิงไม่ปรานี ซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหัวบวม ปากมีเลือดไหล ฟันหลุดออกมาหลายซี่"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว คุณหนูสวีไว้ชีวิตข้าเถอะ"พอได้สติซุนหยวนเป่าก็รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป พี่ชายเขาเจอตระกูลสวียังต้องหลีกทาง เขาทำเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆเขาห

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 34

    บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเตี้ยอ้วน ร่างกายกลมป้อม สวมชุดผ้าไหมชั้นดี ทว่ากลับดูตลกขบขัน ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยไขมัน ตาเล็ก จมูกแดงเบียดกัน เขามองเจียงเมี่ยวอย่างหื่นกระหายยื่นมือจะมาลวนลามนางซุนหยวนเป่าดื่มเหล้ามาจากหอมงคล อยู่ในสภาวะมึนเมาเห็นเจียงเมี่ยวเลยคิดว่าเป็นนางฟ้า"สาวงามให้ข้าจุ๊บหน่อยสิ"เจียงเมี่ยวขยะแขยงจนทนไม่ไหว อาหารที่เพิ่งกินเกือบพุ่งออกมา ไม่คิดว่ากลางวันแสกๆ จะเจออันธพาล นางขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา คว้าม้านั่งจากแผงบะหมี่ฟาดใส่"โอ๊ย! เจ็บ!"ซุนหยวนเป่าโดนตีที่แขน เจ็บปางตาย จึงได้สติ"บัดซบ !นังตัวดี กล้าตีข้างั้นหรือ?จับมันไป!"เขาโบกมือลูกน้องก็เข้ามามาดหมายจับเจียงเมี่ยว ทั้งสองยิ้มอย่างหื่นกระหาย ดูก็รู้ว่าทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง"กลางวันแสก ๆ แบบนี้ไม่มีกฎหมายหรือไง?"เจียงเมี่ยวถือม้านั่งขวางไว้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว"กฎหมาย? ในเมืองฝูหรง ข้าคือกฎหมาย!"ซุนหยวนเป่าพูดอย่างอวดดีปกติเขามักใช้อำนาจของพี่ชายรังแกคนอื่น พอเห็นหญิงสาวคนไหนถูกใจก็ให้ลูกน้องไปลักพาตัวมา โดยไม่มีใครกล้าหืออือพ่อค้าแม่ค้าข้าง ๆ รู้นิสัยเขาดีจึงหลบไปไกล ๆ ไม่กล้าช่วยนางลูกน้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    "มีสิ เมิ่งเอ๋อร์ปีนี้ก็หกขวบแล้ว"พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหล ลูกสองคนอยู่กับบ้านสามี ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบหน้าอีกแล้ว เจียงเมี่ยวเห็นว่าเป็นเรื่องเศร้าของเถ้าแก่เนี้ยฉินจึงไม่ถามต่อ เถ้าแก่เนี้ยฉินเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม "ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"ทั้งสองคุยกันพลางดื่มชาก็มีคนรู้จักเดินเข้ามาในร้าน"มีลูกหอมเหลือไหม?""คุณหนูสวีมาพอดี วันนี้มีลูกหอมมาใหม่เจ้าค่ะ"เถ้าแก่เนี้ยฉินยิ้มเดินเข้ามาวางลูกหอมสามกลิ่นบนโต๊ะ"นี่กลิ่นผลไม้หรือ?"ซูจื่อหลานได้กลิ่นลูกพีช หวานอ่อนๆ ไม่ฉุน "ใช่แล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นสินค้าใหม่ลูกหอมกลิ่นผลไม้""ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"ทั้งสามกลิ่นนางชอบหมด อีกอย่างสิบลูกที่ซื้อครั้งก่อน เมื่อเอาไปให้คนอื่น ทุกคนต่างก็ชมนาง"เอ่อ...คุณหนูคงยังไม่รู้ ตอนนี้ร้านจำกัดจำนวนขายคนละสองลูกเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้ว่าร้านเล็ก ๆ มีลูกหอมแค่นี้ ถ้าคุณหนูซื้อไปหมด พวกเราจะทำการค้าได้อย่างไร?"ซูจื่อหลานไม่ได้มาหลายวันจึงไม่รู้เรื่องนี้ นางขมวดคิ้วเสียดายนางอยากได้ทั้งหมดนี่นาแต่นางก็เข้าใจความลำบากในของเถ้าแก่เนี้ยฉิน สุดท้ายจึงจำใจเลือกมาแค่สองลูก"งั้นข้าเอากลิ่นดอกกล้วยไม้กับกลิ่นผ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    "งั้นเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะอยู่ให้ห่างจากร้านของตระกูลเสิ่น""แน่นอน!"ไข่ที่หวังซื่อเอามาถูกน้องสะใภ้เก็บไว้ พอหวังเอ้อร์จู้ฟังสูตรเสร็จก็อ้างว่าบ้านไม่มีข้าวให้นางรีบกลับ ระหว่างทางหวังซื่อรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถ้าฮูหยินจางรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?...ตอนเจียงเมี่ยวออกจากบ้านเจอหวังซื่อกำลังกลับมาพอดี นางสะพายตะกร้า ท่าทางใจลอย"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านลุงกับท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?""อ๊ะ"หวังซื่อสะดุ้งตกใจ"สบายดี สบายดี"นางตอบตะกุกตะกักรีบเดินเข้าบ้านไปเจียงเมี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ดูมีพิรุธแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหวังซื่อคงเหนื่อยจากการเดินทาง ฤดูร้อนผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือนใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ถนนเพิ่งฝนตกจึงมีดินโคลนเละเทะ เจียงเมี่ยวจับชายกระโปรงเดินเลือกที่แห้งเมืองฝูหรงคึกคักไปด้วยผู้คน พอถึงหน้าประตูเมือง นางเกือบโดนรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชน โชคดีที่หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ดึงนางไว้ไม่งั้นคงบาดเจ็บ"ให้ตายเถอะ! เป็นบ้าหรือไง? ขับรถเร็วบนถนนรีบไปเกิดใหม่งั้นหรือ?"หญิงวัยกลางคนคนนั้นเป็นคนใจร้อน จึง

DMCA.com Protection Status