แชร์

บทที่ 6 ไข้หวัด

ผู้เขียน: วริษา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-03 19:44:20

บทที่ 6 ไข้หวัด

รุ่งสางของอีกวัน

แสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบร่างกายของหานเสี่ยว์แต่ทว่าตอนนี้นางกลับมีอาการหนาวสั่นไปทั้งร่างกาย เข่อซิงที่เขามาดูแลจัดการเสื้อผ้าอาภรณ์ของหานเสี่ยว์ในทุก ๆ เช้าเมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนเองยังไม่ตื่นก็รู้สึกผิดแปลกเพราะหานเสี่ยว์นั้นมักจะตื่นมารอเข่อซิงในทุก ๆ เช้าเพื่อให้นางยกน้ำมาให้ล้างตา เข่อซิงจึงได้เข้าไปดูที่ห้องนอนก็พบว่าหานเสี่ยว์นอนหนาวสั่นอยู่บนเตียงนอน เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นเหงื่อที่ผุดออกมาจากรูขุมขนมากมาย

“คุณหนู คุณหนูท่านไม่สบายหรือเจ้าคะ” เข่อซิงมาจับตัวของหานเสี่ยว์ก็รับรู้ถึงความร้อนของร่างกายราวกับเพลิงเผาไหม้

“โอ๊ะ! คุณหนูท่านตัวร้อนมากเลย นี่ผู้ใดอยู่ข้างนอกเข้ามานี่ที " เข่อซิงเรียกสาวใช้อีกคนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาด้านใน

“มีอะไรหรือ ".

“เจ้าไปตามท่านหมอมาตรวจร่างกายของฮูหยินที ดูเหมือนนางจะไม่สบาย” เข่อซิงสั่งสาวใช้ให้ไปตามท่านหมอมาโดยเร็ว 

“ได้ข้าจะไปตามเดี๋ยวนี้” สาวใช้รีบเดินออกไปตามท่านหมอที่โรงหมอในหมู่บ้านทันที ส่วนเข่อซิงก็ได้นำผ้ากระถังน้ำมาเช็ดตัวให้หานเสี่ยว์บรรเทาความร้อนลงได้บ้าง

ฝั่งด้านลู่เอ๋อร์นางตื่นเต้นมากที่จะได้ไปหาหานเสี่ยว์แม้จะยังกลัวอยู่แต่ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนทั้งแววตาทั้งคำพูดที่นางใช้พูดคุย ทำให้ลู่เอ๋อร์กล้าที่จะเดินไปที่ห้องของหานเสี่ยว์

“ลู่เอ๋อร์เจ้าจะไปที่ใด”เลี่ยงเฟิงก็เอ่ยถามน้องสาวของตนเพราะห้องของทั้งคู่อยู่ติดกัน

“ข้าจะไปหาท่านแม่ ท่านพี่ก็คงจะไปอ่านตำราสินะเจ้าคะ”

“ใช้แล้ว ข้ากำลังจะไปหาท่านพ่อที่ห้องอ่านตำรา แต่ว่าข้าจะไปส่งเจ้าก่อนเพราะข้ายังไม่ไว้ใจท่านแม่สักเท่าไหร่ หากอยู่กับเจ้าเพียงลำพังข้าเกรงว่าเจ้าจะถูกนางหักกระดูกเอาได้” เลี่ยงเฟิงทำท่าทางเหมือนเหิงเยว์จนลู่เอ๋อร์หัวเราะออกมาอย่างขบขัน

“ท่านพี่ช่างเหมือนท่านพ่อยิ่งนัก ข้าว่าท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วข้าสัมผัสได้ว่านางมิใช่คนเดินอีกต่อไป "

“เด็กโง่เจ้าอย่าเชื่อใจนางมากนัก แต่ก่อนเจ้าโดนนางทำอะไรไว้บ้างอย่าลืมสิ .” เลี่ยงเฟิงใช้นิ้วชี้แตะลงที่หน้าผากของลู่เอ๋อร์ก่อนจะตักเตือนในเรื่องที่ผ่านมา

“หรือว่าท่านพี่ไม่เห็นว่านางเปลี่ยนไปแล้ว ตั้งแต่ข้าจำความได้ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้นั่งกินอาหารกับท่านแม่ ข้าว่าท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ หากท่านพี่ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้นก็รีบไปส่งข้าเถิด ข้าจะแกล้งทำน้ำหกใส่ท่านแม่หากท่านแม่เป็นคนเดิมต้องลงโทษข้าแน่ ๆ” ลู่เอ๋อร์พูดออกมาอย่างมั่นใจก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินไปที่ห้องของหานเสี่ยว์ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้ามาก็พบว่าสาวใช้ในเรือนต่างพากันเดินวุ่นไปมาเข้าออกห้องของหานเสี่ยว์ ลู่เอ๋อร์จึงรีบเดินเข้าไปด้านในพบท่านหมอกำลังตรวจร่างกายของหานเสี่ยว์อยู่ นางจึงเดินไปกระตุกเสื้อของเข่อซิงเพื่อถามในความอยากรู้

“เข่อซิงท่านแม่เป็นอันใดอีก ทำไมท่านหมอถึงมาตรวจร่างกายท่านแม่แต่เช้า” เข่อซิงที่ใจจดใจจ่ออยู่กับอาการของหานเสี่ยว์จึงไม่ทันได้สังเกตว่าลู่เอ๋อร์กับเลี่ยงเฟิงเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อนางรู้ตัวจึงได้หันไปตอบคำถามของลู่เอ๋อร์

“ฮูหยินไม่สบายเจ้าค่ะ มีไข้ตัวร้อนข้าจึงไปตามท่านหมอมาตรวจอาการ "

“เมื่อวานท่านแม่ก็ยังปกติอยู่เลย เหตุใดถึงไม่สบายได้ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะดูแลท่านแม่เอง” ลู่เอ๋อร์ตัวน้อยได้พูดออกมาอย่างน่าเอ็นดูทำให้เข่อซิงเอ็นดูในความเป็นเด็กทั้ง ๆ ที่หานเสี่ยว์กลั่นแกล้งเฆี่ยนตีบ่อยครั้งแต่กลับไม่ถือโทษแม้แต่น้อย เด็กก็เปรียบเสมือนผ้าขาวดั่งที่ร่ำลือกันมาจริง ๆ

“ลู่เอ๋อร์ในเมื่อข้ามาส่งเจ้าถึงที่แล้ว ข้าต้องไปพบท่านพ่อก่อน”

“เจ้าค่ะท่านพี่” ลู่เอ๋อร์โบกมือให้พี่ชายของตนก่อนจะเดินไปนั่งบนที่นอนกับหานเสี่ยว์ที่ท่านหมอกำลังตรวจอยู่

“ท่านหมอท่านแม่ของข้าเป็นเช่นไรบ้าง”

“ฮูหยินเป็นไข้หวัดธรรมดาขอรับ กินยาต้มสักหมอก็จะหายขอรับไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นัก” ลู่เอ๋อร์มองหานเสี่ยว์ที่นอนตัวสั่นเทานางจึงใช้มือแตะที่ร่างกายของท่านแม่อย่างเป็นห่วง

“เข่อซิงทำไมท่านแม่ถึงได้ตัวร้อนราวกับไฟเช่นนี้ ท่านแม่จะตายหรือไม่”ร่างเล็กเริ่มเอ่ยเสียงสั่น

“คุณหนูเจ้าคะ ฮูหยินแค่เป็นไข้หวัดข้าจะนำผ้ามาเช็ดตัวให้ฮูหยินส่วนยาข้าได้ให้สาวใช้ไปต้มมาให้แก่ฮูหยินแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ เป็นเพราะเมื่อคืนนี้ฮูหยินจู่ ๆ ก็อยากไปบึงน้ำที่ตกไปเมื่อคราวก่อน แต่เมื่อไปถึงฮูหยินกลับกระโดดลงไป ข้าเองก็ไม่เข้าใจฮูหยินเช่นกัน แต่คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะเมื่อยาออกฤทธิ์ฮูหยินก็จะฟื้นและหายตัวร้อนได้ ตอนนี้ท่านหมอจะฝังเข็มให้ คุณหนูยังเด็กออกไปรอด้านนอกกับข้าก่อนนะเจ้าค่ะ” เข่อซิงผายมือไปด้านหน้า ให้ลู่เอ๋อร์ออกไปด้านนอกกับนางแต่นางก็หันไปมองหานเสี่ยว์อย่างเป็นห่วงแต่ก็ยอมเดินออกไปข้างนอก

ผ่านไปสักพักใบหน้าของลู่เอ๋อร์ยังไม่คายความกังวลทำให้เข่อซิงเองก็ไม่สบายใจจึงได้จับที่บ่าของนางเพื่อไถ่ถาม

“คุณหนูสีหน้าไม่ดีเลย เป็นห่วงฮูหยินหรือเจ้าคะ"

“เพราะข้ากับท่านพี่ท่านแม่ถึงเป็นเช่นนี้ หากข้าไม่ผลักท่านแม่ลงน้ำท่านแม่ก็จะไม่หวนคิดถึงบ่อน้ำนั้นและไปดูที่นั้นอีก เพราะข้าใช่มั้ย? " เข่อซิงลูบหลังร่างเล็กอย่างเบามือ

“อย่าคิดเช่นนั้นเลยเจ้าค่ะ ไม่ใช่เพราะคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ " เข่อซิงปลอบจนลู่เอ๋อร์รู้สึกดีขึ้น สักพักท่านหมอก็ได้ออกมาจากห้องเดินถือกระดาษมาให้เข่อซิงเพื่อไปซื้อยาตามที่สั่งไป

“นี่คือเทียบยาเจ้าไปซื้อที่ตลาดแล้วมาต้มให้ฮูหยินดื่มหลังอาหารทุกมื้อไม่กี่วันร่างกายของฮูหยินจะกลับมาเป็นปกติ ข้าต้องขอตัวกลับก่อน”

“ได้เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านหมอมากที่มาตรวจฮูหยิน " เข่อซิงรับกระดาษสั่งยาก่อนจะร่ำลาท่านหมอ และพากันเข้าไปในห้องเพื่อดูอาการของนายหญิงของตน

“ข้าจะอยู่กับท่านแม่เองเจ้าไปซื้อยาตามที่ท่านหมอสั่งเถิด " เสียงเล็กได้หันไปบอกเข่อซิงเมื่อเข้ามาในห้อง

“แต่ว่าคุณหนูยังเล็กนักจะดูแลฮูหยินได้หรือเจ้าคะ”

“ได้สิเจ้าไปเถิด” ลู่เอ๋อร์ปัดมือให้เข่อซิงออกไปด้านนอก เด็กน้อยก็ได้ใช้ผ้าที่อยู่ในกระถังน้ำเช็ดตัวให้แก่หานเสี่ยว์เพื่อลดความร้อน เข่อซิงเองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ได้ออกไปซื้อยาตามที่ท่านหมอได้จดให้ 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 7 เฝ้าไข้

    บทที่ 7 เฝ้าไข้ฝั่งด้านเลี่ยงเฟิงมาถึงห้องอ่านตำราของท่านพ่อเขาก็ไม่ได้มีกระจิตกระใจกับการอ่านตำราสักเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็เป็นห่วงว่าลู่เอ๋อร์อาจจะติดไข้จากหานเสี่ยว์ได้ จนเหิงเยว์สังเกตได้จึงได้จับตำราที่อยู่มือของเลี่ยงเฟิงออกมาจากตัวของเขา“วันนี้เจ้าเป็นอันใดข้าเห็นเจ้าเอาแต่เหม่อลอยแถมอ่านตำราหน้าเดียวเป็นเวลานาน”“คือว่าข้าเป็นห่วงลู่เอ๋อร์ขอรับท่านพ่อ”“ลู่เอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้นกับนางหรือว่าหานเสี่ยว์รังแกนางอีกแล้ว”“มิใช่ขอรับแต่ที่ข้าเป็นห่วงเพราะกลัวว่านางจะติดไข้จากท่านแม่มากกว่า ก่อนที่ข้าจะมาหาพ่อข้าได้ไปส่งลู่เอ๋อร์ที่ห้องท่านแม่ตามที่นางสั่ง แต่เมื่อข้าไปถึงก็พบว่าท่านแม่นอนสั่นเทาอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียวแถมยังมีท่านหมอมาตรวจร่างกายท่านแม่อีกด้วยไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านแม่จะฟื้นหรือยัง " เลี่ยงเฟิงได้เอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง ทำให้เหิงเยว์ที่ครุ่นคิดนางบอกว่าจะไปหาท่านพ่อของนางเมื่อฟ้าสาง หรือนี่จะเป็นแผนของนางอีกเพราะนางไม่อยากหย่าอย่างที่นางบอก เขาจึงจะไปดูใบหน้าที่เสแสร้งของนางว่าตอนนี้นางเล่นละครตบตาคนในเรือนจนเชื่อสนิทได้อย่างไร“เจ้าอ่านตำราอยู่ในห้องนี้ไปก่อนเดี๋ยวข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 8   หากบาดเจ็บขึ้นมาจะทำเช่นไร

    บทที่ 8 หากบาดเจ็บขึ้นมาจะทำเช่นไรหานเสี่ยว์เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ดีของเลี่ยงเฟิงก็รีบถามทันที“เป็นอันใดสีหน้าของเจ้าถึงเป็นเช่นนี้ ”“ที่ต้นไม้ใหญ่ตรงด้านหน้าห้องของท่านพ่อ ข้าเห็นนกน้อยตกลงมาข้าสงสารอยากจะนำตัวนกน้อยไปไว้บนรัง หากแม่นกกลับมาจะได้พบเจอลูกน้อย แต่ว่าเขาไม่สามารถปีนขึ้นไปได้” เลี่ยงเฟิงก้มหน้าสงสารนกน้อยที่อยู่ในมือ“เจ้าช่างมีจิตใจที่ดีเหลือเกิน มาเถิดนำข้าไปที่รังของมัน ข้าจะส่งนกขึ้นรังเอง” จิวฉิง ถอนหายใจคิดว่าเรื่องใหญ่อะไร“แต่ว่าฮูหยินเจ้าคะ ท่านพึ่งหายจะมีแรงปีนป่ายต้นไม้หรือเจ้าคะ อีกอย่างตั้งแต่ข้าตามดูแลท่านมาท่านไม่เคยปีนป่ายต้นไม้สักครา หากท่านตกต้นไม้จะเกิดอันใดขึ้นข้าไม่อยากนึกเลย” เข่อซิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง“วางใจเถิดเข่อซิง ข้าทำได้” ใช่แล้วหากเป็นจิวฉิงนางทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะให้นางไปทำงานของสาวใช้นางก็สามารถทำได้สบาย ทั้งสี่คนก็ได้เดินไปที่ต้นไม้หน้าห้องของเหิงเยว์ จิวฉิงไม่รอช้าเมื่อเห็นต้นไม้ที่เลี่ยงเฟิงบอกก็ได้แบมือขอนกน้อยเพื่อนำไปไว้ที่รังของมัน นางปีนขึ้นไปอย่างง่ายดายโชคดีที่ต้นไม้ไม่ได้สูงเท่าไหร่นัก เด็กๆ ทั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 9 อ้อมกอดที่อบอุ่น

    บทที่ 9 อ้อมกอดที่อบอุ่นเหิงเยว์กลับมาจากวังหลวงอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อมาถึงเรือนก็ได้นำม้าให้แก่บ่าวไปผูกไว้ที่คอก เขาเองก็อยากกลับมาพักผ่อนที่ห้องแต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้จะถึงห้องของตนเองก็ได้ยินเสียงกรี๊ดร้องของเด็ก ๆ เรียกท่านแม่ เขาวิตกกังวลคิดว่าหานเสี่ยว์จะทำมิดีมิร้ายกับเด็ก ๆ อีกแต่เมื่อเขาไปถึงก็เห็นว่าหานเสี่ยว์กำลังล่วงหล่นมาจากต้นไม้ เขารีบกระโดดเข้าไปรับนางทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรกลัวนางจะได้รับบาดเจ็บเสียมากกว่า อิสตรีปากร้ายจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนางเมื่อเขาเห็นนางนอนเจ็บไข้ได้ป่วยก็ไม่สมกับเป็นนางสักเท่าไหร่นักและจิตใจของเขาเองก็หงุดหงิดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อเขารับตัวนางไว้ได้ใจของเหิงเยว์โมโหมากที่นางไม่รู้จักระวังตัวหากได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้นางต้องนอนอยู่บนเตียงนานหลายวันเป็นแน่ แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของนางอย่างใกล้ชิดใจของเขาก็เริ่มสั่นไหว นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกเช่นนี้ ทั้งที่เขาต้องเกลียดนางที่คอยรังแกเด็ก ๆ เขาจึงทำได้เพียงตวาดใส่นางอย่างหงุดหงิดใจ ไม่รู้ว่าเพราะเขาไม่เคยสังเกตหรือเพราะว่านางเปลี่ยนไปถึงทำให้เขาว้าวุ่นหัวใจได้ถึงเพียงนี้ ก่อนที่นางจะขอโทษแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 10 ฝันร้าย

    บทที่ 10 ฝันร้ายเมื่อส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จแล้ว หานเสี่ยว์ก็ได้เดินกลับห้องของตัวเอง เหิงเยว์มองดูนางพร้อมกับเดินตามหลังนางไปอย่าง ๆ ช้าหานเสี่ยว์ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ไม่ได้ดังเพียงแค่เท้าเดียวนางจึงหยุดเดินและหันไปมองด้านหลังก็พบเหิงเยว์ที่เดินตามมา“นี่ท่านเดินตามข้ามาจะมาหาเรื่องอะไรข้าอีก "“ข้าก็แค่เดินตามทางเท่านั้นไม่ได้เดินตามเจ้าเสียหน่อย ”"แต่ว่าห้องของท่านไม่ได้มาทางนี้เสียหน่อย ""ข้าจะเดินไปที่ใดล้วนแต่เป็นที่ของข้า ไม่ว่าข้าจะย่างกรายที่ใดมันเกี่ยวอันใดกับเจ้าเล่า""เฮอะ แล้วแต่ท่านเถิดเจ้าค่ะ" หานเสี่ยว์หันหน้าเดินหนีเหิงเยว์อย่างไม่สนใจแต่เขาก็ยังคงเดินตามนางอยู่จนหานเสี่ยว์รู้สึกอึดอัด นางจึงหยุดเดินเพื่อถามเขาให้รู้ความ"นี่ ท่านจะเดินตามข้าไปถึงเมื่อไหร่ หากท่านจะเอ่ยว่าเดินไปทางใดก็เรื่องของท่าน แต่ช่วยเดินไปทางอื่นได้หรือไม่ หรือว่าท่านมีเรื่องอันใดข้องใจก็เอ่ยออกมา""เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้ามีแผนอันใดกันแน่ ที่เข้าหาบุตรของข้าทั้งสองคน สตรีเช่นเจ้าข้าไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนนิสัยได้รวดเร็วปานนี้""เฮ้อ ! จะต้องให้ข้าทำเช่นใด ท่านถึงจะเชื่อว่าข้ามิได้มีแผนอันใด ""แล้วเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 11  ผู้มาเยือน

    บทที่ 11 ผู้มาเยือนหานเสี่ยว์ได้ออกมานั่งอยู่ที่ห้องโถงเพราะตอนนี้ลู่เอ๋อร์ยังคงนอนอยู่บนเตียง นางได้มานั่งจิบชาเพื่อรอลู่เอ๋อร์ตื่นจะได้กินอาหารพร้อมกันแต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาทางนางอย่างเร่งรีบ“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ” เลี่ยงเฟิงเหนื่อยหอบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาหานเสี่ยว์นางจึงรีบลุกขึ้นไปจับกายของเลี่ยงเฟิงอย่างสงสัย“เหตุใดเจ้าถึงรีบร้อนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาเช่นนี้ด้วย”“ลู่เอ๋อร์ ลู่เอ๋อร์หายไปขอรับ สาวใช้ได้ออกตามหานางจนทั่วห้องก็ไม่พบ หรือว่าท่านแม่จะทำร้ายนาง ไม่! ไม่ใช่หรอกท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วนี่น่า หรือว่าท่านทรงเสแสร้งทำดีกับพวกเราทำให้พวกเราหลงเชื่อ และจัดการหรือขอรับ”หานเสี่ยว์ที่กำลังซึ้งที่พี่ชายเป็นห่วงน้องสาวได้มากขนาดนี้ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดที่เลี่ยงเฟิงเอ่ยคำหลังออกมาอย่างแผ่วเบา“เจ้ายังคิดว่าข้าทำเช่นนั่นอยู่หรือ ไม่แน่ข้าคงจะจับน้องสาวของเจ้าโยนลงน้ำแล้วก็ได้ หรือไม่ข้าก็ให้ชายฉกรรจ์จับตัวลู่เอ๋อร์ไปขายเป็นทาสให้กับใต้เท้าไปอื่นดีล่ะ " ใบหน้าของเลี่ยงเฟิงซีดเซียวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินน้ำเสียงของหานเสี่ยว์ที่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย“ท่าน ท่านใจร้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 12  ข้าจะเผยความชั่วของนางเอง

    บทที่ 12 ข้าจะเผยความชั่วของนางเองหานเสี่ยว์ลุกขึ้นยืนทอดสายตามองไปด้านนอกหน้าต่างตอบคำถามที่ลู่ฟางได้เอ่ยถาม“ใช่ ! ข้าเองไม่อยากจะให้นางต้องมาเลี้ยงดูเด็ก ๆ อีกต่อไป ตลอดเวลาที่นางแต่งเข้ามาข้าเองก็ไม่ได้มีใจให้นางเลย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางรังแกเด็ก ๆ จนกระทั้งตอนที่นางตกน้ำจากการผลักของลู่เอ๋อร์ ข้าก็ได้รับรู้เรื่องราวที่ผ่านมาข้าเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเสียจริงปล่อยให้นางรักแกลูกของตนเองได้” เขาเอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวดไม่รู้เรื่องที่ลูก ๆ ของเขาต้องทนทุกข์ทรมานใจเช่นนี้“แล้วทำไมท่านพี่ถึงได้ไม่ลงโทษฮูหยินของท่านล่ะเจ้าคะเด็ก ๆ น่าสงสารเสียจริง”ลู่ฟางใบหน้าเศร้าสลดทำท่าทีสงสารเด็ก ๆ แสร้งว่าตนเองนั้นไม่รู้เรื่องทั้ง ๆ ที่นางเองก็รับรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่นางไม่อยากจะบอกเหิงเยว์เพราะนางอยากให้เหิงเยว์ได้รับรู้ด้วยตนเอง และหย่าพร้อมไล่หานเสี่ยว์ออกจากเรือนนี้ไปส่ะ หลังจากนั้นนางจะเข้ามาแทนที่เอง“เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อของนางเป็นขุนนางที่มีอำนาจ แค่นางยอมหย่าให้ข้าก็ดีมากแล้ว ในตอนแรกนางบอกจะหย่าให้แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปไม่ยอมหย่าเสียอย่างนั้น ข้าเองจึงไม่รู้จะทำอย่างไร อีกอย่างช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 13  ออกตรวจตรา

    บทที่ 13 ออกตรวจตราเท้าคู่งามได้หยุดเดินพร้อมหันกลับมาถามบุรุษที่เดินตามหลังเอ่ยถามเสียงทุ่มต่ำ“ตอนนี้ก็ส่งเด็ก ๆ เข้านอนเสร็จสิ้นแล้วท่านเอ่ยเรื่องที่ท่านอยากพูดกับข้ามาเถิด " “ข้าอยากจะถามเจ้าเรื่องหย่า ตอนนี้ร่างกายของเจ้าก็หายดีแล้วเมื่อไหร่เจ้าจะไปแจ้งท่านพ่อของเจ้าเสียที”“ข้าก็คิดว่าเรื่องอันใด อย่างไรท่านเองก็ทนมาได้ตั้งห้าปี ช่วยทนต่ออีกสักนิดไม่ได้หรืออย่างไร ? หรือว่าท่านอยากจะใช้เวลาร่วมกับลู่ฟางในเร็ววัน เรื่องหย่าท่านไม่ต้องกังวลเมื่อถึงเวลาข้ายอมหย่าให้ท่านแน่แต่ยังไม่ใช่เวลานี้” คำพูดที่ออกจากปากของหานเสี่ยว์ทำให้เหิงเยว์ไม่พอใจเท่าไหร่นักที่นางพูดถึงลู่ฟาง“นี่เจ้าทำไมต้องเอ่ยถึงผู้อื่นด้วย แล้วทำไมต้องรอเวลาในเมื่อช้าหรือเร็วอย่างไรเจ้ากับข้าก็หย่ากันอยู่ดี "“ท่านไม่ต้องห่วงเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิข้าจะหย่าให้ท่านแน่นอน ส่วนเรื่องเหตุผลอะไรข้าไม่ขอเอ่ยหากหมดเรื่องจะคุยข้าต้องขอตัวก่อน” หานเสี่ยว์ไม่อยากจะสนทนาต่อจึงรีบเดินหนี เหิงเยว์ก็ยิ่งไม่เข้าใจนางจะหย่าเหตุใดต้องรอ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้รีบร้อนเขามีเรื่องที่ต้องจัดการเสียก่อน เป็นเรื่องที่ฝ่าบาทมอบหมายเขาต้องออกเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 14 โดนลอบทำร้าย

    บทที่ 14 โดนลอบทำร้ายภายในห้องที่น่าอึดอัดผู้คนต่างพากันใส่หน้ากากเข้าหากันแม้ใบหน้าจะยิ้มแย้มให้แก่กันแต่ทว่าจิตใจนั้นมิใช่อย่างที่ใบหน้าแสดงอยู่ เหิงเยว์เองก็ทำท่าจิบสุราเพียงเล็กน้อยก่อนจะแอบรินทิ้งเมื่อใต้เท้าเจียวหั่วละสายตา ไม่นานฮูหยินก็ยกไก่ตุ๋นมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมเครื่องเคียงมากมาย“ไก่ตุ๋นแสนอร่อยของข้ามาแล้วเจ้าค่ะ "“กลิ่นหอมมากเลยขอรับ วันนี้ข้าต้องเจริญอาหารแน่ ๆ เลย " เหิงเยว์วางจอกสุราลงจ้องมองเนื้อไก่ที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างชื่นชม“แค่ท่านเอ่ยชมและชอบอาหารของข้าข้าก็ดีใจมากเลยเจ้าค่ะ งั้นน่องไก่น่องนี้ข้าขอยกให้ท่าน” ฮูหยินหยิบไก่มอบให้เหิงเยว์เขาเองก็กินเพื่อไม่ให้นางสงสัย เมื่อเขากินอิ่มก็ขอตัวกลับ ใต้เท้าเจียวหั่วกับฮูหยินก็ได้เดินออกมาส่งเหิงเยว์ที่หน้าเรือน“หากวันใดท่านผ่านมาที่นี่อีกก็แวะมาได้เสมอนะขอรับข้าจะให้ฮูหยินทำไก่ตุ๋นให้ท่านได้กินอีก”“วันนี้ข้าอร่อยมาก ไหนจะสุราที่ท่านได้มาช่างมีรสชาติแตกต่างจากแคว้นของเรานัก”“โฮ๊ะ ๆ ใช่มั้ยขอรับแคว้นเรานั้นเทียบไม่ติดเลยหากท่านชอบ ข้าได้มารอบหน้าจะให้บ่าวไปส่งให้ถึงที่เรือนเลยขอรับ ขอให้ท่านเดินทางปลอดภัยนะขอรับ”เหิงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 29 เกิดอะไรขึ้น

    บทที่ 29 เกิดอะไรขึ้นหานเสี่ยว์หลบหนีมาได้แต่ทว่าจู่ ๆ นางเกิดสะดุดกิ่งไม้ทำให้ล้มลงชายที่ตามนางมาคนแรกก็ได้เห็นว่านางได้รับบาดเจ็บจึงได้กระโดดลงจากหลังม้าพร้อมหัวเราะเยาะเย้ย"ฮึ ฮึ เป็นเพียงสตรีบอบบางคิดว่าจะหนีข้าได้อย่างนั้นหรือ""เจ้าอย่าเข้ามานะ หากเจ้าต้องการปล้นของมีค่าก็อยู่บนเกี้ยวเหตุใดต้องตามมาทำร้ายพวกข้าด้วย""ก็เพราะว่าข้าไม่ได้ต้องการของนะสิ สิ่งที่ข้าต้องการคือการตายของท่านต่างหาก " ใจของหานเสี่ยว์สั่นวูบเมื่อได้ยินว่าชายที่ตามมานั้นต้องการชีวิตนาง แต่นางจะมาสั่นกลัวไม่ได้นางจะสู้ให้ถึงที่สุด ชายฉกรรจ์ชักดาบออกมาเล็งใส่คอของหานเสี่ยว์แต่ทว่าตอนนี้หานเสี่ยว์เองได้กำดินไว้ในมือเมื่อนางได้จังหวะจึงหว่านดินใส่ตาของเขาก่อนที่ดาบจะฟันเข้าหานาง"ข้าไม่ยอมให้เจ้าเอาชีวิตของข้าไปได้ง่าย ๆ หรอก" "โอ๊ย! แสบตา " เมื่อหานเสี่ยว์เห็นชายคนนั้นทรุดตัวนั่งลงเพราะเจ็บตานางจึงรีบยืนขึ้นใช้ไม้ที่ถือมาด้วยฟาดใส่หัวของมัน ก่อนที่จะวิ่งหนีต่อแต่ตอนนี้นางก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าสงสัยตอนที่นางล้มลงเมื่อครู่ข้อเท้าจะพลิกแต่นางก็ฝืนพาตัวเองหนีความเจ็บเท่านี้ทำอันใดนางไม่ได้ ชายอีกคนที่ตามม

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 28  ไม่ต้องห่วงข้า

    บทที่ 28 ไม่ต้องห่วงข้าเกี้ยวของหานเสี่ยว์เดินทางมาได้สักระยะก็ต้องพบสิ่งไม่คาดคิด เกี้ยวถูกวางลงและบ่าวด้านนอกรีบเรียกฮูหยินอย่างตื่นตระหนก "ฮูหยินขอรับตอนนี้เกิดเรื่องไม่รู้ว่าเป็นโจรป่าหรือว่ามีผู้ปองร้าย พวกข้าจะถ่วงเวลาต่อสู้กับคนพวกนั้นฮูหยินรีบพาคุณชายกับคุณหนีเถอะขอรับ " เข่อซิงตกใจมากรีบเร่งหานเสี่ยว์"คุณหนูเรารีบหนีเถอะเจ้าค่ะ ""เดี๋ยวก่อนข้าหาของก่อน" หานเสี่ยว์ก็หวาดกลัวไม่แพ้กันแต่ตอนที่นางอยู่ที่เรือนนางเห็นกล่องกำไลของเหิงเยว์ มันเป็นของสิ่งแรกที่เขาให้นางเป็นของขวัญนางจึงอยากนำไปด้วยเมื่อนางหาของเจอก็ได้พากันลงมาจากเกี้ยวมองเห็นชายกรรจ์จำนวนสี่คนกำลังต่อสู้กับบ่าวรับใช้ "เข่อซิงเจ้าจับมือเลี่ยงเฟิง ส่วนลู่เอ๋อร์จับมือข้า เร็วเถิดหากคนของเราต้านไม่ไหวเราอาจจะถูกทำร้ายเอาได้" "ท่านแม่ข้ากลัว " ดวงตาของลู่เอ๋อร์เริ่มแดงก่ำ นางจึงรีบปลอบพร้อมพานางวิ่งหนี"ไม่ต้องกลัวข้าอยู่นี่เรารีบหนีเถอะ" แม้ว่าหานเสี่ยว์เองก็หวาดกลัวจับใจแต่ตอนนี้นางต้องละทิ้งความกลัวนี้ทิ้งเสียก่อนเพราะเด็กทั้งสองต้องอยู่ในการดูแลของนาง นางจะไม่ให้เด็กทั้งสองได้รับบาดเจ็บ ทั้งสี่คนก็ได้วิ่งหนีเข

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 27  ความฝัน

    บทที่ 27 ความฝันนางเดินมานั่งลงบนเตียงนุ่มของหานเสี่ยว์ก่อนจะนอนราบลงบนที่นอนก่อนจะผล็อยหลับไป หมอกควันคละฟุ้งหนาเตอะจิวฉิงตื่นขึ้นมาเห็นสตรีงดงามกำลังนั่งแปรงผมอยู่ที่หน้ากระจก จากเห็นจากด้านหลังก็รู้ว่าสตรีที่งดงามผู้นี้นั้นเป็นเจ้าของร่างตัวจริง"ท่านกลับมาแล้วหรือ ข้าดีใจจังเพราะข้าจะได้กลับโลกของข้าแล้ว" จิวฉิงดีใจรีบเอ่ยออกมา "ข้าไม่ได้กลับมาเพียงแต่ข้ามาหาเจ้าก็เท่านั้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ามีความผิดที่ใหญ่หลวงแม้ตายไปแล้วก็ต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ข้ามิอาจจะกลับมาใช้ชีวิตได้อีกต่อไปข้าจึงอยากจะมาขอร้องเจ้า จงใช้ชีวิตเป็นข้าต่อไปและมอบความรักให้แก่เด็ก ๆ ทั้งสองทีเพราะตอนที่ข้ามีชีวิตอยู่นั้นข้าไม่เคยทำดีสักหนพอข้าตายไปกลับมาสำนึกได้ ""ไม่นะ ข้าเองก็ต้องกลับโลกของข้า ข้ามีคุณย่าที่ต้องดูแลท่านกับมาเถอะนะ ตอนนี้ท่านรู้หรือไม่ว่าคุณชายเหิงเยว์บุรุษที่ท่านรักเริ่มมีใจให้ท่านแล้ว สิ่งที่ท่านต้องการตอนนี้ก็ได้สมหวังแล้ว ท่านต้องกลับมานะ" จิวฉิงรีบอธิบายบอกแก่หานเสี่ยว์ตัวจริงแต่ทว่านางกลับยิ้มกว้างให้แก่จิวฉิงไม่นานเรือนร่างของนางก็จางหายไป แต่ก่อนที่จะจางหายไปนางได้เอ่ยบางอย่างก่

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 26  ข้าได้รับบาดเจ็บ

    บทที่ 26 ข้าได้รับบาดเจ็บหานเสี่ยว์นางได้เก็บเสื้อผ้าของใช้ของตนลงหีบเสื้อผ้า เพื่อนำไปเปลี่ยนตอนอยู่ที่เรือนของท่านพ่อก็พบกล่องไม้เล็ก ๆ ที่อยู่ในกล่องผ้า นางจึงเปิดดูก็เห็นว่าเป็นกำไลหยกที่เหิงเยว์มอบให้ หานเสี่ยว์ใช้มือหยิบจับขึ้นมาดูพร้อมสวมใส่มันช่างเข้ากับนางยิ่งนักแต่เมื่อยิ่งมองดูก็ทำให้หัวใจของหานเสี่ยว์รู้สึกเศร้าใจ เพราะนี้ไม่ใช่ของนางแต่เป็นของหานเสี่ยว์ตัวจริงต่างหาก นางจึงเก็บใส่ไว้ในกล่อง หูของนางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินมาหานางจึงเผลอตัววางกล่องนั้นใส่กล่องหีบเสื้อผ้าตนเองไปด้วย หานเสี่ยว์ปิดหีบก่อนจะลุกขึ้นไปดูว่าผู้ใดที่มาหาตน เมื่อนางเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นก็เห็นสีหน้าตื่นตระหนกเป็นกังวลของเหิงเยว์ที่เดินเข้ามาหานางอย่างเร่งรีบ "เหตุใดท่านถึงมามีสีหน้าเช่นนี้เกิดเรื่องอันใดไม่ดีหรือเจ้าคะ " หานเสี่ยว์เอ่ยถามอย่างสงสัย "เจ้าจะกลับเรือนของเจ้าหรือ อย่าไปได้หรือไม่ อยู่ที่นี่ก่อนหากเจ้าไปเด็กทั้งสองจะอยู่อย่างไรเจ้าไม่สงสารเด็ก ๆ หรือ เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์น่าเวทนาที่ถูกมารดาจากไปตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เด็กทั้งสองนั้นรักเจ้ามากเพียงใดเจ้าก็รู้หากเจ้าไปเด็กทั้งสอ

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 25  แผนชั่ว

    บทที่ 25 แผนชั่วเหิงเยว์ลงจากหลังม้าบ่าวในเรือนก็ได้มารับม้าไปเก็บที่คอกเขาเดินมาหาทั้งสามคน"ท่านพ่อ ท่านพ่อปลอดภัยดีหรือไม่เจ้าคะ บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่" เขาอุ้มลู่เอ๋อร์เมื่อนางวิ่งเข้ามาหา"ไม่เลยข้าไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด คงเป็นเพราะก่อนจะออกไปข้าได้กำลังใจดี ๆ จึงมีไม่ศัตรูที่ใดมาทำร้ายได้" เขาพูดพร้อมหันไปมองหานเสี่ยว์สายตาหวานเยิ้ม นางสบตาเขาก็รีบหลบสายตาทันที "กลับมาปลอดภัยก็ดีแล้วเช่นนี้ข้าเองก็หมดห่วง ""จริงสิเจ้าคะ ในเมื่อมีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ข้าว่าคุณชายเหิงเยว์น่าจะฉลองสักหน่อย ไม่แน่นะเจ้าคะคุณงามความดีในครั้งนี้คุณชายอาจจะได้รับตรงแหน่งที่ใหญ่กว่าเดิม เช่นนี้ยิ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เลยเจ้าค่ะ""นั้นสินะ เช่นนั้นเจ้าไปบอกพ่อครัวให้จัดอาการพร้อมสุรามาคืนนี้ในเรือนของเราจะจัดเลี้ยงฉลอง" เหิงเยว์เห็นดีด้วยกับความคิดของเข่อซิง เลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ได้ยินก็พากันยิ้มร่าดีใจ นานเท่าไหร่แล้วที่เรือนของพวกเขาไม่มีงานรื่นเริงเลย " เย้ ๆ เลี้ยงฉลองข้าชอบ จะได้มีขนมแสนอร่อยกินมากมาย" เลี่ยงเฟิงได้เอ่ยออกมา"ใช่แล้วท่านพี่ข้าจะกินให้เต็มที่เลย" "พวกเจ้ากินได้แต่ต้องกินเพียงเล็กน

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 24 จับกุมใต้เท้าชั่ว

    บทที่ 24 จับกุมใต้เท้าชั่วเหิงเยว์เดินออกมาหยุดเดินอยู่กลางทางเขาใช้มือทาบอกแกร่งของตน ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขามักจะใจสั่นเมื่ออยู่ใกล้นาง เขาใจเต้นแรงเมื่อถูกหานเสี่ยว์สัมผัสแถมยังเอ่ยวาจาแปลก ๆ กับนางอีกด้วย "นี่ข้าเป็นอะไรไป ถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนั้น หรือว่าข้านั้นชอบนางเข้าแล้วจริง ๆ ไม่หรอกข้าแค่รู้สึกขอบคุณนางเท่านั้น นั้นสิข้าก็แค่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดสตรีจึงทำให้หวั่นไหว เหิงเยว์ตั้งสติ" เขาบอกกล่าวตนเองแต่ที่น่าแปลกที่ครั้งนี้เขามองนางแต่ทว่าไม่เห็นภาพทับซ้อนของซู่ซ่านเลย หรือว่าตอนนี้ภาพจำของซู่ซ่านได้เลือนลางไปแล้ว เมื่อถึงวันที่เหิงเยว์ต้องไปจัดการจับกุมใต้เท้าเจียวหั่วก็ได้มาถึง เขาแต่งกายออกจากเรือนด้วยชุดที่ทะมัดทะแมงเพื่อนำทหารออกไปจับกุมในครั้งนี้ หานเสี่ยว์นางรู้เรื่องนี้จึงได้เดินมาหาเหิงเยว์ที่นางมาเพราะไม่อยากให้เขาได้รับบาดเจ็บมาอีก แม้จะไม่เข้าใจตนเองแต่ทว่าขาของนางก็ได้มาหยุดอยู่หน้าประตูของเขาเสียแล้ว เหิงเยว์เห็นหานเสี่ยว์มาหาเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากจนเผลอตัวยิ้มออกมา"เจ้ามาหาข้าหรือ""เจ้าค่ะ ออกจากเรือนครั้งนี้ข้าขอให้ท่านกลับมาอย่างปลอดภัยนะเจ้าคะ""นี่เจ้

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 23  หรือเจ้าอยากได้หัวใจของข้า

    บทที่ 23 หรือเจ้าอยากได้หัวใจของข้ามาถึงเรือนเขาก็ได้ไปพบเลี่ยงเฟิงกับลู่เอ๋อร์ที่วิ่งเล่นอยู่สวนหลังเรือนโดยมีสาวใช้คอยดูแลอยู่ เมื่อเด็ก ๆ เห็นท่านพ่อของตนก็ดีใจรีบวิ่งเข้ามาหา "ท่านพ่อ ท่านพ่อไปข้างนอกมาหรือเจ้าคะ" เหิงเยว์อุ้มลู่เอ๋อร์ขึ้นมาบนแขนแกร่งก่อนจะใช้มืออีกข้างจับมือของเลี่ยงเฟิงไปนั่งที่เก้าอี้ "ใช่แล้ว วันนี้ข้าออกไปข้างนอกมาและมีของอร่อยมาฝากพวกเจ้าทั้งสองด้วย" "จริงหรือขอรับ ว๊าวข้าชอบขนมขอรับ" ดวงตากลมโตของทั้งสองลุกวาวเมื่อได้ยินว่ามีของอร่อยมาฝาก เขาวางลู่เอ๋อร์ลงพร้อมหยิบขนมออกมาจากถุงมอบให้ทั้งสอง "ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ มีแต่ของน่ากินทั้งนั้น""ข้าเองก็รักท่านพ่อเช่นกันจะกินให้อร่อยนะขอรับ" "เจ้าทั้งสองชอบข้าเองก็ดีใจเช่นนั้นเจ้านั่งกินเสร็จก็อย่าลืมไปล้างมือกันด้วยนะ ""ขอรับ /เจ้าค่ะ" เขามองดูเด็ก ๆ กินอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะบอกให้เด็ก ๆ นั่งกินกันอยู่ที่นี่ส่วนเขานั้นจะนำของไปมอบให้แก่หานเสี่ยว์ เหิงเยว์เดินทอดขามาอย่างช้า ๆ ตั้งแต่ครั้งที่นางป่วยเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเข้ามา "เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนไปเลย " เขาเอ่ยพึมพำเมื่อเห็นข้าวของทุกอย่างยังค

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่ 22  คำเตือนจากหญิงชรา

    บทที่ 22 คำเตือนจากหญิงชรา"เจ้ามาที่ห้องของข้ามีเรื่องอันใด อีกอย่างข้าจะไปไม่ไปที่ใดก็เรื่องของข้า เจ้าไม่ต้องมายุ่ง" เมื่อหลบหลีกไม่ได้นางจึงต้องปกป้องตนเอง "เฮอะ ! นี่ท่านต้องการอันใดกันข้ามาครั้งก่อนข้าได้ยินว่าท่านพี่จะหย่ากับท่านแล้วเหตุใดท่านยังอยู่ที่นี่ ทำไมไม่หย่าไปเลยหรือว่าท่านมีแผนอันใดอีก ""จะให้ข้าบอกเจ้าอีกสักเท่าไหร่ถึงจะเข้าใจต่อให้ข้าจะหย่าไม่หย่าก็เรื่องของข้า ส่วนข้ามีแผนอันใดหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้ามันก็แค่ญาติพี่น้องจงรู้จักที่ของตนเองเสียบ้าง อย่าพยายามหวังสูงเกินไปต่อให้ไม่มีข้า ท่านพี่เหิงเยว์ของเจ้าก็ไม่มีทางสนใจเจ้าหรอกนะ ออกไปจากห้องข้าและอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าของเจ้าอีก มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน" หานเสี่ยว์เหนื่อยที่จะต่อปากต่อคำจึงได้ขู่ให้นางกลัวและกลับไปเสีย "ที่ข้าออกไปเพราะไม่ได้หวาดกลัวท่านหรอกนะ คอยดูเถิดสักวันข้าจะเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงของท่านด้วยตัวข้าเอง"ลู่ฟางกำมือแน่นก่อนจะเดินออกมาอย่างเจ็บใจ คิดหรือว่าสตรีเช่นนางจะเกรงกลัว นางจึงได้เก็บใจแค้นกลับไปวางแผนเพื่อที่จะกลับมาเอาคืนอย่าสาสม เมื่อนางเดินออกมาจากห้องอย่างฟัดเหวี่ยง

  • ทะลุมิติมาเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย   บทที่  21  ไม่เห็นน้องเลย

    บทที่ 21 ไม่เห็นน้องเลยรุ่งสางมาเยือนหานเสี่ยว์ลืมตาขึ้นมาก็พบผนังห้องที่ไม่คุ้นเคย จนนางเกือบจะร้องกรี๊ดออกมาแต่ ก็นึกขึ้นมาได้ว่านางได้มานอนอยู่ที่ห้องของเหิงเยว์นางรีบเช็คเสื้อผ้าของตนเองก็พบว่าเสื้อผ้านั้นยังคงอยู่ที่เดิมความกังวลก็ลดลงเป็นโล่งใจนางมองดูคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ นางแต่กลับไม่พบเขาเลย หานเสี่ยว์จึงได้ลุกขึ้นเพื่อกลับห้องของตน"เจ้าตื่นแล้วหรือ"แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงของเหิงเยว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างจิบชาอย่างสบายใจ"เห็นเช่นนี้แล้วยังจะถามอีกหรือเจ้าคะ ""เมื่อไหร่เจ้าจะพูดดี ๆ กับข้าเสียที""แล้วทีท่านล่ะต่อว่าโดยหารู้ความจริงไม่ ผู้ใดดีมาข้าก็ดีกลับ " พูดจบหานเสี่ยว์ก็ได้เปิดประตูกำลังเดินออกไป แต่แล้วก็ต้องพบว่าประตูนั้นก็กำลังถูกเปิดเข้ามาเช่นกัน "ท่านพี่เป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ ข้าเป็นห่วงจนนอนไม่หลับเลย" ลู่ฟางนางรีบมาหาเหิงเยว์ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ต้องยืนชะงักใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มตอนนี้ก็ได้หุบลงทันทีเมื่อเห็นว่าหานเสี่ยว์อยู่ในห้องนอนของเหิงเยว์"ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อย่าบอกนะว่าท่านมานอนกับท่านพี่ ไม่จริง! ท่านพี่รังเกียจท่านนี่น่าไม่มีทางออกไปนะข้าจะเข้าไปหาท่า

DMCA.com Protection Status