แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: ซุนซาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 15:30:15
ฮูหยินจางเป็นคนรักสะอาด ลานบ้านจึงถูกกวาดเช็ดถูจนเอี่ยมอ่อง

เจียงเมี่ยวซักผ้าเสร็จในยามสาย ก็เริ่มจัดการทำถุงหอมของนาง

นางนำสมุนไพรทั้งหมดมาตากให้แห้ง ส่วนพริกก็นำมาร้อยด้วยเชือก แล้วแขวนไว้ที่มุมห้องหากตากพริกไว้จนแห้งจะสามารถเก็บไว้ได้นาน

เจียงเมี่ยวตัดผ้าเป็นสองผืน ผืนหนึ่งแช่ในน้ำย้อมที่ต้มจากเปลือกองุ่น ผ้าขาวพลันเปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม นางล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง แล้วนำไปตากบนราวผ้า

ผ้าผืนนี้ไม่ได้ใหญ่นัก จึงไม่เป็นที่สะดุดตาท่ามกลางเสื้อผ้ามากมาย

สวีซื่อออกมาดูหลายครั้ง แต่ก็มองไม่ออกว่าทำอะไร จึงบ่นพึมพำว่า "วุ่นวายไปเสียเปล่า ๆ" แล้วเดินกลับเข้าเรือน

แต่เดิมของสวีซื่อเป็นคนทำอาหารกลางวัน แต่เมื่อวานเจียงเมี่ยวซื้อเนื้อมา ฮูหยินจางจึงถามว่าจะทำอย่างไร ถ้าให้สวีซื่อทำก็คงเอาไปต้มกับผักกาดขาว แบ่งเนื้อให้คนละสองชิ้นเล็กๆ ไม่เพียงกินไม่อิ่มท้อง แถมยังไร้รสชาติ เจียงเมี่ยวไม่อยากให้เนื้อที่ซื้อมาต้องเสียเปล่า

"ทำเกี๊ยวซ่าน่าจะดีกว่า ส่วนหัวใจหมูก็เอามาทำยำ กระดูกสองท่อนเก็บไว้ต้มซุปให้ท่านพี่"

เจียงเมี่ยวจัดแจงเมนูอาหารเรียบร้อย ฮูหยินจางไม่ขัดข้อง สวีซื่อก็พยักหน้าเห็นด้วย ไม่ต้องทำกับข้าวก็ดีเหมือนกัน อย่างไรเสียนางก็ท้องอยู่ จึงไม่อยากอยู่ในครัวที่มีแต่ควันไฟ

อีกอย่าง สะใภ้สามทำงานบ้านไม่เก่ง แต่ทำอาหารอร่อย พอนึกถึงซุปปลาเมื่อวาน นางก็อดเลียริมฝีปากไม่ได้ ถึงกับลืมเรื่องที่ทะเลาะกับเจียงเมี่ยวและบอกว่าจะไม่กินอาหารที่นางทำ

เนื้อหมูหนึ่งชั่ง ถูกแบ่งเป็นเนื้อติดมันครึ่งหนึ่ง เนื้อแดงครึ่งหนึ่ง มันหมูนำไปเจียวน้ำมัน กากหมูที่เจียวแล้วนำมาผสมกับเนื้อแดงที่สับละเอียดและกุยช่าย นางนวดแป้งอีกก้อน ฝีมือของเจียงเมี่ยวนั้นว่องไว ห่อแป้งใส่ไส้จนเต็ม

นางเทน้ำมันออกจากกระทะ โดยเหลือไว้เพียงเล็กน้อย แล้วนำเกี๊ยวซ่าไปวาง เสียง 'ฉ่า' ดังขึ้น กลิ่นหอมฟุ้ง สวีซื่อยืดคอ มองเข้าไปในกระทะ แล้วถูกฮูหยินจางตีมือ

"ไม่มีมารยาท ทำเหมือนไม่เคยกินเนื้อมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น"

ปากก็ด่าสวีซื่อ แต่ตัวเองก็อดไม่ได้ที่จะชะเง้อมองเช่นกัน

เจียงเมี่ยวยิ้มขำในใจ มือก็ทำงานไม่หยุด ไม่นานก็ทำเสร็จเต็มจาน คนตระกูลเสิ่นกินจุ นางกลัวจะไม่พอ จึงทำเพิ่มอีกหลายชิ้นโดยไม่ใส่ไส้ ฮูหยินจางเห็นแล้วก็รู้สึกเสียดาย

ช่างเหมือนผีตายอดตายอยากมาเกิดกันทั้งบ้าน!

พอทำเกี๊ยวซ่าเสร็จ นางก็เอาหัวใจหมูที่ต้มไว้แล้วออกมา หัวใจหมูถูกต้มกับขิง ต้นหอม จนกลิ่นคาวหายไป แต่สวีซื่อก็ยังทำหน้ารังเกียจ

"ของแบบนี้เหม็นจะตาย จะกินได้อย่างไร?"

เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจนิสัยเสีย ๆ ของนาง "ถ้าอย่างนั้น พี่สะใภ้รองไม่ต้องกินก็ได้"

สวีซื่อไม่พูดอะไร คิดในใจว่าถ้าไม่อร่อย ต่อให้ขอร้อง นางก็จะไม่กิน

ใส่น้ำซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาลลงในชามเพื่อปรุงรส จากนั้นนางก็ไปเด็ดพริกจากในสวนสองสามเม็ด นำมาหั่นละเอียดใส่ตามลงไปในชาม ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน แล้วราดลงบนเครื่องปรุง

ฮูหยินจางจะบ่นเรื่องใช้น้ำมันเยอะ แต่ทันใดนั้น กลิ่นหอมที่ไม่เคยได้กลิ่นมาก่อนก็โชยมา

"นี่มันกลิ่นของพริก..." ฮูหยินจางพูดอย่างลังเล

เจียงเมี่ยวพยักหน้า ยกนิ้วโป้งให้

"ท่านแม่ช่างรอบรู้ยิ่งนัก แค่ได้กลิ่นก็รู้เลยหรือ"

ฮูหยินจางหน้าบานรู้สึกภูมิใจ

สวีซื่อเห็นแล้วกลอกตาจนแทบจะถึงฟ้า ในชามนั้นมีแต่พริกที่ไม่เคยกิน ไม่ใช่กลิ่นของมันแล้วจะเป็นกลิ่นของใคร สะใภ้สามประจบแค่สองสามคำ ท่านแม่ก็หลงหัวปักหัวปำเสียแล้ว ตาถั่ว เห็นแก่ของกิน คนสมัยนี้ช่างไม่จริงใจเสียจริง สวีซื่อตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีสติสัมปชัญญะที่สุดในบ้าน คนอื่นล้วนถูกสะใภ้สามสะกดจิตไปหมดแล้ว

เจียงเมี่ยวราดน้ำมันพริกลงบนหัวใจหมูที่หั่นเป็นชิ้นๆ นางหั่นแตงกวาใส่ลงไปสองลูก แตงกวากรอบ หัวใจหมูเหนียวนุ่ม สีแดงสลับเขียว ชวนให้น้ำลายสอ

"ท่านแม่ ชิมหน่อยเจ้าค่ะ"

เจียงเมี่ยวคีบหัวใจหมู ป้อนฮูหยินจาง ฮูหยินจางยังไม่ทันตั้งตัวก็เคี้ยว กลืนลงท้อง รสชาติเผ็ด อร่อย นางกินอย่างอิ่มเอมจนตาหยี

"อร่อย"

"ข้าขอลองบ้าง..." สวีซื่ออยากกินบ้าง เจียงเมี่ยวยกจานหลบ

"พี่สะใภ้รองบอกว่าไม่กินอาหารที่ทำจากพริกมิใช่หรือเจ้าคะ? อาหารจานนี้เผ็ด พี่สะใภ้รองอย่ากินเลยดีกว่า"

"ใครว่าข้าไม่กิน? สะใภ้สามจำผิดแล้วกระมัง?"

เจียงเมี่ยวเห็นสวีซื่อพูดโกหกหน้าตาเฉยก็รู้สึกสมเพช ฮูหยินจางรู้สึกอับอายเช่นกัน

"เอาล่ะ ตักใส่ชาม เอาไปให้เหล่าซานที่โรงเรียนได้แล้ว!"

ขณะนั้นเสิ่นเยี่ยนชิงยืนอยู่หน้าโรงเรียน ข้างกายมีสหายร่วมสำนักชื่อซูจื่อเหวิน ทั้งสองกำลังรออาหารจากทางบ้าน

เอ้อร์หลางถือตะกร้าวิ่งมา ด้วยท่าทางร้อนรน

"ท่านลุง รีบกินเถอะ ข้าจะรีบกลับบ้าน" เขาได้กลิ่นหอมมาตลอดทาง ไม่เคยรู้สึกว่าการส่งข้าวเป็นเรื่องทรมานขนาดนี้มาก่อน

ถ้ากลับไปถึงบ้าน แล้วของกินถูกกินหมด เขาคงร้องไห้โฮแน่ ๆ

เสิ่นเยี่ยนชิงเลิกคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเร่งให้กินข้าว อีกอย่าง เอ้อร์หลางก็กล้ามากขึ้น แต่ก่อนไม่เคยกล้าพูดเช่นนี้กับเขา

เกี๊ยวซ่าทอดจนเหลืองกรอบทั้งสองด้าน กัดคำหนึ่งก็ได้กลิ่นหอมของกุยช่าย ผสมผสานกับความกรุบกรอบของกากหมู แม้แต่น้ำในไส้ก็ยังอร่อยเหลือเกิน แล้วยังมียำหัวใจหมูที่ทั้งเผ็ดทั้งเคี้ยวหนึบ แตงกวาก็กรอบ

เสิ่นเยี่ยนชิงกินอย่างรวดเร็ว ทำเอาซูจื่อเหวินมองแล้วทรมานใจ เขาเคยกินอาหารมาทุกโรงเตี๊ยมทั่วเมือง แต่ไม่เคยเจออะไรที่หอมขนาดนี้

"เจ้ากินช้าๆ หน่อยสิ เดี๋ยวข้าเอาอาหารของบ้านข้ามาแลกให้"

เสิ่นเยี่ยนชิงไม่ได้โง่ เขารู้ว่าอาหารของบ้านตัวเองอร่อยกว่า

เสิ่นเอ้อร์หลางก็กลืนน้ำลายไม่หยุด

"ท่านลุง ท่านป้าเล็กตั้งใจทำให้ท่านลุงโดยเฉพาะเลยนะ บอกว่าหัวใจหมูบำรุงเลือดและชี่เหมาะสำหรับบำรุงร่างกายท่านลุงที่สุด"

ตอนนี้ เสิ่นเอ้อร์หลางอิจฉาท่านลุงเหลือเกินที่มีภรรยาดี ๆเช่นนี้ เมื่อไหร่เขาจะโตนะ? เขาก็อยากมีภรรยาที่ทำอาหารอร่อยและดูแลเขาแบบนี้บ้าง

เสิ่นเยี่ยนชิงชะงัก นึกถึงคำพูดของเจียงเมี่ยวเมื่อวาน

"ต่อไปท่านพี่อยากกินอะไร ข้าจะทำให้กิน"

ดวงตาของเขา ลึกล้ำ คาดเดาได้ยาก เขาคิดว่าเมื่อวานเจียงเมี่ยวจงใจประจบเขา

หรือว่า... สิ่งที่นางพูดจะเป็นความจริง?

เหตุใดนิสัยของนางจึงเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 10

    หน้าร้อนมาเยือนแล้ว ดวงอาทิตย์ส่องแสงแผดเผาลงมายังพื้นดิน เสียงจักจั่นร้องระงมไม่หยุดหย่อน อากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดขึ้นไปอีกเหล่าบุรุษตระกูลเสิ่นกลับจากไร่นา พอเข้าประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายกลิ่นหอมนี้บอกไม่ถูก แต่ช่างชวนน้ำลายสอ ทั้งหอมทั้งฉุน ใครได้กลิ่นก็อดใจไว้ไม่อยู่"อืม~ สะใภ้รองทำอะไรอร่อย ๆ กินหรือ?" เสิ่นเหล่าตี้สูดจมูกดม ร่างกายที่เมื่อยล้าจากการทำงานหนักครึ่งวันดูผ่อนคลายลงบ้างคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่เอ่ยถาม แต่ก็รีบเก็บอุปกรณ์ทำไร่นา อย่างรวดเร็ว"หึ! ฝีมือห่วยๆอย่างสวีนั่นน่ะหรือจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ นี่เป็นฝีมือเมี่ยวเอ๋อร์ของเราเป็นคนทำต่างหาก!"ฮูหยินจางถืออาหารออกมา พอได้ยินเสิ่นเหล่าตี้พูดก็เบ้ปาก แล้วตะโกนเสียงดังสวีซื่อชะงัก จ้องเจียงเมี่ยวด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเจียงเมี่ยวคิดในใจ: ฉันไปทำอะไรให้นางกันนะ? เพราะสวีซื่อไม่กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฮูหยินจางก็เลยมารังแกนางที่เป็นสนามอารมณ์แทนเจียงเมี่ยวไม่สนใจ ยกอาหารเข้าไปในห้องโถงสวีซื่อโกรธจนกระทืบเท้า นังตัวดีนั่น! จงใจแกล้งข้างั้นหรือ!"กินข้าวกันได้แล้ว!"คนอื่นๆ ล้างมือ แล้วมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 11

    อรุณรุ่งแห่งวันใหม่ เจียงเมี่ยวออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ขณะที่นางกำลังจะก้าวออกประตู สวีซื่อยังจะเปิดปากกระแนะกระแหน แต่เพียงสายตาดุๆ จากคุณนายจางก็ทำให้นางต้องกลืนคำพูดกลับลงคอเมืองฝูหรงเริ่มคึกคัก ร้ทั้งร้านขายอาหารและแผงลอยต่างๆ เริ่มทยอยออกมาตั้งร้าน ผู้คนพลุกพล่านไปมากลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก จนท้องของเจียงเมี่ยวร้องจ๊อกๆ โจ๊กเหลวจืดชืดที่กินตอนเช้าย่อยหมดไปนานแล้วนางพยายามข่มความอยากอาหาร แล้วตรงไปที่ร้านจินซิ่วเก๋อในร้านมีสาวน้อยไม่กี่คนกำลังเดินดูสินค้า หญิงสาวที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มสวมกระโปรงสีเขียวอมฟ้าตัดจากผ้าสไตล์สุ่ยเยียนลั่ว ปิ่นหยกขาวปักผมดำขลับ ดูเรียบง่ายแต่แฝงความงามประณีต รูปโฉมของนางงดงามอ่อนหวาน ผิวขาวผ่องดั่งหยก ริมฝีปากแดงระเรื่อโดยมิต้องแต่งแต้ม ดูจากการแต่งกายคงเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่พวกนางเหลือบมองเจียงเมี่ยวที่เดินเข้ามาแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปสนใจอย่างอื่นเถ้าแก่เนี้ยฉินเดินออกมาจากหลังโต๊ะด้วยรอยยิ้ม"คุณหนูเจียงมาแล้ว"ผ้าเช็ดหน้าที่เจียงเมี่ยวปักครั้งก่อนเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้ามาก ขายหมดในพริบตา เถ้าแก่เนี้ยฉินรอคอยนางมาหลายวันแล้ว"เถ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 12

    สตรีผู้นั้นมีรูปโฉมงดงาม สวมชุดกระโปรงที่ยังดูใหม่ ไม่มีรอยปะชุน ในหมู่บ้านชิงเฉวียนแค่นี้ก็นับว่าเป็นคนมีฐานะแล้วเจียงเมี่ยวครุ่นคิดแล้วจำได้ว่า นางคือจ้าวซิ่วซิ่ว บุตรสาวของผู้ใหญ่บ้านใบหน้าจ้าวซิ่วซิ่วแดงระเรื่อ พยายามยัดผลไม้ในมือใส่อ้อมอกเสิ่นเยี่ยนชิง"พี่เยี่ยน นี่เป็นผลไม้ที่พ่อซื้อมาจากอำเภอ หวานมากเลย พี่รีบชิมดูสิจ้าวซิ่วซิ่วชอบเสิ่นเยี่ยนชิงตั้งแต่เด็ก แม้ว่าเสิ่นเยี่ยนชิงจะมีภรรยาแล้ว ก็ไม่ได้หยุดความคิดที่จะแต่งงานกับเขาเสิ่นเยี่ยนชิงเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาแสดงความรำคาญ เเขาปฏิเสธอีกครั้ง แต่จ้าวซิ่วซิ่วทำเป็นไม่เข้าใจ ยังคงตื๊อไม่เลิกแต่ในสายตาเจียงเมี่ยวกลับเห็นเป็นภาพของบุรุษรูปงามกับสตรีโฉมสะคราญ ช่างเหมาะสมกันดีเจียงเมี่ยวดูอยู่ครู่หนึ่ง ตัดสินใจเดินอ้อมทางอื่น นางไม่อยากไร้มารยาท ไปขัดจังหวะตอนที่สาวงามกำลังเอาใจชายในดวงใจ"เจียงเมี่ยว!" นางเพิ่งจะหันหลังจะเดินหนี เสียงเยียบเย็นก็ดังมาจากด้านหลัง เสิ่นเยี่ยนชิงกัดฟันพูด ดวงตาฉายแววโกรธจัดเขารู้ว่าเจียงเมี่ยวยังคงรังเกียจเขา พยายามจะผลักไสเขาให้คนอื่นเขาต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้คิดว่าหญิงคนนี้เปลี่ยนนิสัยไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 13

    "เมี่ยวเอ๋อร์ พี่สะใภ้มีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้า"หวังซื่อเก็บกวาดห้องเสร็จก็มาดักรอเจียงเมี่ยวที่หน้าครัว"เชิญพี่สะใภ้พูดเลยเจ้าค่ะ"เจียงเมี่ยววางมือจากงานแล้วพูด"เจ้าสอนปักผ้าให้พี่สะใภ้ได้หรือไม่?"พูดจบนางก็หน้าแดงก่ำ ใคร ๆ ก็รู้ว่าวิชาปักผ้าเป็นวิชาที่สืบทอดกันในครอบครัว การที่นางหน้าด้านมาขอให้เจียงเมี่ยวสอน ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปแล้วคนอื่นรู้ ตระกูลเสิ่นคงเสียหน้าหมดแต่นางก็ไม่มีทางเลือก สามีของนางทำงานแบกหามที่ท่าเรือ เงินที่เก็บหอมรอมริบมาตลอดทั้งปีก็ต้องนำมาใช้จ่ายในบ้าน ต้าหลางใกล้จะสิบสามแล้ว เงินค่าสินสอดแต่งงานก็ยังไม่มี งานในไร่นาก็ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ยิ่งคิดนางก็ยิ่งร้อนใจหลายวันมานี้สะใภ้สามซื้อเนื้อมาหลายวันหมดเงินไปหลายสิบอีแปะ ต้องมีหนทางหาเงินแน่ ๆ นางเองก็ไม่ได้หวังจะรวยแค่วันละไม่กี่อีแปะ แต่นานวันเข้าจำนวนเงินก็มากโขอยู่เจียงเมี่ยวไม่ได้คิดจะหวงวิชา เพราะในโลกยุคปัจจุบันเทคนิคต่าง ๆ หาได้ทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต เพียงแต่...เจียงเมี่ยวมองมือที่หยาบกร้านของหวังซื่อ ดูแล้วคงปักผ้าไม่ได้หวังซื่อคิดว่าเจียงเมี่ยวไม่เต็มใจจึงหน้าเสีย"เจ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 14

    อากาศร้อนยังไม่จางหาย เจียงเมี่ยวทำงานมาทั้งวัน เหงื่อไหลท่วมตัวนางต้มน้ำอาบแล้วเข้าห้องโดยที่ผมยังเปียกอยู่บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันส่องแสงริบหรี่ เงาร่างสง่างามของบุรุษสะท้อนในแสงไฟ เจียงเมี่ยวพลันชะงักนางลืมไปว่าเสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน คืนนี้พวกเขาต้องนอนเตียงเดียวกันในหัวตีกันมึนงง ใบหน้าเหม่อลอย หยดน้ำจากเส้นผมเปียกชื้นหยดลงที่คอเสื้อ ใบหน้างามผุดผ่องและลำคอขาวเนียน ริมฝีปากเล็กดุจผลเชอร์รี่เผยอเล็กน้อย ทั้งงดงามและน่าเอ็นดู"เจ้าทำอะไรอยู่?"เสิ่นเยี่ยนชิงเรียกสองครั้ง นางไม่ตอบ อดใจไม่ไหวจึงบีบแก้มนางเบา ๆ"โอ๊ย! เจ็บ!"เจียงเมี่ยวลูบแก้มหน้ามู่ทู่เสิ่นเยี่ยนชิงหน้าร้อนผ่าว แสร้งทำเป็นไอสองครั้งเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอาย"ท่านแม่เรียกเจ้า"ฮูหยินจางทำอาหารว่างเป็นบะหมี่น้ำซุปกระดูก ใส่เส้นเยอะ ๆ ให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนนางซดน้ำซุป"กินเสร็จแล้วก็นอนพักผ่อนเสียนะ"ฮูหยินจางเก็บกวาดครัว ปิดประตูแล้วกำชับเจียงเมี่ยว"เจ้าค่ะ ท่านแม่ ท่านก็เข้านอนเร็ว ๆ นะเจ้าคะ"ปกติตระกูลเสิ่นกินข้าวสองมื้อ มีแค่วันที่เสิ่นเยี่ยนชิงหยุดเรียน ฮูหยินจางถึงจะทำอาหารว่าง เจียงเมี่ยวจึงได้พลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 15

    "เมี่ยวเอ๋อร์ ตื่นได้แล้ว”ฮูหยินจางกำลังให้อาหารไก่ ที่บ้านเลี้ยงไก่ไว้สิบกว่าตัวได้ ทุกวันได้ไข่สิบกว่าฟอง พวกนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของฮูหยินจาง ไม่ว่าใครก็แตะต้องไม่ได้เมื่อเห็นเจียงเมี่ยว นางก็ยืดตัวเดินออกมาจากเล้าไก่"ข้าเก็บข้าวไว้ให้ในหม้อ รีบไปกินเสียสิ""นี่ถุงหอมที่ทำให้ท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านลองใส่ดูสิเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวยื่นถุงหอมสีขาวรูปดอกบัวมีพู่สีเขียวให้ฮูหยินจางฮูหยินจางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน รับถุงหอมอย่างระมัดระวัง"นี่...ให้ข้าหรือ? ข้าแก่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ของดี ๆ แบบนี้หรอก เอาไปให้เหล่าซานเถอะ"นางเช็ดมือหลายครั้งกลัวจะทำถุงหอมสกปรก"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทำงานเหนื่อยใส่ถุงหอมไว้จะได้กันยุงนะเจ้าคะ"เจียงเมี่ยวช่วยผูกถุงหอมให้ ฮูหยินจางมองอย่างชอบใจ ริ้วรอยบนใบหน้ายิ่งลึกขึ้น"ข้ารู้ว่าเจ้ากตัญญู คราวหน้าเอาไปขายที่ตลาดเถอะ คนแก่ ๆ อย่างข้าโดนยุงกัดบ้างไม่เป็นไรหรอก"ฮูหยินจางเป็นคนประหยัด มีของดีก็ไม่กล้าใช้ เจียงเมี่ยวพูดอยู่นาน นางจึงยอมรับ"กตัญญูกับท่านแม่นั้นเป็นเรื่องสมควรแล้วเจ้าค่ะ!"ฮูหยินจางถูกเอาใจจนปลื้ม พอได้ยินว่าเจียงเมี่ยวจะใช้เตาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 16

    เจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่า นางได้กวนใจพระเอกโดยไม่ตั้งใจ บัดนี้นางมาถึงร้านจินซิ่วเก๋อแล้ว"คุณหนูเจียง วันนี้มาได้อย่างไร? ทำถุงหอมเสร็จแล้วหรือ?"เถ้าแก่เนี้ยฉินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มพลางต้อนรับเจียงเมี่ยวเข้าร้าน ปกติเจียงเมี่ยวจะมาส่งของสามวันครั้ง แต่วันนี้เพิ่งผ่านไปวันเดียวก็มาแล้ว"ถุงหอมยังไม่เสร็จเจ้าค่ะ อีกสองวัน"เจียงเมี่ยวตอบพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ"วันนี้ข้าทำลูกหอมมา"นางกล่าวพลางหยิบลูกหอมสองลูกออกมา ลูกหนึ่งสีชมพูกลมใสส่งกลิ่นกุหลาบหอมกรุ่น อีกลูกสีขาวเหลืองเป็นประกายส่งกลิ่นดอกกล้วยไม้อ่อนหวาน ลูกหอมทั้งสองไร้ตำหนิติติง ทั้งกลิ่นกำลังดีหอมน่าดม"ลูกหอม...เป็นลุกหอมจริง ๆ ด้วย!"นางเคยเห็นเครื่องหอมอยู่บ้างตอนอยู่บ้านสามี เป็นของที่คนอื่นให้ท่านย่า หากทว่ามีตำหนิเต็มไปหมดสู้ของเจียงเมี่ยวไม่ได้ นางรู้ว่าเจียงเมี่ยวเก่ง กระนั้นก็ไม่คิดว่าจะทำเครื่องหอมได้ คุณหนูเจียงนี่เป็นใครกันแน่? หรือจะเป็นคุณหนูตกยาก? ความสงสัยมากมายผุดขึ้นในใจ ความคิดมากมายแวบผ่าน แต่สุดท้ายก็เก็บงำไว้"ลูกหอมราคาแพงเมืองเล็ก ๆ แบบนี้อาจจะขายไม่ออก ถ้าส่งไปเมืองหลวงได้ก็ดีสิ"เถ้าแก่เนี้ยฉินกล่าวด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 17

    เจียงเมี่ยวถือเนื้อหมูสามชั้นสองชั่งกลับบ้าน เถ้าแก่คุ้นเคยกับนางดี จึงแถมกระดูกใหญ่ให้อีกสองท่อนหมั่นโถวที่กินตอนเที่ยงยังติดคออยู่ นางคุ้นกับอาหารดี ๆ พอมากินหมั่นโถวแป้งหยาบ ๆ นี้ก็กลืนไม่ค่อยลงลูกหอมจะขายดีหรือไม่ยังไม่รู้ ถึงเจียงเมี่ยวจะมั่นใจว่าขายได้ แต่ก็บอกไม่ได้ว่าจะขายหมดเมื่อไหร่ เถ้าแก่เนี้ยฉินจะให้เงินมัดจำ ทว่านางปฏิเสธเงินที่ได้จากการขายผ้าเช็ดหน้าและถุงหอม หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ1,500 อีแปะ แลกเป็นเงินก็ได้หนึ่งตำลึงครึ่ง สำหรับชาวชนบทถือเป็นเงินก้อนใหญ่ค่าเล่าเรียนของเสิ่นเยี่ยนชิง ครึ่งปีก็สองตำลึงแล้ว คนในตระกูลเสิ่นทำงานทั้งปี นอกจากผลผลิตในไร่นา ผู้ชายก็ต้องออกไปทำงานหาเงินไม่มีวันหยุด ทั้งปีได้แค่ห้าตำลึง หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังแทบไม่เหลือ ทั้งที่ฮูหยินจางเป็นคนประหยัดดังนั้น คนสมัยก่อนจะเรียนหนังสือได้ต้องรวยหรือไม่ก็คนในบ้านช่วยกันส่งเสียเสิ่นเยี่ยนชิงฉลาดเรียนเก่ง คนในครอบครัวจึงยอมลงทุน ถึงจะมีบ่นบ้าง แต่ก็ไม่มีใครโวยวายจริง ๆ จัง ๆไม่เหมือนบัณฑิตจ้าวในหมู่บ้าน เรียนไม่เก่ง สอบมาสิบกว่าปีก็ยังไม่ผ่าน เป็นภาระให้ครอบครัว หลานชายอายุยี่สิบกว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 40

    เจียงเมี่ยวหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกน้ำเพื่อขจัดกลิ่นคาว แล้วนำน้ำตาลกรวดไปผัดในกระทะฮูหยินจางไม่เสียดายน้ำตาลและน้ำมันอีกต่อไป มองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นการทำอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้พอผัดน้ำตาลจนได้ที่ เจียงเมี่ยวก็ใส่เนื้อลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำพะโล้หนึ่งทัพพี กลิ่นหอมก็โชยออกมา"หอมจัง!"สวีซื่อเป็นคนก่อไฟ กลิ่นหอมลอยไปทางนางตลอด ทำให้นางรู้สึกหิวจนท้องก็ร้องจ๊อกๆเที่ยงนี้นางต้องแย่งหมูสามชั้นตุ๋นเพิ่มอีกสองชิ้นระหว่างตุ๋นเนื้อ เจียงเมี่ยวก็ไปเด็ดแตงกวาจากสวนมาสองลูกมาทำยำ หากกินแต่เนื้อก็จะเลี่ยน ซึ่งผักจะช่วยตัดเลื่อนทำให้กินอาหารอร่อยมากขึ้น"ท่านแม่ เที่ยงนี้กินข้าวสวยนะเจ้าคะ"นางมาอยู่ในโลกยุคโบราณนานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวสวยเลย น้ำหมูสามชั้นตุ๋นราดข้าวสวยร้อน ๆ แค่คิดนางก็อยากกินแทบอดใจไม่ไหว"ข้าวที่บ้านยังมีพอหรือ?"ปกติตระกูลเสิ่นกินแค่ข้าวต้มตอนเช้า ข้าวสารจึงมีไม่มาก"เมื่อวานข้าซื้อมาจากเมืองแล้วเจ้าค่ะ""งั้นเจ้าก็ผสมข้าวไม่ขัดสีลงไปด้วย"ข้าวสารในเมืองขายชั่งละสามอีแปะ ข้าวไม่ขัดสีชั่งละอีแปะเดียว ข้าวที่ตระกูลเสิ่นปลูกก็เอ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 39

    เขาแสร้งทำเป็นสงบ เจียงเมี่ยวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจ"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ที่นี่มีควันเยอะ ท่านพี่เข้าไปในห้องเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะสำลัก""ไม่เป็นไร"ข้าแค่อยากอยู่กับเจ้า...เสิ่นเยี่ยนชิงกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ปลายนิ้วยังรู้สึกถึงความนุ่มของแก้มหญิงสาว เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจเขา นางกำลังกลั่นน้ำมันหอมระเหยขั้นตอนสุดท้าย หม้อที่ซื้อมาใหม่นำความร้อนได้ดี น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นออกมาจึงไม่มีสิ่งเจือปน ไม่นานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบก็เสร็จ เจียงเมี่ยวจึงใส่ขี้ผึ้งลงไปผสมให้แข็งตัวเสิ่นเยี่ยนชิงมองลูกหอมกลมใสในมือเจียงเมี่ยว กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยมา ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจเจียงเมี่ยวไม่ได้ปิดบังเรื่องทำลูกหอม ลูกหอมเป็นของที่ผู้หญิงใช้ เสิ่นเยี่ยนชิงอาจจะไม่รู้ว่านางทำอะไรอยู่ อาจจะคิดว่า นางกำลังเล่นอะไรแปลก ๆ ถ้าเขารู้ก็ไม่เป็นไร พอดีเลยจะได้อธิบายเรื่องที่นางหาเงินได้ เพราะช่วงนี้นางใช้เงินเปลืองเสิ่นเยี่ยนชิงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่านางเอาเงินมาจากไหนเสิ่นเยี่ยนชิงเคยสงสัยจริง แต่คิดว่าเจียงเมี่ยวทำแต่ถุงหอม เพราะถุงหอมในมือซูจื่อเหวินมีฝีมือการปักเหมือนที่เจียงเมี่ยวให้เขาไม่มีผิด ตามท

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 38

    "ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะไม่ได้กินข้าวบ้านเจ้าแล้ว"ซูจื่อเหวินยิ้มแหยๆ เขาเป็นคนติดรสชาติอาหาร ตั้งแต่อาหารบ้านตระกูลเสิ่นอร่อยขึ้น เขาก็แอบมากินทุกที ทั้งอาหารหมักดองรสเผ็ดหอม กุยช่ายทอดเหลืองกรอบหอมฟุ้ง อร่อยกว่าอาหารในโรงเตี๊ยมบ้านเขาเสียอีก ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่เคยกินมาไม่มีรสชาติเลย ถ้าได้ไปกินที่บ้านตระกูลเสิ่นให้หนำใจล่ะก็...ซูจื่อเหวินคิดพลางกลืนน้ำลายเสิ่นเยี่ยนชิงมองเขาด้วยความรังเกียจ แค่นี้น่ะหรือ?"ไม่ได้!"เขาไม่ยอมเด็ดขาด วันหยุดมีแค่วันเดียว เขาอยากอยู่กับเมี่ยวเอ๋อร์ตามลำพัง พาเพื่อนกลับบ้านจะดูเป็นอย่างไร "บ้านข้าจน ต้อนรับเจ้าไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซูจื่อเหวินหน้าสลดห่อเหี่ยวสุดๆ"ข้าจะจ่ายเงิน ไม่กินฟรี ๆ หรอก"เขาพยายามอ้อนวอน แต่เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สะทกสะท้าน ซูจื่อเหวินจึงต้องล้มเลิก พูดต่อไปคงน่ารำคาญ ถึงตอนนี้เสิ่นเยี่ยนชิงก็รำคาญเขามากแล้ว "เฮ้อ ไม่มีพะโล้รสจัดจ้านกิน วันนี้ข้าคงอดตายแน่ๆ""หึ!"เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สนว่าซูจื่อเหวินจะอดตายหรือไม่ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับบ้านเร็วๆแต่เมี่ยวเอ๋อร์จะทำอะไรอร่อยๆ ให้เขากินนะ ชายหนุ่มที่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 37

    เจียงเมี่ยวมองดูแม่สามีลูกสะใภ้ทะเลาะกัน อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ"ท่านแม่ ข้ายังซื้อข้าวสาร แป้ง น้ำตาลมาด้วย พรุ่งนี้ท่านพี่หยุดเรียน ข้าจะทำขนมให้ท่านพี่กิน"เสิ่นเยี่ยนชิงอยากกินไหม นางไม่รู้ จริงๆ แล้วนางอยากกินเองต่างหากขนมที่เสิ่นเยี่ยนชิงซื้อมาให้หวานเกินไป นางกินแล้วเลี่ยน แต่เพราะเหตุนั้นนางเลยอยากกินขนมขึ้นมาขนมนุ่ม ๆ หอม ๆ ไม่ได้กินนานแล้วสิฮูหยินจางพูดไม่ออก"ทำก็ทำสิ"นางดูออกว่าเมี่ยวเอ๋อร์อยากกินต่างหากสะใภ้สามถึงจะขยันขึ้น แต่ก็ยังตะกละเหมือนเดิมเจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ ตอนนี้นางกำลังบดแป้งอยู่ต้ายานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ มองเจียงเมี่ยวใส่ข้าวที่แช่น้ำไว้แล้วลงในโม่หิน เมล็ดข้าวขาวใสถูกบดเป็นผง เจียงเมี่ยวเทน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน หมักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำไปนึ่งไอร้อนพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวและน้ำตาลแดง ขนมหอมนุ่มน่ากินสุด ๆเจียงเมี่ยวป้อนขนมให้ต้ายาหนึ่งชิ้น รสชาติหวานละลายในปากทำให้นางยิ้มตาหยี"หวาน""อร่อยไหม?""อร่อยเจ้าค่ะ!อร่อยมาก"เจียงเมี่ยวลองชิมดูเช่นกัน ข้าวสมัยโบราณปลูกแบบปลอดสารพิษ กลิ่นจึงหอมกว่า เนื้อขนมเหนียวนุ่มหนึบอร

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 36

    ซูจื่อหลานไม่ได้คะยั้นคะยอ นางมองเจียงเมี่ยวลงจากรถแล้วจากไป"กลับจวน"...เจียงเมี่ยวถือของกลับบ้าน เดินช้าๆ มาตลอดทาง ใบหน้าของนางยังคงซีดเล็กน้อยนางฮูหยินจางกับสวีซื่อกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เห็นนางดูใจลอยก็เป็นห่วง"เมี่ยวเอ๋อร์เป็นอะไรไป?เจอเรื่องอะไรมาหรือ?"ฮูหยินจางจับมือของนาง มือเย็นเฉียบมีเหงื่อเย็น ๆ เต็มฝ่ามือ"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคงเหนื่อยที่เดินเยอะ พักสักหน่อยก็หายแล้ว"นางรู้สึกอบอุ่นใจ ความกังวลหายไป เจียงเมี่ยวนั่งลงดื่มน้ำแล้วหยิบของในตะกร้าออกมา"ท่านแม่ ข้าซื้อผ้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้วพอดีจะได้ตัดเสื้อใหม่""ซื้อของมาให้ข้าอีกแล้ว!เสื้อผ้าข้ายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องตัดใหม่เลย เก็บไว้ให้เหล่าซานเถอะ"ฮูหยินจางบ่น สะใภ้สามใช้เงินเปลืองจริงๆแต่พอมองผ้าสีครามผืนนั้น นางก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมาหน่อยๆตระกูลเสิ่นไม่ได้ซื้อผ้ามาสองปีแล้ว เสื้อผ้าของทุกคนก็มีแต่รอยปะชุน"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ"าแล้วนางก็หยิบผ้าสีขาวอมฟ้าผืนนั้นออกมา "ข้าคิดว่าจะตัดชุดยาวให้เขาไว้ใส่ตอนสอบในระดับมณฑล จะได้ดูดีมีหน้ามีตา" เดือนหน้าเสิ่นเยี่ยนชิงจะไปสอบในระดับมณฑ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 35

    "หึ! เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้าคิดเกินตัว หมายปองคุณหนูของข้างั้นหรือ!"ไฉ่อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เป็นแค่คางคกริอาจกินเนื้อหงส์ ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลยซูจื่อหลานจิกเล็บจนจมเนื้อ ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในเมื่อไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"ลุงเจิง ซ้อมมันให้หนัก!"คนขับรถระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ไอ้สารเลวนี่กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเขา คงอยากตายแล้วกระมังลุงเจิงเคยเป็นทหาร ถูกบิดาของซูจื่อหลานจ้างมาคุ้มครองนางด้วยเงินจำนวนมาก เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง ลูกน้องทั้งสองของซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหน้าตาบวมปูด ส่วนซุนหยวนเป่าก็โดนเตะล้มลงแล้วต่อยท้องซ้ำซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนปัสสาวะราด ปวดท้องเหมือนไส้จะทะลัก"โอ๊ยๆ หยุดซ้อม หยุดซ้อมได้แล้ว โอ๊ย เจ็บปางตายแล้ว...""ตีให้ตายไปเลย ไอ้สารเลวกล้าล่วงเกินคุณหนูข้า!"ลุงเจิงไม่ปรานี ซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหัวบวม ปากมีเลือดไหล ฟันหลุดออกมาหลายซี่"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว คุณหนูสวีไว้ชีวิตข้าเถอะ"พอได้สติซุนหยวนเป่าก็รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป พี่ชายเขาเจอตระกูลสวียังต้องหลีกทาง เขาทำเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆเขาห

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 34

    บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเตี้ยอ้วน ร่างกายกลมป้อม สวมชุดผ้าไหมชั้นดี ทว่ากลับดูตลกขบขัน ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยไขมัน ตาเล็ก จมูกแดงเบียดกัน เขามองเจียงเมี่ยวอย่างหื่นกระหายยื่นมือจะมาลวนลามนางซุนหยวนเป่าดื่มเหล้ามาจากหอมงคล อยู่ในสภาวะมึนเมาเห็นเจียงเมี่ยวเลยคิดว่าเป็นนางฟ้า"สาวงามให้ข้าจุ๊บหน่อยสิ"เจียงเมี่ยวขยะแขยงจนทนไม่ไหว อาหารที่เพิ่งกินเกือบพุ่งออกมา ไม่คิดว่ากลางวันแสกๆ จะเจออันธพาล นางขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา คว้าม้านั่งจากแผงบะหมี่ฟาดใส่"โอ๊ย! เจ็บ!"ซุนหยวนเป่าโดนตีที่แขน เจ็บปางตาย จึงได้สติ"บัดซบ !นังตัวดี กล้าตีข้างั้นหรือ?จับมันไป!"เขาโบกมือลูกน้องก็เข้ามามาดหมายจับเจียงเมี่ยว ทั้งสองยิ้มอย่างหื่นกระหาย ดูก็รู้ว่าทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง"กลางวันแสก ๆ แบบนี้ไม่มีกฎหมายหรือไง?"เจียงเมี่ยวถือม้านั่งขวางไว้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว"กฎหมาย? ในเมืองฝูหรง ข้าคือกฎหมาย!"ซุนหยวนเป่าพูดอย่างอวดดีปกติเขามักใช้อำนาจของพี่ชายรังแกคนอื่น พอเห็นหญิงสาวคนไหนถูกใจก็ให้ลูกน้องไปลักพาตัวมา โดยไม่มีใครกล้าหืออือพ่อค้าแม่ค้าข้าง ๆ รู้นิสัยเขาดีจึงหลบไปไกล ๆ ไม่กล้าช่วยนางลูกน้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    "มีสิ เมิ่งเอ๋อร์ปีนี้ก็หกขวบแล้ว"พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหล ลูกสองคนอยู่กับบ้านสามี ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบหน้าอีกแล้ว เจียงเมี่ยวเห็นว่าเป็นเรื่องเศร้าของเถ้าแก่เนี้ยฉินจึงไม่ถามต่อ เถ้าแก่เนี้ยฉินเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม "ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"ทั้งสองคุยกันพลางดื่มชาก็มีคนรู้จักเดินเข้ามาในร้าน"มีลูกหอมเหลือไหม?""คุณหนูสวีมาพอดี วันนี้มีลูกหอมมาใหม่เจ้าค่ะ"เถ้าแก่เนี้ยฉินยิ้มเดินเข้ามาวางลูกหอมสามกลิ่นบนโต๊ะ"นี่กลิ่นผลไม้หรือ?"ซูจื่อหลานได้กลิ่นลูกพีช หวานอ่อนๆ ไม่ฉุน "ใช่แล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นสินค้าใหม่ลูกหอมกลิ่นผลไม้""ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"ทั้งสามกลิ่นนางชอบหมด อีกอย่างสิบลูกที่ซื้อครั้งก่อน เมื่อเอาไปให้คนอื่น ทุกคนต่างก็ชมนาง"เอ่อ...คุณหนูคงยังไม่รู้ ตอนนี้ร้านจำกัดจำนวนขายคนละสองลูกเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้ว่าร้านเล็ก ๆ มีลูกหอมแค่นี้ ถ้าคุณหนูซื้อไปหมด พวกเราจะทำการค้าได้อย่างไร?"ซูจื่อหลานไม่ได้มาหลายวันจึงไม่รู้เรื่องนี้ นางขมวดคิ้วเสียดายนางอยากได้ทั้งหมดนี่นาแต่นางก็เข้าใจความลำบากในของเถ้าแก่เนี้ยฉิน สุดท้ายจึงจำใจเลือกมาแค่สองลูก"งั้นข้าเอากลิ่นดอกกล้วยไม้กับกลิ่นผ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    "งั้นเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะอยู่ให้ห่างจากร้านของตระกูลเสิ่น""แน่นอน!"ไข่ที่หวังซื่อเอามาถูกน้องสะใภ้เก็บไว้ พอหวังเอ้อร์จู้ฟังสูตรเสร็จก็อ้างว่าบ้านไม่มีข้าวให้นางรีบกลับ ระหว่างทางหวังซื่อรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถ้าฮูหยินจางรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?...ตอนเจียงเมี่ยวออกจากบ้านเจอหวังซื่อกำลังกลับมาพอดี นางสะพายตะกร้า ท่าทางใจลอย"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านลุงกับท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?""อ๊ะ"หวังซื่อสะดุ้งตกใจ"สบายดี สบายดี"นางตอบตะกุกตะกักรีบเดินเข้าบ้านไปเจียงเมี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ดูมีพิรุธแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหวังซื่อคงเหนื่อยจากการเดินทาง ฤดูร้อนผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือนใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ถนนเพิ่งฝนตกจึงมีดินโคลนเละเทะ เจียงเมี่ยวจับชายกระโปรงเดินเลือกที่แห้งเมืองฝูหรงคึกคักไปด้วยผู้คน พอถึงหน้าประตูเมือง นางเกือบโดนรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชน โชคดีที่หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ดึงนางไว้ไม่งั้นคงบาดเจ็บ"ให้ตายเถอะ! เป็นบ้าหรือไง? ขับรถเร็วบนถนนรีบไปเกิดใหม่งั้นหรือ?"หญิงวัยกลางคนคนนั้นเป็นคนใจร้อน จึง

DMCA.com Protection Status